"ชนหน่อยหว่ะ"
"อาการมันเป็นยังไง" "ไม่รู้หว่ะ รู้แต่โคตรปวดหัว" "เออ ใจร่มร่ม" ความโชคดีของผมวันนี้ คือการมีไอ้เตอร์ไอ้กายเป็นเพื่อน ไม่ต้องพูดอะไรกันมากมาย แค่โทรตามคำเดียวพวกมันก็พร้อมจะมานั่งเป็นเพื่อนผมเหมือนตอนนี้ ก่อนที่ไอ้กายจะยื่นข้อเสนอโดยการจะเรียกสาวๆ มานั่งเป็นเพื่อน ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงไม่อิดออดและตอบรับ แต่ตอนนี้กลับรีบปฏิเสธ แค่ได้ยินคำว่า สาวๆ ของไอ้กาย หน้าของยัยลูกหมูก็ลอยมาทันที...ผมถึงกับต้องส่ายหน้าไปมาเพื่อไล่ภาพในหัว หลอนชะมัด พวกผมนั่งดื่มกันสักพัก สายตาคมๆ ของผมก็ไปสะดุดกับหุ่นหมูหมูยืนเต้นส่ายสะโพกไปมาอยู่ตรงโต๊ะถัดไปไม่ไกลจากที่ผมนั่ง ไหนจะเสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยโชว์ห่วงยางกับขาหมูนั่นอีก น่าสงสารสายตาพวกผู้ชายที่นั่งมองเธออยู่จริงๆ "ไอ้เตอร์ มินมาหรอวะ" "อืม มายชวน" "อ่อ..." ก่อนจะเหลือบไปเห็นเธอกำลังเดินไปทางห้องน้ำโซนวีไอพี ผมผู้ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมืออยู่แล้ว ลุกตามไปแกล้งยัยว่าที่คู่หมั้นซะหน่อยดีกว่า ผมยืนกอดอกพิงผนังอยู่หลายนาทียัยนั่นก็เดินออกมาจากห้องน้ำเดินเชิดหน้าหยิ่งๆ ด้วยความมั่นใจ ก่อนจะหันมาเห็นและทำตาโตใส่ผม "มาฉลองหรอคับ คุณว่าที่คู่หมั้น" "นี่ นายมาได้ยังไง" "ขับรถมา" "หลบไปเลย เกะกะ" "ยังไม่ตอบคำถามเลยนะ ยัยเตี้ย" "มากินเหล้าย้อมใจ ก่อนจะตกนรก" "ปากแจ๋วสุดสุด" "ปากแซ่บมากด้วยจ่ะ ไอ้บ้า" "แบร่" "อื้อ" ผมไม่ปล่อยให้ยัยลูกหมูที่กำลังจะเดินสะบัดหน้ากระแทกเท้ากลับโต๊ะ ลากแขนเรียวเล็กมาตรงมุมหลบสายตาผู้คนได้เป็นอย่างดี ดันให้แผ่นหลังบางชิดกำแพงและใช้สองแขนแกร่งกักขังเธอไว้ไม่ให้หนีไปไหน ก่อนจะใช้ริมฝีปากหนาของผมกดจูบริมฝีปากบางสีแดงของเธอ พยายามสอดลิ้นร้อนเข้าไปในปากเล็กเล็กที่เสียงแจ๋วใส่ผมเมื่อครู่ อยากจะรู้ว่าจะแซ่บเหมือนที่โอ้อวดรึป่าว ลิ้มลองความแซ่บอยู่นานเกือบสิบนาที จึงค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง เลิกคิ้วยียวนมองเธอที่กำลังถลึงตาเขียวใส่ผม ปากเล็กๆ บวมเจ่อ ชวนให้ผมก้มลงไปกดจูบอีกครั้ง ... จ๊วบ จุ๊บ แซ่บนิดหน่อย หึ ผมค่อยๆ ผละตัวออก เอาสองมือล้วงกระเป๋า ผิวปาก เดินกลับโต๊ะอย่างสบายใจ อยู่ๆ ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ หูก็แอบได้ยินเสียงกระแทกเท้าของเธออย่างเอาแต่ใจ เดินตามหลังผมมาอยู่ห่างๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อนๆ ผมกับเธอก็ไม่ลืมที่จะทำเนียนเป็นไม่เห็นกัน ทำตัวเฮฮาปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน สายตาผมก็ทำทีมองโน่นมองนี่ไปรอบๆ ลอบมองเธอคอยจับผิด ว่าจะไปโปรยเสน่ห์ใส่หนุ่มๆ คนไหนรึป่าว เพราะมันเป็นหนึ่งในข้อตกลงระหว่างผมกับยัยลูกหมู...จะว่าไปคืนนี้ก็ไม่ได้แย่ หึ "ฮัลโหล..." "ลงมา" "ใคร" "จำเสียงว่าที่คู่หมั้นไม่ได้" "นี่..." "10 นาที ให้ไว" ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ฉันที่กำลังนอนฝันหวานอยู่ก็ต้องตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังไม่หยุด พอกดรับสายก็เป็นนายนั่นที่โทรมาเร่งๆ ฉันแต่เช้าแถมยังกดตัดสายฉันอีก ไม่มีมารยาทสุดๆ ถ้าเจอจะหยิกปากให้เลือดออกเลยคอยดู แล้วยังจะมาให้เวลาฉันแค่สิบนาทีอีก ชิ...เชิญรอให้ฉ่ำไปเลยจ๊ะ ผ่านไปเกือบสี่สิบนาทีที่ฉันใช้ไปกับการอาบน้ำ แต่งหน้าทำผม เปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะวันนี้ฉันต้องไปลองชุดที่จะใส่ในวันหมั้น ฉันจึงเลือกหยิบเดรสยาวสีชมพูสายเดี่ยวมีซิปด้านหน้ามาใส่และรวบผมสูงคาดผมด้วยที่คาดผมสีชมพูแบรนด์ดัง ฉีดน้ำหอมนิดหน่อย ก่อนจะเดินไปเลือกกระเป๋าหรูสีขาวในตู้มาถือ และเดินลงไปหา คนขับรถที่อาสามารอรับอยู่ข้างล่าง ทันทีที่ฉันเปิดประตูรถเข้ามาหย่อนสะโพกนั่ง เสียงน่ารำคาญก็ดังขึ้น "หนึ่งชั่วโมง" "อืม นานหรอ" "หึ กล้าถามนะ" "ขับรถไปเลย พูดมาก" "แวะซื้อชาเย็นหน่อย" "จิ๊! เรื่องมากจังวะ" ฉันหันไปมองตาขวางใส่เขาทันทีที่ได้ยินเขาว่าฉัน แต่ต้องพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆ ทำใจให้เย็นที่สุด ยุบหนอ พองหนอ ยุบหนอ พองหนอ ไม่ให้ตัวเองโมโหมากจนเกินไปเดี๋ยวตีนกาจะขึ้นมาอยู่บนใบหน้าสวยๆ ของหนูมายหมด ก่อนที่เขาจะขับสปอร์ตหรูเข้าไปสั่งเครื่องดื่มผ่านช่องไดร์ฟทรูให้ฉันและเขา ฉันที่พึ่งสังเกตว่าวันนี้นายนั่นอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนปลดกระดุมโชว์แผงอกเล็กน้อย พับแขนเสื้อขึ้นถึงข้อศอกกับกางเกงยีนส์พอดีตัวขายาว พอไปวัดไปวาได้ เพราะปกติเวลาไปกับเพื่อนๆ เขามักจะอยู่ในลุคเซอร์ๆ เสื้อยืดโอเวอร์ไซต์สีขาวกับกางเกงยีนส์ขายาวเสมอ #ไม่รู้ว่าใครแสบกว่ากัน #อ่านเพลินๆ เน้นฟิลกู้ด ขำๆ กันเหมือนเดิมนะ^^"สวัสดีค่ะคุณนาย น้องหนูมาย" "น่ารักกันจังเลยนะคะ ใส่ชุดคู่กันมาด้วย" ทันทีที่เจ้าของร้านเช่าชุดเห็นฉันกับหมอนั่นเปิดประตูเข้ามาในร้าน ก็ทักทายฉัน และหยอกล้อเล็กน้อย ซึ่งพอพี่เขาพูดจบ นายนั่นก็เอามือมาโอบเอวฉันและออกแรงดึงฉันเข้าไปยืนใกล้ๆ เขาราวกับคู่รักแห่งปี หึ แสดงเก่ง"น้องหนูมายอยากได้ธีมสีอะไรดีคะ""สีขาวค่ะ""ชมพูคับ""เอ่อ... " "ลองทั้งสองสีคับ""เป็นแบบไทยประยุกต์" "หรือแบบมิมินอลมินิใจดีคะ""มินิมอลค่ะ""ไทยประยุกต์คับ""เอ่อ..." "ขอลองทั้งสองแบบคับ" "ยินดีค่ะ งั้นเชิญทางนี้ค่ะ"แค่เริ่มต้น ฉันกับเขาก็มีความเห็นไม่ตรงกันแล้ว ฉันได้แต่บ่นอยู่ในใจ ก่อนจะส่งยิ้มให้พี่พนักงานเบาเบา และเดินตามหลังเข้าไปในห้องลอง แต่ฉันว่า ฉันต้องตกลงกับเขาสักหน่อยจะได้ไม่เสียเวลา จึงใช้มือเล็กไปดึงเสื้อเขาให้หยุด ก่อนจะส่งสายตาหวาน กัดฟันให้เหมือนว่ากำลังพูดคุยกันด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขอยู่"นายหยุดพูด แล้วเงียบเลยนะ" "ทำไมฉันจะพูดไม่ได้" "เดี๋ยวก็โป๊ะแตกหรอก""เธอนั่นแหละ อย่า เรื่อง มาก" พูดจบเขาก็ดึงมือฉันไปจับไว้ราวกับรักกันหวานชื่น แล้วพาเดินไปดูชุดที่แขวนเรียงรายนับพัน ถึงมันจะเ
"พรุ่งนี้สิบโมง ห้ามสาย""จิ๊ ไปไหนอีก" "ลองแหวน" "น่ารำคาญ" "นี่..." "พูดดีดี""ดี... ดี" "อื้อออ" กึก! "โอ้ย ยัยหมูอ้วน เธอกัดปากฉันเหรอ" ทันทีที่เธอได้ยินคำสั่งผมก็ชักสีหน้าหยิ่งๆ แสดงอาการไม่พอใจออกมา แถมยังลอยหน้าลอยตาต่อปากต่อคำเก่งสุดสุด ทำผมอดหมันไส้ไม่ได้จึงเอื้อมมือไปดึงแขนเล็กที่กำลังจะก้าวลงจากรถให้หันกลับมาอย่างแรงจนกระแทกเข้ากับหน้าอกแกร่งของผม ผมใช้มือหนารวบข้อมือทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว เธอจะได้ไม่ใช้มันมาทำร้ายผม ส่วนมืออีกข้างก็ทำหน้าที่ล๊อคลำคอขาวไม่ให้เลื่อนหนี ก่อนจะกดริมฝีปากหนาลงไปที่ริมฝีปากแดงด้วยอารมณ์รุนแรง ทุกครั้งที่เห็นปากเล็กเล็กเถียงฉอดฉอดใส่ผม ทำผมอยากจะสั่งสอนด้วยปากให้เข็ดสักหน่อย ก่อนจะโดนปากแดงแดงฟันขาวขาวนั่นกัดเข้าที่ปาก แล้วสะบัดก้นลงจากรถผมด้วยสีหน้าบึ้งตึงแล้ววิ่งขึ้นห้องเธอทันที"ไอ้บ้านี่ ชอบจูบนักนะ"ฉันกำลังใช้มือเล็กเล็กถูที่ปากอย่างแรงอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ ราวกับจะเช็ดรอยจูบของนายนั่นให้หมด และใช้น้ำยาบ้วนปากอีกเกือบสิบรอบ สงสัยวันหยุดนี้ต้องชวนยัยมินกันยัยลลิลไปเดินสายไหว้พระทำบุญสะเดาะเคราะห์สักหน่อยแล้ว ว่าแล้
"ลูกหมู" "อะไร" "มาช่วยเด็ดใบกะเพราหน่อย" "ฉันยุ่งอยู่" "ทำอะไร ยุ่ง" "นับ 1 ถึง 10"ผมถึงกับต้องส่ายหัวอย่างเบื่อหน่ายทันทีที่เธอบอกว่ายุ่ง ทั้งๆ ที่ผมเห็นนอนคว่ำอยู่บนโซฟาดูซีรีย์ในไอแพดนอนตีขาหมูไปมาอย่างสบายใจ กางเกงก็สั้นยังจะยกขาสูงจนเกือบจะเห็นแก้มก้นอยู่แล้ว ถ้าไม่ติดว่ายืนหั่นพริกอยู่ ผมจะเดินไปฟาดสักที ไม่ระวังตัวบ้างเลย ไหนจะเสื้อกล้ามคอเว้าลึกจนเห็นก้อนไขมันกลมๆ สองก้อนอีก ทำผมเสียสมาธิในการทำกับข้าวจนต้องยืนหันหลังแล้วตะโกนคุยกับเธอแทน"นาย ฉันอยากกินน้ำเลม่อน" "มาช่วยเด็ดใบกะเพรา แล้วจะทำให้""ปลอกกระเทียมด้วย""สรุปมาทำให้ฉันกิน หรือมาใช้ฉัน""เออๆ ทำเองก็ได้วะ" ทันทีที่เธอเดินเข้ามาในห้องครัวก็แปลงร่างเป็นลูกหมูตัวยุ่ง หยิบโน่นหยิบนี่มาคอยแกล้งผมอย่างก้านใบกะเพรานี่ คงคิดว่าเป็นไม้วิเศษของแม่มดมั้ง เอามาจิ้มๆ อยู่ที่แขนผมบ้าง แก้มสากผมบ้าง ชี้ออกคำสั่งกับผมอีก จนผมมองตาขวางด้วยความหงุดหงิด ก็หัวเราะคิกคักชอบใจเหมือนเด็กกำลังเล่นของเล่น แถมยังยืนพูดเสียงแจ๋วแจ๋ว จนบางทีผมก็คิดว่ายัยนี่ยืนคุยกับแม่ซื้ออยู่ พอผมหางานให้เธอทำเพิ่มก็งอแงไม่ยอมทำ ผมจึงตัดปัญหาเอามาทำ
"แต๊งกิ้วนะจ๊ะลลิลเพื่อนเลิฟ""อุตส่าห์ขับรถวนมาส่งฉัน" "สบายมากแก ฉันไปก่อนนะ" "บ๊ายบาย ขับรถดีดีแก"ฉันเดินฮัมเพลงเข้ามาคอนโดด้วยความสบายใจ หวังว่าหลังจากนี้ตัวฉันจะหมดเคราะห์หมดโศกหรือถ้ายังไม่หมดก็ขอให้เบาลงก็ยังดี ชีวิตหนูมายจะได้กลับไปสงบสุขเหมือนเดิม แต่จะว่าไปโทรศัพท์ของฉันก็เงียบไปนานหลายชั่วโมงแล้วนะ สงสัยพรที่ฉันขอไหว้จะเห็นผลทันตาเลย รู้งี้ชวนสองสาวไปตั้งนานแล้วดีกว่า เฮ้อ... สบายใจจัง ระหว่างที่ฉันกำลังกดรหัสประตูอยู่หน้าห้อง ก็สัมผัสได้ถึงอากาศเย็นๆ ที่ลอดผ่านออกมาจากช่องใต้ประตู เมื่อเช้าฉันว่าฉันปิดไฟปิดแอร์เดินดูดีแล้วนี่นา หรือว่าฉันลืมปิดแอร์หรอ หรือคุณพ่อคุณแม่จะแอบมาเซอร์ไพร์สลูกสาวคนสวยกันนะ ไหวเท่าความคิด ฉันจึงรีบเปิดประตูเข้าไปทันที แต่สองขาเรียวเล็กของฉันต้องหยุดชะงัก รอยยิ้มสวยๆ ของฉันต้องหุบลงทันที เพราะมีมารผจญนั่งหน้าบึ้งตึงกอดอกไขว่ห้างแถมยังขมวดคิ้วเข้มมองฉันด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาอีก หรือว่าฉันต้องบินไปมูที่ไต้หวันให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยดีนะ"ฉันนั่งอยู่ไม่เห็นหรอ""เห็น แต่ไม่อยากทัก""ไปไหนมา" "เรื่องของฉัน""ทำไมไม่อ่านข้อความ ไม่รับสาย" "ไม
"ยัยมาย""คอนเทนต์ที่แล้วที่แกช่วยฉันถ่าย ยอดวิวพุ่งมาก""มีแต่หนุ่มๆ มาเมนต์ขอเปิดว๊าบแกทั้งนั้นเลย""แกดูสิ" "ก็ฉันสวยจริงๆ" "มั่นมาก / มั่นมาก" เสียงเพื่อนสาวของฉันดังขึ้นพร้อมเพียงกันทันทีที่ได้ยินคำตอบของฉัน หลังจากจบคลาสฉันก็หนีตามยัยลลินกับยัยมินมาหลบภัยที่คาเฟ่มินิมินนี่ทันที เรานั่งคุยเล่นกันบ้าง ช่วยยัยมินเสิร์ฟเครื่องดื่มช่วงที่มีลูกค้าเยอะบ้าง หรือฉันจะมาสมัครเป็นพนักงานพาสไทม์คาเฟ่ยัยมินดี ให้นางจ่ายค่าจ้างเป็นชาเย็นวันละแก้วก็พอ กำลังนั่งคิดอะไรเพลินยัยสองคนก็เรียกให้ฉันดูข่าวซุบซิบหน้าเพจมหาวิทยาลัยฯ มิหน่าละวันนี้สมาร์ทโฟนเครื่องหรูของฉันถึงได้เงียบกริบ"หรือว่าพี่นายจะไม่โสดแล้ว""ดาวคณะนิเทศน์ฯ นี่ฉันจำได้" "เหมือน ฉันเคยได้ยินเตอร์พูดว่า เป็นเพื่อนๆกันนะ""ยัยมาย แกว่าจริง หรือจ้อจี้""คอมเมนต์เดียวที่ฉันมี คือฉันสวยกว่า" "จ้า / แม่คนสวย" "คิกคิก" ฉันต้องรีบทำเป็นเนียนไม่รู้ไม่ชี้ไม่แสดงความคิดเห็นทันที เมื่อเห็นภาพข่าวในเพจ ภาพหมอนั่นกำลังเปิดประตูรถให้สาวเข้าไปนั่งมีรอยยิ้มบางเบาให้แก่กัน ฉันถึงกับต้องแอบหลบสายตาเพื่อนที่กำลังเม้าท์มอยเบะปากกลอกตามองบนอย่าง
"นี่ ลูกหมู ทำไมชอบใส่กระโปรงสั้นจังวะ""ก็ขาชั้นสวย""ขาหมู มีแต่ไขมันเนี่ยนะ สวย""เห็นแล้วอยากกินคากิ""ถ้าจะหิวขนาดนั้นก็ไปซื้อข้าวกินเถอะ""อยากกินลูกหมูแทน""..."เห็นมั้ยละ หมอนี่หน่ะพูดดีกับฉันได้ไม่นานหรอก ก็กลับมาหาเรื่องว่าฉันอีกละ ทำมาเป็นยิ้มกรุ่มกริ่มยักคิ้วหลิ่วตาใส่ฉันอีก หนวกหูชะมัดเลย อยากจะเอานิ้วเล็กเล็กของฉันจิ้มตาเขาสักที แถมยังทำมือรุ่มร่ามมาวางบนหน้าขาขาวเนียนและบีบเล่นอีก ฉันต้องไปมูที่ไหนใครก็ได้ช่วยบอกฉันที ฉันจึงเลือกหยิบแอร์พอร์ตและสมาร์ทโฟนขึ้นมาเปิดเพลงฟังเพราะเพราะดีกว่า สบายหูสบายอารมณ์กว่าเสียงนายนี่ตั้งเยอะ ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงปล่อยใจไปกับเสียงเพลง แต่ความสุขก็มักจะอยู่กับฉันได้ไม่นาน ไม่นานจริงๆ เพราะไอ้พิทบูลนี่ยื่นมือมาแย่งแอร์พอร์ตจากหูฉันไปข้างหนึ่งแล้วเอาไปใส่ที่หูเขา บอกว่าจะฟังด้วย ฉันได้แต่ถลึงตามองเขาตาเขียวพอมาถึงคอนโด กุ้งถังกับเล้งแซ่บก็มาถึงพอดีฉันเลยลงจากรถและเดินตรงไปรับอาหาร ซึ่งพอเขาจอดรถเสร็จก็รีบวิ่งมารับอาหารในมือฉันไปถือไว้ในมือของเขา และพาเดินกันเข้าลิฟต์ ถ้าจะยืนในลิฟต์นิ่งๆ เงียบไม่กวนประสาทใส่ฉันคงไม่ใช่เขา เพราะเขาเล่นเดิน
"ฉันขอเพิ่มข้อตกลงอีกข้อ""ต่อไปนี้นายต้องอยู่ห่างจากฉันอย่างน้อยหนึ่งเมตร""หึ ทำไม กลัว?""ฉันไม่ได้กลัว แต่ฉันจะเก็บไว้ให้แฟนในอนาคตของฉัน""ฝันเก่ง" "ลุกไปเลย""จะกินต่อมั้ย""... แต่นายต้องไปนั่งในครัว"ยัยลูกหมูนี่ฝันกลางวันเก่ง แถมยังมาเพิ่มข้อตกลงเด็กน้อย แล้วยังมาไล่ผมให้ไปนั่งกินที่อื่นอีก คิดว่าระยะห่างแค่นี้ผมจะทำอะไรเธอไม่ได้เลยสินะ ยัยอ้วน...ผมได้แต่คิดในใจแล้วขยับตัวกลับไปตีหน้ามึนนั่งที่เดิม จนยัยลูกหมูนั่งทำหน้ายักษ์เหมือนผีเสื้อสมุทรมองผมตาขวางจนแทบจะถลนออกมาจากตา ผมถึงกับนั่งกินไปขำไป ตลกชะมัดเป็นผมอีกแล้วที่ต้องเป็นคนเก็บจานไปล้างรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นพ่อบ้านเข้าไปทุกวัน เพราะพอเธอกินอิ่ม ก็สะบัดก้นกลมกลมเดินเข้าห้องนอนไปทันที ไม่หันมาพูดกับผมสักคำ แต่ปล่อยไปก่อนเดี๋ยวสักพักก็จะเดินออกมาเอง มาหาของกินอีกเพราะเธอยังไม่ได้กินของหวานล้างปากแบบที่ชอบอ้างกับผม จนล้างจานเสร็จพร้อมเช็ดจนแห้งแล้ววางเรียงบนชั้นจนเรียบร้อย ก็ขอพักเหนื่อยสักหน่อย พาตัวเองไปนอนเล่นเกมส์อยู่บนโซฟาที่เราพึ่งนั่งกินกันและเกือบจะทำอะไรต่อมิอะไรจนเลยเถิดไปเมื่อครู่ ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ผมก
และแล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ฉันต้องตื่นมาแต่งหน้าทำผมตั้งแต่ตีสี่ ดีที่เมื่อคืนฉันมาส์กหน้าทิ้งไว้และเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ ทำให้วันนี้ผิวหน้าฉันฉ่ำฟูดูสุขภาพดีไม่ต้องแต่งอะไรมากเน้นแค่ดวงตาให้กลมโตดูคมมากขึ้นและเพิ่มขนตานิดหน่อยให้พอเป็นแพงอนยาว ลงแก้มอีกนิดเติมหางคิ้วนิดหน่อย และทาปากอวบอิ่มให้ชุ่มฉ่ำ เกล้าผมดัดรอนเป็นหางม้าประดับด้วยเครื่องประดับที่เข้ากับชุดไทยบรมพิมานที่จะใส่ในวันนี้ ซึ่งเสร็จทันเวลาใส่บาตรเช้าพอดีฉันค่อยๆ เดินลงบันไดมาจากชั้นสองของบ้าน เพื่อมาหาคุณพ่อคุณแม่ที่นั่งรออยู่พร้อมญาติญาติที่กำลังทยอยมา รวมถึงคุณลุงคุณป้าและเขาก็นั่งรออยู่พร้อมหน้า ทันทีที่เขาเห็นฉันกำลังก้าวลงบันไดทีละขั้นด้วยความระมัดระวังเพราะรองเท้าส้นสูงแหลมและผ้าถุงยาวแคบที่ไม่ค่อยถนัด เขาก็ลุกจากโซฟาเดินมารอรับฉันตรงบันไดขั้นสุดท้าย พร้อมยื่นมือมาให้ฉันจับพยุงตัวไม่ให้ก้าวพลาด ฉันที่กำลังเดินยิ้มลงมาสวยๆ เกือบจะต้องหุบยิ้มเพราะปากของเขา แต่ก็ต้องกัดฟันยิ้มเอาไว้เพื่อไม่ให้คุณพ่อคุณแม่สงสัยและดูมีพิรุธ"แต่งตั้งนาน ได้แค่นี้""วันหลังฉันแต่งให้ก็ได้""ถ้าไม่รู้จะพูดอะไร แนะนำให้เงียบ""..."อันที่จร
"ลูกหมู เอารูปที่ไปถ่ายมาดูหน่อย""สวย สวย ไม่ต้องดูหรอก""เอา มา ดู" "จิ๊"ผมต้องรีบเอื้อมไปคว้าเอวเธอที่กำลังจะเดินหนีดูมีพิรุธมานั่งลงบนตักแกร่งแล้วใช้แขนข้างหนึ่งโอบเอาไว้แน่น ส่วนอีกข้างไปหยิบมือถือของเธอบังคับให้เธอปลดล็อคหน้าเจอแล้วเปิดเข้าไปในแกลอรี่รูปที่เธอถ่ายในวันนี้ นอกจากภาพที่ไอ้เตอร์ส่งมาให้แล้ว ยังมีชุดที่คล้ายๆ บิกินีต่างตรงข้างล่างเป็นกางเกงขาสั้นสีขาวส่วนข้างบนก็บราบิกินี่แบบคล้องคอนี่แหละ แถมท่าทางที่โพสต์ทำเส้นเลือดตรงขมับผมเต้นตุบตุบ ก่อนจะก้มลงไปงับที่แขนเล็กแรงแรงระบายความหงุดหงิด ยิ่งฟังเสียงแจ๋วแจ๋วเถียงข้างๆ คูๆ อีก ทำผมอดเลื่อนมือไปขยำก้อนกลมแรงแรงไม่ได้ "ไหนบอกใสใสไง""นี่ก็ใสใส""มันไม่เหมือนเรฟที่เธอเปิดให้ฉันดูเลยนะ""ชุดไม่เหมือน แต่ท่าเหมือนสุดสุด""อ๊ะ""แถเก่ง""บ่นเก่ง""ชอบโชว์นักนะ ไขมันเนี่ย""ถ้าบ่นอีกคำเดียว นายนอนโซฟา" "จิ๊"อยู่อยู่คดีก็พลิกมาหาผมเฉยให้ตายเถอะ! ผมจึงปล่อยให้เธอนั่งเล่นมือถืออยู่บนตักผมราวกับเป็นเบาะรองนั่ง ส่วนผมก็นั่งเล่นเกมส์ต่อเงียบเงียบเพราะไม่อยากนอนบนโซฟาแข็งแข็ง มีหันมาถามผมบ้างอยากจะลงรูปในไอจีให้ผมช่วยเลือกให้หน
ผมกำลังนั่งเล่นเกมส์อยู่เพลินๆ ในห้องนั่งเล่นที่ห้องของเธอ และตอนนี้เป็นห้องของผมด้วย แต่อยู่ๆ ไอ้เตอร์เพื่อนผมก็ส่งรูปเข้าข้อความผมมารัวรัว จนผมต้องเปิดเข้าไปดูถึงกับขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดทันทีที่เห็น เป็นภาพยัยลูกหมูที่อยู่ในชุดเสื้อครอปไหล่ตกโชว์เอวลอยขึ้นจนเห็นบราด้านในกับกางเกงขาสั้นกุดเอวสูง ซึ่งมันเป็นคนละชุดกับที่เธอแต่งออกไปจากห้อง ยืนโพสต์ท่าก้มก้มเงยเงยอยู่กับลลิลเพื่อนของเธอ เพราะวันนี้เธอบอกว่ามีนัดถ่ายแบบกับเพื่อนในคอนเซ็ปต์ใสใสซนซน ซึ่งผมพอเห็นรูปตัวอย่างที่เธอเปิดให้ดูมันก็ดูเรียบร้อยดี ผมก็เลยไม่ได้ว่าหรือออกความเห็นอะไร แถมลลิลก็มารับออกไปตั้งแต่เช้า ไม่ทันได้สังเกตว่าเธอแบกกระเป๋าสะพายใบใหญ่ไปคงจะมีเสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยอยู่ในนั้น แสบสุดสุด"เจอกันแน่ ยัยลูกหมู"ผมจึงรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สีขาวสบายแบบที่ผมชอบกับกางเกงยีนส์ขากระบอกตัวโปรด แล้วไปเปลี่ยนรถอีกคันที่คอนโดผมเพื่อไม่ให้มินกับลลิลจำรถผมได้แล้วจะสงสัย ส่วนไอ้เตอร์ผมไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะมันคงแอบรู้อะไรมาไม่อย่างนั้นคงไม่จงใจส่งมาหาผมส่วนตัวแบบนี้ แล้วรีบเหยียบคันเร่งตร
ฟอด ฟอด"ปล่อยเลย ไอ้พิทบูล""กัดฉันจนเป็นรอยเต็มตัวแล้วเนี่ย""ไม่ปล่อย""เธอทำให้ฉันไม่ได้ไปเที่ยว""ต้องรับผิดชอบ""เพราะฉัน?""อืมหึ""อ๊ะ""นี่ หมันเขี้ยวหว่ะ"จุ๊บ จ๊วบผมที่กำลังนอนซบหน้าซุกก้อนนุ่มนิ่มและกอดเธอไว้ในอ้อมแขนบนโซฟาตัวเขื่องสนามรบของเราเมื่อชั่วโมงที่แล้ว หูก็คอยฟังเธองอแงใส่ผมทันทีที่หายเหนื่อย ก่อนจะยัดเยียดข้อหาให้เธอกลับเพราะอยากจะหาเรื่องกินลูกหมูตัวกลมกลมผิวอมชมพูนี่ต่อ ปากร้อนของผมจู่โจมเข้าที่ภูเขาลูกใหญ่ตรงหน้าทันทีไม่รอให้เธอได้คัดค้าน ผิวของเธอมันนุ่มลื่นจนมือหนาของผมไม่อยากจะปล่อย แก้มกลมกลมของเธอมันหอมจนอยากจะกดจมูกลงไปอยู่ซ้ำซ้ำ ปากของเธอมันหวานจนริมฝีปากร้อนของผมอยากจะชิมแล้วชิมอีก และอยากจะไล่ชิมไปตั้งตัวอีกครั้ง จึงค่อยๆ ไล่ลงไปค่อยๆ ชิมซอกคอนิด หัวไหล่มนหน่อย ขบเม้มต้นแขนเล็กน้อยน้อย ไล่ลงมาตามหน้าท้องแบนราบไล่เลียจนทั่ว แล้วมาหยุดตรงเนียนนุ่มสามเหลี่ยมที่แดงระเรื่อเพราะฝีมือลูกชายผม ก่อนจะค่อยๆ ใช้ลิ้นไล่เลียไปตามรอยแยกจนเธอถอยหนี สองมือร้ายของผมจึงต้องเลื่อนไปจับล็อคสะโพกกลมของเธอไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหนได้อีก และลงลิ้นจัดการเธอต่อทันทีไม่ให้เธอได
ฉันกำลังโดนนายนั่นล็อคแขนทั้งสองข้างด้วยมือหนาของเขาแล้วบังคับให้สบตามองเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเลี่ยงฉันก็โดนไล่ต้อนโดยการหอมแก้ม อันที่จริงฉันรีบเดินหนีเข้าห้องนอนมาเพราะรู้สึกหงุดหงิดกับข้อความนั่นจนไม่อยากอยู่ใกล้คนเจ้าชู้ เลยเลือกมาสงบสติอารมณ์คนเดียวเงียบๆ แต่พอได้ยินเสียงเขาเรียกและบอกว่าจะออกไปข้างนอกมันก็ทำให้ฉันคิดไปต่างต่างนานาความรู้สึกน้อยใจก็เริ่มค่อยๆ เพิ่มขึ้น ความใกล้ชิดที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ก่อนหมั้นจนวันนี้มันก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกหวง จนน้ำใสใสไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวอยู่นานนับนาที จนเขาส่งข้อความมาให้หยิบเสื้อกับกางเกงให้ฉันจึงลุกไปหยิบและยื่นออกไปให้เขาโดยที่ตัวแอบอยู่ด้านหลังประตูไม่อยากเห็นหน้าเขาและไม่อยากให้เขาเห็นฉันร้องไห้ด้วย จนเขามาคุกเข่าอธิบายให้ฉันฟังอย่างใจเย็นด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ฉ้นก็แอบดีใจอย่างบอกไม่ถูก ใจฉันมันอดสั่นไหวเพราะเขาไม่ได้เลยฟอด"แสบ""ไหนจะไปเที่ยว""รีบไปสิ""ไม่อยากไปแล้ว"จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บเขาจูบฉันอยู่นานหลายนาทีก่อนจะค่อยๆ เลื่อนไปจูบข้างแก้ม ลากริมฝีกปากร้อนไปจูบที่ใบหูขาวของฉัน ไล่ลงมาตามลำคอแล้วหัวไหล่มน ฉันในตอนนี้ที่อยู่ในเ
"นาย กินโรตีสายไหมมั้ย""ฉันม้วนเผื่อ""กินไม่หมดก็บอก""ดี ไม่ต้องกิน ฉันกินเอง""อื้อ""จุ๊บ""อืม อร่อย""อ้วน กินอีก"ฉันอุตส่าห์ใจดีนั่งม้วนโรตีสายไหมอยู่ที่พื้นตรงโซฟาหน้าทีวีเรียงใส่จานไว้เผื่อเขาที่นั่งเล่นเกมส์อยู่บนโซฟาจะได้เอื้อมมาหยิบกินได้ง่ายง่าย ไม่ต้องมานั่งม้วนเอง แต่ไอ้พิทบูลก็คือไอ้พิทบูลนั่นแหละ ต้องหาเรื่องพูดว่าฉันคอยเถียงฉัน พอฉันหยิบขึ้นมากินเองก็มาทำนิสัยเสียโน้มหน้าเข้ามาเอาปากเขามาแย่งจากปากของฉันที่กำลังกัดอยู่แถมมาขโมยจุ๊บฉันอีก ก่อนจะตีมึนเด้งตัวกลับไปนั่งเล่นเกมส์เหมือนเดิม ส่วนฉันทำได้แต่หันไปมองเขาตาขวางแล้วกลับมากินต่อด้วยสีหน้าที่แดงเป็นมะเขือเทศ จนตอนนี้กลายเป็นว่าฉันต้องคอยป้อนเขาไปด้วย สบายเกินหน้าเกินตาไปมากเรานั่งเล่นกันอยู่บนโซฟาคนละมุมโดยที่ฉันดูซีรีย์ที่พระเอกหล่อสุดสุดจนฉันอยากทะลุจอเข้าไปเป็นนางเอกในฉากเลิฟซีนมาก ส่วนเขาก็นั่งเล่นเกมส์เหมือนเดิมไม่ขยับไปไหน อยู่กันอย่างนี้นานหลายชั่วโมงโดยไม่มีเสียงทะเลาะมีแต่ขายาวยาวที่ยื่นเหยียดมาวางไว้บนตักเล็กของฉัน ทำฉันแอบดึงขนหน้าแข้งเขาออกไปหลายเส้นด้วยความหมันไส้ ก่อนจะยกขาหนักที่พาดอยู่ออกแล้วลุก
"เขตนาย แต่ห้องฉัน""ได้หรอ อ้วน""ไหนดูหน่อย ถลอกยัง""ไม่รู้ไม่ชี้ ไปออกกำลังกายดีกว่า""แบร่"ฉันทำเนียนกลบเกลื่อนอย่างเขินอายเพราะยอมจำนนกับหลักฐานที่เห็นเมื่อตื่นขึ้นมาเป็นภาพที่ฉันนอนกอดเขาไว้แน่นเพราะคิดว่าเขาเป็นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่ฉันอุ้มมาวางแบ่งเขตแดนกับเขาเมื่อคืน ก่อนจะไปล้างหน้าเปลี่ยนจากชุดนอนเป็นชุดพร้อมออกกำลังกายเป็นชุดรัดรูปกระชับสัดส่วนตัวเสื้อด้านบนเป็นครอปสั้นสายเดี่ยวสีชมพู ใส่คู่กับกางเกงขายาวรัดรูปเข้าชุดกัน และเดินผ่านเขาที่นั่งเล่นเกมส์อยู่บนเตียงไปทางประตู เพื่อออกไปใส่รองเท้าผ้าใบเตรียมขึ้นไปห้องฟิตเนสส่วนกลางของคอนโด แต่ก็ต้องหันกลับมาเพราะอยู่ดีดีเขาก็มาโวยวายใส่ฉัน กอดอกมองหน้าฉันด้วยสายตาไม่พอใจ ไม่รู้ว่าเป็นวัยทองรึไง"ลูกหมู ใส่ชุดอะไรของเธอ""ก็ชุดออกกำลังกายไง""ไปเปลี่ยน""อะไรของนาย""ไปเปลี่ยนชุด ไม่เอาชุดนี้""ชุดนี้แหละ""จิ๊""งั้นออกอยู่ในห้อง ไม่ต้องขึ้นไป""มีมั้ยลู่วิ่ง""ดื้อจังวะ"ฉันเหนื่อยที่จะเถียงกับเขา อยู่ๆ ก็สั่งฉันอย่างเอาแต่ใจใส่ฉันแต่เช้า เลยรีบเดินออกมาแล้วตรงเข้าลิฟต์ขึ้นไปห้องฟิตเนสทันที ช่วงนี้ฉันต้องกลับมาออกกำลังกายและคุม
และแล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ฉันต้องตื่นมาแต่งหน้าทำผมตั้งแต่ตีสี่ ดีที่เมื่อคืนฉันมาส์กหน้าทิ้งไว้และเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ ทำให้วันนี้ผิวหน้าฉันฉ่ำฟูดูสุขภาพดีไม่ต้องแต่งอะไรมากเน้นแค่ดวงตาให้กลมโตดูคมมากขึ้นและเพิ่มขนตานิดหน่อยให้พอเป็นแพงอนยาว ลงแก้มอีกนิดเติมหางคิ้วนิดหน่อย และทาปากอวบอิ่มให้ชุ่มฉ่ำ เกล้าผมดัดรอนเป็นหางม้าประดับด้วยเครื่องประดับที่เข้ากับชุดไทยบรมพิมานที่จะใส่ในวันนี้ ซึ่งเสร็จทันเวลาใส่บาตรเช้าพอดีฉันค่อยๆ เดินลงบันไดมาจากชั้นสองของบ้าน เพื่อมาหาคุณพ่อคุณแม่ที่นั่งรออยู่พร้อมญาติญาติที่กำลังทยอยมา รวมถึงคุณลุงคุณป้าและเขาก็นั่งรออยู่พร้อมหน้า ทันทีที่เขาเห็นฉันกำลังก้าวลงบันไดทีละขั้นด้วยความระมัดระวังเพราะรองเท้าส้นสูงแหลมและผ้าถุงยาวแคบที่ไม่ค่อยถนัด เขาก็ลุกจากโซฟาเดินมารอรับฉันตรงบันไดขั้นสุดท้าย พร้อมยื่นมือมาให้ฉันจับพยุงตัวไม่ให้ก้าวพลาด ฉันที่กำลังเดินยิ้มลงมาสวยๆ เกือบจะต้องหุบยิ้มเพราะปากของเขา แต่ก็ต้องกัดฟันยิ้มเอาไว้เพื่อไม่ให้คุณพ่อคุณแม่สงสัยและดูมีพิรุธ"แต่งตั้งนาน ได้แค่นี้""วันหลังฉันแต่งให้ก็ได้""ถ้าไม่รู้จะพูดอะไร แนะนำให้เงียบ""..."อันที่จร
"ฉันขอเพิ่มข้อตกลงอีกข้อ""ต่อไปนี้นายต้องอยู่ห่างจากฉันอย่างน้อยหนึ่งเมตร""หึ ทำไม กลัว?""ฉันไม่ได้กลัว แต่ฉันจะเก็บไว้ให้แฟนในอนาคตของฉัน""ฝันเก่ง" "ลุกไปเลย""จะกินต่อมั้ย""... แต่นายต้องไปนั่งในครัว"ยัยลูกหมูนี่ฝันกลางวันเก่ง แถมยังมาเพิ่มข้อตกลงเด็กน้อย แล้วยังมาไล่ผมให้ไปนั่งกินที่อื่นอีก คิดว่าระยะห่างแค่นี้ผมจะทำอะไรเธอไม่ได้เลยสินะ ยัยอ้วน...ผมได้แต่คิดในใจแล้วขยับตัวกลับไปตีหน้ามึนนั่งที่เดิม จนยัยลูกหมูนั่งทำหน้ายักษ์เหมือนผีเสื้อสมุทรมองผมตาขวางจนแทบจะถลนออกมาจากตา ผมถึงกับนั่งกินไปขำไป ตลกชะมัดเป็นผมอีกแล้วที่ต้องเป็นคนเก็บจานไปล้างรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นพ่อบ้านเข้าไปทุกวัน เพราะพอเธอกินอิ่ม ก็สะบัดก้นกลมกลมเดินเข้าห้องนอนไปทันที ไม่หันมาพูดกับผมสักคำ แต่ปล่อยไปก่อนเดี๋ยวสักพักก็จะเดินออกมาเอง มาหาของกินอีกเพราะเธอยังไม่ได้กินของหวานล้างปากแบบที่ชอบอ้างกับผม จนล้างจานเสร็จพร้อมเช็ดจนแห้งแล้ววางเรียงบนชั้นจนเรียบร้อย ก็ขอพักเหนื่อยสักหน่อย พาตัวเองไปนอนเล่นเกมส์อยู่บนโซฟาที่เราพึ่งนั่งกินกันและเกือบจะทำอะไรต่อมิอะไรจนเลยเถิดไปเมื่อครู่ ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ผมก
"นี่ ลูกหมู ทำไมชอบใส่กระโปรงสั้นจังวะ""ก็ขาชั้นสวย""ขาหมู มีแต่ไขมันเนี่ยนะ สวย""เห็นแล้วอยากกินคากิ""ถ้าจะหิวขนาดนั้นก็ไปซื้อข้าวกินเถอะ""อยากกินลูกหมูแทน""..."เห็นมั้ยละ หมอนี่หน่ะพูดดีกับฉันได้ไม่นานหรอก ก็กลับมาหาเรื่องว่าฉันอีกละ ทำมาเป็นยิ้มกรุ่มกริ่มยักคิ้วหลิ่วตาใส่ฉันอีก หนวกหูชะมัดเลย อยากจะเอานิ้วเล็กเล็กของฉันจิ้มตาเขาสักที แถมยังทำมือรุ่มร่ามมาวางบนหน้าขาขาวเนียนและบีบเล่นอีก ฉันต้องไปมูที่ไหนใครก็ได้ช่วยบอกฉันที ฉันจึงเลือกหยิบแอร์พอร์ตและสมาร์ทโฟนขึ้นมาเปิดเพลงฟังเพราะเพราะดีกว่า สบายหูสบายอารมณ์กว่าเสียงนายนี่ตั้งเยอะ ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงปล่อยใจไปกับเสียงเพลง แต่ความสุขก็มักจะอยู่กับฉันได้ไม่นาน ไม่นานจริงๆ เพราะไอ้พิทบูลนี่ยื่นมือมาแย่งแอร์พอร์ตจากหูฉันไปข้างหนึ่งแล้วเอาไปใส่ที่หูเขา บอกว่าจะฟังด้วย ฉันได้แต่ถลึงตามองเขาตาเขียวพอมาถึงคอนโด กุ้งถังกับเล้งแซ่บก็มาถึงพอดีฉันเลยลงจากรถและเดินตรงไปรับอาหาร ซึ่งพอเขาจอดรถเสร็จก็รีบวิ่งมารับอาหารในมือฉันไปถือไว้ในมือของเขา และพาเดินกันเข้าลิฟต์ ถ้าจะยืนในลิฟต์นิ่งๆ เงียบไม่กวนประสาทใส่ฉันคงไม่ใช่เขา เพราะเขาเล่นเดิน