รักต้องแลก
Writer : Aile'N
ตอนที่ 14
ผ่านไปหลายวันจากวันงานประมูล มีหลายสิ่งกำลังรบกวนจิตใจของนิชาอย่างหนัก ส่งผลให้กลางคืนนอนไม่หลับ กลางวันนั่งเหม่อ เธอรู้สึกสับสนและไม่เข้าใจกับสิ่งที่อัคคีทำ ทั้งประมูลกำไลให้ จูบนุ่มๆ ที่ไม่เกี่ยวกับเซ็กส์ ไหนจะท่าทางหงุดหงิดเวลาเห็นเธออยู่กับคนอื่นอีก ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ด้วย
รักเหรอ?
...ไม่มีทาง!
คนเดียวที่เขารักนอกจากครอบครัวก็คือตัวเขาเองต่างหาก
"เที่ยงไม่ต้องสั่งอาหารนะ ไอริณจะซื้อเข้ามากินด้วย เดี๋ยวแวะเข้ามา" อัคคีบอกอย่างไม่คิดอะไร ในขณะที่นิชาคิดมากจนนอนไม่หลับ แล้วทำไมถึงเป็นเธอที่คิดมากอยู่ฝ่ายเดียว
ใกล้เที่ยงไอริณก็มาจริงๆ หล่อนหอบข้าวของพะรุงพะรังเต็มสองมือ นิชาจึงต้องรีบเข้าไปช่วยถือและแยกส่วนที่เป็นอาหารเที่ยงไปจัดใส่จานยกเข้ามาเสิร์ฟให้
"แล้วของคุณล่ะ" ร่างสูงถามเมื่อมีข้าวเปล่าแค่สองจาน
"นิมีนัดกับเพื่อนแล้วน่ะค่ะ ตามสบายนะคะ" เธอบอกเขาก่อนหันไปบอกไอริณ จากนั้นก็แยกตัวหยิบกระเป๋าสะพายเดินออกมา
ความจริงแล้วไม่ได้มีนัดที่ไหนหรอก แค่ไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอใคร ข้าวก็ไม่หิว อยากนอนมากกว่าเลยตั้งใจว่าจะลงไปงีบที่รถ
"ริณจำได้ว่าเมื่อก่อนโต๊ะคุณนิชาอยู่ด้านนอกไม่ใช่เหรอคะ ทำไมตอนนี้ถึงมาอยู่ข้างในได้" ไล่หลังร่างบางจากไป ไอริณก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัยทันที
เธอเห็นตั้งแต่มาครั้งก่อนแล้วว่าโต๊ะของนิชาถูกย้ายเข้ามาอยู่ข้างใน ตอนนั้นยังไม่เอะใจเท่าไร แต่เมื่อกี้ตอนที่นิชาเข้ามาช่วยถือของเธอเห็นว่าบนข้อมือของอีกฝ่ายมีกำไลข้อมือฝังเพชรวงที่อัคคีประมูลไปวันก่อน
ไอริณคิดว่าเขาจะประมูลมาให้เธอเสียอีก แต่กลับเอาไปให้เลขา มันไม่แปลกไปหน่อยหรือไง ไหนจะท่าทางของเขาในวันนั้นอีก ไม่แน่ว่าทั้งคู่อาจจะมีความสัมพันธ์ที่มันมากกว่าเจ้านายกับลูกน้องก็เป็นได้
"จะได้ทำงานสะดวกขึ้น" อัคคีตอบกลับเสียงเรียบ ไม่ได้มีท่าทีอะไร
"มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอคะ เจ้านายกับลูกจ้างนั่งร่วมห้องกัน ไม่เป็นส่วนตัวเอาซะเลย"
"พี่ไม่มีปัญหานะ..." ตาคมจ้องหน้าคนฟังนิ่ง ราวกับกำลังจะบอกทางสายตาว่าขนาดเขายังไม่มีปัญหา แล้วทำไมเธอถึงมี ทั้งที่ไม่ได้ทำงานอยู่ที่นี่
"ริณก็แค่เป็นห่วงน่ะค่ะ กลัวลูกค้ามาเห็นแล้วจะมองไม่ดี" ไอริณหน้าเสียไปเล็กน้อย แต่ก็พยายามแก้ตัวกลับมาได้
"กินเถอะ พี่มีงานต่อ" อัคคีไม่สนใจฟังต่อ เขาตัดบทและนั่งทานข้าวไปอย่างเงียบๆ
ไอริณเริ่มรู้สึกไม่พอใจ เธอคิดว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ๆ เธอพอรู้มาบ้างว่าอัคคีเป็นผู้ชายเจ้าชู้ และนิชาก็สวยมากขนาดนั้น เขาจะไม่หวั่นไหวเชียวหรือ ความใกล้ชิดสนิทสนม ได้เจอได้ทำงานด้วยกันทุกวัน กำไลวงนั้นราคาตั้งห้าล้าน เจ้านายลูกน้องที่ไหนจะซื้อของให้กันราคาแพงขนาดนั้น เป็นไปได้แน่นอนว่าจะต้องมีอะไรเกินเลยกันแน่ๆ!
ตอนบ่ายนิชากลับมาทำงานก็ไม่เจอไอริณแล้ว เดิมทีเธอก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่แล้ว ยิ่งเจอไอริณเธอก็ยิ่งหนักใจยังไงไม่รู้ สายตาของอีกฝ่ายที่มองมามันเหมือนมีอะไรบางอย่างในใจ หรือไม่ก็เพราะเธอมีชนักติดหลังเลยคิดไปเอง กลัวหล่อนจะรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับอัคคี
"แค่กๆๆ"
เสียงไอของอัคคีดึงสติร่างบางกลับมาจากห้วงความคิด เธอมองเขาเล็กน้อยก่อนลุกเดินไปหาเมื่อเห็นว่าเขาไอไม่หยุด
"ไม่สบายเหรอคะ" เสียงหวานเอ่ยถามด้วยความห่วงใย ตากลมมองสำรวจเขาอย่างตั้งใจก็พบว่าใบหน้าเขาอิดโรยและซีดเล็กน้อยเหมือนคนจะป่วย
"อืม เจ็บคอนิดหน่อย"
"ขออนุญาตนะคะ" นิชาขออนุญาตก่อนยื่นมือไปแตะหน้าผากและแก้มเขาเบาๆ เพื่อวัดอุณหภูมิ ซึ่งก็พบว่าอัคคีตัวร้อนจริงๆ ด้วย แต่ในจังหวะที่จะชักมือกลับ มือหนากลับจับมือเธอกุมไว้ที่เดิม
"เย็น..." ใบหน้าคมเอียงแก้มซบฝ่ามือเล็กที่มีอุณหภูมิเย็นสบายอย่างออดอ้อน
"ปล่อยก่อนค่ะ นิจะไปเอายามาให้" เธอบอกเขาและพยายามดึงมือกลับ ซึ่งเขาก็ยอมปล่อยแต่โดยดี
นิชาเดินออกไปเอายาลดไข้ในกล่องพยาบาลที่ห้องกาแฟมาให้พร้อมน้ำเปล่า ซึ่งอัคคีก็ยอมกินอย่างว่าง่าย จากนั้นทั้งคู่ก็แยกย้ายกันทำงานต่อ
ร่างบางลอบสังเกตเขาอยู่ตลอด แม้ตอนนี้อาการจะยังไม่น่าเป็นห่วงเท่าไรแต่ก็ไม่เบาใจเพราะนานๆ อัคคีจะป่วยสักครั้ง ป่วยทีก็เป็นหนัก ขืนปล่อยให้ดูแลตัวเองคงไม่ได้เรื่อง เก่งแต่ทำงาน เรื่องงานเต็มสิบเรื่องตัวเองเป็นศูนย์ก็เขานี่แหละ
"ขับรถไหวมั้ยคะ คุณตัวร้อนมากเลย" นิชาถามเขาในตอนเลิกงาน ซึ่งดูจากสภาพแล้วไม่น่าไหว
"ไหว..."
"แต่นิว่าไม่ไหว เดี๋ยวนิไปส่งดีกว่าค่ะ" เธอดุพลางจ้องมองเขาด้วยสายตาบีบบังคับ จนสุดท้ายเขาก็เป็นฝ่ายยอม
นิชาพาอัคคีกลับรถของเธอ ทันทีที่ขึ้นมากลิ่นหอมอ่อนประจำตัวของร่างบางก็ปะทะเข้าใบหน้า ร่างสูงสูดหายใจลึกด้วยความผ่อนคลาย เธอโน้มตัวไปดึงเข็มขัดนิรภัยคาดให้เขา ก่อนเอื้อมไปหยิบผ้าห่มผืนน้อยมาห่มให้ ดูแลดีทุกอย่าง อัคคีที่รู้สึกผ่อนคลายจึงหลับไปอย่างรวดเร็ว
ร่างบางแวะซื้อข้าวต้มและยาที่ร้านขายยาก่อนถึงคอนโด เมื่อไปถึงก็ปลุกเขาและพยุงกันขึ้นห้องไปอย่างทุลักทุเลเพราะอีกฝ่ายตัวใหญ่กว่าเธอมาก อาการของอัคคีหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว ตัวเขาร้อนจัดและทำท่าจะหลับอยู่ตลอดเวลา นิชาพาร่างสูงไปนั่งที่โซฟาก่อน เพื่อหาข้าวหายาให้กิน
"กินข้าวสักหน่อยนะคะ จะได้กินยา ค่อยนอนพัก" นิชาตักข้าวต้มป้อนคนป่วย เขาทำท่าจะไม่กิน แต่เธอจ้องตาเขม็งจนเขายอมกินไปหลายคำ ก่อนกินยาและพาไปนอนพักในห้องนอน
"เช็ดตัวเองไหวมั้ยคะ" ร่างบางเอากะละมังใส่น้ำกับผ้าสะอาดมาวางให้อัคคีที่กำลังนั่งพิงหัวเตียงอยู่
"...เช็ดให้หน่อย" เสียงแหบทุ้มเอ่ยพลางกดยิ้มลึก...จิ้มตาบอดซะดีไหม ป่วยอยู่ยังจะทำสายตาเจ้าเล่ห์อีก!
นิชารู้ว่าโดนแกล้ง แต่เขาก็ป่วยอยู่จริงๆ เลยไม่ได้พูดอะไร ค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าออกให้เขาจากข้างบนลงล่างจนเหลือแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว เธอพยายามไม่คิดอะไรกับภาพกึ่งสิบแปดบวกที่เห็น ค่อยๆ เช็ดตัวให้เขาอย่างตั้งใจ
เพราะเคยดูแลหลานๆ มาก่อน ร่างบางเลยรู้ว่าต้องเช็ดยังไงไข้ถึงจะลดไว อัคคีที่ปวดหัวจนไม่มีอารมณ์จะแกล้งแล้วได้แต่นั่งนิ่งมองเธอเช็ดตัวให้ด้วยความรู้สึกดีอยู่ลึกๆ นี่เป็นครั้งแรกที่นิชาเช็ดตัวให้เขาตอนป่วย เมื่อก่อนสถานะของเรายังเป็นแค่ลูกจ้าง ต่อให้สนิทแค่ไหน แค่หาข้าวหายาให้กินก็มากพอแล้ว
เมื่อเช็ดตัวเสร็จนิชาก็ไปหาชุดนอนสบายๆ มาให้เขาใส่ จากนั้นก็แปะแผ่นเจลลดไข้ให้ที่หน้าผาก ปล่อยให้เขานอนพัก ส่วนเธอเองก็นั่งพักเหนื่อยเช่นเดียวกัน รอจนเขาหลับก็เกิดความลังเลว่าจะกลับดีไหม เพราะถ้าทิ้งเขาไว้แบบนี้เกิดตกดึกไข้ขึ้นสูง ไม่มีคนดูจะเป็นยังไง สุดท้ายนิชาก็ทิ้งคนป่วยไม่ได้ เธอโทรบอกแม่ว่าอยู่ทำโอทีและจะค้างห้องเพื่อน เป็นอีกครั้งที่โกหก ตกนรกแน่นอนไม่ต้องสงสัย
นิชาลุกไปอาบน้ำและลงไปหาข้าวกินเพราะไม่ได้ซื้อเผื่อตัวเองในตอนแรก พอกลับขึ้นมาก็เข้าไปส่องดูอัคคีอีกครั้ง เห็นเขายังหลับอยู่ จึงออกมาดูทีวีและนั่งเคลียร์งาน
ทำงานจนดึกร่างบางก็เข้าไปวัดไข้และเช็ดตัวให้เขาอีกครั้ง ก่อนจะมองหาที่นอน ครั้นจะนอนบนเตียงด้วยกันก็กลัวติดไข้ จะออกไปนอนอีกห้องก็ต้องคอยดูแลเขาตอนดึกๆ อีก เลยล้มตัวลงนอนที่โซฟาแทน ไม่ลืมตั้งนาฬิกาปลุกไว้เพื่อตื่นมาเช็ดตัวให้เขาทุกๆ สามชั่วโมง ใกล้เช้าอาการคนป่วยก็ดีขึ้น ไข้ลดลงเป็นที่น่าพอใจ เธอจึงนอนหลับได้อย่างสบายใจจนถึงเช้า
เพราะเพิ่งได้นอนตอนเช้านิชาจึงยังคงหลับลึก คนที่ตื่นก่อนคืออัคคี เขาลืมตาขึ้นมา ประมวลผลว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ก่อนมองไปเห็นนิชานอนอยู่ที่โซฟา ไข้เขาลดลงมากแล้วแต่ตัวยังอุ่นๆ อยู่ จำได้ลางๆ ว่าถูกปลุกขึ้นมากินยากลางดึกและถูกเช็ดตัวหลายครั้ง
ร่างสูงลุกขึ้นเดินไปนั่งยองๆ ลงข้างโซฟาที่เลขานอนอยู่ ใต้ตาของเธอคล้ำเล็กน้อยเนื่องจากอดหลับอดนอน ครั้นจะอุ้มไปที่เตียงก็กลัวจะตื่นแล้วไม่ยอมนอนอีก เขาเลยปล่อยให้นอนที่เดิมโดยกลับไปเอาผ้าห่มมาห่มให้ มือหนาลูบศีรษะเล็กเบาๆ รู้สึกขอบคุณเธอลึกๆ กับทุกสิ่งที่ทำให้
อัคคีนั่งอยู่ตรงนั้นสักพักก่อนลุกไปอาบน้ำแต่งตัวแม้จะยังไม่สบายอยู่ก็ตาม เมื่อเรียบร้อยก็ออกไปข้างนอก โทรสั่งอาหารเข้ามานั่งกินก่อนเพราะต้องกินยา ถ้าอยากหายไวๆ ถึงไม่ชอบก็จำต้องกิน ทันทีที่กินเสร็จเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาพอดี
"ครับ"
("ทำไมลูกไม่เข้าบริษัท แม่มาหา")
"แล้วทำไมแม่ไม่นัดก่อนล่ะครับ"
("แม่เป็นแม่ ไม่นัดก็เจอลูกไม่ได้งั้นเหรอ")
"ไม่ใช่อย่างนั้น เผื่อผมไม่อยู่แม่จะได้ไม่เสียเที่ยวแบบวันนี้ไงครับ"
("แล้วลูกอยู่ไหน")
"คอนโดครับ"
("นิชาล่ะ ลูกไม่เข้า เธอก็ไม่เข้าหรือไง")
"ผมให้เธอไปทำงานแทนข้างนอก แล้วแม่มีอะไรครับ"
("แม่ก็แค่มาดูความเป็นอยู่ของลูก จนมาเห็นว่าลูกเอาโต๊ะเลขาเข้ามานั่งทำงานในห้องเดียวกัน")
"แม่อยากมาเองหรือมีคนไปฟ้องล่ะครับ"
("ก็มันจริงมั้ยล่ะ แขกไปใครมาเขาจะคิดยังไง")
"ผมมีห้องรับรองแขก ไม่มีใครมายุ่งวุ่นวายหรอกครับ มีแต่แม่กับคนของแม่นั่นแหละ"
("ตาไฟ! ตอบแม่มาตามตรงว่าลูกกับนิชามีความสัมพันธ์กันยังไง กำไลที่ลูกประมูลมาก็เอาไปให้นิชาใช่มั้ย อย่าโกหกแม่นะ")
"ใช่ครับ แล้วมันยังไง เงินผม ผมจะซื้ออะไรให้ใครก็ได้หรือเปล่า ห่วงคนของแม่เถอะครับ นิสัยขี้ฟ้อง ยุแยงคนอื่นเก่งแบบนี้เหรอครับที่แม่อยากได้มาเป็นสะใภ้นักหนา บอกตรงๆ ว่าผมใกล้จะหมดความอดทนเต็มที อย่ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมให้มาก แม่ก็รู้ว่าถ้าผมหมดความอดทนเมื่อไร ผมจะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น!"
อัคคีตัดสายทิ้งทันทีที่พูดจบ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเรื่องถึงหูแม่เพราะใคร เรื่องกำไลก็มีอยู่คนเดียวที่เห็นและรู้ว่าเขาประมูลมาวันนั้น คงหวังจะให้แม่เขาจัดการให้ล่ะสิ แต่โทษทีนะ ถ้าเขาไม่ยอมก็ไม่มีใครบังคับอะไรเขาได้ทั้งนั้น
"ทะเลาะกับคุณหญิงเรื่องนิเหรอคะ" อัคคีหันมาเจอนิชาที่ยืนอยู่ด้านหลังมาตั้งแต่ต้น
"นิว่าคุณเอาคืนไปดีมั้ยคะ เอาไปให้คนที่ควรให้ โต๊ะทำงานก็ย้ายกลับที่เดิมเถอะค่ะ ใครเห็นก็ต้องคิดเหมือนกันทั้งนั้น" เธอเสนอทางออกเรื่องวุ่นๆ ทั้งหมดที่รู้ว่าเขาเองก็คิดได้ แค่ไม่ทำ
"ไม่" อัคคีปฏิเสธเสียงแข็ง
"คุณกำลังทำให้นิลำบากนะคะ" นิชามองหน้าเขาอย่างเหนื่อยใจ
"แล้วทำไมคุณต้องสนใจคนอื่น" อัคคีถามอย่างไม่พอใจ
"คนอื่นที่ว่าก็แม่คุณ คู่หมั้นคุณทั้งนั้น นิต่างหาก...ที่เป็นคนอื่น" ร่างบางถอนหายใจด้วยความตึงเครียด การมีอยู่ของเธอมันผิดที่ผิดทางมาตั้งแต่ต้น แต่เขากลับไม่สนใจเลยว่าสิ่งที่ทำอยู่มันผิด ผิดทั้งกับคู่หมั้นและตอนนี้เขาก็พาลไปโกรธแม่ของเขาอีก เธอไม่อยากให้เขามีปัญหากับครอบครัว
"ถ้าผมถอนหมั้น คุณจะพอใจใช่มั้ย" อัคคีเอ่ยเสียงต่ำลอดไรฟัน
"ไม่ค่ะ เพราะสาเหตุที่คุณจะถอนหมั้นก็คือการมีนิอยู่ มันจะดีกว่าถ้าเรายุติสถานะคู่นอนกันในเร็ววัน ก่อนที่อะไรๆ มันจะแย่ไปมากกว่านี้"
"ผมไม่สนใจ"
"นั่นสินะ...คุณมันก็คิดถึงแต่ตัวเอง ไม่สนใจว่าคนอื่นเขาจะเป็นยังไง!"
"คุณสนใจแค่ผมก็พอ"
นิชาเผยยิ้มอย่างสมเพชตัวเอง ในเมื่อเขาไม่สนใจใครและยังคงเอาตัวเองเป็นที่ตั้งเธอก็หมดคำจะพูดกับเขาแล้ว
ร่างบางหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องไปหยิบกระเป๋าสะพายเพื่อกลับบ้าน ก่อนจะถูกมือหนาคว้าข้อมือไว้
"ให้นิกลับบ้านเถอะค่ะ เหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว"
นิชาใช้แรงทั้งหมดดึงมือกลับ ก่อนจะเดินออกมา ซึ่งอัคคีก็ไม่ได้รั้งเธอไว้อีก
..
..
..
..
หยุมหัวกันตามสบายค่ะ
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 15และแล้วสิ่งที่นิชาเป็นกังวลก็เกิดขึ้นจนได้ หลังจากที่ทะเลาะกับลูกชายไปวันนั้น วันต่อมาคุณหญิงดาริกาก็ต่อสายมาหาเธอ นัดออกไปคุยที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งหลังเลิกงาน "สวัสดีค่ะ คุณหญิง" "สวัสดีจ้ะ เชิญนั่ง" อีกฝ่ายผายมือให้เธอนั่งลงฝั่งตรงข้าม บนโต๊ะมีอาหารวางรออยู่ก่อนแล้ว แต่นิชาไม่คิดแตะต้อง "มีอะไรจะคุยกับนิเหรอคะ" เธอถามเข้าเรื่องทันที แม้จะเตรียมใจมาก่อนแล้วแต่ลึกๆ ก็ประหม่าอยู่ไม่น้อย "เธอน่าจะรู้ว่าเรื่องอะไร" คุณหญิงพูดเสียงเรียบและมองเธอนิ่งๆ ไม่เหมือนทุกครั้งที่เคยเจอ "ค่ะ แล้วคุณหญิงอยากให้นิทำยังไงเหรอคะ" นิชาถามด้วยความอยากรู้ ถ้อยคำของเธออาจจะฟังดูอวดดีไปบ้าง แต่มันก็คือความจริง "เธอกับตาไฟมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่" คุณหญิงดาริกาไม่ตอบ แต่ถามย้ำเอาคำตอบที่มาจากปากเธอตรงๆ "แค่เจ้านายกับลูกน้องค่ะ" นิชาตอบตามความจริง ก็เธอกับเขาเป็นแค่นี้จริงๆ นี่นา ขึ้นเตียงยามอยากก็ใช่ แต่ก็ยังไม่ใช่แฟนอยู่ดี จะให้ตอบว่าไงล่ะ "อย่าโกหก เจ้านายกับลูกน้องที่ไหนจะประมูลของให้กันเป็นล้าน!" คุณหญิงดาริกากดเสียงเข้ม ไม่เคยมีอคติกับเลขาของลูกชายมาก่อน ออกจ
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 16เดือนต่อมาก็ถึงวันเอาท์ติ้งบริษัท สถานที่คือรีสอร์ตแห่งหนึ่งในอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางไปกลับง่ายไม่ทรมานร่างกายจนเกินไป อัคคีเหมารีสอร์ตทั้งหมดเอาไว้เพื่อให้พนักงานพักและทำกิจกรรมโดยเฉพาะ เนื่องจากถ้ามีคนนอกอยู่กลัวกิจกรรมของพนักงานจะไปรบกวนเวลาพักผ่อนของพวกเขาการเดินทางก็เหมารถทัวร์รับส่ง แต่ถ้าใครจะไปรถส่วนตัวก็ทำได้ตามสะดวก นิชาไปรถอัคคี สถานการณ์ดูเหมือนจะราบรื่นไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งไปถึงรีสอร์ตที่พัก กลับเจอไอริณนั่งรออยู่แบบงงๆ "คุณแม่บอกว่าบริษัทพี่มีเอาท์ติ้งกัน ริณเบื่อๆ อยากเที่ยวพอดี ขอเที่ยวด้วยคนนะคะ" ทันทีที่เห็นทั้งคู่อีกฝ่ายก็เดินเข้ามาหาพร้อมบอกจุดประสงค์ที่ตามมาถึงที่นี่ "ตามสบายครับ" อัคคีตอบรับอย่างเสียไม่ได้ ก็ตามมาถึงนี่แล้วนี่นา "เดี๋ยวนิไปรับกุญแจห้องให้นะคะ" นิชาบอก ก่อนเดินไปที่เคาน์เตอร์ แจ้งพนักงานว่าขอโซนห้องพักที่เป็นส่วนตัวหน่อยเพราะเป็นห้องของประธานบริษัท จนได้คีย์การ์ดมาคนละห้อง ห้องของอัคคีและไอริณอยู่ติดกัน ส่วนห้องของเธอเว้นห่างมาอีกสามห้องเพื่อความเป็นส่วนต
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 17ตื๊ดดด Tonliew : พี่นิ หลับยัง มีเรื่องจะเล่า Nicha : ว่า? Tonliew : เมื่อกี้หนูว่าจะไปหาพี่ที่ห้องอะ แต่...เห็นท่านประธานกันคู่หมั้นมีปากเสียงกันนิดหน่อย เกี่ยวกับพี่อะ Nicha : เรื่องที่เขามาดูแลพี่อะเหรอ Tonliew : ก็ประมาณนั้นอะค่ะ คุณไอริณเธอบอกให้เรียกพนักงานไปดูแลพี่แทน แต่ท่านประธานไม่ทำ เขาจะดูแลพี่เอง คุณไอริณเลยโกรธว่าเขาดูเป็นห่วงพี่มากเกินไป แถมเธอยังไปได้ยินข่าวลือที่พนักงานลือๆ กันมาอีก น่าจะหึงอะ ไม่อยากให้ประธานทำตัวสนิทสนมกับพี่ แต่ประธานก็ไม่ฟังนะ ถ้ารับไม่ได้เขาท้าให้ถอนหมั้นด้วย! Nicha : ไม่มีใครบังคับคุณอัคคีได้หรอก แม้แต่พี่เอง พี่จะเรียกเรามาดูแลแล้ว แต่เขาบอกจะช่วยเอง คงอยากตอบแทนแหละ เพราะตอนที่เขาไม่สบาย พี่ก็คอยหาข้าวหาน้ำให้กิน Tonliew : หนูเข้าใจนะ พี่กับท่านประธานทำงานด้วยกันมานานอะ สนิทกันก็ไม่แปลก แต่คนอื่นนี่สิ มีปากก็พูดไป ไม่คิดเลยสักนิด Nicha : ช่างเถอะ ไม่ต้องคิดมากเรื่องพี่หรอก ใครจะพูดอะไรก็ให้พูดไป เราห้ามอะไรไม่ได้หรอก Tonliew : พี่ก็ชิลเกิ๊น แล้วนี่เป็นไงบ้างคะ เจ็บมากมั้ย Nicha : เย็บเจ็ดเข็มอะ ปว
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 18นิชาตื่นอีกทีก็บ่ายกว่าแล้ว เธอไม่เห็นอัคคีอยู่ในห้องแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ออกจะดีใจด้วยซ้ำ เธออาการดีขึ้นมากแล้ว และไม่อยากอุดอู้อยู่แต่ในห้องจึงพยุงตัวเองเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาแต่งตัวใหม่ แล้วค่อยพยุงตัวเองออกไปข้างนอก ทันทีที่ได้สัมผัสกับสายลมเย็นๆร่างกายก็รู้สึกปลอดโปร่งและสดชื่นขึ้นไม่น้อย "อ้าว พี่นิ จะออกมาทำไมไม่โทรตามหนูไปช่วย" ต้นหลิวกับคนอื่นๆ ที่เพิ่งไปเข้าห้องน้ำในรีสอร์ตเดินผ่านมาเห็นพอดี เลยเข้ามาช่วยพยุง "กลัวไม่ว่าง พี่แค่ออกมาสูดอากาศอะ อยู่ในห้องมันอุดอู้" นิชาบอกน้อง เพราะเวลานี้เป็นเวลาทำกิจกรรมของพนักงานคนอื่นๆ จึงไม่อยากรบกวนใคร "มาค่ะ เดี๋ยวหนูพาไป อากาศกำลังดีเลย" ต้นหลิวช่วยพยุงเธอไปนั่งที่เก้าอี้ผ้าใบริมหาด ที่ตอนนี้ท้องฟ้ากำลังครึ้ม ไม่มีแดด แถมยังลมเย็นสบาย น่านั่งเล่นนอนเล่นที่สุด "พี่นิหิวไหม กินอะไรหรือยัง ทางรีสอร์ตมีของว่าง เดี๋ยวหนูไปเอามาให้" "หิวนิดหน่อย ขอบใจนะ" "รอแป๊บนะ เดี๋ยวหนูมา" ระหว่างที่รอต้นหลิวกลับมา นิชาก็นั่งมองทะเลไปเรื่อยๆ มีคนเข้ามาถามไถ่อาการบ้างเพราะตั้งแต่กลับจากหาหมอก็ไม่มีใครเห็นเธอ
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 19"นิ...เจ็บมั้ย" หลังจากไอริณออกไป อัคคีก็เข้าไปถามไถ่นิชาด้วยน้ำเสียงอ่อนลง ทว่ามือที่กำลังจะยื่นไปหากลับถูกเธอปัดออกอย่างไม่ไยดี "นิอยากอยู่คนเดียวค่ะ...เชิญ" เธอชี้นิ้วไปที่ประตู ไล่เขาเสียงห้วน ไม่แม้แต่จะมองสบตา "แต่..." "นิขอร้องล่ะค่ะ! นิยังไม่พร้อมจะคุยอะไรทั้งนั้น" เมื่อพูดดีๆ ไม่ฟังร่างบางก็ตะคอกเสียงดังลั่น ไหล่บางสั่นเทิ้ม จิกมือเข้าหากันแน่นด้วยความอดทน "...." "นิขออยู่คนเดียว..." เห็นท่าทางต่อต้านไม่อยากรับฟังอะไรของนิชาแล้วอัคคีก็จนคำพูด เมื่อทำอะไรไม่ได้เขาก็ยอมออกไปจากห้อง รอให้อารมณ์เย็นก่อนค่อยมาคุยกัน ทันทีที่ประตูปิดลงร่างบางก็ทรุดนั่งบนพื้นเพราะฝืนความเจ็บที่ขาต่อไปไม่ไหว แขนด้านขวารู้สึกระบมและมีรอยถลอกจากตอนล้ม แก้มก็เจ็บและชาแถมมีเลือดออกในปาก คาดว่าคนตบคงจะใส่แรงทั้งหมดที่มี เธอสมควรที่จะโดนแบบนี้แล้วใช่ไหม?คนผิดที่แท้จริงแล้วมันคือเธอจริงๆ เหรอ?ทั้งๆ ที่คิดว่าคงด้านชาจนไม่รู้สึกอะไรแล้วน้ำตาไม่รู้มากมายมาจากไหนกลับไหลพรากไม่หยุด พอห้ามไม่ได้ก็เลยนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นจนกว่าจะระบายมันออกไปจนหมด "อึ่ก..มึง..มารับ
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 20"ทำไมคุณพ่อไม่จัดการให้ริณคะ! ปล่อยให้พวกมันเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของพวกเราได้ยังไง!?" ไอริณเดินเข้าบ้านมาอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อเห็นผู้เป็นพ่อนั่งหน้าเครียดอยู่ที่โซฟาก็ตรงเข้าไปโวยวายใส่เสียงดัง เธอคิดว่าพ่อแม่จะออกโรงปกป้องและเอาเรื่องอัคคีให้ถึงที่สุด แต่นี่กลับเงียบและยอมรับการถอนหมั้นง่ายๆ ทั้งที่เธอถูกเหยียดหยามจนไฟแค้นมันสุมอกแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว "ถ้าแกไม่รู้อะไรก็อย่าพูด!"เจ้าสัวเจนภพที่กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็เหมือนถูกสุมไฟเพิ่ม สองพ่อลูกเลยไม่มีใครยอมใคร "แล้วมันอะไรล่ะคะ พ่อก็บอกริณมาสิ!" ไอริณทั้งโกรธทั้งไม่เข้าใจ ทั้งๆ ที่ครอบครัวเราก็มีทั้งอำนาจและเงินไม่ต่างอัคคีเลยสักนิด ทำไมพ่อยังต้องไว้หน้าเขาด้วย "แกมันก็ไม่เคยรู้อะไรทั้งนั้นแหละ แทนที่จะจับอัคคีให้อยู่หมัด เลี้ยงเสียข้าวสุก!" "ทำไมพ่อจะต้องให้ความสำคัญเขาถึงขนาดนั้นด้วย เขานอกใจริณนะ!" "ศักดิ์ศรีของแกมันกินได้มั้ยล่ะ! ครอบครัวเราจะล้มละลายกันอยู่แล้วยังไม่รู้ตัวอีก บริษัทไม่ถูกมันเทคโอเวอร์ก็บุญหัวเท่าไรแล้ว!" "หมายความว่าไงคะ เราจะล้มละลายได้ยังไง!?" เมื่อถู
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 21"เฮ้อออ..." นิชาถอนหายใจอย่างหัวเสีย เหตุมาจากกำลังขับรถไปทำงานอยู่ดีๆ เครื่องก็ดับ สตาร์ทไม่ติด ดีว่าค่อยๆ ประคองรถเข้าข้างทางจนปลอดภัยได้ และตอนนี้ก็กำลังยืนรอช่างอยู่บนทางด่วนท่ามกลางแสงแดดยามสายที่ไม่ได้มีแค่วิตามินดีอย่างแน่นอน ขณะที่กำลังรออยู่นั้นอัคคีก็โทรเข้ามา คาดว่าเขาน่าจะไปถึงบริษัทแล้วแต่ไม่เจอเธอเหมือนทุกวันเลยโทรถามเพราะเธอไม่ได้แจ้งลางานเอาไว้ ("คุณอยู่ไหน") "รถเสียอยู่บนทางด่วนค่ะ กำลังรอช่าง" ("ทำไมไม่รีบบอกผม! รออยู่ตรงนั้น เดี๋ยวไปรับ") "เอ่อ..." นิชาไม่ทันได้ปฏิเสธอัคคีก็วางสายไปแล้ว แถมน้ำเสียงก็ดูโกรธมากด้วย เธอก็ได้แต่งงๆ ว่าการที่เธอไม่ได้บอกเขานี่มันผิดมากขนาดนั้นเลยเหรอ หรือกลัวเธอไปทำงานสายแล้วจะทำงานไม่คุ้มค่าแรง ถ้าเป็นแบบนั้นเมื่อก่อนเขาจะรบกวนเวลาทำงานของเธอบ่อยๆ ทำไม เมื่อไม่รู้นิชาก็ไม่คิดหาคำตอบ ยังคงยืนรอช่างต่อไป อากาศแม้จะเป็นตอนเช้าแต่แดดประเทศนี้โดนนิดเดียวก็เหงื่อเริ่มซึม และมันก็เป็นคราวซวยของเธอนี่แหละที่หยิบร่มออกจากรถวันก่อนแล้วลืมเอากลับมาคืน รอสักพักในที่สุดช่างก็มา เธอแจ้งอาการรถให้เขารู้ ซึ
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 22"อะไรนะคะ? ได้ค่ะ จะรีบไป!" ร่างบางวางสายโทรศัพท์ด้วยความเคร่งเครียด เนื่องจากคุณครูประจำชั้นโทรมาเรียกให้ไปที่โรงเรียนด่วน เพราะหลานชายมีเหตุทะเลาะวิวาทกับเพื่อนที่โรงเรียน ตอนนี้รออยู่ในห้องปกครอง "มีอะไรหรือเปล่า" อัคคีถามด้วยความห่วงใย มีไม่กี่เรื่องในชีวิตที่ทำให้เลขาคนสวยเป็นเดือดเป็นร้อนได้ขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่แม่ก็ต้องเป็นหลานๆ "นิขอลาช่วงบ่ายนะคะ คุณครูแจ้งมาว่าน้องปุณณ์มีเรื่องชกต่อยที่โรงเรียน" ร่างบางพูดไปเก็บของไปด้วยความรีบเร่ง หลักๆ เลยคือเป็นห่วงเพราะเชื่อว่าหลานเธอไม่ได้เริ่มก่อนแน่นอน "ผมไปด้วย" ร่างสูงทิ้งงานลุกขึ้นทันที จะปฏิเสธก็ไม่ทัน เพราะเขาเดินนำไปก่อนแล้ว เมื่อมาถึงโรงเรียนนิชาก็ตรงไปที่ห้องปกครองทันที ก่อนจะได้รู้จากครูที่ประจำการอยู่ว่าผู้ปกครองของคู่กรณีต้องการให้เรื่องถึงผู้อำนวยการ เด็กๆ จึงถูกพาไปตัดสินที่ห้องของผู้อำนวยการ ทั้งคู่มองหน้ากันด้วยความสงสัย แค่เด็กทะเลาะกันทำไมถึงต้องไปที่ห้องผู้อำนวยการ มันเรื่องใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมครูปกครองถึงตัดสินกันเองไม่ได้ในเมื่อมันเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครอง หรือไม่คงมี 'บาง
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 27 (ตอนจบ)ผ่านไปหลายเดือนอะไรหลายๆ อย่างก็เริ่มลงตัวมากขึ้น น้องปุณณ์กับน้องปัญญ์ได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนนานาชาติที่มีราคาค่าเทอมพอๆ กับราคาบ้านหลังใหญ่หนึ่งหลัง มีคนขับรถรับส่งอย่างดี ทั้งหมดทั้งมวลล้วนมีอัคคีเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ไม่เพียงเท่านี้แต่เขายังคิดเผื่อไปถึงชีวิตในรั้วโรงเรียนที่ถึงแม้จะมีแต่ลูกหลานคนรวยก็ใช่ว่าจะมีแต่คนดีๆ ด้วยกลัวว่าหลานๆ จะถูกรังแกหรือดูถูกว่ามาจากครอบครัวธรรมดา อัคคีถึงกับลงทุนรับเด็กทั้งสองมาเป็นลูกบุญธรรม โดยให้ใช้นามสกุล 'ศิระพักตร์พิมล' ของเขาเป็นเกราะคุ้มกัน เพราะถ้าลูกหลานตระกูลไหนกล้ารังแกเด็กๆ ทั้งสองก็เท่ากับตั้งตนเป็นศัตรูกับเขาด้วยเช่นกัน ส่วนแม่ของนิชา อัคคีได้จ้างแม่บ้านมาคอยดูแลและอยู่เป็นเพื่อนเพราะอยากให้เธอย้ายไปอยู่ด้วยกัน ตอนแรกนิชาไม่ยอมเพราะเป็นห่วงแม่ กลัวแม่ไม่มีเพื่อนแล้วจะเหงา เขาก็เลยจ้างแม่บ้านที่ไว้ใจได้สองคนมาคอยดูแล อายุเท่ากันกับแม่เธอหนึ่งคน ไว้คอยอยู่เป็นเพื่อนและหญิงวัยกลางคนอีกหนึ่งคนไว้คอยดูแลบ้านและเรื่องอาหารการกิน มีรถและคนขับรถให้เวลาอยากออกไปข้างนอก คนเจ้าเล่ห์จัดแจง
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 26"ครับแม่" บ่ายวันหนึ่งขณะที่กำลังนั่งทำงานตามปกติ ร่างสูงที่มีสายเรียกเข้าก็กดรับสาย แต่พอรู้ว่าปลายสายเป็นใครนิชาก็หูผึ่ง เพราะไม่รู้ว่าแม่ของเขาโทรมาทำไม ที่รู้คือคุณหญิงดาริกาไม่ค่อยชอบเธอตั้งแต่ที่เรียกไปคุยส่วนตัวในวันนั้น พอเกิดเรื่องถอนหมั้นและมีเธอเป็นต้นเหตุ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายจะยิ่งไม่ชอบเธอแค่ไหน หลายครั้งที่ได้ยินเขาคุยโทรศัพท์กับแม่และจบลงที่การทะเลาะ นิชาก็ยิ่งคิดหนัก แม่ไม่ชอบแต่ลูกชายกำลังจีบเธอ ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ที่หลายคนมองว่าเบสิก แต่ก็ทำคนเลิกกันมาตั้งเท่าไร "นิ..." "..." "นิ!" "อะ คะ?" "เหม่ออะไร พี่เรียกตั้งนาน" สรรพนามที่เปลี่ยนไปของอัคคี นิชาไม่เคยชินเลยสักที ไม่พอเขายังบังคับให้เธอเรียกเขาว่าพี่ด้วย "อ้อ เปล่าค่ะ แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ว่าแต่มีอะไรเหรอคะ" เธอแสร้งถามเผื่อเขาจะตอบความจริง เพราะความสัมพันธ์ของเราในตอนนี้มันก้าวข้ามคำว่า 'แฟน' มาไกลมากแล้ว "เย็นนี้ไปทานข้าวบ้านพี่นะ แม่โทรมาชวน" "คะ?" นิชาได้ฟังก็ยิ่งงง เขากับแม่ดีกันตั้งแต่เมื่อไร ถึงขั้นชวนเธอไปทานข้าวที่บ้านด้วย ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกหวาดร
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 25หลังเดินตลาดจนเหนื่อยทุกคนก็เดินกลับโรงแรมและแยกย้ายกันเข้าห้อง อัคคีทำทีเป็นกลับห้องตัวเอง แต่จริงๆ แค่มาอาบน้ำแล้วค่อยแอบออกไปเคาะห้องลูกสาวคนอื่นตอนดึก นิชาที่เห็นเขาไม่ตามมาที่ห้องก็พลันรู้สึกห่อเหี่ยวใจแปลกๆ เพราะคิดว่าเขาจะมานอนด้วยกันอีก พอเขาไม่มาเลยแอบผิดหวัง แต่ก็พยายามสลัดความคิดทิ้งไป หยิบข้าวของเข้าไปอาบน้ำและสวมแค่ชุดคลุมออกมา ขณะที่กำลังจะแต่งตัวก็ได้ยินเสียงเคาะประตู คิดว่าแม่อาจจะมาเลยเดินไปเปิดอย่างไม่คิดอะไร แต่กลับเจออัคคียืนอยู่หน้าห้องและแทรกตัวเข้ามาอย่างถือวิสาสะ "มาทำไมคะ" แม้จะแอบดีใจจนเนื้อเต้น แต่นิชาก็ยังแสดงออกนิ่งๆ เหมือนเดิม "อยากดื่ม มาดื่มกันเถอะ" ร่างสูงชูเครื่องดื่มที่สั่งมาจากบาร์ของโรงแรมให้ดู ก่อนเดินไปนั่งที่เตียง เทเครื่องดื่ม เปิดทีวีดูอย่างสบายใจ นิชาปล่อยเขาดื่มไปก่อน เพราะเธอยังต้องแต่งตัวและเป่าผมให้แห้ง ใช้เวลาสักพักก็เสร็จ เธอจึงปิดไฟสร้างบรรยากาศ เปิดไว้แค่แสงสีส้มจากโคมไฟหัวเตียง เธอขึ้นเตียงไปนั่งข้างเขาแต่ถูกดึงไปนั่งตรงหว่างขา รั้งตัวเอนพิงอกและกอดไว้หลวมๆ ก่อนจะเทเครื่องดื่มให้ พวกเรานั่ง
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 24"ปะ ปล่อยได้แล้วค่ะ ไม่ทำนะคะ เดี๋ยวแม่มาเจอ" นิชาพยายามดันร่างสูงออกห่าง ใบหน้าสวยแดงระเรื่อ เขินทั้งจูบหวานๆ และสายตาที่เขาเอาแต่มองมาไม่หยุด "คุณน้าอนุญาตให้ผมจีบคุณแล้ว...แล้วคุณล่ะ" อัคคีไม่ได้ปล่อยมือจากเอวบาง ยังคงกอดไว้อย่างแนบชิด ก่อนจะก้มลงถามความรู้สึกของเธอบ้าง "...คุณแน่ใจแล้วเหรอคะ" นิชาเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะย้อนถามเขา "ผมพูดกับแม่คุณขนาดนั้น คุณยังคิดว่าผมเล่นๆ อีกเหรอ" คิ้วเข้มขมวดชนกันคล้ายว่าจะไม่พอใจที่เห็นเธอยังไม่เชื่อใจเขา "ก็...เปล่าค่ะ แต่บอกตรงๆ ว่านิไม่คู่ควรกับคุณหรอกค่ะ ความรักมันไม่ใช่แค่คนสองคนรักกันแล้วทุกอย่างจะราบรื่น คุณมีครอบครัว มีสังคมสูงๆ ที่ไม่มีทางยอมรับคนธรรมดาอย่างนิ...นิเหนื่อยมามากพอแล้วค่ะ ไม่อยากเจอเรื่องยุ่งยากอะไรอีก..." ร่างบางเปิดเผยสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในใจให้เขาได้รับรู้จนหมด แววตาคู่สวยเศร้าลงเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเรื่องราวมากมายในชีวิตที่ผ่านมา "ผมขอโทษ...ที่เริ่มต้นกับคุณได้ไม่ดี ขอโทษที่เป็นหนึ่งในเรื่องร้ายๆ ในชีวิตของคุณ แต่ไม่ว่ายังไงผมก็จะไม่ยอมปล่อยมือคุณเด็ดขาด ให้โอกาสผมสักครั้ง ผมจะทำให้ค
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 23"เย่ๆ ทาเล๊~~" หลังจากที่คุณอาไฟบอกว่าจะพาไปเที่ยวทะเลในวันนั้น สองพี่น้องก็เก็บกระเป๋านั่งนับวันนับคืนรออย่างใจจดจ่อ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง อัคคีมารับแต่เช้าด้วยรถตู้คันใหญ่พร้อมคนขับส่วนตัวที่นิชาคุ้นหน้าคุ้นตาดีคือ 'พี่ชิด' คนขับรถที่เขามักเรียกใช้เวลาเดินทางออกต่างจังหวัดไกลๆ หรือเวลาขี้เกียจขับรถเอง ส่วนเจ้าลัคกี้เอาไปฝากไว้ที่โรงแรมแมวแล้ว หายห่วง เมื่อมาถึงโรงแรมก็เช็กอินแบ่งห้องกันตามที่อัคคีจองไว้ให้คือเธอกับเขาและพี่ชิดคนละห้อง ส่วนแม่และหลานๆ ห้องเดียวกัน เมื่อเก็บกระเป๋าเสร็จ เด็กๆ ก็อ้อนขอออกไปเล่นน้ำอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้งนิชา แม่และอัคคีต่างถูกหลานๆ ดึงให้ลงไปเล่นด้วยกัน แต่ด้วยความที่อายุเยอะแล้วนางพิมพาเล่นด้วยได้ไม่นานก็ขอไปนั่งดูดีกว่า สุดท้ายเลยเหลือแค่นิชากับอัคคีที่อยู่เล่นกับเด็กๆ ร่างสูงเล่นน้ำไปพลางแอบมองเลขาคนสวยไปด้วย เพราะเธอหัวเราะและยิ้มกว้างมาก เหมือนได้ปลดปล่อยตัวเองจากเรื่องเครียดๆ มากมายเพื่อเล่นสนุกกับสองพี่น้อง ทั้งที่สภาพเปียกปอนไปทั้งตัว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสวยของเธอลดน้อยลงเลยแม้แต่น้อย นิชาเงยหน้า
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 22"อะไรนะคะ? ได้ค่ะ จะรีบไป!" ร่างบางวางสายโทรศัพท์ด้วยความเคร่งเครียด เนื่องจากคุณครูประจำชั้นโทรมาเรียกให้ไปที่โรงเรียนด่วน เพราะหลานชายมีเหตุทะเลาะวิวาทกับเพื่อนที่โรงเรียน ตอนนี้รออยู่ในห้องปกครอง "มีอะไรหรือเปล่า" อัคคีถามด้วยความห่วงใย มีไม่กี่เรื่องในชีวิตที่ทำให้เลขาคนสวยเป็นเดือดเป็นร้อนได้ขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่แม่ก็ต้องเป็นหลานๆ "นิขอลาช่วงบ่ายนะคะ คุณครูแจ้งมาว่าน้องปุณณ์มีเรื่องชกต่อยที่โรงเรียน" ร่างบางพูดไปเก็บของไปด้วยความรีบเร่ง หลักๆ เลยคือเป็นห่วงเพราะเชื่อว่าหลานเธอไม่ได้เริ่มก่อนแน่นอน "ผมไปด้วย" ร่างสูงทิ้งงานลุกขึ้นทันที จะปฏิเสธก็ไม่ทัน เพราะเขาเดินนำไปก่อนแล้ว เมื่อมาถึงโรงเรียนนิชาก็ตรงไปที่ห้องปกครองทันที ก่อนจะได้รู้จากครูที่ประจำการอยู่ว่าผู้ปกครองของคู่กรณีต้องการให้เรื่องถึงผู้อำนวยการ เด็กๆ จึงถูกพาไปตัดสินที่ห้องของผู้อำนวยการ ทั้งคู่มองหน้ากันด้วยความสงสัย แค่เด็กทะเลาะกันทำไมถึงต้องไปที่ห้องผู้อำนวยการ มันเรื่องใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมครูปกครองถึงตัดสินกันเองไม่ได้ในเมื่อมันเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครอง หรือไม่คงมี 'บาง
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 21"เฮ้อออ..." นิชาถอนหายใจอย่างหัวเสีย เหตุมาจากกำลังขับรถไปทำงานอยู่ดีๆ เครื่องก็ดับ สตาร์ทไม่ติด ดีว่าค่อยๆ ประคองรถเข้าข้างทางจนปลอดภัยได้ และตอนนี้ก็กำลังยืนรอช่างอยู่บนทางด่วนท่ามกลางแสงแดดยามสายที่ไม่ได้มีแค่วิตามินดีอย่างแน่นอน ขณะที่กำลังรออยู่นั้นอัคคีก็โทรเข้ามา คาดว่าเขาน่าจะไปถึงบริษัทแล้วแต่ไม่เจอเธอเหมือนทุกวันเลยโทรถามเพราะเธอไม่ได้แจ้งลางานเอาไว้ ("คุณอยู่ไหน") "รถเสียอยู่บนทางด่วนค่ะ กำลังรอช่าง" ("ทำไมไม่รีบบอกผม! รออยู่ตรงนั้น เดี๋ยวไปรับ") "เอ่อ..." นิชาไม่ทันได้ปฏิเสธอัคคีก็วางสายไปแล้ว แถมน้ำเสียงก็ดูโกรธมากด้วย เธอก็ได้แต่งงๆ ว่าการที่เธอไม่ได้บอกเขานี่มันผิดมากขนาดนั้นเลยเหรอ หรือกลัวเธอไปทำงานสายแล้วจะทำงานไม่คุ้มค่าแรง ถ้าเป็นแบบนั้นเมื่อก่อนเขาจะรบกวนเวลาทำงานของเธอบ่อยๆ ทำไม เมื่อไม่รู้นิชาก็ไม่คิดหาคำตอบ ยังคงยืนรอช่างต่อไป อากาศแม้จะเป็นตอนเช้าแต่แดดประเทศนี้โดนนิดเดียวก็เหงื่อเริ่มซึม และมันก็เป็นคราวซวยของเธอนี่แหละที่หยิบร่มออกจากรถวันก่อนแล้วลืมเอากลับมาคืน รอสักพักในที่สุดช่างก็มา เธอแจ้งอาการรถให้เขารู้ ซึ
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 20"ทำไมคุณพ่อไม่จัดการให้ริณคะ! ปล่อยให้พวกมันเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของพวกเราได้ยังไง!?" ไอริณเดินเข้าบ้านมาอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อเห็นผู้เป็นพ่อนั่งหน้าเครียดอยู่ที่โซฟาก็ตรงเข้าไปโวยวายใส่เสียงดัง เธอคิดว่าพ่อแม่จะออกโรงปกป้องและเอาเรื่องอัคคีให้ถึงที่สุด แต่นี่กลับเงียบและยอมรับการถอนหมั้นง่ายๆ ทั้งที่เธอถูกเหยียดหยามจนไฟแค้นมันสุมอกแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว "ถ้าแกไม่รู้อะไรก็อย่าพูด!"เจ้าสัวเจนภพที่กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็เหมือนถูกสุมไฟเพิ่ม สองพ่อลูกเลยไม่มีใครยอมใคร "แล้วมันอะไรล่ะคะ พ่อก็บอกริณมาสิ!" ไอริณทั้งโกรธทั้งไม่เข้าใจ ทั้งๆ ที่ครอบครัวเราก็มีทั้งอำนาจและเงินไม่ต่างอัคคีเลยสักนิด ทำไมพ่อยังต้องไว้หน้าเขาด้วย "แกมันก็ไม่เคยรู้อะไรทั้งนั้นแหละ แทนที่จะจับอัคคีให้อยู่หมัด เลี้ยงเสียข้าวสุก!" "ทำไมพ่อจะต้องให้ความสำคัญเขาถึงขนาดนั้นด้วย เขานอกใจริณนะ!" "ศักดิ์ศรีของแกมันกินได้มั้ยล่ะ! ครอบครัวเราจะล้มละลายกันอยู่แล้วยังไม่รู้ตัวอีก บริษัทไม่ถูกมันเทคโอเวอร์ก็บุญหัวเท่าไรแล้ว!" "หมายความว่าไงคะ เราจะล้มละลายได้ยังไง!?" เมื่อถู
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 19"นิ...เจ็บมั้ย" หลังจากไอริณออกไป อัคคีก็เข้าไปถามไถ่นิชาด้วยน้ำเสียงอ่อนลง ทว่ามือที่กำลังจะยื่นไปหากลับถูกเธอปัดออกอย่างไม่ไยดี "นิอยากอยู่คนเดียวค่ะ...เชิญ" เธอชี้นิ้วไปที่ประตู ไล่เขาเสียงห้วน ไม่แม้แต่จะมองสบตา "แต่..." "นิขอร้องล่ะค่ะ! นิยังไม่พร้อมจะคุยอะไรทั้งนั้น" เมื่อพูดดีๆ ไม่ฟังร่างบางก็ตะคอกเสียงดังลั่น ไหล่บางสั่นเทิ้ม จิกมือเข้าหากันแน่นด้วยความอดทน "...." "นิขออยู่คนเดียว..." เห็นท่าทางต่อต้านไม่อยากรับฟังอะไรของนิชาแล้วอัคคีก็จนคำพูด เมื่อทำอะไรไม่ได้เขาก็ยอมออกไปจากห้อง รอให้อารมณ์เย็นก่อนค่อยมาคุยกัน ทันทีที่ประตูปิดลงร่างบางก็ทรุดนั่งบนพื้นเพราะฝืนความเจ็บที่ขาต่อไปไม่ไหว แขนด้านขวารู้สึกระบมและมีรอยถลอกจากตอนล้ม แก้มก็เจ็บและชาแถมมีเลือดออกในปาก คาดว่าคนตบคงจะใส่แรงทั้งหมดที่มี เธอสมควรที่จะโดนแบบนี้แล้วใช่ไหม?คนผิดที่แท้จริงแล้วมันคือเธอจริงๆ เหรอ?ทั้งๆ ที่คิดว่าคงด้านชาจนไม่รู้สึกอะไรแล้วน้ำตาไม่รู้มากมายมาจากไหนกลับไหลพรากไม่หยุด พอห้ามไม่ได้ก็เลยนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นจนกว่าจะระบายมันออกไปจนหมด "อึ่ก..มึง..มารับ