Rocasander Grand Hotel
“มะลิ! อึดอัดไหม?” สิงโตหื่นเอ่ยหลังจากที่ถลกเสื้อยืดของสาวเจ้าขึ้นมาจนถึงหน้าอก
“อื้อออ”
“งั้นถอดนะ!” คนหื่นถามก่อน ราวกับคนที่มีมารยาทนักหนา
“อื้อ!” มะลิฉัตรครางอย่างขัดใจที่ถูกก่อกวนการนอน
“หึ! ฉันขอแล้วนะ!” เลโอนาดท์ยิ้ม ก่อนจะดึงเสื้อยืดออกจากตัวของสาวเจ้าอย่างไม่รอช้า
“โอ้พระเจ้า!” ชายหนุ่มจ้องมองหน้าอกที่โอบอุ้มด้วยบราลายลูกไม้สีขาวอย่างรู้สึกหิวกระหาย
“ถะ... ถอดกางเกงต่อเลยนะ” คนถามเริ่มมือไม้สั่นขึ้นมานิดๆ
“อื้ออออ” สาวเจ้าครางพร้อมกับดึงหมอนมากอดอย่างรู้สึกหนาว เลโอนาดท์รีบดึงกางเกงเลกกิ้งสีดำออกจากเรียวขาเล็กคู่สวยทันที
“โอ้พระเจ้า! เซ็กซี่เป็นบ้า” ชายหนุ่มจ้องมองเรือนร่างบอบบาง ที่เหลือแต่บราและแพนตี้ตัวน้อยอย่างเคลิบเคลิ้ม ก่อนจะก้มลงซุกไซ้ต้นขางามอย่างอดใจไม่ไหว
“อื้อ...” คนที่หลับครางรับสัมผัสอย่างไม่รู้สึกตัว
เลโอนาดท์จูบลงบนเนินเนื้อที่อวบนูนของสาวเจ้า ผ่านผ้าแพรบางๆ จากนั้นก็ใช้มือเกี่ยวขอบแพนตี้และดึงออกให้พ้นทาง
“อื้อ อย่ากวนใจได้ไหม! คนจะนอน” คนที่กำล
“ฮือๆ ละ... แล้วคุณเอาไอ้ตรงนั้นใส่เข้ามาทำไมล่ะ ฮือๆ” สาวเจ้าที่ไม่เคยมาก่อน ตัดพ้อด้วยน้ำตานองหน้า“ให้ตายเถอะ! มันเป็นเรื่องที่ชายหญิงต้องทำกัน มันจะเจ็บแค่ครั้งแรกเท่านั้น ผมสัญญา” เลโอนาดท์ไม่เข้าใจว่าตัวเองทำไมต้องมาเสียเวลาอธิบายในวินาทีหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ด้วย“ฉะ... ฉัน ฉันอาจจะตาย ฮือๆๆ”“ผมไม่ให้คุณตายหรอก แต่ผมจะทำให้คุณมีความสุขต่างหาก ที่รัก” เขาเอ่ยเสียงอ่อน พร้อมกับก้มลงจูบซับน้ำตาให้สาวอย่างอ่อนโยน“ฉันไม่ อะ... อื้อ” เธอกำลังจะเถียงต่อ แต่ก็ถูกอีกฝ่ายจูบซะก่อน เลโอนาดท์ข่มอารมณ์ดิบเถื่อนที่จะไม่จับเอวบางรั้งเข้าหาตัว แต่เดินหน้าเริ่มเล้าโลมสาวเจ้าต่อ เพราะขนาดที่แตกต่างกันทำให้เขาหวั่นใจว่าหากทำรุนแรงไป เธออาจจะขยาดและหวาดกลัวกับการร่วมรักกับตน“ผมอยากจะกลืนกินคุณไปทั้งตัวเลย รู้ไหม อื้อ...” สิงโตกระซิบ ที่หูของสาวเจ้าอย่างหลงใหล ทั้งกลิ่นกายสาวที่หอมละมุน ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เป็นเธอ มันทำให้เขาแทบคลั่ง“อ๊ะ... กรี๊ดดดดด” มะลิฉัตรกรีดร้องปานจะขาดใจเมื่ออีกฝ่ายดันความใหญ่โตเข้ามาอีกครั้ง“ชู่ว์ๆ ผมร
“ผู้หญิงของนาย!” โดมินิกตาโตกับคำพูดของเพื่อนรัก‘ให้ตายสิ! มันบินมาถึงก่อนหน้าเขาแค่สิบชั่วโมงเองนะ!’“ใช่!” เลโอนาดท์ตอบรับ พร้อมกับดึงผ้าขึ้นมาคลุมแผ่นหลังบางให้มิดชิด“นายรู้ใช่ไหม! ว่านั่นหมายถึงอะไร” โดมินิกถามย้ำ“รู้สิ! ฉันรู้ดี” เลโอนาดท์ตอบเสียงหนักแน่นอย่างไม่ลังเล“โอเค! แล้วนายจะเข้าประชุมไหม?”“ฉัน... ฉันอยากอยู่กับเธอ” เลโอนาดท์เอ่ยตามตรง เพราะตอนนี้เขาไม่อยากจะห่างเธอไปไหนแม้แต่วินาทีเดียว!“โอ้พระเจ้า! นาย... นายมันบ้าไปแล้วแน่ๆ” โดมินิกเอ่ยก่อนจะเดินออกห้องไปอย่างหัวเสียปัง!เสียงกระแทกประตูห้องทำให้ร่างบางสะดุ้งสุดตัวทันที ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนระหว่างเธอกับเขาฉายชัดขึ้นมาอีกครั้ง“ตื่นแล้วใช่ไหมมะลิ! ขอโทษที่เพื่อนฉันเสียงดังใส่”“มะ... เมื่อคืนเรา” คนที่เพิ่งตื่นพยายามลำดับเหตุการณ์“เธอเป็นของฉันแล้ว” ชายหนุ่มยอมรับอย่างแมนๆ“ฮึก! ก็ไหนสัญญาว่า...” มะลิฉัตรเอ่ยเสียงสั่นๆ น้ำตาคลอหน่วยขึ้นมาทันใด“ใช่! ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธอไปตลอดไง” เลโอนาดท์เอ่ยพร้อมกับดึงมือบางขึ้นม
“มะลิต้องเตรียมตัวไปชลบุรีค่ะ” เธอบอกก่อนจะตักซุปครีมเห็ดขึ้นมาทาน“ไปทำไม?” เลโอนาดท์ถามต่ออย่างไม่หายคาใจ“กลับบ้านค่ะ!”“เธอมีคนรักรออยู่ที่นั่นเหรอ?” ชายหนุ่มวางส้อมกับมีดหั่นสเต๊กลง แล้วยกมือขึ้นกอดอกด้วยสีหน้าหงุดหงิด“ถ้าคุณหมายถึงคนรักที่เป็นแฟน ไม่มีค่ะ แต่ถ้าเป็นคนรักอย่างเช่นครอบครัว น้องๆ มีค่ะ มีเยอะเลย” มะลิฉัตรยิ้มบางๆ กับท่าทางที่เหมือนคิงคองโมโหของอีกฝ่าย“กี่คน”“หกคนค่ะ แต่พวกเราไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน แต่ก็รักกันมากค่ะ” เธอบอกพลางนึกไปถึงน้องๆ และจันทร์ฉายด้วยสีหน้ายิ้มๆ“หมายความว่า...”“เอ่อ... มะลิเป็นเด็กกำพร้า ที่โตมาในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ผิดไปจากก่อนหน้าลิบลับ“ฉันขอโทษ” เลโอนาดท์ใจหายแวบกับน้ำเสียงที่ฟังดูขมขื่นนั้น“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ มะลิไม่ได้อาย!”คนที่บอกไม่อาย แต่กลับน้ำตาคลอหน่วยขึ้นมาทั้งสองข้าง เธอรู้สึกโหยหาความอบอุ่น เวลาเห็นเพื่อนคนอื่นๆ มีพ่อแม่อยู่พร้อมหน้า และมันเจ็บทุกๆ ครั้ง ที่พอทุกคนรู้ว่าเธอมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ก็ไม่มีใ
ยี่สิบนาทีต่อมา... เลโอนาดท์ใส่เสื้อคลุมเดินออกมาจากห้องน้ำ ตรงมายังเตียงนอน ก็เห็นสาวเจ้านอนคลุมโปงอยู่บนเตียง จึงเดินเลี่ยงออกไปยังบาร์เครื่องดื่มด้านนอก จากนั้นก็ถือบรั่นดีกับแก้วเดินเข้าไปยังห้องทำงานเขานั่งดื่มอยู่ร่วมสองชั่วโมง มันเป็นสองชั่วโมงที่มีแต่ภาพของเธอจ้องมองเขาผ่านม่านน้ำตา ตอนที่โถมเข้าใส่ มันทำให้เขาเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นในใจแต่ขณะเดียวกันก็หงุดหงิดที่เธอกำลังเรียกร้องความสัมพันธ์ที่เขาไม่อาจให้ได้ แม้ว่าเขาอยากจะเก็บเธอเอาไว้เป็นสมบัติส่วนตัวที่มีแค่เขาเท่านั้นที่แตะต้องได้ จึงยื่นตำแหน่งผู้หญิงของเขาให้ แต่เธอกลับไม่ต้องการ ทั้งๆ ที่เขาเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ‘พระเจ้า! เธอก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ทำไมถึงดื้อนักวะ!'17: 30 น. เจซีที่ประชุมกลับมาถึง ก็ตรงมารายงานผู้เป็นนายถึงรายละเอียดต่างๆ ของงาน ร่างสูงเดินตรงไปยังห้องนอน เพราะเห็นประตูเปิดทิ้งไว้ พอมองไปบนเตียงก็นึกว่าผู้เป็นนายนอนอยู่ จึงเข้าไปสะกิดเรียก!“บอสครับ! บอส!”“...” ไม่มีเสียงตอบรับ เจซีจึงกลั้นใจดึงผ้าห่มออก ก็พบเพียงหมอนหนุนกับหมอนข้างวางเรีย
“ไม่! ฉันจะไปกับนาย” โดมินิกบอกอย่างไม่ยอม“ซาเก้! ฉันขอเคลียร์กับเมียแบบส่วนตัวก่อนได้ไหม! ยังไงนายก็จะได้เจอเธอแน่นอน แต่เรื่องที่ดินที่เชียงใหม่ ถ้านายไปช้า อาจจะพลาดโอกาสได้นะเพื่อน!” เลโอนาดท์เตือนสติอีกฝ่ายกลับ“ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจไปกว่าเรื่องที่นายจะเอาเมียหรอก ลีโอ” โดมินิกบอกพร้อมกับยักไหล่อย่างไม่แคร์“ซาเก้ ได้โปรด... ฉันอยากคุยกับเธอก่อน โดยที่ไม่ เอ่อ...”“ก็ได้ๆ นายไปง้อเมีย ส่วนฉันไปดูที่ที่เชียงใหม่พรุ่งนี้ พอใจหรือยัง!” คนที่ตื๊อมานานบอกอย่างรำคาญ เพราะที่ดินที่เชียงใหม่มีคนจ้องจะกว้านซื้อแข่งอยู่สองสามราย“เยี่ยม งั้นฉันไปก่อนนะ!”เลโอนาดท์ออกเดินไปข้างนอก ตรงไปยังลิฟต์ที่ใช้เป็นเส้นทางลับลงไปยังที่เก็บรถส่วนตัว“อืม!” โดมินิกครางตอบในลำคอ ก่อนจะเดินตามไปติดๆ“นี่นายจะตามฉันมาทำไมวะ” คนจะไปตามเมียหันมาถามอย่างมึนงง“ฉันก็จะออกไปข้างนอกไง” โดมินิกตอบกวนๆ ก่อนจะหันไปกดลิฟต์ลงไปยังชั้นล่าง“นายจะไปไหน?” เลโอนาดท์ถามอย่างเริ่มไม่มั่นใจ กลัวว่าอีกฝ่ายจะแอบขับรถตาม“ไปหาผู้หญิงคลายเครียด ผู้ห
สองชั่วโมงต่อมา... มะลิฉัตรขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ก็เห็นรถสปอร์ตออดี้สีดำจอดอยู่ เธอรู้สึกใจสั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก‘คงไม่ใช่รถไอ้บ้านั่นหรอกนะ!’ สาวเจ้าส่งสายตามองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง“ว้าว! รถนี่ท่าจะแพงนะพี่ สงสัยจะมีผู้ใจบุญมาบริจาคเงินช่วยแน่ๆ” หนึ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นขณะจ้องมองรถหรูด้วยสายตาแวววาว“สาธุ! ขออย่าให้เป็นอีตาสิงโตเลย” มะลิฉัตรพึมพำ“สิงโตไหนเหรอพี่?” เด็กหนุ่มถามกลับอย่างสงสัย“ไม่มีอะไรหรอก เราเอาของไปเก็บที่ห้องครัวกันเถอะ”“ครับๆ” หนึ่งเอ่ย ก่อนจะเดินตามพี่สาวตรงไปห้องครัว“ว้าว! ของเยอะเลยพี่มะลิ” แนนที่ยืนล้างผักหันมาเอ่ยด้วยสีหน้าดีใจ ที่เห็นของทะเลวางบนโต๊ะเต็มไปหมด“จ้ะ แล้วน้องๆ ไปอาบน้ำกันใช่ไหม” มะลิฉัตรเงยหน้าขึ้นถามน้องสาววัย 9 ขวบ“จ้ะพี่” แนนตอบก่อนจะยกผักที่ล้างเสร็จไปวางให้สะเด็ดน้ำ“มีแขกมาเหรอ” เธอหันไปถามน้องสาว“ใช่จ้ะพี่! ผู้ชายตัวโตๆ ผมยาว หน้าตาดุๆ หน่อย” แนนตอบก่อนจะเดินมาเปิดดูของทะเลบนโต๊ะ“แนน! เดี๋ยวออกไปช่วยพี่หิ้วของ ข้างนอกยังมีอีก
“ฮึก! ถ้าฉันกลับไปคุณห้ามทำอะไรฉัน ห้ามเข้าใกล้ ฮึก! ฉันแค่อยากทำงานของฉัน ฉันไม่อยากเป็นผู้หญิงของคุณ” มะลิฉัตรต่อรอง เพราะเธอคงหางานใหม่ที่รายได้ดีแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ถ้าหากอีกฝ่ายรับปากว่าจะไม่ยุ่งกับเธออีก เธอก็ยังอยากจะทำงานที่นั่นเช่นเดิม“มะลิ! เธอเป็นเมียฉันนะ” เลโอนาดท์เอ่ยอย่างไม่เชื่อหูกับคำพูดเมื่อครู่“งั้นฉันก็ไม่กลับ ให้ตายยังไงฉันก็ไม่กลับ ฮึก!” เธอบอกพร้อมกับตั้งท่าจะร้องไห้อีกครั้ง“โอเคๆ งั้นกลับด้วยกันพรุ่งนี้”“ฉันจะกลับเอง คุณกลับไปได้เลย!”“ไม่มีทาง! ฉันมาถึงนี่แล้ว พรุ่งนี้ตอนสายๆ ฉันจะเข้าไปรับเธอกลับพร้อมกัน”“ไม่! ฉันจะนั่งรถกลับเอง!”“โอเค สิบโมงฉันเข้าไปรับนะ เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ”“นี่คุณพูดไม่รู้เรื่องหรือไงฮะ”“เธอต่างหากที่พูดไม่รู้เรื่อง! งั้นกลับกรุงเทพฯ ด้วยกันตอนนี้เลยไหม!”“ไม่! พรุ่งนี้สิบโมงเช้า ฉันจะนั่งรถมาหาคุณที่นี่!”“ถ้าเธอสายเกินห้านาที ฉันจะเข้าไปบอกเรื่องเราให้แม่เธอรู้”“ถ้าคุณทำแบบนั้น...ฉันจะหนีคุณไปให้ไกลเลยคอยดู”“ฉันถนัดเรื่องตามหาคนหาย เธอ
“ขอบคุณนะคะ”“จริงๆ ฉันมีโครงการจะสร้างที่นี่ใหม่ด้วยละ” เขาหันไปมองใบหน้าจิ้มลิ้มก่อนจะพูดต่อ “ฉันจะให้ทุนกับน้องๆ เธอ และให้งานทำ หลังจากที่พวกเขาเรียนจบ ฉันจะบริจาคเงินให้คุณจันทร์ฉายสิบล้าน ถ้าหากเธอยอมเป็นผู้หญิงของฉัน”“คุณ!” มะลิฉัตรอุทานอย่างไม่เชื่อหูว่าอีกฝ่ายจะกล้าพูดความต้องการออกมาตรงๆ“ฉันรู้ว่ามันฟังดูงี่เง่าและเห็นแก่ตัว เธออาจจะเกลียดฉัน แต่ตอนนี้ฉันไม่มีทางเลือก ฉันแค่อยากให้เธออยู่กับฉันทุกๆ วัน ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำแบบเมื่อตอนสายกับเธออีก” เลโอนาดท์บอกด้วยน้ำเสียงจริงจังมะลิฉัตรนิ่งเงียบไปทันใด คำถามมากมายวิ่งเข้ามาในหัวไม่หยุดหย่อน กับคำพูดที่เหมือนคนเห็นแก่ตัว หรือแค่... คนที่ไม่มีทางเลือก“เธอยังไม่ต้องให้คำตอบฉันวันนี้หรอก ฉันยังอยู่ที่ไทยอีกอาทิตย์หนึ่ง! นั่นแปลว่าเธอมีเวลาคิดทบทวนอีกหนึ่งอาทิตย์”“คุณลีโอคะ ขอบคุณสำหรับทุกๆ อย่างค่ะ เด็กๆ ดีใจกันใหญ่เลย” จันทร์ฉายเอ่ยกับชายหนุ่มที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กับบุตรสาวอย่างซาบซึ้ง“ผมยินดีครับ” เลโอนาดท์หันไปยิ้มกว้างให้คนที่ยืนน้ำตาคลออยู่ใกล้ๆ ด้วยความรู้สึกละอายนิดๆ เพราะ