เธอรีบเปิดไฟในห้องทันที แสงไฟที่จู่ ๆ สว่างขึ้นทำให้เขาแสบตา เขาโกรธและโมโหมากจึงกระแทกประตูเสียงดังปัง เธอมองเขาด้วยสายตาหวาดกลัว ตาของเขามีสีแดงเนื่องจากเมา หลังจากปิดประตู นิ้วเรียวก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อ เมื่อเธอรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร เธอก็ตกใจมากจนไม่กล้าหายใจ “ฟู่สือถิง! คุณมาผิดห้องแล้ว!” เธอต้องการเรียกสติเขา “นี่คือห้องของฉัน!” เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอแล้วเดินไปที่เตียงด้วยขาอันยาวเหยียด ขณะเดียวกัน เขาก็ถอดเสื้อออกแล้วโยนมันลงไปที่พื้น “ผมไม่ได้เมา” เขาขึ้นไปบนเตียงและจับขาที่บาดเจ็บของเธอไว้แน่น “อย่าขยับขาข้างนี้นะ” เธอพูดไม่ออก ดูเหมือนเขาจะไม่ได้เมาจริง ๆ แต่ในเมื่อเขารู้ว่าเธอได้รับบาดเจ็บ ทำไมเขาถึงยังทรมานเธออีก! จู่ ๆ ริมฝีปากอันอบอุ่นของเขาก็ประกบลงบนลำคอของเธอ เธอได้กลิ่นน้ำหอมฉุนแปลก ๆ ที่ติดอยู่บนตัวของเขา คิ้วเรียวขมวดคิ้วทันที แม่บ้านบอกว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนมีสาวสวยกลุ่มหนึ่งลงมาชั้นล่าง คนเหล่านั้นอยู่ที่นี่สามวัน ยังไม่กลับไป และกลิ่นน้ำหอมแปลก ๆ บนตัวเขา คงถูกหนึ่งในผู้หญิงกลุ่มนั้นตราตรึงบนร่างของเขาแล้ว แม้ว่าเขาจะถอดเสื้อออก แต่
เธอเอื้อมมือไปใต้หมอนแล้วดึงมีดออกมา! มีเล่มนี้เป็นมีดที่พี่สามมอบให้เธอไว้เพื่อป้องกันตัวตอนที่เธอหนี ตอนที่เธอได้รับการช่วยเหลือจากฟู่สือถิง เธอก็กำมีดเล่มนี้ติดมือมาด้วย เดิมทีฟู่สือถิงต้องการเก็บมีดเล่มนี้นไว้ให้ห่างจากตัวเธอ อาจกลัวว่าเธอจะฆ่าตัวตาย แต่เธอก็ยืนกรานว่าจะเอากลับมา หลังจากเอากลับมาได้ เธอก็เก็บมันไว้ใต้หมอน มีดเล่มนี้ช่วยชีวิตเธอและมีความหมายต่อเธอมาก ดังนั้นเธอจึงนำมันติดตัวไว้ แต่คิดไม่ถึงว่าคืนนี้จะถูกเขาเหยียดหยาม! ศักดิ์ศรีของเธอถูกบดขยี้ สติพังทลายลง ตอนนี้เธอแค่อยากจะตายไปพร้อมกับเขา! ฆ่าเขาแล้ว เธอก็จะฆ่าตัวตาย! เธอเป็นนักศึกษาแพทย์ดีเด่น เธอรู้ว่าแทงยังไงถึงจะทำให้เขาตายได้อย่างรวดเร็ว! เธอจับมีดไว้แน่น ในใจคิดว่าจะตัดหลอดเลือดส่วนไหนของเขาดี สายตาของเธอจับจ้องไปยังใบหน้าของเขา แสงสลัวจากข้างนอกทำให้สามารถมองเห็นโครงร่างใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาได้ไม่ชัดเจน เขากำลังหลับลึก คอของเขาถูกเปิดออกนอกผ้าห่ม ดึงดูดเธอ... มือของเธอที่ถือมีดยกขึ้นอย่างสั่นเทา แค่แทงเพียงครั้งเดียว ภายในครึ่งชั่วโมงเธอก็จะเป็นอิสระแล้ว! ขณะที่มีดกำลั
เสียงกรีดร้องของเธอดึงดูดความสนใจของบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างนอกอย่างรวดเร็ว! ทันทีที่เปิดประตู ไฟก็สว่างขึ้น! ภาพบนเตียงทำให้บอดี้การ์ดตกใจแทบช็อก! “หมอ! รีบไปตามหมอเร็ว!” บอดี้การ์ดตะโกนบอกคนข้างนอกแล้วรีบเดินไปที่เตียง ฉินอันอันร้องไห้และพูดกับบอดี้การ์ด “เอามือของเขาออก! รีบเอามือของเขาออกเร็ว!” ทีแรกบอดี้การ์ดคิดว่าฉินอันอันจะฆ่าฟู่สือถิง แต่เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการเอามือฟู่สือถิงที่ถือมีดอยู่ออก! ดังนั้น ฟู่สือถิงจึงเป็นคนที่จับมีดในมือของฉินอันอันแทง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือฟู่สือถิงจะฆ่าตัวตาย หลังจากที่บอดี้การ์ดมือที่เปื้อนเลือดของฟู่สือถิงออก ฉินอันอันก็ลุกจากเตียงทันที หมอเข้ามาพร้อมกล่องยา ฉินอันอันคว้ากล่องยาจากมือของเขาแล้ววิ่งไปที่เตียงเพื่อหยุดเลือดให้ฟู่สือถิง! หมองง! ทำไมฉินอันอันถึงเดินเร็วขนาดนี้? ขาหายดีแล้วเหรอ? เธอคว้ากล่องยา...เธอคว้ากล่องยาไปแล้ว! หลังจากที่หมอรู้สึกตัวแล้ว เขาก็รีบเดินไปข้างเตียง ทันใดนั้น เขาก็ต้องตกใจกับมีดสั้นที่ปักอยู่ตรงหัวใจของฟู่สือถิง! และยังตกใจกับผ้าปูที่นอนและผ้านวมสีแดงเช่นกัน! “นี่ นี่...นี่!
บอดี้การ์ดและหมอรีบพาเขาออกไป เธอนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงพลางร้องไห้เสียงดัง ค่ำคืนนี้ยิ่งดึกขึ้นเรื่อย ๆ แต่เธอกลับตื่นตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน เธอได้ยินเสียงแห่งความเสียใจของตัวเองชัดเจน และได้ยินเสียงดังก้องของเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังสตาร์ทอยู่บนดาดฟ้า ไม่นานเฮลิคอปเตอร์ก็หายไปในท้องฟ้ายามค่ำคืน มีเสียงฝีเท้าที่ประตูห้อง เธอไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง ไม่ว่าใครจะเข้ามา เธอก็ไม่สนใจแล้ว หลังจากชายคนนั้นเข้ามาเขาก็เดินตรงไปที่เตียงทันที เขาเอาผ้าห่มสะอาดในมือมาคลุมบนตัวเธอ จากนั้นก็หยิบมีดที่เปื้อนเลือดบนเตียงขึ้นมา “คุณฉิน ผมให้มีดนี้คุณเพื่อป้องกันตัวเอง ไม่ใช่เพื่อฆ่าคนนะ” พี่สามจำใจพูด “ผมจะเอามีดเล่มนี้คืน” ฉินอันอันสะอื้น “ฉันอยากฆ่าเขา...แต่ฉันไม่กล้าทำ...” “การกระทำของคุณทำให้เขาโกรธ” พี่สามพูดน้ำเสียงราบเรียบ “แล้วมันแตกต่างอะไรกับการที่คุณเอามีดจี้หัวใจเขา?” ฉินอันอันพูดไม่ออกหลังจากถูกซักถาม “แม่ของคุณเสียไปเมื่อปีที่แล้วใช่ไหม? คุณก็น่าจะรู้ว่าถ้าคนที่รักเสียชีวิต คนเราจะรู้สึกอ่อนไหวง่าย” พี่สามจุดบุหรี่แล้วชูไว้ระหว่างนิ้ว “แม่เขาเสียแล้ว พวกเราญาติพี่
เธอดูข่าวบนหน้าจอแล้วรู้สึกหายใจลำบาก ‘เขาเสียชีวิตแล้ว?’ ‘เป็นไปได้ยังไง...จะตายง่าย ๆ ขนาดนี้ได้ยังไง?’ ‘เมื่อคืนเธอห้ามเลือดให้เขาแล้ว! เฮลิคอปเตอร์ก็พาเขาส่งโรงพยาบาล และน่าจะได้รับการรักษาฉุกเฉินในทันที แล้วทำไมถึงช่วยเขาไว้ไม่ได้ล่ะ?’ ‘หรือว่าตอนที่เขาอยู่บนเฉลิคอปเตอร์ เขาจะฉีกผ้าพันแผลที่เธอพันให้ออก?’ ‘หรือตอนไปถึงโรงพยาบาล เขาไม่ยอมให้หมอรักษา?’ เธอสูดหายใจ น้ำตาพลันไหลอาบหน้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง เขาตายแล้วคือตายแล้ว! หมอสามารถช่วยคนไข้อาการสาหัสได้ แต่ไม่สามารถช่วยคนที่เสียชีวิตไปแล้วได้! เมื่อคืนตอนที่เธอมีความคิดจะฆ่าเขา เธอคิดว่าถ้าเขาตาย เธอก็จะเป็นอิสระ แต่พอผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนั้น ทำไมกลับรู้สึกเสียใจมากขนาดนี้? ...... หลังจากข่าวการเสียชีวิตของฟู่สือถิงได้รับการเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต สื่อรายใหญ่ก็เริ่มเร่งเผยแพร่ข่าวที่เกี่ยวข้อง ไว้อาลัยให้กับฟู่สือถิง ปิดฉากตำนานรุ่นแรก! เอสทีกรุ๊ป อาณาจักรธุรกิจที่สร้างด้วยมือของฟู่สือถิงจะไปตกอยู่ที่ใคร? ฟู่สือถิง ความสำเร็จและความเศร้าโศกของเขา! เบื้องหลังการตายของฟู่สือถิงมีใครสมรู้ร่วม
ไมค์หยิบแก้วน้ำขึ้นมา “เกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายของคุณเหรอ? อย่ามาหาฉินอันอันทุกครั้งที่มีเรื่อง...” “เขาตายแล้ว” โจวจื่ออี้รู้สึกเสียใจมาก ไมค์ส่งเสียง พู่ และน้ำในปากก็พุ่งออกมา “อย่ามาล้อเล่นสิ คุณพูดว่าเขาตายแล้ว...เขาตายได้ยังไง?” “ไม่รู้ ในอินเทอร์เน็ตบอกว่าเขาตายแล้ว” ไมค์พูดไม่ออกเมื่อเห็นว่าเขาดูเหมือนจะมีน้ำตาไหลออกมาจึงวางแก้วน้ำลงแล้วเดินไปที่ห้องทันที “ไม่ต้องกังวล ผมจะโทรไปถามฉินอันอัน...เมื่อวานตอนเที่ยงเธอโทรหาผม บอกว่าเธอไม่ได้เจ็บมากแล้ว และเธอจะกลับมาในอีกไม่กี่วัน ตอนนั้นเธอไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับฟู่สือถิงเลย...” “เมื่อช่วงหัวค่ำของเมื่อคืนเกิดขึ้น” โจวจื่ออี้เดินตามเขาเข้าไปในห้อง “โทรศัพท์มือถือของเขาติดต่อไม่ได้ บอดี้การ์ดของเขาก็ไม่รับสาย ผมอยู่กับเขามาหลายปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น” ไมค์เปิดโทรศัพท์ กดหมายเลขของฉินอันอัน และเปิดลำโพงในขณะเดียวกัน ใช้เวลารอสายสักพักก่อนที่สายจะถูกเชื่อมต่อ “ฉินอันอัน!” ไมค์รู้สึกกังวลใจตามโจวจื่ออี้ เขาเริ่มวิตกกังวล “ฉันได้ยินมาว่าฟู่สือถิงตายแล้ว เกิดอะไรขึ้นเหรอ? คงไม่ได้เกี่ยวข้องกับเธอใช่ไหม
คฤหาสน์ในป่าลึก หลังจากไมค์จอดรถแล้วเขาก็เดินตรงไปที่ประตู บอดี้การ์ดหยุดเขาไว้ “ผมมารับฉินอันอัน!” ไมค์พูด “เจ้านายของคุณตายแล้ว บางทีคุณควรพิจารณาว่าต่อไปนี้จะมีใครจ่ายค่าจ้างให้คุณหรือเปล่า?” บอดี้การ์ดตกตะลึง อีกฝั่งของบันได แม่บ้านช่วยพยุงฉินอันอันลงไปชั้นล่าง เธอต้องการไปจากที่นี่ ฟู่สือถิงเสียชีวิตแล้ว เธออยากเจอเขาเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อไมค์เห็นฉินอันอัน เขาก็ผลักบอดี้การ์ดและวิ่งเข้าไปหาเธอทันที “ฉินอันอัน! ฉันมารับเธอกลับบ้าน!” ไมค์พยุงร่างฉินอันอันจากมือแม่บ้าน หลังจากช่วยเธอขึ้นรถแล้ว ไมค์ก็เหลือบไปเห็นขาของเธอ เธอสวมกางเกงนอนที่หลวมมาก จึงทำให้มองไม่เห็นแผลของเธอ “เมื่อกี้เธอเดินกะเผลกอยู่ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าแผลของเธอใกล้หายแล้ว” ไมค์ขมวดคิ้วแล้วสตาร์ทรถ “ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาลก่อนจะเข้าบ้าน” ฉินอันอันคาดเข็มขัดนิรภัยไว้ที่หน้าอกด้วยมือทั้งสองข้าง ในใจรู้สึกว่างเปล่า “ฉินอันอัน ทนายของเขา...คงจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เธอใช่ไหม?” หลังจากที่รถขับออกไป ไมค์ก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนถาม จริง ๆ แล้วไมค์เองก็ไม่ชอบฟู่สือถิง เพราะฟู่สือถิงทำไม่ดีกับฉิน
ถ้าพ่อตายต้องไปเยี่ยมหลุมศพเขาไหม? “ถ้าเธออยากไปก็ไปได้เลย ฉันไม่ไป” หลังจากเสี่ยวหานพูดจบ เขาก็กลับเข้าไปในห้องเรียนด้วยสีหน้าเย็นชา “พี่...ฮือฮือ...หนูคิดถึงแม่...เมื่อไหร่แม่จะกลับมา?” รุ่ยลารีบตามเขาไปและดึงแขนเขาไว้ “เดี๋ยวแม่ก็กลับมาแล้ว” เสี่ยวหานมีลางสังหรณ์ ฟู่สือถิงตายแล้ว แม่จะได้ไม่ต้องกังวลอะไรอีกต่อไป ...... ไมค์ขับรถไปที่โรงพยาบาลตี้ซานและส่งฉินอันอันให้กับเว่ยเจิน ฉินอันอันเห็นเว่ยเจินจึงถามว่า “เขาอยู่โรงพยาบาลไหน?” เว่ยเจิน “โรงพยาบาลทั่วไป ข่าวล่าสุดที่ฉันได้รับก็คือตอนนี้หมอกำลังช่วยชีวิตเขาอยู่ อย่าเพิ่งกังวลไป” เว่ยเจินช่วยพยุ่งเธอขึ้นไปบนเตียงพยาบาล หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ฟื้นตัวจากอาการช็อกในที่สุด “พี่เว่ย พี่คิดว่าเขายังไม่ตายเหรอ?” เว่ยเจินถอนหายใจ “ฉันคิดว่าเขาช็อกไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่เขาได้รับการช่วยเหลือแล้ว และตอนนี้ก็ยังคงช่วยเขาอยู่” เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก เว่ยเจินเข็นเธอไปที่ห้องฉุกเฉินแล้วใช้กรรไกรตัดกางเกงของเธอออก ผ้าพันแผลถูกย้อมเป็นสีแดงทั้งหมด “อันอัน ทำไมเธอไม่ดูแลแผลเลย ปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้ยังไง?” เว่ยเจินขมวดคิ