รักต้องแลก
Writer : Aile'N
ตอนที่ 9
ผ่านมาหลายวันข้อมือของนิชานั้นหายดีแล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอัคคีมีส่วนช่วยทำให้มันหายเร็วขึ้น คือเขาแบ่งเบาภาระงานของเธอไปทำเองและไม่ได้มายุ่งวุ่นวายกับเธอเลย สะดวกสบายจนอยากให้มือเจ็บไปนานๆ เชียวล่ะ
เวลางานรุมเยอะๆ หรือเวลาที่เลขาอย่างเธอไม่ว่าง นิชาก็เคยบอกให้เขาจ้างผู้ช่วยมาช่วยทั้งเธอและเขาอยู่หลายครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่เขาปฏิเสธบอกว่าเกะกะและคร้านจะสอนงานใหม่ อีกอย่างเดี๋ยวมาเป็นก้างขวางคอเวลาอยากจะทำอะไรกัน พูดหน้าตายจนเธอทั้งอายทั้งโมโห
"Outings ปีนี้เอายังไงดีคะ" นิชาเอ่ยถาม หลังมองปฏิทินแล้วใกล้ถึงเวลาที่บริษัทจะจัดกิจกรรมนอกสถานที่เหมือนทุกปี น้องๆ ในบริษัทเองก็เริ่มเกริ่นๆ ถามมาบ้างแล้วเหมือนกัน
"ก็แล้วแต่พวกคุณเถอะ ผมยังไงก็ได้" อัคคีตอบโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากงานที่ทำ ไม่ว่าจะไปที่ไหนเขาก็แค่ไปควบคุมดูแลอยู่ห่างๆ ไม่ได้ร่วมกิจกรรมกับพนักงาน ไปที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น
"โอเคค่ะ เดี๋ยวนิทำแบบสำรวจแล้วจะสรุปมาแจ้งให้ทราบอีกที" ร่างบางจดรายละเอียดกิจกรรมที่ต้องทำลงในไอแพดคู่กายอย่างตั้งใจ ก่อนจะกลับมาตรวจรายงานการประชุมต่อจนเสร็จก็นำไปวางให้อัคคีบนโต๊ะ
"สิบโมงมีประชุมการตลาดนะคะ ส่วนตอนบ่ายสองมีนัดกับคุณจอร์นที่โรงงาน"
"ครับ ขอกาแฟให้ผมด้วยนะ ขอบคุณครับ" ร่างสูงยังคงตอบรับโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง ด้วยงานมากมายที่รุมเร้าเขาจึงใจจดจ่ออยู่กับมันมาตั้งแต่เช้า
นิชามองสำรวจอีกฝ่ายเล็กน้อย ได้แต่คิดว่าตอนเขายุ่งกับงานไม่ปากแจ๋วใส่เธอก็น่ารักดีเหมือนกัน ได้แต่ภาวนาให้เป็นแบบนี้บ่อยๆ ก่อนจะสลัดความคิดไร้สาระทิ้งไปแล้วออกไปชงกาแฟมาให้ตามคำสั่ง
ตื๊ดดด...
Vvv : วันนี้ไปดื่มกันมั้ย ชวนเพียวไปด้วย อยากเจอ
Nicha : ลองชวนก่อน เดี๋ยวบอก
หลังจากวันนั้นที่ได้เจอเพื่อนเก่า นิชากับวีก็ติดต่อกันตลอด ด้วยความที่เคยสนิทกันมาก่อนคุยกันไม่นานก็กลับมาสนิทสนมกันอีกครั้ง เธอบอกเขาว่าเพื่อนสมัยมัธยมที่เธอยังวนเวียนไปมาหาสู่อยู่เหลือแค่เพียวคนเดียว เขาเองก็อยากเจอเพียวเช่นเดียวกัน
พอทักไปถามเพียวอีกฝ่ายก็ตอบตกลงที่จะไปดื่มกันหลังเลิกงานวันนี้ คิดๆ แล้วนิชาก็ไม่ได้ออกไปเที่ยวชิลๆ กับเพื่อนนานแล้ว ถือโอกาสนี้ไปผ่อนคลายก็ดีเหมือนกัน
อีกด้านหนึ่งอัคคีที่นั่งทำงานอยู่บังเอิญเงยหน้าขึ้นมาเห็นว่านิชากำลังยิ้มให้โทรศัพท์พอดี เขานิ่งมองอยู่สักพักพลางคิดไปว่า เธอกำลังคุยกับใครทำไมถึงแสดงสีหน้าที่หามองได้ยากแบบนั้นออกมา
ตึง!
เสียงบางอย่างกระแทกกับโต๊ะดังขึ้น เมื่อนิชาเงยหน้าขึ้นมองไปทางต้นเสียงก็เห็นดวงตาคมกริบของผู้เป็นเจ้านายกำลังจ้องมองมาเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง เธอจึงวางโทรศัพท์ลงและตั้งใจทำงานต่อเพราะคิดว่าเขาคงไม่พอใจที่เธอเล่นโทรศัพท์ในเวลางาน จากนั้นเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันเลยจนถึงเวลาเข้าประชุม
"วันนี้กินข้าวข้างนอก ผมจองร้านไว้แล้ว" เสียงทุ้มเอ่ยบอกในตอนเลิกประชุมที่แสนตึงเครียด ทุกคนออกจากห้องไปหมดแล้วเหลือเพียงเธอกับเขา ซึ่งตามหลักแล้วถ้าเขาไม่ลุกเธอก็ออกไปก่อนเขาไม่ได้ นอกจากจะได้รับคำสั่ง
หมับ
"อะ...คุณ!" ร่างบางที่กำลังเก็บเอกสารถูกดึงไปนั่งบนตักแกร่งและถูกลำแขนกำยำใต้ชุดสูทกอดไว้ไม่ให้ดิ้นหนี
"ปล่อยค่ะ เดี๋ยวใครเข้ามาเห็น" นิชาเลิกดิ้นและบอกให้เขาปล่อยแทน
"ใครเข้ามาผมไล่ออก" เสียงทุ้มลอดไรฟัน ใบหน้าคมบึ้งตึงราวกับไปกินรังแตนที่ไหนมาทั้งที่เรื่องงานก็ได้บทสรุปราบรื่นดีทุกอย่าง
"คุณไปอารมณ์เสียอะไรมาคะ ประชุมก็ได้บทสรุปแล้วไง ยังไม่พอใจอะไรอีก" นิชาถามด้วยความสงสัย ตอนเช้าก็ยังปกติดี จะว่าอารมณ์เสียเรื่องงานก็ไม่น่าใช่ เหมือนกำลังไม่พอใจเธอมากกว่า แต่มันเรื่องอะไรกันล่ะ
"ในสองปีนี้ ห้ามคุณไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นเด็ดขาด" อัคคีจ้องหน้าเธอด้วยสายตาคมกริบ สิ่งที่เขาเอ่ยยิ่งทำนิชางงหนัก
"คะ? ฉันไปยุ่งอะไรกับใครตอนไหน" ที่เขาพูดแบบนี้ก็คงไม่พอใจที่เธอไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่น แต่มันตอนไหนกันล่ะ เธอตัวติดเขาแทบ จะตลอดเวลา หมายังไม่กล้าเดินผ่าน นอกจากเขาแล้วจะมีผู้ชายที่ไหนมายุ่งกับเธอกัน
"แค่รับปากมันยากหรือไง" อัคคีกดเสียงเข้มขึ้น ตาคมจ้องใบหน้าสวยหวานของผู้เป็นเลขาอย่างจับผิด เพราะเธอไม่ได้รับปากในทันที
"ก่อนจะสั่งคนอื่น สั่งตัวเองได้หรือยังคะ" นิชาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย อยู่ๆ จะมาจับผิดอะไรกันก็ไม่รู้ ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมาเขาเคยเห็นเธอมีแฟนสักคนไหม มีแต่เขามากกว่าที่เห็นไปกับคนนู้นคนนี้ตลอดเวลา คนที่ควรไม่พอใจน่าจะเป็นเธอมากกว่ามั้ง!
"ผมก็ไม่ได้ยุ่งกับใครนี่" เขาย้อนคำพูดของเธอ ไม่นับคู่หมั้นที่มีอยู่เป็นตัวเป็นตน ช่างน่ารังเกียจสิ้นดี
"แรกๆ ก็คงทนได้แหละค่ะ แต่นานไป...คนที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อยอย่างคุณจะทนได้สักแค่ไหนกัน และถ้าคิดจะเปลี่ยนคู่นอนจริงๆ ก็ช่วยยกเลิกสัญญาให้ด้วยนะคะ นิไม่อยากใช้ของร่วมกับใคร อะ อื้อออ~"
นิชาผงะถอยห่างแต่ไม่สามารถหลบพ้นร่างสูงที่จู่โจมจูบเธอทั้งที่ยังพูดไม่ทันจบดี ริมฝีปากร้อนบดขยี้ริมฝีปากบางที่เอาแต่เจื้อยแจ้วท้าทายความอดทนของเขาไม่หยุด ซึ่งเขาเคยบอกเธอแล้วว่าอย่าปากแจ๋วให้มาก มันทำให้เขาอยากใช้ปากตัวเองปิดปากเธอให้หลาบจำ!
"ปากเก่งอีกสิ..."
นิชาหอบหายใจจนตัวโยน เธอจ้องหน้าเขาด้วยความโมโห ริมฝีปากแดงเรื่อช้ำเลือดขึ้นมาเล็กน้อยเพราะโดนเขาขบกัด เธอพยายามจะลุกหนีแต่ก็โดนกอดรัดไว้เหมือนเดิม มือหนาล็อกท้ายทอยสวยที่พยายามจะเบี่ยงหนีให้อยู่นิ่งก่อนซุกไซ้ลำคอขาว ดอมดมกลิ่นหอมอ่อนเข้าปอดฟอดใหญ่ มืออีกข้างลูบไล้บีบคลึงร่างกายนุ่มนิ่มไปทั่วจนเสื้อผ้าเริ่มหลุดลุ่ย
"คะ คุณอัค นี่มันเที่ยงแล้วนะคะ ไหนว่าจองร้านอาหารไว้?" นิชาเรียนรู้ที่จะไม่พูดคำว่า 'หยุด' หรือ 'อย่า' เพราะรู้ว่าถ้าเขาจะทำ พูดเป็นพันครั้งเขาก็ไม่ยอมหยุดอยู่ดี
"ขอหน่อยสิ...ผมอดทนมาหลายวันแล้วนะ"
ร่างบางชะงักมองสบตาคมนิ่ง ก่อนหรี่ตาอย่างพินิจ
เมื่อกี้...เขาอ้อน?
คนอย่างอัคคีเนี่ยนะอ้อนเธอ??
"ตะ แต่..."
"สิบนาที...นะครับ"
เชี่ยเอ้ย...แล้วจะมาอ้อนเอาอะไร!
ทุกทีไม่เห็นจะสนใจว่าเธอจะเต็มใจหรือไม่ ก็บังคับเอาตลอด ย้อนแย้งสิ้นดี!
หัวใจบ้านี่ก็เต้นอยู่นั่นแหละ!
แค่เขาพูดดีคำสองคำก็สมยอมละ ใจง่ายฉิบเป๋ง!
"คะ แค่สิบนาทีนะคะ" นิชาตอบอ้อมแอ้มอย่างกระดากอาย
อัคคียิ้มหน้าบานทันทีที่ได้รับอนุญาต ไม่รอช้าลำแขนแกร่งก็อุ้มร่างบางขึ้นวางลงบนโต๊ะประชุม เดินไปล็อกห้องก่อนกลับมาหาเธออย่างรวดเร็ว
ด้วยเวลาที่จำกัดเขาไม่รอช้าล้วงมือเข้าใต้กระโปรงตัวยาวของเลขาคนสวยดึงซับในและกางเกงชั้นในของเธอออกก่อนโยนทิ้งไปอย่างไม่ไยดี นิ้วเรียวยาวกรีดเบาๆ ตรงรอยแยกของดอกไม้งาม ก่อนบดขยี้จุดกระสันสลับกับดันเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนจนสุดความยาว ชักเข้าออกระรัวเพื่อเตรียมความพร้อม มืออีกข้างขยำหน้าอกนุ่มผ่านเนื้อผ้าหนักสลับเบา
"อะ อื้อออ" นิชาสั่นสะท้านกับความวาบหวามที่ได้รับทั้งบนและล่าง ริมฝีปากแดงเรื่อขบเม้มเข้าหากันเพื่อกลั้นเสียงน่าอาย ลำพังแค่เสียงฉ่ำแฉะจากข้างล่างที่ดังก้องอยู่ในหัวก็น่าอายพอแล้ว
ช่องทางคับแคบผลิตน้ำหวานออกมาจนเป็นที่น่าพอใจ อัคคีก็ผละออกไป ปลดกางเกงรูดซิปลงก่อนล้วงเอาถุงยางอนามัยออกมาจากกระเป๋ากางเกง ฉีกสวมแก่นกายใหญ่ที่กำลังแข็งขืนได้ที่
เรียวขาสวยถูกแหวกออกกว้างอีกครั้ง ท่อนลำแข็งร้อนถูกดันเข้าไปในโพรงนุ่มรวดเดียวมิดลำละเริ่มกระแทกเข้าออกทันที
"อะ อื้ออ อา ช้าหน่อยค่ะ อื้อ" นิชาพยายามห้ามด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น มือบางดันหน้าท้องแกร่งไว้เพื่อลดแรงกระแทกที่มันไม่ลืมหูลืมตาของร่างสูง แต่ไหนเลยเขาจะสนใจ สะโพกสอบกระแทกเข้าสุดออกสุด ถี่ยิบจนเธอหัวสั่นคลอนไปหมด
แรงกระแทกกระชั้นชิดทำสองแขนเรียวเล็กที่ค้ำยันอยู่กับโต๊ะประชุมเริ่มจะทรงตัวไม่อยู่ นิชาจึงดันตัวขึ้นคว้ากอดรอบต้นคอเขาเพื่อหาที่พึ่งพิง ซึ่งลำแขนแข็งแรงก็รวบตัวเธอเข้าไปกอดไว้ ขณะที่สะโพกยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง
"อืม อาา..นิ.." เสียงแหบทุ้มครางต่ำอยู่ข้างหู ก่อนที่จมูกโด่งคมจะฝังลงกับลำคอระหง ขบเม้ม สูดดมกลิ่นกายหอมเข้าปาดลึกอย่างคนเสพติด
"อะ อาา คุณอัค นิจะ...อื้ออ" ความบ้าคลั่งของอัคคีทำนิชาเสียดเสียวจนแทบจะลืมวิธีหายใจ เล็บยาวสวยจิกลงบนบ่าแกร่งผ่านเนื้อผ้าจนชุดสูทเรียบกริบยับยู่ไม่เป็นทรง หน้าอกคู่โตบดเบียดกล้ามอกแข็งแรงของเขาเสียดสีกันยิ่งสร้างความกระสันจนสะท้านไปทั้งร่าง เพียงไม่นานเธอก็หวีดร้องตัวกระตุกเกร็ง เสร็จสุขสมไปในที่สุด
เพราะต้องเร่งทำเวลาอัคคีเองก็ไม่รีรอเช่นกัน เขาเร่งจังหวะในโค้งสุดท้ายถี่ยิบ จนกระทั่งสายธารอุ่นถูกปลดปล่อยใส่เครื่องป้องกันจนหมดทุกหยาดหยด
"อะ ออกไปได้แล้วค่ะ" นิชาตั้งสติได้และพบว่าร่างสูงยังคงกอดเธอไว้อยู่แถมยังไม่เอา 'ไอ้นั่น' ออกไปอีก ทั้งที่สภาพของเราทั้งร้อนทั้งเปียกเหงื่อและอึดอัดไปหมด
"แข็งอีกแล้ว..."
"ไม่มีต่อค่ะ! ไปจัดการตัวเองเลยนะ!" นิชาถลึงตาใส่คนบ้ากามที่กำลังทำหน้าหื่นใส่เธอก่อนใช้แรงทั้งหมดผลักเขาออกไปจนสำเร็จ แล้วรีบแต่งตัวเก็บข้าวของออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
"หึ...ไอ้เวรนี่ก็แข็งเก่งจริงๆ" อัคคีกระตุกยิ้มขำท่าทางร้อนรนของร่างบางขณะมองตามไปจนลับตา ก่อนจะก้มลงมองลูกชายตัวเองที่กำลังชี้โด่เด่ แล้วถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ
..
..
..
..
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 10พอสติกลับคืนมานิชาก็รู้สึกอายจนไม่อยากมองหน้าอัคคีเลยตลอดการเดินทางมาร้านอาหาร ทำในห้องทำงานว่าน่าอายแล้ว นี่ทำในห้องประชุมอีก ประชุมคราวหน้าเธอจะมีสมาธิทำงานได้ยังไง แถมสิบนาทีที่รับปากไว้ก็ไม่มีอยู่จริง! เลยเที่ยงมาครึ่งชั่วโมงแล้วเนี่ย กว่าจะขับรถมาอีก หิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว!"หึ...กินเลอะก็เป็น" เสียงทุ้มพูดขึ้นพร้อมกับยื่นมือมาหมายจะเช็ดปากให้ แต่นิชาเบี่ยงหน้าหนีทัน"แค่บอกก็พอค่ะ เช็ดเองได้" มือบางรีบหยิบทิชชูมาเช็ดรอบๆ ริมฝีปาก จนแน่ใจว่าไม่มีเลอะที่ไหนอีก"คุณนี่ไม่มีความโรแมนติกเอาซะเลยนะ" อัคคีส่ายหน้าอย่างระอา"คุณคาดหวังอะไรคะ นิต้องแก้มแดง เขินอายเวลาที่คุณทำอะไรแบบนี้หรือไง ดูละครมากไปหรือเปล่าคะ" นิชากรอกตาใส่เขาอย่างไม่ปิดบัง"ก็ผู้หญิงทุกคนเป็นแบบนั้น" เขายักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้าน มีความมั่นอกมั่นใจในคำพูดซะจนน่าหมั่นไส้ ห้อยหลวงปู่มั่นหรือไงไม่ทราบ!"อย่าเอานิไปเหมารวมกับพวกผู้หญิงของคุณ..." ร่างบางพูดเสียงเรียบ ไม่พอใจที่ถูกเอาไปเหมารวมกับใคร แม้สถานะในตอนนี้แทบจะไม่ต่างจากพวกหล่อนเลยก็ตาม"ก็จริง...คุณดีกว่าเยอะ" อัคคีกดย
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 11หมับ "อะ...คุณอัค?" นิชาที่กำลังกระซิบกระซาบคุยกับเพื่อนชายเนื่องจากเสียงเพลงดัง ตัวลอยวืดออกมาด้วยแรงกระชากของใครบางคน เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบใบหน้านิ่งเรียบของเจ้านายหนุ่ม ที่ไม่รู้ว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง "ไปกับผม" น้ำเสียงดุดันเอ่ยสั่ง พร้อมกับกระชากข้อมือเล็กให้ลุกขึ้นยืน "ไปไหน นี่ไม่ใช่เวลางานนะคะ" นิชาที่เริ่มเมาได้ที่ขัดขืนไม่ยินยอม "แล้วยังไง ผมสั่งคุณได้ทุกเวลาคุณก็รู้" อัคคียื่นหน้าเข้าไปกระซิบขู่ใกล้ๆ เผื่อความเมาจะทำให้ร่างบางหลงลืมไปว่ายังมีสัญญาคู่นอนสองปีอยู่ "แต่นิมากับเพื่อน" เสียงหวานแย้งอย่างไม่ยินยอม ถ้าเป็นปกติเธอคงจะทำใจไปกับเขาง่ายๆ แต่ตอนนี้อารมณ์ของเธอไม่ปกติ มันแปรปรวนและคนที่ไม่อยากเจอหน้าที่สุดก็คือเขา! "จะไปดีๆ หรืออยากให้เพื่อนคุณเดือดร้อน?" อัคคีขบกรามขู่เสียงต่ำ และนิชาก็รู้ซึ้งถึงอำนาจที่เขามีมากกว่าใคร ดวงตาคู่สวยจ้องหน้าเขาด้วยความโกรธจัด แต่เธอก็ยังมีสติอยู่และไม่อยากให้เพื่อนต้องมาเดือดร้อนทั้งที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วย "...วี เดี๋ยวเราไปต่อกับเจ้านาย ฝากบอกเพียวด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวกลับเอง" นิชาข่มอา
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 12นิชาที่นอนหลับไปนาน ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ ภาพแรกที่เห็นคือใบหน้าหล่อเหลาของผู้เป็นเจ้านาย ดวงตาคู่สวยกะพริบปริบๆ ด้วยความมึนงงเพราะยังปะติดปะต่ออะไรไม่ได้ ได้แต่ตาจ้องตากับร่างสูงอยู่อย่างนั้น จนสติเริ่มมาเธอก็รีบเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง พบว่าตัวเองเผลอหลับและไปนอนบนหนุนตักเขาได้ยังไงไม่รู้ แถมเมื่อกี้ยังรู้สึกเหมือนโดนลูบหัวด้วย "นิ...กลับได้ยังคะ" นิชารีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดูนาฬิกาที่ล่วงเลยมาจนบ่ายสองแล้ว ก่อนจะหันไปถามเจ้าของห้องอย่างอายๆ ไม่รู้ตอนหลับเผลอละเมออะไรออกไปหรือเปล่า "อืม เดี๋ยวไปส่ง" อัคคีลุกขึ้นยืนเต็มความสูง "นิกลับเองดีกว่าค่ะ" เธอรีบปฏิเสธ เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายเสียเวลาขับรถไปมา "ผมจะไปส่ง" ตาคมจ้องหน้าเธอเขม็ง เป็นสัญญาณว่าห้ามปฏิเสธ "...ค่ะ" สุดท้ายนิชาก็ต้องยอมให้อัคคีไปส่ง เราทั้งคู่ไม่ได้คุยอะไรกันเลยสักคำ เขาไม่ถามซ้ำว่าเมื่อคืนเธออยู่กับใคร เหมือนพอโกรธและได้ระบายอารมณ์ด้วยเซ็กส์แล้วก็ปล่อยเรื่องทั้งหมดให้เงียบหายไป ไม่เคลียร์กันให้เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร หรือไม่ก็เชื่อแค่ความคิดของตัวเองเท่านั้น เพียวบอกว่า 'เขาห
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 13งานประมูลเครื่องเพชรการกุศลเริ่มต้นขึ้นและดำเนินไปเรื่อยๆ ท่ามกลางแสงสีของเพชรเม็ดงามที่สะท้อนแสงไฟวิบวับจนแสบตา นิชาเข้าไม่ถึงของแพงๆ พวกนี้จึงได้แต่นั่งเหม่อ ปล่อยใจล่องลอยไปไกลแสนไกล คนนอกมองมาคงจะเข้าใจว่าเธอนั่งมองผู้คนบนเวทีที่กำลังนำเสนอเครื่องเพชรอย่างตั้งใจ แต่เปล่าเลย เธอเหมือนคนหลับใน ตาดูแต่หูไม่ได้ฟัง ใจก็ไม่ได้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่มองเลยแม้แต่น้อย แต่ก็มีบ้างที่สติกกลับคืนมาตอนปฐพีชวนคุยเป็นครั้งคราว หลังจบบทสนทนาเธอจึงมีสติจ้องมองเครื่องเพชรเหล่านั้นอย่างสนใจจริงๆ เช่นเดียวกับตอนนี้ที่เห็นกำไลข้อมือวงหนึ่งที่นางแบบกำลังใส่อวดโฉมอยู่บนเวที ลายของมันค่อนข้างเรียบง่ายมีเพชรประดับเพียงไม่กี่เม็ดแต่เรียบหรูใส่ได้ทุกโอกาส "สวยมั้ย" อัคคีถามขึ้น หลังสังเกตเห็นว่านิชาดูจะสนใจกำไลวงนี้เป็นพิเศษ "ก็สวยดีค่ะ" เธอตอบอย่างไม่ใส่ใจ ทว่าเมื่อเริ่มเปิดประมูล อัคคีที่นั่งเงียบมาตั้งแต่งานเริ่ม กลับลงประมูลกำไลชิ้นนี้เป็นครั้งแรก "ห้าล้านครับ" เกิดเสียงฮือฮาดังขึ้นมาไม่น้อยหลังสิ้นเสียงเขา เพราะกำไลเล็กๆ วงนั้นเริ่มต้นที่หนึ่งล้านบาทและยังไม่มีใครล
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 14ผ่านไปหลายวันจากวันงานประมูล มีหลายสิ่งกำลังรบกวนจิตใจของนิชาอย่างหนัก ส่งผลให้กลางคืนนอนไม่หลับ กลางวันนั่งเหม่อ เธอรู้สึกสับสนและไม่เข้าใจกับสิ่งที่อัคคีทำ ทั้งประมูลกำไลให้ จูบนุ่มๆ ที่ไม่เกี่ยวกับเซ็กส์ ไหนจะท่าทางหงุดหงิดเวลาเห็นเธออยู่กับคนอื่นอีก ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ด้วย รักเหรอ? ...ไม่มีทาง! คนเดียวที่เขารักนอกจากครอบครัวก็คือตัวเขาเองต่างหาก "เที่ยงไม่ต้องสั่งอาหารนะ ไอริณจะซื้อเข้ามากินด้วย เดี๋ยวแวะเข้ามา" อัคคีบอกอย่างไม่คิดอะไร ในขณะที่นิชาคิดมากจนนอนไม่หลับ แล้วทำไมถึงเป็นเธอที่คิดมากอยู่ฝ่ายเดียว ใกล้เที่ยงไอริณก็มาจริงๆ หล่อนหอบข้าวของพะรุงพะรังเต็มสองมือ นิชาจึงต้องรีบเข้าไปช่วยถือและแยกส่วนที่เป็นอาหารเที่ยงไปจัดใส่จานยกเข้ามาเสิร์ฟให้ "แล้วของคุณล่ะ" ร่างสูงถามเมื่อมีข้าวเปล่าแค่สองจาน "นิมีนัดกับเพื่อนแล้วน่ะค่ะ ตามสบายนะคะ" เธอบอกเขาก่อนหันไปบอกไอริณ จากนั้นก็แยกตัวหยิบกระเป๋าสะพายเดินออกมา ความจริงแล้วไม่ได้มีนัดที่ไหนหรอก แค่ไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอใคร ข้าวก็ไม่หิว อยากนอนมากกว่าเลยตั้งใจว่าจะลงไปงีบที่รถ "ริณจำได้ว
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 15และแล้วสิ่งที่นิชาเป็นกังวลก็เกิดขึ้นจนได้ หลังจากที่ทะเลาะกับลูกชายไปวันนั้น วันต่อมาคุณหญิงดาริกาก็ต่อสายมาหาเธอ นัดออกไปคุยที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งหลังเลิกงาน "สวัสดีค่ะ คุณหญิง" "สวัสดีจ้ะ เชิญนั่ง" อีกฝ่ายผายมือให้เธอนั่งลงฝั่งตรงข้าม บนโต๊ะมีอาหารวางรออยู่ก่อนแล้ว แต่นิชาไม่คิดแตะต้อง "มีอะไรจะคุยกับนิเหรอคะ" เธอถามเข้าเรื่องทันที แม้จะเตรียมใจมาก่อนแล้วแต่ลึกๆ ก็ประหม่าอยู่ไม่น้อย "เธอน่าจะรู้ว่าเรื่องอะไร" คุณหญิงพูดเสียงเรียบและมองเธอนิ่งๆ ไม่เหมือนทุกครั้งที่เคยเจอ "ค่ะ แล้วคุณหญิงอยากให้นิทำยังไงเหรอคะ" นิชาถามด้วยความอยากรู้ ถ้อยคำของเธออาจจะฟังดูอวดดีไปบ้าง แต่มันก็คือความจริง "เธอกับตาไฟมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่" คุณหญิงดาริกาไม่ตอบ แต่ถามย้ำเอาคำตอบที่มาจากปากเธอตรงๆ "แค่เจ้านายกับลูกน้องค่ะ" นิชาตอบตามความจริง ก็เธอกับเขาเป็นแค่นี้จริงๆ นี่นา ขึ้นเตียงยามอยากก็ใช่ แต่ก็ยังไม่ใช่แฟนอยู่ดี จะให้ตอบว่าไงล่ะ "อย่าโกหก เจ้านายกับลูกน้องที่ไหนจะประมูลของให้กันเป็นล้าน!" คุณหญิงดาริกากดเสียงเข้ม ไม่เคยมีอคติกับเลขาของลูกชายมาก่อน ออกจ
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 16เดือนต่อมาก็ถึงวันเอาท์ติ้งบริษัท สถานที่คือรีสอร์ตแห่งหนึ่งในอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางไปกลับง่ายไม่ทรมานร่างกายจนเกินไป อัคคีเหมารีสอร์ตทั้งหมดเอาไว้เพื่อให้พนักงานพักและทำกิจกรรมโดยเฉพาะ เนื่องจากถ้ามีคนนอกอยู่กลัวกิจกรรมของพนักงานจะไปรบกวนเวลาพักผ่อนของพวกเขาการเดินทางก็เหมารถทัวร์รับส่ง แต่ถ้าใครจะไปรถส่วนตัวก็ทำได้ตามสะดวก นิชาไปรถอัคคี สถานการณ์ดูเหมือนจะราบรื่นไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งไปถึงรีสอร์ตที่พัก กลับเจอไอริณนั่งรออยู่แบบงงๆ "คุณแม่บอกว่าบริษัทพี่มีเอาท์ติ้งกัน ริณเบื่อๆ อยากเที่ยวพอดี ขอเที่ยวด้วยคนนะคะ" ทันทีที่เห็นทั้งคู่อีกฝ่ายก็เดินเข้ามาหาพร้อมบอกจุดประสงค์ที่ตามมาถึงที่นี่ "ตามสบายครับ" อัคคีตอบรับอย่างเสียไม่ได้ ก็ตามมาถึงนี่แล้วนี่นา "เดี๋ยวนิไปรับกุญแจห้องให้นะคะ" นิชาบอก ก่อนเดินไปที่เคาน์เตอร์ แจ้งพนักงานว่าขอโซนห้องพักที่เป็นส่วนตัวหน่อยเพราะเป็นห้องของประธานบริษัท จนได้คีย์การ์ดมาคนละห้อง ห้องของอัคคีและไอริณอยู่ติดกัน ส่วนห้องของเธอเว้นห่างมาอีกสามห้องเพื่อความเป็นส่วนต
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 17ตื๊ดดด Tonliew : พี่นิ หลับยัง มีเรื่องจะเล่า Nicha : ว่า? Tonliew : เมื่อกี้หนูว่าจะไปหาพี่ที่ห้องอะ แต่...เห็นท่านประธานกันคู่หมั้นมีปากเสียงกันนิดหน่อย เกี่ยวกับพี่อะ Nicha : เรื่องที่เขามาดูแลพี่อะเหรอ Tonliew : ก็ประมาณนั้นอะค่ะ คุณไอริณเธอบอกให้เรียกพนักงานไปดูแลพี่แทน แต่ท่านประธานไม่ทำ เขาจะดูแลพี่เอง คุณไอริณเลยโกรธว่าเขาดูเป็นห่วงพี่มากเกินไป แถมเธอยังไปได้ยินข่าวลือที่พนักงานลือๆ กันมาอีก น่าจะหึงอะ ไม่อยากให้ประธานทำตัวสนิทสนมกับพี่ แต่ประธานก็ไม่ฟังนะ ถ้ารับไม่ได้เขาท้าให้ถอนหมั้นด้วย! Nicha : ไม่มีใครบังคับคุณอัคคีได้หรอก แม้แต่พี่เอง พี่จะเรียกเรามาดูแลแล้ว แต่เขาบอกจะช่วยเอง คงอยากตอบแทนแหละ เพราะตอนที่เขาไม่สบาย พี่ก็คอยหาข้าวหาน้ำให้กิน Tonliew : หนูเข้าใจนะ พี่กับท่านประธานทำงานด้วยกันมานานอะ สนิทกันก็ไม่แปลก แต่คนอื่นนี่สิ มีปากก็พูดไป ไม่คิดเลยสักนิด Nicha : ช่างเถอะ ไม่ต้องคิดมากเรื่องพี่หรอก ใครจะพูดอะไรก็ให้พูดไป เราห้ามอะไรไม่ได้หรอก Tonliew : พี่ก็ชิลเกิ๊น แล้วนี่เป็นไงบ้างคะ เจ็บมากมั้ย Nicha : เย็บเจ็ดเข็มอะ ปว
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 27 (ตอนจบ)ผ่านไปหลายเดือนอะไรหลายๆ อย่างก็เริ่มลงตัวมากขึ้น น้องปุณณ์กับน้องปัญญ์ได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนนานาชาติที่มีราคาค่าเทอมพอๆ กับราคาบ้านหลังใหญ่หนึ่งหลัง มีคนขับรถรับส่งอย่างดี ทั้งหมดทั้งมวลล้วนมีอัคคีเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ไม่เพียงเท่านี้แต่เขายังคิดเผื่อไปถึงชีวิตในรั้วโรงเรียนที่ถึงแม้จะมีแต่ลูกหลานคนรวยก็ใช่ว่าจะมีแต่คนดีๆ ด้วยกลัวว่าหลานๆ จะถูกรังแกหรือดูถูกว่ามาจากครอบครัวธรรมดา อัคคีถึงกับลงทุนรับเด็กทั้งสองมาเป็นลูกบุญธรรม โดยให้ใช้นามสกุล 'ศิระพักตร์พิมล' ของเขาเป็นเกราะคุ้มกัน เพราะถ้าลูกหลานตระกูลไหนกล้ารังแกเด็กๆ ทั้งสองก็เท่ากับตั้งตนเป็นศัตรูกับเขาด้วยเช่นกัน ส่วนแม่ของนิชา อัคคีได้จ้างแม่บ้านมาคอยดูแลและอยู่เป็นเพื่อนเพราะอยากให้เธอย้ายไปอยู่ด้วยกัน ตอนแรกนิชาไม่ยอมเพราะเป็นห่วงแม่ กลัวแม่ไม่มีเพื่อนแล้วจะเหงา เขาก็เลยจ้างแม่บ้านที่ไว้ใจได้สองคนมาคอยดูแล อายุเท่ากันกับแม่เธอหนึ่งคน ไว้คอยอยู่เป็นเพื่อนและหญิงวัยกลางคนอีกหนึ่งคนไว้คอยดูแลบ้านและเรื่องอาหารการกิน มีรถและคนขับรถให้เวลาอยากออกไปข้างนอก คนเจ้าเล่ห์จัดแจง
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 26"ครับแม่" บ่ายวันหนึ่งขณะที่กำลังนั่งทำงานตามปกติ ร่างสูงที่มีสายเรียกเข้าก็กดรับสาย แต่พอรู้ว่าปลายสายเป็นใครนิชาก็หูผึ่ง เพราะไม่รู้ว่าแม่ของเขาโทรมาทำไม ที่รู้คือคุณหญิงดาริกาไม่ค่อยชอบเธอตั้งแต่ที่เรียกไปคุยส่วนตัวในวันนั้น พอเกิดเรื่องถอนหมั้นและมีเธอเป็นต้นเหตุ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายจะยิ่งไม่ชอบเธอแค่ไหน หลายครั้งที่ได้ยินเขาคุยโทรศัพท์กับแม่และจบลงที่การทะเลาะ นิชาก็ยิ่งคิดหนัก แม่ไม่ชอบแต่ลูกชายกำลังจีบเธอ ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ที่หลายคนมองว่าเบสิก แต่ก็ทำคนเลิกกันมาตั้งเท่าไร "นิ..." "..." "นิ!" "อะ คะ?" "เหม่ออะไร พี่เรียกตั้งนาน" สรรพนามที่เปลี่ยนไปของอัคคี นิชาไม่เคยชินเลยสักที ไม่พอเขายังบังคับให้เธอเรียกเขาว่าพี่ด้วย "อ้อ เปล่าค่ะ แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ว่าแต่มีอะไรเหรอคะ" เธอแสร้งถามเผื่อเขาจะตอบความจริง เพราะความสัมพันธ์ของเราในตอนนี้มันก้าวข้ามคำว่า 'แฟน' มาไกลมากแล้ว "เย็นนี้ไปทานข้าวบ้านพี่นะ แม่โทรมาชวน" "คะ?" นิชาได้ฟังก็ยิ่งงง เขากับแม่ดีกันตั้งแต่เมื่อไร ถึงขั้นชวนเธอไปทานข้าวที่บ้านด้วย ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกหวาดร
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 25หลังเดินตลาดจนเหนื่อยทุกคนก็เดินกลับโรงแรมและแยกย้ายกันเข้าห้อง อัคคีทำทีเป็นกลับห้องตัวเอง แต่จริงๆ แค่มาอาบน้ำแล้วค่อยแอบออกไปเคาะห้องลูกสาวคนอื่นตอนดึก นิชาที่เห็นเขาไม่ตามมาที่ห้องก็พลันรู้สึกห่อเหี่ยวใจแปลกๆ เพราะคิดว่าเขาจะมานอนด้วยกันอีก พอเขาไม่มาเลยแอบผิดหวัง แต่ก็พยายามสลัดความคิดทิ้งไป หยิบข้าวของเข้าไปอาบน้ำและสวมแค่ชุดคลุมออกมา ขณะที่กำลังจะแต่งตัวก็ได้ยินเสียงเคาะประตู คิดว่าแม่อาจจะมาเลยเดินไปเปิดอย่างไม่คิดอะไร แต่กลับเจออัคคียืนอยู่หน้าห้องและแทรกตัวเข้ามาอย่างถือวิสาสะ "มาทำไมคะ" แม้จะแอบดีใจจนเนื้อเต้น แต่นิชาก็ยังแสดงออกนิ่งๆ เหมือนเดิม "อยากดื่ม มาดื่มกันเถอะ" ร่างสูงชูเครื่องดื่มที่สั่งมาจากบาร์ของโรงแรมให้ดู ก่อนเดินไปนั่งที่เตียง เทเครื่องดื่ม เปิดทีวีดูอย่างสบายใจ นิชาปล่อยเขาดื่มไปก่อน เพราะเธอยังต้องแต่งตัวและเป่าผมให้แห้ง ใช้เวลาสักพักก็เสร็จ เธอจึงปิดไฟสร้างบรรยากาศ เปิดไว้แค่แสงสีส้มจากโคมไฟหัวเตียง เธอขึ้นเตียงไปนั่งข้างเขาแต่ถูกดึงไปนั่งตรงหว่างขา รั้งตัวเอนพิงอกและกอดไว้หลวมๆ ก่อนจะเทเครื่องดื่มให้ พวกเรานั่ง
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 24"ปะ ปล่อยได้แล้วค่ะ ไม่ทำนะคะ เดี๋ยวแม่มาเจอ" นิชาพยายามดันร่างสูงออกห่าง ใบหน้าสวยแดงระเรื่อ เขินทั้งจูบหวานๆ และสายตาที่เขาเอาแต่มองมาไม่หยุด "คุณน้าอนุญาตให้ผมจีบคุณแล้ว...แล้วคุณล่ะ" อัคคีไม่ได้ปล่อยมือจากเอวบาง ยังคงกอดไว้อย่างแนบชิด ก่อนจะก้มลงถามความรู้สึกของเธอบ้าง "...คุณแน่ใจแล้วเหรอคะ" นิชาเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะย้อนถามเขา "ผมพูดกับแม่คุณขนาดนั้น คุณยังคิดว่าผมเล่นๆ อีกเหรอ" คิ้วเข้มขมวดชนกันคล้ายว่าจะไม่พอใจที่เห็นเธอยังไม่เชื่อใจเขา "ก็...เปล่าค่ะ แต่บอกตรงๆ ว่านิไม่คู่ควรกับคุณหรอกค่ะ ความรักมันไม่ใช่แค่คนสองคนรักกันแล้วทุกอย่างจะราบรื่น คุณมีครอบครัว มีสังคมสูงๆ ที่ไม่มีทางยอมรับคนธรรมดาอย่างนิ...นิเหนื่อยมามากพอแล้วค่ะ ไม่อยากเจอเรื่องยุ่งยากอะไรอีก..." ร่างบางเปิดเผยสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในใจให้เขาได้รับรู้จนหมด แววตาคู่สวยเศร้าลงเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเรื่องราวมากมายในชีวิตที่ผ่านมา "ผมขอโทษ...ที่เริ่มต้นกับคุณได้ไม่ดี ขอโทษที่เป็นหนึ่งในเรื่องร้ายๆ ในชีวิตของคุณ แต่ไม่ว่ายังไงผมก็จะไม่ยอมปล่อยมือคุณเด็ดขาด ให้โอกาสผมสักครั้ง ผมจะทำให้ค
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 23"เย่ๆ ทาเล๊~~" หลังจากที่คุณอาไฟบอกว่าจะพาไปเที่ยวทะเลในวันนั้น สองพี่น้องก็เก็บกระเป๋านั่งนับวันนับคืนรออย่างใจจดจ่อ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง อัคคีมารับแต่เช้าด้วยรถตู้คันใหญ่พร้อมคนขับส่วนตัวที่นิชาคุ้นหน้าคุ้นตาดีคือ 'พี่ชิด' คนขับรถที่เขามักเรียกใช้เวลาเดินทางออกต่างจังหวัดไกลๆ หรือเวลาขี้เกียจขับรถเอง ส่วนเจ้าลัคกี้เอาไปฝากไว้ที่โรงแรมแมวแล้ว หายห่วง เมื่อมาถึงโรงแรมก็เช็กอินแบ่งห้องกันตามที่อัคคีจองไว้ให้คือเธอกับเขาและพี่ชิดคนละห้อง ส่วนแม่และหลานๆ ห้องเดียวกัน เมื่อเก็บกระเป๋าเสร็จ เด็กๆ ก็อ้อนขอออกไปเล่นน้ำอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้งนิชา แม่และอัคคีต่างถูกหลานๆ ดึงให้ลงไปเล่นด้วยกัน แต่ด้วยความที่อายุเยอะแล้วนางพิมพาเล่นด้วยได้ไม่นานก็ขอไปนั่งดูดีกว่า สุดท้ายเลยเหลือแค่นิชากับอัคคีที่อยู่เล่นกับเด็กๆ ร่างสูงเล่นน้ำไปพลางแอบมองเลขาคนสวยไปด้วย เพราะเธอหัวเราะและยิ้มกว้างมาก เหมือนได้ปลดปล่อยตัวเองจากเรื่องเครียดๆ มากมายเพื่อเล่นสนุกกับสองพี่น้อง ทั้งที่สภาพเปียกปอนไปทั้งตัว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสวยของเธอลดน้อยลงเลยแม้แต่น้อย นิชาเงยหน้า
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 22"อะไรนะคะ? ได้ค่ะ จะรีบไป!" ร่างบางวางสายโทรศัพท์ด้วยความเคร่งเครียด เนื่องจากคุณครูประจำชั้นโทรมาเรียกให้ไปที่โรงเรียนด่วน เพราะหลานชายมีเหตุทะเลาะวิวาทกับเพื่อนที่โรงเรียน ตอนนี้รออยู่ในห้องปกครอง "มีอะไรหรือเปล่า" อัคคีถามด้วยความห่วงใย มีไม่กี่เรื่องในชีวิตที่ทำให้เลขาคนสวยเป็นเดือดเป็นร้อนได้ขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่แม่ก็ต้องเป็นหลานๆ "นิขอลาช่วงบ่ายนะคะ คุณครูแจ้งมาว่าน้องปุณณ์มีเรื่องชกต่อยที่โรงเรียน" ร่างบางพูดไปเก็บของไปด้วยความรีบเร่ง หลักๆ เลยคือเป็นห่วงเพราะเชื่อว่าหลานเธอไม่ได้เริ่มก่อนแน่นอน "ผมไปด้วย" ร่างสูงทิ้งงานลุกขึ้นทันที จะปฏิเสธก็ไม่ทัน เพราะเขาเดินนำไปก่อนแล้ว เมื่อมาถึงโรงเรียนนิชาก็ตรงไปที่ห้องปกครองทันที ก่อนจะได้รู้จากครูที่ประจำการอยู่ว่าผู้ปกครองของคู่กรณีต้องการให้เรื่องถึงผู้อำนวยการ เด็กๆ จึงถูกพาไปตัดสินที่ห้องของผู้อำนวยการ ทั้งคู่มองหน้ากันด้วยความสงสัย แค่เด็กทะเลาะกันทำไมถึงต้องไปที่ห้องผู้อำนวยการ มันเรื่องใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมครูปกครองถึงตัดสินกันเองไม่ได้ในเมื่อมันเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครอง หรือไม่คงมี 'บาง
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 21"เฮ้อออ..." นิชาถอนหายใจอย่างหัวเสีย เหตุมาจากกำลังขับรถไปทำงานอยู่ดีๆ เครื่องก็ดับ สตาร์ทไม่ติด ดีว่าค่อยๆ ประคองรถเข้าข้างทางจนปลอดภัยได้ และตอนนี้ก็กำลังยืนรอช่างอยู่บนทางด่วนท่ามกลางแสงแดดยามสายที่ไม่ได้มีแค่วิตามินดีอย่างแน่นอน ขณะที่กำลังรออยู่นั้นอัคคีก็โทรเข้ามา คาดว่าเขาน่าจะไปถึงบริษัทแล้วแต่ไม่เจอเธอเหมือนทุกวันเลยโทรถามเพราะเธอไม่ได้แจ้งลางานเอาไว้ ("คุณอยู่ไหน") "รถเสียอยู่บนทางด่วนค่ะ กำลังรอช่าง" ("ทำไมไม่รีบบอกผม! รออยู่ตรงนั้น เดี๋ยวไปรับ") "เอ่อ..." นิชาไม่ทันได้ปฏิเสธอัคคีก็วางสายไปแล้ว แถมน้ำเสียงก็ดูโกรธมากด้วย เธอก็ได้แต่งงๆ ว่าการที่เธอไม่ได้บอกเขานี่มันผิดมากขนาดนั้นเลยเหรอ หรือกลัวเธอไปทำงานสายแล้วจะทำงานไม่คุ้มค่าแรง ถ้าเป็นแบบนั้นเมื่อก่อนเขาจะรบกวนเวลาทำงานของเธอบ่อยๆ ทำไม เมื่อไม่รู้นิชาก็ไม่คิดหาคำตอบ ยังคงยืนรอช่างต่อไป อากาศแม้จะเป็นตอนเช้าแต่แดดประเทศนี้โดนนิดเดียวก็เหงื่อเริ่มซึม และมันก็เป็นคราวซวยของเธอนี่แหละที่หยิบร่มออกจากรถวันก่อนแล้วลืมเอากลับมาคืน รอสักพักในที่สุดช่างก็มา เธอแจ้งอาการรถให้เขารู้ ซึ
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 20"ทำไมคุณพ่อไม่จัดการให้ริณคะ! ปล่อยให้พวกมันเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของพวกเราได้ยังไง!?" ไอริณเดินเข้าบ้านมาอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อเห็นผู้เป็นพ่อนั่งหน้าเครียดอยู่ที่โซฟาก็ตรงเข้าไปโวยวายใส่เสียงดัง เธอคิดว่าพ่อแม่จะออกโรงปกป้องและเอาเรื่องอัคคีให้ถึงที่สุด แต่นี่กลับเงียบและยอมรับการถอนหมั้นง่ายๆ ทั้งที่เธอถูกเหยียดหยามจนไฟแค้นมันสุมอกแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว "ถ้าแกไม่รู้อะไรก็อย่าพูด!"เจ้าสัวเจนภพที่กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็เหมือนถูกสุมไฟเพิ่ม สองพ่อลูกเลยไม่มีใครยอมใคร "แล้วมันอะไรล่ะคะ พ่อก็บอกริณมาสิ!" ไอริณทั้งโกรธทั้งไม่เข้าใจ ทั้งๆ ที่ครอบครัวเราก็มีทั้งอำนาจและเงินไม่ต่างอัคคีเลยสักนิด ทำไมพ่อยังต้องไว้หน้าเขาด้วย "แกมันก็ไม่เคยรู้อะไรทั้งนั้นแหละ แทนที่จะจับอัคคีให้อยู่หมัด เลี้ยงเสียข้าวสุก!" "ทำไมพ่อจะต้องให้ความสำคัญเขาถึงขนาดนั้นด้วย เขานอกใจริณนะ!" "ศักดิ์ศรีของแกมันกินได้มั้ยล่ะ! ครอบครัวเราจะล้มละลายกันอยู่แล้วยังไม่รู้ตัวอีก บริษัทไม่ถูกมันเทคโอเวอร์ก็บุญหัวเท่าไรแล้ว!" "หมายความว่าไงคะ เราจะล้มละลายได้ยังไง!?" เมื่อถู
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 19"นิ...เจ็บมั้ย" หลังจากไอริณออกไป อัคคีก็เข้าไปถามไถ่นิชาด้วยน้ำเสียงอ่อนลง ทว่ามือที่กำลังจะยื่นไปหากลับถูกเธอปัดออกอย่างไม่ไยดี "นิอยากอยู่คนเดียวค่ะ...เชิญ" เธอชี้นิ้วไปที่ประตู ไล่เขาเสียงห้วน ไม่แม้แต่จะมองสบตา "แต่..." "นิขอร้องล่ะค่ะ! นิยังไม่พร้อมจะคุยอะไรทั้งนั้น" เมื่อพูดดีๆ ไม่ฟังร่างบางก็ตะคอกเสียงดังลั่น ไหล่บางสั่นเทิ้ม จิกมือเข้าหากันแน่นด้วยความอดทน "...." "นิขออยู่คนเดียว..." เห็นท่าทางต่อต้านไม่อยากรับฟังอะไรของนิชาแล้วอัคคีก็จนคำพูด เมื่อทำอะไรไม่ได้เขาก็ยอมออกไปจากห้อง รอให้อารมณ์เย็นก่อนค่อยมาคุยกัน ทันทีที่ประตูปิดลงร่างบางก็ทรุดนั่งบนพื้นเพราะฝืนความเจ็บที่ขาต่อไปไม่ไหว แขนด้านขวารู้สึกระบมและมีรอยถลอกจากตอนล้ม แก้มก็เจ็บและชาแถมมีเลือดออกในปาก คาดว่าคนตบคงจะใส่แรงทั้งหมดที่มี เธอสมควรที่จะโดนแบบนี้แล้วใช่ไหม?คนผิดที่แท้จริงแล้วมันคือเธอจริงๆ เหรอ?ทั้งๆ ที่คิดว่าคงด้านชาจนไม่รู้สึกอะไรแล้วน้ำตาไม่รู้มากมายมาจากไหนกลับไหลพรากไม่หยุด พอห้ามไม่ได้ก็เลยนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นจนกว่าจะระบายมันออกไปจนหมด "อึ่ก..มึง..มารับ