เวลาบ่ายสอง ฉินอันอันได้รับโทรศัพท์จากผู้อำนวยการโจว“อันอัน เธอว่างเมื่อไหร่? อีกฝ่ายนัดคุยกับเรา อยากดูว่าเรามีหลักฐานทางทรัพย์สินไหม? ราคาตลาดปัจจุบันของตึกนี้ไม่ต่ำกว่าห้าร้อยล้าน”คำพูดของผู้อำนวยการโจวทำให้ฉินอันอันสะดุ้ง “ถ้าฉันจำไม่ผิด เดิมตึกนี้ขายแค่สองร้อยห้าสิบล้านไม่ใช่เหรอ?“ใช่! ตึกนั้นอยู่ในทำเลที่ดี เนื่องจากในช่วงสองปีที่ผ่านมาราคาที่ดินสูงขึ้น มูลค่าของมันก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย”“ได้ค่ะ วันนี้ฉันไม่ว่าง งั้นเป็นพรุ่งนี้ก็แล้วกัน!”“ได้ ฉันจะตอบพวกเขากลับไปทันที”ฉินอันอันนัดกับหลีเสี่ยวเถียนในช่วงบ่ายหลายปีที่ผ่านมาทั้งสองยังคงติดต่อกัน ถึงแม้จะไม่ได้ติดต่อกันมากนักแต่ความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิมทั้งสองเจอกันที่ร้านอาหารยุโรปหลีเสี่ยวเถียนถือช่อกุหลาบแดงมาด้วย และกอดโผกอดหลังจากได้เจอฉินอันอัน“ฉินอันอัน! ในที่สุดเธอก็ยอมกลับมาสักที! ถ้าเธอไม่กลับมา ฉันจะเลิกคบเธอแล้ว!”สี่ปีที่ผ่านมาพวกเธอเจอกันแค่สองครั้งทั้งสองครั้งคือตอนที่หลีเสี่ยวเถียนไปหาเธอที่ต่างประเทศฉินอันอันหยิบดอกกุหลาบขึ้นมาดมกลิ่นและชม “ดอกไม้ที่เพื่อนรักของฉันให้หอมจังเลย”“ฉินอันอัน ตอน
หลี่เสี่ยวเถียนตกใจและมองเธอครู่หนึ่ง “รายได้ของเธอมันเท่าไหร่กัน?!”ฉินอันอัน “การสร้างบริษัทของพ่อฉันขึ้นมาใหม่เป็นความฝันของฉัน ความฝันเข้าใจไหม? มันอาจจะไม่เป็นจริงก็ได้"หลีเสี่ยวเถียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ต่อหน้าเธอ ฉันกับเฮ่อจุนจือเหมือนคนไร้สาระไปวัน ๆ งั้นฉันต้องจับขาของเธอไว้ให้ดี ๆ...หรือจะให้ฉันหาคู่ให้ดีล่ะ? ฉันมีลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งทั้งหล่อทั้งหนุ่ม ปีนี้เขาอายุแค่สิบเก้าปีเอง ที่สำคัญคือ เขานิสัยดีมาก...”ฉินอันอันกุมขมับ “หลีเสี่ยวเถียน อย่าทำร้ายฉันเลย”“เธอไม่ชอบหญ้าอ่อนเหรอ? หรือเธอชอบหญ้าแก่? แก่ก็ได้อยู่นะ! ปีนี้เทรนเนอร์ฟิตเนสของฉันอายุสี่สิบปี ถึงจะแก่แต่กล้ามของเขาก็ทำฉันน้ำลายไหลทุกครั้งที่เห็น.....เธอจับเขาไว้ ให้เขาทำงานบ้านทุกวัน เช่น ซักผ้า ทำอาหาร อุ่นเตียง....”ฉินอันอันถอนหายใจหลังจากเลิกกับฟู่ซื่อถิงเธอก็ไม่สนใจในผู้ชายเลยไม่ว่าจะเป็นลูกสุนัขหรือหมาป่าตัวใหญ่ เธอก็ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นหลังจากจิบชายามบ่าย ฉินอันอันกับหลีเสี่ยวเถียนไปที่ร้านโฟร์เอสเพื่อซื้อรถยนต์หลีเสี่ยวเถียนบอกให้เธอซื้อเมอร์เซเดสเบนซ์ แต่เธอชอบแลนด์โรเวอร์“คันนี้เป็นย
โจวจื่ออี้หน้าถอดสีทันทีที่เห็นฉินอันอันเขาไม่คิดว่าคนที่ต้องการซื่อตึกฉินกรุ๊ปคือฉินอันอัน!ในใจของฉินอันอันสับสนไปหมดทำไมผู้ช่วยของฟู่ซื่อถิงถึงมาอยู่ที่นี่?หรือว่า...เมื่อผู้อำนวยการโจวเห็นพวกเขาเข้ามา เขาก็ลุกขึ้นและทักทายผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์ทันที “ผู้จัดการจาง คนข้าง ๆ คุณคือใครครับ?”ผู้จัดการจางแนะนำ “โจวจื่ออี้ เป็นผู้ช่วยของฟู่ซื่อถิง ตอนนั้นคุณฟู่สั่งให้ผมจัดการซื้อตึกฉินกรุ๊ปแทนเขาครับ”ผู้อำนวยการโจวพยักหน้าและทักทายโจวจื่ออี้ “สวัสดีครับ ผู้ช่วยโจว”โจวจื่ออี้จับมือกับเขา “สวัสดีครับ”“ผมขอแนะนำสักหน่อยนะครับ! คนที่ต้องการซื้อตึกฉินกรุ๊ปคือฉินอันอัน บุตรสาวคนโตของฉินเจี๋ยซึ่งเป็นอดีตเจ้านายของผม” ผู้อำนวยการโจวแนะนำฉินอันอันให้พวกเขาฟัง “ตอนนั้นฉินกรุ๊ปไม่มีทางเลือกจึงต้องล้มละลาย แต่ตอนนี้คุณฉินหาเงินได้จากต่างประเทศ และอยากเอาเงินส่วนนั้นมาซื้อตึกคืนและสร้างฉินกรุ๊ปขึ้นมาใหม่”ฉินอันอันรู้สึกว่าสภาพแวดล้อมโดยรอบเงียบอย่างน่าประหลาดใจผู้อำนวยการโจวพูดอะไร เธอก็ฟังไม่เข้าหูเธอรู้สึกเพียงการถูกเสียดสี!‘ทำไมโชคชะตาถึงเล่นตลกกับเธอแบบนี้!’‘ถ้าฟู่ซื่อ
“เธอไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักจากเมื่อสี่ปีที่แล้ว เธอยังเด็กและสวยมาก แต่นิสัยของเธอเปลี่ยนไปมากครับ” โจวจื่ออี้บอกฟู่ซื่อถิงว่าเขารู้สึกอย่างไรกับการเจอฉินอันอันในครั้งนี้ “เธอสุขุมและเด็ดขาด มีเงินเยอะมาก ในระยะเวลาแค่สี่ปี ไม่รู้ว่าเธอหาเงินมากขนาดนี้ได้ยังไง”“ลองหาข้อมูลที่ประเทศบีก็เจอแล้ว เธอเปิดบริษัทร่วมกับคนอื่นเมื่อสามปีที่แล้ว มีชื่อว่าบริษัทเทคโนโลยีเอเอ็น ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตและจำหน่ายโดรน น่าจะใช้ระบบที่ฉินเจี๋ยทิ้งไว้ แต่ผมได้ยินมาว่าระบบที่ฉินเจี๋ยทิ้งไว้ยังไม่สมบูรณ์ เธอคงหาคนมาทำให้ระบบมันสมบูรณ์ ไม่อย่างนั้นโดรนของเธอคงไม่ขายดีขนาดนี้”เซิ่งเป่ยพูดพร้อมกับหยิบกองข้อมูลออกมา“ฉินอันอันไม่ใช่ฉินอันอันที่อ่อนแอและทำอะไรไม่เป็น เหมือนสี่ปีก่อนอีกต่อไปแล้ว”โจวจื่ออี้ “ผมไม่เคยรู้สึกว่าเธออ่อนแอและทำอะไรไม่เป็น แม้ว่าเมื่อสี่ปีที่แล้วเธอจะไม่มีเงิน แต่เธอก็ค่อนข้างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ทำให้คุณโกรธได้ขนาดนี้”เซิ่งเป่ย “นั่นก็จริง ตอนนี้เธอมีเงินแล้ว! ถึงเราจะเสนอราคาหนึ่งพันล้าน เธอก็จ่ายได้อยู่ดี”โจวจื่ออี้มองฟู่ซื่อถิงที่กำลังนิ่งเงียบและถามว่า “คุณจะขา
ตอนเย็นที่บ้านเดิมของตระกูลฟู่มื้อเย็นกับครอบครัว“เย่เฉิน แกกับจางฉวนลูกสาวคนโตของจางกรุ๊ปเป็นยังไงบ้าง?” แม่เฒ่าฟู่ถามด้วยความเป็นห่วงฟู่เย่เฉินรู้สึกอับอายและไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง“เย่เฉิน ย่ากำลังถามแก! วันก่อนแกบอกว่าคุยกันในวีแชทไม่ใช่เหรอ?” แม่ของฟู่เย่เฉินเหลือบมองลูกชายฟู่เย่เฉินขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงอัดอั้น “เราคุยกันสนุกมากครับ แต่จู่ ๆ ก็มีเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ อายุประมาณสี่หรือห้าขวบวิ่งเข้ามาดึง แล้วเรียกผมว่าพ่อ เธอร้องไห้และกรีดร้อง ฉากนั้นน่าอายมาก ทำให้จางฉวนเข้าใจผิด เธอก็เลยบล็อคเบอร์กับวีแชทของผม ตอนนี้ผมติดต่อเธอไม่ได้เลยครับ”จู่ ๆ สีหน้าของฟู่หานกับภรรยาของก็เปลี่ยนเป็นมืดมนจนแทบจะกลายเป็นถ่านตอนนี้ครอบครัวของพวกเขาหวังว่าลูกชายจะได้แต่งงานกับตระกูลที่ร่ำรวยเพื่อให้ฐานะของพวกเขามั่นคงสุดท้ายไม่ว่าฟู่ซื่อถิงจะร่ำรวยแค่ไหน อีกฝ่ายก็ไม่ให้เงินพวกเขาเดิมทีคิดว่าการผูกมิตรกับจางกรุ๊ปคงจะราบรื่น แต่กลับถูกเด็กผู้หญิงวัยสี่ห้าขวบทำลายลงเสียได้!“เกิดเรื่องพิเรนแบบนี้ได้ยังไง?! เด็กน้อยคนนั้นไม่ได้ตั้งใจหรอกใช่ไหม?” แม่เฒ่าฟู่พูดด้วยความโกรธฟู่เย่เฉิน
“พรุ่งนี้คุณว่างไหม?” เธอพูดขึ้นก่อน“เช้าหรือบ่าย?” เสียงของเขาทุ้มต่ำและดึงดูดเหมือนเช่นเคย“เช้าก็แล้วกัน!” สติของเธอถูกควบคุมด้วยแอลกอฮอล์ เธอจึงพูดไม่เหมือนที่สมองคิด และเธอก็กล้าเป็นพิเศษ “อย่าลืมเอาทะเบียนบ้านกับทะเบียนสมรสมาด้วยล่ะ ถ้าเราตกลงกันได้ พรุ่งนี้เช้าเราจะได้ใบหย่า!”ฟู่ซื่อถิงไม่คิดว่าน้ำเสียงของเธอจะเย็นชาขนาดนี้มันแตกต่างกับสิ่งที่จื่ออี้พูดโดยสิ้นเชิง“ฉินอันอัน แล้วคุณจะต้องเสียใจ” ลูกกระเดือกของเขาขยับ นิ้วที่ถือโทรศัพท์ก็กระชับขึ้นทันที“ฉันจะไม่เสียใจเลยสักนิด!” คำพูดของเขาทำให้เธอโกรธ “ถ้าพรุ่งนี้หย่าเสร็จ ฉันจะซื้อประทัดมาจุดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงไปเลย ไม่ต้องนงต้องนอนกันแล้ว!”เธอพูดพร้อมกับหัวเราะฟู่ซื่อถิงได้ยินเสียงหัวเราะที่น่ารักของเธอ จึงตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ“ฉินอันอัน คุณดื่มเหล้าใช่ไหม?”เมื่อก่อนเธอไม่เคยดื่มเหล้าเลย!แต่ตอนนี้กลับดื่มแถมยังเมาอีกด้วยความโกรธแค้นจุดประกายในใจของเขา“คุณสนใจด้วยเหรอ?! ฉันอยากดื่มอะไรมันก็เรื่องของฉัน ไม่มีใครห้ามฉันได้!” เธอตะโกนอย่างเย่อหยิ่งฟู่ซื่อถิงกัดฟัน “พรุ่งนี้เราหย่ากัน!”แน่นอนว่าไม
ตระกูลฟู่รถสีดำมาจอดที่ลานหน้าบ้านเมื่อประตูรถเปิดออก ใบหน้าสง่างามที่คุ้นเคยก็โผล่ออกมาป้าจางพูดว่า “คุณถัง ไม่เจอกันนานเลยนะคะ”ถังเฉียนยิ้มและพูดว่า “ป้าจางไม่เจอกันนานเลย ซื่อถิงอยู่บ้านหรือเปล่าคะ?”ป้าจางพยักหน้า “คุณผู้ชายรออยู่ที่บ้านตั้งแต่ที่เขาได้รับสายคุณเมื่อเช้านี้แล้วค่ะ”ถังเฉียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจจากนั้นก็มีผู้หญิงอีกคนหนึ่งลงจากรถ"คุณเสิ่น ระวังเท้านะคะ” ถังเฉียนช่วยเธอลงจากรถคุณเสิ่นท่านนี้อายุประมาณสามสิบปี เธอมีรูปลักษณ์เป็นผู้ใหญ่ ดูสง่างามทำให้คนที่เห็นรู้สึกเหมือนได้อ่านวรรณกรรมเธอมองไปที่คฤหาสน์ตรงหน้าเธออารมณ์ภายในจิตใจของเธอไม่สามารถมองเห็นได้จากดวงตาป้าจางไม่กล้าถามคำถามเยอะ เธอจึงเดินนำหน้าพวกเธอเข้าไปในห้องรับแขกเมื่อฟู่ซื่อถิงเห็นพวกเธอเข้ามา เขาก็ลุกขึ้นจากโซฟาทันทีถังเฉียนโทรหาเขาตอนเช้าและบอกว่าเขาว่าเธอเจอนักเรียนที่ศาสตราจารย์หูบอกว่าสามารถช่วยเขาได้สายสุดท้ายของศาสตราจารย์หูชิงคือฟู่ซื่อถิง เรื่องนี้ออกข่าวในท้องถิ่นด้วยตราบใดที่ใช้เงินและเส้นสายเพียงเล็กน้อย ก็สามารถล้วงข้อมูลการโทรครั้งล่าสุดระหว่างศาสตราจารย์หูชิง
ฟู่สือถิง “ขอบคุณที่เป็นห่วงแต่ผมไม่ต้องการ”ถังเชี่ยนรู้สึกผิดหวังและหันหลังจากไปโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้น ทำลายความเงียบในห้องลงฟู่สือถิงหยิบมือถือขึ้นมาและเห็นสายเรียกเข้าของฉินอันอัน ขมับเขากระตุกทันทีนี่ก็เกือบเที่ยงแล้วเมื่อคืนเขาและฉินอันอันนัดกันว่าจะมาเจอกันเช้านี้ตอนที่เขาเตรียมตัวออกไปเมื่อเช้า เขาก็ได้รับสายจากถังเชี่ยนและลืมนัดนี้ไปเลยเขารับโทรศัพท์ “ขอโทษที วันนี้ผมยุ่ง ไม่มีเวลาไปตามนัด ผมจะสั่งให้ทนายจัดการเรื่องการหย่าของเรา”ฉินอันอันชะงักไปพักหนึ่งและตอบเสียงเรียบ ๆ ว่า “โอเคค่ะ นี่ก็วันหยุดสุดสัปดาห์แล้ว คงจะหย่าไม่ได้ ให้ทนายของคุณติดต่อฉันวันจันทร์ก็แล้วกัน”เขาตอบ “ได้”หลังจากจบธุระ ก็ดูแล้วว่าจะถึงเวลาวางสายแล้ว“ตึกของฉินกรุ๊ป ผมขายให้คุณได้นะ” เขาไม่คิดจะแก้แค้นอะไรฉินอันอันอีกแล้วเขาเพียงหวังให้อาการป่วยของสืออิ๋นได้รับการรักษาเท่านั้นสืออิ๋นคือน้องสาวของเขาพวกเขาเป็นฝาแฝดกันแต่สืออิ๋นมีอาการบกพร่องทางสมองพ่อของพวกเขานั้นเป็นคนเข้มงวดต่อลูก ๆ มากพ่อไม่สามารถทนกับลูกที่ไม่แข็งแรงได้ และเขาก็ทนไม่ได้ที่จะโดนคนในตระกูลฟู่หัวเราะเยาะ