"ชนหน่อยหว่ะ"
"อาการมันเป็นยังไง" "ไม่รู้หว่ะ รู้แต่โคตรปวดหัว" "เออ ใจร่มร่ม" ความโชคดีของผมวันนี้ คือการมีไอ้เตอร์ไอ้กายเป็นเพื่อน ไม่ต้องพูดอะไรกันมากมาย แค่โทรตามคำเดียวพวกมันก็พร้อมจะมานั่งเป็นเพื่อนผมเหมือนตอนนี้ ก่อนที่ไอ้กายจะยื่นข้อเสนอโดยการจะเรียกสาวๆ มานั่งเป็นเพื่อน ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงไม่อิดออดและตอบรับ แต่ตอนนี้กลับรีบปฏิเสธ แค่ได้ยินคำว่า สาวๆ ของไอ้กาย หน้าของยัยลูกหมูก็ลอยมาทันที...ผมถึงกับต้องส่ายหน้าไปมาเพื่อไล่ภาพในหัว หลอนชะมัด พวกผมนั่งดื่มกันสักพัก สายตาคมๆ ของผมก็ไปสะดุดกับหุ่นหมูหมูยืนเต้นส่ายสะโพกไปมาอยู่ตรงโต๊ะถัดไปไม่ไกลจากที่ผมนั่ง ไหนจะเสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยโชว์ห่วงยางกับขาหมูนั่นอีก น่าสงสารสายตาพวกผู้ชายที่นั่งมองเธออยู่จริงๆ "ไอ้เตอร์ มินมาหรอวะ" "อืม มายชวน" "อ่อ..." ก่อนจะเหลือบไปเห็นเธอกำลังเดินไปทางห้องน้ำโซนวีไอพี ผมผู้ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมืออยู่แล้ว ลุกตามไปแกล้งยัยว่าที่คู่หมั้นซะหน่อยดีกว่า ผมยืนกอดอกพิงผนังอยู่หลายนาทียัยนั่นก็เดินออกมาจากห้องน้ำเดินเชิดหน้าหยิ่งๆ ด้วยความมั่นใจ ก่อนจะหันมาเห็นและทำตาโตใส่ผม "มาฉลองหรอคับ คุณว่าที่คู่หมั้น" "นี่ นายมาได้ยังไง" "ขับรถมา" "หลบไปเลย เกะกะ" "ยังไม่ตอบคำถามเลยนะ ยัยเตี้ย" "มากินเหล้าย้อมใจ ก่อนจะตกนรก" "ปากแจ๋วสุดสุด" "ปากแซ่บมากด้วยจ่ะ ไอ้บ้า" "แบร่" "อื้อ" ผมไม่ปล่อยให้ยัยลูกหมูที่กำลังจะเดินสะบัดหน้ากระแทกเท้ากลับโต๊ะ ลากแขนเรียวเล็กมาตรงมุมหลบสายตาผู้คนได้เป็นอย่างดี ดันให้แผ่นหลังบางชิดกำแพงและใช้สองแขนแกร่งกักขังเธอไว้ไม่ให้หนีไปไหน ก่อนจะใช้ริมฝีปากหนาของผมกดจูบริมฝีปากบางสีแดงของเธอ พยายามสอดลิ้นร้อนเข้าไปในปากเล็กเล็กที่เสียงแจ๋วใส่ผมเมื่อครู่ อยากจะรู้ว่าจะแซ่บเหมือนที่โอ้อวดรึป่าว ลิ้มลองความแซ่บอยู่นานเกือบสิบนาที จึงค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง เลิกคิ้วยียวนมองเธอที่กำลังถลึงตาเขียวใส่ผม ปากเล็กๆ บวมเจ่อ ชวนให้ผมก้มลงไปกดจูบอีกครั้ง ... จ๊วบ จุ๊บ แซ่บนิดหน่อย หึ ผมค่อยๆ ผละตัวออก เอาสองมือล้วงกระเป๋า ผิวปาก เดินกลับโต๊ะอย่างสบายใจ อยู่ๆ ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ หูก็แอบได้ยินเสียงกระแทกเท้าของเธออย่างเอาแต่ใจ เดินตามหลังผมมาอยู่ห่างๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อนๆ ผมกับเธอก็ไม่ลืมที่จะทำเนียนเป็นไม่เห็นกัน ทำตัวเฮฮาปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน สายตาผมก็ทำทีมองโน่นมองนี่ไปรอบๆ ลอบมองเธอคอยจับผิด ว่าจะไปโปรยเสน่ห์ใส่หนุ่มๆ คนไหนรึป่าว เพราะมันเป็นหนึ่งในข้อตกลงระหว่างผมกับยัยลูกหมู...จะว่าไปคืนนี้ก็ไม่ได้แย่ หึ "ฮัลโหล..." "ลงมา" "ใคร" "จำเสียงว่าที่คู่หมั้นไม่ได้" "นี่..." "10 นาที ให้ไว" ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ฉันที่กำลังนอนฝันหวานอยู่ก็ต้องตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังไม่หยุด พอกดรับสายก็เป็นนายนั่นที่โทรมาเร่งๆ ฉันแต่เช้าแถมยังกดตัดสายฉันอีก ไม่มีมารยาทสุดๆ ถ้าเจอจะหยิกปากให้เลือดออกเลยคอยดู แล้วยังจะมาให้เวลาฉันแค่สิบนาทีอีก ชิ...เชิญรอให้ฉ่ำไปเลยจ๊ะ ผ่านไปเกือบสี่สิบนาทีที่ฉันใช้ไปกับการอาบน้ำ แต่งหน้าทำผม เปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะวันนี้ฉันต้องไปลองชุดที่จะใส่ในวันหมั้น ฉันจึงเลือกหยิบเดรสยาวสีชมพูสายเดี่ยวมีซิปด้านหน้ามาใส่และรวบผมสูงคาดผมด้วยที่คาดผมสีชมพูแบรนด์ดัง ฉีดน้ำหอมนิดหน่อย ก่อนจะเดินไปเลือกกระเป๋าหรูสีขาวในตู้มาถือ และเดินลงไปหา คนขับรถที่อาสามารอรับอยู่ข้างล่าง ทันทีที่ฉันเปิดประตูรถเข้ามาหย่อนสะโพกนั่ง เสียงน่ารำคาญก็ดังขึ้น "หนึ่งชั่วโมง" "อืม นานหรอ" "หึ กล้าถามนะ" "ขับรถไปเลย พูดมาก" "แวะซื้อชาเย็นหน่อย" "จิ๊! เรื่องมากจังวะ" ฉันหันไปมองตาขวางใส่เขาทันทีที่ได้ยินเขาว่าฉัน แต่ต้องพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆ ทำใจให้เย็นที่สุด ยุบหนอ พองหนอ ยุบหนอ พองหนอ ไม่ให้ตัวเองโมโหมากจนเกินไปเดี๋ยวตีนกาจะขึ้นมาอยู่บนใบหน้าสวยๆ ของหนูมายหมด ก่อนที่เขาจะขับสปอร์ตหรูเข้าไปสั่งเครื่องดื่มผ่านช่องไดร์ฟทรูให้ฉันและเขา ฉันที่พึ่งสังเกตว่าวันนี้นายนั่นอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนปลดกระดุมโชว์แผงอกเล็กน้อย พับแขนเสื้อขึ้นถึงข้อศอกกับกางเกงยีนส์พอดีตัวขายาว พอไปวัดไปวาได้ เพราะปกติเวลาไปกับเพื่อนๆ เขามักจะอยู่ในลุคเซอร์ๆ เสื้อยืดโอเวอร์ไซต์สีขาวกับกางเกงยีนส์ขายาวเสมอ #ไม่รู้ว่าใครแสบกว่ากัน #อ่านเพลินๆ เน้นฟิลกู้ด ขำๆ กันเหมือนเดิมนะ^^"สวัสดีค่ะคุณนาย น้องหนูมาย" "น่ารักกันจังเลยนะคะ ใส่ชุดคู่กันมาด้วย" ทันทีที่เจ้าของร้านเช่าชุดเห็นฉันกับหมอนั่นเปิดประตูเข้ามาในร้าน ก็ทักทายฉัน และหยอกล้อเล็กน้อย ซึ่งพอพี่เขาพูดจบ นายนั่นก็เอามือมาโอบเอวฉันและออกแรงดึงฉันเข้าไปยืนใกล้ๆ เขาราวกับคู่รักแห่งปี หึ แสดงเก่ง"น้องหนูมายอยากได้ธีมสีอะไรดีคะ""สีขาวค่ะ""ชมพูคับ""เอ่อ... " "ลองทั้งสองสีคับ""เป็นแบบไทยประยุกต์" "หรือแบบมิมินอลมินิใจดีคะ""มินิมอลค่ะ""ไทยประยุกต์คับ""เอ่อ..." "ขอลองทั้งสองแบบคับ" "ยินดีค่ะ งั้นเชิญทางนี้ค่ะ"แค่เริ่มต้น ฉันกับเขาก็มีความเห็นไม่ตรงกันแล้ว ฉันได้แต่บ่นอยู่ในใจ ก่อนจะส่งยิ้มให้พี่พนักงานเบาเบา และเดินตามหลังเข้าไปในห้องลอง แต่ฉันว่า ฉันต้องตกลงกับเขาสักหน่อยจะได้ไม่เสียเวลา จึงใช้มือเล็กไปดึงเสื้อเขาให้หยุด ก่อนจะส่งสายตาหวาน กัดฟันให้เหมือนว่ากำลังพูดคุยกันด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขอยู่"นายหยุดพูด แล้วเงียบเลยนะ" "ทำไมฉันจะพูดไม่ได้" "เดี๋ยวก็โป๊ะแตกหรอก""เธอนั่นแหละ อย่า เรื่อง มาก" พูดจบเขาก็ดึงมือฉันไปจับไว้ราวกับรักกันหวานชื่น แล้วพาเดินไปดูชุดที่แขวนเรียงรายนับพัน ถึงมันจะเ
"พรุ่งนี้สิบโมง ห้ามสาย""จิ๊ ไปไหนอีก" "ลองแหวน" "น่ารำคาญ" "นี่..." "พูดดีดี""ดี... ดี" "อื้อออ" กึก! "โอ้ย ยัยหมูอ้วน เธอกัดปากฉันเหรอ" ทันทีที่เธอได้ยินคำสั่งผมก็ชักสีหน้าหยิ่งๆ แสดงอาการไม่พอใจออกมา แถมยังลอยหน้าลอยตาต่อปากต่อคำเก่งสุดสุด ทำผมอดหมันไส้ไม่ได้จึงเอื้อมมือไปดึงแขนเล็กที่กำลังจะก้าวลงจากรถให้หันกลับมาอย่างแรงจนกระแทกเข้ากับหน้าอกแกร่งของผม ผมใช้มือหนารวบข้อมือทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว เธอจะได้ไม่ใช้มันมาทำร้ายผม ส่วนมืออีกข้างก็ทำหน้าที่ล๊อคลำคอขาวไม่ให้เลื่อนหนี ก่อนจะกดริมฝีปากหนาลงไปที่ริมฝีปากแดงด้วยอารมณ์รุนแรง ทุกครั้งที่เห็นปากเล็กเล็กเถียงฉอดฉอดใส่ผม ทำผมอยากจะสั่งสอนด้วยปากให้เข็ดสักหน่อย ก่อนจะโดนปากแดงแดงฟันขาวขาวนั่นกัดเข้าที่ปาก แล้วสะบัดก้นลงจากรถผมด้วยสีหน้าบึ้งตึงแล้ววิ่งขึ้นห้องเธอทันที"ไอ้บ้านี่ ชอบจูบนักนะ"ฉันกำลังใช้มือเล็กเล็กถูที่ปากอย่างแรงอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ ราวกับจะเช็ดรอยจูบของนายนั่นให้หมด และใช้น้ำยาบ้วนปากอีกเกือบสิบรอบ สงสัยวันหยุดนี้ต้องชวนยัยมินกันยัยลลิลไปเดินสายไหว้พระทำบุญสะเดาะเคราะห์สักหน่อยแล้ว ว่าแล้
"ลูกหมู" "อะไร" "มาช่วยเด็ดใบกะเพราหน่อย" "ฉันยุ่งอยู่" "ทำอะไร ยุ่ง" "นับ 1 ถึง 10"ผมถึงกับต้องส่ายหัวอย่างเบื่อหน่ายทันทีที่เธอบอกว่ายุ่ง ทั้งๆ ที่ผมเห็นนอนคว่ำอยู่บนโซฟาดูซีรีย์ในไอแพดนอนตีขาหมูไปมาอย่างสบายใจ กางเกงก็สั้นยังจะยกขาสูงจนเกือบจะเห็นแก้มก้นอยู่แล้ว ถ้าไม่ติดว่ายืนหั่นพริกอยู่ ผมจะเดินไปฟาดสักที ไม่ระวังตัวบ้างเลย ไหนจะเสื้อกล้ามคอเว้าลึกจนเห็นก้อนไขมันกลมๆ สองก้อนอีก ทำผมเสียสมาธิในการทำกับข้าวจนต้องยืนหันหลังแล้วตะโกนคุยกับเธอแทน"นาย ฉันอยากกินน้ำเลม่อน" "มาช่วยเด็ดใบกะเพรา แล้วจะทำให้""ปลอกกระเทียมด้วย""สรุปมาทำให้ฉันกิน หรือมาใช้ฉัน""เออๆ ทำเองก็ได้วะ" ทันทีที่เธอเดินเข้ามาในห้องครัวก็แปลงร่างเป็นลูกหมูตัวยุ่ง หยิบโน่นหยิบนี่มาคอยแกล้งผมอย่างก้านใบกะเพรานี่ คงคิดว่าเป็นไม้วิเศษของแม่มดมั้ง เอามาจิ้มๆ อยู่ที่แขนผมบ้าง แก้มสากผมบ้าง ชี้ออกคำสั่งกับผมอีก จนผมมองตาขวางด้วยความหงุดหงิด ก็หัวเราะคิกคักชอบใจเหมือนเด็กกำลังเล่นของเล่น แถมยังยืนพูดเสียงแจ๋วแจ๋ว จนบางทีผมก็คิดว่ายัยนี่ยืนคุยกับแม่ซื้ออยู่ พอผมหางานให้เธอทำเพิ่มก็งอแงไม่ยอมทำ ผมจึงตัดปัญหาเอามาทำ
"แต๊งกิ้วนะจ๊ะลลิลเพื่อนเลิฟ""อุตส่าห์ขับรถวนมาส่งฉัน" "สบายมากแก ฉันไปก่อนนะ" "บ๊ายบาย ขับรถดีดีแก"ฉันเดินฮัมเพลงเข้ามาคอนโดด้วยความสบายใจ หวังว่าหลังจากนี้ตัวฉันจะหมดเคราะห์หมดโศกหรือถ้ายังไม่หมดก็ขอให้เบาลงก็ยังดี ชีวิตหนูมายจะได้กลับไปสงบสุขเหมือนเดิม แต่จะว่าไปโทรศัพท์ของฉันก็เงียบไปนานหลายชั่วโมงแล้วนะ สงสัยพรที่ฉันขอไหว้จะเห็นผลทันตาเลย รู้งี้ชวนสองสาวไปตั้งนานแล้วดีกว่า เฮ้อ... สบายใจจัง ระหว่างที่ฉันกำลังกดรหัสประตูอยู่หน้าห้อง ก็สัมผัสได้ถึงอากาศเย็นๆ ที่ลอดผ่านออกมาจากช่องใต้ประตู เมื่อเช้าฉันว่าฉันปิดไฟปิดแอร์เดินดูดีแล้วนี่นา หรือว่าฉันลืมปิดแอร์หรอ หรือคุณพ่อคุณแม่จะแอบมาเซอร์ไพร์สลูกสาวคนสวยกันนะ ไหวเท่าความคิด ฉันจึงรีบเปิดประตูเข้าไปทันที แต่สองขาเรียวเล็กของฉันต้องหยุดชะงัก รอยยิ้มสวยๆ ของฉันต้องหุบลงทันที เพราะมีมารผจญนั่งหน้าบึ้งตึงกอดอกไขว่ห้างแถมยังขมวดคิ้วเข้มมองฉันด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาอีก หรือว่าฉันต้องบินไปมูที่ไต้หวันให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยดีนะ"ฉันนั่งอยู่ไม่เห็นหรอ""เห็น แต่ไม่อยากทัก""ไปไหนมา" "เรื่องของฉัน""ทำไมไม่อ่านข้อความ ไม่รับสาย" "ไม
"ยัยมาย""คอนเทนต์ที่แล้วที่แกช่วยฉันถ่าย ยอดวิวพุ่งมาก""มีแต่หนุ่มๆ มาเมนต์ขอเปิดว๊าบแกทั้งนั้นเลย""แกดูสิ" "ก็ฉันสวยจริงๆ" "มั่นมาก / มั่นมาก" เสียงเพื่อนสาวของฉันดังขึ้นพร้อมเพียงกันทันทีที่ได้ยินคำตอบของฉัน หลังจากจบคลาสฉันก็หนีตามยัยลลินกับยัยมินมาหลบภัยที่คาเฟ่มินิมินนี่ทันที เรานั่งคุยเล่นกันบ้าง ช่วยยัยมินเสิร์ฟเครื่องดื่มช่วงที่มีลูกค้าเยอะบ้าง หรือฉันจะมาสมัครเป็นพนักงานพาสไทม์คาเฟ่ยัยมินดี ให้นางจ่ายค่าจ้างเป็นชาเย็นวันละแก้วก็พอ กำลังนั่งคิดอะไรเพลินยัยสองคนก็เรียกให้ฉันดูข่าวซุบซิบหน้าเพจมหาวิทยาลัยฯ มิหน่าละวันนี้สมาร์ทโฟนเครื่องหรูของฉันถึงได้เงียบกริบ"หรือว่าพี่นายจะไม่โสดแล้ว""ดาวคณะนิเทศน์ฯ นี่ฉันจำได้" "เหมือน ฉันเคยได้ยินเตอร์พูดว่า เป็นเพื่อนๆกันนะ""ยัยมาย แกว่าจริง หรือจ้อจี้""คอมเมนต์เดียวที่ฉันมี คือฉันสวยกว่า" "จ้า / แม่คนสวย" "คิกคิก" ฉันต้องรีบทำเป็นเนียนไม่รู้ไม่ชี้ไม่แสดงความคิดเห็นทันที เมื่อเห็นภาพข่าวในเพจ ภาพหมอนั่นกำลังเปิดประตูรถให้สาวเข้าไปนั่งมีรอยยิ้มบางเบาให้แก่กัน ฉันถึงกับต้องแอบหลบสายตาเพื่อนที่กำลังเม้าท์มอยเบะปากกลอกตามองบนอย่าง
"นี่ ลูกหมู ทำไมชอบใส่กระโปรงสั้นจังวะ""ก็ขาชั้นสวย""ขาหมู มีแต่ไขมันเนี่ยนะ สวย""เห็นแล้วอยากกินคากิ""ถ้าจะหิวขนาดนั้นก็ไปซื้อข้าวกินเถอะ""อยากกินลูกหมูแทน""..."เห็นมั้ยละ หมอนี่หน่ะพูดดีกับฉันได้ไม่นานหรอก ก็กลับมาหาเรื่องว่าฉันอีกละ ทำมาเป็นยิ้มกรุ่มกริ่มยักคิ้วหลิ่วตาใส่ฉันอีก หนวกหูชะมัดเลย อยากจะเอานิ้วเล็กเล็กของฉันจิ้มตาเขาสักที แถมยังทำมือรุ่มร่ามมาวางบนหน้าขาขาวเนียนและบีบเล่นอีก ฉันต้องไปมูที่ไหนใครก็ได้ช่วยบอกฉันที ฉันจึงเลือกหยิบแอร์พอร์ตและสมาร์ทโฟนขึ้นมาเปิดเพลงฟังเพราะเพราะดีกว่า สบายหูสบายอารมณ์กว่าเสียงนายนี่ตั้งเยอะ ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงปล่อยใจไปกับเสียงเพลง แต่ความสุขก็มักจะอยู่กับฉันได้ไม่นาน ไม่นานจริงๆ เพราะไอ้พิทบูลนี่ยื่นมือมาแย่งแอร์พอร์ตจากหูฉันไปข้างหนึ่งแล้วเอาไปใส่ที่หูเขา บอกว่าจะฟังด้วย ฉันได้แต่ถลึงตามองเขาตาเขียวพอมาถึงคอนโด กุ้งถังกับเล้งแซ่บก็มาถึงพอดีฉันเลยลงจากรถและเดินตรงไปรับอาหาร ซึ่งพอเขาจอดรถเสร็จก็รีบวิ่งมารับอาหารในมือฉันไปถือไว้ในมือของเขา และพาเดินกันเข้าลิฟต์ ถ้าจะยืนในลิฟต์นิ่งๆ เงียบไม่กวนประสาทใส่ฉันคงไม่ใช่เขา เพราะเขาเล่นเดิน
"ฉันขอเพิ่มข้อตกลงอีกข้อ""ต่อไปนี้นายต้องอยู่ห่างจากฉันอย่างน้อยหนึ่งเมตร""หึ ทำไม กลัว?""ฉันไม่ได้กลัว แต่ฉันจะเก็บไว้ให้แฟนในอนาคตของฉัน""ฝันเก่ง" "ลุกไปเลย""จะกินต่อมั้ย""... แต่นายต้องไปนั่งในครัว"ยัยลูกหมูนี่ฝันกลางวันเก่ง แถมยังมาเพิ่มข้อตกลงเด็กน้อย แล้วยังมาไล่ผมให้ไปนั่งกินที่อื่นอีก คิดว่าระยะห่างแค่นี้ผมจะทำอะไรเธอไม่ได้เลยสินะ ยัยอ้วน...ผมได้แต่คิดในใจแล้วขยับตัวกลับไปตีหน้ามึนนั่งที่เดิม จนยัยลูกหมูนั่งทำหน้ายักษ์เหมือนผีเสื้อสมุทรมองผมตาขวางจนแทบจะถลนออกมาจากตา ผมถึงกับนั่งกินไปขำไป ตลกชะมัดเป็นผมอีกแล้วที่ต้องเป็นคนเก็บจานไปล้างรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นพ่อบ้านเข้าไปทุกวัน เพราะพอเธอกินอิ่ม ก็สะบัดก้นกลมกลมเดินเข้าห้องนอนไปทันที ไม่หันมาพูดกับผมสักคำ แต่ปล่อยไปก่อนเดี๋ยวสักพักก็จะเดินออกมาเอง มาหาของกินอีกเพราะเธอยังไม่ได้กินของหวานล้างปากแบบที่ชอบอ้างกับผม จนล้างจานเสร็จพร้อมเช็ดจนแห้งแล้ววางเรียงบนชั้นจนเรียบร้อย ก็ขอพักเหนื่อยสักหน่อย พาตัวเองไปนอนเล่นเกมส์อยู่บนโซฟาที่เราพึ่งนั่งกินกันและเกือบจะทำอะไรต่อมิอะไรจนเลยเถิดไปเมื่อครู่ ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ผมก
และแล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ฉันต้องตื่นมาแต่งหน้าทำผมตั้งแต่ตีสี่ ดีที่เมื่อคืนฉันมาส์กหน้าทิ้งไว้และเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ ทำให้วันนี้ผิวหน้าฉันฉ่ำฟูดูสุขภาพดีไม่ต้องแต่งอะไรมากเน้นแค่ดวงตาให้กลมโตดูคมมากขึ้นและเพิ่มขนตานิดหน่อยให้พอเป็นแพงอนยาว ลงแก้มอีกนิดเติมหางคิ้วนิดหน่อย และทาปากอวบอิ่มให้ชุ่มฉ่ำ เกล้าผมดัดรอนเป็นหางม้าประดับด้วยเครื่องประดับที่เข้ากับชุดไทยบรมพิมานที่จะใส่ในวันนี้ ซึ่งเสร็จทันเวลาใส่บาตรเช้าพอดีฉันค่อยๆ เดินลงบันไดมาจากชั้นสองของบ้าน เพื่อมาหาคุณพ่อคุณแม่ที่นั่งรออยู่พร้อมญาติญาติที่กำลังทยอยมา รวมถึงคุณลุงคุณป้าและเขาก็นั่งรออยู่พร้อมหน้า ทันทีที่เขาเห็นฉันกำลังก้าวลงบันไดทีละขั้นด้วยความระมัดระวังเพราะรองเท้าส้นสูงแหลมและผ้าถุงยาวแคบที่ไม่ค่อยถนัด เขาก็ลุกจากโซฟาเดินมารอรับฉันตรงบันไดขั้นสุดท้าย พร้อมยื่นมือมาให้ฉันจับพยุงตัวไม่ให้ก้าวพลาด ฉันที่กำลังเดินยิ้มลงมาสวยๆ เกือบจะต้องหุบยิ้มเพราะปากของเขา แต่ก็ต้องกัดฟันยิ้มเอาไว้เพื่อไม่ให้คุณพ่อคุณแม่สงสัยและดูมีพิรุธ"แต่งตั้งนาน ได้แค่นี้""วันหลังฉันแต่งให้ก็ได้""ถ้าไม่รู้จะพูดอะไร แนะนำให้เงียบ""..."อันที่จร
ฉันค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากที่ได้ไปเดินเล่นในสวนดอกไม้สีขาวสวยมากและกว้างมากด้วยมีหิ่งห้อยบินเต็มไปหมดจนรู้สึกอยากจะอยู่ที่นี่ไม่อยากไปไหน จนได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นเคยเรียกชื่อฉันอยู่ไกลๆ พร้อมกับเสียงร้องโยเยจากเด็กน้อยเหมือนร้องเรียกหา ฉันเลยค่อยๆ เดินไปตามเสียงทีละนิดทีละนิดฉันนอนมองใบหน้าที่ดูอิดโรยคิ้วเข้มขมวดเป็นปมแน่นมีมือหนาของเขาจับมือบางของฉันไปแนบแก้มสากไว้ราวกับกลัวหายจนผ่านไปนานหลายนาทีก็ไม่มีวี่แววตื่นขึ้นมา ฉันเลยใช้นิ้วเรียวเล็กที่อยู่ตรงแก้มนั้นลูบสัมผัสปลุกเขาเบาเบาแต่กลับไม่ได้ผล เลยต้องเปลี่ยนเป็นหยิกลงไปแทนทำเขาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นมามองหน้าฉันด้วยแววตาเป็นประกายฟอด ฟอด ฟอด"ตื่นแล้วหรอ อ้วน""นายกับลูกลูกรอตั้งนาน""เจ็บมั้ย""เจ็บ""ขอโทษคับ จุ๊บ" "ลูกละ" "เดี๋ยวพยาบาลพามา""รอแป๊บนะนายไปตามหมอก่อน"เขาโผเข้ากอดและหอมฉันอยู่นานราวกับว่าคิดถึงฉันมาก ฉันก็รู้สึกคิดถึงเขามากเหมือนกันเลยปล่อยให้เขากอดอยู่อย่างนั้นทั้งๆ ที่ก็แอบเจ็บแผลอยู่หน่อยๆ จนกระทั่งคุณหมอมาตรวจอาการฉันอย่างละเอียดและบอกให้ฉันกับลูกลูกนอนพักที่นี่อีกสี่ห้าวันให้แข็งแรงขึ้นอีกหน่อยแล้วค่อยก
"สวัสดีคับลูกหมู""ได้ยินเสียงปะป๊ามั้ย""หึ" "อยากออกมาเตะบอลกับป๊าใช่มั้ย""ปะป๊าอย่าพึ่งชวนลูกเตะบอลได้มั้ย""ลูกพากันเตะท้องมามี๊จนจุกไปหมดแล้วเนี่ย""จุ๊บ ขอโทษคับ"ตอนนี้เจ้าลูกชายของผมสองคนที่นอนอยู่ในพุงกลมกลมของเธออายุเกือบหกเดือนแล้ว ท่าทางจะแสบซนกันใช่ย่อย เพราะกว่าที่ผมจะสามารถเข้าใกล้เธอได้ก็ต้องรอเข้าเดือนที่สี่อาการเหม็นผมของเธอถึงจะเบาลงไป ผมถึงสามารถเข้ามาอยู่ในห้องเดียวกันนอนบนเตียงเดียวกันกับเธอได้ แถมยังพากันดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาทำเอามามี๊ตัวกลมเจ็บและจุกอยู่บ่อยๆ จนบางทีผมก็ต้องแกล้งเอ็ดดุไปนิดหน่อยถึงพากันหยุดนอนนิ่งราวกับเป็นเด็กดีเชื่อฟังปะป๊าไม่กล้าดื้อไม่กล้าซน แต่บางทีด้วยความใจร้อนของผมก็อยากให้ลูกหมูออกมาวิ่งเล่นเตะฟุตบอลกับผมซะวันนี้พรุ่งนี้ไปเลย ชานมลูกสาวคนโตก็จะได้ไม่เหงามีเพื่อนเล่นเพิ่มด้วย"นาย ตั้งชื่อลูกกันมั้ย""อืมมม มายมีที่ชอบยัง""มายเลือกไม่ถูกชอบหลายชื่อมาก""หึ มีชื่ออะไรมั่ง""มี เลนส์ ฟิล์ม กล้อง แกรม โฟกัส""เพราะมายชอบถ่ายรูป มีนายเป็นตากล้องให้""งั้น...ชื่อนี้ดีมั้ย เลนส์กับฟิล์ม""นายมองมายผ่านเลนส์ ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาเป็นภาพฟิล์ม"
และแล้ววันที่ฉันรอคอยก็มาถึง วันแต่งงานของฉันกับเขา ฉันเฝ้าคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดยืนเคียงข้างเขาได้อย่างมั่นใจที่สุดในวันนี้ เราใช้เวลาถ่ายรูปกับเพื่อนๆ และแขกที่มาร่วมงานนานเกือบสองชั่วโมง ดีที่เจ้าบ่าวของฉันคอยยืนกอดคอฉันบ้าง นวดให้บ้าง โอบเอวประคองฉันไว้บ้างทำให้ฉันไม่เมื่อยเท่าไหร่ แถมยังมีเพื่อนน่ารักๆ อย่างสองสาวมินนี่และลลิล ที่คอยมาซับเหงื่อช่วยดูแลหน้าผมและป้อนน้ำให้ฉันอยู่ตลอด ฉันมีหน้าที่แค่ยืนแจกรอยยิ้มหวานหวานเท่านั้นหลังจากพิธีการเสร็จ เราสองคนก็ต้องรีบขึ้นมาเปลี่ยนเป็นชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้บนห้องที่เปิดไว้ให้ทันภายในยี่สิบนาที เพราะต้องลงไปสนุกกับเพื่อนๆ ต่อที่งาน อยากขอบคุณตัวฉันเองและเขาด้วยที่เลือกชุดที่ใส่ง่ายใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีฉันก็อยู่ในชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว มีเวลาได้นั่งพักหายใจอีกสักหน่อย แต่แล้วดูเหมือนว่าฉันจะคิดผิด"นาย รูดซิปให้มายหน่อยสิ""เดี๋ยวค่อยรูด""อ๊ะ อย่าแกล้งนะ""ไม่แกล้ง เอาจริง""กระโปรงสั้นสั้นมันดีแบบนี้นี่เอง""นายใส่เลยนะ เวลาน้อย""อ๊ะ อื้อ""ซี้ด" "เดี๋ยวได้ทาลิปใหม่หรอก"เพี๊ยะจากที่ผมตั้งใจจะอ
และเราสองคนก็ได้ฤกษ์วันแต่งงานหลังจากฝึกงานเสร็จหนึ่งเดือนทำให้เธอถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับทั้งตื่นเต้นและเป็นกังวลกลัวจะเตรียมงานไม่ทัน ซึ่งผมก็ทำได้แค่ปลอบใจและหาออแกไนซ์มืออาชีพมาช่วยให้เธอเบาใจขึ้นให้เธอมีหน้าที่บอกธีมงานในฝันของเธอกับทีมงานแค่นั้น โดยไม่ได้กำหนดธีมสีว่าจะต้องเป็นสีไหน เพื่อเพื่อนๆ และแขกที่มาร่วมงานจะได้ใส่ชุดและสีที่ตัวเองมั่นใจที่สุดจะได้มีความสุขและสนุกไปกับงานของเราทั้งคู่ แล้ววันนี้เราสองคนมีนัดลองชุดแต่งงานซึ่งก็เป็นร้านเดียวกันกับชุดวันหมั้นนั่นแหละเพราะเธอชอบการตัดเย็บและดีเทลของแบรนด์นี้เลยไม่เปลี่ยนใจไปมองร้านอื่น"นายว่ามายใส่แบบไหนดี""ไม่เอาเกาะอก""เอาสิ มายว่ามายใส่เกาะอกสวย""ไม่สวย""...""แต่มายอยากลอง""...""พี่ขา หนูมายขอลองสองชุดนี้ก่อนค่ะ"ผมได้แต่นั่งไขว่ห้างกอดอกตกอยู่ในพะวังความคิดเฝ้าถามตัวเองด้วยความสงสัยว่าเมื่อครู่นี้เธอจะหันมาถามความเห็นของผมทำไมเพราะสุดท้ายแล้วเธอก็เลือกลองชุดแบบที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แถมเป็นแบบเกาะอกไม่มีแขนทั้งสองชุดต่างกันแค่กระโปรงทรงสุ่มกับทรงเมอร์เมดก็เท่านั้น ผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีพนักงานในร้านก็เดินมาค่อยๆ เ
เราสองคนยืนกอดกันอยู่พักหนึ่ง ผมก็พาเธอเดินเข้าไปดูห้องน้ำที่มีอ่างกุชชี่ขนาดใหญ่ไว้สำหรับแช่น้ำกันสองคนและอาจจะพาลูกหมูตัวน้อยน้อยลงมาเล่นน้ำด้วย ถัดไปอีกหน่อยเป็นวอคอินโครเซทสำหรับเธอที่ชอบแต่งตัวสวยสวยซึ่งผมแบ่งที่แขวนเสื้อผ้าส่วนของเธอไว้ให้ถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์อีกสามสิบเปอร์เซ็นต์เป็นเสื้อผ้าของผม โดยตรงกลางห้องมีตู้กระจกไว้แชร์กันสำหรับใส่เครื่องประดับอย่างสร้อยต่างหูและนาฬิกาข้อมือของเราสองคน ก่อนจะพาไปดูห้องนอนลูกลูกที่ผมทำเตรียมไว้สามห้องสำหรับสามคนเพื่อสานต่อธุรกิจของครอบครัวเราสองคนในอนาคต และที่ขาดไม่ได้ก็คือห้องสุดท้ายที่มีประตูเชื่อมกับห้องนอนใหญ่ของผมกับเธอเป็นห้องของลูกสาวคนโตของเราคือห้องของชานมนั่นเอง ซึ่งภายในห้องก็มีทั้งเบาะที่นอนนุ่มนุ่ม คอนโดหลายระดับหลายชั้นไว้ให้เจ้าตัวเล็กได้เลือกนอนตามใจชอบ รวมถึงห้องน้ำแมวอัตโนมัติด้วย ทำเธอกระโดดกอดผมอย่างดีใจและทำท่าทางตื่นเต้นไม่หยุดเดินเข้าห้องนั้นออกห้องนี้ดูว่าขาดเหลืออะไรตรงไหนเธอจะได้ไปเดินเลือกซื้อมาเพิ่ม"มายอยากแก้ตรงไหนมั้ย""ยังมีเวลา จะได้เสร็จทันก่อนย้ายเข้ามา""มายไม่อยากแก้ เพราะนายตั้งใจเลือกและทำให้มาย""ม
"ไอ้เตอร์ ฝึกงานเสร็จมึงจะแต่งเลยป่าววะ""อืม กูอยากมีลูกเลย มึงอะ""กูก็อยากแต่งเลย แต่ไม่รู้มายจะอยากแต่งมั้ย""มีแพลนกับเค้าบ้างมั้ยมึงอะ ไอ้กาย""...""อย่าไปถามมัน ไอ้นี่มันเสือซุ่มเงียบ""..."วันนี้ผมกับเธอขับรถพาชานมลูกสาวของเรามาพบสื่อมวลชนที่คาเฟ่มินิมินนี่ ทันทีที่สองสาวเห็นเจ้าตัวกลมก็พากันเอ็นดูผลัดกันอุ้มผลัดกันเล่นอยู่ไม่ห่าง ไม่นับรวมกับลูกค้าในร้านที่ต่างมาขอถ่ายรูปลูกผมจนต้องต่อแถวคิวยาวไปถึงหน้าร้าน เรียกว่าเวลานี้ชานมกลายเป็นซุปตาร์หน้าใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ลูกสาวของผมน่ารักจริงๆ นี่นาตัวกลมกลมขนนุ่มๆ ตาโตโต แถมขี้อ้อนมากมากด้วยจะว่าไปก็เหมือนมามี๊ของเธอนั่นแหละ ไม่รู้ว่าถ้าเกิดว่ามีลูกหมูตัวเล็กเล็กที่เกิดจากผมเอง จะขี้อ้อนแบบนี้มั้ยถ้าใช่ผมก็คงหลงลูกมากไม่อยากห่างไปไหนแน่เราสองคนอยู่นั่งคุยนั่งเล่นกับเพื่อนๆ จนเย็นก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน และวันนี้เป็นอีกวันที่ผมมาค้างที่บ้านของเธอเป็นปกติไปแล้วเพราะตั้งแต่มีชานมเธอก็จะชวนผมมาที่นี่ทุกอาทิตย์จนคุณอาทั้งสองยกห้องนอนส่วนตัวให้ผมหนึ่งห้องเป็นที่เรียบร้อย และที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ของผมก็มีห้องนอนส่วนตัวขอ
"อ้วน ลืมอะไรรึป่าว""ไม่ลืม ไม่ลืม""ลืม จุ๊บ""ผมยุ่งหมดละนะ""จะสวยไปให้ใครดู""เยอะแยะ""อื้อออ นายมันเป็นรอยเห็นมั้ย""สมน้ำหน้า""..." "ซี๊ดดด" จากที่ฉันกำลังจะรีบลงจากรถขึ้นไปออฟฟิตคุณพ่อในฐานะนักศึกษาฝึกงานกลับต้องมานั่งจิ้มคอลซิลเลอร์ปกปิดรอยที่เขาพึ่งสร้างไว้ที่ต้นคอของฉันอย่างเอาแต่ใจเมื่อครู่เพียงแค่ฉันแกล้งพูดเล่นเท่านั้น ซึ่งฉันก็เอาคืนเขาโดยการงับเข้าไปที่ต้นคอแกร่งของเขาเต็มแรงจนขึ้นรอยแดงอย่างชัดเจนและจะไม่ให้ยืมคอลซิลเลอร์ด้วยคอยดู แต่เขาก็ไม่ได้ดูเดือดร้อนอะไรแถมยังยกยิ้มเหมือนชอบอกชอบใจที่มีรอยอีกด้วย ทำฉันถึงกับมองค้อนเขาวงใหญ่ด้วยความหมันไส้ขั้นสุด ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหาลลิลที่นั่งรออยู่ตรงล็อบบี้เหมือนทุกวัน"ยัยมาย ฉันนึกว่าแกจะพาน้องชานมมาด้วย""ฉันก็อยากพามาแต่กลัวพี่พี่พนักงานคนอื่นจะว่าเอาหน่ะ""ค่อยพาไปเล่นที่คาเฟ่ยัยมินอาทิตย์นี้ดีมั้ย""อาทิตย์นี้หรอ ฉันขอยังไม่คอนเฟิร์มนะ""จ้าาา ชั่วโมงบินสูงมาก...ก""นิดนึง อิอิ"ฉันกับลลิลได้รับโจทย์ให้ออกแบบแบนเนอร์หน้าเว็บเบราว์เซอร์ของบริษัทใหม่ให้ดูดึงดูดและเป็นที่น่าสนใจจากลูกค้ามากยิ่งขึ้น รวมถึงปรับหน้าแ
noomine : น้องชานม+มามี๊+ปาปี๊ @k.naimini.minnie : ต้องมีน้องชาเย็นด้วยสิl.lalil : คุณน้าต้องได้เล่นกะน้องkkay : @k.nai คุณพ่อลูก1tutor.t : รูปนี้ควรมีแค่มายกับชานมk.nai : @kkay @tutor.t อิจฉากู? หลังจากที่ฉันโพสต์รูปครอบครัวลงโซเชี่ยลเพื่ออวดความน่ารักของลูกสาวให้เพื่อนๆ ได้ชื่นชม สองสาวกับสองหนุ่มก็พากันมาคอมเมนต์อย่างรวดเร็ว ส่วนเขาก็นั่งยิ้มบ้างหัวเราะบ้างเล่นอยู่กับน้องไม่ห่าง อยากพาชานมไปให้มินนี่กับลลิลรู้จักอย่างเป็นทางการจัง รอโตอีกสักหน่อยแล้วกันนะเจ้าตัวเล็กเพราะวันนี้เป็นวันเสาร์คุณแม่เลยออกไปตีกอล์ฟเป็นเพื่อนคุณพ่อและจะกลับมาทานข้าวเย็นกับเราสองคนอย่างพร้อมหน้า ทำให้วันนี้ฉันกับเขาได้อยู่ทำหน้าที่มามี๊กับปาปี๊ตลอดทั้งวัน ซึ่งคนที่ตื่นเต้นและไม่ยอมปล่อยน้องเลยกลายเป็นเขา ไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้อุ้มลูกสาวเลยสักนิด ฉันเลยทำได้แค่ยื่นมือไปเกาคางน้องที่นอนตัวกลมอยู่บนตักแกร่งเท่านั้น ทีตอนนั้นทำเป็นคัดค้านไม่พักพอมาตอนนี้กลับยิ้มไม่หุบเล่นไม่หยุดเลย คอยดูนะ! ฉันจะสอนให้ลูกสาวแก้แค้นเขาแทนฉัน"นาย พรุ่งนี้ไปซื้อที่นอนให้ลูกกันมั้ย""นายซื้อมาแล้ว""ไปดูอาหารเปียกกับวิตามิน
ตอนนี้เป็นเวลาตีสามผมต้องรีบวิ่งลงมามินิมาร์ทข้างล่างคอนโดเพื่อซื้อของใช้สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะอย่างผ้าอนามัยให้ลูกหมูเพราะบนห้องหมดเกลี้ยงและเธอก็ลืมดูวันที่จดไว้ ดีที่ผมไปซื้อของใช้กับเธอตลอดเลยพอจะรู้ว่าเธอใช้แบบไหนยี่ห้ออะไรไม่อย่างงั้นผมต้องมายืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่หน้าชั้นวางสินค้าแน่แน่ ก่อนจะเดินไปหาผงขิงสำเร็จรูปไว้ชงให้เธอกินช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง เป็นผมเองที่ไม่อยากให้เธอกินยาแก้ปวดมากจนเกินไปเพราะมันส่งผลข้างเคียงให้เธอในอนาคตพอได้ของจนครบผมก็รีบวิ่งขึ้นไปให้เธอที่นั่งรออยู่ในห้องน้ำจนตัวซีด ออกมายืนรอปล่อยให้เธอจัดการตัวเองจนเรียบร้อย ผมก็เข้าไปช้อนตัวอุ้มเธอที่ปวดท้องจนตัวงอออกมาวางลงบนเตียงนอน แล้วปลีกตัวมาต้มน้ำร้อนใส่กระเป๋าน้ำร้อนรูปตุ๊กตาหมูสีชมพูและนำมาวางอังลงบนหน้าท้องของเธอ นั่งมองเธอที่หลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า มีเม็ดเหงื่อซึมตามกรอบหน้า คิ้วเรียวสวยขมวดเป็นปมบ่งบอกให้รู้ว่าเธอไม่สบายตัวแค่ไหน ก่อนเธอจะพลิกตัวมาดึงแขนแกร่งของผมไปกอดไว้แน่นราวกับจะช่วยบรรเทาให้เธอได้อีกทางจนผมไม่กล้าจะขยับตัวไปไหนได้แต่นั่งพิงหัวเตียงแล้วพักสายตาเอาแรงสักหน่อยเพื่อจะได้ออกไปซื้อ