สมองของเธอว่างเปล่า ไม่ว่าอยากจะพูดอะไรก็ลืมไปหมดแล้ว แม่ของเว่ยเจินล้อเล่น “ทั้งสองคนไม่มีใครปฏิเสธเลย! ฮ่าฮ่าฮ่า!” เว่ยเจินเกาหัวและเปลี่ยนเรื่อง “ทานข้าวเสร็จ ผลตรวจเลือดน่าจะออกพอดี” ฉินอันอันพยักหน้าและกินเงียบ ๆ หลังอาหารกลางวัน ฉินอันอันยืนกรานว่าไม่ต้องอยากให้เว่ยเจินไปรับผลตรวจด้วย เขารู้สึกเกรงใจมากที่จะรบกวนเมื่อเช้านี้ บ้านตระกูลเว่ยอยู่ใกล้โรงพยาบาล ฉินอันอันกับฟู่สือถิงออกมาจากบ้านตระกูลเว่ยและเดินไปที่โรงพยาบาล “ทำไมเมื่อกี้คุณไม่ให้ฉันอธิบาย? ความสัมพันธ์ไม่ชัดเจนมันสนุกมากเหรอ?” ฉินอันอันหยอกล้อเขา “เราไม่ได้สนิทกับคุณป้า ไม่จำเป็นต้องไปโต้แย้งเธอหรอก” เขาเดินออกไปข้างหน้าเธอและคอยสังเกตุการจราจรโดยรอบอยู่เสมอ “คุณไม่สนิทกับคุณป้า แต่ฉันสนิทกับคุณป้ามากเลยนะ” “ก็เพราะคุณสนิทกันไง คุณจะอธิบายให้เธอฟังตอนไหนก็ได้” เมื่อไฟสัญญาณจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว เขาก็จับมือเล็ก ๆ ของเธอแล้วพาเธอข้ามถนน “ฉันจะไปเอง” เธอสะบัดฝ่ามือใหญ่ของเขาออกแล้วมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “ฉันยอมรับว่าคุณเป็นแค่พ่อของลูกเท่านั้น และไม่ยอมรับสัมพันธ์อื่นใดอีก” “ต่อให้คุณไม่ยอมรับ
แม้ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์กับเสิ่นอวี๋ แต่เมื่อเทียบกับผู้ชายที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ แต่เขาก็มีข่าวเรื่องความรักน้อยกว่าใคร ...... เวลาหกโมงเย็น ฉินอันอันพาลูกสองคนของเธอไปยังร้านอาหารที่ฟู่สือถิงส่งชื่อให้เมื่อคืนนี้ ฟู่สือถิงจองห้องรับรองส่วนตัวเอาไว้ หลังจากที่เธอแจ้งหมายเลขห้องรับรองส่วนตัวกับแผนกต้อนรับ พนักงานเสิร์ฟก็พาเธอเข้าไปในห้องดังกล่าวทันที ทันทีที่เธอเข้าไปในห้องรับรองส่วนตัว รุ่ยลาก็อุทาน! “แม่! ที่นี่สวยมากเลยค่ะ!” ห้องรับรองส่วนตัวนี้ตกแต่งอย่างพิถีพิถันในธีมวันเด็ก ลูกโป่ง โคมไฟ ดอกไม้ และกล่องของขวัญที่กองอยู่บนพื้นนั้นทำให้ตื่นตาตื่นใจและดึงดูดสายตา “แม่คะ กล่องของขวัญพวกนี้มีอะไรอยู่ข้างในเหรอคะ?” รุ่ยลาหยิบกล่องของขวัญขึ้นมาแล้วถาม ฉินอันอัน “นี่คือกล่องตกแต่ง ข้างในเป็นกล่องเปล่าจ๊ะ” พนักงานเสิร์ฟยิ้มแล้วพูดว่า “คุณฉิน ทุกกล่องมีของขวัญอยู่ข้างใน คุณฟู่จัดเตรียมไว้ให้ มันเป็นของขวัญวันเด็กสำหรับคุณและลูก ๆ ของคุณครับ” ฉินอันอันตกตะลึง ริมฝีปากขยับ แต่กลับไม่รู้จะตอบอย่างไร “คุณฉิน คุณฟู่บอกว่าถ้าคุณมาถึงก่อน สามารถเสริ์ฟอาหารก่อนได
ฟู่สือถิงไม่ได้มาตามนัดเพราะเขาอยู่กับเสิ่นอวี๋ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ฉินอันอันอึดอัดที่สุด สิ่งที่อึดอัดที่สุดคือ เธอจำได้ว่าฟู่สือถิงและเสิ่นอวี๋ก็เคยมีลูกด้วยกัน ไม่เพียงเท่านั้น เสิ่นอวี๋ยังหาว่าลูกของพวกเขาถูกเธอฆ่า! และฟูสือถิง... ก็เชื่อแบบนั้น ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ตั้งท้องลูกคนนี้ เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ดวงตาของเธอฉายแววขมขื่น เธอวางสายโทรศัพท์ แรงในร่างกายของเธอหมดลง เธอรีบจับโต๊ะไว้ เด็กทั้งสองเห็นว่าเธอผิดปกติจึงกระโดดลงจากเก้าอี้ทานอาหารทันที “แม่! เป็นอะไรไปคะ?!” รุ่ยลาพูดพลางมีหยดน้ำตาใสไหลออกมา “แม่ เขาไม่มาแล้วใช่ไหมครับ?” เสี่ยวหานเดา “แม่ไม่ต้องร้องไห้ เรากลับบ้านกันเถอะ!” ฉินอันอันกลั้นน้ำตาลงท้องและพูดอย่างรู้สึกผิด “ลูกสองคนหิวแล้วใช่ไหม? แม่จะพาไปกินข้าวข้างนอกนะ” เด็กทั้งสองส่ายหน้า “แม่ หนูไม่หิวค่ะ! หนูแค่โกรธ...” ดวงตาของรุ่ยลาแดงก่ำ ความคับข้องใจของเธอไม่สามารถระงับได้ วันนี้เธอสวมชุดที่สวยที่สุดของตัวเองเป็นพิเศษและยังเอาของขวัญมาให้อิ๋นอิ๋นด้วย เห็นได้จากตรงนี้ว่าเธอให้ความสำคัญกับมื้อเย็นวันนี้มากแค่ไหน แต่พวกเขากลับผิดนัด! ฟู
เมื่อฉินอันออันวางสายโทรศัพท์ เขาก็เพิ่งเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น “ลงจากรถ!” เขาหยุดรถแล้วตะโกนเสียงดัง! อิ๋นอิ๋นหดคอด้วยความหวาดกลัว ที่เบาะหลัง ดวงตาของเสิ่นอวี๋เต็มไปด้วยน้ำตา เธอรู้ว่าฟู่สือถิงพูดกับเธอ แต่รถยังขับไปไม่ถึงเมืองและเธอเองก็ไม่อยากลงตรงนี้ “เสิ่นอวี๋ อย่าบังคับให้ผมต้องลงมือ!” ดวงตาสีเข้มของฟู่สือถิงมองดูเธออย่างดุเดือด เสิ่นอวี๋สีหน้าตกใจมากพลันเปิดประตูและลงจากรถทันที! หลังจากที่เธอลงจากรถแล้ว รถก็รีบวิ่งออกไปด้วยเสียงคำรามราวกับลูกศรคมแล้วหายไปในคืนสลัว …… ยี่สิบนาทีต่อมา ฟู่สือถิงก็มาถึงร้านอาหารที่จองไว้ หลังจากเข้าไปในห้องส่วนตัว ผู้จัดการก็ชี้ไปที่กล่องของขวัญที่วางอยู่บนพื้น “พวกเขาเปิดกล่องของขวัญทั้งหมดแล้วครับ แต่พวกเขาไม่ได้เอาของขวัญออกไปเลยสักชิ้น” ฟู่สือถิงมองไปที่กล่องของขวัญที่เปิดอยู่ ดวงตาของเขาแดงก่ำและเหมือนมีก้อนในลำคอ “พวกเขากินผลไม้และของว่าง” ผู้จัดการกล่าวต่อ “จริง ๆ แล้วคุณแค่มาสายนิดหน่อยเท่านั้น ไม่เห็นเป็นไรเลย… และพนักงานเสิร์ฟก็แจ้งหลายครั้งแล้วว่าอาหารสามารถเสิร์ฟอาหารก่อนได้เลย...” ฟู่สือถิงขมวดคิ้วและยกมือขึ้นปร
ที่ห้องนั่งเล่น รุ่ยลาเข้าไปกอดไมค์และทำท่าทางน้อยใจ “ฟู่สือถิงไม่มา เรารอเขาตั้งนาน... แม่โทรไปหาเขาถึงได้รู้ว่าเขาไม่มาแล้ว… แม่ก็เลยพาเราไปกินข้าวที่อื่นค่ะ” ไมค์กอดรุ่ยลาแน่นแล้วตบหลังเธอด้วยฝ่ามือใหญ่ “อย่าโกรธเลยนะที่รัก มันเป็นความผิดของเขาทั้งหมด! ต่อไปเราจะไม่ไปกินข้าวกับเขาอีก” รุ่ยลาน้ำตาไหลจากหางตาของเธอ “ค่ะ! หนูจะไม่กินข้าวกับเขาอีก! และหนูก็จะไม่ปล่อยให้แม่ไปกินข้าวกับเขาด้วย!” “เอาล่ะที่รัก หยุดร้องไห้ได้แล้ว ถ้าแม่มาเห็นเธอจะใจสลายเอา” ในขณะที่เกลี้ยกล่อม ไมค์ก็ดุด่าฟู่สือถิงในใจแปดร้อยครั้ง! ‘วันนี้เป็นวันเด็ก ลูก ๆ ของคนอื่นต่างมีความสุข แต่ลูกรักตัวน้อยทั้งสองกลับเสียใจอยู่ที่บ้าน’ ‘ไอ้สารเลวคนนี้!’ เขาคิดแค่ว่าเขาพลาดนัด แต่เขาไม่รู้เลยว่าเขาได้ทำร้ายจิตใจเด็กสองคนไปแล้ว ไมค์ต้องการพาพวกเขาทั้งคู่ออกไปเที่ยวและพักผ่อนนอกบ้าน แต่เด็กทั้งสองกลับส่ายหน้าปฎิเสธ หลังจากเล่นกับพวกเขาได้สักพัก ไมค์ก็พาพวกเขาไปอาบน้ำ ปกติรุ่ยลามักจะไม่ค่อยเต็มใจที่จะเข้านอน แต่หลังจากอาบน้ำคืนนี้ เธอก็ปีนขึ้นไปบนเตียงด้วยตัวเองและห่มผ้าเอง ไมค์ปิดไฟให้พวกเขาแล้วออกมาจ
เมื่อฟู่สือถิงได้ยินสิ่งนี้ เขาก็หันหลังกลับไปทันที เมื่อเห็นรถของเขาขับออกไป ไมค์ก็ถอนหายใจอย่างแรง! เช้าวันรุ่งขึ้น อิ๋นอิ๋นมา ป้าหงษ์ก็มาด้วย เด็กทั้งสองกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าอยู่ เมื่อเห็นอิ๋นอิ๋นเดินเข้ามา สายตาก็ขยับไปมอง แต่กลับไม่พูดอะไรและไม่ได้ออกจากห้องอาหาร ไมค์ยิ้มให้อิ๋นอิ๋น “ทำไมเธอถึงมาแต่เช้าเลยล่ะ?” ‘นึกว่าคนที่มาเป็นฟู่สือถิงเสียอีก!’ “ฉันมาขอโทษอันอัน รุ่ยลา แล้วก็เสี่ยวหาน” เสียงของอิ๋นอิ๋นชัดเจนและทรงพลัง “เมื่อคืนนี้ฉันกับพี่มาสาย มันเป็นความผิดของเราสองคนเองค่ะ” “อิ๋นอิ๋น พวกเขาไม่ต้องการคำขอโทษของเธอ คนที่ควรจะขอโทษคือฟู่สือถิงต่างหาก” ไมค์เดินมาจากห้องอาหารพร้อมกับนมอุ่นหนึ่งแก้ว “เดี๋ยวพี่ชายของฉันจะตามมาขอโทษ” อิ๋นอิ๋นหน้าแดงเล็กน้อย “ฉันรอไม่ไหว ฉันถึงมาก่อน” ไมค์หัวเราะเสียงดัง “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ เธอไม่จำเป็นต้องขอโทษหรือรู้สึกผิดหรอก” อิ๋นอิ๋นไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด “เมื่อวานพี่ชายพาฉันไปหาหมอคนใหม่ หมอคนนั้นอยู่ไกล ขับรถไปที่นั่นนานมากกว่าจะถึง... ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน พี่คงไม่ไปสาย” เมื่อได้ยินดังนั้น รุ่ยลาก็เด
ที่ประตูคฤหาสน์ อิ๋นอิ๋นและรุ่ยลาเดินออกจากห้องนั่งเล่น ฟู่สือถิงเหลือบมองร่างของพวกเธอและเดินไปหาทันที “อิ๋นอิ๋น รุ่ยลาจะไปโรงเรียนแล้ว พี่จะพาเธอกลับบ้านก่อน” เขาเดินไปหาอิ๋นอิ๋นแล้วพูด อิ๋นอิ๋นพยักหน้าและกระซิบ “พี่คะ ฉันขอโทษรุ่ยลาแล้ว พี่ก็ต้องขอโทษรุ่ยลาด้วย” รุ่ยลาเลิกคิ้ว แต่ปากเล็ก ๆ ของเธอกลับเม้ม ฟู่สือถิงคุกเข่าลงมองดูใบหน้าเล็ก ๆ ของรุ่ยลาที่ดูเหมือนฉินอันอันแล้วพูดเบา ๆ “รุ่ยลา ฉันขอโทษนะ เมื่อคืนฉันไม่ใช่แค่มาสายเท่านั้น ฉันยังทำให้เธอเสียใจอีกด้วย ฉันอยากจะอธิบายเหตุผลกับแม่ของเธอนะ” เมื่อพูดถึงจุดนี้เขาก็ถามว่า “เธอรู้ไหมว่าแม่ของเธอไปไหน?” เมื่อสักครู่นี้เขาถามบอดี้การ์ดของฉินอันอันแล้ว แต่บอดี้การ์ดปากแข็งไม่ยอมบอกอะไรเลย รุ่ยลามองไปที่ใบหน้าของฟู่สือถิงอย่างใกล้ชิด ความตึงเครียดในใจของเธอก็หายไปทีละน้อย แม้ว่าเขาจะเป็นคนห่วยแตก แต่เขาก็หล่อมากจริง ๆ “แน่นอน หนูรู้ว่าแม่ของหนูอยู่ไหน” รุ่ยลามองเขาด้วยสีหน้ามั่นใจพลางชี้คางไปที่เขา “แต่หนูต้องไปโรงเรียนแล้ว หนูคุยกับคุณไม่ได้แล้ว ฉันจะไปโรงเรียนสายเหมือนที่คุณมาสายไม่ได้!” รุ่ยลาเล่นสำนวน ความล
ไมค์กลั้นหัวเราะ “ตกลง!” “อืม” “ลูกค้าของเราในครั้งนี้คือกองกำลังป้องกันชายแดน ส่วนสถานที่ที่ฉินอันอันพักนั้นอยู่ในค่ายป้องกันชายแดน” เสียงหัวเราะของไมค์เริ่มดังขึ้น “ผมบอกคุณไปแล้วว่าคุณไปไม่ได้หรอก ไม่มีใครให้คุณเข้าไปในค่ายแน่” ฟู่สือถิงกัดฟันและวางสายโทรศัพท์ เมืองซีอยู่บนพรมแดนของมาตุภูมิ ใช้เวลาบินไปที่นั่นเกือบสี่ชั่วโมง ไม่รู้ว่าเที่ยวบินของฉินอันอันในตอนเช้ากี่โมง เครื่องบินที่เธอนั่งไปน่าจะยังไม่ลงจอด ถึงจะลงจอดแล้วก็น่าจะเพิ่งถึง เพราะสถานที่ที่เธอไปนั้นพิเศษและปราศจากอันตราย ดังนั้นเขาจึงไม่กังวลมากนัก เขาสามารถรอจนกว่าเธอกลับมาจากการทริปธุรกิจแล้วจึงอธิบายให้เธอฟังได้ หากเขาตามเธอไปที่เมืองซี และส่งผลกระทบต่องานของเธอ ไม่รู้ว่าเธอจะโกรธมากกว่านี้หรือไม่ หลังจากส่งอิ๋นอิ๋นกลับบ้านแล้ว เขาก็ไปที่บริษัท ไม่นานหลังจากมาถึงบริษัท เลขาก็มาแจ้งว่า “คุณฟู่ คุณเสิ่นอวี๋อยู่ที่ชั้นล่าง เธอบอกว่าต้องการขอโทษคุณครับ” ฟู่สือถิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาโดยไม่ได้คิดอะไร “ใส่ชื่อเธอไว้ในบัญชีดำและอย่าปล่อยให้เธอก้าวเข้ามาในบริษัทอีก!” เลขาตอบ “รับทราบครับคุณฟู่!” ห