“คุณลีโอมาแล้วลูก เอาไว้ค่อยโทร. คุยกันนะ”
“ค่ะ” มะลิฉัตรเอ่ยรับพลางหันไปมองคนที่เดินลงมาจากรถอย่างขุ่นเคือง ‘มิน่า! เมื่อคืนแม่ถึงไม่ได้พูดอะไร ที่แท้ก็คุยกับอีตานี่แล้ว’
“สวัสดีครับคุณจันทร์ฉาย” เลโอนาดท์ยกมือไหว้หญิงวัยห้าสิบอย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ” จันทร์ฉายเอ่ยพร้อมกับยิ้มบางๆ ให้กับชายหนุ่ม
“ครับ! ไปขึ้นรถกันเถอะมะลิ” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมดึงกระเป๋าในมือของสาวเจ้าเอาไปเก็บที่รถ
“มะลิไปก่อนนะคะ” มะลิฉัตรเอ่ยก่อนเดินเข้าไปกอดมารดาแล้วเดินตามอีกฝ่ายไปขึ้นรถ
“สวัสดีครับ” เลโอนาดท์ยกมือไหว้อีกครั้ง ก่อนจะขับรถพาสาวเจ้ากลับเข้ากรุงเทพฯ เพราะต้องรีบไปเข้าประชุมด่วนรอบบ่าย
“มีอะไรจะถามฉันไหม?”
“คุณคุยอะไรกับแม่ของฉันเมื่อคืน” เธอยิงคำถามทันที
“อ๋อ! นึกว่าเรื่องอะไร?” เขาบอกพลางทำท่าขำๆ
“นี่ฉันจริงจังนะ” มะลิฉัตรต่อว่าอย่างเคืองๆ
“ฉันก็จริงจังเหมือนกัน ท่านไม่ได้บอกเธอเหรอ?” เขาหันกลับมาถามทันใด
“ถ้าบอกแล้วฉันจะถามคุณเหรอ!” เธอบอกด้วยน้ำเสียงตึงๆ
“ฉันบอกท่านว่าชอบเธอ” เขาบอกก่อนจะป
“ปล่อยแขนฉันนะ! ไอ้บ้ากาม!” หญิงสาวปัดมือหนาที่กำลังเอื้อมมาจับออกทันใด“เธอน่ะสิบ้ากาม! ฉันจะชวนเธอไปหาอะไรทาน ฉันหิว!” คนที่ถูกทำท่ารังเกียจใส่ บอกด้วยสีหน้าตึงๆ ‘คำก็หื่น สองคำก็บ้ากาม เดี๋ยวก็จับกดบนเตียงทั้งวันทั้งคืนซะหรอก!’“อะ... อ้าว ฉะ... ฉันนึกว่าคุณจะ... จะ...” มะลิฉัตรรู้สึกอายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เมื่อถูกต่อว่า ‘ก็ชอบพูดจาทะลึ่งๆ อยู่ตลอด ใครจะคิดว่าหิวข้าวล่ะ’“จะอะไร?” เลโอนาดท์ถามกลับ พร้อมกับดึงแขนของคนที่เพิ่งออกจากรถเข้ามาชิดตัว“ปล่อยนะ ฉันจะเดินเอง!”“ไม่! เธอกลัวใครจะเห็นเหรอ?”“โอ๊ย! ก็ได้ๆ” มะลิฉัตรบอกอย่างขี้เกียจจะทะเลาะด้วย‘ชอบขัดใจอยู่เรื่อย!’ เลโอนาดท์มองค้อน ก่อนจะบอก“เดี๋ยวไปเปิดห้องก่อนแล้วค่อยสั่งอาหารขึ้นไปทาน”“นี่คุณ!” มะลิฉัตรเรียกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ‘หึ! เปิดห้องทานข้าว! มุกหลอกควายแบบนี้ เอาไปใช้กับคนอื่นเถอะ’“เรียกเบาๆ สิ! เธอจะเสียงดังไปทำไม คนมองกันใหญ่แล้ว” เขาบอกพลางหันไปมองรอบกายอย่างรู้สึกอาย ที่เห็นใครต่อใครพากันหันมามองอย่างสนใจ“คุณทานเสร็จแล้วออกมานะ ฉัน
“ร้องสิ! แต่ร้องเพราะกลัวกลับมาต่างหาก” เธอบอกพร้อมกับยักไหล่อย่างไม่แคร์“ฮ่าๆๆ ให้มันแน่เถอะมะลิ” เลโอนาดท์หัวเราะร่า ก่อนจะใช้ส้อมจิ้มเนื้อเซอร์ลอยน์ป้อนคนปากดี“จะบ้าเหรอ ฉันอายนะ” มะลิฉัตรบอกด้วยใบหน้าแดงก่ำที่อีกฝ่ายแสดงอาการหวานเลี่ยนในห้องอาหาร“เชื่อเถอะ! เธอจะอายกว่านี้ ถ้ายังไม่กิน” เลโอนาดท์เริ่มจะหน้าตึงขึ้นมานิดๆ ที่สาวเจ้าทำให้ตนต้องถือส้อมค้างนาน“เฮ้อ...” มะลิฉัตรจำใจอ้าปากรับเนื้อนุ่มๆ จากอีกฝ่ายแต่โดยดี“อร่อยไหม?” เลโอนาดท์ถาม ก่อนจะหั่นสเต๊กต่อ“อะ... อร่อยค่ะ” เธอเอ่ยพลางเหลือบไปมองรอบห้องอาหารอย่างอายๆ“ลองล็อบสเตอร์อบชีสสิ” เลโอนาดท์ตักจ่อริมฝีปากจิ้มลิ้มต่อ เมื่อเห็นเธอกลืนเสร็จ“ขอฉันทานเองได้ไหมคะ”“ทำไม?”“ฉันคิดว่าทุกคนกำลังมองเราอยู่”“อย่าไปสนใจ! เธอมองแค่ฉันคนเดียวก็พอมะลิ”“แต่...”“รู้ไหมว่าในห้องอาหารนี่! ฉันมองไม่เห็นใครอีกเลย นอกจากเธอคนเดียวเท่านั้น!”“บ้า!”“ฉันพูดเรื่องจริง! อ้าปากเร็ว เดี๋ยวชีสจะเย็นซะก่อน”“อื้ม!”“อร่อยไหม?”“อร่อยค่ะ แล้วคุณไม่ทานเหรอ เมื่อกี้บ่นว่าหิวนี่”“ก็รอให้เธอป้อนอยู่น่ะสิ”“ไม่จริง”“จริง! ฉันรอให้เธอป้อนอยู่”“ฉันข
“ฉันจะเรียก ไอ้สิงโตๆๆๆๆ” มะลิฉัตรไม่สนใจ ตะโกนใส่ คนบ้าอำนาจอย่างบ้าคลั่ง“เรียกไป 7 ครั้ง งั้นก็ต้องจูบ 7 ครั้งถึงจะหายกัน” เลโอนาดท์เอ่ยหลังจากที่ยืนนับจำนวนครั้งเสร็จ“จะ... จูบอะไร” คนที่กำลังหอบหันมาถามอย่างงงๆ“ยังจะถามอีก! มารับโทษซะดีๆ” เลโอนาดท์รีบเดินตรงเข้าหา ร่างบางอย่างไม่รอช้า“ไม่! ปล่อยนะ อ๊ะ... อื้ออออ” มะลิฉัตรขยับตัววิ่งไม่ทัน เพราะ อีกฝ่ายคว้าหมับที่แขนแล้วดึงเธอเข้าไปจูบอย่างรวดเร็วเลโอนาดท์ถอนจูบที่เนิ่นนานออก พร้อมกับสบถเสียงดังอย่างหัวเสีย “ให้ตายเถอะ! เลิกดื้อสักวันจะได้ไหม”‘ไอ้คนบ้า!’ มะลิฉัตรอายจนหน้าแดงก่ำ ไม่กล้าหันไปมองรอบๆ“กลับไปนั่งในรถ ก่อนที่ฉันจะลากเธอเข้าไปเปิดห้องในโรงแรม”เลโอนาดท์สั่งเสียงเข้มคนที่กำลังอาย เดินก้มหน้ากลับเข้าไปนั่งในรถอย่างว่าง่าย แต่ก็ไม่วายกระแทกประตูรถใส่เจ้าสิงโตป่า...เถื่อนอย่างเคืองๆเลโอนาดท์มองตาม ก่อนเดินกลับไปประจำที่คนขับ พาสาวเจ้าเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ สี่สิบนาทีต่อมา... BANGKOK เลโอนาดท์ขับรถลงจากทางด่วน ตรงไปยังบริษัทเพื่อจะเข้าประชุมในช่วงบ่าย มะลิฉัตรนั่งเงียบมาตลอดทาง เพราะอีกฝ่ายโทรศัพท์คุยงานกับคนสนิทโดยเ
เฮ้อ... แล้วพรุ่งนี้ตอนเข้าทำงาน เธอจะต้องเจอกับอะไรบ้างนะ สีหน้าของทุกคนที่มองเธอก้าวลงจากรถ มันทำให้เธอไม่อยากจะไปทำงานเอาซะเลย! ครั้งก่อนเธอโดนกล่าวหา ว่าอ่อยผู้กำกับการหนุ่มหล่ออย่าง คเชนทร์ ศิลากรณ์ ที่ชอบมานั่งจิบกาแฟตรงล็อบบีของโรงแรมบ่อยๆ และทุกครั้งที่มา อีกฝ่ายก็มักจะซื้อขนมกับน้ำหอมแบรนด์ดังมาฝากเธอเป็นประจำ ทำให้สาวๆ ในแผนกต้อนรับสามสี่คน พูดจากระแนะกระแหนเธอสารพัดโชคดีที่ได้เจอกับธาริณีในวันนั้น เธอรู้สึกว่าสองเดือนที่ผ่านมา ชีวิตของเธอมีความสุขมาก เพราะทั้งเธอและพิมาลาต่างก็ช่วยกันทำงาน เก็บเงินส่งให้น้องๆ เป็นค่าเล่าเรียน ทุกๆ อย่างมันลงตัวไปหมด! อาหารก็ฟรี ห้องพักก็ฟรี เธออยากให้ทุกๆ อย่างเป็นแบบนี้ต่อไป20:17 น. หลังจากที่พิมาลาประชุมงานด่วนเสร็จ ก็แวะซื้อข้าวต้มทะเลจากร้านข้าวต้มกระดูกหมูสุขุมวิท 71 กลับมาทานกับเพื่อนสาวที่ห้องก๊อกๆๆๆ“มะลิ! เปิดประตูให้หน่อย! มะลิ!”“แป๊บ! กำลังใส่เสื้อ” คนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จบอกก่อนจะหยิบเสื้อกับกางเกงขึ้นมาสวมลวกๆ“เร็วๆ แก ฉันปวดฉี่!” พิมาลาบอกพร้อมกับยืนบิดไปมา“เสร็จแล้วๆ” มะลิฉัตรตอบก่อนจะเปิดประตูให้เพื่อนสาวคลิก!“อะ! เอ
“คะ... ใครน่ะ” พิมาลาถามอย่างหวาดกลัว“อะ... ไอ้สิงโต!” มะลิฉัตรหันไปบอกเพื่อนรักด้วยสีหน้าตื่นๆ“สิงโตไหน?” คนที่ไม่เข้าใจถามกลับอย่างงงๆ“ฉันจะนับถึงสาม!” น้ำเสียงที่เย็นเฉียบ ทำเอาสาวที่ได้ฟังถึงกับสั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก!“มะลิ! แกรู้จักเขาเหรอ?” พิมาลามองที่ประตูอย่างหวาดหวั่น“ก็ไอ้ทาร์ซานของเจนไง!” มะลิฉัตรหันไปตอบเพื่อนสาวอย่างหงุดหงิด“อ๊ายยยย แก! ฉันอายอะ” พิมาลายกมือขึ้นทาบอกอย่างตกใจ ก่อนจะวิ่งลงจากเตียงตรงไปเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็วปัง!มะลิฉัตรนั่งกะพริบตามองการกระทำของเพื่อนสาวอย่างอึ้งๆ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะชิ่งหนีเอาตัวรอดแบบนี้!“ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะยัยพิ! แกเข้าไปหลบในห้องน้ำทำไม?” มะลิฉัตรดีดตัวลงจากเตียงตามไปต่อว่าเพื่อนรักอย่างขุ่นเคือง“บอกเขาไปว่าเจนยังไม่พร้อม! ฉันไม่อยากให้เขาเห็นหน้าสดๆ ของฉัน คิกๆๆ” พิมาลาตะโกนบอกเบาๆ ก่อนจะหัวเราะชอบใจที่รู้ว่า คนที่เป็นหัวข้อสนทนาเมื่อครู่! มาตามเพื่อนรักถึงหน้าห้อง“โอ๊ย! อีเพื่อนบ้า!” มะลิฉัตรแทบจะสติแตกกับคำตอบกวนๆ ของเพื่อน ‘หึ! แกหน้าสด! แต่ฉันโนบราอยู่นะนังพิ!’ หญิงสาวต่อว่าในใจก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เพื่อที่จะหาบ
ชั้นบนสุดของโรงแรม...“ใส่กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ ปลาหมึก หอยแมลงภู่ เห็ดเข็มทองกับเห็ดออรินจิ แล้วก็เนื้อปลากับเนื้อสไลด์บางๆ ไข่ไก่อีกสองฟอง เอาให้เหมือนในรูปบนซองเลย”“โห...ใส่เยอะขนาดนี้ ลงไปทานที่ห้องอาหารเถอะค่ะท่าน” มะลิฉัตรเอ่ยประชดอย่างทนไม่ไหว“แหม! ทำให้ผัวทานแค่นี้ บ่นใหญ่เลยนะเรา” เลโอนาดท์เอ่ยหยอกอย่างขำๆ“คุณไปอาบน้ำเถอะค่ะ” มะลิฉัตรกลอกตาก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย“ห้ามใส่พริกเยอะเหมือนครั้งก่อนนะ พรุ่งนี้มีประชุมเช้า โอเค้!” เลโอนาดท์รีบบอกเพราะยังหวั่นๆ ใจว่าจะโดนแกล้ง“รีบดักทางเลยนะคะ” มะลิฉัตรเอ่ยแซว“รู้ไหม? ผัดมาม่าของเธอวันนั้นยังติดตาฉันอยู่” เลโอนาดท์บอกอย่างเคืองๆ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องนอน เพื่ออาบน้ำชำระร่างกายมะลิฉัตรมองตาม ก่อนจะลงมือทำมาม่าต้มยำให้อีกฝ่ายทานอย่างขำๆยี่สิบนาทีต่อมา... เลโอนาดท์ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ คว้าเสื้อคลุมมาสวม จากนั้นก็รีบเดินตรงไปยังห้องครัวอย่างอารมณ์ดี“เสร็จหรือยังมะลิ”“เสร็จแล้วค่ะ!” เธอหันไปตอบ ก่อนจะยกชามใบใหญ่มาวางให้“ว้าว! น่าทานจัง แล้วของเธอล่ะ?”“ฉันเพิ่งทานข้าวต้มทะเลไปก่อนหน้าที่คุณจะมา”“อะไรนะ! นี่เธอทานไปแล้วงั้นเหรอ?”
“ไม่!” เธอตอบเสียงแข็ง“โอเค งั้นผมจะสอนคุณก่อนแล้วกัน” เลโอนาดท์ว่าก่อนจะเปลี่ยนเป็นคนรุกเกมแทน“อ๊ะ!...” มะลิฉัตรตกใจที่อยู่ๆ อีกฝ่ายก็ผลักเธอลงนอน แล้วขึ้นมาทาบทับ“ต้องค่อยๆ ถูแบบนี้... จากนั้นก็ค่อยๆ สอดและกดเข้าไปช้าๆ แล้วขยับเข้าออกเบาๆ ทำความคุ้นเคย...ซี้ดดดด คุณรัดผมแน่นมากมะลิ อ่า...”ชายหนุ่มจับความเป็นชายที่แข็งขืน ถูไถร่องเนื้อนูนอวบที่ลื่นแฉะไปด้วยน้ำหวานจากเกสรของดอกไม้งามอย่างเมามัน ก่อนจะค่อยๆ ดันส่วนปลายเข้าไปสำรวจทางรักช้าๆ ขณะที่เลือดในกายร้อนวูบวาบจนจะมอดไหม้“ฉะ... ฉันเจ็บ อื้อ...” มะลิฉัตรน้ำตาซึมกับความคับแน่นที่เหมือนจะทำให้ร่างกายของเธอปริแตกออกเป็นเสี่ยงๆ“ทนอีกนิด เดี๋ยวก็ดีขึ้น... ซี้ดดดด” เลโอนาดท์กัดฟันเสียงสั่นพร่า พยายามข่มอารมณ์ดิบเถื่อนเอาไว้อย่างสุดกลั้น“อะ... อื้อ... อ่า...” มะลิฉัตรบิดเร่าไปมาด้วยความเสียวซ่าน และความเจ็บที่คละเคล้าผสมกันกับความต้องการที่รุ่มร้อนในกายเลโอนาดท์เดินเกมรักอย่างอ่อนโยนและเร่าร้อนสลับกันไปมา จวบจนจบเกมถึงสองครั้งติดๆ กัน จึงอุ้มร่างบางที่หมดแรงจนแทบจะ หลับคาอกไปอาบน้ำ จากนั้นก็พาสาวเจ้ามานอนกกกอดต่อที่เตียงกว้างอย่
“งั้นมาเล่นที่ห้องทำงานฉันไหมล่ะ มาไหม! เดี๋ยวสั่งขนมรอ”“ไม่ค่ะ!” มะลิฉัตรปฏิเสธอีกครั้ง“มาเถอะนะ! ตั้งแต่เช้าแล้ว ฉันประชุมไม่รู้เรื่องเลย” ปลายสายเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง เหมือนมีอะไรในใจ“ทะ...ทำไมคะ” เธอถามกลับอย่างสงสัย“ก็หัวใจมันอยู่ที่ห้องน่ะสิ!” เลโอนาดท์หยอดน้ำตาลใส่สาวเจ้าทันทีที่ได้โอกาส“บ้า! มีอะไรอีกไหมคะ? เดี๋ยวหัวหน้าจะมาถึงแล้ว” มะลิฉัตรหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันใด กับประโยคหวานเลี่ยนของคนหื่น“อายเหรอ?” เลโอนาดท์ถามยิ้มๆ“มีอะไรจะคุยอีกไหมคะ?” มะลิฉัตรถามพร้อมกับมองใบหน้า คมเข้มแวบหนึ่ง แล้วรีบเบือนหน้าไปมองทางอื่น เพราะอยู่ๆ ภาพของเธอกับเขาที่เร่าร้อนบนเตียงเมื่อคืนกลับมาฉายซ้ำอีกครั้ง“อะไรกันมะลิ จะรีบวางสายไปไหน นี่พอพักเบรกปุ๊บ! ฉันก็รีบโทร. หาเธอเลยนะ” ชายหนุ่มต่อว่าอย่างงอนๆ“คะ... คุณทานข้าวหรือยังคะ?”“ยัง! หน้าฉันมีอะไรติดเหรอ เธอถึงไม่อยากมอง”“ปะ... เปล่าค่ะ ก็แค่...”“แค่อะไร!”“เอ่อ... ฉัน”“บอกมาเดี๋ยวนี้!”“คือ... ฉันอายเรื่อง เอ่อ... เมื่อคืนค่ะ”“ฉันไม่เห็นจะอายเลย! นึกถึงทีไรก็อยากจะทำอีก เมื่อกี้ก็คิดๆ อยู่ว่าจะกลับไปหาเธอ แล้วให้เจซีเข้าประชุมแทน”“บ้า
“เห็นแต่ข้างหลังเนี่ยนะ?” เจซีว่าก่อนจะก้มลงมองมือถือต่ออย่างไม่สนใจ“สวยมากจริงๆ นะพี่ เสียดายที่บอสไม่มาด้วย แหม! อยากให้ได้เห็นจริงๆ”“มึงก็ถ่ายรูปพวกเธอส่งไปให้บอสสิวะ!” เจซีบอกอย่างเริ่มรู้สึกรำคาญขึ้นมานิดๆ“เป็นความคิดที่ดีมากๆ เลยพี่” จอห์นบอกก่อนจะล้วงมือถือในกระเป๋าขึ้นมาเตรียมเก็บภาพของสองสาว“ฮ่าๆๆ เอาที่มึงสบายใจนะ กูขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” เจซีส่ายหน้าอย่างเพลียๆ กับท่าทางซื่อแกมโง่ของลูกน้อง ‘หึ! ลองส่งไปดูสิ!เดี๋ยวมึงจะรู้สึก’“เดินดีๆ นะพี่” จอห์นตะโกนตาม ก่อนจะหันมาสนใจสองสาวที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ เพื่อดักรอถ่ายรูปส่งให้ผู้เป็นนายดูสิบนาทีต่อมา... ขณะที่เจซีเดินออกจากห้องน้ำมาได้เพียงสองก้าว มือถือที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อก็สั่นขึ้น เขาจึงล้วงมันออกมาดู ก็เห็นสายของผู้เป็นนายโทร. เข้า จึงรีบเดินแกมวิ่งออกไปที่ด้านนอกร้าน เพื่อกดรับสาย“แกอยู่ไหน?” เลโอนาดท์ถามด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ“อยู่ที่หน้าร้านครับ!” เจซีบอก“ผู้หญิงที่ไอ้จอห์นมันถ่ายรูปส่งมาคือมะลิ! แกเฝ้าเธอให้ดีๆ จนกว่าฉันจะไปถึง!” เลโอนาดท์บอ
Bangkok 14:30 น. Rocasander Grand Hotel...หลังจากที่ลงเครื่องเสร็จโดมินิกก็พาพราวดาราตรงไปยังโรงแรมของเพื่อนรัก เพื่อเอาของสำคัญที่เก็บไว้ในเซฟห้องนอนตนเลโอนาดท์ที่เพิ่งกลับจากชลบุรีมาถึงโรงแรมทันได้เห็นหลังของเพื่อนรักไวๆ จึงรีบวิ่งตาม“ซาเก้! ซาเก้!”โดมินิกที่กำลังรอลิฟต์หันไปมองตามเสียง “อ้าว! ลีโอ”“นายมาเมื่อไหร่?” เลโอนาดท์ถาม“เพิ่งมาถึง! จะพาพราวมาเปิดตัวคืนนี้ พรุ่งนี้จะพาไปลองชุดไทย ที่ห้องเสื้อ” โดมินิกบอกพร้อมกับดึงสาวเจ้าเข้ามาแนบกาย“สวัสดีครับคุณพราว” เลโอนาดท์เอ่ยทักทายด้วยสีหน้ายิ้มๆ“สะ... สวัสดีค่ะ” พราวดารายกมือขึ้นไหว้อีกฝ่าย ทำหน้าไม่ถูกเมื่อนึกไปถึงวันแรกที่เจอกับเขาที่โรงแรมเอื้องลานนา“ยินดีด้วยนะครับ” เลโอนาดท์บอก“เอ่อ... ค่ะ” พราวดาราเอ่ยรับไม่เต็มเสียง“ฉันว่าจะไปตามหามะลิที่เชียงใหม่น่ะ” เลโอนาดท์หันไปบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่เริ่มตึงนิดๆ“ผู้หญิงคนนั้น?” โดมินิกถามพร้อมกับทำท่าครุ่นคิด“ใช่! เธอหนีไปหลังจากที่เห็นข่าววันนั้น” เลโอนาดท์ตอบ ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน
“เอ่อ... เรื่องนี้ดิฉันไม่ทราบค่ะ ยังรอมะลิติดต่อกลับมาบอกเช่นกัน” จันทร์ฉายบอกพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ“ทำไมถึงเกิดเรื่องบ้าๆ แบบขึ้นได้ฮะ” เมลิซ่าหันไปเล่นงานบุตรชาย“ผมทะเลาะกับมะลิก็เลยลงไปนั่งดื่มที่คลับชั้นล่างของโรงแรม แล้วอยู่ๆ นางแบบนั่นก็เข้ามานั่งด้วย” เลโอนาดท์ถอนหายใจอย่างเพลียๆ เมื่อถูกซักไซ้ถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นอีกครั้ง“แล้ว...” เมลิซ่าเลิกคิ้วถามอย่างต้องการรายละเอียด“แล้วผมก็ลุกเดินหนีขึ้นไปที่ชั้นบนไงครับ” เลโอนาดท์บอกพร้อมกับทำหน้าเซ็งๆ หลังจากถูกมารดาถามเหมือนกับคนที่ไม่ได้มาด้วยกัน“ตอนนั้นหนูมะลิอยู่ที่ไหน?” เอเดนถามอย่างสงสัย“ที่ห้องนอนของผมครับ”“แล้วเธอหายไปได้ยังไงโดยที่ลูกไม่รู้” เมลิซ่ายิงคำถามต่อ“โธ่! นี่มัมไม่เชื่อใจผมใช่ไหม ถึงถามเหมือนจับผิดผมแบบนี้น่ะ” เลโอนาดท์ตัดพ้อด้วยน้ำเสียงนอยด์ๆ“แม่ไม่ได้จับผิด แต่อยากจะรู้ทุกๆ อย่าง คุณจันทร์เองก็คงอยากจะรู้ใช่ไหมคะ?” เมลิซ่าบอกพลางหันไปขอความเห็นจากอีกฝ่าย“เอ่อ... ค่ะ” จันทร์ฉายตอบไม่เต็มเสียง“งั้นฟังนี่แล้วช่วยตัดสินผมใหม่ด้วยนะ
วันต่อมา เวลา 10:27 น. Rocasander Grand Hotelที่ห้องรับรองของโรงแรมหนาแน่นไปด้วยนักข่าวจากหลากหลายสำนัก ที่มารอทำข่าวของหัวเรือใหญ่ โรคาซานเดอร์ คอร์ปอเรชั่น คนปัจจุบัน ที่เป็นข่าวฮ็อตหน้าหนึ่งเมื่อหลายวันก่อน“ได้ข่าวว่าครอบครัวของคุณเลโอนาดท์ กับครอบครัวของคุณโดมินิกเดินทางมาถึงไทยเมื่อวานใช่ไหมครับ” นักข่าวเปิดคำถามแรกอย่างไม่รอช้า“ครับ! พวกท่านเดินทางมาสู่ขอเจ้าสาวให้กับโดมินิก” เลโอนาดท์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ“คุณโดมินิกกับคุณพราวดารามีกำหนดจะหมั้นหมายกัน ในอีกห้าวันข้างหน้าใช่ไหมครับ?”“ครับ! ที่เชียงใหม่ โรงแรมเอื้องลานนา”“แล้วคุณเลโอนาดท์ล่ะครับ ใกล้จะมีข่าวดีหรือยัง?”“ก็น่าจะไล่ๆ กันครับ” เลโอนาดท์ตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ“พอจะเปิดเผยได้ไหมครับว่าสาวผู้โชคดีคนนั้นเป็นใคร ใช่นางเอกดังหรือเปล่าครับ?”“ไม่ใช่ครับ!”“แต่จากรูปที่เห็นวันก่อนในไนต์คลับ ทำให้ใครๆ ต่างคิดว่าคุณเลโอนาดท์กับคุณเชอร์รี่กำลังคบกันอยู่นะครับ”“เธอเข้ามานั่งคุยกับผมครับ มันเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่นาทีก่อนที่ผมจะลุกออกไป”
ชั้นบนสุด... โรงแรมโรคาซานเดอร์ แกรนด์“บอสครับ! บอส!” เจซีเอ่ยเรียกคนที่นั่งเหม่อให้รู้สึกตัว“มีอะไร?” เลโอนาดท์หันมามองคนสนิทแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไปมองทางเดิม“ผมสั่งอาหารเอาไว้! บอสลุกมาทานก่อนเถอะครับ”“ฉันยังไม่หิว!”“แต่บอสต้องทานอะไรบ้างนะครับ”“ฉันบอกว่าไม่...” เลโอนาดท์กำลังจะหันไปต่อว่า แต่ก็ตกใจที่เห็นบิดากับมารดาเดินเข้ามาด้านหลังของคนสนิท “แด๊ด! มัม”“เกิดอะไรขึ้น? เธอคนนี้ใช่ไหมที่ทำให้ลูกเปลี่ยนไป”เมลิซ่าถามพร้อมกับส่งหนังสือพิมพ์ให้บุตรชาย ที่มีสภาพเหมือนสิงโตที่ตายซากมานับเดือน“ไม่ใช่ครับ” เลโอนาดท์รับหนังสือพิมพ์มาดูก่อนจะโยนมันทิ้งลงถังขยะใกล้ๆ ด้วยท่าทางหงุดหงิด“งั้นคนไหน?” เมลิซ่าถามอย่างสงสัย“เธอไม่ได้อยู่ที่นี่ครับ”“หมายความว่า...” เอเดนถามพลางจ้องมองบุตรชายอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าอีกฝ่ายจะโทรมไปได้ถนัดตา ในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน“เธอหนีไปหลังจากที่เห็นข่าวนั่นครับ” เลโอนาดท์บอก“ก็สมควรนะ” เมลิซ่าบอกลูกชายตัวดี ด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน“โธ่! มัมครับ!”
13: 20 น. หน้าหอพักของอริน... (เชียงใหม่)“มะลิ!” อรินเอ่ยทักทายเพื่อนด้วยน้ำเสียงสดใส หลังจากที่รับสายของอีกฝ่ายเมื่อครู่ว่าใกล้จะมาถึง เธอจึงรีบวิ่งลงมารอที่หน้าหอ“ริน!” มะลิฉัตรลงจากรถเสร็จก็โผเข้าไปกอดเพื่อนอย่างดีใจ“ไม่เจอแค่สองเดือนสวยขึ้นเยอะเลยนะนี่” อรินเอ่ยแซวยิ้มๆ“บ้า! เธอสบายดีไหม?” มะลิฉัตรถามก่อนจะดันเพื่อนสาวออกมามองอย่างสำรวจ“สบายดีจ้ะ ว่าแต่พาแฟนมาด้วยเหรอ?” อรินมองเลยไปยังหนุ่มร่างสูงมาดเท่ที่ยืนด้านหลังอย่างสนใจ“ไม่ใช่สักหน่อย!” มะลิฉัตรส่งสายตาดุๆ ให้เพื่อนสาว ก่อนจะหันไปแนะนำคนที่มาด้วย “นี่ผู้กำกับฯ คเชนทร์จ้ะ พอดีเจอกันโดยบังเอิญ คุณคเชนทร์เลยอาสามาส่ง”“สวัสดีค่ะผู้กำกับฯ” อรินรีบยกมือไหว้ ‘แม่เจ้า! ผู้ชายอะไรหุ่นเพอร์เฟ็กต์สุดๆ ไปเลย’“สวัสดีครับคุณริน!” คเชนทร์ทักทายสาวร่างเล็กที่ยังอยู่ในชุดพนักงานต้อนรับของโรงแรมเอื้องลานนาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มผู้กำกับการหนุ่มพูดกับสองสาวต่ออีกครู่ก็ขอตัวกลับ อรินจึงพามะลิฉัตรหิ้วของเดินขึ้นห้องพักอย่างไม่รอช้าทันทีที่เข้ามาในห้องพัก มะลิฉัตรถึงกับยิ้มกว้างอย่างชอบใจ กับการตกแต่งห้องพักของเพื่อนสาว“ว้าว! ห้องสวยจัง” ม
เช้าวันต่อมา... (ไร่สิรันยากรณ์)ก๊อกๆๆเสียงเคาะประตูห้องนอนรัวๆ ปลุกให้คนที่นอนหลับอยู่ลุกขึ้น แล้วเดินตรงไปยังประตูด้วยท่าทางที่งัวเงีย“คุณเป็นคนให้ข่าวนี่ใช่ไหม?” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงตึงๆ ‘ไอ้บ้านี่ไปขุดรูปของเธอเมื่อสามปีก่อนมาจากไหนนะ!’“ข่าวอะไรเหรอพราว!” โดมินิกถามก่อนจะสะบัดหัวไปมาอย่างมึนๆ“ก็ข่าวนี่ไงล่ะไอ้คนบ้า!” พราวดาราบอกพร้อมกับส่งหนังสือพิมพ์ให้กับอีกฝ่ายด้วยสีหน้าตึงๆ“โอ้พระเจ้า!” โดมินิกตกใจนิดๆ ที่เห็นรูปของตนกับรูปของสาวเจ้าขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ ‘ข่าวรั่วไปได้ยังไงวะ’“อย่ามาทำหน้าเหมือนไม่รู้เรื่องนะ” หญิงสาวต่อว่าคนที่ทำให้ชีวิตของเธอวุ่นวายไปหมดตั้งแต่ที่ได้เจอกับอีกฝ่าย“ผม...”“คุณควรจะส่งฉันลงที่ไหนก็ได้สักที่ แต่คุณกลับพาฉันมาส่งที่บ้าน แล้วก็สร้างเรื่องขึ้นมากมายจนพ่อและแม่ของฉันเชื่อซะสนิทใจ ฮึก! แล้วคุณยังทำลายชีวิตฉันด้วยการลงข่าวบ้าๆ นี่อีก ฮึก! คุณมันเลวสุดๆ เลยรู้ตัวไหม!” พราวดาราต่อว่าไปยกมือขึ้นปาดน้ำตาไปอย่างรู้สึกเจ็บปวด“เฮ้! พราว ข่าวนี้มันเรื่องเล็กมากเลยนะคนดี”“คุณบอกว่าเรื่องเล็กอย่างนั้นเหรอ ไอ้คนบ้า ฮือๆๆ” พราวดาราต่อว่าพลางร
ตู๊ดๆๆๆ“ปิดเครื่อง!” เธอบอกพร้อมกับส่งมือถือให้อีกฝ่ายดู“บ้าจริง!” ธีรติเผลอสบถออกมาอย่างหัวเสีย“เกิดอะไรขึ้นบอกฉันมานะ เพื่อนฉันเป็นอะไร!” พิมาลาถามกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“โทร. หาแม่คุณ! แล้วถามว่ามะลิฉัตรอยู่ที่ชลบุรีไหม”“มันเกิดอะไรขึ้น!” พิมาลาถามอีกครั้งอย่างทนไม่ไหว“ทำตามที่ผมบอกพิ!” เขาบอกด้วยสีหน้าตึงๆพิมาลาเริ่มใจคอไม่ดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก รีบกดโทร. หามารดาตามที่อีกฝ่ายบอก เสียงรอสายดังขึ้นเพียงสองครั้ง ปลายสายก็กดรับ“แม่คะ! มะลิอยู่กับแม่ไหม”“ไม่! มะลิจะมาหาแม่งั้นเหรอ?”ปลายสายแกล้งถาม และเดาสถานการณ์ออกว่าตอนนี้ทางนั้นคงกำลังตามหาตัวของบุตรสาวอยู่“อะ...โอเคค่ะ เดี๋ยวพิโทร. กลับ!” พิมาลาบอกก่อนจะกดวางสายแล้วหันมาถามคนตรงหน้า ที่เอาแต่ถามและสั่งนู่นสั่งนี่ แต่ไม่ยอมบอกเหตุผลใดๆ กับเธอ“มะลิไม่ได้อยู่ที่ชลบุรี! ทีนี้คุณช่วยบอกฉันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น”“มะลิหนีไป” ชายหนุ่มกลอกตาอย่างเพลียๆ กับสายตาของสาวเจ้าที่จ้องมองมายังตน“หนี! ทำไมมะลิต้องหนีด้วยล่ะ” เธอถามอย่างไม่เข้าใจ“เรื่องมันซับซ้อนน่ะพิ! คุณไปใส่เสื้อผ้าแล้วมากับผม!”“ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้าคุณไม่บอกมาว
“บ้าจริง! มะลิเห็นข่าวนี่ไหม?” เลโอนาดท์จ้องมองรูปของตนกับนางเอกดังเมื่อคืนอย่างไม่เชื่อสายตา ก่อนจะหันไปถามธาริณีที่ยืนอยู่ใกล้ๆ“ดิฉันไม่ทราบค่ะ”“เพราะนี่ใช่ไหมที่ทำให้มะลิลาออก” เลโอนาดท์ถามอีกครั้งเพราะมั่นใจว่าอีกฝ่ายน่าจะรู้เรื่องนี้ดี“ท่านน่าจะถามตัวเองมากกว่านะคะ ว่าทำไม?” ธาริณีย้อนพร้อมกับยิ้มให้ผู้เป็นนายอย่างท้าทาย“อย่ามากวนผม! ไปตามมะลิมาเดี๋ยวนี้!” เลโอนาดท์ตวาดเสียงดังลั่นอย่างหัวเสีย เมื่อถูกแม่บ้านที่ดูแลตนเป็นประจำใช้สายตาและน้ำเสียงที่แปลกไปจากเดิม“ดิฉันเสียใจค่ะท่าน ดิฉันไม่รู้ว่าเธอไปที่ไหน” ธาริณีบอกอย่างไม่ทุกข์ร้อน“อย่ามาโกหก! คุณรู้ว่ามะลิอยู่ที่ไหน บอกมา! ไม่งั้นผมจะไล่คุณออก”“ท่านไม่ต้องไล่ค่ะ ดิฉันขอลาออกเอง” ธาริณีบอกพร้อมกับดึงป้ายชื่อหัวหน้าแผนกทำความสะอาดวางลงบนโต๊ะอย่างไม่แยแส“คุณณี!” ธีรติเรียกอย่างตกใจ มองสถานการณ์อย่างมึนงง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมธาริณีถึงแสดงท่าทีไม่พอใจผู้เป็นนายอย่างเห็นได้ชัด“นี่เธอ...” เลโอนาดท์กำลังจะพูดแต่กลับถูกอีกฝ่ายขัดขึ้น“ดิฉันหลงคิดว่าท่านรักมะลิจริงๆ ซะอีก ที่ไหนได้! ที่แท้ท่านมัน ก็แค่ผู้ชายเห็นแก่ตัว