แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: ACHICHI
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-12 17:38:32

ระยะปลอดเพื่อน

ตอนที่ 3

รถญี่ปุ่นคันโตสนิทนิ่งในซองจอดของลานจอดรถหน้าอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ที่คงจะมีบริษัทค่อนร้อยอยู่บนนั้น เพราะเห็นว่ายังเหลือเวลาอีกเล็กน้อยก่อนที่จะเข้างาน ฉันก็รีบต่อสายหาโซ่ทันที

แม้สิบสายแรกมันยังปฏิเสธที่จะรับ แต่หลังจากที่รัวพิมพ์แชตส่งไปด่า สายที่สิบเอ็ดรอสายแค่อึดใจเพื่อนก็รับในที่สุด และฉันก็ร้องถามเสียงดังทันที

“โซ่! นี่มันเรื่องบ้าอะไร?”

‘ใจเย็น ๆ’

น้ำเสียงขบขันจากปลายสายยิ่งทำให้อุณหภูมิของร่างกายพุ่งสูงขึ้น และเสียงที่เปล่งออกไปก็หวีดแหลมยิ่งกว่าเดิม

“จะเย็นได้ยังไง? โซ่ให้เรามาอยู่กับสองได้ยังไง?”

‘ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย เพื่อนกันทั้งนั้น’

“ไม่ตลกเลยนะ เราจะย้ายออก หาห้องให้เราใหม่ด้วย”

‘มันเต็มหมดแล้ว ก็เหลือแค่ห้องนั้นแหละ’

“ก็แล้วทำไมไม่บอกก่อนว่าคนที่ต้องอยู่ด้วย…”

‘ก็แยมบอกเองว่าอยู่กับใครก็ได้ ขอแค่เป็นคนไว้ใจได้ก็พอ’

“แต่ต้องไม่ใช่สองไหม?”

‘ไอ้สองมันก็ไว้ใจได้ที่สุดแล้วไง’

“ไม่รู้แหละ จะให้ทนมองหน้ากันเข้าไปได้ยังไง?”

ฉันโอดครวญอย่างหนักอกหนักใจ ซบหน้าลงกับพวงมาลัยอย่างหมดอาลัยตายอยาก ในขณะที่ปลายสายเงียบอยู่ครู่ก็ถอนหายใจเบา ๆ

‘เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว ไม่ต้องไปคิดมากหรอกน่า’

“จะไม่ให้คิดได้ยังไง? รู้ไหมเมื่อกี้นี้สองบอกว่านี่เป็นแผนของเราที่ต้องการใกล้ชิดมันอีกครั้ง!”

‘ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ’

“ไม่เห็นจะขำ นี่ซีเรียสนะ”

‘มันก็กวนตีนไปเรื่อยแหละ คนอย่างมันจะมีอะไร’

“แต่…”

‘มันอาจจะแค่อยากคุยด้วยมั้งแยม ไม่มีอะไรหรอก’

“เรื่องให้ชวนคุยมีเป็นล้าน ต้องยกประเด็นนี้มาคุยด้วยหรือไง?”

‘งั้นเดี๋ยวเราไปคุยกับมันให้เอง’

“เราจะย้ายออก โอนเงินมัดจำคืนมาเลย” ฉันเอ่ยต่ออย่างเอาแต่ใจ ทว่าปลายสายกลับปฏิเสธทันควัน

‘ไม่ได้หรอก เราโอนเงินให้เฮียไปแล้ว’

“เราก็ไม่มีทางเลือกงี้?”

‘อยู่ ๆ ไปเหอะน่า ถือว่ากลับมาเจอเพื่อนเก่า’

“เพื่อนเก่ากับผีอะสิ”

‘ไว้เราคุยกับไอ้สองให้แล้วกัน’

“คุยว่าไง?”

‘ให้มันเลิกแหย่แยมไง’

“ฝันไปเหอะ หน้าหนายิ่งกว่าปูนโบกตึก”

‘เออเหอะน่า เดี๋ยวคุยให้ แค่นี้’

“ก็ถ้าเกิดว่าห้องอื่นมีคนย้ายออกต้องมาบอกเราทันทีนะ”

‘เออ ๆ’

แม้จะรู้ว่าปลายสายเอ่ยตอบส่ง ๆ แต่ฉันก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากถอนหายใจเสียงดัง คว้ากระเป๋าลงเดินลงจากรถอย่างหงุดหงิดใจ

และไม่ใช่แค่โซ่หรอกที่ต้องโทรหา ถึงตอนนี้เมื่อเห็นว่าแชตเฟซบุ๊กของลันตาขึ้นสถานะออนไลน์แล้ว ก็ไม่รอช้าต่อสายหาเพื่อนทันที พลางก็สับเท้าเดินตามคนอื่น ๆ ที่กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวอาคารไปด้วย

เสียงสัญญาณดังอยู่ครู่ปลายสายก็รับ ฉันเม้มปากแน่นอยากจะด่าเพื่อนให้สักยก แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเอ่ยปากถามให้รู้ความแน่ชัดเสียก่อน

“แกทำงี้หมายความว่ายังไง?”

‘โธ่แยม แกโกรธเหรอ?’

“แกบอกมาก่อนว่าทำไมถึงได้ไปเมืองนอกกะทันหันแบบนี้?”

‘…’

ขาสองข้างหยุดยืนตรงหน้าลิฟต์ตัวหนึ่ง ทันได้เห็นผู้ชายคนสุดท้ายพยายามจะเบียดตัวแทรกเข้าไปในลิฟต์ที่อัดด้วยคนเกือบสิบจนแน่น ทำเอาคนอื่น ๆ ต้องขยับพื้นที่ให้กัน

ฉันส่งสัญญาณบอกให้คนพวกนั้นไปก่อนได้เลย หมดล็อตนี้ก็เหลือแค่ฉันกับคนที่เพิ่งเดินมาหยุดอยู่ข้าง ๆ ก็เท่านั้น ไม่รู้จะเบียดกับคนอื่นไปเพื่ออะไร

“ลัน มีอะไรก็บอกมาเร็ว ๆ” ฉันกรอกเสียงใส่โทรศัพท์เอ่ยถามลันตาอีกครั้งเมื่ออีกฝ่ายเงียบเสียงไป

‘โธ่แยม จริง ๆ ฉันก็อยากจะอยู่กับแกนะ’

“เลิกอ้อมค้อมแล้วพูดมาสักที”

‘ฉันตามผู้ชายมา’

“ผู้ชายคนไหนอีก?”

‘ก็พอลไง คนที่บอกว่าเขาบินไปหาที่ไทยบ่อย ๆ’

“นี่คือเหตุผล?”

‘อย่าโกรธสิ ตอนแรกก็ว่าจะอยู่ที่ไทยต่ออีกหน่อย แต่งานของพอลรอช้าไม่ได้ต้องรีบกลับ แล้วฉันก็…’

ฉันได้แต่กลอกตามองบนฟังเพื่อนเล่ารายละเอียดอย่างเหลืออด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ต่อให้โวยวายยังไงลันก็คงจะไม่กลับมาในเร็ววันนี้เป็นแน่ สุดท้ายเลยทำได้เพียงพ่นลมหายใจหงุดหงิดแล้วเอ่ยปัญหาของตัวเองทันที

“แกรู้ไหมว่าฉันต้องอยู่กับใคร?”

‘ทำไม? เพื่อนร่วมห้องคนใหม่เป็นตาแก่พุงพลุ้ยหรือไง?’

“สอง”

‘สองไหน?’

“สองไง”

“ไอ้สอง?”

“แกฟังไม่ผิดหรอก โซ่มันให้เราแชร์ห้องกับสอง”

‘Oh my god’

“ใช่ และแกก็ดันมาเทฉันอีกคน”

‘แยม…’

“จะบ้าตายแล้วนะเอาจริง”

‘ใจเย็น ๆ แกก็อดทนอยู่ไปก่อนไม่ได้เหรอ?’ น้ำเสียงของลันฟังดูเห็นอกเห็นใจระคนไปกับความขบขันเหมือนโซ่ไม่มีผิด

“ไม่ทนก็ต้องทน มัดจำก็จ่ายไปแล้ว ขอคืนก็ไม่ได้ แถมคอนโดดี ๆ ที่อยู่ใกล้ที่ทำงานแบบนี้หายากจะตาย แถมย่านนี้ยังรถติดนรกแตกสุด ๆ”

‘งั้นก็ทนไปก่อน’

“ยังคิดไม่ตกเลยว่าจะทนยังไงไหว นี่ขนาดเจอกันไม่พ้นยี่สิบสี่ชั่วโมงก็ลมแทบจับแล้ว แถมสองก็ชอบถอดเสื้อเดินร่อนเหมือนเมื่อก่อน และตอนนี้ก็คือกล้ามเอยอะไรเอย แค่เห็นก็น้ำลายหกแล้ว”

‘ฮ่า ๆ ๆ ๆ แน่ใจนะว่าต้องใช้คำว่าทน’

“ทนดิ อุตส่าห์ทำใจมาได้ตั้งนาน จู่ ๆ ก็วนกลับมาเจอกันอีกแบบนี้ แถมต้องอยู่ห้องเดียวกันด้วย กว่าจะหมดสัญญาตั้งปีนึง”

ฉันร้องบอกเพื่อนอย่างหงุดหงิดใจ จังหวะเดียวกันลิฟต์อีกตัวก็เปิดออกพอดิบพอดี ผู้ชายคนที่ยืนอยู่ข้างกันเดินเข้าไปก่อน และฉันก็เดินตามเข้าไป ทันทีที่ประตูลิฟต์ปิดลงสัญญาณจากปลายสายก็ขาดไปด้วย

ฉันหลับตาลงอย่างหนักอก เดินถอยหลังพิงเข้ากับผนังด้านในของตัวลิฟต์ และเพิ่งได้มีโอกาสหันไปมองคนข้าง ๆ ซึ่งกดลิฟต์ไปที่ชั้นเดียวกัน ใจคิดว่าจะเอ่ยทักทายเผื่อว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน

หากแต่ตาสองข้างกลับต้องเบิกโตอย่างตระหนกตกใจ แม้อีกฝ่ายจะมีแมสก์สีดำปิดอยู่ครึ่งหน้า แต่แค่เห็นนัยน์ตาสีเข้ม กับเรียวคิ้วหนาที่เลิกขึ้นเล็กน้อยตอนที่ประสานสายตากัน ขาสองข้างก็แทบจะทรุดลงไปกอง

ร่างสูงข้างกายหัวเราะเบา ๆ ในลำคอก่อนจะดึงเอาแมสก์ออกราวกับเป็นการเฉลยไปในตัว

สองที่โผล่มายืนอยู่ตรงนี้ได้ไงไม่อาจทราบได้ กำลังยกยิ้มกว้าง ยืนกอดอกพิงไหล่เข้าหาตัวลิฟต์อย่างสบายอารมณ์

“สอง” ฉันเผลอส่งเสียงประหลาด กลืนน้ำลายหนืดเหนียวลงคออย่างยากลำบาก แต่ก็พยายามจะเอ่ยต่อ “สองตามเรามาหรือยังไง?”

ทว่าอีกคนกลับยิ้มกว้างกว่าเดิม น้ำเสียงหยอกเย้าเอ่ยสวนในทันที

“ทีนี้ใครแน่ที่หลงตัวเอง?”

“ก็แล้วทำไมมานี่ได้ แถมยังไปชั้นเดียวกัน…”

ฉันอึกอักเสียงแผ่วลงทุกขณะ คนข้าง ๆ ไม่ตอบคำถาม และจังหวะเดียวกันลิฟต์ก็มาถึงที่หมายบนชั้นที่ 24

ประตูลิฟต์เปิดออก แผ่นป้ายอะคริลิกที่ระบุว่าชั้นนี้เป็นที่ทำการของสำนักงานบริษัทใดแปะหราโดด ๆ เพียงป้ายเดียว

อีกคนเป็นฝ่ายเดินนำออกไปก่อน ในขณะที่ฉันยิ่งรู้สึกประสาทจะกินรายชั่วโมง สองหยุดยืนนิ่ง เหลียวสายตามองกลับมาพร้อมทั้งพยักหน้าเรียก

“ออกมาดิ ถึงแล้ว”

“…”

แม้ใจจะวุ่นวายหนักแต่ฉันก็ต้องระงับสติตัวเองเอาไว้ สาวเท้าเดินตามออกไปอย่างช่วยไม่ได้เพราะอย่างไรก็มาถูกที่แล้วจริง ๆ

ยังไม่ทันที่จะเป็นฝ่ายเอ่ยถามถึงสิ่งที่คับอกข้องใจ สองกลับเป็นฝ่ายเปิดประเด็นขึ้นก่อนด้วยกระแสเสียงกวนโทโสเหมือนเคย

“ก็ไหนว่าไม่ได้ชอบแล้ว”

“ก็ไม่…”

“แล้ว… ที่ว่าน้ำลายหกคืออะไร?”

“…”

แววตาที่มองมาเต็มไปด้วยประกายแห่งชัยชนะ ในขณะที่ฉันได้แต่ใบ้กิน เพราะเพิ่งระลึกได้ว่าเมื่อครู่พล่ามอะไรให้ลันตาฟังบ้าง

ที่แย่คือ… ไม่ใช่แค่ลันคนเดียวที่ได้ยิน…

คู่สนทนาตรงหน้าเม้มริมฝีปากกลั้นยิ้ม พร้อมกันก็ยกมือขึ้นจับป้ายชื่อพนักงานที่คล้องคอของตนอยู่ สายตาจ้องมองมาที่ป้ายแบบเดียวกันบนหน้าอกฉัน ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงขัน ๆ

“นี่ก็บังเอิญปะ? ทำงานที่เดียวกันงี้?”

“…”

ให้ตาย… นี่มันวันนรกแตกหรือยังไง…
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 4

    ระยะปลอดเพื่อนตอนที่ 4 ครึ่งชั่วโมงต่อมา สายตาทุกคู่จับจ้องมองมาในขณะที่พี่อ้อยดีเอ็มดี (รองกรรมการผู้จัดการ)กำลังแนะนำฉันให้เพื่อนร่วมงานรู้จัก รวมถึงแนะนำคนอื่นให้ฉันรู้จักด้วยทว่าสมองฉันในตอนนี้ราวกับจะดับไปเสียแล้ว หูอื้อฟังอะไรแทบไม่รู้เรื่อง แม้สายตาพยายามจะเบนมองไปทางอื่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-12
  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 5

    ระยะปลอดเพื่อนตอนที่ 5 ยี่สิบนาทีต่อมา สุดท้ายฉันก็ออกมากินข้าวกับสองจนได้… เราออกมาหาข้าวกินในละแวกใกล้กับคอนโด โดยที่สองเป็นคนเลือกร้าน และตอนนี้ข้าวแกงปักษ์ใต้ตรงหน้าก็ทำให้ฉันรู้สึกเจริญอาหารขึ้นมาเพราะคิดถึงบ้านเกิดเหลือเกิน อันที่จริงบ้านฉันอยู่ที่ภูเก็ต ตอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-12
  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 6

    ระยะปลอดเพื่อนตอนที่ 6 วันต่อมา หลังจากนอนคิดมาแล้วทั้งคืนว่าถึงยังไงก็คงจะต้องอยู่ที่นี่ไปก่อนอย่างเลี่ยงไม่ได้ จะให้ย้ายออกก็เปลืองเงินโดยใช่เหตุ แม้จะอยู่ห้องเดียวกัน แต่ก็แยกห้องนอนอยู่ดี ฉันเลยพยายามจะไม่คิดมากเรื่องที่ต้องอาศัยอยู่ร่วมชายคากับสอง แค่พยายามไม่ใกล้ชิด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-13
  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 7

    ระยะปลอดเพื่อนตอนที่ 7 ร้านอาหารเต็มไปด้วยผู้คนที่ออกมาทานข้าวมื้อค่ำ ดนตรีสดกำลังเล่นคลออยู่ที่เวทีทางด้านหน้า โต๊ะเราคงเป็นโต๊ะที่เสียงดังที่สุดเพราะไม่ได้เจอกันมานาน แต่ละคนก็เลยยิงคำถามเข้าใส่กันไม่หยุด ฉันไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่ว่าเก้อกระดากเขินอายเวลาอยู่กับบรรดาเพื่อนผู้ชายเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-13
  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 8

    ระยะปลอดเพื่อนตอนที่ 8 วันต่อมา “เปลี่ยนใหม่ทั้งหมดเลยเหรอคะ?” “ใช่ค่ะ” “แต่ว่าสินค้าของเราไม่เคย…” “เพราะแทบจะไม่เคยเปลี่ยนรูปลักษณ์ หรือลักษณะของตัวสินค้าเลยแม้ว่ายอดขายจะดิ่งฮวบลงทุกปีแบบนี้ มันก็เลยย่ำอยู่ที่เดิมไงคะ” “…” “แยมอยากจะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-13
  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 9

    ระยะปลอดเพื่อนตอนที่ 9 วันต่อมา วันนี้เป็นวันหยุด…เพราะสองไม่ยอมให้บัตรเข้าฟิตเนสมา ทำให้ฉันออกมาวิ่งที่สวนด้านล่างคอนโดแทน เพราะยังเป็นเวลาเช้ามากส่งผลให้แดดไม่แรงเท่าไร ลมก็เย็นผ่อนคลาย ฟีลดีกว่าวิ่งในฟิตเนสเสียอีกและขืนไปกับสอง มีหวังคงไม่เป็นอันได้ออกกำลังกายเป็นแน่ แค่นึกถึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-13
  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 10

    “มึงยังไม่ได้ไปสักหน่อย”“ว่าไงแยม วันนี้เราทำไรกันดี?”สองทำเป็นเมินเพื่อนหน้าตาเฉย แล้วหันมามองฉันอีกที และหลีก็เลิกสนใจสองไปแล้วเหมือนกันเพราะก๋วยเตี๋ยวถูกวางลงตรงหน้าพอดี“สองไปกับเพื่อนสิ เราว่าจะนอน”“งั้นเรานอนด้วย”“แค่ก ๆ”คนที่นั่งสูดเส้นก๋วยเตี๋ยวอยู่ฝั่งตรงข้ามสำลักเส้นจนหน้าแดง หลีเงยหน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-13
  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 11

    ระยะปลอดเพื่อนตอนที่ 10ตอนบ่ายหลังจากเมื่อเช้ากลับมาฉันก็เผลอหลับไป กระทั่งตอนนี้ผ่านไปได้หลายชั่วโมง ใจจริงก็อยากจะนอนต่ออีกหน่อย แต่ต้องฝืนสังขารลุกขึ้นเพื่อที่จะไปตากผ้าซึ่งซักทิ้งเอาไว้เมื่อช่วงสายของวันแต่พอเดินออกมาก็ต้องตกใจ เพราะมองออกไปด้านนอกตัวระเบียงเห็นร่างสูงของสองกำลังสะบัดผ้าตากอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-13

บทล่าสุด

  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 96

    อาการที่ผมเป็นในตอนนี้…ทั้งสายตาที่ไม่สามารถหยุดมองอีกคนได้ รวมถึงก้อนเนื้อที่กลางอกเต้นตุบ ๆ เป็นจังหวะรัวเร็วราวกับผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนัก จะบอกว่าผม… ตกหลุมรักเข้าอย่างจัง… ก็ไม่ผิดนัก… ยิ่งมองคนที่เพิ่งรู้จักกัน ใจก็ยิ่งเต้นแรงยิ่งแยมเองก็ลอบมองมาเหมือนกันผมก็แทบจะกลั้

  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 95

    ระยะปลอดเพื่อนตอนพิเศษ 4 หลายปีก่อน การเปิดเรียนของมหา’ลัยเริ่มต้นขึ้นแล้ว ทุกคนรอบข้างต่างก็เป็นนิสิตใหม่ หลังจากต้องอดทนนั่งฟังพวกพี่ว้ากอยู่นานกว่าสองชั่วโมง สุดท้ายผมก็ตัดสินใจว่าจะโดดรับน้องให้มันรู้แล้วรู้รอด หลังจากนั่งกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารในซอยข้างมหา’ลัยเสร็จ เ

  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 94

    “เหนื่อยไหม?” คนข้าง ๆ หันมาเอียงคอมองด้วยสีหน้าเห็นอกเห็นใจจนผมหลุดขำ “เหนื่อยอะไร?” “ก็สองทำทุกอย่างเลยนี่” สายตาเบนมองหน้าจอโน้ตบุ๊กที่เปิดค้างเอาไว้ “เหนื่อยก็บ้า เราแรงเยอะจะตาย มีพลังงานให้ใช้อีกเหลือเฟือ” “…” “กินข้าวเลยปะ? เราทำข้าวต้มกุ้งไว้”

  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 93

    ระยะปลอดเพื่อนตอนพิเศษ 3 หลายเดือนต่อมา ตอนนี้จะบอกว่าผมเป็นพ่อบ้านเต็มตัวก็ไม่ผิดนัก… ถึงจะทำงานไปด้วย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านผมเป็นคนจัดการเองทั้งหมด แยมกลับไปทำงานแล้วตั้งแต่สองเดือนหลังคลอด แม้จะอยากให้เมียพักอีกสักหน่อย แต่เจ้าตัวยืนยันว่ากลับมาแข็งแรงดีแล้ว เลยไม่อ

  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 92

    ระยะปลอดเพื่อนตอนพิเศษ 2 หลายเดือนต่อมา ช่วงนี้แยมท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีเลยต้องหยุดงานรอคลอดมาได้สามเดือนเข้าให้แล้ว เป็นผมที่ยังทำงานอยู่ทุกวันกลับบ้านมาก็เห็นเมียนอนหลับไปแล้วเหมือนทุกที เห็นพี่เจี๊ยบบอกว่าท้องแรกมักจะดูไม่ค่อยออกเพราะว่าเป็นท้องสาว ท้องจะเล็ก ๆ เท่าที่ม

  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 91

    ก็อารมณ์คนท้อง อยากจะกินอะไรใหม่ ๆ แทบทุกวันนั่นแหละ และผมก็พร้อมจะบึ่งไปซื้อให้เสมอ ห่วงก็แต่ช่วงที่แยมจะต้องอยู่บ้านคนเดียวหากท้องแก่ ใครมันจะมาหาข้าวหาปลาให้กินตอนกลางวัน โอเค… มันมีแอปฯ ให้สั่ง แต่ผมเองนี่แหละที่อยากจะเป็นคนบริการเมีย… หลังจากได้เกาเหลาเลือดหมูมาแล้ว กลับมาถึงบ

  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 90

    ระยะปลอดเพื่อนตอนพิเศษ 1 SONG TALKS ร่างเล็กของคนเป็นเมียนั่งอยู่บนตักผม พาดขาไปทางด้านหนึ่งซบซีกตัวข้างหนึ่งอยู่บนอก มือสองข้างกำลังพิมพ์แชตคุยกับบริษัทคู่ค้าแห่งใหม่ซึ่งกำลังดีลงานร่วมกัน ตัวบ้านเงียบเชียบมีแค่เสียงต๊อกแต๊กจากมือถือคนในอ้อมแขนเท่านั้นที่กำลังดังอยู่ในขณ

  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 89

    ระยะปลอดเพื่อนตอนที่ 47 หลายเดือนต่อมา วันนี้เป็นวันหยุด แต่เพราะเมื่อคืนฉันต้องถ่างตานั่งดูเทรนด์การตลาดแทบจะทั้งคืน ไหนจะโดนสองกวนอีก กว่าจะได้นอนก็เกือบจะรุ่งสาง ตื่นมาอีกทีก็ปาเข้าไปบ่ายโมง ที่นอนข้าง ๆ ว่างเปล่า สองคงจะตื่นนานแล้ว และป่านนี้คงจะลงไปหาอะไรทำท

  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 88

    หลังจากนั้นก็เหลือแค่เราสองคนที่ยืนมองหน้ากันเอง สองยิ้มกว้างจับมือกันแน่น สายตากวาดมองหน้าฉันรอบที่เท่าไรของวันก็ไม่อาจจะทราบได้“เมียเราสวยโคตร”แล้วก็เอ่ยคำ ๆ เดิมออกมาด้วยสีหน้าภาคอกภูมิใจ จนฉันหลุดขำ“ขำไร?”“ก็ถ้าสองเพิ่งพูดเป็นครั้งแรกเราจะเขินอยู่หรอก แต่นี่แค่วันเดียวเราฟังประโยคนี้มาเกินยี

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status