หลังจากฉินอันอันรับโทรศัพท์ เธอก็รีบกลับบ้านเธอนึกไม่ออกเลยว่าทำไมลูกชายของเธอถึงได้พาผู้หญิงกลับมาบ้านปกติเสี่ยวหานไม่สนใจคนอื่นนอกจากคนในครอบครัวและยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะพาคนกลับมาบ้านแล้วผู้หญิงที่เขาพากลับมาเป็นใครกัน?เธอมีเวทมนต์อะไร? ถึงสามารถเปลี่ยนเสี่ยวหานได้เมื่อฉินอันอันกลับถึงบ้าน เธอก็ได้เห็นผู้หญิงคนนั้น…เธอรู้สึกว่าเรี่ยวแรงในตัวหายไปในพริบตา“อันอัน ลูกมาแล้ว” จางหยุนเดินมาที่ประตูและเห็นสีหน้าของลูกสาวมืดครึ้มพร้อมหายใจหอบแรง เธอก็รีบพยุงลูกไว้ “เป็นอะไรไป? ลูกดูไม่ดีเลย…”สายตาฉินอันอันจ้องฟู่สืออิ๋นเขม็ง เหมือนต้องการจะมองทะลุใบหน้านั้นไปผู้หญิงคนนี้ตัดผมทรงเจ้าหญิงและใส่ชุดแบบเจ้าหญิงสีชมพู มักจะโผล่มาในความคิดเธอเสมอเธอไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้เจอตัวจริงของผู้หญิงคนนี้ที่คิดไม่ถึงก็คือลูกชายของเธอเป็นคนพามาเสียเอง‘ทำไมถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้?’‘เจตนาของหล่อนคืออะไร?’‘ทำเพื่อฟู่สือถิงเหรอ?’ฉินอันอันศีรษะหนักอึ้งขึ้นเรื่อย ๆเธอนั้นสับสนงุนงงเพราะว่าวันนี้เธอเพิ่งหย่ากับฟู่สือถิงเธอและฟู่สือถิงไม่เกี่ยวข้องอะไรกันอีกต่อไปแล้วไม่
เธอเคยคิดถึงความเป็นไปได้หลายอย่าง แต่เธอไม่เคยคิดเลยว่าศัตรูหัวใจจะเป็นคนสติไม่สมประกอบอาจจะเพราะเหตุผลนี้รึเปล่า ที่ทำให้ฟู่สือถิงไม่ยอมพูดถึงเรื่องนี้กับเธอ?ฉินอันอันเดินไปที่โซฟาอย่างหดหู่และนั่งลง เธอยกมือขึ้นมาปิดหน้า ไม่สามารถจะเข้าใจเรื่องราวได้“อันอัน เป็นอะไรไป?” จางหยุนเดินไปนั่งข้างลูกสาวและถาม“ลูกรู้จักเธอเหรอ? เพราะว่าที่ลูกพูดออกมาเมื่อครู่มันแปลกมาก”ฉินอันอัน “แม่คะ ตอนนี้หนูปวดหัว ขอหนูอยู่คนเดียวเถอะ”จางหยุน “ได้ แม่จะไปทำความสะอาดห้องพักแขก”ฉินอันอันคว้าแขนแม่ของเธอ “แม่คะ ไม่ต้องหรอก เธอรู้จักกับฟู่สือถิง พวกเขาสนิทสนมกัน… เดี๋ยวหนูจะส่งเธอกลับไป”จางหยุนตกตะลึงฟู่สืออิ๋นเองก็สีหน้าเปลี่ยนเมื่อเธอได้ยินคำว่า “ฟู่สือถิง” เธอก็หวาดกลัวขึ้นมาทันทีเธอร้องไห้อีกครั้งและส่ายหัวไปด้วยจางหยุนจับมือเธอไว้และพยายามปลอบ “ไม่ต้องกลัว หนูรู้จักฟู่สือถิงไหม?”ฟู่สืออิ๋นส่ายหัวอย่างแรงหากว่าไม่ส่ายหน้าปฏิเสธ ก็จะโดนส่งกลับไปหากว่าโดนส่งกลับไป ก็จะโดนเปิดสมองเธอไม่ต้องการแบบนั้นเธอยอมอยู่ในที่ซึ่งไม่คุ้นเคยนี่เลยยังดีกว่ากลับไปโดนผ่าตัดฉินอันอันมอง
”ทำไมเธอถึงมาหลบอยู่ตรงนี้?” ฟู่สือถิงมองเด็กชายตัวน้อยที่ใส่หมวกแก๊ป พร้อมถามด้วยน้ำเสียงเจือความรำคาญตรงนี้เป็นลานจอดรถ และหากว่าคนขับรถไม่เห็นเด็กชายตอนที่ถอยรถก็อาจจะชนเขาได้รองผู้อำนวยการรีบอธิบาย “คุณฟู่ เด็กคนนี้เพิ่งเข้ามาเรียนเมื่ออาทิตย์ก่อน เขาไม่คุยกับคนแปลกหน้าครับ”ทุกคนที่มาโรงเรียนนี้ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ต่างก็มีความบกพร่องไม่ทางร่างกายก็จิตใจฟู่สือถิงอ่อนลงเล็กน้อยเมื่อคิดว่าเด็กคนนี้มีปมด้อยเหมือนฟู่สืออิ๋นเสี่ยวหานเก็บโน๊ตบุ๊คเข้ากระเป๋า ก่อนถือกระเป๋าไว้มือหนึ่งแล้วค่อย ๆ ยืนอย่างเย็นชาเมื่อเขาเดินผ่านฟู่สือถิง เขาก็กระทืบไปบนรองเท้าหนังที่เงาเป็นมันวับของฟู่สือถิงฟู่สือถิง “...”เจ้าเด็กนี่ตั้งใจทำใช่ไหม?“คุณฟู่ ผมต้องขอโทษด้วยครับ เด็กคงไม่ได้ตั้งใจแน่” รองผู้อำนวยการรีบคุกเข่าลงและใช้ทิชชู่เช็ดรองเท้าให้ฟู่สือถิงเสี่ยวหานหันกลับมามอง แววตาฉายแววท้าทายแวบผ่านฟู่สือถิงจ้องเขา แต่ก็เห็นเพียงใบหน้าครึ่งล่างเท่านั้นเพราะว่าใบหน้าส่วนบนโดนปีกหมวกบังเอาไว้เมื่อมองเห็นมุมปากที่ยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย เขาก็รู้สึกได้ว่าเด็กคนนี้ร้ายกาจและไม่ธรรม
รอยยิ้มกระจ่างปรากฏขึ้นบนใบหน้าเธอทันทีนี่เป็นสิ่งที่คนธรรมดาแสร้งทำไม่ได้ผู้หญิงคนนี้มีระดับสติปัญญาต่ำกว่ารุ่ยลาอคติและความเกลียดชังที่ฉินอันอันมีต่อเธอค่อย ๆ จางหายไปทีละนิดแม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนที่ฟู่สือถิงรัก ก็ไม่อาจจะเลี่ยงความจริงได้ว่าเธอเป็นคนที่น่าสงสารหลังมื้อเย็นเสี่ยวหานฉวยโอกาสเดินเข้าไปหาฉินอันอัน“แม่”ฉินอันอันมองลูกชายและพูดนิ่ง ๆ “ลูกต้องการจะอธิบายให้แม่ฟังเหรอ?”เสี่ยวหานพยักหน้า พร้อมแววตาสงสารที่หาได้ยาก “เธอน่าสงสารมาก”น่าสงสารสองคำนี้ทำให้ฉินอันอันหวนคิดถึงคืนที่เธอและฟู่สือถิงเลิกกันเธอนั้นใจสลายจนเหมือนจะตายเพราะการมีอยู่ของผู้หญิงคนนี้ที่แทรกระหว่างเธอและฟู่สือถิงแต่เธอบอกลูกชายเรื่องนี้ไม่ได้“เธอก็น่าสงสารจริง ๆ” ฉินอันอันเห็นด้วย “แต่หากลูกอยากจะให้แม่ช่วยรักษาเธอ แม่ทำไม่ได้หรอก”เสี่ยวหานเลิกคิ้ว “ทำไมล่ะ?”“อาการของเธอต้องอาศัยการผ่าตัดซึ่งต้องมีการพักฟื้น ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดแบบไหนก็มีความเสี่ยงถึงชีวิตทั้งนั้น หากไม่ได้รับคำยินยอมจากครอบครัว แม่ก็ไม่สามารถทำการผ่าตัดได้” ฉินอันอันอธิบายเหตุผลให้เขาฟังแม้ว่าเสี่ยวหานจ
”ฉินอันอัน คุณทำแบบนี้เพื่อจะอวดว่าตอนนี้ตัวเองประสบความสำเร็จแล้วงั้นเหรอ?” เสียงของฟู่สือถิงเย็นชาฉินอันอันอึ้งไป‘นี่เขาพูดเรื่องอะไรถึงได้โมโหขนาดนี้?’‘อวดว่าประสบความสำเร็จเหรอ?’‘อ๋อ นี่เกี่ยวกับเรื่องเปลี่ยนราคาในสัญญาสินะ?’“แล้วการที่ขายให้ฉันแค่สองร้อยห้าสิบล้านมันเรื่องอะไรกัน?” ฉินอันอันพูดกับอีกฝ่ายด้วยท่าทางแบบเดียวกัน “คุณจะยกให้ฉันหรือไง? ฉันไม่ต้องการหรอก”คิ้วของฟู่สือถิงขมวดแน่นเขาตระหนักแล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขานั้นเลวร้ายมากจนไม่สามารถทนกันได้ตอนที่เขาซื้อฉินกรุ๊ปมา เขาก็หาโอกาสที่จะมอบมันให้กับเธอตอนนั้นเขาคิดว่าพวกเขาทั้งสองจะอยู่ด้วยกันไปอีกนานแสนนานเขาเคยคิดว่าจะให้ตึกฉินกรุ๊ปมาหากำไรเขาขายให้เธอแค่สองร้อยห้าสิบล้านเพราะว่าเขาหาเหตุผลมา “ยก” ให้เธอไม่ได้หากว่าเขาต้องการจะ “ยก” ให้เธอ แน่นอนว่าเธอต้องไม่ยอมรับไว้“ถ้างั้นก็เอาตามราคาตลาด” ลูกกระเดือกของฟู่สือถิงขยับและน้ำเสียงก็ขุ่นเคือง “คุณไม่ต้องการความอนุเคราะห์จากผม และผมก็ไม่ต้องการน้ำใจของคุณ”“โอเค ถ้างั้นก็รีบคืนเงินหนึ่งร้อยล้านที่เกินไปมาให้ฉัน” ฉินอันอันกำมือแน่นเพราะค
”อ๋อใช่ ฉันนี่สมองหมูจริง ๆ หย่าได้ก็ดีแล้ว น่าจะหย่าไปซะตั้งนานแล้ว” หลีเสี่ยวเถียนถอนใจโล่งอก “พรุ่งนี้เธอว่างไหม? ฉันจะเลี้ยงมื้อใหญ่ฉลองที่เธอพ้นจากทะเลทุกข์มาได้”ฉินอันอัน “ฉินซื้อตึกของฉินกรุ๊ปมาวันนี้ เดี๋ยวฉันน่าจะยุ่งมาก”“อ้อ ฉันได้ยินมาจากเฮ่อจุ่นจือว่าเธอจ่ายไปตั้งหกร้อยล้าน เธอรวยมากจริง ๆ”“ห้าร้อยล้านน่ะ” ฉินอันอันพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “เมื่อเย็นเขาคืนฉันมาหนึ่งร้อยล้าน”“โอ๊ย พวกเธอสองคนเล่นอะไรกันน่ะ?”“ทำเส้นแบ่งให้มันชัดเจนไง”“ใช่ เราต้องมีเส้นแบ่งที่ชัดเจนกับเขา ผู้ชายคนนี้เฮงซวยมาก ต่อไปฉันจะบอกเฮ่อจุ่นจือให้อยู่ห่าง ๆ เขาหน่อย” หลีเสี่ยวเถียนพูดอย่างมุ่งมั่น“ตอนนี้ก็ดึกแล้ว รีบเข้านอนเถอะ ฉันง่วงมากจนลืมตาไม่ขึ้นแล้วเนี่ย” ฉินอันอันรู้สึกง่วงจริง ๆเปลือกตาเธอเหมือนหนักอึ้งหลายกิโล‘ฟู่สือถิงใช้เงินไปมากมายเพื่อสืออิ๋น และก็ทำไปเพราะความรักที่มีให้สืออิ๋น’‘ก็ไม่เป็นไร’ฉินอันอันปล่อยวางจากเขาแล้วเวลาเดียวกันที่อพาร์ตเม้นสุดหรูถังเชี่ยนได้แต่มองดูฟู่สือถิงตวาดถามข่าวอย่างเกรี้ยวกราด เขามึนตึงเหมือนมีคนเอาก้อนหินมาทุบหัวสืออิ๋นเหรอ?ผู้หญิงคนนี
รุ่ยลารีบปีนลงจากเตียงและไปเรียกแม่เธอทันทีฉินอันอันที่หัวยุ่งเหยิงเข้ามาให้ห้องของเด็ก ๆ พร้อมกล่องยา“รุ่ยลา ไปนอนกับพี่ลูกไป” ฉินอันอันเห็นว่าฟู่สืออิ๋นมีไข้สูง เธอก็บอกลูกสาวรุ่ยลาพยักหน้า แววตาเต็มไปด้วยความกังวล “แม่คะ อิ๋นอิ๋นเป็นหวัดหรือเปล่า? แม่อยากปิดแอร์ไหมคะ?”ฉินอันอัน “เป็นไข้นี่ก็มีได้หลายสาเหตุ เธออาจจะไม่ได้เป็นหวัดก็ได้”อุณหภูมิในห้องไม่ได้ร้อนหรือหนาวไป ดังนั้นก็ไม่น่าจะเป็นหวัดได้เธอวัดไข้อิ๋นอิ๋นด้วยปรอทและพบว่าไข้สูงถึงสามสิบเก้าจุดห้าองศาจะต้องลดไข้ให้เธอทันทีหลังจากที่ให้น้ำเกลือแล้ว ฉินอันอันก็เข้าไปในห้องน้ำและเอาน้ำอ่างหนึ่งออกมาเธอเช็ดตัวให้อิ๋นอิ๋นตอนนี้เป็นเวลาประมาณตีสาม ฉินอันอันก็อาศัยสัญชาตญาณการเป็นหมอของเธอเพื่อดูแล “ศัตรูหัวใจ”เมื่อทำทุกอย่างเรียบร้อย เธอก็นั่งลงข้างเตียง และยิ่งรู้สึกไม่สบายใจทำไมพระเจ้าถึงได้ทดสอบเธอแบบนี้?แล้วนี่เธอจะส่งอิ๋นอิ๋นกลับไปยังไง?หากว่าเธอไม่ส่งอิ๋นอิ๋นกลับไป เกรงว่าฟู่สือถิงจะกลายเป็นบ้าเธอไม่ได้มีเจตนาไม่ดีที่จะทรมานเขาตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนหัวจะระเบิดในห้องของเสี่ยวหานหลังจากที่รุ่ยล
เมื่อเปิดประตูเข้ามา ก็ได้ยินฟู่สืออิ๋นกระซิบอย่างอึดอัดว่า “พี่ชาย…พี่ชาย…”เด็กทั้งสองนิ่วหน้าละรีบเดินไปที่เตียงแก้มของฟู่สืออิ๋นแดงก่ำและผิวกายก็ร้อนฉ่า“เธอไข้ขึ้นอีกแล้ว หนูจะไปตามแม่” รุ่ยลารีบวิ่งออกไปบอกฉินอันอันเสี่ยวหานจับมือที่โบกไปมาของฟู่สืออิ๋นไว้และปลอบเธอ “อิ๋นอิ๋น ไม่ต้องกลัว”เมื่อฟู่สืออิ๋นได้ยินเสียงเธอก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาเธอเห็นพี่ชายพี่ชายมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ“พี่ชาย… ฮือฮือ..กอด” ฟู่สืออิ๋นร้องไห้และทำท่างอแงตัวของเธอร้อนและรู้สึกไม่สบาย เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะตายเสี่ยวหานไม่มีทางเลือกความต่างทางขนาดตัวของทั้งสองคนนั้นเยอะมากแล้วเขาจะกอดเธอได้ยังไง?เขาทำได้เพียงรอให้แม่มาแล้วช่วยลดไข้ให้เธอ“พี่ชาย ทำไมไม่กอดหนูล่ะ? พี่ไม่อยากโอ๋หนูแล้วเหรอ?” ฟู่สืออิ๋นน้ำตาไหล และเธอร้องไห้อย่างปวดร้าวใจเสี่ยวหานนั้นดูเหมือนฟู่สือถิงมาก ดังนั้นเธอเลยคิดว่าเสี่ยวหานเป็นฟู่สือถิงฉินอันอันได้ยินว่าฟู่สืออิ๋นไข้ขึ้นอีกครั้งก็รีบมาดูทันที“ทำไมไข้ถึงได้กลับมาเร็วนัก” ฉินอันอันยกมือมาแตะดูอุณหภูมิที่หน้าผากของฟู่สืออิ๋น ไข้นั้นหนักกว่าเมื่อตอนตีสามอีก “ไม่ได