รักต้องแลก
Writer : Aile'N
ตอนที่ 3
หลังจากที่แม่พักฟื้นจนหายดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วนิชาก็กลับมาทำงานเป็นเลขาของอัคคีอีกครั้งตามคำสั่ง เรื่องความสัมพันธ์แลกเงินสิบล้านนั้นยังไม่รู้ว่าจะไปในทิศทางไหนเพราะอีกฝ่ายยังไม่ได้พูดถึง เพียงสั่งให้เธอเคลียร์งานในช่วงที่หยุดไปให้เรียบร้อย นั่นพอจะทำให้เธอโล่งใจไปชั่วขณะ ไม่ต้องคอยระแวงว่าจะต้องรองรับอารมณ์ผีเข้าผีออกของเขาให้ต้องปวดหัวเพิ่ม
"ตอนเที่ยงสั่งอาหารสองชุด ของคุณด้วย เอาเข้ามากินที่ห้องทำงานผม...ทุกวัน"
สบายใจอยู่ได้ไม่นานโทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้นตอนสิบเอ็ดโมง เมื่อรับสายสิ่งที่ทำได้ก็คือทำตามคำสั่งอย่างไม่ต้องสงสัย ทุกทีถ้าไม่มีนัดลูกค้านิชาจะเป็นคนสั่งอาหารเที่ยงและจัดเสิร์ฟเข้าไปให้อัคคีในห้องทำงาน ส่วนของเธอถ้าไม่นั่งกินที่โต๊ะทำงานก็เข้าไปนั่งกินในห้องพักเบรกที่มีครัวเล็กๆ รวมถึงตู้เย็นและเครื่องชงชากาแฟอยู่ในนั้น มีไว้สำหรับปากท้องของท่านประธานและเลขาอย่างเธอโดยเฉพาะ
หลังวางสายเจ้านายไปแล้วนิชาก็โทรสั่งอาหารจากร้านประจำและเลือกเมนูที่เขาชอบกินอย่างเคยชิน เมื่ออาหารมาส่งก็ใกล้เที่ยงพอดีเธอจึงนำไปจัดใส่จาน ยืนทำใจอยู่สักพักก็ยกอาหารใส่ถาดเข้าไปในห้องทำงานของเขา
"ทานข้าวค่ะ" เสียงหวานเอ่ยเรียก ขณะที่ยกอาหารไปวางลงบนโต๊ะหน้าโซฟารับแขก
อัคคีที่ก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่เงยหน้าขึ้นมองแว้บหนึ่งก่อนวางงานทั้งหมดลง คลายเนคไทและพับแขนเสื้อขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเดินมานั่งลงที่โซฟา เมื่อเห็นเจ้านายนั่งลงแล้วนิชาก็นั่งตาม โดยเว้นระยะห่างจากเขามาหนึ่งช่วงแขน เธอวางตัวห่างเหินจากเขามากกว่าเดิมเล็กน้อยเพราะหลังจากเหตุการณ์แตกหักในวันนั้นก็ไม่รู้ว่าจะต้องปั้นหน้ายังไงต่อหน้าเขา
พรึ่บ
ในขณะที่ร่างบางพยายามถอยห่าง อัคคีกลับเป็นฝ่ายเข้าหาอย่างจงใจ เขาขยับมานั่งข้างเธออย่างสนิทสนมและเริ่มทานข้าวของตัวเองไป ในขณะที่นิชารู้สึกเกร็งจนอยากจะขยับหนี ท่อนแขนแกร่งก็ล็อกเอวของเธอไว้ให้อยู่นิ่ง
ด้วยสถานะเป็นรองที่ค้ำคออยู่นิชาจึงไม่สามารถปัดป้องได้อย่างใจนึก เธอจำต้องปล่อยให้อัคคีกอดเอวอยู่แบบนั้น และรีบทานข้าวของตัวเองให้หมดไวไว จะได้รีบออกไปเสียที
ร่างสูงมองความเร็วในการทานของคนข้างกายอย่างนึกขัน คงอยากออกไปเร็วๆ ล่ะสิ เรื่องอะไรจะยอมให้สมหวังกันล่ะ
"เดี๋ยวตอนบ่ายให้ รปภ. ขึ้นมาย้ายโต๊ะทำงานของคุณเข้ามาข้างใน จะได้คุยงานกันได้สะดวกขึ้น" อัคคีบอกด้วยน้ำเสียงยียวน ก่อนกดยิ้มลึกเมื่อเห็นร่างบางหันขวับมามองด้วยความไม่พอใจ
"เกินไปหรือเปล่าคะ คิดจะแกล้งกันหรือไง" นิชาสติหลุดไปชั่วขณะเมื่ออีกฝ่ายบีบบังคับให้เธอจนมุมอีกครั้ง
"แกล้งอะไร คุณกลัวอะไรงั้นเหรอ หื้ม?" ร่างสูงเลิกคิ้ว กระตุกยิ้มท้าทาย ดูก็รู้ว่าจงใจ
"จะทำอะไรก็ทำเถอะค่ะ!" นิชากระแทกเสียงเล็กน้อย พยายามทำตัวสงบลง ไม่วิ่งเต้นไม่ขัดขวางเพราะรู้ว่ายังไงก็ไม่สำเร็จ อีกอย่างยิ่งเห็นเธอโกรธเขาก็ยิ่งพอใจ เรื่องอะไรจะยอมให้สมหวัง
"ยอมง่ายจัง" ร่างสูงยื่นหน้าเข้ามากระซิบเบาๆ ที่ข้างหู นิชาไม่ถอยหนีแต่หันไปมองเขาอย่างไม่เกรงกลัว แม้ระยะห่างของใบหน้าจะอยู่ใกล้จนลมหายใจเป่ารด
อัคคีกดยิ้มมุมปากอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเห็นเธอสู้เขาก็ยิ่งชอบใจ สรุปง่ายๆ ไม่ว่าเธอจะสู้หรือพยายามจะหนีเขาก็สนุกทั้งนั้น
"อย่ามองผมด้วยสายตาเร่าร้อนแบบนั้นสิ ผมจะอดใจไม่ไหวเอานะ" น้ำเสียงเจ้าเล่ห์เอ่ยเย้าอย่างชอบใจ ทว่าเขาไม่ได้พูดเล่น กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่คุ้นเคยจากร่างบางกำลังเร่งเร้าให้เขาอยากสัมผัสเธอมากยิ่งขึ้น ยิ่งมีสิทธิ์ในตัวอีกฝ่ายตามที่ตกลงกันแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอื่นให้เขาต้องหักห้ามใจ
"เร่าร้อน? ใช้ตาตุ่มมองเหรอคะ" ดวงตากลมสวยมองเหยียดร่างสูงอย่างไม่เก็บอาการอีกต่อไป ถึงอัคคีจะเป็นเจ้านายและไหนจะติดหนี้ชีวิตเป็นเงินสิบล้าน เธอก็ไม่คิดจะยอมก้มหน้าให้เขาเสียทีเดียว ขอให้ได้จิกกัดเอาคืนแค่เล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี
"หึ ปากดี" มือแกร่งดั่งคีมเหล็กคว้าบีบแก้มเนียนแน่นจนปากจู๋เข้าหากัน นิชาพยายามดิ้นหนีแต่เขาใช้แรงกดคางเธอไว้ไม่ยอมปล่อย ก่อนจะบังคับให้หันมาหาแล้วก้มลงกัดปากนิ่มเพื่อทำโทษ
"อื้อออ" แรงกัดของอัคคีไม่เบาเลย มันทำให้นิชารู้สึกเจ็บจนต้องพยายามดิ้นหนีอีกครั้ง แต่เรี่ยวแรงอันน้อยนิดไม่สามารถทำให้หลุดพ้นได้ เธอทั้งทุบทั้งจิกเขาก็ไม่สะทกสะท้าน
ไม่นานสัมผัสก็แปรเปลี่ยนจากกัดมาเป็นรุกจูบอย่างดูดดื่ม ร่างบางพยายามดิ้นอีกครั้งแต่ก็สู้แรงและความช่ำชองของอัคคีไม่ได้ นานเข้าเรี่ยวแรงขัดขืนก็หมดลง ได้แต่ปล่อยให้เขากระทำได้ตามใจ และคนที่เพิ่งเคยถูกรุกรานด้วยสัมผัสร้อนรุ่มขนาดนี้ก็ได้แต่ตัวสั่นอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างหมดสภาพ
พรึ่บ!
ทันทีที่ถูกปล่อยเป็นอิสระนิชาก็เค้นเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายผลักร่างสูงออก ใช้หลังมือเช็ดปากลวกๆ และจ้องมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ ข้าวกลางวันที่ยังกินไม่หมดก็ไม่มีอารมณ์จะกินต่อแล้ว เลยรีบเก็บส่วนของตัวเองลุกหนีออกจากห้องไป
"หึ หวาน..." อัคคีมองตามหลังร่างบางไปด้วยแววตาร้อนรุ่ม ยิ่งได้สัมผัสก็ยิ่งอยากสัมผัสมากขึ้น ความปรารถนาดำมืดลึกๆ ภายในใจของเขาแรงกล้ามากกว่าที่คิดจนเขาเองก็ยังแปลกใจ...
นิชาเอาจานไปวางไว้ในซิงค์และหนีเข้าห้องน้ำเพื่อไปตั้งหลัก ลมหายใจของเธอหอบเหนื่อยเหมือนวิ่งขึ้นลงบันไดสิบชั้น ครั้นมองตัวเองในกระจกก็เห็นสภาพปากบวมเจ่อ แก้มแดงเรื่อ เสื้อหลุดลุ่ยและยับย่น ยิ่งมองก็ยิ่งรับไม่ได้เลยรีบจัดการตัวเองให้กลับมาเรียบร้อย ทว่าปากที่บวมเจ่อกับแก้มแดงเรื่อก็ไม่สามารถกลบเกลื่อนได้อย่างที่ใจต้องการ
ปลายนิ้วเรียวยาวยกขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเองเบาๆ พลันนึกไปถึงเหตุการณ์ในห้องนั้นแล้วก็ได้แต่ก่นด่าตัวเองอยู่ในใจเพราะมีช่วงที่เธอเผลอไผลไปกับสัมผัสร้อนแรงของเขา
เมื่อตั้งสติและปรับอารมณ์จนกลับมาเป็นปกติได้แล้วนิชาก็ออกจากห้องน้ำไปเพื่อเก็บล้างจานข้าวกลางวันของตัวเองให้เรียบร้อน พลันเห็นจานอีกชุดที่คาดว่าเป็นของร่างสูงวางอยู่ด้วยกันก็ล้างไปพร้อมกัน
พอออกมาจากห้องพักเบรกก็คล้ายว่าจะปรี๊ดแตกขึ้นมาอีกหน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่รปภ.จำนวนสามคนกำลังช่วยกันยกโต๊ะของเธอเข้าไปข้างใน...
นี่เอาจริงเหรอเนี่ย? ให้นั่งทำงานต่อหน้าเขาทั้งวัน เธอจะไม่ประสาทกินก่อนเหรอ!
"เอาเถอะ...คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วล่ะ" ร่างบางถอนหายใจพึมพำกับตัวเอง ก่อนเอ่ยขอบคุณพี่ๆ พนักงานแล้วหยุดทำใจหน้าประตูพักหนึ่ง ถึงจะเปิดประตูห้องประธานเข้าไป
อัคคีกลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะตัวเองแล้ว เห็นเธอเข้ามาเขาก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มยียวนให้เล็กน้อย แต่นิชาทำเป็นไม่เห็น เดินตรงไปนั่งโต๊ะเตรียมตัวทำงาน ตำแหน่งโต๊ะทำงานของเธออยู่ไม่ไกลจากเขาแถมหันหน้าเข้าหากันอีกต่างหาก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นคนสั่งให้จัดแบบนี้ กวนประสาทจริงๆ
.
.
"คืนนี้สองทุ่ม ไปหาผมที่คอนโด...ห้ามสาย ห้ามหนี ไม่อย่างงั้นจะไปหาถึงบ้าน"
และแล้วเวลาทำใจที่เหลือเพียงน้อยนิดของนิชาก็หมดลง เธอนิ่งอึ้งอย่างตื่นตระหนกเมื่อได้ยินคำสั่งที่อัคคีทิ้งไว้ในตอนเลิกงาน ก่อนที่เขาจะเดินผิวปากออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี
อย่าบอกนะว่าเริ่มแล้ว? ไวขนาดนี้เลยเหรอ...
ร่างบางกลับบ้านด้วยจิตใจว้าวุ่นไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ได้แต่คิดว่าจะเตรียมตัวรับมือยังไงดี ที่สำคัญทั้งถุงยางและยาคุมต้องเตรียมให้พร้อม เธอจะต้องไม่พลาดท้องในสถานการณ์แบบนี้เด็ดขาด!
"เป็นอะไรหรือเปล่าลูก หน้าเครียดเชียว" ผู้เป็นแม่เอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นลูกสาวเดินเข้าบ้านมาหน้าเครียดๆ และคล้ายว่าจะเหม่อจนมองไม่เห็นเธอที่ยืนอยู่ตรงนี้
"อ้อ เปล่าค่ะ แค่คิดเรื่องงานนิดหน่อย แล้วแม่เป็นยังไงบ้างคะ มีอาการผิดปกติอะไรหรือเปล่า" นิชาพลันได้สติ รีบแก้ตัวและเข้าไปประคองแม่ พาเดินไปนั่งที่โซฟาด้วยความห่วงใย
"แม่สบายดี ไม่มีอาการอะไร ไม่ต้องเป็นห่วงนะ" นางพิมพายิ้มอย่างอ่อนใจเพราะโดนถามอยู่ทุกวัน อีกฝ่ายเป็นห่วงเธอมากนั้นเข้าใจได้แต่ติดจะกังวลมากเกินไปเสียหน่อย ไม่รู้ตอนทำงานมีสมาธิหรือเปล่า
"ห้ามโกหกนะคะ ถ้ามีอาการอะไรให้รีบบอกหนู ไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน ที่เจ้านายหนูใหัยืมยังเหลืออีกเยอะ หนูเหลือแม่คนเดียวแล้วรู้ใช่ไหมคะ" นิชาบอกแม่ด้วยความเป็นห่วง แม้จะต้องกัดฟันโกหกว่าเงินที่ใช้รักษาเป็นเงินที่เจ้านายให้ยืมมาชั่วคราวก็ต้องทำเพราะไม่สามารถบอกความจริงได้
"ได้ แม่จะบอกทุกอย่างเลย" ผู้เป็นแม่ยิ้มรับความหวังดีก่อนจะรั้งร่างบางเข้ามากอดไว้ด้วยความรัก
"อ้อ คืนนี้หนูมีกินเลี้ยงกับเพื่อนๆ ที่บริษัทนะคะ สองทุ่ม จะรีบไปรีบกลับและจะไม่ดื่มเยอะ แม่นอนก่อนเลยนะ ไม่ต้องรอ" เป็นอีกครั้งที่นิชาจำต้องโกหกบุพการีอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง จะให้แอบออกไปถ้าโดนจับได้จะยิ่งมีพิรุธมากกว่า
"ขับรถดีๆ นะลูก ถ้าไม่ไหวก็เช่าโรงแรมนอนก็ได้ ดูแลตัวเองดีๆ" นางพิมพาพยักหน้ารับและสั่งกำชับเล็กน้อย ไม่ได้ห่วงมากนักเพราะรู้ว่าลูกสาวเป็นคนเก่ง ดูแลตัวเองได้ดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
"ค่ะ เด็กๆ ล่ะคะ" ร่างบางรับคำก่อนถามถึงหลานๆ ทั้งสองคน
"อยู่บนห้อง เพิ่งไล่ไปอาบน้ำเมื่อกี้"
"งั้นหนูไปอาบน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวลงมากินข้าวกัน"
แม้อยู่ต่อหน้าแม่นิชาจะเก็บอาหารได้ดี แต่พอหันหลังเดินขึ้นห้องร่างกายของเธอก็พลันหนักอึ้งขึ้นมาอีกครั้ง แต่เพียงไม่นานก็สลัดทิ้งไป นี่เป็นสิ่งที่เธอเลือกเองแม้จะไม่เต็มใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ได้แต่ทำใจยอมรับมันให้ได้ก็เท่านั้น
อย่างน้อยๆ เธอก็เคยรู้สึกดีกับเขา ก็แค่เป็นคู่นอนคงไม่ยากกระมัง ไม่แน่เขาอาจจะเบื่อและปล่อยเธอเป็นอิสระในเร็ววันก็ได้...
..
..
..
..
อุ๊ยยยย เอาเลยอ๋อออออออ
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 4นิชายืนมองตัวเองเป็นครั้งสุดท้ายในกระจกอย่างไม่ค่อยมั่นใจ เพราะต่อให้เห็นธาตุแท้ที่น่ารังเกียจของอัคคียังไงก็ไม่อาจลบล้างความรู้สึกก่อนหน้าที่เธอมีต่อเขาได้ พอรู้ว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็ทั้งตื่นเต้นและประหม่าอาย... ถึงจะทำงานเก่งแต่เรื่องความรักนิชายังอ่อนหัดนัก มีแฟนคนล่าสุดก็ตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งประสบการณ์ในช่วงเวลานั้นก็ช่างเลือนราง ยิ่งกลายมาเป็นเสาหลักของครอบครัวก็มุ่งแต่ทำงานและจัดการเรื่องส่วนตัวให้เจ้านาย แค่นี้ก็เหนื่อยมากพอแล้ว จะเอาเวลาไหนไปสนใจคนอื่น นิชาสะบัดศีรษะไล่ความว้าวุ่นก่อนหยิบกระเป๋าขึ้นสะพายแล้วออกจากห้องไป เธอยังคงแต่งตัวปกติเวลาออกไปข้างนอกก็คือกางเกงขายาวและเสื้อเชิ้ตสีพื้นธรรมดา ถ้าตัดเรื่องความเก่งกาจด้านการทำงานที่ผู้คนมากมายต่างชื่นชมแล้ว เธอก็ยังมองไม่เห็นว่าตัวเองจะมีอะไรดีตรงสเปกของอัคคีอย่างที่เขาเคยบอกเธอเลยสักนิด ไม่แน่เขาก็อาจจะแค่พูดไปอย่างนั้น เพราะคู่ควงแต่ละคนของเขาต่างจากเธอลิบลับ บางทีเขาอาจจะแค่อยากเอาชนะเธอ อยากกดเธอให้อยู่ใต้อาณัติของตัวเองให้ได้ก็เท่านั้น ร่างบางผ่านเข้ามาในคอนโคของอัคคีด้วย
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 5นิชาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดร้าวไปทุกส่วนของร่างกาย พอสติมาและจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ทั้งอับอายและเจ็บใจ เขาไม่ถนอมเธอเลยสักนิด! ทำราวกับเป็นตุ๊กตายางชิ้นหนึ่งที่จะทำอะไรรุนแรงแค่ไหนก็ได้ ก็อย่างว่าแหละ คนไม่ได้รักนี่เนอะ... แต่ที่น่าเจ็บใจมากที่สุดก็คือตัวเธอเองนี่แหละเพราะถึงอัคคีจะใจร้ายขนาดไหนหรือตอนแรกๆ เธอจะขัดขืนยังไง ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลังๆ นั้นเผลอไผลไปกับสัมผัสของเขาอย่างเต็มใจ ย้อนแย้งสิ้นดี! ร่างบางสะบัดหัวไล่ความคิด เมื่อนึกได้ว่าต้องกลับบ้าน ไม่รู้ว่าตอนนี้เวลาเท่าไรแต่แสงแดดจ้าที่เล็ดลอดม่านเข้ามาคงไม่ใช่ตอนเช้าตรู่อย่างแน่นอน ยังดีที่วันนี้เป็นวันหยุดหรือต่อให้ไม่ใช่วันหยุดเธอก็คงไม่ไปทำงานแล้ว จะถูกหักเงินก็หักไปในเมื่อคนจ่ายเงินเดือนเป็นคนทำให้เธอตื่นสายเอง ร่างบางลุกเดินโซเซไปหยิบชุดคลุมอาบน้ำในตู้มาใส่ ก่อนเดินไปตามหาเสื้อผ้าของตัวเองที่โซฟา เจอทุกอย่างแต่เสื้อที่ถูกร่างสูงดึงขาดใช้ไม่ได้แล้ว เธอเลยถือวิสาสะหยิบเสื้อเชิ้ตในตู้ของเขามาใส่แทน เมื่อแต่งตัวเสร็จนิชาก็ออกมาเจอเจ้าของห้องที่นั่งทำงานอยู่หน้าทีวีในห้องนั่งเล่น เขา
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 6"โรคจิตหรือไงอีตานี่..." ดวงตากลมสวยจ้องมองร่องรอยสีแดงช้ำที่ถูกประทับตามร่างกายผ่านกระจกบานใหญ่พลางบ่นพึมพำอย่างหัวเสีย เพราะเธอต้องรื้อตู้เสื้อผ้าเพื่อหาเสื้อคอเต่ามาใส่ปกปิดจากสายตาผู้คน โชคดีที่เจอว่ามีเสื้อคอเต่าบางๆ อยู่ เพราะถ้าใส่แบบหนาในประเทศที่เป็นมิตรกับพระอาทิตย์แบบนี้ผู้คนคงจะมองเธอบ้าแน่นอน เช้าวันทำงานเมื่อนิชาแต่งตัวเสร็จก็เก็บของแล้วลงไปทานข้าวเช้ากับแม่และหลานๆ พูดคุยกันเล็กน้อยตามประสา เมื่อถึงเวลาสมควรก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ การทำงานเป็นเลขาที่เปรียบเสมือนแขนขาของผู้เป็นนายนั้นทำให้นิชาต้องมาทำงานแต่เช้าเพราะมีหลายอย่างที่ต้องทำ ร่างบางนั่งเคลียร์งานค้างเล็กน้อยจนเสร็จ ก่อนไล่ดูตารางงานที่ต้องทำในสัปดาห์นี้ที่จดไว้ในไอแพด เธอต้องบันทึกและจดจำทุกอย่างให้ขึ้นใจ แม้ยามไม่มีไอแพดในมือก็ต้องจำให้ได้ ทั้งกำหนดการประชุม นัดลูกค้า รวมถึงวันสำคัญและงานเลี้ยงต่างๆ ทั้งส่วนของบริษัทและส่วนตัวของเจ้านาย นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล็กน้อยจิปาถะอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าแม้เงินเดือนจะสูงลิ่วแต่ก็ถูกใช้งานคุ้มเงินเดือนอย่างแท้จริง นิชานั่งทำงา
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 7โล่งใจได้ไม่นานความรู้สึกหนักอึ้งก็กดทับนิชาอีกครั้ง เพราะในช่วงบ่ายของวันธรรมดาวันหนึ่ง เธอนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะในห้องของอัคคีตามปกติ ส่วนเขาไปเข้าห้องน้ำ ก็พลันมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอจึงลุกไปเปิดโดยไม่คิดอะไร คิดเพียงว่าคงเป็นพนักงานสักคนในบริษัทที่เอาเอกสารสำคัญมาให้เขาเซ็น แต่พอเห็นหน้าคนเคาะชัดๆ นิชาก็ยืนอึ้งไปชั่วขณะ จนอีกฝ่ายเอ่ยเรียกถึงได้สติรีบเชิญหล่อนเข้ามานั่งรอเจ้าของห้องข้างใน "คุณอัคคีเข้าห้องน้ำอยู่ รอสักครู่นะคะ" นิชาบอกหญิงสาวผู้เป็น 'คู่หมั้น' ของเจ้านาย ก่อนจะออกไปจัดของว่างมาเสิร์ฟให้แล้วกลับไปนั่งทำงานที่เดิม ไม่นานอัคคีก็ออกมาจากห้องน้ำ "อ้าว ไอริณ มาตั้งแต่เมื่อไรครับ รอนานมั้ย" น้ำเสียงที่ใช้คุยกับอีกฝ่ายนั้นทั้งสุภาพและนุ่มทุ้มจนนิชาต้องกรอกตามองบน "ไม่นานเลยค่ะ ริณเพิ่งมาถึงเอง" ไอริณตอบรับยิ้มแย้มสดใส "งั้นไปกันเลยมั้ยครับ" "ค่ะ" "วันนี้ผมไม่กลับเข้าบริษัทแล้วนะ มีอะไรก็วางไว้บนโต๊ะได้เลย" อัคคีหันมาบอกผู้เป็นเลขาเพียงเท่านั้นก็พาคู่หมั้นออกจากห้องไป ตลอดมานิชาเป็นคนจัดการตารางทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวให
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 8"มือเป็นอะไร" คิ้วเรียวเข้มขมวดเข้าหากันเล็กกน้อยขณะมองมือเล็กที่ถูกพันไว้ด้วยผ้ารัดพยุงข้อมือ เพราะเท่าที่จำได้เมื่อวานยังไม่มี "ก็แค่หมากัด ไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ" นิชาเหยียดยิ้มสมเพช ในเมื่อเขาไม่รู้ตัวก็ไม่ต้องรู้เหมือนเดิมนั่นแหละ จะได้หลอกด่าได้ง่ายๆ "อ๊ะ!?" อัคคีมองหน้าเธอด้วยความสงสัย ก่อนจะคว้าแขนข้างที่เจ็บของเธอไปแบบไม่บอกกล่าว "นิ่งๆ" เสียงดุดังขึ้นเมื่อนิชาขัดขืน เขาจับแขนเธอไปเพื่อเปิดผ้าก็อตออกดู จนเห็นข้อมือที่บวมช้ำของเธอ "ไหนว่าหมากัด" "หึ ไม่ใช่หมาก็เหมือนหมานั่นแหละค่ะ หมาบ้าด้วย" ร่างบางบอกอย่างไม่สะทกสะท้านแม้จะถูกดวงตาคมคาดคั้นอยู่ "ผมทำ? เมื่อคืน?" คำก็หมาสองคำก็หมาบ้า บวกกับสายตาที่นิชามองมา สัญชาตญาณคนฉลาดอย่างอัคคีนั้นเดาออกได้ไม่ยากเลยสักนิด เพียงแต่เขาจำไม่ได้ว่าเผลอทำเธอเจ็บตัวตอนไหนก็เท่านั้น จำได้แค่ว่าความโกรธมันบังตา ใครใช้ให้เธอยั่วยุว่าเซ็กส์ของเขามันห่วยแตกกันล่ะ ยอมได้ที่ไหนกัน! "...." นิชาไม่ตอบแต่ความเงียบนั่นแหละคือคำตอบ "หมอว่ายังไงบ้าง" เขาถามพลางพยายามพันผ้ากลับคืน แต่เงอะงะเกินจะทนดูได้ นิชาจึงแย่งก
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 9ผ่านมาหลายวันข้อมือของนิชานั้นหายดีแล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอัคคีมีส่วนช่วยทำให้มันหายเร็วขึ้น คือเขาแบ่งเบาภาระงานของเธอไปทำเองและไม่ได้มายุ่งวุ่นวายกับเธอเลย สะดวกสบายจนอยากให้มือเจ็บไปนานๆ เชียวล่ะ เวลางานรุมเยอะๆ หรือเวลาที่เลขาอย่างเธอไม่ว่าง นิชาก็เคยบอกให้เขาจ้างผู้ช่วยมาช่วยทั้งเธอและเขาอยู่หลายครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่เขาปฏิเสธบอกว่าเกะกะและคร้านจะสอนงานใหม่ อีกอย่างเดี๋ยวมาเป็นก้างขวางคอเวลาอยากจะทำอะไรกัน พูดหน้าตายจนเธอทั้งอายทั้งโมโห "Outings ปีนี้เอายังไงดีคะ" นิชาเอ่ยถาม หลังมองปฏิทินแล้วใกล้ถึงเวลาที่บริษัทจะจัดกิจกรรมนอกสถานที่เหมือนทุกปี น้องๆ ในบริษัทเองก็เริ่มเกริ่นๆ ถามมาบ้างแล้วเหมือนกัน "ก็แล้วแต่พวกคุณเถอะ ผมยังไงก็ได้" อัคคีตอบโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากงานที่ทำ ไม่ว่าจะไปที่ไหนเขาก็แค่ไปควบคุมดูแลอยู่ห่างๆ ไม่ได้ร่วมกิจกรรมกับพนักงาน ไปที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น "โอเคค่ะ เดี๋ยวนิทำแบบสำรวจแล้วจะสรุปมาแจ้งให้ทราบอีกที" ร่างบางจดรายละเอียดกิจกรรมที่ต้องทำลงในไอแพดคู่กายอย่างตั้งใจ ก่อนจะกลับมาตรวจรายงานการประชุมต่อจนเสร็
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 10พอสติกลับคืนมานิชาก็รู้สึกอายจนไม่อยากมองหน้าอัคคีเลยตลอดการเดินทางมาร้านอาหาร ทำในห้องทำงานว่าน่าอายแล้ว นี่ทำในห้องประชุมอีก ประชุมคราวหน้าเธอจะมีสมาธิทำงานได้ยังไง แถมสิบนาทีที่รับปากไว้ก็ไม่มีอยู่จริง! เลยเที่ยงมาครึ่งชั่วโมงแล้วเนี่ย กว่าจะขับรถมาอีก หิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว!"หึ...กินเลอะก็เป็น" เสียงทุ้มพูดขึ้นพร้อมกับยื่นมือมาหมายจะเช็ดปากให้ แต่นิชาเบี่ยงหน้าหนีทัน"แค่บอกก็พอค่ะ เช็ดเองได้" มือบางรีบหยิบทิชชูมาเช็ดรอบๆ ริมฝีปาก จนแน่ใจว่าไม่มีเลอะที่ไหนอีก"คุณนี่ไม่มีความโรแมนติกเอาซะเลยนะ" อัคคีส่ายหน้าอย่างระอา"คุณคาดหวังอะไรคะ นิต้องแก้มแดง เขินอายเวลาที่คุณทำอะไรแบบนี้หรือไง ดูละครมากไปหรือเปล่าคะ" นิชากรอกตาใส่เขาอย่างไม่ปิดบัง"ก็ผู้หญิงทุกคนเป็นแบบนั้น" เขายักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้าน มีความมั่นอกมั่นใจในคำพูดซะจนน่าหมั่นไส้ ห้อยหลวงปู่มั่นหรือไงไม่ทราบ!"อย่าเอานิไปเหมารวมกับพวกผู้หญิงของคุณ..." ร่างบางพูดเสียงเรียบ ไม่พอใจที่ถูกเอาไปเหมารวมกับใคร แม้สถานะในตอนนี้แทบจะไม่ต่างจากพวกหล่อนเลยก็ตาม"ก็จริง...คุณดีกว่าเยอะ" อัคคีกดย
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 11หมับ "อะ...คุณอัค?" นิชาที่กำลังกระซิบกระซาบคุยกับเพื่อนชายเนื่องจากเสียงเพลงดัง ตัวลอยวืดออกมาด้วยแรงกระชากของใครบางคน เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบใบหน้านิ่งเรียบของเจ้านายหนุ่ม ที่ไม่รู้ว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง "ไปกับผม" น้ำเสียงดุดันเอ่ยสั่ง พร้อมกับกระชากข้อมือเล็กให้ลุกขึ้นยืน "ไปไหน นี่ไม่ใช่เวลางานนะคะ" นิชาที่เริ่มเมาได้ที่ขัดขืนไม่ยินยอม "แล้วยังไง ผมสั่งคุณได้ทุกเวลาคุณก็รู้" อัคคียื่นหน้าเข้าไปกระซิบขู่ใกล้ๆ เผื่อความเมาจะทำให้ร่างบางหลงลืมไปว่ายังมีสัญญาคู่นอนสองปีอยู่ "แต่นิมากับเพื่อน" เสียงหวานแย้งอย่างไม่ยินยอม ถ้าเป็นปกติเธอคงจะทำใจไปกับเขาง่ายๆ แต่ตอนนี้อารมณ์ของเธอไม่ปกติ มันแปรปรวนและคนที่ไม่อยากเจอหน้าที่สุดก็คือเขา! "จะไปดีๆ หรืออยากให้เพื่อนคุณเดือดร้อน?" อัคคีขบกรามขู่เสียงต่ำ และนิชาก็รู้ซึ้งถึงอำนาจที่เขามีมากกว่าใคร ดวงตาคู่สวยจ้องหน้าเขาด้วยความโกรธจัด แต่เธอก็ยังมีสติอยู่และไม่อยากให้เพื่อนต้องมาเดือดร้อนทั้งที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วย "...วี เดี๋ยวเราไปต่อกับเจ้านาย ฝากบอกเพียวด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวกลับเอง" นิชาข่มอา
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 27 (ตอนจบ)ผ่านไปหลายเดือนอะไรหลายๆ อย่างก็เริ่มลงตัวมากขึ้น น้องปุณณ์กับน้องปัญญ์ได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนนานาชาติที่มีราคาค่าเทอมพอๆ กับราคาบ้านหลังใหญ่หนึ่งหลัง มีคนขับรถรับส่งอย่างดี ทั้งหมดทั้งมวลล้วนมีอัคคีเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ไม่เพียงเท่านี้แต่เขายังคิดเผื่อไปถึงชีวิตในรั้วโรงเรียนที่ถึงแม้จะมีแต่ลูกหลานคนรวยก็ใช่ว่าจะมีแต่คนดีๆ ด้วยกลัวว่าหลานๆ จะถูกรังแกหรือดูถูกว่ามาจากครอบครัวธรรมดา อัคคีถึงกับลงทุนรับเด็กทั้งสองมาเป็นลูกบุญธรรม โดยให้ใช้นามสกุล 'ศิระพักตร์พิมล' ของเขาเป็นเกราะคุ้มกัน เพราะถ้าลูกหลานตระกูลไหนกล้ารังแกเด็กๆ ทั้งสองก็เท่ากับตั้งตนเป็นศัตรูกับเขาด้วยเช่นกัน ส่วนแม่ของนิชา อัคคีได้จ้างแม่บ้านมาคอยดูแลและอยู่เป็นเพื่อนเพราะอยากให้เธอย้ายไปอยู่ด้วยกัน ตอนแรกนิชาไม่ยอมเพราะเป็นห่วงแม่ กลัวแม่ไม่มีเพื่อนแล้วจะเหงา เขาก็เลยจ้างแม่บ้านที่ไว้ใจได้สองคนมาคอยดูแล อายุเท่ากันกับแม่เธอหนึ่งคน ไว้คอยอยู่เป็นเพื่อนและหญิงวัยกลางคนอีกหนึ่งคนไว้คอยดูแลบ้านและเรื่องอาหารการกิน มีรถและคนขับรถให้เวลาอยากออกไปข้างนอก คนเจ้าเล่ห์จัดแจง
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 26"ครับแม่" บ่ายวันหนึ่งขณะที่กำลังนั่งทำงานตามปกติ ร่างสูงที่มีสายเรียกเข้าก็กดรับสาย แต่พอรู้ว่าปลายสายเป็นใครนิชาก็หูผึ่ง เพราะไม่รู้ว่าแม่ของเขาโทรมาทำไม ที่รู้คือคุณหญิงดาริกาไม่ค่อยชอบเธอตั้งแต่ที่เรียกไปคุยส่วนตัวในวันนั้น พอเกิดเรื่องถอนหมั้นและมีเธอเป็นต้นเหตุ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายจะยิ่งไม่ชอบเธอแค่ไหน หลายครั้งที่ได้ยินเขาคุยโทรศัพท์กับแม่และจบลงที่การทะเลาะ นิชาก็ยิ่งคิดหนัก แม่ไม่ชอบแต่ลูกชายกำลังจีบเธอ ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ที่หลายคนมองว่าเบสิก แต่ก็ทำคนเลิกกันมาตั้งเท่าไร "นิ..." "..." "นิ!" "อะ คะ?" "เหม่ออะไร พี่เรียกตั้งนาน" สรรพนามที่เปลี่ยนไปของอัคคี นิชาไม่เคยชินเลยสักที ไม่พอเขายังบังคับให้เธอเรียกเขาว่าพี่ด้วย "อ้อ เปล่าค่ะ แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ว่าแต่มีอะไรเหรอคะ" เธอแสร้งถามเผื่อเขาจะตอบความจริง เพราะความสัมพันธ์ของเราในตอนนี้มันก้าวข้ามคำว่า 'แฟน' มาไกลมากแล้ว "เย็นนี้ไปทานข้าวบ้านพี่นะ แม่โทรมาชวน" "คะ?" นิชาได้ฟังก็ยิ่งงง เขากับแม่ดีกันตั้งแต่เมื่อไร ถึงขั้นชวนเธอไปทานข้าวที่บ้านด้วย ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกหวาดร
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 25หลังเดินตลาดจนเหนื่อยทุกคนก็เดินกลับโรงแรมและแยกย้ายกันเข้าห้อง อัคคีทำทีเป็นกลับห้องตัวเอง แต่จริงๆ แค่มาอาบน้ำแล้วค่อยแอบออกไปเคาะห้องลูกสาวคนอื่นตอนดึก นิชาที่เห็นเขาไม่ตามมาที่ห้องก็พลันรู้สึกห่อเหี่ยวใจแปลกๆ เพราะคิดว่าเขาจะมานอนด้วยกันอีก พอเขาไม่มาเลยแอบผิดหวัง แต่ก็พยายามสลัดความคิดทิ้งไป หยิบข้าวของเข้าไปอาบน้ำและสวมแค่ชุดคลุมออกมา ขณะที่กำลังจะแต่งตัวก็ได้ยินเสียงเคาะประตู คิดว่าแม่อาจจะมาเลยเดินไปเปิดอย่างไม่คิดอะไร แต่กลับเจออัคคียืนอยู่หน้าห้องและแทรกตัวเข้ามาอย่างถือวิสาสะ "มาทำไมคะ" แม้จะแอบดีใจจนเนื้อเต้น แต่นิชาก็ยังแสดงออกนิ่งๆ เหมือนเดิม "อยากดื่ม มาดื่มกันเถอะ" ร่างสูงชูเครื่องดื่มที่สั่งมาจากบาร์ของโรงแรมให้ดู ก่อนเดินไปนั่งที่เตียง เทเครื่องดื่ม เปิดทีวีดูอย่างสบายใจ นิชาปล่อยเขาดื่มไปก่อน เพราะเธอยังต้องแต่งตัวและเป่าผมให้แห้ง ใช้เวลาสักพักก็เสร็จ เธอจึงปิดไฟสร้างบรรยากาศ เปิดไว้แค่แสงสีส้มจากโคมไฟหัวเตียง เธอขึ้นเตียงไปนั่งข้างเขาแต่ถูกดึงไปนั่งตรงหว่างขา รั้งตัวเอนพิงอกและกอดไว้หลวมๆ ก่อนจะเทเครื่องดื่มให้ พวกเรานั่ง
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 24"ปะ ปล่อยได้แล้วค่ะ ไม่ทำนะคะ เดี๋ยวแม่มาเจอ" นิชาพยายามดันร่างสูงออกห่าง ใบหน้าสวยแดงระเรื่อ เขินทั้งจูบหวานๆ และสายตาที่เขาเอาแต่มองมาไม่หยุด "คุณน้าอนุญาตให้ผมจีบคุณแล้ว...แล้วคุณล่ะ" อัคคีไม่ได้ปล่อยมือจากเอวบาง ยังคงกอดไว้อย่างแนบชิด ก่อนจะก้มลงถามความรู้สึกของเธอบ้าง "...คุณแน่ใจแล้วเหรอคะ" นิชาเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะย้อนถามเขา "ผมพูดกับแม่คุณขนาดนั้น คุณยังคิดว่าผมเล่นๆ อีกเหรอ" คิ้วเข้มขมวดชนกันคล้ายว่าจะไม่พอใจที่เห็นเธอยังไม่เชื่อใจเขา "ก็...เปล่าค่ะ แต่บอกตรงๆ ว่านิไม่คู่ควรกับคุณหรอกค่ะ ความรักมันไม่ใช่แค่คนสองคนรักกันแล้วทุกอย่างจะราบรื่น คุณมีครอบครัว มีสังคมสูงๆ ที่ไม่มีทางยอมรับคนธรรมดาอย่างนิ...นิเหนื่อยมามากพอแล้วค่ะ ไม่อยากเจอเรื่องยุ่งยากอะไรอีก..." ร่างบางเปิดเผยสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในใจให้เขาได้รับรู้จนหมด แววตาคู่สวยเศร้าลงเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเรื่องราวมากมายในชีวิตที่ผ่านมา "ผมขอโทษ...ที่เริ่มต้นกับคุณได้ไม่ดี ขอโทษที่เป็นหนึ่งในเรื่องร้ายๆ ในชีวิตของคุณ แต่ไม่ว่ายังไงผมก็จะไม่ยอมปล่อยมือคุณเด็ดขาด ให้โอกาสผมสักครั้ง ผมจะทำให้ค
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 23"เย่ๆ ทาเล๊~~" หลังจากที่คุณอาไฟบอกว่าจะพาไปเที่ยวทะเลในวันนั้น สองพี่น้องก็เก็บกระเป๋านั่งนับวันนับคืนรออย่างใจจดจ่อ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง อัคคีมารับแต่เช้าด้วยรถตู้คันใหญ่พร้อมคนขับส่วนตัวที่นิชาคุ้นหน้าคุ้นตาดีคือ 'พี่ชิด' คนขับรถที่เขามักเรียกใช้เวลาเดินทางออกต่างจังหวัดไกลๆ หรือเวลาขี้เกียจขับรถเอง ส่วนเจ้าลัคกี้เอาไปฝากไว้ที่โรงแรมแมวแล้ว หายห่วง เมื่อมาถึงโรงแรมก็เช็กอินแบ่งห้องกันตามที่อัคคีจองไว้ให้คือเธอกับเขาและพี่ชิดคนละห้อง ส่วนแม่และหลานๆ ห้องเดียวกัน เมื่อเก็บกระเป๋าเสร็จ เด็กๆ ก็อ้อนขอออกไปเล่นน้ำอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้งนิชา แม่และอัคคีต่างถูกหลานๆ ดึงให้ลงไปเล่นด้วยกัน แต่ด้วยความที่อายุเยอะแล้วนางพิมพาเล่นด้วยได้ไม่นานก็ขอไปนั่งดูดีกว่า สุดท้ายเลยเหลือแค่นิชากับอัคคีที่อยู่เล่นกับเด็กๆ ร่างสูงเล่นน้ำไปพลางแอบมองเลขาคนสวยไปด้วย เพราะเธอหัวเราะและยิ้มกว้างมาก เหมือนได้ปลดปล่อยตัวเองจากเรื่องเครียดๆ มากมายเพื่อเล่นสนุกกับสองพี่น้อง ทั้งที่สภาพเปียกปอนไปทั้งตัว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสวยของเธอลดน้อยลงเลยแม้แต่น้อย นิชาเงยหน้า
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 22"อะไรนะคะ? ได้ค่ะ จะรีบไป!" ร่างบางวางสายโทรศัพท์ด้วยความเคร่งเครียด เนื่องจากคุณครูประจำชั้นโทรมาเรียกให้ไปที่โรงเรียนด่วน เพราะหลานชายมีเหตุทะเลาะวิวาทกับเพื่อนที่โรงเรียน ตอนนี้รออยู่ในห้องปกครอง "มีอะไรหรือเปล่า" อัคคีถามด้วยความห่วงใย มีไม่กี่เรื่องในชีวิตที่ทำให้เลขาคนสวยเป็นเดือดเป็นร้อนได้ขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่แม่ก็ต้องเป็นหลานๆ "นิขอลาช่วงบ่ายนะคะ คุณครูแจ้งมาว่าน้องปุณณ์มีเรื่องชกต่อยที่โรงเรียน" ร่างบางพูดไปเก็บของไปด้วยความรีบเร่ง หลักๆ เลยคือเป็นห่วงเพราะเชื่อว่าหลานเธอไม่ได้เริ่มก่อนแน่นอน "ผมไปด้วย" ร่างสูงทิ้งงานลุกขึ้นทันที จะปฏิเสธก็ไม่ทัน เพราะเขาเดินนำไปก่อนแล้ว เมื่อมาถึงโรงเรียนนิชาก็ตรงไปที่ห้องปกครองทันที ก่อนจะได้รู้จากครูที่ประจำการอยู่ว่าผู้ปกครองของคู่กรณีต้องการให้เรื่องถึงผู้อำนวยการ เด็กๆ จึงถูกพาไปตัดสินที่ห้องของผู้อำนวยการ ทั้งคู่มองหน้ากันด้วยความสงสัย แค่เด็กทะเลาะกันทำไมถึงต้องไปที่ห้องผู้อำนวยการ มันเรื่องใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมครูปกครองถึงตัดสินกันเองไม่ได้ในเมื่อมันเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครอง หรือไม่คงมี 'บาง
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 21"เฮ้อออ..." นิชาถอนหายใจอย่างหัวเสีย เหตุมาจากกำลังขับรถไปทำงานอยู่ดีๆ เครื่องก็ดับ สตาร์ทไม่ติด ดีว่าค่อยๆ ประคองรถเข้าข้างทางจนปลอดภัยได้ และตอนนี้ก็กำลังยืนรอช่างอยู่บนทางด่วนท่ามกลางแสงแดดยามสายที่ไม่ได้มีแค่วิตามินดีอย่างแน่นอน ขณะที่กำลังรออยู่นั้นอัคคีก็โทรเข้ามา คาดว่าเขาน่าจะไปถึงบริษัทแล้วแต่ไม่เจอเธอเหมือนทุกวันเลยโทรถามเพราะเธอไม่ได้แจ้งลางานเอาไว้ ("คุณอยู่ไหน") "รถเสียอยู่บนทางด่วนค่ะ กำลังรอช่าง" ("ทำไมไม่รีบบอกผม! รออยู่ตรงนั้น เดี๋ยวไปรับ") "เอ่อ..." นิชาไม่ทันได้ปฏิเสธอัคคีก็วางสายไปแล้ว แถมน้ำเสียงก็ดูโกรธมากด้วย เธอก็ได้แต่งงๆ ว่าการที่เธอไม่ได้บอกเขานี่มันผิดมากขนาดนั้นเลยเหรอ หรือกลัวเธอไปทำงานสายแล้วจะทำงานไม่คุ้มค่าแรง ถ้าเป็นแบบนั้นเมื่อก่อนเขาจะรบกวนเวลาทำงานของเธอบ่อยๆ ทำไม เมื่อไม่รู้นิชาก็ไม่คิดหาคำตอบ ยังคงยืนรอช่างต่อไป อากาศแม้จะเป็นตอนเช้าแต่แดดประเทศนี้โดนนิดเดียวก็เหงื่อเริ่มซึม และมันก็เป็นคราวซวยของเธอนี่แหละที่หยิบร่มออกจากรถวันก่อนแล้วลืมเอากลับมาคืน รอสักพักในที่สุดช่างก็มา เธอแจ้งอาการรถให้เขารู้ ซึ
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 20"ทำไมคุณพ่อไม่จัดการให้ริณคะ! ปล่อยให้พวกมันเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของพวกเราได้ยังไง!?" ไอริณเดินเข้าบ้านมาอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อเห็นผู้เป็นพ่อนั่งหน้าเครียดอยู่ที่โซฟาก็ตรงเข้าไปโวยวายใส่เสียงดัง เธอคิดว่าพ่อแม่จะออกโรงปกป้องและเอาเรื่องอัคคีให้ถึงที่สุด แต่นี่กลับเงียบและยอมรับการถอนหมั้นง่ายๆ ทั้งที่เธอถูกเหยียดหยามจนไฟแค้นมันสุมอกแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว "ถ้าแกไม่รู้อะไรก็อย่าพูด!"เจ้าสัวเจนภพที่กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็เหมือนถูกสุมไฟเพิ่ม สองพ่อลูกเลยไม่มีใครยอมใคร "แล้วมันอะไรล่ะคะ พ่อก็บอกริณมาสิ!" ไอริณทั้งโกรธทั้งไม่เข้าใจ ทั้งๆ ที่ครอบครัวเราก็มีทั้งอำนาจและเงินไม่ต่างอัคคีเลยสักนิด ทำไมพ่อยังต้องไว้หน้าเขาด้วย "แกมันก็ไม่เคยรู้อะไรทั้งนั้นแหละ แทนที่จะจับอัคคีให้อยู่หมัด เลี้ยงเสียข้าวสุก!" "ทำไมพ่อจะต้องให้ความสำคัญเขาถึงขนาดนั้นด้วย เขานอกใจริณนะ!" "ศักดิ์ศรีของแกมันกินได้มั้ยล่ะ! ครอบครัวเราจะล้มละลายกันอยู่แล้วยังไม่รู้ตัวอีก บริษัทไม่ถูกมันเทคโอเวอร์ก็บุญหัวเท่าไรแล้ว!" "หมายความว่าไงคะ เราจะล้มละลายได้ยังไง!?" เมื่อถู
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 19"นิ...เจ็บมั้ย" หลังจากไอริณออกไป อัคคีก็เข้าไปถามไถ่นิชาด้วยน้ำเสียงอ่อนลง ทว่ามือที่กำลังจะยื่นไปหากลับถูกเธอปัดออกอย่างไม่ไยดี "นิอยากอยู่คนเดียวค่ะ...เชิญ" เธอชี้นิ้วไปที่ประตู ไล่เขาเสียงห้วน ไม่แม้แต่จะมองสบตา "แต่..." "นิขอร้องล่ะค่ะ! นิยังไม่พร้อมจะคุยอะไรทั้งนั้น" เมื่อพูดดีๆ ไม่ฟังร่างบางก็ตะคอกเสียงดังลั่น ไหล่บางสั่นเทิ้ม จิกมือเข้าหากันแน่นด้วยความอดทน "...." "นิขออยู่คนเดียว..." เห็นท่าทางต่อต้านไม่อยากรับฟังอะไรของนิชาแล้วอัคคีก็จนคำพูด เมื่อทำอะไรไม่ได้เขาก็ยอมออกไปจากห้อง รอให้อารมณ์เย็นก่อนค่อยมาคุยกัน ทันทีที่ประตูปิดลงร่างบางก็ทรุดนั่งบนพื้นเพราะฝืนความเจ็บที่ขาต่อไปไม่ไหว แขนด้านขวารู้สึกระบมและมีรอยถลอกจากตอนล้ม แก้มก็เจ็บและชาแถมมีเลือดออกในปาก คาดว่าคนตบคงจะใส่แรงทั้งหมดที่มี เธอสมควรที่จะโดนแบบนี้แล้วใช่ไหม?คนผิดที่แท้จริงแล้วมันคือเธอจริงๆ เหรอ?ทั้งๆ ที่คิดว่าคงด้านชาจนไม่รู้สึกอะไรแล้วน้ำตาไม่รู้มากมายมาจากไหนกลับไหลพรากไม่หยุด พอห้ามไม่ได้ก็เลยนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นจนกว่าจะระบายมันออกไปจนหมด "อึ่ก..มึง..มารับ