“อันอัน แม่จะซื้อของใช้กับกับข้าว ถ้าง่วงก็ไปพักผ่อนเถอะ” จางหยุนพูดกับฉินอันอันฉินอันอันเปิดกระเป๋าเดินทางและหยิบของออกมาทีละอย่าง“แม่ออกไปข้างนอกก็ระวังด้วยนะคะ หนูยังไม่ง่วงเลย หนูจะเก็บของสักหน่อย”“จ้ะ งั้นแม่ออกไปก่อนนะ”หลังจากที่จางหยุนจากไป ภายในห้องก็เงียบลงฉินอันอันรีบเก็บของและไปดูเด็ก ๆ ที่ห้องรุ่ยลายังหลับอยู่ ส่วนจือหานก็นอนอยู่ข้าง ๆเธอถอยออกจากห้องเธอถอนหายใจเบา ๆ สีหน้าดูโศกเศร้าจือหานเป็นเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรง แต่เขาแตกต่างจากเด็กทั่วไปเขาไม่ชอบพูดและไม่ยอมคุยกับคนแปลกหน้าเขาอายุสี่ขวบแล้วแต่ยังไม่ได้ไปโรงเรียนฉินอันอันพาเขาไปตรวจร่างกายแล้วหลายครั้ง ร่างกายของเขาไม่มีอะไรผิดปกติ แถมสมองของเขายังพัฒนาเร็วกว่าคนทั่วไปด้วยซ้ำแต่เขามีปัญหาทางด้านจิตใจฉินอันอันพาเขาไปพบจิตแพทย์ แต่ก็ยังไม่หายโชคดีที่รุ่ยลาลูกสาวของเธอไม่มีปัญหานี้แม้ว่ารุ่ยลาจะไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้า แต่เธอก็ยังรู้จักแสดงอารมณ์จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นฉินอันอันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย“อันอัน เธอหาที่อยู่ได้แล้วหรือยัง?” ปลายสายคือผู้ช่วยเว่ยเจินซึ่งเป็นผู้ช่วยของศาส
รุ่ยลาเบิกตากว้างอ้าปากค้างและมองที่รูปถ่ายของฟู่เย่เฉินบนหน้าจอโน๊ตบุ๊ค“ว้าว! พ่อหล่อมาก!”จือหานปิดโน๊ตบุ๊คและสาปแช่งในใจ ‘หล่อแล้วไง! คนขี้ขลาดตาขาวไม่คู่ควรกับแม่!’“พี่คะ! เมื่อไหร่เราจะได้เจอพ่อเหรอ? ถ้าเขารู้เรื่องของเรา เขาจะดีใจไหม?” รุ่ยลาเพ้อฝันถึงพ่อของเธอเพราะฉินอันอันไม่เคยพูดไม่ดีเกี่ยวกับพ่อต่อหน้าพวกเขาเลยทุกครั้งที่รุ่ยลาถามว่าพ่อของเธอคือใคร เธอจะบอกลูกสาวว่าไม่มีพ่อเสี่ยวหานนอนลงบนเตียงอีกครั้ง เขามองเพดานแล้วพูดสี่คำ “เป็นไปไม่ได้”รุ่ยลาเศร้าเล็กน้อยพลางพูดด้วยสีหน้าหดหู่ “ทำไมล่ะคะ? เราไม่ได้ไปขอเงินเขา แค่อยากให้เขามาอยู่กับเราแค่นั้นเอง!”เสี่ยวหาน “นอนเถอะ”รุ่ยลางอแง “พี่คะ หนูนอนไม่หลับ หนูอยากเจอพ่อ”เสี่ยวหานผิดหวังกับ 'พ่อ' ของเขามาก เขาจึงรู้สึกกดดันและหมดอดทนลง “หุบปาก”รุ่ยลาเงียบทันทีเธอรู้สึกได้ว่าพี่ชายอารมณ์ไม่ดี เธอจึงยื่นแขนเล็ก ๆ ออกมากอดเขา แล้วพูดเบา ๆ “พี่คะ หนูขอโทษ หนูไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พี่โกรธ ถ้าพี่ไม่อยากเจอพ่อ งั้นหนูก็ไม่อยากเจอแล้ว”เสี่ยวหานยกแขนขึ้นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ไว้พี่จะบอกทีหลัง”รุ่ยลากอดพี่ชายอีกค
โทรศัพท์ดังขึ้นครู่หนึ่งก่อนที่อีกฝ่ายจะรับสาย“สวัสดีค่ะลุงโจว ฉันฉินอันอัน ไม่รู้ว่าลุงโจวยังจำฉันได้ไหม?”“ฉินอันอัน? จำได้สิ! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอแล้วบริษัทจะล้มละลายได้ยังไง?! เธอยังมีหน้าโทรหาฉันอีกเหรอ เธอไปไหนไม่รอดใช่ไหมถึงจะโทรมายืมเงินฉัน? ฉันจะบอกให้นะ ฉันไม่มีเงินให้เธอยืมหรอก!”ฉินอันอันได้ยินน้ำเสียงที่โกรธเคืองของอีกฝ่าย จึงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ฉันไม่ได้จะยืมเงิน ฉันแค่อยากถามว่าลุงว่ามีแผนจะเปลี่ยนงานเร็ว ๆ นี้ไหม?”“เปลี่ยนงาน? ตอนนี้เธอจัดหางานแล้วเหรอ?”ฉินอันอัน “ไม่ใช่ ฉันอยากสร้างฉินกรุ๊ปขึ้นมาใหม่ ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากได้พนักงานคนก่อน ๆ ถ้าทุกคนยังเต็มใจที่จะกลับมา ฉันจะเสนอเงินเดือนให้คุณสองเท่าของเงินเดือนปัจจุบัน”ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลตกตะลึง!“ลุงโจวจะกลับมาไหม?” ฉินอันอันถามผู้อำนวยการโจวสูดหายใจ “เธอมีเงินแล้วเหรอ? เธอรู้หรือเปล่าว่าถ้าเธอเพิ่มเงินเดือนเป็นสองเท่าจะเป็นเงินเท่าไหร่?”ฉินอันอัน "ฉันจ่ายได้ค่ะ”“ถ้าเธอจ่ายได้จริงอย่างที่บอก ฉันก็ยินดีจะกลับไป! ใครบ้างที่จะอยู่ได้โดยไม่มีเงิน!” ผู้อำนวยการโจวพูดอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด “เธอรวย
รถโรลส์รอยซ์สีดำชะลอความเร็วและรอให้ประตูพับไฟฟ้าเปิดฉินอันอันแทบจะกอดเสี่ยวหานหันหลังกลับโดยไม่รู้ตัวสักพักตัวรถก็แวบผ่านไปราวกับเงาดำ!เสี่ยวหานมองรถหรูที่กำลังจะขับจากไป จากนั้นก็เงยหน้ามองแม่ที่มีท่าทางตื่นตระหนก เขาคิดว่าแม่อาจรู้จักคนที่อยู่ในรถคันนั้นเสี่ยวหานไม่เคยเห็นแม่กลัวใครเขาเริ่มสนใจที่นี่เข้าแล้วหลังจากเข้าโรงเรียนแล้ว ผู้รับผิดชอบได้พาสองแม่ลูกเยี่ยมชมสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนที่นี่เป็นโรงเรียนพิเศษที่ดีที่สุดในประเทศเอมากจริง ๆ ไม่เพียงแต่สภาพแวดล้อมที่สวยงามเท่านั้น ครูและสิ่งอำนวยความสะดวกยังเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ดีที่สุดในโลกอีกด้วยแม้ว่าค่าเล่าเรียนจะแพงมาก แต่ฉินอันอันก็ค่อนข้างพอใจกับที่นี่“เสี่ยวหาน มาลองที่นี่กันดีกว่าไหม? แม่จะมาส่งลูกทุกเช้าและจะมารับตอนเย็น โอเคไหม?” ฉินอันอันพาลูกชายออกไปคุยข้างนอกถ้าเสี่ยวหานส่ายหน้า เธอก็จะไม่บังคับเขาแม้ว่าเขาจะแตกต่างจากคนทั่วไป แต่เขายังคงเป็นลูกชายที่เธอรักที่สุด‘ไม่เห็นจะเป็นไร เธอจะสนับสนุนเขาไปตลอดชีวิต’เวลานั้นเสี่ยวหานพยักหน้าฉินอันอันตกตะลึงเธอไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม? ลูกตกลงแล้ว!“ลูกต
เธอไม่อยากไปเจอฟู่ซื่อถิงจริง ๆรถโรลส์รอยซ์ที่เธอเห็นที่โรงเรียนนานาชาติแองเจลาวันนี้แตกต่างจากรถโรลส์รอยซ์เมื่อสี่ปีก่อนสุดท้ายเขาก็ขับรถไม่ได้เป็นเวลาสี่ปีแต่คนขับยังเป็นคนเดิม‘ทำไมเขาถึงไปที่โรงเรียนพิเศษนั่น?’‘หรือว่า...เขาจะเป็นเจ้าของโรงเรียนแห่งนั้น?’แต่ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเจ้าของ เขาก็คงไม่สนใจการดำเนินงานของโรงเรียนเป็นพิเศษหรอกเพราะสุดท้ายแล้ว มีบริษัทใหญ่อย่างเอสทีกรุ๊ปก็เพียงพอแล้ว……เวลาอาหารกลางวันโจวจื่ออี้เห็นสีหน้าเย็นชาของฟู่ซื่อถิง เขาขมวดคิ้วและจึงอธิบายว่า “นายครับ แม้ว่าศาสตราจารย์หูจะมีลูกศิษย์มากมาย แต่ถ้าเราลองหาทีละคน เราก็จะต้องเจอบุคคลที่ศาสตราจารย์หูกล่าวถึงอย่างแน่นอน”ฟู่ซื่อถิง “ฉินอันอันกลับมาที่นี่แล้ว”เสียงของเขาเยือกเย็นและราบเรียบดูเหมือนไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ แต่ก็กลับเต็มไปด้วยอารมณ์มากมายจู่ ๆ โจวจื่ออี้ก็กลับมามีสติอีกครั้ง “เธอได้ติดต่อคุณหรือเปล่า?”“ไม่ แต่เร็ว ๆ นี้แหละ” ฟู่ซื่อถิงพลันหยิบตะเกียบขึ้นมา “เธอต้องการหย่ากับฉัน ฉันบอกให้ทนายของเธอกลับไปบอกเธอว่า ถ้าเธอต้องการหย่า ก็ให้เธอมาหาฉันเอง”โจวจื่ออี้ “แล้วถ้าเธอไม่
เวลาบ่ายสอง ฉินอันอันได้รับโทรศัพท์จากผู้อำนวยการโจว“อันอัน เธอว่างเมื่อไหร่? อีกฝ่ายนัดคุยกับเรา อยากดูว่าเรามีหลักฐานทางทรัพย์สินไหม? ราคาตลาดปัจจุบันของตึกนี้ไม่ต่ำกว่าห้าร้อยล้าน”คำพูดของผู้อำนวยการโจวทำให้ฉินอันอันสะดุ้ง “ถ้าฉันจำไม่ผิด เดิมตึกนี้ขายแค่สองร้อยห้าสิบล้านไม่ใช่เหรอ?“ใช่! ตึกนั้นอยู่ในทำเลที่ดี เนื่องจากในช่วงสองปีที่ผ่านมาราคาที่ดินสูงขึ้น มูลค่าของมันก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย”“ได้ค่ะ วันนี้ฉันไม่ว่าง งั้นเป็นพรุ่งนี้ก็แล้วกัน!”“ได้ ฉันจะตอบพวกเขากลับไปทันที”ฉินอันอันนัดกับหลีเสี่ยวเถียนในช่วงบ่ายหลายปีที่ผ่านมาทั้งสองยังคงติดต่อกัน ถึงแม้จะไม่ได้ติดต่อกันมากนักแต่ความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิมทั้งสองเจอกันที่ร้านอาหารยุโรปหลีเสี่ยวเถียนถือช่อกุหลาบแดงมาด้วย และกอดโผกอดหลังจากได้เจอฉินอันอัน“ฉินอันอัน! ในที่สุดเธอก็ยอมกลับมาสักที! ถ้าเธอไม่กลับมา ฉันจะเลิกคบเธอแล้ว!”สี่ปีที่ผ่านมาพวกเธอเจอกันแค่สองครั้งทั้งสองครั้งคือตอนที่หลีเสี่ยวเถียนไปหาเธอที่ต่างประเทศฉินอันอันหยิบดอกกุหลาบขึ้นมาดมกลิ่นและชม “ดอกไม้ที่เพื่อนรักของฉันให้หอมจังเลย”“ฉินอันอัน ตอน
หลี่เสี่ยวเถียนตกใจและมองเธอครู่หนึ่ง “รายได้ของเธอมันเท่าไหร่กัน?!”ฉินอันอัน “การสร้างบริษัทของพ่อฉันขึ้นมาใหม่เป็นความฝันของฉัน ความฝันเข้าใจไหม? มันอาจจะไม่เป็นจริงก็ได้"หลีเสี่ยวเถียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ต่อหน้าเธอ ฉันกับเฮ่อจุนจือเหมือนคนไร้สาระไปวัน ๆ งั้นฉันต้องจับขาของเธอไว้ให้ดี ๆ...หรือจะให้ฉันหาคู่ให้ดีล่ะ? ฉันมีลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งทั้งหล่อทั้งหนุ่ม ปีนี้เขาอายุแค่สิบเก้าปีเอง ที่สำคัญคือ เขานิสัยดีมาก...”ฉินอันอันกุมขมับ “หลีเสี่ยวเถียน อย่าทำร้ายฉันเลย”“เธอไม่ชอบหญ้าอ่อนเหรอ? หรือเธอชอบหญ้าแก่? แก่ก็ได้อยู่นะ! ปีนี้เทรนเนอร์ฟิตเนสของฉันอายุสี่สิบปี ถึงจะแก่แต่กล้ามของเขาก็ทำฉันน้ำลายไหลทุกครั้งที่เห็น.....เธอจับเขาไว้ ให้เขาทำงานบ้านทุกวัน เช่น ซักผ้า ทำอาหาร อุ่นเตียง....”ฉินอันอันถอนหายใจหลังจากเลิกกับฟู่ซื่อถิงเธอก็ไม่สนใจในผู้ชายเลยไม่ว่าจะเป็นลูกสุนัขหรือหมาป่าตัวใหญ่ เธอก็ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นหลังจากจิบชายามบ่าย ฉินอันอันกับหลีเสี่ยวเถียนไปที่ร้านโฟร์เอสเพื่อซื้อรถยนต์หลีเสี่ยวเถียนบอกให้เธอซื้อเมอร์เซเดสเบนซ์ แต่เธอชอบแลนด์โรเวอร์“คันนี้เป็นย
โจวจื่ออี้หน้าถอดสีทันทีที่เห็นฉินอันอันเขาไม่คิดว่าคนที่ต้องการซื่อตึกฉินกรุ๊ปคือฉินอันอัน!ในใจของฉินอันอันสับสนไปหมดทำไมผู้ช่วยของฟู่ซื่อถิงถึงมาอยู่ที่นี่?หรือว่า...เมื่อผู้อำนวยการโจวเห็นพวกเขาเข้ามา เขาก็ลุกขึ้นและทักทายผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์ทันที “ผู้จัดการจาง คนข้าง ๆ คุณคือใครครับ?”ผู้จัดการจางแนะนำ “โจวจื่ออี้ เป็นผู้ช่วยของฟู่ซื่อถิง ตอนนั้นคุณฟู่สั่งให้ผมจัดการซื้อตึกฉินกรุ๊ปแทนเขาครับ”ผู้อำนวยการโจวพยักหน้าและทักทายโจวจื่ออี้ “สวัสดีครับ ผู้ช่วยโจว”โจวจื่ออี้จับมือกับเขา “สวัสดีครับ”“ผมขอแนะนำสักหน่อยนะครับ! คนที่ต้องการซื้อตึกฉินกรุ๊ปคือฉินอันอัน บุตรสาวคนโตของฉินเจี๋ยซึ่งเป็นอดีตเจ้านายของผม” ผู้อำนวยการโจวแนะนำฉินอันอันให้พวกเขาฟัง “ตอนนั้นฉินกรุ๊ปไม่มีทางเลือกจึงต้องล้มละลาย แต่ตอนนี้คุณฉินหาเงินได้จากต่างประเทศ และอยากเอาเงินส่วนนั้นมาซื้อตึกคืนและสร้างฉินกรุ๊ปขึ้นมาใหม่”ฉินอันอันรู้สึกว่าสภาพแวดล้อมโดยรอบเงียบอย่างน่าประหลาดใจผู้อำนวยการโจวพูดอะไร เธอก็ฟังไม่เข้าหูเธอรู้สึกเพียงการถูกเสียดสี!‘ทำไมโชคชะตาถึงเล่นตลกกับเธอแบบนี้!’‘ถ้าฟู่ซื่อ