โจวจื่ออี้หน้าถอดสีทันทีที่เห็นฉินอันอันเขาไม่คิดว่าคนที่ต้องการซื่อตึกฉินกรุ๊ปคือฉินอันอัน!ในใจของฉินอันอันสับสนไปหมดทำไมผู้ช่วยของฟู่ซื่อถิงถึงมาอยู่ที่นี่?หรือว่า...เมื่อผู้อำนวยการโจวเห็นพวกเขาเข้ามา เขาก็ลุกขึ้นและทักทายผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์ทันที “ผู้จัดการจาง คนข้าง ๆ คุณคือใครครับ?”ผู้จัดการจางแนะนำ “โจวจื่ออี้ เป็นผู้ช่วยของฟู่ซื่อถิง ตอนนั้นคุณฟู่สั่งให้ผมจัดการซื้อตึกฉินกรุ๊ปแทนเขาครับ”ผู้อำนวยการโจวพยักหน้าและทักทายโจวจื่ออี้ “สวัสดีครับ ผู้ช่วยโจว”โจวจื่ออี้จับมือกับเขา “สวัสดีครับ”“ผมขอแนะนำสักหน่อยนะครับ! คนที่ต้องการซื้อตึกฉินกรุ๊ปคือฉินอันอัน บุตรสาวคนโตของฉินเจี๋ยซึ่งเป็นอดีตเจ้านายของผม” ผู้อำนวยการโจวแนะนำฉินอันอันให้พวกเขาฟัง “ตอนนั้นฉินกรุ๊ปไม่มีทางเลือกจึงต้องล้มละลาย แต่ตอนนี้คุณฉินหาเงินได้จากต่างประเทศ และอยากเอาเงินส่วนนั้นมาซื้อตึกคืนและสร้างฉินกรุ๊ปขึ้นมาใหม่”ฉินอันอันรู้สึกว่าสภาพแวดล้อมโดยรอบเงียบอย่างน่าประหลาดใจผู้อำนวยการโจวพูดอะไร เธอก็ฟังไม่เข้าหูเธอรู้สึกเพียงการถูกเสียดสี!‘ทำไมโชคชะตาถึงเล่นตลกกับเธอแบบนี้!’‘ถ้าฟู่ซื่อ
“เธอไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักจากเมื่อสี่ปีที่แล้ว เธอยังเด็กและสวยมาก แต่นิสัยของเธอเปลี่ยนไปมากครับ” โจวจื่ออี้บอกฟู่ซื่อถิงว่าเขารู้สึกอย่างไรกับการเจอฉินอันอันในครั้งนี้ “เธอสุขุมและเด็ดขาด มีเงินเยอะมาก ในระยะเวลาแค่สี่ปี ไม่รู้ว่าเธอหาเงินมากขนาดนี้ได้ยังไง”“ลองหาข้อมูลที่ประเทศบีก็เจอแล้ว เธอเปิดบริษัทร่วมกับคนอื่นเมื่อสามปีที่แล้ว มีชื่อว่าบริษัทเทคโนโลยีเอเอ็น ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตและจำหน่ายโดรน น่าจะใช้ระบบที่ฉินเจี๋ยทิ้งไว้ แต่ผมได้ยินมาว่าระบบที่ฉินเจี๋ยทิ้งไว้ยังไม่สมบูรณ์ เธอคงหาคนมาทำให้ระบบมันสมบูรณ์ ไม่อย่างนั้นโดรนของเธอคงไม่ขายดีขนาดนี้”เซิ่งเป่ยพูดพร้อมกับหยิบกองข้อมูลออกมา“ฉินอันอันไม่ใช่ฉินอันอันที่อ่อนแอและทำอะไรไม่เป็น เหมือนสี่ปีก่อนอีกต่อไปแล้ว”โจวจื่ออี้ “ผมไม่เคยรู้สึกว่าเธออ่อนแอและทำอะไรไม่เป็น แม้ว่าเมื่อสี่ปีที่แล้วเธอจะไม่มีเงิน แต่เธอก็ค่อนข้างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ทำให้คุณโกรธได้ขนาดนี้”เซิ่งเป่ย “นั่นก็จริง ตอนนี้เธอมีเงินแล้ว! ถึงเราจะเสนอราคาหนึ่งพันล้าน เธอก็จ่ายได้อยู่ดี”โจวจื่ออี้มองฟู่ซื่อถิงที่กำลังนิ่งเงียบและถามว่า “คุณจะขา
ตอนเย็นที่บ้านเดิมของตระกูลฟู่มื้อเย็นกับครอบครัว“เย่เฉิน แกกับจางฉวนลูกสาวคนโตของจางกรุ๊ปเป็นยังไงบ้าง?” แม่เฒ่าฟู่ถามด้วยความเป็นห่วงฟู่เย่เฉินรู้สึกอับอายและไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง“เย่เฉิน ย่ากำลังถามแก! วันก่อนแกบอกว่าคุยกันในวีแชทไม่ใช่เหรอ?” แม่ของฟู่เย่เฉินเหลือบมองลูกชายฟู่เย่เฉินขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงอัดอั้น “เราคุยกันสนุกมากครับ แต่จู่ ๆ ก็มีเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ อายุประมาณสี่หรือห้าขวบวิ่งเข้ามาดึง แล้วเรียกผมว่าพ่อ เธอร้องไห้และกรีดร้อง ฉากนั้นน่าอายมาก ทำให้จางฉวนเข้าใจผิด เธอก็เลยบล็อคเบอร์กับวีแชทของผม ตอนนี้ผมติดต่อเธอไม่ได้เลยครับ”จู่ ๆ สีหน้าของฟู่หานกับภรรยาของก็เปลี่ยนเป็นมืดมนจนแทบจะกลายเป็นถ่านตอนนี้ครอบครัวของพวกเขาหวังว่าลูกชายจะได้แต่งงานกับตระกูลที่ร่ำรวยเพื่อให้ฐานะของพวกเขามั่นคงสุดท้ายไม่ว่าฟู่ซื่อถิงจะร่ำรวยแค่ไหน อีกฝ่ายก็ไม่ให้เงินพวกเขาเดิมทีคิดว่าการผูกมิตรกับจางกรุ๊ปคงจะราบรื่น แต่กลับถูกเด็กผู้หญิงวัยสี่ห้าขวบทำลายลงเสียได้!“เกิดเรื่องพิเรนแบบนี้ได้ยังไง?! เด็กน้อยคนนั้นไม่ได้ตั้งใจหรอกใช่ไหม?” แม่เฒ่าฟู่พูดด้วยความโกรธฟู่เย่เฉิน
“พรุ่งนี้คุณว่างไหม?” เธอพูดขึ้นก่อน“เช้าหรือบ่าย?” เสียงของเขาทุ้มต่ำและดึงดูดเหมือนเช่นเคย“เช้าก็แล้วกัน!” สติของเธอถูกควบคุมด้วยแอลกอฮอล์ เธอจึงพูดไม่เหมือนที่สมองคิด และเธอก็กล้าเป็นพิเศษ “อย่าลืมเอาทะเบียนบ้านกับทะเบียนสมรสมาด้วยล่ะ ถ้าเราตกลงกันได้ พรุ่งนี้เช้าเราจะได้ใบหย่า!”ฟู่ซื่อถิงไม่คิดว่าน้ำเสียงของเธอจะเย็นชาขนาดนี้มันแตกต่างกับสิ่งที่จื่ออี้พูดโดยสิ้นเชิง“ฉินอันอัน แล้วคุณจะต้องเสียใจ” ลูกกระเดือกของเขาขยับ นิ้วที่ถือโทรศัพท์ก็กระชับขึ้นทันที“ฉันจะไม่เสียใจเลยสักนิด!” คำพูดของเขาทำให้เธอโกรธ “ถ้าพรุ่งนี้หย่าเสร็จ ฉันจะซื้อประทัดมาจุดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงไปเลย ไม่ต้องนงต้องนอนกันแล้ว!”เธอพูดพร้อมกับหัวเราะฟู่ซื่อถิงได้ยินเสียงหัวเราะที่น่ารักของเธอ จึงตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ“ฉินอันอัน คุณดื่มเหล้าใช่ไหม?”เมื่อก่อนเธอไม่เคยดื่มเหล้าเลย!แต่ตอนนี้กลับดื่มแถมยังเมาอีกด้วยความโกรธแค้นจุดประกายในใจของเขา“คุณสนใจด้วยเหรอ?! ฉันอยากดื่มอะไรมันก็เรื่องของฉัน ไม่มีใครห้ามฉันได้!” เธอตะโกนอย่างเย่อหยิ่งฟู่ซื่อถิงกัดฟัน “พรุ่งนี้เราหย่ากัน!”แน่นอนว่าไม
ตระกูลฟู่รถสีดำมาจอดที่ลานหน้าบ้านเมื่อประตูรถเปิดออก ใบหน้าสง่างามที่คุ้นเคยก็โผล่ออกมาป้าจางพูดว่า “คุณถัง ไม่เจอกันนานเลยนะคะ”ถังเฉียนยิ้มและพูดว่า “ป้าจางไม่เจอกันนานเลย ซื่อถิงอยู่บ้านหรือเปล่าคะ?”ป้าจางพยักหน้า “คุณผู้ชายรออยู่ที่บ้านตั้งแต่ที่เขาได้รับสายคุณเมื่อเช้านี้แล้วค่ะ”ถังเฉียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจจากนั้นก็มีผู้หญิงอีกคนหนึ่งลงจากรถ"คุณเสิ่น ระวังเท้านะคะ” ถังเฉียนช่วยเธอลงจากรถคุณเสิ่นท่านนี้อายุประมาณสามสิบปี เธอมีรูปลักษณ์เป็นผู้ใหญ่ ดูสง่างามทำให้คนที่เห็นรู้สึกเหมือนได้อ่านวรรณกรรมเธอมองไปที่คฤหาสน์ตรงหน้าเธออารมณ์ภายในจิตใจของเธอไม่สามารถมองเห็นได้จากดวงตาป้าจางไม่กล้าถามคำถามเยอะ เธอจึงเดินนำหน้าพวกเธอเข้าไปในห้องรับแขกเมื่อฟู่ซื่อถิงเห็นพวกเธอเข้ามา เขาก็ลุกขึ้นจากโซฟาทันทีถังเฉียนโทรหาเขาตอนเช้าและบอกว่าเขาว่าเธอเจอนักเรียนที่ศาสตราจารย์หูบอกว่าสามารถช่วยเขาได้สายสุดท้ายของศาสตราจารย์หูชิงคือฟู่ซื่อถิง เรื่องนี้ออกข่าวในท้องถิ่นด้วยตราบใดที่ใช้เงินและเส้นสายเพียงเล็กน้อย ก็สามารถล้วงข้อมูลการโทรครั้งล่าสุดระหว่างศาสตราจารย์หูชิง
ฟู่สือถิง “ขอบคุณที่เป็นห่วงแต่ผมไม่ต้องการ”ถังเชี่ยนรู้สึกผิดหวังและหันหลังจากไปโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้น ทำลายความเงียบในห้องลงฟู่สือถิงหยิบมือถือขึ้นมาและเห็นสายเรียกเข้าของฉินอันอัน ขมับเขากระตุกทันทีนี่ก็เกือบเที่ยงแล้วเมื่อคืนเขาและฉินอันอันนัดกันว่าจะมาเจอกันเช้านี้ตอนที่เขาเตรียมตัวออกไปเมื่อเช้า เขาก็ได้รับสายจากถังเชี่ยนและลืมนัดนี้ไปเลยเขารับโทรศัพท์ “ขอโทษที วันนี้ผมยุ่ง ไม่มีเวลาไปตามนัด ผมจะสั่งให้ทนายจัดการเรื่องการหย่าของเรา”ฉินอันอันชะงักไปพักหนึ่งและตอบเสียงเรียบ ๆ ว่า “โอเคค่ะ นี่ก็วันหยุดสุดสัปดาห์แล้ว คงจะหย่าไม่ได้ ให้ทนายของคุณติดต่อฉันวันจันทร์ก็แล้วกัน”เขาตอบ “ได้”หลังจากจบธุระ ก็ดูแล้วว่าจะถึงเวลาวางสายแล้ว“ตึกของฉินกรุ๊ป ผมขายให้คุณได้นะ” เขาไม่คิดจะแก้แค้นอะไรฉินอันอันอีกแล้วเขาเพียงหวังให้อาการป่วยของสืออิ๋นได้รับการรักษาเท่านั้นสืออิ๋นคือน้องสาวของเขาพวกเขาเป็นฝาแฝดกันแต่สืออิ๋นมีอาการบกพร่องทางสมองพ่อของพวกเขานั้นเป็นคนเข้มงวดต่อลูก ๆ มากพ่อไม่สามารถทนกับลูกที่ไม่แข็งแรงได้ และเขาก็ทนไม่ได้ที่จะโดนคนในตระกูลฟู่หัวเราะเยาะ
ฉินอันอันตาสว่างขึ้นมาทันทีเธอนั้นมีสัมผัสที่หกแรงกล้าคนที่ฟู่สือถิงอยากช่วยต้องเป็นผู้หญิงคนที่เขาโหยหาอยู่แน่เธอไม่สามารถอวยพรให้เขา และผู้หญิงคนนั้นได้เธอขับรถไปตามถนน พลางเปิดแอร์แล้วสัมผัสลมเย็น ๆ ที่ออกมาฉินอันอันตัดสินใจจะกลับบ้านและพาลูกทั้งสองออกไปเที่ยวเล่นหลังจากกลับมาที่ประเทศเอ เธอก็ยังไม่ได้พาพวกเขาออกไปซื้อของเลย…… “แม่คะ แม่จะพาหนูกะพี่ไปเล่นที่ไหนคะ?” รุ่ยลาและจือหานนั่งอยู่ในคาร์ซีทเรียงกันเด็กทั้งสองนั่งอย่างเรียบร้อยเชื่อฟังอยู่ที่ด้านหลังฉินอันอันก็ไม่รู้ว่าจะพาพวกเขาไปเล่นที่ไหนลูกทั้งสองของเธอนั้นดูโตกว่าอายุเมื่อเทียบกับเด็กรุ่นเดียวกัน“พวกลูกอยากจะไปที่สวนสนุกไหม? ที่กลางเมืองมีสวนสนุกใหญ่อยู่นะ เหมือนปราสาทเลย” ฉินอันอันพูดอย่างกระตือรือร้นรุ่ยลาถอนใจและพูดเสียงหวานว่า “แม่ อากาศร้อนไป เราหาที่เย็น ๆ อยู่ได้ไหม?”ฉินอันอัน “งั้นเราไปสวนน้ำ แล้วเล่นน้ำกันไหม?”รุ่ยลาก็ยังคงมุ่นคิ้ว “หนูไม่ชอบที่คนตั้งเยอะแยะมาแช่ในสระเดียวกัน… สกปรกจะตาย แม่ค่า ทำไมเราไม่ไปซื้อไอศครีมล่ะคะ?”ฉินอันอัน “...”ข้อสรุปอะไรกันนี่เมื่อเห็นว่าแม่นิ่วหน้
จางเฉวียนปรายตามองกล่องของขวัญและบอกว่า “เย่เฉิน ฉันไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้วนะคะ ฉันอยากจะเริ่มสร้างครอบครัวแล้วก็มีลูก”“เฉวียนเฉวียน ผมก็เหมือนกัน ผมเองก็อยากสร้างครอบครัว เราลองคบกันก่อน หากว่าไม่มีปัญหาอะไร เราก็จะแต่งงานและมีลูกด้วยกัน” ฟู่เย่เฉินมองจางเฉวียนอย่างกระตือรือร้นจางเฉวียนหลุบตาลง “พ่อของฉันมีเงื่อนไข หากว่าเราแต่งงานกัน ลูกคนแรกที่เกิดขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงต้องใช้นามสกุลจาง”สีหน้าของฟู่เย่เฉินเปลี่ยนไปทันใด“หากว่าคุณรับข้อนี้ไม่ได้ มื้อนี้ก็ไม่ต้องกินกันแล้ว” จางเฉวียนคว้ากระเป๋าและเตรียมเดินออกไปฟู่เย่เฉินรีบคว้าแขนเธอไว้ “เฉวียนเฉวียน ผมไม่มีปัญหา ไม่ว่าลูกจะนามสกุลอะไรพวกเขาก็เป็นลูกของผม แต่ว่าพ่อแม่ของผมอาจจะใส่ใจกับเรื่องนี้… เอาแบบนี้ดีไหม เรื่องนี้จัดการได้ หลังแต่งงานเราก็มีลูกสองคน คนแรกก็ให้ใช้นามสกุลของคุณ ส่วนคนที่สองก็ใช้นามสกุลของผม”จางเฉวียนถอนใจโล่งอกหลังจากได้ยินที่เขาพูด“พ่อแม่คุณจะยอมเหรอคะ?”ฟู่เย่เฉิน “ผมจะคุยกับพวกเขาให้ดี เฉวียนเฉวียนตั้งแต่ที่ได้ใช้เวลาหลายวันนี้กับคุณ ผมก็รู้แล้วว่าผมหลงใหลคุณมาก คุณทั้งสง่างาม มีรสนิยมและ