“อันอัน สุขสันต์วันปีใหม่นะ” เขายกมือขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้าของเธอเธอกลับก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฟู่ซื่อถิง ฉันต้องไปแล้ว”เมื่อเธอพูดจบเขาไม่ทันได้โต้ตอบ เธอก็ถอดแหวนเพชรออกจากนิ้ว“ฉันคืนให้ค่ะ”เธอยัดแหวนเพชรเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค้ทของเขา“ฉันชอบคุณนะ แต่ฉันไม่อยากเป็นแบบนี้อีกแล้ว” เธอเงยหน้าขึ้น นัยน์ตามีเป็นประกายน้ำตาเล็กน้อย “ในคอมพิวเตอร์ของคุณมีรูปของผู้หญิงคนนั้น ในโทรศัพท์คุณก็มีรูปของผู้หญิงคนนั้น ในใจคุณก็ต้องมีเธอด้วยเหมือนกัน ฉันยอมรับว่าคุณดีกับฉันมาก แต่คุณรักผู้หญิงคนนั้นมากกว่า ฉันจะไม่บังคับให้คุณอธิบาย และฉันก็ไม่บังคับให้คุณลืมเธอ เพราะฉันรู้ดีว่าถึงฉันจะบังคับคุณ มันก็เปล่าประโยชน์”“เราเลิกกันเถอะ!” เธอไม่ได้ถาม ้พียงแต่บอกเขาร่างกายของฟู่ซื่อถิงแข็งทื่อพร้อมกับสายตาไม่เชื่อก่อนที่เธอจะบอกเลิก เห็นได้ชัดว่าทั้งคู่ยังรักกันดีในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ที่ผ่านมา เธอทำอาหารให้เขากินทุกวัน พาเขานอนทุกคืน...เขาคิดว่าจะรักกันแบบนี้ไปจนแก่เฒ่า‘เธอมีความคิดที่จะเลิกกันตั้งแต่เมื่อไหร่?’เขาเดาไม่ออกเลย‘คงจะเป็นหลังปีใหม่’‘หรืออาจจะเร
หนึ่งสัปดาห์ต่อมาเมืองเอ สำนักงานขายขายอสังหาริมทรัพย์สตาร์ริเวอร์ฉินอันอันมองโมเดลอย่างละเอียดพนักงานขายสังเกตว่าเธอยังเด็กจึงถามว่า “ที่นี่เรามีบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และบ้านแยกชั้น คุณผู้หญิงสนใจแบบไหนคะ?”ฉินอันอัน “ยังมีบ้านเดี่ยวไหมคะ?”พนักงานขายเห็นตาของเธอเป็นประกาย “มีค่ะ! ยังมีอีกหนึ่งหลัง แต่พื้นที่ค่อนข้างกว้าง ประมาณสามร้อยตาราง...ราคาบ้านเดี่ยวสูงกว่าทาวน์เฮ้าส์และบ้านแยกชั้น ดังนั้น...”ฉินอันอัน “ถ้าฉันจ่ายตอนนี้ ฉันจะได้ย้ายเข้าเลยไหมคะ?”พนักงานขายรีบพยักหน้า “ได้ค่ะ! บ้านของเราตกแต่งอย่างหรูหราและมีเฟอร์นิเจอร์แถมให้ ลากกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลยค่ะ”ฉินอันอัน “ค่ะ งั้นคุณช่วยคิดราคาให้หน่อย”พนักงานขาย “สามสิบล้านค่ะ ถึงราคาจะสูงสักหน่อยแต่หลังนี้เป็นบ้านเดี่ยวหลังเดียวในโครงการ ถ้าคุณคิดว่าราคาค่อนข้างสูง...”ฉินอันอันเหลือบมองไปด้านข้างจางหยุนอุ้มรุ่ยลาลูกสาวของเธอไว้ในอ้อมแขน รุ่ยลาหลับแล้ว ตอนนี้เธอต้องหาที่พักฉินอันอันมองกลับมาแล้วพูดกับพนักงานขาย “พาฉันไปดูบ้านหน่อยค่ะ”พนักงานขายจึงพาเธอไปดูบ้านทันทีจางหยุนและลูกสองคนรออยู่ในสำนักงานขายเด็กผู
“อันอัน แม่จะซื้อของใช้กับกับข้าว ถ้าง่วงก็ไปพักผ่อนเถอะ” จางหยุนพูดกับฉินอันอันฉินอันอันเปิดกระเป๋าเดินทางและหยิบของออกมาทีละอย่าง“แม่ออกไปข้างนอกก็ระวังด้วยนะคะ หนูยังไม่ง่วงเลย หนูจะเก็บของสักหน่อย”“จ้ะ งั้นแม่ออกไปก่อนนะ”หลังจากที่จางหยุนจากไป ภายในห้องก็เงียบลงฉินอันอันรีบเก็บของและไปดูเด็ก ๆ ที่ห้องรุ่ยลายังหลับอยู่ ส่วนจือหานก็นอนอยู่ข้าง ๆเธอถอยออกจากห้องเธอถอนหายใจเบา ๆ สีหน้าดูโศกเศร้าจือหานเป็นเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรง แต่เขาแตกต่างจากเด็กทั่วไปเขาไม่ชอบพูดและไม่ยอมคุยกับคนแปลกหน้าเขาอายุสี่ขวบแล้วแต่ยังไม่ได้ไปโรงเรียนฉินอันอันพาเขาไปตรวจร่างกายแล้วหลายครั้ง ร่างกายของเขาไม่มีอะไรผิดปกติ แถมสมองของเขายังพัฒนาเร็วกว่าคนทั่วไปด้วยซ้ำแต่เขามีปัญหาทางด้านจิตใจฉินอันอันพาเขาไปพบจิตแพทย์ แต่ก็ยังไม่หายโชคดีที่รุ่ยลาลูกสาวของเธอไม่มีปัญหานี้แม้ว่ารุ่ยลาจะไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้า แต่เธอก็ยังรู้จักแสดงอารมณ์จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นฉินอันอันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย“อันอัน เธอหาที่อยู่ได้แล้วหรือยัง?” ปลายสายคือผู้ช่วยเว่ยเจินซึ่งเป็นผู้ช่วยของศาส
รุ่ยลาเบิกตากว้างอ้าปากค้างและมองที่รูปถ่ายของฟู่เย่เฉินบนหน้าจอโน๊ตบุ๊ค“ว้าว! พ่อหล่อมาก!”จือหานปิดโน๊ตบุ๊คและสาปแช่งในใจ ‘หล่อแล้วไง! คนขี้ขลาดตาขาวไม่คู่ควรกับแม่!’“พี่คะ! เมื่อไหร่เราจะได้เจอพ่อเหรอ? ถ้าเขารู้เรื่องของเรา เขาจะดีใจไหม?” รุ่ยลาเพ้อฝันถึงพ่อของเธอเพราะฉินอันอันไม่เคยพูดไม่ดีเกี่ยวกับพ่อต่อหน้าพวกเขาเลยทุกครั้งที่รุ่ยลาถามว่าพ่อของเธอคือใคร เธอจะบอกลูกสาวว่าไม่มีพ่อเสี่ยวหานนอนลงบนเตียงอีกครั้ง เขามองเพดานแล้วพูดสี่คำ “เป็นไปไม่ได้”รุ่ยลาเศร้าเล็กน้อยพลางพูดด้วยสีหน้าหดหู่ “ทำไมล่ะคะ? เราไม่ได้ไปขอเงินเขา แค่อยากให้เขามาอยู่กับเราแค่นั้นเอง!”เสี่ยวหาน “นอนเถอะ”รุ่ยลางอแง “พี่คะ หนูนอนไม่หลับ หนูอยากเจอพ่อ”เสี่ยวหานผิดหวังกับ 'พ่อ' ของเขามาก เขาจึงรู้สึกกดดันและหมดอดทนลง “หุบปาก”รุ่ยลาเงียบทันทีเธอรู้สึกได้ว่าพี่ชายอารมณ์ไม่ดี เธอจึงยื่นแขนเล็ก ๆ ออกมากอดเขา แล้วพูดเบา ๆ “พี่คะ หนูขอโทษ หนูไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พี่โกรธ ถ้าพี่ไม่อยากเจอพ่อ งั้นหนูก็ไม่อยากเจอแล้ว”เสี่ยวหานยกแขนขึ้นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ไว้พี่จะบอกทีหลัง”รุ่ยลากอดพี่ชายอีกค
โทรศัพท์ดังขึ้นครู่หนึ่งก่อนที่อีกฝ่ายจะรับสาย“สวัสดีค่ะลุงโจว ฉันฉินอันอัน ไม่รู้ว่าลุงโจวยังจำฉันได้ไหม?”“ฉินอันอัน? จำได้สิ! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอแล้วบริษัทจะล้มละลายได้ยังไง?! เธอยังมีหน้าโทรหาฉันอีกเหรอ เธอไปไหนไม่รอดใช่ไหมถึงจะโทรมายืมเงินฉัน? ฉันจะบอกให้นะ ฉันไม่มีเงินให้เธอยืมหรอก!”ฉินอันอันได้ยินน้ำเสียงที่โกรธเคืองของอีกฝ่าย จึงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ฉันไม่ได้จะยืมเงิน ฉันแค่อยากถามว่าลุงว่ามีแผนจะเปลี่ยนงานเร็ว ๆ นี้ไหม?”“เปลี่ยนงาน? ตอนนี้เธอจัดหางานแล้วเหรอ?”ฉินอันอัน “ไม่ใช่ ฉันอยากสร้างฉินกรุ๊ปขึ้นมาใหม่ ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากได้พนักงานคนก่อน ๆ ถ้าทุกคนยังเต็มใจที่จะกลับมา ฉันจะเสนอเงินเดือนให้คุณสองเท่าของเงินเดือนปัจจุบัน”ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลตกตะลึง!“ลุงโจวจะกลับมาไหม?” ฉินอันอันถามผู้อำนวยการโจวสูดหายใจ “เธอมีเงินแล้วเหรอ? เธอรู้หรือเปล่าว่าถ้าเธอเพิ่มเงินเดือนเป็นสองเท่าจะเป็นเงินเท่าไหร่?”ฉินอันอัน "ฉันจ่ายได้ค่ะ”“ถ้าเธอจ่ายได้จริงอย่างที่บอก ฉันก็ยินดีจะกลับไป! ใครบ้างที่จะอยู่ได้โดยไม่มีเงิน!” ผู้อำนวยการโจวพูดอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด “เธอรวย
รถโรลส์รอยซ์สีดำชะลอความเร็วและรอให้ประตูพับไฟฟ้าเปิดฉินอันอันแทบจะกอดเสี่ยวหานหันหลังกลับโดยไม่รู้ตัวสักพักตัวรถก็แวบผ่านไปราวกับเงาดำ!เสี่ยวหานมองรถหรูที่กำลังจะขับจากไป จากนั้นก็เงยหน้ามองแม่ที่มีท่าทางตื่นตระหนก เขาคิดว่าแม่อาจรู้จักคนที่อยู่ในรถคันนั้นเสี่ยวหานไม่เคยเห็นแม่กลัวใครเขาเริ่มสนใจที่นี่เข้าแล้วหลังจากเข้าโรงเรียนแล้ว ผู้รับผิดชอบได้พาสองแม่ลูกเยี่ยมชมสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนที่นี่เป็นโรงเรียนพิเศษที่ดีที่สุดในประเทศเอมากจริง ๆ ไม่เพียงแต่สภาพแวดล้อมที่สวยงามเท่านั้น ครูและสิ่งอำนวยความสะดวกยังเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ดีที่สุดในโลกอีกด้วยแม้ว่าค่าเล่าเรียนจะแพงมาก แต่ฉินอันอันก็ค่อนข้างพอใจกับที่นี่“เสี่ยวหาน มาลองที่นี่กันดีกว่าไหม? แม่จะมาส่งลูกทุกเช้าและจะมารับตอนเย็น โอเคไหม?” ฉินอันอันพาลูกชายออกไปคุยข้างนอกถ้าเสี่ยวหานส่ายหน้า เธอก็จะไม่บังคับเขาแม้ว่าเขาจะแตกต่างจากคนทั่วไป แต่เขายังคงเป็นลูกชายที่เธอรักที่สุด‘ไม่เห็นจะเป็นไร เธอจะสนับสนุนเขาไปตลอดชีวิต’เวลานั้นเสี่ยวหานพยักหน้าฉินอันอันตกตะลึงเธอไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม? ลูกตกลงแล้ว!“ลูกต
เธอไม่อยากไปเจอฟู่ซื่อถิงจริง ๆรถโรลส์รอยซ์ที่เธอเห็นที่โรงเรียนนานาชาติแองเจลาวันนี้แตกต่างจากรถโรลส์รอยซ์เมื่อสี่ปีก่อนสุดท้ายเขาก็ขับรถไม่ได้เป็นเวลาสี่ปีแต่คนขับยังเป็นคนเดิม‘ทำไมเขาถึงไปที่โรงเรียนพิเศษนั่น?’‘หรือว่า...เขาจะเป็นเจ้าของโรงเรียนแห่งนั้น?’แต่ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเจ้าของ เขาก็คงไม่สนใจการดำเนินงานของโรงเรียนเป็นพิเศษหรอกเพราะสุดท้ายแล้ว มีบริษัทใหญ่อย่างเอสทีกรุ๊ปก็เพียงพอแล้ว……เวลาอาหารกลางวันโจวจื่ออี้เห็นสีหน้าเย็นชาของฟู่ซื่อถิง เขาขมวดคิ้วและจึงอธิบายว่า “นายครับ แม้ว่าศาสตราจารย์หูจะมีลูกศิษย์มากมาย แต่ถ้าเราลองหาทีละคน เราก็จะต้องเจอบุคคลที่ศาสตราจารย์หูกล่าวถึงอย่างแน่นอน”ฟู่ซื่อถิง “ฉินอันอันกลับมาที่นี่แล้ว”เสียงของเขาเยือกเย็นและราบเรียบดูเหมือนไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ แต่ก็กลับเต็มไปด้วยอารมณ์มากมายจู่ ๆ โจวจื่ออี้ก็กลับมามีสติอีกครั้ง “เธอได้ติดต่อคุณหรือเปล่า?”“ไม่ แต่เร็ว ๆ นี้แหละ” ฟู่ซื่อถิงพลันหยิบตะเกียบขึ้นมา “เธอต้องการหย่ากับฉัน ฉันบอกให้ทนายของเธอกลับไปบอกเธอว่า ถ้าเธอต้องการหย่า ก็ให้เธอมาหาฉันเอง”โจวจื่ออี้ “แล้วถ้าเธอไม่
เวลาบ่ายสอง ฉินอันอันได้รับโทรศัพท์จากผู้อำนวยการโจว“อันอัน เธอว่างเมื่อไหร่? อีกฝ่ายนัดคุยกับเรา อยากดูว่าเรามีหลักฐานทางทรัพย์สินไหม? ราคาตลาดปัจจุบันของตึกนี้ไม่ต่ำกว่าห้าร้อยล้าน”คำพูดของผู้อำนวยการโจวทำให้ฉินอันอันสะดุ้ง “ถ้าฉันจำไม่ผิด เดิมตึกนี้ขายแค่สองร้อยห้าสิบล้านไม่ใช่เหรอ?“ใช่! ตึกนั้นอยู่ในทำเลที่ดี เนื่องจากในช่วงสองปีที่ผ่านมาราคาที่ดินสูงขึ้น มูลค่าของมันก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย”“ได้ค่ะ วันนี้ฉันไม่ว่าง งั้นเป็นพรุ่งนี้ก็แล้วกัน!”“ได้ ฉันจะตอบพวกเขากลับไปทันที”ฉินอันอันนัดกับหลีเสี่ยวเถียนในช่วงบ่ายหลายปีที่ผ่านมาทั้งสองยังคงติดต่อกัน ถึงแม้จะไม่ได้ติดต่อกันมากนักแต่ความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิมทั้งสองเจอกันที่ร้านอาหารยุโรปหลีเสี่ยวเถียนถือช่อกุหลาบแดงมาด้วย และกอดโผกอดหลังจากได้เจอฉินอันอัน“ฉินอันอัน! ในที่สุดเธอก็ยอมกลับมาสักที! ถ้าเธอไม่กลับมา ฉันจะเลิกคบเธอแล้ว!”สี่ปีที่ผ่านมาพวกเธอเจอกันแค่สองครั้งทั้งสองครั้งคือตอนที่หลีเสี่ยวเถียนไปหาเธอที่ต่างประเทศฉินอันอันหยิบดอกกุหลาบขึ้นมาดมกลิ่นและชม “ดอกไม้ที่เพื่อนรักของฉันให้หอมจังเลย”“ฉินอันอัน ตอน