รักต้องแลก
Writer : Aile'N
ตอนที่ 3
หลังจากที่แม่พักฟื้นจนหายดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วนิชาก็กลับมาทำงานเป็นเลขาของอัคคีอีกครั้งตามคำสั่ง เรื่องความสัมพันธ์แลกเงินสิบล้านนั้นยังไม่รู้ว่าจะไปในทิศทางไหนเพราะอีกฝ่ายยังไม่ได้พูดถึง เพียงสั่งให้เธอเคลียร์งานในช่วงที่หยุดไปให้เรียบร้อย นั่นพอจะทำให้เธอโล่งใจไปชั่วขณะ ไม่ต้องคอยระแวงว่าจะต้องรองรับอารมณ์ผีเข้าผีออกของเขาให้ต้องปวดหัวเพิ่ม
"ตอนเที่ยงสั่งอาหารสองชุด ของคุณด้วย เอาเข้ามากินที่ห้องทำงานผม...ทุกวัน"
สบายใจอยู่ได้ไม่นานโทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้นตอนสิบเอ็ดโมง เมื่อรับสายสิ่งที่ทำได้ก็คือทำตามคำสั่งอย่างไม่ต้องสงสัย ทุกทีถ้าไม่มีนัดลูกค้านิชาจะเป็นคนสั่งอาหารเที่ยงและจัดเสิร์ฟเข้าไปให้อัคคีในห้องทำงาน ส่วนของเธอถ้าไม่นั่งกินที่โต๊ะทำงานก็เข้าไปนั่งกินในห้องพักเบรกที่มีครัวเล็กๆ รวมถึงตู้เย็นและเครื่องชงชากาแฟอยู่ในนั้น มีไว้สำหรับปากท้องของท่านประธานและเลขาอย่างเธอโดยเฉพาะ
หลังวางสายเจ้านายไปแล้วนิชาก็โทรสั่งอาหารจากร้านประจำและเลือกเมนูที่เขาชอบกินอย่างเคยชิน เมื่ออาหารมาส่งก็ใกล้เที่ยงพอดีเธอจึงนำไปจัดใส่จาน ยืนทำใจอยู่สักพักก็ยกอาหารใส่ถาดเข้าไปในห้องทำงานของเขา
"ทานข้าวค่ะ" เสียงหวานเอ่ยเรียก ขณะที่ยกอาหารไปวางลงบนโต๊ะหน้าโซฟารับแขก
อัคคีที่ก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่เงยหน้าขึ้นมองแว้บหนึ่งก่อนวางงานทั้งหมดลง คลายเนคไทและพับแขนเสื้อขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเดินมานั่งลงที่โซฟา เมื่อเห็นเจ้านายนั่งลงแล้วนิชาก็นั่งตาม โดยเว้นระยะห่างจากเขามาหนึ่งช่วงแขน เธอวางตัวห่างเหินจากเขามากกว่าเดิมเล็กน้อยเพราะหลังจากเหตุการณ์แตกหักในวันนั้นก็ไม่รู้ว่าจะต้องปั้นหน้ายังไงต่อหน้าเขา
พรึ่บ
ในขณะที่ร่างบางพยายามถอยห่าง อัคคีกลับเป็นฝ่ายเข้าหาอย่างจงใจ เขาขยับมานั่งข้างเธออย่างสนิทสนมและเริ่มทานข้าวของตัวเองไป ในขณะที่นิชารู้สึกเกร็งจนอยากจะขยับหนี ท่อนแขนแกร่งก็ล็อกเอวของเธอไว้ให้อยู่นิ่ง
ด้วยสถานะเป็นรองที่ค้ำคออยู่นิชาจึงไม่สามารถปัดป้องได้อย่างใจนึก เธอจำต้องปล่อยให้อัคคีกอดเอวอยู่แบบนั้น และรีบทานข้าวของตัวเองให้หมดไวไว จะได้รีบออกไปเสียที
ร่างสูงมองความเร็วในการทานของคนข้างกายอย่างนึกขัน คงอยากออกไปเร็วๆ ล่ะสิ เรื่องอะไรจะยอมให้สมหวังกันล่ะ
"เดี๋ยวตอนบ่ายให้ รปภ. ขึ้นมาย้ายโต๊ะทำงานของคุณเข้ามาข้างใน จะได้คุยงานกันได้สะดวกขึ้น" อัคคีบอกด้วยน้ำเสียงยียวน ก่อนกดยิ้มลึกเมื่อเห็นร่างบางหันขวับมามองด้วยความไม่พอใจ
"เกินไปหรือเปล่าคะ คิดจะแกล้งกันหรือไง" นิชาสติหลุดไปชั่วขณะเมื่ออีกฝ่ายบีบบังคับให้เธอจนมุมอีกครั้ง
"แกล้งอะไร คุณกลัวอะไรงั้นเหรอ หื้ม?" ร่างสูงเลิกคิ้ว กระตุกยิ้มท้าทาย ดูก็รู้ว่าจงใจ
"จะทำอะไรก็ทำเถอะค่ะ!" นิชากระแทกเสียงเล็กน้อย พยายามทำตัวสงบลง ไม่วิ่งเต้นไม่ขัดขวางเพราะรู้ว่ายังไงก็ไม่สำเร็จ อีกอย่างยิ่งเห็นเธอโกรธเขาก็ยิ่งพอใจ เรื่องอะไรจะยอมให้สมหวัง
"ยอมง่ายจัง" ร่างสูงยื่นหน้าเข้ามากระซิบเบาๆ ที่ข้างหู นิชาไม่ถอยหนีแต่หันไปมองเขาอย่างไม่เกรงกลัว แม้ระยะห่างของใบหน้าจะอยู่ใกล้จนลมหายใจเป่ารด
อัคคีกดยิ้มมุมปากอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเห็นเธอสู้เขาก็ยิ่งชอบใจ สรุปง่ายๆ ไม่ว่าเธอจะสู้หรือพยายามจะหนีเขาก็สนุกทั้งนั้น
"อย่ามองผมด้วยสายตาเร่าร้อนแบบนั้นสิ ผมจะอดใจไม่ไหวเอานะ" น้ำเสียงเจ้าเล่ห์เอ่ยเย้าอย่างชอบใจ ทว่าเขาไม่ได้พูดเล่น กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่คุ้นเคยจากร่างบางกำลังเร่งเร้าให้เขาอยากสัมผัสเธอมากยิ่งขึ้น ยิ่งมีสิทธิ์ในตัวอีกฝ่ายตามที่ตกลงกันแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอื่นให้เขาต้องหักห้ามใจ
"เร่าร้อน? ใช้ตาตุ่มมองเหรอคะ" ดวงตากลมสวยมองเหยียดร่างสูงอย่างไม่เก็บอาการอีกต่อไป ถึงอัคคีจะเป็นเจ้านายและไหนจะติดหนี้ชีวิตเป็นเงินสิบล้าน เธอก็ไม่คิดจะยอมก้มหน้าให้เขาเสียทีเดียว ขอให้ได้จิกกัดเอาคืนแค่เล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี
"หึ ปากดี" มือแกร่งดั่งคีมเหล็กคว้าบีบแก้มเนียนแน่นจนปากจู๋เข้าหากัน นิชาพยายามดิ้นหนีแต่เขาใช้แรงกดคางเธอไว้ไม่ยอมปล่อย ก่อนจะบังคับให้หันมาหาแล้วก้มลงกัดปากนิ่มเพื่อทำโทษ
"อื้อออ" แรงกัดของอัคคีไม่เบาเลย มันทำให้นิชารู้สึกเจ็บจนต้องพยายามดิ้นหนีอีกครั้ง แต่เรี่ยวแรงอันน้อยนิดไม่สามารถทำให้หลุดพ้นได้ เธอทั้งทุบทั้งจิกเขาก็ไม่สะทกสะท้าน
ไม่นานสัมผัสก็แปรเปลี่ยนจากกัดมาเป็นรุกจูบอย่างดูดดื่ม ร่างบางพยายามดิ้นอีกครั้งแต่ก็สู้แรงและความช่ำชองของอัคคีไม่ได้ นานเข้าเรี่ยวแรงขัดขืนก็หมดลง ได้แต่ปล่อยให้เขากระทำได้ตามใจ และคนที่เพิ่งเคยถูกรุกรานด้วยสัมผัสร้อนรุ่มขนาดนี้ก็ได้แต่ตัวสั่นอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างหมดสภาพ
พรึ่บ!
ทันทีที่ถูกปล่อยเป็นอิสระนิชาก็เค้นเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายผลักร่างสูงออก ใช้หลังมือเช็ดปากลวกๆ และจ้องมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ ข้าวกลางวันที่ยังกินไม่หมดก็ไม่มีอารมณ์จะกินต่อแล้ว เลยรีบเก็บส่วนของตัวเองลุกหนีออกจากห้องไป
"หึ หวาน..." อัคคีมองตามหลังร่างบางไปด้วยแววตาร้อนรุ่ม ยิ่งได้สัมผัสก็ยิ่งอยากสัมผัสมากขึ้น ความปรารถนาดำมืดลึกๆ ภายในใจของเขาแรงกล้ามากกว่าที่คิดจนเขาเองก็ยังแปลกใจ...
นิชาเอาจานไปวางไว้ในซิงค์และหนีเข้าห้องน้ำเพื่อไปตั้งหลัก ลมหายใจของเธอหอบเหนื่อยเหมือนวิ่งขึ้นลงบันไดสิบชั้น ครั้นมองตัวเองในกระจกก็เห็นสภาพปากบวมเจ่อ แก้มแดงเรื่อ เสื้อหลุดลุ่ยและยับย่น ยิ่งมองก็ยิ่งรับไม่ได้เลยรีบจัดการตัวเองให้กลับมาเรียบร้อย ทว่าปากที่บวมเจ่อกับแก้มแดงเรื่อก็ไม่สามารถกลบเกลื่อนได้อย่างที่ใจต้องการ
ปลายนิ้วเรียวยาวยกขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเองเบาๆ พลันนึกไปถึงเหตุการณ์ในห้องนั้นแล้วก็ได้แต่ก่นด่าตัวเองอยู่ในใจเพราะมีช่วงที่เธอเผลอไผลไปกับสัมผัสร้อนแรงของเขา
เมื่อตั้งสติและปรับอารมณ์จนกลับมาเป็นปกติได้แล้วนิชาก็ออกจากห้องน้ำไปเพื่อเก็บล้างจานข้าวกลางวันของตัวเองให้เรียบร้อน พลันเห็นจานอีกชุดที่คาดว่าเป็นของร่างสูงวางอยู่ด้วยกันก็ล้างไปพร้อมกัน
พอออกมาจากห้องพักเบรกก็คล้ายว่าจะปรี๊ดแตกขึ้นมาอีกหน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่รปภ.จำนวนสามคนกำลังช่วยกันยกโต๊ะของเธอเข้าไปข้างใน...
นี่เอาจริงเหรอเนี่ย? ให้นั่งทำงานต่อหน้าเขาทั้งวัน เธอจะไม่ประสาทกินก่อนเหรอ!
"เอาเถอะ...คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วล่ะ" ร่างบางถอนหายใจพึมพำกับตัวเอง ก่อนเอ่ยขอบคุณพี่ๆ พนักงานแล้วหยุดทำใจหน้าประตูพักหนึ่ง ถึงจะเปิดประตูห้องประธานเข้าไป
อัคคีกลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะตัวเองแล้ว เห็นเธอเข้ามาเขาก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มยียวนให้เล็กน้อย แต่นิชาทำเป็นไม่เห็น เดินตรงไปนั่งโต๊ะเตรียมตัวทำงาน ตำแหน่งโต๊ะทำงานของเธออยู่ไม่ไกลจากเขาแถมหันหน้าเข้าหากันอีกต่างหาก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นคนสั่งให้จัดแบบนี้ กวนประสาทจริงๆ
.
.
"คืนนี้สองทุ่ม ไปหาผมที่คอนโด...ห้ามสาย ห้ามหนี ไม่อย่างงั้นจะไปหาถึงบ้าน"
และแล้วเวลาทำใจที่เหลือเพียงน้อยนิดของนิชาก็หมดลง เธอนิ่งอึ้งอย่างตื่นตระหนกเมื่อได้ยินคำสั่งที่อัคคีทิ้งไว้ในตอนเลิกงาน ก่อนที่เขาจะเดินผิวปากออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี
อย่าบอกนะว่าเริ่มแล้ว? ไวขนาดนี้เลยเหรอ...
ร่างบางกลับบ้านด้วยจิตใจว้าวุ่นไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ได้แต่คิดว่าจะเตรียมตัวรับมือยังไงดี ที่สำคัญทั้งถุงยางและยาคุมต้องเตรียมให้พร้อม เธอจะต้องไม่พลาดท้องในสถานการณ์แบบนี้เด็ดขาด!
"เป็นอะไรหรือเปล่าลูก หน้าเครียดเชียว" ผู้เป็นแม่เอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นลูกสาวเดินเข้าบ้านมาหน้าเครียดๆ และคล้ายว่าจะเหม่อจนมองไม่เห็นเธอที่ยืนอยู่ตรงนี้
"อ้อ เปล่าค่ะ แค่คิดเรื่องงานนิดหน่อย แล้วแม่เป็นยังไงบ้างคะ มีอาการผิดปกติอะไรหรือเปล่า" นิชาพลันได้สติ รีบแก้ตัวและเข้าไปประคองแม่ พาเดินไปนั่งที่โซฟาด้วยความห่วงใย
"แม่สบายดี ไม่มีอาการอะไร ไม่ต้องเป็นห่วงนะ" นางพิมพายิ้มอย่างอ่อนใจเพราะโดนถามอยู่ทุกวัน อีกฝ่ายเป็นห่วงเธอมากนั้นเข้าใจได้แต่ติดจะกังวลมากเกินไปเสียหน่อย ไม่รู้ตอนทำงานมีสมาธิหรือเปล่า
"ห้ามโกหกนะคะ ถ้ามีอาการอะไรให้รีบบอกหนู ไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน ที่เจ้านายหนูใหัยืมยังเหลืออีกเยอะ หนูเหลือแม่คนเดียวแล้วรู้ใช่ไหมคะ" นิชาบอกแม่ด้วยความเป็นห่วง แม้จะต้องกัดฟันโกหกว่าเงินที่ใช้รักษาเป็นเงินที่เจ้านายให้ยืมมาชั่วคราวก็ต้องทำเพราะไม่สามารถบอกความจริงได้
"ได้ แม่จะบอกทุกอย่างเลย" ผู้เป็นแม่ยิ้มรับความหวังดีก่อนจะรั้งร่างบางเข้ามากอดไว้ด้วยความรัก
"อ้อ คืนนี้หนูมีกินเลี้ยงกับเพื่อนๆ ที่บริษัทนะคะ สองทุ่ม จะรีบไปรีบกลับและจะไม่ดื่มเยอะ แม่นอนก่อนเลยนะ ไม่ต้องรอ" เป็นอีกครั้งที่นิชาจำต้องโกหกบุพการีอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง จะให้แอบออกไปถ้าโดนจับได้จะยิ่งมีพิรุธมากกว่า
"ขับรถดีๆ นะลูก ถ้าไม่ไหวก็เช่าโรงแรมนอนก็ได้ ดูแลตัวเองดีๆ" นางพิมพาพยักหน้ารับและสั่งกำชับเล็กน้อย ไม่ได้ห่วงมากนักเพราะรู้ว่าลูกสาวเป็นคนเก่ง ดูแลตัวเองได้ดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
"ค่ะ เด็กๆ ล่ะคะ" ร่างบางรับคำก่อนถามถึงหลานๆ ทั้งสองคน
"อยู่บนห้อง เพิ่งไล่ไปอาบน้ำเมื่อกี้"
"งั้นหนูไปอาบน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวลงมากินข้าวกัน"
แม้อยู่ต่อหน้าแม่นิชาจะเก็บอาหารได้ดี แต่พอหันหลังเดินขึ้นห้องร่างกายของเธอก็พลันหนักอึ้งขึ้นมาอีกครั้ง แต่เพียงไม่นานก็สลัดทิ้งไป นี่เป็นสิ่งที่เธอเลือกเองแม้จะไม่เต็มใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ได้แต่ทำใจยอมรับมันให้ได้ก็เท่านั้น
อย่างน้อยๆ เธอก็เคยรู้สึกดีกับเขา ก็แค่เป็นคู่นอนคงไม่ยากกระมัง ไม่แน่เขาอาจจะเบื่อและปล่อยเธอเป็นอิสระในเร็ววันก็ได้...
..
..
..
..
อุ๊ยยยย เอาเลยอ๋อออออออ
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 1เพียะ!! ความเจ็บแสบกระทบผิวแก้มเนียนเต็มแรง ชั่วพริบตาเดียวก็เจ็บตึงและชาไปทั่วซีกหน้า ทว่ากลับไม่ได้ทำให้ 'นิชา' เปลี่ยนสีหน้าไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าสวยที่หันไปตามแรงตบหันกลับมามองตาม 'คู่ควงของเจ้านาย' ที่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยลากออกไปจากบริษัทด้วยสายตาเรียบนิ่ง พนักงานโดยรอบที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกอกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เพราะนิชาเป็นถึงเลขาคนสนิทของ 'อัคคี ศิระพักตร์พิมล' ประธานบริษัทผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์เบอร์ต้นของประเทศนี้ เธอเป็นคนเก่งและได้รับความไว้วางใจจากเขาเป็นอย่างมาก เป็นที่รู้กันว่าอัคคีเป็นชายหนุ่มที่สุดแสนจะเจ้าชู้ เขาไม่เคยขาดผู้หญิงข้างกายเลยสักครั้ง และด้วยเป็นคนขี้เบื่อหรือไม่กินของเก่าซ้ำก็ไม่แน่ใจ เขาถึงได้เปลี่ยนผู้หญิงไปเรื่อยๆ ชนิดที่ว่าเปลี่ยนบ่อยยิ่งกว่ากางเกงชั้นในเสียอีก ซึ่งคนที่รับช่วงต่อในการกำจัดผู้หญิงเหล่านั้นที่เขาเบื่อก็คือ 'เลขาคนสนิท' อย่างนิชานั่นเอง ที่ผ่านมาแม้ผู้หญิงพวกนั้นจะทำตัวมีปัญหาและสร้างความวุ่นวายใส่เธออยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่คนเหล่านั้นจะกล้าทำร้ายตบตีเ
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 2"เอ่อ...เราเพิ่งได้พนักงานใหม่ไป ตอนนี้เต็มทุกตำแหน่งแล้ว ขอโทษด้วยนะคะ" "ปิดรับสมัครแล้วค่ะ" "เราไม่ได้รับสมัครพนักงานแล้วครับ ขอโทษที่ไม่ได้เอาป้ายลง เลยทำให้เข้าใจผิด" "ปิดรับแล้วค่ะ ลองไปที่อื่นดูนะคะ"กว่าสองอาทิตย์แล้วที่ไม่ว่าจะนิชาจะไปยื่นใบสมัครงานที่ไหนเธอก็ถูกปฏิเสธแทบจะทุกที่ บางที่ก็ปฏิเสธซึ่งหน้า บางที่ก็โทรกลับมาบอกหลังจากที่ได้สัมภาษณ์ไปแล้ว แต่บางที่ก็เงียบหายไม่ติดต่อกลับมา ไม่ว่าฝ่ายบุคคลของแต่ละบริษัทจะชื่นชมประวัติการทำงานของเธอเหมือนอยากจะรับเข้าทำงานขนาดไหน แต่คำตอบที่ได้ก็เหมือนเดิมทุกที่... นานเข้าก็เกิดความท้อเล็กๆ ขึ้นในใจ แต่นิชาไม่มีทางยอมแพ้ เธอพักเรื่องหางานใหม่ไว้ก่อน หันมาหยิบจับสิ่งใกล้ตัวแทน นั่นก็คือการทำขนม แม้จะทำได้ไม่เก่งเท่ามารดาแต่เพราะได้คลุกคลีมาตั้งแต่เด็กนิชาจึงทำขนมได้หลายอย่าง เธอเริ่มต้นจากการช่วยแม่ทำฝาก 'ป้าน้อม' ที่เป็นเพื่อนบ้านไปขายที่ตลาดและมองหาช่องทางขายออนไลน์ด้วย เริ่มจากออเดอร์เล็กๆ น้อยๆ ไม่เกินตัว หากขายดีถึงจะหาที่ทางลงทุนเปิดร้าน แน่นอนว่าพอเห็นเธอหยุดงานมาทำขนมขาย ผู้เป็นแม่มีหรือ