สองชั่วโมงต่อมา... มะลิฉัตรขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ก็เห็นรถสปอร์ตออดี้สีดำจอดอยู่ เธอรู้สึกใจสั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
‘คงไม่ใช่รถไอ้บ้านั่นหรอกนะ!’ สาวเจ้าส่งสายตามองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง
“ว้าว! รถนี่ท่าจะแพงนะพี่ สงสัยจะมีผู้ใจบุญมาบริจาคเงินช่วยแน่ๆ” หนึ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นขณะจ้องมองรถหรูด้วยสายตาแวววาว
“สาธุ! ขออย่าให้เป็นอีตาสิงโตเลย” มะลิฉัตรพึมพำ
“สิงโตไหนเหรอพี่?” เด็กหนุ่มถามกลับอย่างสงสัย
“ไม่มีอะไรหรอก เราเอาของไปเก็บที่ห้องครัวกันเถอะ”
“ครับๆ” หนึ่งเอ่ย ก่อนจะเดินตามพี่สาวตรงไปห้องครัว
“ว้าว! ของเยอะเลยพี่มะลิ” แนนที่ยืนล้างผักหันมาเอ่ยด้วยสีหน้าดีใจ ที่เห็นของทะเลวางบนโต๊ะเต็มไปหมด
“จ้ะ แล้วน้องๆ ไปอาบน้ำกันใช่ไหม” มะลิฉัตรเงยหน้าขึ้นถามน้องสาววัย 9 ขวบ
“จ้ะพี่” แนนตอบก่อนจะยกผักที่ล้างเสร็จไปวางให้สะเด็ดน้ำ
“มีแขกมาเหรอ” เธอหันไปถามน้องสาว
“ใช่จ้ะพี่! ผู้ชายตัวโตๆ ผมยาว หน้าตาดุๆ หน่อย” แนนตอบก่อนจะเดินมาเปิดดูของทะเลบนโต๊ะ
“แนน! เดี๋ยวออกไปช่วยพี่หิ้วของ ข้างนอกยังมีอีก
“ฮึก! ถ้าฉันกลับไปคุณห้ามทำอะไรฉัน ห้ามเข้าใกล้ ฮึก! ฉันแค่อยากทำงานของฉัน ฉันไม่อยากเป็นผู้หญิงของคุณ” มะลิฉัตรต่อรอง เพราะเธอคงหางานใหม่ที่รายได้ดีแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ถ้าหากอีกฝ่ายรับปากว่าจะไม่ยุ่งกับเธออีก เธอก็ยังอยากจะทำงานที่นั่นเช่นเดิม“มะลิ! เธอเป็นเมียฉันนะ” เลโอนาดท์เอ่ยอย่างไม่เชื่อหูกับคำพูดเมื่อครู่“งั้นฉันก็ไม่กลับ ให้ตายยังไงฉันก็ไม่กลับ ฮึก!” เธอบอกพร้อมกับตั้งท่าจะร้องไห้อีกครั้ง“โอเคๆ งั้นกลับด้วยกันพรุ่งนี้”“ฉันจะกลับเอง คุณกลับไปได้เลย!”“ไม่มีทาง! ฉันมาถึงนี่แล้ว พรุ่งนี้ตอนสายๆ ฉันจะเข้าไปรับเธอกลับพร้อมกัน”“ไม่! ฉันจะนั่งรถกลับเอง!”“โอเค สิบโมงฉันเข้าไปรับนะ เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ”“นี่คุณพูดไม่รู้เรื่องหรือไงฮะ”“เธอต่างหากที่พูดไม่รู้เรื่อง! งั้นกลับกรุงเทพฯ ด้วยกันตอนนี้เลยไหม!”“ไม่! พรุ่งนี้สิบโมงเช้า ฉันจะนั่งรถมาหาคุณที่นี่!”“ถ้าเธอสายเกินห้านาที ฉันจะเข้าไปบอกเรื่องเราให้แม่เธอรู้”“ถ้าคุณทำแบบนั้น...ฉันจะหนีคุณไปให้ไกลเลยคอยดู”“ฉันถนัดเรื่องตามหาคนหาย เธอ
“ขอบคุณนะคะ”“จริงๆ ฉันมีโครงการจะสร้างที่นี่ใหม่ด้วยละ” เขาหันไปมองใบหน้าจิ้มลิ้มก่อนจะพูดต่อ “ฉันจะให้ทุนกับน้องๆ เธอ และให้งานทำ หลังจากที่พวกเขาเรียนจบ ฉันจะบริจาคเงินให้คุณจันทร์ฉายสิบล้าน ถ้าหากเธอยอมเป็นผู้หญิงของฉัน”“คุณ!” มะลิฉัตรอุทานอย่างไม่เชื่อหูว่าอีกฝ่ายจะกล้าพูดความต้องการออกมาตรงๆ“ฉันรู้ว่ามันฟังดูงี่เง่าและเห็นแก่ตัว เธออาจจะเกลียดฉัน แต่ตอนนี้ฉันไม่มีทางเลือก ฉันแค่อยากให้เธออยู่กับฉันทุกๆ วัน ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำแบบเมื่อตอนสายกับเธออีก” เลโอนาดท์บอกด้วยน้ำเสียงจริงจังมะลิฉัตรนิ่งเงียบไปทันใด คำถามมากมายวิ่งเข้ามาในหัวไม่หยุดหย่อน กับคำพูดที่เหมือนคนเห็นแก่ตัว หรือแค่... คนที่ไม่มีทางเลือก“เธอยังไม่ต้องให้คำตอบฉันวันนี้หรอก ฉันยังอยู่ที่ไทยอีกอาทิตย์หนึ่ง! นั่นแปลว่าเธอมีเวลาคิดทบทวนอีกหนึ่งอาทิตย์”“คุณลีโอคะ ขอบคุณสำหรับทุกๆ อย่างค่ะ เด็กๆ ดีใจกันใหญ่เลย” จันทร์ฉายเอ่ยกับชายหนุ่มที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กับบุตรสาวอย่างซาบซึ้ง“ผมยินดีครับ” เลโอนาดท์หันไปยิ้มกว้างให้คนที่ยืนน้ำตาคลออยู่ใกล้ๆ ด้วยความรู้สึกละอายนิดๆ เพราะ
“คุณลีโอมาแล้วลูก เอาไว้ค่อยโทร. คุยกันนะ”“ค่ะ” มะลิฉัตรเอ่ยรับพลางหันไปมองคนที่เดินลงมาจากรถอย่างขุ่นเคือง ‘มิน่า! เมื่อคืนแม่ถึงไม่ได้พูดอะไร ที่แท้ก็คุยกับอีตานี่แล้ว’“สวัสดีครับคุณจันทร์ฉาย” เลโอนาดท์ยกมือไหว้หญิงวัยห้าสิบอย่างนอบน้อม“สวัสดีค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ” จันทร์ฉายเอ่ยพร้อมกับยิ้มบางๆ ให้กับชายหนุ่ม“ครับ! ไปขึ้นรถกันเถอะมะลิ” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมดึงกระเป๋าในมือของสาวเจ้าเอาไปเก็บที่รถ“มะลิไปก่อนนะคะ” มะลิฉัตรเอ่ยก่อนเดินเข้าไปกอดมารดาแล้วเดินตามอีกฝ่ายไปขึ้นรถ“สวัสดีครับ” เลโอนาดท์ยกมือไหว้อีกครั้ง ก่อนจะขับรถพาสาวเจ้ากลับเข้ากรุงเทพฯ เพราะต้องรีบไปเข้าประชุมด่วนรอบบ่าย“มีอะไรจะถามฉันไหม?”“คุณคุยอะไรกับแม่ของฉันเมื่อคืน” เธอยิงคำถามทันที“อ๋อ! นึกว่าเรื่องอะไร?” เขาบอกพลางทำท่าขำๆ“นี่ฉันจริงจังนะ” มะลิฉัตรต่อว่าอย่างเคืองๆ“ฉันก็จริงจังเหมือนกัน ท่านไม่ได้บอกเธอเหรอ?” เขาหันกลับมาถามทันใด“ถ้าบอกแล้วฉันจะถามคุณเหรอ!” เธอบอกด้วยน้ำเสียงตึงๆ“ฉันบอกท่านว่าชอบเธอ” เขาบอกก่อนจะป
“ปล่อยแขนฉันนะ! ไอ้บ้ากาม!” หญิงสาวปัดมือหนาที่กำลังเอื้อมมาจับออกทันใด“เธอน่ะสิบ้ากาม! ฉันจะชวนเธอไปหาอะไรทาน ฉันหิว!” คนที่ถูกทำท่ารังเกียจใส่ บอกด้วยสีหน้าตึงๆ ‘คำก็หื่น สองคำก็บ้ากาม เดี๋ยวก็จับกดบนเตียงทั้งวันทั้งคืนซะหรอก!’“อะ... อ้าว ฉะ... ฉันนึกว่าคุณจะ... จะ...” มะลิฉัตรรู้สึกอายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เมื่อถูกต่อว่า ‘ก็ชอบพูดจาทะลึ่งๆ อยู่ตลอด ใครจะคิดว่าหิวข้าวล่ะ’“จะอะไร?” เลโอนาดท์ถามกลับ พร้อมกับดึงแขนของคนที่เพิ่งออกจากรถเข้ามาชิดตัว“ปล่อยนะ ฉันจะเดินเอง!”“ไม่! เธอกลัวใครจะเห็นเหรอ?”“โอ๊ย! ก็ได้ๆ” มะลิฉัตรบอกอย่างขี้เกียจจะทะเลาะด้วย‘ชอบขัดใจอยู่เรื่อย!’ เลโอนาดท์มองค้อน ก่อนจะบอก“เดี๋ยวไปเปิดห้องก่อนแล้วค่อยสั่งอาหารขึ้นไปทาน”“นี่คุณ!” มะลิฉัตรเรียกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ‘หึ! เปิดห้องทานข้าว! มุกหลอกควายแบบนี้ เอาไปใช้กับคนอื่นเถอะ’“เรียกเบาๆ สิ! เธอจะเสียงดังไปทำไม คนมองกันใหญ่แล้ว” เขาบอกพลางหันไปมองรอบกายอย่างรู้สึกอาย ที่เห็นใครต่อใครพากันหันมามองอย่างสนใจ“คุณทานเสร็จแล้วออกมานะ ฉัน
(ลีโอ) เลโอนาดท์ โรคาซานเดอร์ หนุ่มหล่อเลือดผสมอิตาลี ตุรกี รัสเซีย และไทย เขาเป็นชายหนุ่มที่ทรงอิทธิพลอันดับต้นๆ ของโลก ที่ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งประธานใหญ่ ผู้กุมบังเหียนของโรคาซานเดอร์ คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป ลอนดอน ด้วยวัยเพียง 36 ปี สืบทอดตำแหน่งจากผู้เป็นบิดา ‘เอเดน’ ที่วางมือแล้วไปใช้ชีวิตอยู่อิตาลีกับภรรยา ‘เมลิซ่า’ (มารดาของเลโอนาดท์)เขาถูกจัดอันดับให้เป็นหนุ่มฮ็อตที่หล่อรวยแห่งปี ไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหน ก็มีสาวข้างกายไม่ว่างเว้น ทั้งดารานางแบบที่ผลัดเปลี่ยนเวียนหน้ากันมาเป็นของเล่นชั่วคราวไม่หยุดหย่อน แต่เลโอนาดท์ก็ไม่เคยให้สาวคนไหนอยู่เคียงข้างกายข้ามคืนเลยสักครั้ง! เพราะสำหรับเขาแล้ว พวกเธอไม่มีค่าพอที่จะตื่นขึ้นมาเพื่อมองแสงอาทิตย์ของวันใหม่ พร้อมกันกับเขา!เธอก็แค่ผู้หญิงที่ต้อยต่ำ! มิอาจเทียบกับความสูงศักดิ์ ในชาติตระกูล และความร่ำรวยของเขาได้แม้แต่นิด แต่ไยถึงได้ปฏิเสธที่จะเป็นของเขา ยิ่งเธอดิ้นหนีและหวาดกลัว มันก็ยิ่งทำให้เขาอยากจะขย้ำและกลืนกิน กลิ่นสาปของเด็กสาว...ที่บริสุทธิ์ มันช่างหอมหวานและเย้ายวนใจ จนทำให้เขาแทบคลั่ง แล้วแบบนี้จะให้เขาปล่อยเธอไปอย่างนั้นหรือ?
“โธ่! นึกว่าจะแน่” สายไหมยิ้มเหยียดๆ ใส่สองสาว ทั้งที่ในใจก็กลัวว่าพิมาลาจะเอากาแฟสาดใส่ตนกับเพื่อน“แกอยู่ยากแล้วนังมะลิ ระวังตัวให้ดีๆ” กุ๊กไก่บอกพร้อมกับชี้หน้าอีกฝ่ายอย่างคาดโทษ“เป็นแค่เด็กกำพร้าน่ะ! หัดเจียมตัวเอาไว้ซะบ้างสิ คุณคเชนทร์เขาคงไม่บ้าเอาเธอไปเป็นคุณนายผู้กำกับฯ หรอก หึ!”สายไหมรีบดึงแขนของเพื่อนสาวเดินออกไป เพราะใกล้เวลาที่หัวหน้าแผนกจะมาตรวจงาน“เด็กกำพร้าแล้วมันหนักส่วนไหนไม่ทราบฮะ! อีไหมขัดฟัน!” พิมาลาตะโกนตามหลังด้วยสีหน้าเดือดดาล“ช่างเถอะพิ!” มะลิฉัตรปราม กลัวเสียงจะเล็ดลอดออกไปด้านนอกให้คนอื่นได้ยิน“พวกมันทำแบบนี้มากี่ครั้งแล้วฮะมะลิ” พิมาลาหันมาถามคนข้างๆ ด้วยอารมณ์ขุ่นมัวมะลิฉัตรถอนหายใจอย่างเพลียๆ ก่อนจะตอบ “ก็หลายครั้งอยู่ เราอยากจะลุกขึ้นสู้นะ อยากลองต่อยปากเสียๆ นั่นดูสักครั้ง! แต่พอนึกไปถึงหน้าน้องกับแม่แล้ว เราทำไม่ได้ เพราะที่นี่ให้เงินเดือนเยอะกว่าที่อื่นแถมสวัสดิการต่างๆ ก็ดี อะไรที่ทนได้ก็ทนไปก่อน”“แต่เธอก็รู้ว่ามันไม่จบอยู่แค่นี้แน่ๆ”“เอาน่า! ถ้าวันไหนที่มันไม่ไหวแล้วจริงๆ เราจะสู้ให้สุดใจขาดดิ้นไปเลยดีมะ”“เฮ้อ... ก็เป็นซะแบบนี้!” พิมาลาบอกก
“เดี๋ยวนะ! ใครบอกเธอว่าห้องสแกนนิ้วไม่มีกล้องวงจรปิด”สิรันถามพร้อมกับมองหน้าสองสาวนิ่งผลัวะ!จันจิราที่ผลักประตูห้องเข้ามาเอ่ยถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ หลังจากที่ทราบว่าหลานสาวของตนถูกเพื่อนในแผนกเดียวกันสาดกาแฟใส่“เธอสองคนใช่ไหมที่ทำหลานฉัน”“ค่ะ! หนูเป็นคนเอากาแฟสาดใส่กุ๊กเอง” มะลิฉัตรยอมรับ“ไล่ออก! ให้สองคนนี้ออกจากงานเลยนะคุณสิรัน” จันจิราบอกเสียงดังอย่างเอาเรื่อง“เอ่อ... สิเข้าใจนะคะว่ากุ๊กเป็นหลานของคุณจิรา แต่เราควรให้ความเป็นธรรมกับทุกคนค่ะ” สิรันบอกอีกฝ่ายอย่างใจเย็น“หลานฉันโดนขนาดนี้ ฉันจะเอาเรื่องเด็กนั่นให้ถึงที่สุด” จันจิราบอกเสียงดังจนเล็ดลอดออกไปด้านนอกห้อง“แจ้งความเลยไหมคะ? พอดีหนูมีเบอร์ผู้กำกับฯ อยู่ เดี๋ยวโทร.ให้เลยค่ะ” พิมาลาบอกพลางทำท่าจะล้วงมือถือออกจากกระเป๋าเสื้อ“พิมาลา!” สิรันเอ่ยปรามก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปกันใหญ่“ขอโทษค่ะหัวหน้า หนูแค่ทนฟังคนที่ตัดสินคนอื่นจากความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ คุณเห็นว่าหลานสาวของตัวเองเปียกไปด้วยน้ำกาแฟ แล้วคุณก็โกรธและตัดสินว่าพวกหนูผิด ประทานโทษนะคะคุณมองเห็นไหม? ว่าเพื่อนของหนูก็เปียกชุ่มไปด้วยน้ำแดงตั้งแต่หัวจดเท้าเหมือนกัน”
“มีเรื่องอะไรอีกหรือคะ” มะลิฉัตรถามพลางมองดูรูปของชายหญิงคู่หนึ่ง ที่ยังคงดูสง่างามและภูมิฐาน แม้ว่าอายุน่าจะล่วงเลยเข้าวัยห้าหรือหกสิบไปแล้ว ‘นี่คงเป็นรูปเจ้าของโรงแรมสินะ!’“ผมทราบเรื่องที่เกิดขึ้นคร่าวๆ จากคุณสิรัน และก็เปิดดูกล้องมาแล้ว ผมไม่อยากให้พนักงานมีปัญหากันในที่ทำงาน เพราะมันจะทำให้งานพังและเดือดร้อนเพื่อนร่วมงานที่ออกเวรไปแล้ว ต้องกลับเข้ามาทำงานต่อแทนพวกคุณ ฉะนั้นเพื่อตัดปัญหาทุกอย่าง ผมจะให้คุณทั้งสองคนมาเป็นผู้ช่วยเลขาฯ ที่หน้าห้องแทน พวกคุณโอเคไหม?”ผู้จัดการหนุ่มยื่นข้อเสนอ ตอนนี้พนักงานทั้งบริษัทกำลังลุ้นผลว่าการที่จันจิราออกโรงปกป้องหลานสาว และฉีกหน้าสิรันที่ห้องทำงาน จนอีกฝ่ายทนไม่ไหวขอยื่นใบลาออกนั้น เขาจะจัดการกับปัญหานี้ยังไง“เอ่อ... แต่คุณจิราไล่พวกเราออกแล้วนะคะ” พิมาลาท้วงด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ“ผมเป็นผู้จัดการ คำสั่งของผมถือเป็นที่สุด โอเค้!” ธีรติยกยิ้มนิดเมื่อจ้องมองสาวแกร่ง ที่คอยปกป้องเพื่อนในเทปบันทึกภาพที่สิรันส่งมาให้อย่างขำๆ ‘ท่าทางตอนนั้นกับตอนนี้ต่างกันลิบเลยนะพิมาลา!’“อะ... โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะที่ยังให้เราสองคนทำงานต่อ” พิมาลายิ้มกว้างอย่างดีใจ“เ