“ฮึก! ถ้าฉันกลับไปคุณห้ามทำอะไรฉัน ห้ามเข้าใกล้ ฮึก! ฉันแค่อยากทำงานของฉัน ฉันไม่อยากเป็นผู้หญิงของคุณ” มะลิฉัตรต่อรอง เพราะเธอคงหางานใหม่ที่รายได้ดีแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ถ้าหากอีกฝ่ายรับปากว่าจะไม่ยุ่งกับเธออีก เธอก็ยังอยากจะทำงานที่นั่นเช่นเดิม
“มะลิ! เธอเป็นเมียฉันนะ” เลโอนาดท์เอ่ยอย่างไม่เชื่อหูกับคำพูดเมื่อครู่
“งั้นฉันก็ไม่กลับ ให้ตายยังไงฉันก็ไม่กลับ ฮึก!” เธอบอกพร้อมกับตั้งท่าจะร้องไห้อีกครั้ง
“โอเคๆ งั้นกลับด้วยกันพรุ่งนี้”
“ฉันจะกลับเอง คุณกลับไปได้เลย!”
“ไม่มีทาง! ฉันมาถึงนี่แล้ว พรุ่งนี้ตอนสายๆ ฉันจะเข้าไปรับเธอกลับพร้อมกัน”
“ไม่! ฉันจะนั่งรถกลับเอง!”
“โอเค สิบโมงฉันเข้าไปรับนะ เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ”
“นี่คุณพูดไม่รู้เรื่องหรือไงฮะ”
“เธอต่างหากที่พูดไม่รู้เรื่อง! งั้นกลับกรุงเทพฯ ด้วยกันตอนนี้เลยไหม!”
“ไม่! พรุ่งนี้สิบโมงเช้า ฉันจะนั่งรถมาหาคุณที่นี่!”
“ถ้าเธอสายเกินห้านาที ฉันจะเข้าไปบอกเรื่องเราให้แม่เธอรู้”
“ถ้าคุณทำแบบนั้น...ฉันจะหนีคุณไปให้ไกลเลยคอยดู”
“ฉันถนัดเรื่องตามหาคนหาย เธอ
“ขอบคุณนะคะ”“จริงๆ ฉันมีโครงการจะสร้างที่นี่ใหม่ด้วยละ” เขาหันไปมองใบหน้าจิ้มลิ้มก่อนจะพูดต่อ “ฉันจะให้ทุนกับน้องๆ เธอ และให้งานทำ หลังจากที่พวกเขาเรียนจบ ฉันจะบริจาคเงินให้คุณจันทร์ฉายสิบล้าน ถ้าหากเธอยอมเป็นผู้หญิงของฉัน”“คุณ!” มะลิฉัตรอุทานอย่างไม่เชื่อหูว่าอีกฝ่ายจะกล้าพูดความต้องการออกมาตรงๆ“ฉันรู้ว่ามันฟังดูงี่เง่าและเห็นแก่ตัว เธออาจจะเกลียดฉัน แต่ตอนนี้ฉันไม่มีทางเลือก ฉันแค่อยากให้เธออยู่กับฉันทุกๆ วัน ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำแบบเมื่อตอนสายกับเธออีก” เลโอนาดท์บอกด้วยน้ำเสียงจริงจังมะลิฉัตรนิ่งเงียบไปทันใด คำถามมากมายวิ่งเข้ามาในหัวไม่หยุดหย่อน กับคำพูดที่เหมือนคนเห็นแก่ตัว หรือแค่... คนที่ไม่มีทางเลือก“เธอยังไม่ต้องให้คำตอบฉันวันนี้หรอก ฉันยังอยู่ที่ไทยอีกอาทิตย์หนึ่ง! นั่นแปลว่าเธอมีเวลาคิดทบทวนอีกหนึ่งอาทิตย์”“คุณลีโอคะ ขอบคุณสำหรับทุกๆ อย่างค่ะ เด็กๆ ดีใจกันใหญ่เลย” จันทร์ฉายเอ่ยกับชายหนุ่มที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กับบุตรสาวอย่างซาบซึ้ง“ผมยินดีครับ” เลโอนาดท์หันไปยิ้มกว้างให้คนที่ยืนน้ำตาคลออยู่ใกล้ๆ ด้วยความรู้สึกละอายนิดๆ เพราะ
“คุณลีโอมาแล้วลูก เอาไว้ค่อยโทร. คุยกันนะ”“ค่ะ” มะลิฉัตรเอ่ยรับพลางหันไปมองคนที่เดินลงมาจากรถอย่างขุ่นเคือง ‘มิน่า! เมื่อคืนแม่ถึงไม่ได้พูดอะไร ที่แท้ก็คุยกับอีตานี่แล้ว’“สวัสดีครับคุณจันทร์ฉาย” เลโอนาดท์ยกมือไหว้หญิงวัยห้าสิบอย่างนอบน้อม“สวัสดีค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ” จันทร์ฉายเอ่ยพร้อมกับยิ้มบางๆ ให้กับชายหนุ่ม“ครับ! ไปขึ้นรถกันเถอะมะลิ” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมดึงกระเป๋าในมือของสาวเจ้าเอาไปเก็บที่รถ“มะลิไปก่อนนะคะ” มะลิฉัตรเอ่ยก่อนเดินเข้าไปกอดมารดาแล้วเดินตามอีกฝ่ายไปขึ้นรถ“สวัสดีครับ” เลโอนาดท์ยกมือไหว้อีกครั้ง ก่อนจะขับรถพาสาวเจ้ากลับเข้ากรุงเทพฯ เพราะต้องรีบไปเข้าประชุมด่วนรอบบ่าย“มีอะไรจะถามฉันไหม?”“คุณคุยอะไรกับแม่ของฉันเมื่อคืน” เธอยิงคำถามทันที“อ๋อ! นึกว่าเรื่องอะไร?” เขาบอกพลางทำท่าขำๆ“นี่ฉันจริงจังนะ” มะลิฉัตรต่อว่าอย่างเคืองๆ“ฉันก็จริงจังเหมือนกัน ท่านไม่ได้บอกเธอเหรอ?” เขาหันกลับมาถามทันใด“ถ้าบอกแล้วฉันจะถามคุณเหรอ!” เธอบอกด้วยน้ำเสียงตึงๆ“ฉันบอกท่านว่าชอบเธอ” เขาบอกก่อนจะป
“ปล่อยแขนฉันนะ! ไอ้บ้ากาม!” หญิงสาวปัดมือหนาที่กำลังเอื้อมมาจับออกทันใด“เธอน่ะสิบ้ากาม! ฉันจะชวนเธอไปหาอะไรทาน ฉันหิว!” คนที่ถูกทำท่ารังเกียจใส่ บอกด้วยสีหน้าตึงๆ ‘คำก็หื่น สองคำก็บ้ากาม เดี๋ยวก็จับกดบนเตียงทั้งวันทั้งคืนซะหรอก!’“อะ... อ้าว ฉะ... ฉันนึกว่าคุณจะ... จะ...” มะลิฉัตรรู้สึกอายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เมื่อถูกต่อว่า ‘ก็ชอบพูดจาทะลึ่งๆ อยู่ตลอด ใครจะคิดว่าหิวข้าวล่ะ’“จะอะไร?” เลโอนาดท์ถามกลับ พร้อมกับดึงแขนของคนที่เพิ่งออกจากรถเข้ามาชิดตัว“ปล่อยนะ ฉันจะเดินเอง!”“ไม่! เธอกลัวใครจะเห็นเหรอ?”“โอ๊ย! ก็ได้ๆ” มะลิฉัตรบอกอย่างขี้เกียจจะทะเลาะด้วย‘ชอบขัดใจอยู่เรื่อย!’ เลโอนาดท์มองค้อน ก่อนจะบอก“เดี๋ยวไปเปิดห้องก่อนแล้วค่อยสั่งอาหารขึ้นไปทาน”“นี่คุณ!” มะลิฉัตรเรียกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ‘หึ! เปิดห้องทานข้าว! มุกหลอกควายแบบนี้ เอาไปใช้กับคนอื่นเถอะ’“เรียกเบาๆ สิ! เธอจะเสียงดังไปทำไม คนมองกันใหญ่แล้ว” เขาบอกพลางหันไปมองรอบกายอย่างรู้สึกอาย ที่เห็นใครต่อใครพากันหันมามองอย่างสนใจ“คุณทานเสร็จแล้วออกมานะ ฉัน
(ลีโอ) เลโอนาดท์ โรคาซานเดอร์ หนุ่มหล่อเลือดผสมอิตาลี ตุรกี รัสเซีย และไทย เขาเป็นชายหนุ่มที่ทรงอิทธิพลอันดับต้นๆ ของโลก ที่ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งประธานใหญ่ ผู้กุมบังเหียนของโรคาซานเดอร์ คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป ลอนดอน ด้วยวัยเพียง 36 ปี สืบทอดตำแหน่งจากผู้เป็นบิดา ‘เอเดน’ ที่วางมือแล้วไปใช้ชีวิตอยู่อิตาลีกับภรรยา ‘เมลิซ่า’ (มารดาของเลโอนาดท์)เขาถูกจัดอันดับให้เป็นหนุ่มฮ็อตที่หล่อรวยแห่งปี ไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหน ก็มีสาวข้างกายไม่ว่างเว้น ทั้งดารานางแบบที่ผลัดเปลี่ยนเวียนหน้ากันมาเป็นของเล่นชั่วคราวไม่หยุดหย่อน แต่เลโอนาดท์ก็ไม่เคยให้สาวคนไหนอยู่เคียงข้างกายข้ามคืนเลยสักครั้ง! เพราะสำหรับเขาแล้ว พวกเธอไม่มีค่าพอที่จะตื่นขึ้นมาเพื่อมองแสงอาทิตย์ของวันใหม่ พร้อมกันกับเขา!เธอก็แค่ผู้หญิงที่ต้อยต่ำ! มิอาจเทียบกับความสูงศักดิ์ ในชาติตระกูล และความร่ำรวยของเขาได้แม้แต่นิด แต่ไยถึงได้ปฏิเสธที่จะเป็นของเขา ยิ่งเธอดิ้นหนีและหวาดกลัว มันก็ยิ่งทำให้เขาอยากจะขย้ำและกลืนกิน กลิ่นสาปของเด็กสาว...ที่บริสุทธิ์ มันช่างหอมหวานและเย้ายวนใจ จนทำให้เขาแทบคลั่ง แล้วแบบนี้จะให้เขาปล่อยเธอไปอย่างนั้นหรือ?
“โธ่! นึกว่าจะแน่” สายไหมยิ้มเหยียดๆ ใส่สองสาว ทั้งที่ในใจก็กลัวว่าพิมาลาจะเอากาแฟสาดใส่ตนกับเพื่อน“แกอยู่ยากแล้วนังมะลิ ระวังตัวให้ดีๆ” กุ๊กไก่บอกพร้อมกับชี้หน้าอีกฝ่ายอย่างคาดโทษ“เป็นแค่เด็กกำพร้าน่ะ! หัดเจียมตัวเอาไว้ซะบ้างสิ คุณคเชนทร์เขาคงไม่บ้าเอาเธอไปเป็นคุณนายผู้กำกับฯ หรอก หึ!”สายไหมรีบดึงแขนของเพื่อนสาวเดินออกไป เพราะใกล้เวลาที่หัวหน้าแผนกจะมาตรวจงาน“เด็กกำพร้าแล้วมันหนักส่วนไหนไม่ทราบฮะ! อีไหมขัดฟัน!” พิมาลาตะโกนตามหลังด้วยสีหน้าเดือดดาล“ช่างเถอะพิ!” มะลิฉัตรปราม กลัวเสียงจะเล็ดลอดออกไปด้านนอกให้คนอื่นได้ยิน“พวกมันทำแบบนี้มากี่ครั้งแล้วฮะมะลิ” พิมาลาหันมาถามคนข้างๆ ด้วยอารมณ์ขุ่นมัวมะลิฉัตรถอนหายใจอย่างเพลียๆ ก่อนจะตอบ “ก็หลายครั้งอยู่ เราอยากจะลุกขึ้นสู้นะ อยากลองต่อยปากเสียๆ นั่นดูสักครั้ง! แต่พอนึกไปถึงหน้าน้องกับแม่แล้ว เราทำไม่ได้ เพราะที่นี่ให้เงินเดือนเยอะกว่าที่อื่นแถมสวัสดิการต่างๆ ก็ดี อะไรที่ทนได้ก็ทนไปก่อน”“แต่เธอก็รู้ว่ามันไม่จบอยู่แค่นี้แน่ๆ”“เอาน่า! ถ้าวันไหนที่มันไม่ไหวแล้วจริงๆ เราจะสู้ให้สุดใจขาดดิ้นไปเลยดีมะ”“เฮ้อ... ก็เป็นซะแบบนี้!” พิมาลาบอกก
“เดี๋ยวนะ! ใครบอกเธอว่าห้องสแกนนิ้วไม่มีกล้องวงจรปิด”สิรันถามพร้อมกับมองหน้าสองสาวนิ่งผลัวะ!จันจิราที่ผลักประตูห้องเข้ามาเอ่ยถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ หลังจากที่ทราบว่าหลานสาวของตนถูกเพื่อนในแผนกเดียวกันสาดกาแฟใส่“เธอสองคนใช่ไหมที่ทำหลานฉัน”“ค่ะ! หนูเป็นคนเอากาแฟสาดใส่กุ๊กเอง” มะลิฉัตรยอมรับ“ไล่ออก! ให้สองคนนี้ออกจากงานเลยนะคุณสิรัน” จันจิราบอกเสียงดังอย่างเอาเรื่อง“เอ่อ... สิเข้าใจนะคะว่ากุ๊กเป็นหลานของคุณจิรา แต่เราควรให้ความเป็นธรรมกับทุกคนค่ะ” สิรันบอกอีกฝ่ายอย่างใจเย็น“หลานฉันโดนขนาดนี้ ฉันจะเอาเรื่องเด็กนั่นให้ถึงที่สุด” จันจิราบอกเสียงดังจนเล็ดลอดออกไปด้านนอกห้อง“แจ้งความเลยไหมคะ? พอดีหนูมีเบอร์ผู้กำกับฯ อยู่ เดี๋ยวโทร.ให้เลยค่ะ” พิมาลาบอกพลางทำท่าจะล้วงมือถือออกจากกระเป๋าเสื้อ“พิมาลา!” สิรันเอ่ยปรามก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปกันใหญ่“ขอโทษค่ะหัวหน้า หนูแค่ทนฟังคนที่ตัดสินคนอื่นจากความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ คุณเห็นว่าหลานสาวของตัวเองเปียกไปด้วยน้ำกาแฟ แล้วคุณก็โกรธและตัดสินว่าพวกหนูผิด ประทานโทษนะคะคุณมองเห็นไหม? ว่าเพื่อนของหนูก็เปียกชุ่มไปด้วยน้ำแดงตั้งแต่หัวจดเท้าเหมือนกัน”
“มีเรื่องอะไรอีกหรือคะ” มะลิฉัตรถามพลางมองดูรูปของชายหญิงคู่หนึ่ง ที่ยังคงดูสง่างามและภูมิฐาน แม้ว่าอายุน่าจะล่วงเลยเข้าวัยห้าหรือหกสิบไปแล้ว ‘นี่คงเป็นรูปเจ้าของโรงแรมสินะ!’“ผมทราบเรื่องที่เกิดขึ้นคร่าวๆ จากคุณสิรัน และก็เปิดดูกล้องมาแล้ว ผมไม่อยากให้พนักงานมีปัญหากันในที่ทำงาน เพราะมันจะทำให้งานพังและเดือดร้อนเพื่อนร่วมงานที่ออกเวรไปแล้ว ต้องกลับเข้ามาทำงานต่อแทนพวกคุณ ฉะนั้นเพื่อตัดปัญหาทุกอย่าง ผมจะให้คุณทั้งสองคนมาเป็นผู้ช่วยเลขาฯ ที่หน้าห้องแทน พวกคุณโอเคไหม?”ผู้จัดการหนุ่มยื่นข้อเสนอ ตอนนี้พนักงานทั้งบริษัทกำลังลุ้นผลว่าการที่จันจิราออกโรงปกป้องหลานสาว และฉีกหน้าสิรันที่ห้องทำงาน จนอีกฝ่ายทนไม่ไหวขอยื่นใบลาออกนั้น เขาจะจัดการกับปัญหานี้ยังไง“เอ่อ... แต่คุณจิราไล่พวกเราออกแล้วนะคะ” พิมาลาท้วงด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ“ผมเป็นผู้จัดการ คำสั่งของผมถือเป็นที่สุด โอเค้!” ธีรติยกยิ้มนิดเมื่อจ้องมองสาวแกร่ง ที่คอยปกป้องเพื่อนในเทปบันทึกภาพที่สิรันส่งมาให้อย่างขำๆ ‘ท่าทางตอนนั้นกับตอนนี้ต่างกันลิบเลยนะพิมาลา!’“อะ... โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะที่ยังให้เราสองคนทำงานต่อ” พิมาลายิ้มกว้างอย่างดีใจ“เ
Rocasander Grand Hotelมะลิฉัตรวิ่งเข้าประตูด้านหลังของโรงแรมดั่งเช่นทุกครั้ง ก่อนจะตรงไปที่ลิฟต์และกดขึ้นไปยังชั้นบนสุดอย่างเร่งรีบติ๊ง!ทันทีที่มาถึงยังสถานที่ต้องห้าม เธอก็ตรงไปยังประตูบานใหญ่ พร้อมกับกดรหัสที่ธาริณีบอกลงยังแป้นพิมพ์ และเพียงเสี้ยวนาทีที่ประตูบานใหญ่เปิดออก เธอถึงกับอึ้งและตกตะลึงในความงดงามภายในห้อง ที่ตกแต่งด้วยสไตล์คลาสสิก โดยผสมผสานความหรูหราเอาไว้ได้อย่างลงตัว ในแบบที่ไม่เคยพบเคยเห็นที่ไหนมาก่อน“ว้าว! อย่างกับสวรรค์แน่ะ!” เมดสาวอุทานออกมาราวกับคนกำลังละเมอ ขณะที่เดินไปยังห้องนอนใหญ่ทางด้านปีกขวาตามที่หัวหน้าแผนกได้บอกเอาไว้ ด้วยหัวใจสั่นๆ“แม่เจ้า! เตียงใหญ่ขนาดนี้ คนหรือว่ายักษ์นอนกันนะ!” เธอเอ่ยเสียงดังอย่างตื่นเต้น ก่อนจะหลับตาแล้วทิ้งตัวลงบนเตียงกว้าง อย่างหลงลืมตัวไปชั่วขณะ“กรี๊ดดดด” หญิงสาวถูไถใบหน้าไปมากับที่นอนแสนนุ่ม ก่อนจะหัวเราะคิกคักออกมาอย่างชอบใจ กับความยืดหยุ่นที่ทำให้ตัวของเธอเด้งไปมาเหมือนได้เล่นสไลเดอร์ของเด็กๆเอี๊ยดดดดดเสียงเบรกรถที่ดังอยู่ด้านหน้าของโรงแรม ทำให้พนักงานต่างพากันหันมามองตามเสียงกันเป็นแถว“เอารถไปเก็บเร็ว!” ธีรติบอกก่อนจะ