รักต้องแลก
Writer : Aile'N
ตอนที่ 12
นิชาที่นอนหลับไปนาน ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ ภาพแรกที่เห็นคือใบหน้าหล่อเหลาของผู้เป็นเจ้านาย ดวงตาคู่สวยกะพริบปริบๆ ด้วยความมึนงงเพราะยังปะติดปะต่ออะไรไม่ได้ ได้แต่ตาจ้องตากับร่างสูงอยู่อย่างนั้น จนสติเริ่มมาเธอก็รีบเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง พบว่าตัวเองเผลอหลับและไปนอนบนหนุนตักเขาได้ยังไงไม่รู้ แถมเมื่อกี้ยังรู้สึกเหมือนโดนลูบหัวด้วย
"นิ...กลับได้ยังคะ" นิชารีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดูนาฬิกาที่ล่วงเลยมาจนบ่ายสองแล้ว ก่อนจะหันไปถามเจ้าของห้องอย่างอายๆ ไม่รู้ตอนหลับเผลอละเมออะไรออกไปหรือเปล่า
"อืม เดี๋ยวไปส่ง" อัคคีลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
"นิกลับเองดีกว่าค่ะ" เธอรีบปฏิเสธ เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายเสียเวลาขับรถไปมา
"ผมจะไปส่ง" ตาคมจ้องหน้าเธอเขม็ง เป็นสัญญาณว่าห้ามปฏิเสธ
"...ค่ะ"
สุดท้ายนิชาก็ต้องยอมให้อัคคีไปส่ง เราทั้งคู่ไม่ได้คุยอะไรกันเลยสักคำ เขาไม่ถามซ้ำว่าเมื่อคืนเธออยู่กับใคร เหมือนพอโกรธและได้ระบายอารมณ์ด้วยเซ็กส์แล้วก็ปล่อยเรื่องทั้งหมดให้เงียบหายไป ไม่เคลียร์กันให้เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร หรือไม่ก็เชื่อแค่ความคิดของตัวเองเท่านั้น
เพียวบอกว่า 'เขาหึง' แต่นิชาว่าเขาหวงก้างมากกว่า ประมาณว่าไม่อยากใช้ผู้หญิงร่วมกับใคร ขนาดเธอบอกว่าวีเป็นแค่เพื่อน เขายังไม่รับฟังเลย
"ทำไมเลิกงานเร็วจังล่ะ" ผู้เป็นแม่เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ เพราะนี่ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานก็เห็นลูกสาวกลับถึงบ้านแล้ว
"พอดีมีงานนอกสถานที่ค่ะแม่ เสร็จแล้วคุณอัคก็ให้กลับบ้านได้เลย ไม่ต้องเข้าบริษัท" นิชาโกหกข้างๆ คูๆ ถ้านรกสวรรค์มีจริงเธอคงไม่ได้ผุดได้เกิด
"ดีจัง คุณบอสเธอเป็นเจ้านายที่ดีมากๆ เลยนะ นิต้องซื่อสัตย์และขยันทำงานให้ท่านนะรู้ไหม" นางพิมพายกยอปอปั้นใครคนนั้นพลางแย้มยิ้มอย่างมีความสุข
นิชาได้แต่แอบกรอกตาเบ้ปาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาก็ดีอยู่หรอก แต่ตอนนี้ไม่รู้เป็นอะไร ผีเข้าผีออก ผีหมาบ้าซะด้วย
"ค่ะแม่ แล้ววันนี้แม่เป็นยังไงบ้างคะ มีอาการอะไรแปลกๆ หรือเปล่า" ร่างบางเปลี่ยนเรื่องได้อย่างลื่นไหล
"แม่สบายดี นี่ว่าจะเข้าครัวแล้ว เด็กๆ กลับมาก็จะได้ทานข้าวพอดี"
"งั้นนิไปอาบน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวลงมาช่วย"
"จ้าลูก"
นิชารีบขึ้นห้องไปอาบน้ำ ก่อนลงมาช่วยแม่ทำกับข้าวไว้รอหลานๆ กลับจากโรงเรียน ใช้เวลาที่หลืออยู่ในวันนี้ร่วมกับครอบครัวอย่างคุ้มค่า ชดเชยบางวันที่ทำงานหนักกลับดึกจนไม่ได้บอกฝันดีใคร
..
..
"เฮ้ย ไม่น่าเชื่อ พี่จำทางกลับบ้านได้ด้วยเหรอเนี่ย" ทันทีที่เดินเข้ามาในบ้าน เจอหน้ากัน 'ปฐพี' หรือ 'ดินแดน' ที่นอนเล่นเกมอยู่บนโซฟาก็ผุดลุกขึ้นมามองพี่ชายด้วยความตกใจเสียเต็มประดา
"กวนตีน" อัคคีมองหน้าน้องชายนิ่ง
"เอ้า ก็เรื่องจริง ผมแทบลืมหน้าพี่แล้วเนี่ย" อีกฝ่ายยิ้มทะเล้น
"แม่เรียก ไม่รู้มีไร" เขาบอกจุดประสงค์ที่มา ทั้งๆ ที่ไม่อยากมาเลยสักนิด ไม่ใช่ครอบครัวไม่รักแต่อย่างใด แค่เบื่อแม่ที่ชอบพูดแต่เรื่องแต่งงาน
"ก็ว่า ถ้าไม่เรียกก็คงไม่มา"
"มึงก็ดูแม่ดิ มาแต่ละทีมีครั้งไหนไม่คุยเรื่องแต่งงานบ้าง"
"ก็พี่แก่แล้วอะ ไม่แต่งตอนนี้จะมีลูกตอนไหน ก็แม่เค้าอยากมีหลาน"
"มึงก็แต่งแทนกูดิ มีหลานได้เหมือนกัน"
"ผมยังหนุ่มยังแน่น ยังอยากเรียนรู้อะไรอีกเยอะ ยังไม่อยากมีห่วงคล้องคอตอนนี้"
"กูอยากมีงั้นสิ"
ปฐพียักไหล่อย่างไม่สนใจ เพราะยังไงอายุเขาก็ยังน้อยอยู่ แม่ไม่มีทางบังคับแต่งงานเร็วๆ นี้แน่นอน
"แล้วนี่แม่อยู่ไหน" อัคคีไม่อยากต่อปากต่อคำกับน้องชายให้เสียทั้งเวลาและอารมณ์
"สวนหลังบ้าน"
สิ้นคำตอบร่างสูงก็เดินออกจากบ้านไปที่สวนด้านหลังทันที มองไปเห็นมารดากำลังตัดดอกไม้จัดใส่แจกันอยู่จึงเดินเข้าไปหา
"อ้าว ตาไฟมาแล้วเหรอลูก"
"ครับ แม่มีอะไรหรือเปล่า"
"ถ้าไม่มีอะไร แม่ก็จะไม่ได้เห็นหน้าค่าตาลูกแม่เลยใช่มั้ย" คุณหญิง 'ดาริกา' เริ่มทำหน้างอ เธอรู้อยู่หรอกว่าลูกชายคนโตเบื่อที่จะฟังคำพูดของเธอเต็มทีเลยไม่ค่อยกลับบ้าน
"ครับๆ ผมผิดเอง บอกผมมาเถอะว่ามีอะไร" อัคคีถอนหายใจ ไม่ได้มีปฏิกิริยากับอาการแง่งอนปลอมๆ ของมารดาเลยแม้แต่น้อย
"คืนวันเสาร์นี้ไปงานประมูลเครื่องเพชรการกุศลกับแม่หน่อย ไปรับหนูไอริณมาด้วย" สุดท้ายคุณหญิงก็ยอมเปิดเผยเรื่องที่นัดเขามาในวันนี้
"ถ้ามาเองไม่ได้ก็ไม่ต้องมาหรอกครับ" อัคคีพูดเสียงเรียบ ใบหน้าหล่อเริ่มตึงขึ้นมาเล็กน้อยเพราะเขาไม่ชอบให้ใครมาสั่งหรือบังคับให้ทำอะไร แม้อีกฝ่ายจะเป็นพ่อแม่ก็ตาม ถ้าอยากทำเดี๋ยวเขาทำเอง
"เอ๊ะ ตาไฟ นั่นคู่หมั้นลูกนะ"
"คู่หมั้นที่ผมไม่ได้เต็มใจน่ะเหรอครับ คนที่มีความสุขดูเหมือนจะเป็นแม่มากกว่านะครับ ไม่ใช่ผม" ยิ่งฟังอัคคีก็ยิ่งไม่ชอบคำว่า 'คู่หมั้น' มากขึ้นทุกที ทั้งคนเป็นแม่ที่เป็นคนหาอีกฝ่ายมาก็มักจะชอบบังคับให้เขาไปเจอหล่อนบ่อยๆ และนิชาก็อีกคนที่ชอบพูดถึงไอริณเพื่อปฏิเสธสิ่งนั้นสิ่งนี้จากเขา
"ก็ถ้าไม่ทำแบบนี้แล้วเมื่อไรแกจะแต่งงานล่ะ อายุปูนนี้แล้วยังควงคนนั้นคนนี้ไปวันๆ อยู่เลย..." คุณหญิงดาริกาเริ่มขึ้นเสียง สิ่งที่เธอทำทั้งหมดจะว่าจู้จี้ก็ได้ แต่ก็ทำเพื่อลูกทั้งนั้น
"ผมเลิกแล้ว" เขาสวนกลับทันควัน แม้จะมีนิชาแต่ก็แค่คนเดียว เขาไม่ได้เที่ยวไปกับใครหลายคนเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
"ฮะ? คิดว่าหลอกเด็กอยู่หรือไง" แน่นอนว่าผู้เป็นแม่ไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อย
"ก็ผมเลิกแล้ว แม่จะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่"
"งั้นก็พร้อมจะแต่งงานแล้ว..."
"ไม่ครับ! ไม่ใช่เร็วๆ นี้"
"แต่..."
"เจอกันวันงานครับ ส่งโลมาให้ด้วย ส่วนใครอยากไปก็ให้ไปเอง ผมไม่ใช่คนขับรถรับส่งใคร"
"ตาไฟ!"
อัคคีเหนื่อยจะทะเลาะกับมารดาแล้ว จึงตัดบทและเดินหนีออกมา ตรงขึ้นรถและขับออกไปในทันที
วันต่อมา...
"ตอนสิบโมงจะมีช่างเข้ามาวัดตัวตัดชุดไปงานประมูลวันเสาร์นี้" เสียงทุ้มเอ่ยกับเลขาหลังวางสายจากใครสักคนไปแล้ว
"คะ? นิต้องไปด้วยเหรอคะ" นิชามองเขาตาปริบๆ ปกติเวลาออกงาน น้อยครั้งที่เธอจะได้ไปด้วย ถ้าได้ไปจริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องตัดชุดใหม่เลย ชุดที่ใส่ทำงานอยู่ในตอนนี้ก็ใส่ไปได้ เพราะเธอไปในฐานะเลขาผู้ติดตาม ไม่ได้สลักสำคัญอะไร
"ใช่" ตาคมจ้องกลับมานิ่งๆ เธอจึงต้องพยักหน้ารับแต่โดยดี เพราะรู้ว่าทรงนี้ปฏิเสธไม่ได้แน่นอน
เมื่อถึงสิบโมงก็มีช่างเข้ามาวัดตัวตัดชุดจริงๆ โดยมีแบบมาให้เลือกแต่นิชากลับไม่ได้เลือกเอง อัคคีเลือกให้เสร็จสรรพสร้างความมึนงงให้เธอไม่น้อย แต่ก็ไม่คิดอะไรมาก ใส่อะไรก็ได้ทั้งนั้น
และแล้วพริบตาเดียวก็ถึงวันงาน นิชาแต่งหน้าทำผมเองเพราะก็มีฝีมืออยู่บ้าง อยู่ที่ว่าอยากแต่งหรือไม่ ซึ่งดูจากชุดที่ได้รับมาบอกเลยว่าต้องงัดฝีมืออกมาเยอะหน่อย ไม่งั้นคงขายหน้าคนอื่น
อัคคีขับรถมารับเธอที่บ้านตามนัด พอเจอหน้ากันต่างฝ่ายก็ต่างมองสำรวจซึ่งกันและกัน สำหรับนิชาเธอเห็นเขาแต่งตัวออกงานบ่อย จึงค่อนข้างชินตาแม้ทุกครั้งที่เห็นเขาจะยิ่งหล่อมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ตาม
แต่สำหรับอัคคี เขาไม่ค่อยได้เห็นนิชาแต่งตัวออกงานด้วยชุดราตรีมาก่อน ส่วนใหญ่แต่งเป็นสูทเข้ารูปสำหรับผู้หญิง สุภาพเรียบร้อย แต่คราวนี้เขาเป็นคนเลือกชุดให้เธอเองเพราะมันเข้าคู่กับชุดของเขาซึ่งเธอน่าจะยังไม่ทันสังเกตเห็น
"สวัสดีค่ะคุณท่าน คุณหญิง คุณปฐพี" นิชาทักทายพ่อแม่และน้องชายของอัดคีตามมารยาท เธอเคยเจอพวกเขาอยู่แล้วหลายครั้งเลยค่อนข้างคุ้นเคย
ทั้งสามคนต่างมองนิชาสลับกับอัคคีด้วยความแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าอัคคีจะพาเลขามาด้วยแถมใส่ชุดคล้ายกันอีก แปลกๆ อยู่นะ...
"พี่นิชา สวยจนผมจำไม่ได้แหนะ" ปฐพีทักทายเธออย่างเป็นกันเอง เขาไม่เคยถือตัวนิชาอายุมากกว่าเขาก็เรียกพี่ได้อย่างปกติ
"ตาไฟ ไปทักทายคนอื่นๆ กับพ่อแม่หน่อยลูก" คุณหญิงดาริกาเอ่ยกับลูกชายคนโต ก่อนที่ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกจะแยกตัวออกไป ส่วนปฐพีตอนที่พี่ชายยังมาไม่ถึง ได้ไปมาก่อนแล้วเลยอยู่เป็นเพื่อนนิชาแทน
"พี่นิสบายดีนะครับ ไม่เจอตั้งนาน" เขาชวนคุยด้วยรอยยิ้มสดใส บุคลิกแตกต่างจากพี่ชายลิบลับ
"สบายดีค่ะ คุณปฐพีล่ะคะ" นิชาตอบกลับ แม้จะค่อนข้างคุ้นเคย แต่เธอยังคงเว้นระยะห่างอย่างเป็นมืออาชีพ ไม่ให้ผู้คนเอาไปพูดลับหลังได้
"บอกกี่ครั้งแล้วครับว่าให้เรียกแดนเฉยๆ ผมไม่ถือ"
"แต่ว่า..."
"เรียกเถอะครับ นะ" เด็กหนุ่มตัวโตทำตาปริบอ้อนเหมือนเด็กสามขวบ ร่างบางเกือบหลุดขำเพราะปฐพีมีใบหน้าคล้ายคลึงพี่ชายถึงแปดสิบเปอร์เซ็น มองเขาก็เหมือนเห็นอัคคีซ้อนทับ ท่าทางน่ารักๆ แบบนั้นเลยดูน่าตลกถ้านึกภาพว่าอัคคีเป็นคนทำ
"ก็ได้ค่ะคุณแดน"
"ดีครับ ผมก็เรื่อยๆ แหละครับ ทำนั่นทำนี่วุ่นวายไปหมด" เมื่อพอใจคำเรียกขานปฐพีก็เต็มใจตอบคำถามของเธอในทันที
"เก่งนะคะ ทำหลายๆ อย่างพร้อมกันได้" นิชาชื่นชมเขาจากใจ ด้วยอายุยังน้อยแถมนิสัยของปฐพียังเป็นประเภทอยากลองอยากรู้ อยากทำสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เขาจึงลองทำอะไรหลายๆ อย่างที่สนใจไปพร้อมๆ กัน สิ่งไหนไม่โอเคหรือล้มเหลวก็ทิ้งไปไม่ซีเรียส ถือเป็นประสบการณ์ชีวิต
ไม่เหมือนอัคคีที่มุ่งมั่นทำแต่สิ่งที่ชอบจริงๆ เท่านั้นซึ่งมีแค่ไม่กี่อย่าง และเขาก็มักจะทุ่มเทจริงจังกับสิ่งเหล่านั้นมากๆ ถ้าล้มเหลวก็เริ่มใหม่ ไม่ยอมทิ้งไปง่ายๆ สองพี่น้องแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
"ผมไม่เก่งเท่าพี่นิหรอกครับ ที่อยู่กับพี่ไฟมาได้ตั้งหลายปี รายนั้นอะดุอย่างกับหมาบ้า" ปฐพีมองซ้ายมองขวาก่อนพูดเสียงเบาให้ได้ยินกันแค่สองคน
"ฮะๆๆ จริงค่ะ" ร่างบางหัวเราะขำอย่างชอบใจ เพราะเธอเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ไม่คิดว่าจะมีคนเห็นด้วย แถมคนนั้นยังเป็นน้องชายเขาอีก
จู่ๆ ก็เห็นนิชายิ้มกว้างเป็นครั้งแรก ปฐพีถึงกับตะลึงไปไม่เป็น เพราะเขาไม่เคยเห็นเธอยิ้มกว้างขนาดนี้มาก่อน แถมยิ้มแล้วยังมีพลังทำลายล้าง สวยมากจนละสายตาไม่ได้เลย
"คุณแดน คุณแดนคะ!"
"อะ ครับ?"
"อยู่ๆ ก็นิ่งไป เป็นอะไรมั้ยคะ"
"อ้อ ไม่มีอะไรครับ แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย"
"อ้อ ค่ะ" นิชาได้แต่ตอบรับอย่างงงๆ คนเราคุยกันอยู่ดีๆ นึกจะเหม่อก็เหม่อได้เหรอถามจริง?
ร่างบางสลัดความสงสัยทิ้ง ก่อนมองไปทางที่อัคคียืนอยู่ก็เห็นเขาจ้องเขม็งมาด้วยท่าทีไม่พอใจ อะไรอีกล่ะนั่น หงุดหงิดอะไรมาอีก เข้าใจยากจริงๆ
จังหวะนั้นเองในสายตาของนิชาก็เห็นไอริณที่เพิ่งมาถึงงานเดินเข้าไปทักทั้งสามคนอย่างสนิทสนม สุดท้ายก็เลยได้ควงคู่กันตามพ่อแม่ไปพูดคุยกับแขกคนอื่นๆ เหมาะสมกันจนน่าอิจฉา...
"พี่อยากจะไปหาอะไรทานสักหน่อยมั้ยครับหรือจะไปหาที่นั่งกัน" ปฐพีถามขึ้น ดึงความสนใจของเธอกลับมาที่เขาอีกครั้ง
"ไปหาที่นั่งก็ได้ค่ะ พอดียังไม่หิว"
ทั้งคู่พากันไปนั่งลงตรงโซนวีไอพีหน้าเวทีที่เจ้าภาพจัดไว้ให้ พอไม่มีอะไรทำเธอกับเขาก็ได้แต่หาเรื่องพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิด ประสบการณ์ในการทำงานของกันและกันจนเหมือนจะเริ่มสนิทกันมากยิ่งขึ้น
เวลาผ่านไปพักใหญ่แขกคนอื่นๆ ก็ทยอยเข้ามาหาที่นั่งเพราะใกล้ได้เวลาเริ่มงานแล้ว อัคคีเดินมานั่งลงข้างเธอไม่เบานักคล้ายใส่อารมณ์ ถัดไปจากเขาคือไอริณ อีกฝั่งถัดจากปฐพีคือแม่และพ่อของเขา ลำดับการนั่งค่อนข้างแปลกเพราะเธออยู่ตรงกลางแทนที่จะอยู่ริม ทั้งที่เป็นแค่เลขาไม่ได้สลักสำคัญ แม้จะไม่มีใครว่าอะไรแต่กลับเป็นเธอที่รู้สึกกระดากอายเสียเอง
"เอ่อ นิไปนั่งริมๆ ดีกว่าค่ะ ตรงนี้ดูไม่ดีเท่าไร"
"นั่งลง ใครกล้าว่าก็มาว่าต่อหน้าผมนี่" อัคคีพูดเสียงดุ นิชาก็เลยต้องนั่งลง ก่อนจะบังเอิญเหลือบไปเห็นสายตาของไอริณที่มองมาด้วยความสงสัย จึงพยายามทำตัวนิ่งเฉย ไม่เผยพิรุธอะไรออกไปให้ได้มากที่สุด
..
..
..
..
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 13งานประมูลเครื่องเพชรการกุศลเริ่มต้นขึ้นและดำเนินไปเรื่อยๆ ท่ามกลางแสงสีของเพชรเม็ดงามที่สะท้อนแสงไฟวิบวับจนแสบตา นิชาเข้าไม่ถึงของแพงๆ พวกนี้จึงได้แต่นั่งเหม่อ ปล่อยใจล่องลอยไปไกลแสนไกล คนนอกมองมาคงจะเข้าใจว่าเธอนั่งมองผู้คนบนเวทีที่กำลังนำเสนอเครื่องเพชรอย่างตั้งใจ แต่เปล่าเลย เธอเหมือนคนหลับใน ตาดูแต่หูไม่ได้ฟัง ใจก็ไม่ได้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่มองเลยแม้แต่น้อย แต่ก็มีบ้างที่สติกกลับคืนมาตอนปฐพีชวนคุยเป็นครั้งคราว หลังจบบทสนทนาเธอจึงมีสติจ้องมองเครื่องเพชรเหล่านั้นอย่างสนใจจริงๆ เช่นเดียวกับตอนนี้ที่เห็นกำไลข้อมือวงหนึ่งที่นางแบบกำลังใส่อวดโฉมอยู่บนเวที ลายของมันค่อนข้างเรียบง่ายมีเพชรประดับเพียงไม่กี่เม็ดแต่เรียบหรูใส่ได้ทุกโอกาส "สวยมั้ย" อัคคีถามขึ้น หลังสังเกตเห็นว่านิชาดูจะสนใจกำไลวงนี้เป็นพิเศษ "ก็สวยดีค่ะ" เธอตอบอย่างไม่ใส่ใจ ทว่าเมื่อเริ่มเปิดประมูล อัคคีที่นั่งเงียบมาตั้งแต่งานเริ่ม กลับลงประมูลกำไลชิ้นนี้เป็นครั้งแรก "ห้าล้านครับ" เกิดเสียงฮือฮาดังขึ้นมาไม่น้อยหลังสิ้นเสียงเขา เพราะกำไลเล็กๆ วงนั้นเริ่มต้นที่หนึ่งล้านบาทและยังไม่มีใครล
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 14ผ่านไปหลายวันจากวันงานประมูล มีหลายสิ่งกำลังรบกวนจิตใจของนิชาอย่างหนัก ส่งผลให้กลางคืนนอนไม่หลับ กลางวันนั่งเหม่อ เธอรู้สึกสับสนและไม่เข้าใจกับสิ่งที่อัคคีทำ ทั้งประมูลกำไลให้ จูบนุ่มๆ ที่ไม่เกี่ยวกับเซ็กส์ ไหนจะท่าทางหงุดหงิดเวลาเห็นเธออยู่กับคนอื่นอีก ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ด้วย รักเหรอ? ...ไม่มีทาง! คนเดียวที่เขารักนอกจากครอบครัวก็คือตัวเขาเองต่างหาก "เที่ยงไม่ต้องสั่งอาหารนะ ไอริณจะซื้อเข้ามากินด้วย เดี๋ยวแวะเข้ามา" อัคคีบอกอย่างไม่คิดอะไร ในขณะที่นิชาคิดมากจนนอนไม่หลับ แล้วทำไมถึงเป็นเธอที่คิดมากอยู่ฝ่ายเดียว ใกล้เที่ยงไอริณก็มาจริงๆ หล่อนหอบข้าวของพะรุงพะรังเต็มสองมือ นิชาจึงต้องรีบเข้าไปช่วยถือและแยกส่วนที่เป็นอาหารเที่ยงไปจัดใส่จานยกเข้ามาเสิร์ฟให้ "แล้วของคุณล่ะ" ร่างสูงถามเมื่อมีข้าวเปล่าแค่สองจาน "นิมีนัดกับเพื่อนแล้วน่ะค่ะ ตามสบายนะคะ" เธอบอกเขาก่อนหันไปบอกไอริณ จากนั้นก็แยกตัวหยิบกระเป๋าสะพายเดินออกมา ความจริงแล้วไม่ได้มีนัดที่ไหนหรอก แค่ไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอใคร ข้าวก็ไม่หิว อยากนอนมากกว่าเลยตั้งใจว่าจะลงไปงีบที่รถ "ริณจำได้ว
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 15และแล้วสิ่งที่นิชาเป็นกังวลก็เกิดขึ้นจนได้ หลังจากที่ทะเลาะกับลูกชายไปวันนั้น วันต่อมาคุณหญิงดาริกาก็ต่อสายมาหาเธอ นัดออกไปคุยที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งหลังเลิกงาน "สวัสดีค่ะ คุณหญิง" "สวัสดีจ้ะ เชิญนั่ง" อีกฝ่ายผายมือให้เธอนั่งลงฝั่งตรงข้าม บนโต๊ะมีอาหารวางรออยู่ก่อนแล้ว แต่นิชาไม่คิดแตะต้อง "มีอะไรจะคุยกับนิเหรอคะ" เธอถามเข้าเรื่องทันที แม้จะเตรียมใจมาก่อนแล้วแต่ลึกๆ ก็ประหม่าอยู่ไม่น้อย "เธอน่าจะรู้ว่าเรื่องอะไร" คุณหญิงพูดเสียงเรียบและมองเธอนิ่งๆ ไม่เหมือนทุกครั้งที่เคยเจอ "ค่ะ แล้วคุณหญิงอยากให้นิทำยังไงเหรอคะ" นิชาถามด้วยความอยากรู้ ถ้อยคำของเธออาจจะฟังดูอวดดีไปบ้าง แต่มันก็คือความจริง "เธอกับตาไฟมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่" คุณหญิงดาริกาไม่ตอบ แต่ถามย้ำเอาคำตอบที่มาจากปากเธอตรงๆ "แค่เจ้านายกับลูกน้องค่ะ" นิชาตอบตามความจริง ก็เธอกับเขาเป็นแค่นี้จริงๆ นี่นา ขึ้นเตียงยามอยากก็ใช่ แต่ก็ยังไม่ใช่แฟนอยู่ดี จะให้ตอบว่าไงล่ะ "อย่าโกหก เจ้านายกับลูกน้องที่ไหนจะประมูลของให้กันเป็นล้าน!" คุณหญิงดาริกากดเสียงเข้ม ไม่เคยมีอคติกับเลขาของลูกชายมาก่อน ออกจ
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 16เดือนต่อมาก็ถึงวันเอาท์ติ้งบริษัท สถานที่คือรีสอร์ตแห่งหนึ่งในอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางไปกลับง่ายไม่ทรมานร่างกายจนเกินไป อัคคีเหมารีสอร์ตทั้งหมดเอาไว้เพื่อให้พนักงานพักและทำกิจกรรมโดยเฉพาะ เนื่องจากถ้ามีคนนอกอยู่กลัวกิจกรรมของพนักงานจะไปรบกวนเวลาพักผ่อนของพวกเขาการเดินทางก็เหมารถทัวร์รับส่ง แต่ถ้าใครจะไปรถส่วนตัวก็ทำได้ตามสะดวก นิชาไปรถอัคคี สถานการณ์ดูเหมือนจะราบรื่นไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งไปถึงรีสอร์ตที่พัก กลับเจอไอริณนั่งรออยู่แบบงงๆ "คุณแม่บอกว่าบริษัทพี่มีเอาท์ติ้งกัน ริณเบื่อๆ อยากเที่ยวพอดี ขอเที่ยวด้วยคนนะคะ" ทันทีที่เห็นทั้งคู่อีกฝ่ายก็เดินเข้ามาหาพร้อมบอกจุดประสงค์ที่ตามมาถึงที่นี่ "ตามสบายครับ" อัคคีตอบรับอย่างเสียไม่ได้ ก็ตามมาถึงนี่แล้วนี่นา "เดี๋ยวนิไปรับกุญแจห้องให้นะคะ" นิชาบอก ก่อนเดินไปที่เคาน์เตอร์ แจ้งพนักงานว่าขอโซนห้องพักที่เป็นส่วนตัวหน่อยเพราะเป็นห้องของประธานบริษัท จนได้คีย์การ์ดมาคนละห้อง ห้องของอัคคีและไอริณอยู่ติดกัน ส่วนห้องของเธอเว้นห่างมาอีกสามห้องเพื่อความเป็นส่วนต
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 17ตื๊ดดด Tonliew : พี่นิ หลับยัง มีเรื่องจะเล่า Nicha : ว่า? Tonliew : เมื่อกี้หนูว่าจะไปหาพี่ที่ห้องอะ แต่...เห็นท่านประธานกันคู่หมั้นมีปากเสียงกันนิดหน่อย เกี่ยวกับพี่อะ Nicha : เรื่องที่เขามาดูแลพี่อะเหรอ Tonliew : ก็ประมาณนั้นอะค่ะ คุณไอริณเธอบอกให้เรียกพนักงานไปดูแลพี่แทน แต่ท่านประธานไม่ทำ เขาจะดูแลพี่เอง คุณไอริณเลยโกรธว่าเขาดูเป็นห่วงพี่มากเกินไป แถมเธอยังไปได้ยินข่าวลือที่พนักงานลือๆ กันมาอีก น่าจะหึงอะ ไม่อยากให้ประธานทำตัวสนิทสนมกับพี่ แต่ประธานก็ไม่ฟังนะ ถ้ารับไม่ได้เขาท้าให้ถอนหมั้นด้วย! Nicha : ไม่มีใครบังคับคุณอัคคีได้หรอก แม้แต่พี่เอง พี่จะเรียกเรามาดูแลแล้ว แต่เขาบอกจะช่วยเอง คงอยากตอบแทนแหละ เพราะตอนที่เขาไม่สบาย พี่ก็คอยหาข้าวหาน้ำให้กิน Tonliew : หนูเข้าใจนะ พี่กับท่านประธานทำงานด้วยกันมานานอะ สนิทกันก็ไม่แปลก แต่คนอื่นนี่สิ มีปากก็พูดไป ไม่คิดเลยสักนิด Nicha : ช่างเถอะ ไม่ต้องคิดมากเรื่องพี่หรอก ใครจะพูดอะไรก็ให้พูดไป เราห้ามอะไรไม่ได้หรอก Tonliew : พี่ก็ชิลเกิ๊น แล้วนี่เป็นไงบ้างคะ เจ็บมากมั้ย Nicha : เย็บเจ็ดเข็มอะ ปว
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 18นิชาตื่นอีกทีก็บ่ายกว่าแล้ว เธอไม่เห็นอัคคีอยู่ในห้องแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ออกจะดีใจด้วยซ้ำ เธออาการดีขึ้นมากแล้ว และไม่อยากอุดอู้อยู่แต่ในห้องจึงพยุงตัวเองเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาแต่งตัวใหม่ แล้วค่อยพยุงตัวเองออกไปข้างนอก ทันทีที่ได้สัมผัสกับสายลมเย็นๆร่างกายก็รู้สึกปลอดโปร่งและสดชื่นขึ้นไม่น้อย "อ้าว พี่นิ จะออกมาทำไมไม่โทรตามหนูไปช่วย" ต้นหลิวกับคนอื่นๆ ที่เพิ่งไปเข้าห้องน้ำในรีสอร์ตเดินผ่านมาเห็นพอดี เลยเข้ามาช่วยพยุง "กลัวไม่ว่าง พี่แค่ออกมาสูดอากาศอะ อยู่ในห้องมันอุดอู้" นิชาบอกน้อง เพราะเวลานี้เป็นเวลาทำกิจกรรมของพนักงานคนอื่นๆ จึงไม่อยากรบกวนใคร "มาค่ะ เดี๋ยวหนูพาไป อากาศกำลังดีเลย" ต้นหลิวช่วยพยุงเธอไปนั่งที่เก้าอี้ผ้าใบริมหาด ที่ตอนนี้ท้องฟ้ากำลังครึ้ม ไม่มีแดด แถมยังลมเย็นสบาย น่านั่งเล่นนอนเล่นที่สุด "พี่นิหิวไหม กินอะไรหรือยัง ทางรีสอร์ตมีของว่าง เดี๋ยวหนูไปเอามาให้" "หิวนิดหน่อย ขอบใจนะ" "รอแป๊บนะ เดี๋ยวหนูมา" ระหว่างที่รอต้นหลิวกลับมา นิชาก็นั่งมองทะเลไปเรื่อยๆ มีคนเข้ามาถามไถ่อาการบ้างเพราะตั้งแต่กลับจากหาหมอก็ไม่มีใครเห็นเธอ
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 19"นิ...เจ็บมั้ย" หลังจากไอริณออกไป อัคคีก็เข้าไปถามไถ่นิชาด้วยน้ำเสียงอ่อนลง ทว่ามือที่กำลังจะยื่นไปหากลับถูกเธอปัดออกอย่างไม่ไยดี "นิอยากอยู่คนเดียวค่ะ...เชิญ" เธอชี้นิ้วไปที่ประตู ไล่เขาเสียงห้วน ไม่แม้แต่จะมองสบตา "แต่..." "นิขอร้องล่ะค่ะ! นิยังไม่พร้อมจะคุยอะไรทั้งนั้น" เมื่อพูดดีๆ ไม่ฟังร่างบางก็ตะคอกเสียงดังลั่น ไหล่บางสั่นเทิ้ม จิกมือเข้าหากันแน่นด้วยความอดทน "...." "นิขออยู่คนเดียว..." เห็นท่าทางต่อต้านไม่อยากรับฟังอะไรของนิชาแล้วอัคคีก็จนคำพูด เมื่อทำอะไรไม่ได้เขาก็ยอมออกไปจากห้อง รอให้อารมณ์เย็นก่อนค่อยมาคุยกัน ทันทีที่ประตูปิดลงร่างบางก็ทรุดนั่งบนพื้นเพราะฝืนความเจ็บที่ขาต่อไปไม่ไหว แขนด้านขวารู้สึกระบมและมีรอยถลอกจากตอนล้ม แก้มก็เจ็บและชาแถมมีเลือดออกในปาก คาดว่าคนตบคงจะใส่แรงทั้งหมดที่มี เธอสมควรที่จะโดนแบบนี้แล้วใช่ไหม?คนผิดที่แท้จริงแล้วมันคือเธอจริงๆ เหรอ?ทั้งๆ ที่คิดว่าคงด้านชาจนไม่รู้สึกอะไรแล้วน้ำตาไม่รู้มากมายมาจากไหนกลับไหลพรากไม่หยุด พอห้ามไม่ได้ก็เลยนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นจนกว่าจะระบายมันออกไปจนหมด "อึ่ก..มึง..มารับ
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 20"ทำไมคุณพ่อไม่จัดการให้ริณคะ! ปล่อยให้พวกมันเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของพวกเราได้ยังไง!?" ไอริณเดินเข้าบ้านมาอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อเห็นผู้เป็นพ่อนั่งหน้าเครียดอยู่ที่โซฟาก็ตรงเข้าไปโวยวายใส่เสียงดัง เธอคิดว่าพ่อแม่จะออกโรงปกป้องและเอาเรื่องอัคคีให้ถึงที่สุด แต่นี่กลับเงียบและยอมรับการถอนหมั้นง่ายๆ ทั้งที่เธอถูกเหยียดหยามจนไฟแค้นมันสุมอกแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว "ถ้าแกไม่รู้อะไรก็อย่าพูด!"เจ้าสัวเจนภพที่กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็เหมือนถูกสุมไฟเพิ่ม สองพ่อลูกเลยไม่มีใครยอมใคร "แล้วมันอะไรล่ะคะ พ่อก็บอกริณมาสิ!" ไอริณทั้งโกรธทั้งไม่เข้าใจ ทั้งๆ ที่ครอบครัวเราก็มีทั้งอำนาจและเงินไม่ต่างอัคคีเลยสักนิด ทำไมพ่อยังต้องไว้หน้าเขาด้วย "แกมันก็ไม่เคยรู้อะไรทั้งนั้นแหละ แทนที่จะจับอัคคีให้อยู่หมัด เลี้ยงเสียข้าวสุก!" "ทำไมพ่อจะต้องให้ความสำคัญเขาถึงขนาดนั้นด้วย เขานอกใจริณนะ!" "ศักดิ์ศรีของแกมันกินได้มั้ยล่ะ! ครอบครัวเราจะล้มละลายกันอยู่แล้วยังไม่รู้ตัวอีก บริษัทไม่ถูกมันเทคโอเวอร์ก็บุญหัวเท่าไรแล้ว!" "หมายความว่าไงคะ เราจะล้มละลายได้ยังไง!?" เมื่อถู
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 27 (ตอนจบ)ผ่านไปหลายเดือนอะไรหลายๆ อย่างก็เริ่มลงตัวมากขึ้น น้องปุณณ์กับน้องปัญญ์ได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนนานาชาติที่มีราคาค่าเทอมพอๆ กับราคาบ้านหลังใหญ่หนึ่งหลัง มีคนขับรถรับส่งอย่างดี ทั้งหมดทั้งมวลล้วนมีอัคคีเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ไม่เพียงเท่านี้แต่เขายังคิดเผื่อไปถึงชีวิตในรั้วโรงเรียนที่ถึงแม้จะมีแต่ลูกหลานคนรวยก็ใช่ว่าจะมีแต่คนดีๆ ด้วยกลัวว่าหลานๆ จะถูกรังแกหรือดูถูกว่ามาจากครอบครัวธรรมดา อัคคีถึงกับลงทุนรับเด็กทั้งสองมาเป็นลูกบุญธรรม โดยให้ใช้นามสกุล 'ศิระพักตร์พิมล' ของเขาเป็นเกราะคุ้มกัน เพราะถ้าลูกหลานตระกูลไหนกล้ารังแกเด็กๆ ทั้งสองก็เท่ากับตั้งตนเป็นศัตรูกับเขาด้วยเช่นกัน ส่วนแม่ของนิชา อัคคีได้จ้างแม่บ้านมาคอยดูแลและอยู่เป็นเพื่อนเพราะอยากให้เธอย้ายไปอยู่ด้วยกัน ตอนแรกนิชาไม่ยอมเพราะเป็นห่วงแม่ กลัวแม่ไม่มีเพื่อนแล้วจะเหงา เขาก็เลยจ้างแม่บ้านที่ไว้ใจได้สองคนมาคอยดูแล อายุเท่ากันกับแม่เธอหนึ่งคน ไว้คอยอยู่เป็นเพื่อนและหญิงวัยกลางคนอีกหนึ่งคนไว้คอยดูแลบ้านและเรื่องอาหารการกิน มีรถและคนขับรถให้เวลาอยากออกไปข้างนอก คนเจ้าเล่ห์จัดแจง
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 26"ครับแม่" บ่ายวันหนึ่งขณะที่กำลังนั่งทำงานตามปกติ ร่างสูงที่มีสายเรียกเข้าก็กดรับสาย แต่พอรู้ว่าปลายสายเป็นใครนิชาก็หูผึ่ง เพราะไม่รู้ว่าแม่ของเขาโทรมาทำไม ที่รู้คือคุณหญิงดาริกาไม่ค่อยชอบเธอตั้งแต่ที่เรียกไปคุยส่วนตัวในวันนั้น พอเกิดเรื่องถอนหมั้นและมีเธอเป็นต้นเหตุ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายจะยิ่งไม่ชอบเธอแค่ไหน หลายครั้งที่ได้ยินเขาคุยโทรศัพท์กับแม่และจบลงที่การทะเลาะ นิชาก็ยิ่งคิดหนัก แม่ไม่ชอบแต่ลูกชายกำลังจีบเธอ ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ที่หลายคนมองว่าเบสิก แต่ก็ทำคนเลิกกันมาตั้งเท่าไร "นิ..." "..." "นิ!" "อะ คะ?" "เหม่ออะไร พี่เรียกตั้งนาน" สรรพนามที่เปลี่ยนไปของอัคคี นิชาไม่เคยชินเลยสักที ไม่พอเขายังบังคับให้เธอเรียกเขาว่าพี่ด้วย "อ้อ เปล่าค่ะ แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ว่าแต่มีอะไรเหรอคะ" เธอแสร้งถามเผื่อเขาจะตอบความจริง เพราะความสัมพันธ์ของเราในตอนนี้มันก้าวข้ามคำว่า 'แฟน' มาไกลมากแล้ว "เย็นนี้ไปทานข้าวบ้านพี่นะ แม่โทรมาชวน" "คะ?" นิชาได้ฟังก็ยิ่งงง เขากับแม่ดีกันตั้งแต่เมื่อไร ถึงขั้นชวนเธอไปทานข้าวที่บ้านด้วย ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกหวาดร
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 25หลังเดินตลาดจนเหนื่อยทุกคนก็เดินกลับโรงแรมและแยกย้ายกันเข้าห้อง อัคคีทำทีเป็นกลับห้องตัวเอง แต่จริงๆ แค่มาอาบน้ำแล้วค่อยแอบออกไปเคาะห้องลูกสาวคนอื่นตอนดึก นิชาที่เห็นเขาไม่ตามมาที่ห้องก็พลันรู้สึกห่อเหี่ยวใจแปลกๆ เพราะคิดว่าเขาจะมานอนด้วยกันอีก พอเขาไม่มาเลยแอบผิดหวัง แต่ก็พยายามสลัดความคิดทิ้งไป หยิบข้าวของเข้าไปอาบน้ำและสวมแค่ชุดคลุมออกมา ขณะที่กำลังจะแต่งตัวก็ได้ยินเสียงเคาะประตู คิดว่าแม่อาจจะมาเลยเดินไปเปิดอย่างไม่คิดอะไร แต่กลับเจออัคคียืนอยู่หน้าห้องและแทรกตัวเข้ามาอย่างถือวิสาสะ "มาทำไมคะ" แม้จะแอบดีใจจนเนื้อเต้น แต่นิชาก็ยังแสดงออกนิ่งๆ เหมือนเดิม "อยากดื่ม มาดื่มกันเถอะ" ร่างสูงชูเครื่องดื่มที่สั่งมาจากบาร์ของโรงแรมให้ดู ก่อนเดินไปนั่งที่เตียง เทเครื่องดื่ม เปิดทีวีดูอย่างสบายใจ นิชาปล่อยเขาดื่มไปก่อน เพราะเธอยังต้องแต่งตัวและเป่าผมให้แห้ง ใช้เวลาสักพักก็เสร็จ เธอจึงปิดไฟสร้างบรรยากาศ เปิดไว้แค่แสงสีส้มจากโคมไฟหัวเตียง เธอขึ้นเตียงไปนั่งข้างเขาแต่ถูกดึงไปนั่งตรงหว่างขา รั้งตัวเอนพิงอกและกอดไว้หลวมๆ ก่อนจะเทเครื่องดื่มให้ พวกเรานั่ง
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 24"ปะ ปล่อยได้แล้วค่ะ ไม่ทำนะคะ เดี๋ยวแม่มาเจอ" นิชาพยายามดันร่างสูงออกห่าง ใบหน้าสวยแดงระเรื่อ เขินทั้งจูบหวานๆ และสายตาที่เขาเอาแต่มองมาไม่หยุด "คุณน้าอนุญาตให้ผมจีบคุณแล้ว...แล้วคุณล่ะ" อัคคีไม่ได้ปล่อยมือจากเอวบาง ยังคงกอดไว้อย่างแนบชิด ก่อนจะก้มลงถามความรู้สึกของเธอบ้าง "...คุณแน่ใจแล้วเหรอคะ" นิชาเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะย้อนถามเขา "ผมพูดกับแม่คุณขนาดนั้น คุณยังคิดว่าผมเล่นๆ อีกเหรอ" คิ้วเข้มขมวดชนกันคล้ายว่าจะไม่พอใจที่เห็นเธอยังไม่เชื่อใจเขา "ก็...เปล่าค่ะ แต่บอกตรงๆ ว่านิไม่คู่ควรกับคุณหรอกค่ะ ความรักมันไม่ใช่แค่คนสองคนรักกันแล้วทุกอย่างจะราบรื่น คุณมีครอบครัว มีสังคมสูงๆ ที่ไม่มีทางยอมรับคนธรรมดาอย่างนิ...นิเหนื่อยมามากพอแล้วค่ะ ไม่อยากเจอเรื่องยุ่งยากอะไรอีก..." ร่างบางเปิดเผยสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในใจให้เขาได้รับรู้จนหมด แววตาคู่สวยเศร้าลงเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเรื่องราวมากมายในชีวิตที่ผ่านมา "ผมขอโทษ...ที่เริ่มต้นกับคุณได้ไม่ดี ขอโทษที่เป็นหนึ่งในเรื่องร้ายๆ ในชีวิตของคุณ แต่ไม่ว่ายังไงผมก็จะไม่ยอมปล่อยมือคุณเด็ดขาด ให้โอกาสผมสักครั้ง ผมจะทำให้ค
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 23"เย่ๆ ทาเล๊~~" หลังจากที่คุณอาไฟบอกว่าจะพาไปเที่ยวทะเลในวันนั้น สองพี่น้องก็เก็บกระเป๋านั่งนับวันนับคืนรออย่างใจจดจ่อ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง อัคคีมารับแต่เช้าด้วยรถตู้คันใหญ่พร้อมคนขับส่วนตัวที่นิชาคุ้นหน้าคุ้นตาดีคือ 'พี่ชิด' คนขับรถที่เขามักเรียกใช้เวลาเดินทางออกต่างจังหวัดไกลๆ หรือเวลาขี้เกียจขับรถเอง ส่วนเจ้าลัคกี้เอาไปฝากไว้ที่โรงแรมแมวแล้ว หายห่วง เมื่อมาถึงโรงแรมก็เช็กอินแบ่งห้องกันตามที่อัคคีจองไว้ให้คือเธอกับเขาและพี่ชิดคนละห้อง ส่วนแม่และหลานๆ ห้องเดียวกัน เมื่อเก็บกระเป๋าเสร็จ เด็กๆ ก็อ้อนขอออกไปเล่นน้ำอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้งนิชา แม่และอัคคีต่างถูกหลานๆ ดึงให้ลงไปเล่นด้วยกัน แต่ด้วยความที่อายุเยอะแล้วนางพิมพาเล่นด้วยได้ไม่นานก็ขอไปนั่งดูดีกว่า สุดท้ายเลยเหลือแค่นิชากับอัคคีที่อยู่เล่นกับเด็กๆ ร่างสูงเล่นน้ำไปพลางแอบมองเลขาคนสวยไปด้วย เพราะเธอหัวเราะและยิ้มกว้างมาก เหมือนได้ปลดปล่อยตัวเองจากเรื่องเครียดๆ มากมายเพื่อเล่นสนุกกับสองพี่น้อง ทั้งที่สภาพเปียกปอนไปทั้งตัว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสวยของเธอลดน้อยลงเลยแม้แต่น้อย นิชาเงยหน้า
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 22"อะไรนะคะ? ได้ค่ะ จะรีบไป!" ร่างบางวางสายโทรศัพท์ด้วยความเคร่งเครียด เนื่องจากคุณครูประจำชั้นโทรมาเรียกให้ไปที่โรงเรียนด่วน เพราะหลานชายมีเหตุทะเลาะวิวาทกับเพื่อนที่โรงเรียน ตอนนี้รออยู่ในห้องปกครอง "มีอะไรหรือเปล่า" อัคคีถามด้วยความห่วงใย มีไม่กี่เรื่องในชีวิตที่ทำให้เลขาคนสวยเป็นเดือดเป็นร้อนได้ขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่แม่ก็ต้องเป็นหลานๆ "นิขอลาช่วงบ่ายนะคะ คุณครูแจ้งมาว่าน้องปุณณ์มีเรื่องชกต่อยที่โรงเรียน" ร่างบางพูดไปเก็บของไปด้วยความรีบเร่ง หลักๆ เลยคือเป็นห่วงเพราะเชื่อว่าหลานเธอไม่ได้เริ่มก่อนแน่นอน "ผมไปด้วย" ร่างสูงทิ้งงานลุกขึ้นทันที จะปฏิเสธก็ไม่ทัน เพราะเขาเดินนำไปก่อนแล้ว เมื่อมาถึงโรงเรียนนิชาก็ตรงไปที่ห้องปกครองทันที ก่อนจะได้รู้จากครูที่ประจำการอยู่ว่าผู้ปกครองของคู่กรณีต้องการให้เรื่องถึงผู้อำนวยการ เด็กๆ จึงถูกพาไปตัดสินที่ห้องของผู้อำนวยการ ทั้งคู่มองหน้ากันด้วยความสงสัย แค่เด็กทะเลาะกันทำไมถึงต้องไปที่ห้องผู้อำนวยการ มันเรื่องใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมครูปกครองถึงตัดสินกันเองไม่ได้ในเมื่อมันเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครอง หรือไม่คงมี 'บาง
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 21"เฮ้อออ..." นิชาถอนหายใจอย่างหัวเสีย เหตุมาจากกำลังขับรถไปทำงานอยู่ดีๆ เครื่องก็ดับ สตาร์ทไม่ติด ดีว่าค่อยๆ ประคองรถเข้าข้างทางจนปลอดภัยได้ และตอนนี้ก็กำลังยืนรอช่างอยู่บนทางด่วนท่ามกลางแสงแดดยามสายที่ไม่ได้มีแค่วิตามินดีอย่างแน่นอน ขณะที่กำลังรออยู่นั้นอัคคีก็โทรเข้ามา คาดว่าเขาน่าจะไปถึงบริษัทแล้วแต่ไม่เจอเธอเหมือนทุกวันเลยโทรถามเพราะเธอไม่ได้แจ้งลางานเอาไว้ ("คุณอยู่ไหน") "รถเสียอยู่บนทางด่วนค่ะ กำลังรอช่าง" ("ทำไมไม่รีบบอกผม! รออยู่ตรงนั้น เดี๋ยวไปรับ") "เอ่อ..." นิชาไม่ทันได้ปฏิเสธอัคคีก็วางสายไปแล้ว แถมน้ำเสียงก็ดูโกรธมากด้วย เธอก็ได้แต่งงๆ ว่าการที่เธอไม่ได้บอกเขานี่มันผิดมากขนาดนั้นเลยเหรอ หรือกลัวเธอไปทำงานสายแล้วจะทำงานไม่คุ้มค่าแรง ถ้าเป็นแบบนั้นเมื่อก่อนเขาจะรบกวนเวลาทำงานของเธอบ่อยๆ ทำไม เมื่อไม่รู้นิชาก็ไม่คิดหาคำตอบ ยังคงยืนรอช่างต่อไป อากาศแม้จะเป็นตอนเช้าแต่แดดประเทศนี้โดนนิดเดียวก็เหงื่อเริ่มซึม และมันก็เป็นคราวซวยของเธอนี่แหละที่หยิบร่มออกจากรถวันก่อนแล้วลืมเอากลับมาคืน รอสักพักในที่สุดช่างก็มา เธอแจ้งอาการรถให้เขารู้ ซึ
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 20"ทำไมคุณพ่อไม่จัดการให้ริณคะ! ปล่อยให้พวกมันเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของพวกเราได้ยังไง!?" ไอริณเดินเข้าบ้านมาอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อเห็นผู้เป็นพ่อนั่งหน้าเครียดอยู่ที่โซฟาก็ตรงเข้าไปโวยวายใส่เสียงดัง เธอคิดว่าพ่อแม่จะออกโรงปกป้องและเอาเรื่องอัคคีให้ถึงที่สุด แต่นี่กลับเงียบและยอมรับการถอนหมั้นง่ายๆ ทั้งที่เธอถูกเหยียดหยามจนไฟแค้นมันสุมอกแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว "ถ้าแกไม่รู้อะไรก็อย่าพูด!"เจ้าสัวเจนภพที่กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็เหมือนถูกสุมไฟเพิ่ม สองพ่อลูกเลยไม่มีใครยอมใคร "แล้วมันอะไรล่ะคะ พ่อก็บอกริณมาสิ!" ไอริณทั้งโกรธทั้งไม่เข้าใจ ทั้งๆ ที่ครอบครัวเราก็มีทั้งอำนาจและเงินไม่ต่างอัคคีเลยสักนิด ทำไมพ่อยังต้องไว้หน้าเขาด้วย "แกมันก็ไม่เคยรู้อะไรทั้งนั้นแหละ แทนที่จะจับอัคคีให้อยู่หมัด เลี้ยงเสียข้าวสุก!" "ทำไมพ่อจะต้องให้ความสำคัญเขาถึงขนาดนั้นด้วย เขานอกใจริณนะ!" "ศักดิ์ศรีของแกมันกินได้มั้ยล่ะ! ครอบครัวเราจะล้มละลายกันอยู่แล้วยังไม่รู้ตัวอีก บริษัทไม่ถูกมันเทคโอเวอร์ก็บุญหัวเท่าไรแล้ว!" "หมายความว่าไงคะ เราจะล้มละลายได้ยังไง!?" เมื่อถู
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 19"นิ...เจ็บมั้ย" หลังจากไอริณออกไป อัคคีก็เข้าไปถามไถ่นิชาด้วยน้ำเสียงอ่อนลง ทว่ามือที่กำลังจะยื่นไปหากลับถูกเธอปัดออกอย่างไม่ไยดี "นิอยากอยู่คนเดียวค่ะ...เชิญ" เธอชี้นิ้วไปที่ประตู ไล่เขาเสียงห้วน ไม่แม้แต่จะมองสบตา "แต่..." "นิขอร้องล่ะค่ะ! นิยังไม่พร้อมจะคุยอะไรทั้งนั้น" เมื่อพูดดีๆ ไม่ฟังร่างบางก็ตะคอกเสียงดังลั่น ไหล่บางสั่นเทิ้ม จิกมือเข้าหากันแน่นด้วยความอดทน "...." "นิขออยู่คนเดียว..." เห็นท่าทางต่อต้านไม่อยากรับฟังอะไรของนิชาแล้วอัคคีก็จนคำพูด เมื่อทำอะไรไม่ได้เขาก็ยอมออกไปจากห้อง รอให้อารมณ์เย็นก่อนค่อยมาคุยกัน ทันทีที่ประตูปิดลงร่างบางก็ทรุดนั่งบนพื้นเพราะฝืนความเจ็บที่ขาต่อไปไม่ไหว แขนด้านขวารู้สึกระบมและมีรอยถลอกจากตอนล้ม แก้มก็เจ็บและชาแถมมีเลือดออกในปาก คาดว่าคนตบคงจะใส่แรงทั้งหมดที่มี เธอสมควรที่จะโดนแบบนี้แล้วใช่ไหม?คนผิดที่แท้จริงแล้วมันคือเธอจริงๆ เหรอ?ทั้งๆ ที่คิดว่าคงด้านชาจนไม่รู้สึกอะไรแล้วน้ำตาไม่รู้มากมายมาจากไหนกลับไหลพรากไม่หยุด พอห้ามไม่ได้ก็เลยนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นจนกว่าจะระบายมันออกไปจนหมด "อึ่ก..มึง..มารับ