“คุณลีโอมาแล้วลูก เอาไว้ค่อยโทร. คุยกันนะ”
“ค่ะ” มะลิฉัตรเอ่ยรับพลางหันไปมองคนที่เดินลงมาจากรถอย่างขุ่นเคือง ‘มิน่า! เมื่อคืนแม่ถึงไม่ได้พูดอะไร ที่แท้ก็คุยกับอีตานี่แล้ว’
“สวัสดีครับคุณจันทร์ฉาย” เลโอนาดท์ยกมือไหว้หญิงวัยห้าสิบอย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ” จันทร์ฉายเอ่ยพร้อมกับยิ้มบางๆ ให้กับชายหนุ่ม
“ครับ! ไปขึ้นรถกันเถอะมะลิ” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมดึงกระเป๋าในมือของสาวเจ้าเอาไปเก็บที่รถ
“มะลิไปก่อนนะคะ” มะลิฉัตรเอ่ยก่อนเดินเข้าไปกอดมารดาแล้วเดินตามอีกฝ่ายไปขึ้นรถ
“สวัสดีครับ” เลโอนาดท์ยกมือไหว้อีกครั้ง ก่อนจะขับรถพาสาวเจ้ากลับเข้ากรุงเทพฯ เพราะต้องรีบไปเข้าประชุมด่วนรอบบ่าย
“มีอะไรจะถามฉันไหม?”
“คุณคุยอะไรกับแม่ของฉันเมื่อคืน” เธอยิงคำถามทันที
“อ๋อ! นึกว่าเรื่องอะไร?” เขาบอกพลางทำท่าขำๆ
“นี่ฉันจริงจังนะ” มะลิฉัตรต่อว่าอย่างเคืองๆ
“ฉันก็จริงจังเหมือนกัน ท่านไม่ได้บอกเธอเหรอ?” เขาหันกลับมาถามทันใด
“ถ้าบอกแล้วฉันจะถามคุณเหรอ!” เธอบอกด้วยน้ำเสียงตึงๆ
“ฉันบอกท่านว่าชอบเธอ” เขาบอกก่อนจะป
“ปล่อยแขนฉันนะ! ไอ้บ้ากาม!” หญิงสาวปัดมือหนาที่กำลังเอื้อมมาจับออกทันใด“เธอน่ะสิบ้ากาม! ฉันจะชวนเธอไปหาอะไรทาน ฉันหิว!” คนที่ถูกทำท่ารังเกียจใส่ บอกด้วยสีหน้าตึงๆ ‘คำก็หื่น สองคำก็บ้ากาม เดี๋ยวก็จับกดบนเตียงทั้งวันทั้งคืนซะหรอก!’“อะ... อ้าว ฉะ... ฉันนึกว่าคุณจะ... จะ...” มะลิฉัตรรู้สึกอายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เมื่อถูกต่อว่า ‘ก็ชอบพูดจาทะลึ่งๆ อยู่ตลอด ใครจะคิดว่าหิวข้าวล่ะ’“จะอะไร?” เลโอนาดท์ถามกลับ พร้อมกับดึงแขนของคนที่เพิ่งออกจากรถเข้ามาชิดตัว“ปล่อยนะ ฉันจะเดินเอง!”“ไม่! เธอกลัวใครจะเห็นเหรอ?”“โอ๊ย! ก็ได้ๆ” มะลิฉัตรบอกอย่างขี้เกียจจะทะเลาะด้วย‘ชอบขัดใจอยู่เรื่อย!’ เลโอนาดท์มองค้อน ก่อนจะบอก“เดี๋ยวไปเปิดห้องก่อนแล้วค่อยสั่งอาหารขึ้นไปทาน”“นี่คุณ!” มะลิฉัตรเรียกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ‘หึ! เปิดห้องทานข้าว! มุกหลอกควายแบบนี้ เอาไปใช้กับคนอื่นเถอะ’“เรียกเบาๆ สิ! เธอจะเสียงดังไปทำไม คนมองกันใหญ่แล้ว” เขาบอกพลางหันไปมองรอบกายอย่างรู้สึกอาย ที่เห็นใครต่อใครพากันหันมามองอย่างสนใจ“คุณทานเสร็จแล้วออกมานะ ฉัน
“ร้องสิ! แต่ร้องเพราะกลัวกลับมาต่างหาก” เธอบอกพร้อมกับยักไหล่อย่างไม่แคร์“ฮ่าๆๆ ให้มันแน่เถอะมะลิ” เลโอนาดท์หัวเราะร่า ก่อนจะใช้ส้อมจิ้มเนื้อเซอร์ลอยน์ป้อนคนปากดี“จะบ้าเหรอ ฉันอายนะ” มะลิฉัตรบอกด้วยใบหน้าแดงก่ำที่อีกฝ่ายแสดงอาการหวานเลี่ยนในห้องอาหาร“เชื่อเถอะ! เธอจะอายกว่านี้ ถ้ายังไม่กิน” เลโอนาดท์เริ่มจะหน้าตึงขึ้นมานิดๆ ที่สาวเจ้าทำให้ตนต้องถือส้อมค้างนาน“เฮ้อ...” มะลิฉัตรจำใจอ้าปากรับเนื้อนุ่มๆ จากอีกฝ่ายแต่โดยดี“อร่อยไหม?” เลโอนาดท์ถาม ก่อนจะหั่นสเต๊กต่อ“อะ... อร่อยค่ะ” เธอเอ่ยพลางเหลือบไปมองรอบห้องอาหารอย่างอายๆ“ลองล็อบสเตอร์อบชีสสิ” เลโอนาดท์ตักจ่อริมฝีปากจิ้มลิ้มต่อ เมื่อเห็นเธอกลืนเสร็จ“ขอฉันทานเองได้ไหมคะ”“ทำไม?”“ฉันคิดว่าทุกคนกำลังมองเราอยู่”“อย่าไปสนใจ! เธอมองแค่ฉันคนเดียวก็พอมะลิ”“แต่...”“รู้ไหมว่าในห้องอาหารนี่! ฉันมองไม่เห็นใครอีกเลย นอกจากเธอคนเดียวเท่านั้น!”“บ้า!”“ฉันพูดเรื่องจริง! อ้าปากเร็ว เดี๋ยวชีสจะเย็นซะก่อน”“อื้ม!”“อร่อยไหม?”“อร่อยค่ะ แล้วคุณไม่ทานเหรอ เมื่อกี้บ่นว่าหิวนี่”“ก็รอให้เธอป้อนอยู่น่ะสิ”“ไม่จริง”“จริง! ฉันรอให้เธอป้อนอยู่”“ฉันข
“ฉันจะเรียก ไอ้สิงโตๆๆๆๆ” มะลิฉัตรไม่สนใจ ตะโกนใส่ คนบ้าอำนาจอย่างบ้าคลั่ง“เรียกไป 7 ครั้ง งั้นก็ต้องจูบ 7 ครั้งถึงจะหายกัน” เลโอนาดท์เอ่ยหลังจากที่ยืนนับจำนวนครั้งเสร็จ“จะ... จูบอะไร” คนที่กำลังหอบหันมาถามอย่างงงๆ“ยังจะถามอีก! มารับโทษซะดีๆ” เลโอนาดท์รีบเดินตรงเข้าหา ร่างบางอย่างไม่รอช้า“ไม่! ปล่อยนะ อ๊ะ... อื้ออออ” มะลิฉัตรขยับตัววิ่งไม่ทัน เพราะ อีกฝ่ายคว้าหมับที่แขนแล้วดึงเธอเข้าไปจูบอย่างรวดเร็วเลโอนาดท์ถอนจูบที่เนิ่นนานออก พร้อมกับสบถเสียงดังอย่างหัวเสีย “ให้ตายเถอะ! เลิกดื้อสักวันจะได้ไหม”‘ไอ้คนบ้า!’ มะลิฉัตรอายจนหน้าแดงก่ำ ไม่กล้าหันไปมองรอบๆ“กลับไปนั่งในรถ ก่อนที่ฉันจะลากเธอเข้าไปเปิดห้องในโรงแรม”เลโอนาดท์สั่งเสียงเข้มคนที่กำลังอาย เดินก้มหน้ากลับเข้าไปนั่งในรถอย่างว่าง่าย แต่ก็ไม่วายกระแทกประตูรถใส่เจ้าสิงโตป่า...เถื่อนอย่างเคืองๆเลโอนาดท์มองตาม ก่อนเดินกลับไปประจำที่คนขับ พาสาวเจ้าเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ สี่สิบนาทีต่อมา... BANGKOK เลโอนาดท์ขับรถลงจากทางด่วน ตรงไปยังบริษัทเพื่อจะเข้าประชุมในช่วงบ่าย มะลิฉัตรนั่งเงียบมาตลอดทาง เพราะอีกฝ่ายโทรศัพท์คุยงานกับคนสนิทโดยเ
เฮ้อ... แล้วพรุ่งนี้ตอนเข้าทำงาน เธอจะต้องเจอกับอะไรบ้างนะ สีหน้าของทุกคนที่มองเธอก้าวลงจากรถ มันทำให้เธอไม่อยากจะไปทำงานเอาซะเลย! ครั้งก่อนเธอโดนกล่าวหา ว่าอ่อยผู้กำกับการหนุ่มหล่ออย่าง คเชนทร์ ศิลากรณ์ ที่ชอบมานั่งจิบกาแฟตรงล็อบบีของโรงแรมบ่อยๆ และทุกครั้งที่มา อีกฝ่ายก็มักจะซื้อขนมกับน้ำหอมแบรนด์ดังมาฝากเธอเป็นประจำ ทำให้สาวๆ ในแผนกต้อนรับสามสี่คน พูดจากระแนะกระแหนเธอสารพัดโชคดีที่ได้เจอกับธาริณีในวันนั้น เธอรู้สึกว่าสองเดือนที่ผ่านมา ชีวิตของเธอมีความสุขมาก เพราะทั้งเธอและพิมาลาต่างก็ช่วยกันทำงาน เก็บเงินส่งให้น้องๆ เป็นค่าเล่าเรียน ทุกๆ อย่างมันลงตัวไปหมด! อาหารก็ฟรี ห้องพักก็ฟรี เธออยากให้ทุกๆ อย่างเป็นแบบนี้ต่อไป20:17 น. หลังจากที่พิมาลาประชุมงานด่วนเสร็จ ก็แวะซื้อข้าวต้มทะเลจากร้านข้าวต้มกระดูกหมูสุขุมวิท 71 กลับมาทานกับเพื่อนสาวที่ห้องก๊อกๆๆๆ“มะลิ! เปิดประตูให้หน่อย! มะลิ!”“แป๊บ! กำลังใส่เสื้อ” คนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จบอกก่อนจะหยิบเสื้อกับกางเกงขึ้นมาสวมลวกๆ“เร็วๆ แก ฉันปวดฉี่!” พิมาลาบอกพร้อมกับยืนบิดไปมา“เสร็จแล้วๆ” มะลิฉัตรตอบก่อนจะเปิดประตูให้เพื่อนสาวคลิก!“อะ! เอ
“คะ... ใครน่ะ” พิมาลาถามอย่างหวาดกลัว“อะ... ไอ้สิงโต!” มะลิฉัตรหันไปบอกเพื่อนรักด้วยสีหน้าตื่นๆ“สิงโตไหน?” คนที่ไม่เข้าใจถามกลับอย่างงงๆ“ฉันจะนับถึงสาม!” น้ำเสียงที่เย็นเฉียบ ทำเอาสาวที่ได้ฟังถึงกับสั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก!“มะลิ! แกรู้จักเขาเหรอ?” พิมาลามองที่ประตูอย่างหวาดหวั่น“ก็ไอ้ทาร์ซานของเจนไง!” มะลิฉัตรหันไปตอบเพื่อนสาวอย่างหงุดหงิด“อ๊ายยยย แก! ฉันอายอะ” พิมาลายกมือขึ้นทาบอกอย่างตกใจ ก่อนจะวิ่งลงจากเตียงตรงไปเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็วปัง!มะลิฉัตรนั่งกะพริบตามองการกระทำของเพื่อนสาวอย่างอึ้งๆ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะชิ่งหนีเอาตัวรอดแบบนี้!“ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะยัยพิ! แกเข้าไปหลบในห้องน้ำทำไม?” มะลิฉัตรดีดตัวลงจากเตียงตามไปต่อว่าเพื่อนรักอย่างขุ่นเคือง“บอกเขาไปว่าเจนยังไม่พร้อม! ฉันไม่อยากให้เขาเห็นหน้าสดๆ ของฉัน คิกๆๆ” พิมาลาตะโกนบอกเบาๆ ก่อนจะหัวเราะชอบใจที่รู้ว่า คนที่เป็นหัวข้อสนทนาเมื่อครู่! มาตามเพื่อนรักถึงหน้าห้อง“โอ๊ย! อีเพื่อนบ้า!” มะลิฉัตรแทบจะสติแตกกับคำตอบกวนๆ ของเพื่อน ‘หึ! แกหน้าสด! แต่ฉันโนบราอยู่นะนังพิ!’ หญิงสาวต่อว่าในใจก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เพื่อที่จะหาบ
ชั้นบนสุดของโรงแรม...“ใส่กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ ปลาหมึก หอยแมลงภู่ เห็ดเข็มทองกับเห็ดออรินจิ แล้วก็เนื้อปลากับเนื้อสไลด์บางๆ ไข่ไก่อีกสองฟอง เอาให้เหมือนในรูปบนซองเลย”“โห...ใส่เยอะขนาดนี้ ลงไปทานที่ห้องอาหารเถอะค่ะท่าน” มะลิฉัตรเอ่ยประชดอย่างทนไม่ไหว“แหม! ทำให้ผัวทานแค่นี้ บ่นใหญ่เลยนะเรา” เลโอนาดท์เอ่ยหยอกอย่างขำๆ“คุณไปอาบน้ำเถอะค่ะ” มะลิฉัตรกลอกตาก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย“ห้ามใส่พริกเยอะเหมือนครั้งก่อนนะ พรุ่งนี้มีประชุมเช้า โอเค้!” เลโอนาดท์รีบบอกเพราะยังหวั่นๆ ใจว่าจะโดนแกล้ง“รีบดักทางเลยนะคะ” มะลิฉัตรเอ่ยแซว“รู้ไหม? ผัดมาม่าของเธอวันนั้นยังติดตาฉันอยู่” เลโอนาดท์บอกอย่างเคืองๆ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องนอน เพื่ออาบน้ำชำระร่างกายมะลิฉัตรมองตาม ก่อนจะลงมือทำมาม่าต้มยำให้อีกฝ่ายทานอย่างขำๆยี่สิบนาทีต่อมา... เลโอนาดท์ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ คว้าเสื้อคลุมมาสวม จากนั้นก็รีบเดินตรงไปยังห้องครัวอย่างอารมณ์ดี“เสร็จหรือยังมะลิ”“เสร็จแล้วค่ะ!” เธอหันไปตอบ ก่อนจะยกชามใบใหญ่มาวางให้“ว้าว! น่าทานจัง แล้วของเธอล่ะ?”“ฉันเพิ่งทานข้าวต้มทะเลไปก่อนหน้าที่คุณจะมา”“อะไรนะ! นี่เธอทานไปแล้วงั้นเหรอ?”
“ไม่!” เธอตอบเสียงแข็ง“โอเค งั้นผมจะสอนคุณก่อนแล้วกัน” เลโอนาดท์ว่าก่อนจะเปลี่ยนเป็นคนรุกเกมแทน“อ๊ะ!...” มะลิฉัตรตกใจที่อยู่ๆ อีกฝ่ายก็ผลักเธอลงนอน แล้วขึ้นมาทาบทับ“ต้องค่อยๆ ถูแบบนี้... จากนั้นก็ค่อยๆ สอดและกดเข้าไปช้าๆ แล้วขยับเข้าออกเบาๆ ทำความคุ้นเคย...ซี้ดดดด คุณรัดผมแน่นมากมะลิ อ่า...”ชายหนุ่มจับความเป็นชายที่แข็งขืน ถูไถร่องเนื้อนูนอวบที่ลื่นแฉะไปด้วยน้ำหวานจากเกสรของดอกไม้งามอย่างเมามัน ก่อนจะค่อยๆ ดันส่วนปลายเข้าไปสำรวจทางรักช้าๆ ขณะที่เลือดในกายร้อนวูบวาบจนจะมอดไหม้“ฉะ... ฉันเจ็บ อื้อ...” มะลิฉัตรน้ำตาซึมกับความคับแน่นที่เหมือนจะทำให้ร่างกายของเธอปริแตกออกเป็นเสี่ยงๆ“ทนอีกนิด เดี๋ยวก็ดีขึ้น... ซี้ดดดด” เลโอนาดท์กัดฟันเสียงสั่นพร่า พยายามข่มอารมณ์ดิบเถื่อนเอาไว้อย่างสุดกลั้น“อะ... อื้อ... อ่า...” มะลิฉัตรบิดเร่าไปมาด้วยความเสียวซ่าน และความเจ็บที่คละเคล้าผสมกันกับความต้องการที่รุ่มร้อนในกายเลโอนาดท์เดินเกมรักอย่างอ่อนโยนและเร่าร้อนสลับกันไปมา จวบจนจบเกมถึงสองครั้งติดๆ กัน จึงอุ้มร่างบางที่หมดแรงจนแทบจะ หลับคาอกไปอาบน้ำ จากนั้นก็พาสาวเจ้ามานอนกกกอดต่อที่เตียงกว้างอย่
“งั้นมาเล่นที่ห้องทำงานฉันไหมล่ะ มาไหม! เดี๋ยวสั่งขนมรอ”“ไม่ค่ะ!” มะลิฉัตรปฏิเสธอีกครั้ง“มาเถอะนะ! ตั้งแต่เช้าแล้ว ฉันประชุมไม่รู้เรื่องเลย” ปลายสายเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง เหมือนมีอะไรในใจ“ทะ...ทำไมคะ” เธอถามกลับอย่างสงสัย“ก็หัวใจมันอยู่ที่ห้องน่ะสิ!” เลโอนาดท์หยอดน้ำตาลใส่สาวเจ้าทันทีที่ได้โอกาส“บ้า! มีอะไรอีกไหมคะ? เดี๋ยวหัวหน้าจะมาถึงแล้ว” มะลิฉัตรหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันใด กับประโยคหวานเลี่ยนของคนหื่น“อายเหรอ?” เลโอนาดท์ถามยิ้มๆ“มีอะไรจะคุยอีกไหมคะ?” มะลิฉัตรถามพร้อมกับมองใบหน้า คมเข้มแวบหนึ่ง แล้วรีบเบือนหน้าไปมองทางอื่น เพราะอยู่ๆ ภาพของเธอกับเขาที่เร่าร้อนบนเตียงเมื่อคืนกลับมาฉายซ้ำอีกครั้ง“อะไรกันมะลิ จะรีบวางสายไปไหน นี่พอพักเบรกปุ๊บ! ฉันก็รีบโทร. หาเธอเลยนะ” ชายหนุ่มต่อว่าอย่างงอนๆ“คะ... คุณทานข้าวหรือยังคะ?”“ยัง! หน้าฉันมีอะไรติดเหรอ เธอถึงไม่อยากมอง”“ปะ... เปล่าค่ะ ก็แค่...”“แค่อะไร!”“เอ่อ... ฉัน”“บอกมาเดี๋ยวนี้!”“คือ... ฉันอายเรื่อง เอ่อ... เมื่อคืนค่ะ”“ฉันไม่เห็นจะอายเลย! นึกถึงทีไรก็อยากจะทำอีก เมื่อกี้ก็คิดๆ อยู่ว่าจะกลับไปหาเธอ แล้วให้เจซีเข้าประชุมแทน”“บ้า
“ผมผู้กำกับฯ คเชนทร์ ศิลากรณ์! ขออนุญาตแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบก่อนนะครับ! คุณเลโอนาดท์ถูกจับกุมในข้อหาขโมยสุนัขตัวนี้ครับ!”“เข้าใจผิดแล้วครับผู้กำกับฯ! ท่านจะขโมยสุนัขตัวนี้ได้ยังไง! ก็ในเมื่อ... มันเป็นสุนัขของท่าน” คงสิทธิ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงขบขัน“ผิดแล้วครับ! สุนัขตัวนี้เป็นของเธอต่างหาก!” คเชนทร์ตอบพร้อมกับยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างขำๆ“งั้นผมขอดูหลักฐานหน่อยสิครับ!” คงสิทธิ์เอ่ยต่อ“เอ่อ...” มะลิฉัตรอึกอัก ลางสังหรณ์บางอย่างทำให้เธอรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก!คงสิทธิ์หันมายิ้มบางๆ ให้หญิงสาวที่ยืนข้างๆ ก่อนจะเอ่ยต่อ“สุนัขตัวนี้ชื่อเอล ซิมคาเนียร์ สายพันธุ์พอเมอเรเนียน เกิดเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2xxx พ่อชื่อมาร์ค ซิมคาเนียร์ แม่ชื่อโมริ พานาเซีย ถูกโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของให้คุณเลโอนาดท์เมื่อสามวันก่อน นี่ใบรับรองแล้วก็รูปถ่ายทั้งหมดครับ!” ทนายส่งเอกสารพร้อมรูปให้ ผกก. และหญิงสาวดู‘แจ็กพอตแล้วไหมล่ะ!’ มะลิฉัตรขนลุกซู่ไปทั้งตัว เมื่อเห็นหลักฐาน“เอ่อ... คือว่าสุนัขตัวนี้เป็นของหัวหน้าแผนกน่ะค่ะ ขะ... เขาฝากให้มะลิช่วยดูแลค่ะ”“คุณธาริณีใช่ไหมครับ!” คเชนทร์ยิ้มให้สาวสวย ที่ใบหน้าถอด
“ฉันไม่ว่าง! ฮึก!” มะลิฉัตรบอกพลางกลั้นเสียงสะอื้น“ฉันกลับจากเชียงใหม่เพิ่งมาถึงเมื่อครู่! ออกมาเจอฉันที่ร้านกาแฟหน่อยสิ!” เลโอนาดท์บอกด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็บอกว่าไม่ว่างไง ฮึก!” เธอบอกก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้ง! เจ้าหมาตัวน้อยหายไปอย่างไร้ร่องรอย ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์ออกไปที่ไหนทั้งนั้น!“ฉันให้เวลาเธอสิบนาที ไม่งั้นฉันจะโยนไอ้ตัวนี้ให้รถชน!” เลโอนาดท์หันกล้องไปหาเจ้าหมาตัวน้อยที่นั่งอยู่ข้างๆ ให้สาวเจ้าดู พลางกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้จนตัวสั่น! ‘โถๆ ร้องไห้ซะหมดสภาพเลยแม่คุณ!’“สิงโต!” มะลิฉัตรกะพริบตามองลูกหมาตัวน้อยอย่างดีใจ“นี่เธอกล้าเรียกฉันว่าสิงโตอีกงั้นเหรอ? อยากเจอดีเหมือน ครั้งก่อนใช่ไหม!” เลโอนาดท์หน้าตึงขึ้นมาทันใด“ฉันไม่ได้เรียกคุณ!” มะลิฉัตรจ้องมองใบหน้าของอีกฝ่ายผ่านหน้าจอมือถืออย่างโมโห เธอสติแตกกับการหาลูกหมาตัวน้อยและร้องไห้อย่างกับคนบ้า! เพราะถูกอีกฝ่ายแกล้ง!โฮ่งๆๆลูกหมาตัวน้อยขานรับพร้อมกับส่ายหางไปมาอย่างดีใจ“โอ้พระเจ้า!!” คนที่เพิ่งจะถึงบางอ้อขนลุกซู่ไปทั้งตัว ค่อยๆ หันกลับไปมองลูกหมาที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยสายตาลุกวาว!“คุณขโมยหมาฉันไปได้ยังไง!” เมดสาวตะโกนถ
“ว่าไงนะเมียจ๋า! อยากให้กลับไปหาเร็วๆ อย่างนั้นเหรอ”“ฉันจะทนไม่ไหวแล้วนะไอ้สิงโตบ้า!” มะลิฉัตรเอ่ยเสร็จก็กดวางสายไปอย่างทนไม่ไหว“วางสายใส่ผัวแบบนี้! พรุ่งนี้เจอดีแน่มะลิ!” เลโอนาดท์คาดโทษสาวเจ้า ก่อนจะเก็บมือถือใส่กระเป๋าเสื้อแล้วตรงกลับเข้าห้องพักของตนเช้าวันต่อมา... หลังจากที่โดมินิกกระชับความสัมพันธ์ทางกายกับพราวดาราไปหลายต่อหลายครั้ง จนสาวเจ้านอนสลบไสลจนถึงเช้าของวันใหม่ตืดดดดด... เสียงสั่นของมือถือที่ดัง ทำให้โดมินิกลืมตาตื่น ควานหามือถือมาเปิดดู ก็เห็นเบอร์ของคนสนิทโทร. เข้า จึงรีบลุกขึ้นจากเตียงแล้วหยิบกุญแจมือที่อยู่ในลิ้นชักออกมา สวมมันที่ข้อมือของหญิงสาวทั้งสองข้าง จากนั้นก็หยิบมือถือแล้วเดินออกไปรับสายคนสนิทที่ด้านนอก“บอสครับ! คุณเลโอนาดท์นั่งเครื่องกลับกรุงเทพฯ ไปแล้วเมื่อ ห้านาทีก่อนครับ” ดีนรีบรายงาน“บ้าฉิบ! ลีโอหนีประชุมอย่างงั้นเหรอ?” โดมินิกกลอกตาอย่างเซ็งๆ ที่รู้ว่าเพื่อนรักแอบขึ้นเครื่องหนีกลับกรุงเทพฯ ก่อนหน้าที่จะเข้าประชุมเพียงไม่กี่นาที“ครับบอส! เอาไงดีครับ ผมก็เพิ่งทราบเหมือนกัน” ดีนบอกอย่างไม่รู้จะทำยังไง เพราะทั้งเลโอนาดท์กับเจ้านายของตนกำลังหลงสาวจนทิ
“กะ... ก็ใช่น่ะสิ ฮือๆๆ คุณจะฆ่าปิดปากฉัน” พราวดาราบอกพลางยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลเอ่อทิ้งลวกๆ“ให้ตายเถอะพราว! ผมจะฆ่าปิดปากเมียของตัวเองทำไมฮะ” คนถูกกล่าวหาถอนใจยาวอย่างเพลียๆ กับความคิดและจินตนาการของสาวตรงหน้า“ฮึก! ฉันไม่ใช่เมียของคุณ ฮือๆๆ”คนที่ถูกยกตำแหน่งเมียให้ร้องไห้เสียงดังกว่าเดิมอีกเท่าตัว อย่างดีใจ เอ๊ย! อย่างเสียใจ“งั้นที่เราทำเมื่อคืนล่ะ เธอจะเรียกมันว่าอะไรฮะ” โดมินิกเลิกคิ้วถามอย่างยียวน“คุณทำคนเดียว! ฉะ... ฉันไม่ได้ทำ!” พราวดาราปฏิเสธเสียงแข็ง“ก็แล้วเธอ... ถึงสวรรค์หรือเปล่าล่ะ?” ชายหนุ่มถามอย่างกวนๆ“ไม่!” พราวดาราหน้าแดงก่ำ ทั้งโกรธทั้งอายที่อีกฝ่ายกล้าเอาเรื่องที่เกิดขึ้นมาถาม“งั้นสาบานมาสิ! ว่าไม่ถึง” โดมินิกท้าด้วยสีหน้าตึงๆ“ทะ... ทำไมฉันต้องสาบานด้วย!” พราวดาราถามเสียงสั่น“พราว! ผมรู้ว่าลึกๆ คุณชอบที่ผมทำ แล้วผมก็ชอบที่จะทำมันซ้ำๆ กับคุณอีกหลายๆ ครั้ง!” เขาบอกราวกับคนที่ถือไพ่เหนือกว่า“มะ... ไม่” เธอบอกเสียงสั่น“งั้นผมขอพิสูจน์อีกครั้ง! ถ้าครั้งนี้คุณไม่ถึง! ผมจะยอมปล่อยคุณไป” โดมินิกต่อรองด้วยสายตาเจ้าเล่ห์“เดี๋ยวนะ! นี่มันใช่เรื่องที่เราคุยกันอยู่เ
“ตกลงจะบอกไหมคะ อ๊ะ! กรี๊ดดดดดดด” คนที่กำลังถามต่อถึงกับกรีดร้องเสียงหลง เมื่อเห็นอีกฝ่ายโชว์ของผ่านกล้องมือถือให้ดู“นี่ไงสาเหตุที่ทำให้ฉันนอนไม่หลับทั้งคืนน่ะ” คนหื่นตอบด้วยใบหน้าแดงก่ำ เพราะเมื่อคืนได้ชัก เอ๊ย! ช่วยตัวเองไปหลายครั้ง แต่พอกลับมาล้มตัวนอนบนเตียง ก็นอนไม่หลับ! เอาแต่คิดถึงหน้าอกโตๆ กับแพนตี้สีแดงของสาวเจ้า“ไอ้คนบ้า! ลามก หน้าไม่อาย!” เธอต่อว่าอย่างทนไม่ไหว“น้อยๆ หน่อยมะลิ! ที่ฉันเป็นแบบนี้ก็เพราะเธอน่ะแหละ” คนหน้าด้านสวนกลับทันควัน“ฉะ... ฉันไปทำอะไรให้” มะลิฉัตรถามอย่างมึนงง“ก็เมื่อคืนเธอยั่วฉันยังไง” เลโอนาดท์บอก“ฉันไม่ได้...”“อย่ามาเถียง! เดี๋ยวส่งหลักฐานให้ดู” เลโอนาดท์เอ่ยก่อนจะกดวางสายไปดื้อๆนาทีต่อมา... ภาพถ่ายจากการแคปหน้าจอบนมือถือ ก็ถูกส่งเข้ามาจำนวนสี่ภาพ มะลิฉัตรเปิดดูถึงกับลุกพรวดจากที่นอนอย่างไม่อยาก จะเชื่อสายตาของตัวเอง“มะ...ไม่จริง ไอ้บ้านั่นแอบแคปรูปตอนคุยกันเหรอเนี่ย” สาวเจ้าถามตัวเองอย่างมึนงง ขณะเลื่อนดูรูปของตัวเองอย่างรับไม่ได้ติ๊ดๆ ติ๊ดๆมะลิฉัตรหน้าชาวาบ รีบกดรับสายของอีกฝ่ายด้วยมือสั่นๆ“เป็นไง ทีนี้รู้หรือยัง?”“ทำไมคุณถึงเลวแบบนี้
พราวดาราสะบัดฝ่ามือลงที่ใบหน้าของอีกฝ่ายทันที ติดๆ กันถึงสองครั้งเพียะ! เพียะ!คนที่หน้าหันตามแรงตบถึงกับชะงักไปสามวินาที ก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดเลือดที่ซึมตรงมุมปากออก แล้วจับสาวเจ้าโยนขึ้นเตียงนอนของตนอย่างไม่ปรานีปราศรัย“อ๊ะ! กรี๊ดดดดด” พราวดารากรีดร้องเสียงดังอย่างตกใจ ที่ตัวของเธอลอยขึ้นราวกับลูกบาสที่ถูกชูตลงห่วง“เธออยากลองดีเองนะพราว” โดมินิกบอกก่อนกระชากเสื้อเชิ้ต ที่ใส่ออกจากตัว แล้วขึ้นไปทาบทับร่างบางบนเตียงอย่างรวดเร็ว“ไม่นะ! อะ...ไม่...อื้อ...” พราวดาราร้องได้เพียงครู่ก็ถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากบดจูบอย่างดุเดือดเขาถอนจูบที่เนิ่นนานออก ก่อนจะซุกไซ้ที่ซอกคอระหงลงมาจนถึงเนินอกขนาดใหญ่เกินตัว แล้วจัดการปลดบราที่โอบอุ้มดอกบัวงามออกอย่างไม่รอช้า“อ๊ะ! ไม่นะ...อะ...อื้อ...” พราวดาราร้องห้ามเมื่อลิ้นอุ่นๆ ของ อีกฝ่ายดูดกลืนปลายถันของเธอ“อยากให้ฉันรุนแรงกับเธอใช่ไหม!” โดมินิกเตือนคนที่ใช้มือดันใบหน้าของตนออกจากปลายถันสีสดอย่างหงุดหงิด“อย่าทำแบบนี้! ได้โปรด...” พราวดาราพยายามตั้งสติ“อย่าขัดขืนเลยพราว ยังไงคุณต้องเป็นของผมอยู่ดี” โดมินิกบอกพร้อมกับยกมือที่ปัดป้องหน้าอกงามออก“ไม่!
“นี่แกไม่รู้เหรอว่าความรักมันไม่มีข้อยกเว้นโว้ย!” เลโอนาดท์บอกราวกับคนที่รู้จักความรักดี“มีสิ! ก็ฉันนี่ไงข้อยกเว้น ฮ่าๆๆ”“เอาที่สบายใจนะซาเก้”“อยู่แล้ว! ว่าแต่เราทานที่ห้องอาหารข้างล่างนะ ไม่อยากออกไปไหน เบื่อ!” โดมินิกว่าหลังจากที่ลิฟต์ลงมาถึงชั้นล่าง“ก็ทานที่ห้องอาหารน่ะสิ ฉันมีเวลาไม่มาก!” เลโอนาดท์บอกพลางเดินนำออกไปทางห้องอาหาร“ทำไม? จะโทร. หาเมียอีกเหรอ?” โดมินิกเดินตามติดๆ“เออ!” เลโอนาดท์กลอกตา เริ่มจะรำคาญอีกฝ่ายขึ้นมานิดๆโดมินิกทำท่าตกใจกับคำตอบของเพื่อนรัก จึงแกล้งหยอกด้วยการหันไปถามบอดี้การ์ดที่เดินตามหลัง“พระเจ้า! เหลือเชื่อชะมัดเลย พวกนายได้ยินใช่ไหม?”“สนุกเหรอ?” เลโอนาดท์ถามด้วยสีหน้าตึงๆ“สุดๆ เพื่อน ฮ่าๆๆ ” โดมินิกที่มัวแต่หัวเราะ ทำให้ไม่เห็นร่างบางที่เดินถือเค้กตรงมาทางตน และ...“อ๊ะ! ให้ตายสิ! นี่คุณเดินประสาอะไรฮะ โอ๊ย! ชุดฉัน”พราวดารา สิรันยากรณ์ สาวสวยวัย 22 ปี หันไปโวยอย่างไม่พอใจ เพราะขนมเค้กที่ถือมาเตรียมจะเซอร์ไพรส์วันเกิดให้เพื่อนสาวในห้องอาหารของโรงแรม ถูกผู้ชายตัวใหญ่ที่เดินไม่ดูทางชนเข้าอย่างจัง! จนขนมเค้กที่ถือมาแปะเข้าที่หน้าอกของเธอ ก่อนจะลงไ
เลโอนาดท์หันไปพยักหน้ารับ ก่อนจะหันกลับมาบอกสาวเจ้าด้วยสายตาละห้อย“มะลิ! ฉันต้องวางสายก่อนนะ เดี๋ยวช่วงค่ำๆ ฉันจะโทร. ไปใหม่”“ค่ะ” มะลิฉัตรตอบก่อนจะกดวางสายไปอย่างขำๆห้านาทีต่อมา...ขณะที่นอนคิดอะไรไปมาเพลินๆ อยู่นั้น ก็มีสายเรียกเข้าของพิมาลาดังขึ้น เธอยิ้มก่อนจะกดรับ“ว่าไงพิ”“มะลิวันนี้ฉันไม่กลับนะ อยู่ประชุมที่พัทยาต่อพรุ่งนี้อีกวัน เดี๋ยวประชุมเสร็จว่าจะแวะเข้าไปหาแม่กับน้องๆ” พิมาลารีบรายงาน“อ้าว! งั้นคืนนี้ฉันก็นอนคนเดียวน่ะสิ”“นอนๆ ไปเถอะ เมื่อคืนฉันก็นอนคนเดียวนะ” พิมาลาบอกพลางหัวเราะเบาๆ อย่างชอบใจเมื่อนึกไปถึงเรื่องเมื่อคืน“โอเค! ฝากหอมแก้มแม่ด้วยแล้วกัน” มะลิฉัตรกลอกตาอย่างเซ็งๆ ที่ถูกแซว“แหม! รีบเปลี่ยนเรื่องเลยนะคิกๆๆ”“บ้า! เปลี่ยนเรื่องอะไรล่ะ อ๊ะ! หัวหน้าโทร. มาอะ ฉันขอวางสายก่อนนะพิ!” มะลิฉัตรรีบบอกเมื่อเห็นเบอร์ของธาริณีโชว์ขึ้นมาที่หน้าจอ“ใช่หัวหน้าจริงๆ เหรอมะลิ คิกๆๆ”“จริงสิ จะโกหกทำไมล่ะ”“จะพยายามเชื่อนะ คิกๆๆๆ” พิมาลาหัวเราะชอบใจก่อนจะกดวางสายไปมะลิฉัตรถอนหายใจอย่างเพลียๆ ก่อนจะกดรับสายของธาริณี “ค่ะหัวหน้า”“มะลิ! ขึ้นมาที่ห้องของท่านด่วนเลยนะ” ปล
“งั้นมาเล่นที่ห้องทำงานฉันไหมล่ะ มาไหม! เดี๋ยวสั่งขนมรอ”“ไม่ค่ะ!” มะลิฉัตรปฏิเสธอีกครั้ง“มาเถอะนะ! ตั้งแต่เช้าแล้ว ฉันประชุมไม่รู้เรื่องเลย” ปลายสายเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง เหมือนมีอะไรในใจ“ทะ...ทำไมคะ” เธอถามกลับอย่างสงสัย“ก็หัวใจมันอยู่ที่ห้องน่ะสิ!” เลโอนาดท์หยอดน้ำตาลใส่สาวเจ้าทันทีที่ได้โอกาส“บ้า! มีอะไรอีกไหมคะ? เดี๋ยวหัวหน้าจะมาถึงแล้ว” มะลิฉัตรหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันใด กับประโยคหวานเลี่ยนของคนหื่น“อายเหรอ?” เลโอนาดท์ถามยิ้มๆ“มีอะไรจะคุยอีกไหมคะ?” มะลิฉัตรถามพร้อมกับมองใบหน้า คมเข้มแวบหนึ่ง แล้วรีบเบือนหน้าไปมองทางอื่น เพราะอยู่ๆ ภาพของเธอกับเขาที่เร่าร้อนบนเตียงเมื่อคืนกลับมาฉายซ้ำอีกครั้ง“อะไรกันมะลิ จะรีบวางสายไปไหน นี่พอพักเบรกปุ๊บ! ฉันก็รีบโทร. หาเธอเลยนะ” ชายหนุ่มต่อว่าอย่างงอนๆ“คะ... คุณทานข้าวหรือยังคะ?”“ยัง! หน้าฉันมีอะไรติดเหรอ เธอถึงไม่อยากมอง”“ปะ... เปล่าค่ะ ก็แค่...”“แค่อะไร!”“เอ่อ... ฉัน”“บอกมาเดี๋ยวนี้!”“คือ... ฉันอายเรื่อง เอ่อ... เมื่อคืนค่ะ”“ฉันไม่เห็นจะอายเลย! นึกถึงทีไรก็อยากจะทำอีก เมื่อกี้ก็คิดๆ อยู่ว่าจะกลับไปหาเธอ แล้วให้เจซีเข้าประชุมแทน”“บ้า