เธอพูดได้ค่อนข้างมีไหวพริบ แต่เขาเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ของเธอ ความหมายของเธอก็คือ ไม่ว่าเสี่ยวหานและรุ่ยลาจะเป็นฝาแฝดหรือไม่ และไม่ว่าเสี่ยวหานจะเป็นลูกชายหรือไม่ก็ตาม คุณอย่าได้คิดสนใจเด็กสองคนนี้ มีเพียงแค่เด็กในท้องคนนี้เท่านั้นที่เป็นของคุณว่ากันตามอารมณ์ในอดีตของเขา เขาต้องโกรธแน่ ๆ แต่ตอนนี้อารมณ์ของเขานับว่ามั่นคง มีหนึ่งคนก็ดีกว่าไม่มีเลย เธอใส่ยาให้เขาเสร็จแล้วก็เอาผ้าก๊อซสีขาวมาพันรอบแผล“ติดปลาสเตอร์ก็พอแล้ว” เขารู้สึกว่าการใช้ผ้าก๊อซพันแผลมันดูรุนแรงและโอเวอร์ไปหน่อย คนที่ไม่รู้จะนึกว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอไม่สนใจคำขอของเขาและพันมือเขาด้วยผ้าก๊อซ “สองวันนี้อย่าให้แผลโดนน้ำนะคะ” เธอสั่ง “งั้นผมจะอาบน้ำยังไง?” เขาถาม “คุณไม่เคยได้รับบาดเจ็บมาก่อนเลยเหรอ?” เธอเลิกคิ้วขึ้น อยากพูดประชดใส่ แต่เมื่อคิดว่าอาการบาดเจ็บของเขาเกิดจากลูกสาวของเธอ จู่ ๆ ความแรงนั้นก็หายไป “ถ้าคุณอาบมือเดียวไม่ได้แล้วไม่อยากให้ใครช่วยก็สวมถุงมือกันน้ำ” เขามองดูมือตัวเองที่พันผ้าก็อซไว้แน่นแล้วถามอย่างสบาย ๆ ว่า “เมื่อไหร่ถึงจะรู้ว่าลูกของเราเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง?” “คลอดออกมาก็
“ทำไมพวกเธอสองคนต้องนอนห้องเดียวกันด้วยล่ะ?” หลีเสี่ยวเถียนจับประเด็นสำคัญได้เก่งมาก ฉินอันอัน “ตอนนั้นฝนตกหนักมาก ฉันไล่เขาออกไปไม่ได้” “อ้อ งั้นพวกเธอสองคนนอนห้องเดียวกันเหรอ? เธอยอมให้เขานอนบนเตียงได้ยังไง? เขาไม่ใส่อะไรเลย แล้วก็มีพายุฝน เธอก็ยอมให้เขาแล้วเหรอ?!” ฉินอันอันตะลึงไปครู่หนึ่ง “พวกเราไม่ได้ทำ เอ่อ…โอ้ เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ…” “ฉันรู้ว่าเขาต้องทำเรื่องนั้นกับเธอแน่…” ฉินอันอันรู้สึกว่าหัวข้อที่คุยกันแปลกไปสักหน่อยจึงรีบพูดแทรกเธอทันที “หลีเสี่ยวเถียน มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิด! เขาล้าง…เขาล้างเท้า…ให้ฉัน…” ฉินอันอันไม่อยากพูด แต่ว่าดวงตาของหลีเสี่ยวเถียนนั้นดุร้ายมาก! หลังจากที่เธอพูดจบ หลีเสี่ยวเถียนก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจออกมา : “นั่นคือประธานฟู่ที่แสนเยี่ยมยอดเลยนะ! มืออันสูงส่งนั่นทั้งทำเงินและล้างเท้าให้ผู้หญิงได้! จิตวิญญาณของการอดกลั้นต่อความอัปยศอดสูและการปรับตัวนี้เป็นความลับในความสำเร็จของเขาใช่ไหม? ไม่แปลกใจเลยว่าคนที่เขาประสบความสำเร็จ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะทำสำเร็จ! ถ้ามีผู้ชายไล่ตามฉันหลายพันไมล์เพื่อล้างเท้าให้ ฉันก็ยอมแพ้เหมือนกัน!” ทันใดนั้นเสีย
ฟู่สือถิงลดสายตาลงมองดูใบหน้าเล็ก ๆ ที่ทั้งน่ารักและโมโหสุด ๆ ของรุ่ยลา แล้วแก้ไขคำพูดของเธอ “ทำไมหนูถึงเรียกชื่อจริงของฉัน? แบบนี้มันหยาบคายมากนะ” รุ่ยลาส่งเสียงฮึดฮัด “เพราะว่าคุณเป็นคนไม่ดี” “แม่ของหนูบอกงั้นเหรอ?” สีหน้าฟู่สือถิงสุขุมเยือกเย็น เขาไม่โกรธเลย เพราะรุ่ยลายังเด็ก เธอจะเข้าใจอะไร? ทุกอย่างที่เธอรู้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ปลูกฝังเธอ “ไม่ใช่สักหน่อย! แม่ของหนูไม่เคยพูดใส่ร้ายคนอื่นลับหลัง!” เมื่อรุ่ยลาพูดถึงตรงนี้ ก็กลัวว่าตัวเองจะเปิดเผยพี่ชายออกมาจึงเปลี่ยนเรื่องอย่างเฉลียวฉลาด “คุณกำลังทำอะไรเหรอคะ?” “ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน” ฟู่สือถิงเอาซี่โครงที่หมักไว้ในเธอดู “นี่เป็นเมนูโปรดของแม่หนู หนูอยากกินอะไร ฉันจะทำให้” รุ่ยลาตอบอย่างรวดเร็วแทบไม่ต้องคิด “หนูอยากกินช็อกโกเลต! แล้วหนูก็อยากกินเนื้อด้วย! คุณซ่อนช็อกโกเลตไว้ข้างในเนื้อให้หนูได้หรือเปล่าคะ? อย่าให้แม่รู้เด็ดขาดเลยนะคะ!” ฟู่สือถิงชั่งน้ำหนักถึงผลดีและผลเสียแล้วเอ่ยถามว่า “ฉันทำให้หนูได้ แต่หนูบอกฉันได้ไหมว่าพี่ชายหนูชอบกินอะไร?” รุ่ยลากลอกตาไปมา “พี่ชายชอบกินผัก แต่ถ้าคุณทำ เขาไม่มีทางกินหรอกค่ะ
หลังจากที่เธอไปแล้ว หลีเสี่ยวเถียนก็พูดอย่างเก้อเขินว่า “ฉันพูดอะไรผิดหรือเปล่า?” เซิ่งเป่ยพูดอย่างจริงจังว่า “ฟู่สือถิงให้เสิ่นอวี๋สองพันล้าน ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้เรื่องนี้ ถึงแม้ว่าฟู่สือถิงจะให้ฉินอันอันสองพันล้านได้เช่นกัน แต่ก็ให้ในลักษณะที่แตกต่างกัน” “พี่ไม่พูดถึงเสิ่นอวี๋ ฉันเกือบลืมเธอไปแล้ว” “สาเหตุที่พวกเขาทะเลาะกันครั้งนี้ก็มาจากเสิ่นอวี๋” เซิ่งเป่ยกล่าว “เธออย่าได้ประมาทพลังของแฟนเก่าเชียว” “ถูกต้อง! แถมตอนนี้อันอันตั้งท้อง เดิมทีก็มีแนวโน้มที่จะไม่มั่นคงทางอารมณ์…แต่เธอยอมให้ฟู่สือถิงมาทำอาหารบ่งบอกว่าเธอเองก็อยากยอมรับฟู่สือถิงอีกครั้ง!” หลีเสี่ยวเถียนคาดเดาความคิดเธอไม่ได้เล็กน้อย “มีแค่พวกเขาสองคนเท่านั้นแหละที่รู้ว่าจะกลับมาคบกับหรือเปล่า” เซิ่งเป่ยพูดอย่างเกียจคร้าน “พวกเราในฐานะเพื่อนคอยซุบซิบกันเงียบ ๆ ก็พอ!” ......ที่ชั้นสอง ฉินอันอันผลักบานประตูห้องนอนออก ต้อนรับแสงแดดที่หักเหมาจากนอกหน้าต่าง สายตาก็จับจ้องลงบนเตียงใหญ่ฟู่สือถิงหลับไปแล้ว ชั้นล่างเสียงดังขนาดนั้นแต่กลับไม่มีผลกระทบอะไรต่อเขาเลย ดูท่าเขาจะเหนื่อยจริง ๆ เธอเข้ามาในห้องแล้วปิดปร
เธอกำลังจะพูด แต่กลับต้องตกใจกับประกายของน้ำตาในดวงตาและความอ่อนแอที่ไม่ปิดบังของเขา “ฟู่สือถิง… เธอเรียกชื่อเขาอย่างอดไม่ได้ เธออยากจะถามว่าคุณเป็นอะไร แต่ก่อนที่เธอจะได้เอ่ยถาม ฝ่ามือใหญ่ของเขาก็จับแขนเธอแล้วดึงเธอเข้ามาให้อ้อมแขนเขา เธอใช้แขนยันตัวไว้ จนตาเธอสั่นไหว ใบหน้าของพวกเขาห่างกันไม่กี่เซนติเมตร เธอมองเห็นความรู้สึกที่แตกกระจายในดวงตาของเขาอย่างชัดเจน “สือถิง เป็นอะไรไป?” หัวใจของเธอรัดแน่นเป็นลูกบอล น้ำเสียงเบาลงไม่รู้ตัว ”ผมฝันว่าคุณทิ้งผมไปแล้ว” ลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลง เสียงก็แหบพร่า “คุณจากไปกับผู้ชายอื่น” เธอพูดไม่ออกราวกับก้างปลาติดคอ เธอไม่มีวันบอกเขาว่าตอนที่เขาอยู่กับเสิ่นอวี๋ก่อนหน้านี้ เธอฝันร้ายบ่อย ๆ ว่าเขาแต่งงานกับเสิ่นอวี๋ เพราะว่าใส่ใจ ดังนั้นก่อนจะได้ก็กลัวว่าจะไม่ได้ พอได้มาก็กลัวว่าจะต้องเสียไป“นั่นมันแค่ความฝัน ไม่ใช่ความจริงค่ะ” นิ้วของเธอค่อย ๆ เช็ดน้ำตาจากหางตาของเขา “คุณห้ามคบกับผู้ชายอื่นนะ” ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ยินคำอธิบายของเธอ ฝ่ามือใหญ่ของเขากำมือเล็ก ๆ ของเธอไว้แน่น “ฉันไม่ได้คบกับผู้ชายคนอื่นค่ะ” มือของเธอถูกเ
“โอ้…ตกลงค่ะพี่ชาย! พวกเราไปเล่นกับอิ๋นอิ๋นกันเถอะ!” รุ่ยลาดึงเสี่ยวหานเดินไปหาอิ๋นอิ๋น “อิ๋นอิ๋นบอกว่าจะพาพวกเราออกไปเล่น! บอดี้การ์ดของเธอจะขับรถไปส่งพวกเรา!” ห้าโมงเย็น ฟู่สือถิงประคองฉินอันอันเดินลงชั้นล่าง ทุกคนเห็นภาพอันอบอุ่นและกลมกลืนของพวกเขาสองคน ความคิดก็ทยอยผุดขึ้นมาในหัว ปกติการพักช่วงกลางวันหนึ่งชั่วโมงก็พอแล้ว สองชั่วโมงถือว่านานเกินไป แต่ว่าพวกเขาสองคนพักผ่อนชั้นบนตลอดบ่าย ทุกคนต่างก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว จะนอนตลอดทั้งบ่ายได้ยังไง?ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ว่าทั้งสองคนทำอะไร ถึงพวกเขาสองคนจะไม่พูด ทุกคนต่างก็รู้ดี “พวกคุณไม่เล่นไพ่กันแล้วเหรอ?” ฉินอันอันหน้าแดงเมื่อถูกพวกเขามอง ดังนั้นจึงหาเรื่องมาคุยเรื่อยเปื่อย “พวกเราเลิกเล่นตั้งแต่สี่โมงแล้ว และช่วยโจวจื่ออี้ทำอาหาร! พวกเธอนอนหลับอยู่ชั้นบนไม่ได้ยินเสียงจริง ๆ เหรอ?” หลีเสี่ยวเถียนทำหน้าสงสัย ใบหน้าของฉินอันอันแดงยิ่งขึ้น “หลับอยู่จริง ๆ ไม่อย่างนั้นเธอคิดว่าทำอะไร?” “ฮ่า ๆ ๆ ๆ!” หลีเสี่ยวเถียนหัวเราะแล้วดึงเธอมาอยู่ข้าง ๆ แล้วพูดกับฟู่สือถิงว่า “ประธานฟู่ คุณรีบโทรหาอิ๋นอิ๋นเถอะค่ะ เรียกพวกเขากลับมากินข้าว
หลังอาหารเย็น รุ่ยลาจับมือฉินอันอัน ใบหน้าดูเหนื่อยล้า “แม่ขา หนูอยากนอนแล้ว…แม่อาบน้ำให้หนูหน่อย…” พี่เลี้ยงรีบเข้ามาทันทีและจะช่วยอาบให้เพราะรุ่ยลารู้สึกง่วงจึงอารมณ์ไม่ดี “หนูอยากให้แม่อาบให้…ฮือ ๆ ๆ…” หลีเสี่ยวเถียนยิ้มเดินเข้ามา “รุ่ยลา อีกเดี๋ยว ท้องของแม่หนูก็จะใหญ่ขึ้นแล้ว ถึงตอนนั้นแม่อาบน้ำให้หนูไม่ได้แล้วนะ!” รุ่ยลาตะลึง แล้วมือน้อย ๆ ก็ลูบไปที่ท้องแบนราบของฉินอันอัน “ถึงตอนนั้นท้องของแม่หนูจะเปลี่ยนเป็นใหญ่ขนาดนี้” หลีเสี่ยวเถียนทำท่าทางบนท้องของฉินอันอัน รุ่ยลาตกใจมากจนปากเล็ก ๆ ของเธออ้ากว้าง มีคำว่าเหลือเชื่อเขียนไว้บนหน้า หลีเสี่ยวเถียนอุ้มรุ่ยลาขึ้นไปชั้นบน พร้อมกันนั้นก็พูดกับฉินอันอันว่า “อันอัน เธอไปพักผ่อนเถอะ!” ฉินอันอันยังไม่ค่อยวางใจและอยากขึ้นไปดูที่ชั้นบน ฟู่สือถิงยึดแขนเธอไว้ “คุณออกมาหน่อย “คุณทำอะไรเหรอ?” เธอเดินมาตรงหน้าเขา “วันนี้อิ๋นอิ๋นเองก็เล่นจนเหนื่อยแล้ว พวกคุณควรกลับได้แล้ว” “บอดี้การ์ดไปส่งเธอแล้ว” เขาจูงมือเธอพามาด้านนอก “พวกเราออกไปเดินกันเล่นกันเถอะ” ใกล้จะเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว กลางวันเริ่มยาวนานมากขึ้นและอากาศก็อุ่นขึ้น
ฉินอันอัน : เขาอาจคิดว่าตอนนี้ฉันคือคนสองคนแล้ว จำเป็นต้องกินให้เยอะขึ้นหลีเสี่ยวเถียน : ฮ่า ๆ ๆ! เอาซื้ออะไรให้เธอ? รีบถ่ายรูปให้ฉันดูเร็ว! ฉินอันอันส่งรูปถ่ายของรางวัลที่พิชิตได้ในสงครามคืนนี้ไปหลังจากหลีเสี่ยวเถียนเห็นรูปแล้วก็โทรกลับมา “”ทำไมถึงซื้อเครื่องประดับล่ะ? ฮ่า ๆ เพราะถ้าผู้ชายชอบผู้หญิงคนไหนก็จะซื้อเครื่องประดับให้ใช่หรือเปล่า?!” ฉินอันอันเอามือกุมหน้าผาก “เขามีจุดประสงค์บางอย่าง” “จุดประสงค์อะไร?” หลีเสี่ยวเถียนตะลึง “สำหรับกิจกรรมสัปดาห์หน้าน่ะ” ในที่สุดคืนนี้ฉินอันอันก็ได้ตระหนักถึงความใจแคบของผู้ชายคนนี้ เธอปฏิเสธเสื้อผ้าและเครื่องประดับตั้งแต่แรก แต่ว่าเขายืนกรานจะซื้อให้เธอ เธอให้เขาบอกเหตุผลว่าทำไมเขายืนกรานที่จะซื้อให้ได้เขาจึงบอกกับเธอ ก่อนหน้านี้เธอกับจิ้นซือเหนียนร่วมกิจกรรมลงนามที่โรงแรม ทั้งสองคนสวมเสื้อสเวตเตอร์สีขาวทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นชุดคู่รัก แถมตอนนั้นเธอยังสวมสร้อยที่จิ้นซือเหนียนมอบให้ ก่อให้เกิดข้อขัดแย้งไม่น้อย เรื่องมันผ่านไปแล้ว แต่ในใจของฟู่สือถิงยังไม่ปล่อยผ่าน เขาพาเธอไปชอปปิงคืนนี้ ชุดที่เขาเลือกซื้อให้เธอคือชุด