Share

บทที่ 7

Author: ACHICHI
last update Last Updated: 2025-03-13 19:51:40

ระยะปลอดเพื่อน

ตอนที่ 7

ร้านอาหารเต็มไปด้วยผู้คนที่ออกมาทานข้าวมื้อค่ำ ดนตรีสดกำลังเล่นคลออยู่ที่เวทีทางด้านหน้า โต๊ะเราคงเป็นโต๊ะที่เสียงดังที่สุดเพราะไม่ได้เจอกันมานาน แต่ละคนก็เลยยิงคำถามเข้าใส่กันไม่หยุด

ฉันไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่ว่าเก้อกระดากเขินอายเวลาอยู่กับบรรดาเพื่อนผู้ชายเป็นฝูง เลยไม่ได้ต้องสงวนกิริยาท่าทีแบบกุลสตรีเท่าไรนัก ทุกคนกินเบียร์ฉันก็เอาด้วย เพื่อนเล่นกระดกขวดฉันก็เอาด้วย ต่างจากผู้หญิงอีกคนในกลุ่มไม่นับลันตาซึ่งไม่ได้อยู่ ณ ที่แห่งนี้

ฟางเป็นผู้หญิงไม่ต่างกันกับฉัน แต่กลับเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ ดวงหน้าหวานหัวเราะทีทำเอาผู้ชายใจละลายได้เป็นแถว ซ้ำยังแต่งเนื้อแต่งตัวเรียบร้อย ไม่ ‘แรด’ เหมือนที่เพื่อนคนอื่นลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันเมื่อเห็นฉันโผล่เข้ามา

ถึงอย่างนั้นฉันก็ชินแล้ว ไม่ได้รู้สึกอะไร ก็มักจะโดนด่าแบบนี้เป็นประจำ และก็ไม่ได้มีใครมานั่งสนใจร่องนมฉันเหมือนที่สองเป็นกังวลด้วย เพราะฉันก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร

ไม่ได้เคยเคอะเขินกับสายตาเพื่อนอะไรแบบนั้น…

หากจะเคยมีเขิน ก็เว้นอยู่แค่คนเดียว…

“ว่าแต่ตอนนี้พวกมึงสองคนอยู่ด้วยกันจริง?”

“…”

วงสนทนาเงียบกริบลงตอนที่คาร์เตอร์หรือที่เพื่อน ๆ เรียกกันว่า เตอร์ หันมามองฉันสลับกับอีกคนที่นั่งอยู่ตำแหน่งเยื้อง ๆ กัน แต่แทนที่ฉันหรือสองจะเป็นคนตอบคำถาม เสียงของตัวต้นเรื่องอย่างโซ่กลับเป็นคนเอ่ยตอบแทน

“ก็ใช่ดิ คิดว่ากูโกหกหรือไง?”

ถ้าไม่ติดว่าคนเยอะ ก็อยากจะลุกไปกระโดดถีบขาคู่ใส่คนที่ไม่ได้มีสีหน้าเป็นเดือดเป็นร้อนกับสิ่งที่ตัวเองเป็นต้นเหตุเข้าสักทีอยู่เหมือนกัน

โซ่เป็นคนหล่อไม่แพ้สองเลย แต่ความหล่อของมันในสายตาฉันนับวันยิ่งจะลดลงเพราะไอ้นิสัยแบบนี้นี่แหละ

“แล้วยังไง?”

เตอร์หันไปมองหน้าสองที่กำลังม้วนเส้นสปาเกตตีกินอย่างสบายอารมณ์ คนถูกถามเงยหน้าขึ้นมองสายตาทุกคู่ที่กำลังจับจ้อง ปากก็เคี้ยวไปด้วย

“อะไร?”

“ไม่ตีกันแล้ว?”

“นั่นดิ ตอนนู้นเห็นตีกันทุกวัน”

“ตอนไหนวะ?”

“ก็หลังจากที่แยมมันบอกชอบไอ้สองไง”

“…”

ให้ตาย…

คนพวกนี้เหมาะจะเป็นเพื่อนกันไปจนตายจริง ๆ ตอนนั้นขี้เผือกยังไงตอนนี้ก็ไม่ได้ต่าง

อาจเป็นเพราะนิสัยเดิมของฉันที่ไม่เคยตีโพยตีพายเวลาใครพูดถึงเรื่องนี้ เพราะจริง ๆ แล้วฉันก็ไม่ได้อายที่เพื่อนรู้เท่าไร หากจะอายใครคงจะเป็นอายสองเสียมากกว่า

และในสถานการณ์ตอนนี้ เหตุการณ์นั้นก็ผ่านมานานหลายปี ทุกคนจะหยิบยกมาพูดก็ไม่แปลก

คงคิดกันไปว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับสองแล้วจริง ๆ

ที่บอกว่าฉันกับสองตีกันทุกวันหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นไม่ใช่การลงไม้ลงมือ แต่เป็นเพราะสองเอาแต่แกล้งแหย่ไม่เลิก และฉันเองก็อับอายขายขี้หน้าเจ้าตัวเกินกว่าที่จะอยู่เฉยได้

มองย้อนกลับไปก็เป็นอะไรที่ตลกดี

เหตุการณ์ในตอนนั้น สองไม่ใช่คนที่ตีตัวออกหาก เจ้าตัวก็ยังเหมือนเดิม เป็นฉันเองต่างหากที่ทนอยู่ใกล้คนที่ว่าไม่ได้อีกต่อไป จนเราห่างกันในที่สุด

แต่ตอนนี้…

ก็คงจะต้องแล้วแต่เวรแต่กรรม…

คนอื่นยังคงเร้าหรือสอบซักถามสองไม่เลิก เจ้าตัวไม่ได้ตอบอะไรเอาแต่เคี้ยวจนแก้มตุ่ย สายตาชำเลืองมองมาหลายต่อหลายครั้ง จนคนอื่นพากันหันมาคาดคั้นเอาจากฉันแทน

“ว่าไงแยม?”

“ว่าไงอะไร?”

“ดีกันแล้ว?”

“ก็ไม่ได้โกรธอะไรกันสักหน่อย” ฉันตอบได้ไม่เต็มเสียงนัก คนอื่นพากันพ่นลมหายใจเสียงดัง สีหน้ารู้ทันเหมือนกันไปหมด

“ไม่ได้โกรธ แต่บอกพวกกูว่า…”

“ไม่ต้องพูด” ฉันเอ่ยขัดขึ้นทันที เพราะรู้อยู่ว่าเพื่อนจะพูดอะไร

ก็แค่บอกว่า… ถ้าชวนสองไปไหน ฉันจะไม่ไป… แค่นั้นเอง…

“และไอ้โซ่ก็เพิ่งบอกว่าพวกมึงทำงานที่เดียวกันด้วย?” เตอร์ยังรับบทพิธีกรยื่นไมค์ถามต่อ คนกระจายข่าวได้ยินการพาดพิงถึงชื่อของตัวเองรีบหันหน้าหนีทันที

“บังเอิญว่าเราย้ายมาทำที่บริษัทเดียวกับสอง”

“แบบนี้ก็กลับมาสนิทกันได้อะดิ”

“เออ พวกมึงกลับมาซี้กันเหอะ พวกกูขี้เกียจนัดกันทีละรอบ”

“สองว่าไง?”

“อะไร?”

คนถูกหันไปจ้องอีกครั้ง จำต้องเงยหน้าขึ้นจากการกิน เห็นแล้วก็น่าหงุดหงิดเอาแต่กินอยู่ได้ไม่คิดจะช่วยกันตอบคำถามบ้างเลยหรือยังไง…

“พวกมึงจะกลับมาสนิทกันเหมือนเดิมได้สักทีหรือยัง? พวกกูขี้เกียจนัดหลาย ๆ รอบ พอนัดมึง แยมก็ไม่ยอมมา พอนัดแยม แม่งก็ห้ามชวนมึง”

คาร์เตอร์เอ่ยต่อ และทุกคนก็พากันพยักหน้าเห็นด้วยไปตาม ๆ กัน ไม่เว้นแม้แต่ฟางเพื่อนสาวคนเดียวที่เอาแต่นั่งเงียบมาตั้งแต่เมื่อครู่

เพราะฉันไม่อยากจะเป็นคนตอบเลยแสร้งก้มหน้าเลื่อนมือถือเล่น ทว่าหางตาก็ชำเลืองมอง สงสัยเหมือนกันว่าอีกคนจะตอบคนอื่นว่าอะไร

กลายเป็นว่าตอนนี้สายตาทุกคู่กำลังจับจ้องไปที่สอง และต้องรอให้เจ้าตัวกินจนหมดปากก่อนถึงจะได้ฤกษ์ตอบ

สองคว้าเบียร์ไปกระดกดื่ม ชักช้าลีลาจนทุกคนพากันถอนหายใจ แต่ท้ายที่สุดก็พยักหน้าส่ง ๆ

“อะไรของมึง?” เตอร์ยังคงเป็นคนถาม

“ก็เออไง” และสองก็ตอบทันที

“เอออะไร?”

แต่คราวนี้ไม่ใช่แค่ทุกคนที่ตั้งตารอฟังว่าสองจะพูดอะไร ถึงฉันเองก็แอบลอบชำเลืองมองเหมือนกัน และเจ้าตัวเองก็กำลังมองมาอยู่ก่อนแล้ว

“กูก็ง้อเพื่อนพวกมึงอยู่นี่ไง”

“…”

ฉันไม่รู้ว่าคนอื่นทำสีหน้ายังไง

รู้ก็แค่ตัวฉันต้องรีบหลุบตาลงต่ำหลบสายตาเพื่อนที่พากันมองมาเพื่อลอบสังเกตปฏิกิริยาอะไรบางอย่าง

ปฏิกิริยาแบบที่ฉัน… คงจะไม่แสดงออกไปให้ใครได้รู้ทัน…

03.00 น.

โชคดีที่ดื่มกันไปไม่เยอะเท่าไร หลังจากกลับมาจากการสังสรรค์กับเพื่อนทำให้ฉันยังมีสติมากพอที่จะอ่านเอกสารรายงานยอดขายของบริษัทในช่วงปีก่อน ๆ ที่ได้มาจากพี่อ้อยเมื่อตอนกลางวันก่อนนอนได้ต่ออีกหลายชั่วโมง

เงยหน้ามองนาฬิกาอีกทีก็พบว่าตอนนี้ควรจะเข้านอนได้แล้ว…

เพราะเป็นเวลาดึกมาก เลยคิดว่าสองคงจะนอนหลับไปแล้ว ทำให้ไม่ทันได้คิดอะไรตอนที่เดินออกมาจากห้องนอนในสภาพชุดนอนวาบหวิวแบบที่คงจะให้อีกคนเห็นไม่ได้

ตู้เย็นเต็มไปด้วยขวดเบียร์เรียงกันเป็นตับ แทบจะหาน้ำเปล่าที่ต้องการไม่เจอ ก็ยังดีที่เหลืออยู่ตรงมุมประตูตู้ขวดหนึ่ง

ครืด!

จังหวะที่กำลังยกน้ำขึ้นดื่มก็ต้องตกใจจนสำลัก เพราะเสียงเปิดประตูระเบียงดังขึ้น สองที่น่าจะหลับไปแล้วกลับยังไม่หลับ

“ทำไมยังไม่นอน?”

เจ้าตัวไม่พูดเปล่าแต่เดินเข้ามาจนใกล้ ฉันที่ลนลานหนักรีบเก็บขวดน้ำใส่ตู้เย็น ตั้งท่าจะวิ่งหนีเพราะสภาพไม่ควรมาอยู่กับอีกคนตามลำพังสักเท่าไร แต่สองก็มายืนดักหน้าไว้อีกครั้ง

แม้ว่าในห้องจะมืดเพราะไม่ได้เปิดไฟ แต่ก็น่าเป็นกังวลอยู่ดี เนื่องจากชุดนอนที่ใส่อยู่ขณะนี้มันค่อนข้างวาบหวิว ซ้ำตัวฉันก็ไม่ได้ใส่บราเพราะกำลังจะเข้านอน

และวินาทีนี้สองเองก็น่าจะเห็นแล้วเหมือนกัน ถึงได้ทำทีเบนสายตาไปทางอื่น

“หลบ เราจะไปนอน”

“ขอคุยด้วยแป๊บนึง”

“เอาไว้ว่ากันพรุ่งนี้” ฉันพยายามจะเบี่ยงตัวเดินหนี แต่คนพูดไม่รู้เรื่องก็คว้าแขนไว้

สุดท้ายก็จำใจต้องดึงแขนกลับมากอดอกแล้วเงยหน้าขึ้นมองเพื่อตัดรำคาญ

“สองมีอะไร?”

“เมื่อไร…”

“เมื่อไรอะไร?”

“เมื่อไรเราจะกลับมาสนิทกันเหมือนเดิม?”

“…”

แม้จะมืด แต่เพราะน้ำเสียงจริงจังผิดวิสัยทำให้ฉันแอบตกใจไม่น้อยกับคำถามที่ไม่คิดว่าจะได้ยิน สองนิ่งอยู่ครู่ก็ถอนหายใจเบา ๆ

“แยม…”

“สองสูบบุหรี่มาเหรอ?”

ฉันเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง เปลี่ยนเรื่องกะทันหันเพราะได้กลิ่นที่ว่าจากเจ้าตัว หัวคิ้วเลื่อนเข้าหากันโดยอัตโนมัติ อีกคนนิ่งอยู่อึดใจก็พยักหน้าส่ง ๆ

“กลับมาสูบได้สองปีแล้ว”

“ตอนนั้นก็เลิกได้แล้วไง”

“ก็ตอนนั้นเพราะแยมไม่ชอบให้ตัวเรามีกลิ่นบุหรี่”

“…”

“แต่ตอนนี้มันไม่มีใครห้าม”

“สอง”

“แต่เดี๋ยวเลิกให้”

“…”

ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศชั่วครู่ เราต่างคนต่างขยับตัวกันอย่างอึดอัดอยู่ในความมืด และฉันก็เป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นก่อน

“ไม่ต้องเลิกเพราะเราหรอก แต่สองควรเลิกเพราะสุขภาพตัวเอง”

“ก็ไม่มีแรงจูงใจ”

“แล้วเราเป็นแรงจูงใจตรงไหน?”

“ก็แยมไม่ชอบ”

“…”

“ถ้าสูบก็เข้าใกล้ไม่ได้”

“…”

“แบบนั้นก็กลับไปสนิทไม่ได้”

“…”

“เพราะงั้น เดี๋ยวจะเลิกให้…”

“เราจะไปนอนแล้ว”

ฉันตัดบทขึ้นอีกครั้ง เพราะไม่รู้จะตอบอะไร และคราวนี้สองก็ไม่ได้เอ่ยรั้งกันไว้เหมือนนาทีก่อน กลับปล่อยให้เดินผ่านเข้าห้องง่าย ๆ

ทันทีที่ประตูปิดลงฉันก็ถอนหายใจเบา ๆ พิงแผ่นหลังกับบานประตูอย่างหนักใจ

สองมาพูดแบบนี้ ก็คืออยากจะกลับมาสนิทกันเหมือนเดิมแน่นอน สำหรับสองแล้วคงจะไม่มีอะไรที่เป็นปัญหา…

แต่ตัวฉันเองต่างหากจะสามารถรับแรงกระแทกของอะไรบางอย่างในสถานะเพื่อนสนิทที่ก็เคยมีเรื่องผิดพลาดมาก่อนแล้วได้ดีแค่ไหน…

บอกตรง ๆ ว่ากลัวตับพัง… ตอนนี้ยังไม่มีอะไหล่สำรอง…
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 8

    ระยะปลอดเพื่อนตอนที่ 8 วันต่อมา “เปลี่ยนใหม่ทั้งหมดเลยเหรอคะ?” “ใช่ค่ะ” “แต่ว่าสินค้าของเราไม่เคย…” “เพราะแทบจะไม่เคยเปลี่ยนรูปลักษณ์ หรือลักษณะของตัวสินค้าเลยแม้ว่ายอดขายจะดิ่งฮวบลงทุกปีแบบนี้ มันก็เลยย่ำอยู่ที่เดิมไงคะ” “…” “แยมอยากจะ

    Last Updated : 2025-03-13
  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 9

    ระยะปลอดเพื่อนตอนที่ 9 วันต่อมา วันนี้เป็นวันหยุด…เพราะสองไม่ยอมให้บัตรเข้าฟิตเนสมา ทำให้ฉันออกมาวิ่งที่สวนด้านล่างคอนโดแทน เพราะยังเป็นเวลาเช้ามากส่งผลให้แดดไม่แรงเท่าไร ลมก็เย็นผ่อนคลาย ฟีลดีกว่าวิ่งในฟิตเนสเสียอีกและขืนไปกับสอง มีหวังคงไม่เป็นอันได้ออกกำลังกายเป็นแน่ แค่นึกถึ

    Last Updated : 2025-03-13
  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 10

    “มึงยังไม่ได้ไปสักหน่อย”“ว่าไงแยม วันนี้เราทำไรกันดี?”สองทำเป็นเมินเพื่อนหน้าตาเฉย แล้วหันมามองฉันอีกที และหลีก็เลิกสนใจสองไปแล้วเหมือนกันเพราะก๋วยเตี๋ยวถูกวางลงตรงหน้าพอดี“สองไปกับเพื่อนสิ เราว่าจะนอน”“งั้นเรานอนด้วย”“แค่ก ๆ”คนที่นั่งสูดเส้นก๋วยเตี๋ยวอยู่ฝั่งตรงข้ามสำลักเส้นจนหน้าแดง หลีเงยหน

    Last Updated : 2025-03-13
  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 11

    ระยะปลอดเพื่อนตอนที่ 10ตอนบ่ายหลังจากเมื่อเช้ากลับมาฉันก็เผลอหลับไป กระทั่งตอนนี้ผ่านไปได้หลายชั่วโมง ใจจริงก็อยากจะนอนต่ออีกหน่อย แต่ต้องฝืนสังขารลุกขึ้นเพื่อที่จะไปตากผ้าซึ่งซักทิ้งเอาไว้เมื่อช่วงสายของวันแต่พอเดินออกมาก็ต้องตกใจ เพราะมองออกไปด้านนอกตัวระเบียงเห็นร่างสูงของสองกำลังสะบัดผ้าตากอ

    Last Updated : 2025-03-13
  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 12

    “อะไร…”“ยาทาแก้ปวดอยู่ในห้อง”“ก็แล้วทำไมไม่ไปหยิบเอง?”“โห! อะไรจะแล้งน้ำใจขนาดนั้น?”ว่าแล้วก็ทำหน้าตัดพ้อ จนฉันทนรำคาญไม่ไหว ต้องกระแทกเท้าเดินไปเอาให้ตามคำร้องขอ“อยู่ไหน?”“โต๊ะข้างเตียง”หลอดยาวางอยู่ที่โต๊ะข้างเตียงจริง ๆ อย่างที่เจ้าตัวว่า ซ้ำยังมีกล่องแผ่นแปะแก้ปวดอีกหลายกล่องที่ยังไม่ได้ใ

    Last Updated : 2025-03-13
  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 13

    ระยะปลอดเพื่อนตอนที่ 11 ออฟฟิศ “แพ็กเกจจิงแบบนี้คงจะสวยดีถ้าเป็นเมื่อห้าปีก่อน แต่ตอนนี้แบบนี้ทุกแบรนด์พากันทำเหมือนกันไปหมด เพราะงั้นตัวนี้ใช้ไม่ได้ค่ะ” “…” สไลด์ถูกปิดลงพร้อมกับสีหน้าหนักใจของทุกคนในทีมที่พร้อมพากันถอนหายใจ รวมถึงตัวฉันเองก็เหมือนกัน “

    Last Updated : 2025-03-13
  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 14

    ที่เราสองคนต้องมานั่งคุยกันในแชตแบบนี้เป็นเพราะฉันขอเอาไว้เอง ไม่งั้นสองคงจะมาวอแวไม่เลิกแม้จะเป็นที่ทำงาน ก็ยังดีที่พูดรู้เรื่อง ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แต่ผุดตัวลุกขึ้นยืน คว้าแฟ้มมากอดไว้แนบอก ก่อนจะเดินผ่านหน้าคนที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม สองมองตามมากระทั่งประตูห้องปิดลง

    Last Updated : 2025-03-13
  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 15

    ระยะปลอดเพื่อนตอนที่ 12 วันต่อมา “ไปวิ่ง?” “ไม่ต้องตามมานะ” “ได้ไง? ไม่ชวน?” “…” ฉันไม่ตอบสองที่ทำหน้าขัดใจแต่รีบคว้าเอารองเท้าใส่วิ่งมาสวม อีกคนรีบเดินเข้าห้องตัวเองไปอย่างรีบร้อน และทันทีที่ฉันผูกเชือกรองเท้าเสร็จ เจ้าตัวก็เดินกลับออกมาในสภาพพ

    Last Updated : 2025-03-13

Latest chapter

  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 96

    อาการที่ผมเป็นในตอนนี้…ทั้งสายตาที่ไม่สามารถหยุดมองอีกคนได้ รวมถึงก้อนเนื้อที่กลางอกเต้นตุบ ๆ เป็นจังหวะรัวเร็วราวกับผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนัก จะบอกว่าผม… ตกหลุมรักเข้าอย่างจัง… ก็ไม่ผิดนัก… ยิ่งมองคนที่เพิ่งรู้จักกัน ใจก็ยิ่งเต้นแรงยิ่งแยมเองก็ลอบมองมาเหมือนกันผมก็แทบจะกลั้

  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 95

    ระยะปลอดเพื่อนตอนพิเศษ 4 หลายปีก่อน การเปิดเรียนของมหา’ลัยเริ่มต้นขึ้นแล้ว ทุกคนรอบข้างต่างก็เป็นนิสิตใหม่ หลังจากต้องอดทนนั่งฟังพวกพี่ว้ากอยู่นานกว่าสองชั่วโมง สุดท้ายผมก็ตัดสินใจว่าจะโดดรับน้องให้มันรู้แล้วรู้รอด หลังจากนั่งกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารในซอยข้างมหา’ลัยเสร็จ เ

  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 94

    “เหนื่อยไหม?” คนข้าง ๆ หันมาเอียงคอมองด้วยสีหน้าเห็นอกเห็นใจจนผมหลุดขำ “เหนื่อยอะไร?” “ก็สองทำทุกอย่างเลยนี่” สายตาเบนมองหน้าจอโน้ตบุ๊กที่เปิดค้างเอาไว้ “เหนื่อยก็บ้า เราแรงเยอะจะตาย มีพลังงานให้ใช้อีกเหลือเฟือ” “…” “กินข้าวเลยปะ? เราทำข้าวต้มกุ้งไว้”

  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 93

    ระยะปลอดเพื่อนตอนพิเศษ 3 หลายเดือนต่อมา ตอนนี้จะบอกว่าผมเป็นพ่อบ้านเต็มตัวก็ไม่ผิดนัก… ถึงจะทำงานไปด้วย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านผมเป็นคนจัดการเองทั้งหมด แยมกลับไปทำงานแล้วตั้งแต่สองเดือนหลังคลอด แม้จะอยากให้เมียพักอีกสักหน่อย แต่เจ้าตัวยืนยันว่ากลับมาแข็งแรงดีแล้ว เลยไม่อ

  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 92

    ระยะปลอดเพื่อนตอนพิเศษ 2 หลายเดือนต่อมา ช่วงนี้แยมท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีเลยต้องหยุดงานรอคลอดมาได้สามเดือนเข้าให้แล้ว เป็นผมที่ยังทำงานอยู่ทุกวันกลับบ้านมาก็เห็นเมียนอนหลับไปแล้วเหมือนทุกที เห็นพี่เจี๊ยบบอกว่าท้องแรกมักจะดูไม่ค่อยออกเพราะว่าเป็นท้องสาว ท้องจะเล็ก ๆ เท่าที่ม

  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 91

    ก็อารมณ์คนท้อง อยากจะกินอะไรใหม่ ๆ แทบทุกวันนั่นแหละ และผมก็พร้อมจะบึ่งไปซื้อให้เสมอ ห่วงก็แต่ช่วงที่แยมจะต้องอยู่บ้านคนเดียวหากท้องแก่ ใครมันจะมาหาข้าวหาปลาให้กินตอนกลางวัน โอเค… มันมีแอปฯ ให้สั่ง แต่ผมเองนี่แหละที่อยากจะเป็นคนบริการเมีย… หลังจากได้เกาเหลาเลือดหมูมาแล้ว กลับมาถึงบ

  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 90

    ระยะปลอดเพื่อนตอนพิเศษ 1 SONG TALKS ร่างเล็กของคนเป็นเมียนั่งอยู่บนตักผม พาดขาไปทางด้านหนึ่งซบซีกตัวข้างหนึ่งอยู่บนอก มือสองข้างกำลังพิมพ์แชตคุยกับบริษัทคู่ค้าแห่งใหม่ซึ่งกำลังดีลงานร่วมกัน ตัวบ้านเงียบเชียบมีแค่เสียงต๊อกแต๊กจากมือถือคนในอ้อมแขนเท่านั้นที่กำลังดังอยู่ในขณ

  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 89

    ระยะปลอดเพื่อนตอนที่ 47 หลายเดือนต่อมา วันนี้เป็นวันหยุด แต่เพราะเมื่อคืนฉันต้องถ่างตานั่งดูเทรนด์การตลาดแทบจะทั้งคืน ไหนจะโดนสองกวนอีก กว่าจะได้นอนก็เกือบจะรุ่งสาง ตื่นมาอีกทีก็ปาเข้าไปบ่ายโมง ที่นอนข้าง ๆ ว่างเปล่า สองคงจะตื่นนานแล้ว และป่านนี้คงจะลงไปหาอะไรทำท

  • ระยะปลอดเพื่อน   บทที่ 88

    หลังจากนั้นก็เหลือแค่เราสองคนที่ยืนมองหน้ากันเอง สองยิ้มกว้างจับมือกันแน่น สายตากวาดมองหน้าฉันรอบที่เท่าไรของวันก็ไม่อาจจะทราบได้“เมียเราสวยโคตร”แล้วก็เอ่ยคำ ๆ เดิมออกมาด้วยสีหน้าภาคอกภูมิใจ จนฉันหลุดขำ“ขำไร?”“ก็ถ้าสองเพิ่งพูดเป็นครั้งแรกเราจะเขินอยู่หรอก แต่นี่แค่วันเดียวเราฟังประโยคนี้มาเกินยี

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status