หลายวันต่อมาสายพิณได้รับหน้าที่ให้เอาปิ่นโตไปให้ปลัดโชคชัยที่บ้านพักประจำตำแหน่งของเขา“แม่เขาสัญญาว่าจะตำน้ำพริกสูตรเด็ดไปฝาก วันนี้ได้โอกาสทำยังไงก็ช่วยเอาไปส่งเขาหน่อยนะลูก ถ้าคุณปลัดเขาชวนกินข้าวเย็นก็กินเป็นเพื่อนเขาหน่อย” มารดาของเธอเองก็อยากได้ลูกเขยปลัด“ได้จ้ะแม่” หญิงสาวรับปากมารดาด้วยท่าทีที่เขินอาย หันหลังมาเจอกำนันเข้มยิ้มให้ก็ก้มหน้าด้วยความเขิน“คนนี้ถ้าเขาจีบลูกพ่อยินดีเปิดทางให้นะ” เขาบอกลูกสาวแล้วยิ้มอย่างพอใจ“คุณปลัดโชคชัยเขาอาจจะมีเมียมีลูกแล้วก็ได้นะจ๊ะ สาวบ้านนอกอย่างสายพิณจะไปสู้สาวๆ ในเมืองกรุงได้อย่างไร” เธอพูดด้วยความถ่อมตัวในใจหมายมั่นจะเอาปลัดมาทำลูกเขยให้พ่อแม่อย่างแน่นอนหญิงสาวเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดที่สุภาพและดูดีที่สำคัญให้เขาถอดได้ง่าย แล้วรีบขับรถไปจนถึงบ้านพักของเขาที่อยู่ในตัวอำเภอซึ่งตำบลของเธอใกล้กับตัวเมืองจึงใช้เวลาเดินทางไม่นานนักเมื่อไปถึงก็พบว่าเขาเพิ่งกลับมาถึงเช่นกัน พอเห็นว่าเธอมาเขาก็ยิ้มอย่างมีความสุข“แม่สายบัวกับพ่อกำนันให้สายพิณเอาน้ำพริกหมูทอด ปลาทับทิมทอด แล้วก็ผักสดมาฝากค่ะ” เธอเดินไปยื่นปิ่นโตให้เขา“เยอะเลย ผมกินไม่หมดแน่ งั้นคุ
หญิงสาวขับรถออกจากบ้านพักของปลัดได้ยังไม่พ้นดีนัก นายอำเภอที่พักอยู่บริเวณเดียวกันก็ขวางหน้ารถเอาไว้“มีอะไรหรือเปล่าคะนายอำเภอ” เธอถามอดีตคู่ขาที่เคยใช้ร่างกายติดสินบนให้ได้ตำแหน่งนางงามประจำจังหวัดมา“ไปคุยกันรำลึกความหลังสักหน่อยสิ” เขายิ้มกริ่มแล้วชักชวนเธอไปหาความสุขต่อในบ้านพักของเขาที่ห่างออกไปอีกร้อยเมตรหญิงสาวขับรถไปจอดที่บ้านพักของนายอำเภอแล้วเดินตามเข้าไปอย่างไม่ขัดขืน เพราะว่าเธอต้องใช้ประโยชน์จากเขาอยู่“ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายนะคะที่สายพิณจะได้รับใช้นายอำเภอ อีกไม่นานสายพิณก็จะแต่งงานแล้ว” เธอบอกเขาตามตรง“ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ ว่าจะเดินไปชวนคุณปลัดไปกินข้าวข้างนอกแต่ได้ยินเสียงครางดังจากห้องนอนเลยยืนฟังจนเกิดอารมณ์ก็เท่านั้น” เขารู้ดีว่าเรื่องนี้ย่อมเป็นความลับ เพราะเขาเองก็มีครอบครัวอยู่แล้วหญิงสาวยิ้มแล้วถอดชุดกระโปรงของตนออกไปนายอำเภอสงค์ถอดเสื้อผ้าออกไปทีละชิ้นตามเธอ เดินไปนอนรอที่เตียงแล้วมองหญิงสาวถอดชุดออกไปด้วยความกำหนัดลิ้นหนาของเขาเลียรอบริมฝีปากล่างอย่างกระหายรอให้เธอเข้ามาหาท่อนเอ็นลำเขื่องที่ผงาดขึ้นมาทำให้สายพิณอดใจที่จะชิมมันไม่ได้ เธอค่อยๆ เดินเข้าไปหาด้
หนึ่งเดือนต่อมาสายพิณอยู่ในชุดเจ้าสาวแบบพื้นเมือง ในพิธีแต่งงานแบบบายศรีสู่ขวัญพ่อแม่ฝ่ายชายดูเหมือนจะไม่ชอบใจในครอบครัวชนบทของลูกสะใภ้ แต่พอมาเห็นความเจริญที่เข้าถึงและตำแหน่งนางงามของสายพิณก็ชอบใจในความสวยของลูกสะใภ้และพอใจฐานะของกำนันเข้มที่ร่ำรวยที่สุดในตำบลและน่าจะลำดับต้นๆ ของจังหวัดที่ไม่น้อยหน้าไปกว่าครอบครัวของตนแขกเหรื่อในงานต่างร่วมแสดงความยินดีกับสายพิณ หญิงสาวยิ้มต้อนรับแขกเหรื่อหลังจากพิธีแต่งงานผ่านไปแล้ว และเชิญให้ทุกคนรับประทานอาหารกำนันเข้มอยู่ในงานก็น้ำตาซึมตั้งแต่เจ้าบ่าวแห่ขบวนขันหมากจนกระทั่งถึงตอนนี้ที่พิธีเสร็จสิ้นก็ยังคงกินเหล้าไปตาแดงไป“พ่อกำนันรักสายพิณมากนะครับ”“ค่ะ คุณปลัดอย่าทำสายพิณเสียใจก็แล้วกัน พ่อกำนันมีปืนด้วยนะคะ ระวังให้ดี” เธอบอกเจ้าบ่าวแล้วขู่เขาแกมหยอกทั้งคู่เดินไปไหว้แขกเหรื่อตามโต๊ะต่างๆ ที่จัดงานฉลองแบบโต๊ะจีนพี่พลบ้านนาโคกที่ได้กันในกระท่อมคืนฝนตกหลังงานหมอลำ พี่หนักลูกลุงผู้ใหญ่ที่จัดหนักในกองฟาง ลุงผู้ใหญ่ที่ฝันหวานกับเธอตอนเมา นายอำเภอสงค์ที่เธอติดสินบนเอาตำแหน่งและอีกหลายๆ คนที่เธอเองก็แทบจำไม่ได้ว่าเคยนอนด้วย ต่างก็พากันมาอวยพ
ชีวิตของฉันกำลังตกอยู่ในฤดูเหงาหลังจากที่เลิกกับแฟนหนุ่มไปแค่เวลาเดือนกว่า ตอนนี้ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองทนไม่ไหวกับความเหงานี้อีกต่อไปแล้ว“อยากมีแฟน” ฉันบ่นกับเพื่อนสาวคนสนิทแล้วพ่นลมหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้ม“อยากมีแฟนหรืออยากเอากับแฟน พูด!” แนนถามกลับอย่างรู้ทันตามประสาเพื่อนที่สนิทกันมานาน“ทั้งคู่แหละ อยากมีคนพาไปกินข้าว ดูหนัง เปลี่ยวใจมาก็อยากโดนเอา..พอใจหรือยัง” ฉันประชดเพื่อนรักแล้วเขี่ยโทรศัพท์ไถดูฟีดข่าวด้วยความเซ็งในอารมณ์“งั้นก็เล่นแอปหาคู่สิจะไปยากอะไร แมตซ์กับใครก็ไปลองเดทดู ถ้าใช่ก็คบไม่ใช่ก็ถือว่าได้คนคุยเพิ่ม” ความคิดของเพื่อนฟังดูเข้าท่าเลยทีเดียว ทำให้ฉันสนใจเป็นอย่างมาก“สอนฉันเล่นหน่อยสิ อยากได้ผู้” ฉันบอกด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นทำให้เธอหรี่ตามองที่เห็นว่าฉันเหมือนจะจริงจังกับเรื่องที่เธอแค่พูดทีเล่นทีจริง“เอาจริงเหรอ แอปที่ว่านี้ส่วนมากเขาไม่ได้แค่นัดคุยนะ เขานัดเอากันด้วย” เธอถามย้ำฉันอย่างจริงจัง“อืม ฉันก็อยากลองดูเหมือนกัน หอยแห้งมานานแล้วนะ” ฉันบ่นด้วยท่าทางที่จริงจังจนแนนยอมสอนให้ฉันเล่น“แอปนี้ ใส่ชื่อข้อมูลส่วนตัวลงไป พร้อมกับช่องคำถามต่างๆ เรื่องความชอบและ
เมื่อใกล้ถึงเวลานัดหมาย ฉันก็รีบอาบน้ำเพื่อให้ร่างกายสะอาดสะอ้านแล้วใส่ชุดเสื้อสายเดี่ยวเอวลอย กับกระโปรงสั้นรัดรูปสีดำที่เตรียมเอาไว้นัดเดทกันครั้งแรกใส่ชุดที่ดูเซ็กซี่หน่อยๆ คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง อีกอย่างเขาชวนไปทำอะไรกันตั้งแต่นัดแรกแบบนี้ก็คงจะชื่นชอบชุดนี้ไม่น้อยฉันไปถึงที่นัดหมายก่อนเวลาแล้วนั่งรอที่ล็อบบี้ของโรงแรม ที่นี่ไม่ใช่โรงแรมกระจอกเลยสักนิด เป็นโรงแรมระดับสี่ดาวแต่ก็หรูหราในระดับหนึ่งสักพักฉันก็เห็นผู้ชายที่หน้าตาเหมือนกับรูปโปรไฟล์กำลังมองมาที่ฉัน ฉันจึงยิ้มให้เขาแล้วสักพักปั๊กก็เดินเข้ามาทักทายฉัน“มิวใช่ไหมครับ”“ค่ะ” ฉันตอบแล้วยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ที่คิดว่าเขาน่าจะประทับใจที่สุด“เราขึ้นไปเลยไหมครับ หรือว่ามิวอยากดื่มอะไรก่อน”“ขึ้นห้องเลยก็ได้ค่ะ” ฉันรู้ความต้องการของเขาอยู่แล้ว จึงตอบตกลงไปและเดินตามเขาไปยังเคาน์เตอร์ต้อนรับมองดูเขาจองห้องแล้วเราก็เดินควงกันขึ้นไปยังห้องพักด้านบนพอถึงห้องเราก็ดื่มเครื่องดื่มที่มีในห้องแล้วนั่งพูดคุยกันสักพักเพื่อให้ต่างคนต่างรู้สึกไม่ประหม่า แล้วเขาก็เข้าไปอาบน้ำในขณะที่ฉันถอดเสื้อผ้าแล้วสวมชุดคลุมของทางโรงแรมไว้รอเขาปั๊ก
หลังจากที่แยกทางจากปั๊ก และเห็นว่าเขากลับไปแล้วฉันก็ยังไม่รีบกลับห้องเพราะกลัวว่าเขาจะแอบตามมา แล้วนัดให้เพื่อนสาวคนสนิทออกมารับไปทานอาหารค่ำด้วยกันเพื่อพูดคุยถึงเรื่องนี้“อะไรนะ นี่แกนัดคุยกันวันแรกก็ไปแง๊บๆ กันแล้วเหรอ”“อืม เขาขอน่ะ ฉันก็ว่าไม่เสียหายนี่ ในเมื่อเราก็ระบุความสนใจถึงเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว” ฉันบอกไปตามตรง“อืม เข้าใจแล้ว ล่ะไงทีนี้ทำไมถึงไม่อยากคบต่อ”“ไม่ชอบน่ะ เรื่องบนเตียงพอแก้ขัดได้แต่ไม่โดนเท่าไร จูบไม่กี่ทีก็เสียบล่ะ ไม่ชอบ” ฉันบอกตามตรงขณะที่เรานั่งรถไปหาร้านอร่อยแถวๆ ที่พักของฉันทานกัน“แล้วจะแมตซ์คู่อีกตอนไหน” แนนถามเกี่ยวกับการสุ่มเลือกคู่ในแอปพลิเคชั่นหาคู่ชื่อดัง“ไม่รู้สิ อาจจะคืนนี้ แต่ละลดความสนใจเป็น ‘นัดคุย’ ยังไม่ต้องรีบร้อนมีอะไรกัน คุยถูกคอก็ค่อยนัดกันไปกินข้าวดูหนัง แบบนี้น่าจะโอเคกว่า”“แล้วแต่แกเถอะ ขอให้เจอคนที่ใช่เร็วๆ นะ” แนนผู้ไม่เคยขัดมีแต่ส่งเสริมเพื่อน ทำให้ฉันสบายใจทุกครั้งที่อยู่ด้วยสักพักปั๊กก็ทักมาถามว่าฉันกำลังจะไปไหน ฉันจึงรู้ได้ทันทีว่าคิดไม่ผิดเข้ากำลังตามดูฉันอยู่แน่“ทานข้าวกับเพื่อนค่ะ” ฉันพิมพ์ตอบกลับไปแล้วถอนหายใจออกมา“อะไร
ฉันอยู่ในชุดที่สุภาพเพราะคู่นัดเป็นคนที่มีอายุในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังคงดูดีและทันสมัยไปในตัวไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังแน่พี่โต้งเองก็มาในชุดที่สุภาพ เสื้อโปโลสีเรียบและกางเกงยีนของเขาทำให้ดูดีในระดับหนึ่ง และที่ถูกใจฉันมากก็เห็นจะเป็นช่อกุหลาบเล็กๆ ในมือเขาที่มอบให้ฉันตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน“ขอบคุณมากนะคะ”“ชอบไหม”“ชอบค่ะ” ฉันตอบแล้วยิ้มให้แก่เขาพี่โต้งยื่นมือมาตรงหน้าเพื่อขอมือฉัน พอฉันวางมือลงเขาก็จับมือฉันเดินไปซื้อตั๋วด้วยกันแล้วให้ฉันเลือกที่นั่ง“เอาที่นั่งตรงกลางแบบนี้จะได้เห็นจอในระดับสายตาพอดี พี่โต้งเห็นด้วยไหมคะ”“แล้วแต่เลยครับพี่ยังก็ได้” เขาตอบอย่างสุภาพและให้เกียรติ ฉันจึงตัดสินให้เขาผ่านในใจพร้อมกับเลือกที่นั่งแล้วเขาก็ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดโดยไม่ยอมให้ฉันหารครึ่งเราซื้อเครื่องดื่มกับป๊อปคอร์นเข้าไปในโรงหนัง ระหว่างที่ดูหนังกันมือเราชนกันในถังป๊อปคอร์นอยู่หลายครั้งเป็นโมเมนต์ที่ทำให้ใจเต้นแรงไม่น้อยช่วงท้ายก่อนที่หนังจะจบเขาก็เลื่อนมากุมมือของฉันเอาไว้ขณะที่เราดูหนังด้วยกัน ไม่ได้มาลูบแข้งลูบขาหรือล้วงควักอะไรอย่างที่ฉันแอบคิดมาก่อนหน้านี้พอหนังจบเราก็จูงมือฉันออก
เราคบหาดูใจและไปทานอาหารด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง โดยที่เขาอาสาจ่ายให้ฉันทุกมื้อหลังจากที่ฉันรู้ฐานะที่แท้จริงของเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจของเขาอีก ปล่อยให้เขาได้เอาใจฉันอย่างเต็มที่พี่โต้งดีกับฉันมาก และฉันเองก็ยังไม่อยากจะปล่อยให้เขาหลุดมือไป ดังนั้นจึงไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเขา มีแต่เขาที่ซื้อของขวัญให้ทุกครั้งที่เราเจอกันจนฉันต้องบอกให้เขาพอ“ไม่เอาแล้วนะคะ เจอกันก็มีของขวัญให้มิวตลอด มิวเกรงใจนะคะแต่ละอย่างแพงๆ ทั้งนั้น ข้าวก็เลี้ยง ของก็ให้ มิวสิไม่มีอะไรให้พี่โต้งเลยสักอย่าง” ฉันบ่นให้เขาเมื่อครั้งนี้เขาซื้อน้ำหอมเคาน์เตอร์แบรนด์ดังให้ฉัน ในครั้งแรกที่ยอมให้เขาขึ้นมาหาถึงห้อง“เราเป็นแฟนกันนะ พี่ก็อยากให้อะไรมิวบ้าง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เอาใจแล้วทำหน้าตาออดอ้อนขัดกับวัยของเขาแต่ก็น่ารักเป็นอย่างมาก ทำให้ใจเต้นแรงได้ดีเลยทีเดียว“แต่มันเยอะเกินไปนี่คะ มิวรับไม่ไหวหรอก”“งั้นก็ตกลงเป็นแฟนพี่สิ” เขาขอฉันเป็นแฟนแล้วยิ้มแป้นรอให้ฉันตอบตกลง“ที่ผ่านมาหนึ่งเดือน ไม่ใช่ว่าเราเป็นแฟนกันแล้วเหรอคะ”“นี่หมายความว่า มิวเป็นแฟนพี่แล้วใช่ไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นและดีใจ“ค่ะ มิวเป็นแฟนพี่โ
สองเดือนแล้วหลังจากที่ผมกลับมาจากบ้านเกิดของมิน เราสองคนติดต่อกันทุกวันไม่เคยขาด แม้เธอจะยังไม่เปิดตัวผมเพราะสัญญากับพ่อแม่ไว้ว่าจะเรียนให้จบก่อนค่อยมีแฟนแต่ผมก็รู้ว่ามินไปไหนไม่รอดเช่นเดียวกับผมที่รักเธอจนหัวปักหัวปำแบบนี้มินเดินทางมาถึงได้สองวันแล้ว แต่เรายังไม่มีโอกาสนัดเจอกันเลยสักครั้งเพราะต้องพักอยู่กับเมย์ชั่วคราวจนกระทั่งถึงวันนี้ที่เธอได้ห้องพักที่ผมแอบแนะนำให้เธอมาอยู่ใกล้ๆ ผม“บังเอิญจังที่ห้องของมินอยู่ใกล้กับพี่เอก เมย์จะได้วางใจให้พี่เอกมาดูแล” เมย์บอกด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นดีใจ“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ มินดูแลตัวเองได้” เธอแกล้งพูดอย่างเย็นชา แต่ผมก็อมยิ้มสู้กลับไป“ไม่ชอบอย่างไรก็ได้อย่างนั้น ระวังนะครับน้องมินจะเผลอรักพี่แบบไม่ทันตั้งตัว” ผมหยอกล้อเธอแล้วดูใบหน้าแดงเรื่อที่ทำทีว่าโกรธนั่น“เอาล่ะมิน พี่เอกเขาอยู่แถวนี้จะชำนาญพื้นที่และซอกซอยมากกว่าพี่ ให้เขาช่วยดูแลน่ะดีแล้ว”“ค่ะพี่เมย์” มินรับปากเสียงเบาแล้วทำหน้ามุ่ยใส่ผม “พี่จะดูแลมินอย่างดีเลย เมย์ไม่ต้องห่วง” ผมบอกให้พี่สาวเธอวางใจแล้วยิ้มกริ่มยักคิ้วให้กับมินที่เมินหันหน้าไปทางอื่นผมช่วยพวกเธอย้ายของเข้ามาหอพักแห่ง
ตอนแรกเราคิดว่าจะเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้ตอนเช้ามืด แต่ว่าตอนทานอาหารด้วยกันเช้านี้ก็เปลี่ยนแผนการเดินทางกะทันหัน“พรุ่งนี้คงมีคนอยากเดินทางตีสามตีสี่เหมือนกัน พ่อว่าออกสักสี่ทุ่มดีไหมรถจะได้ไม่ติดยาว”“แบบนั้นก็ดีนะคะพี่เก่ง” เมย์หันไปถามเก่ง เห็นด้วยกับที่พ่อตนแนะนำเพราะปีก่อนก็ไปเจอรถติดกลางทางยาวนานมากกว่าจะถึงที่หมาย“ก็ดีนะ เดี๋ยวฉันพาเมย์ไปแวะหาเพื่อนเขาก่อน เย็นๆ เราค่อยไปหาซื้อของฝากกันดีไหมเอก” เก่งบอกอย่างเห็นด้วยแล้วหันมาถามผม“อืม เอาสิ” ผมลอบมองไปที่มิน เธอทำหน้าผิดหวังเล็กน้อยและพยายามเก็บอาการเราตกลงกันว่ากลางดึกคืนนี้ผมจะสั่งลากับเธออย่างสุดเหวี่ยง แต่ว่าคงทำไม่ได้แล้วเพราะว่าการเดินทางถูกเลื่อนเข้ามาเร็วกว่าเดิม“น้องมินไม่ไปไหนเหรอครับวันนี้” ผมแกล้งถามแซวเธอ เอ็นดูคนอยากเอาที่ทำหน้าผิดหวังแบบนี้ แต่ผมรู้ว่าคนเจ้าเล่ห์และเจ้าแผนการอย่างเธอต้องมีวิธีที่ทำให้เราได้สั่งลากันอย่างแน่นอน“เออ จริงสิวันนี้ไม่ออกไปกับเพื่อนเหรอมิน”“ไม่จ้ะแม่ มินก็ต้องเก็บของเตรียมกลับหอพรุ่งนี้เหมือนกัน” เธอตอบแล้วยิ้มเศร้าๆ จนผู้เป็นแม่ต้องเข้าไปกอดลูกสาวไว้เพื่อปลอบใจ“ตายแล้ว โตเป็นสา
ผมที่แกล้งว่าป่วยและอ่อนเพลียเพราะอาการท้องเสีย จำเป็นต้องแสดงบทบาทของตัวเองต่ออย่างสมจริงเพราะว่าจะใช้ข้ออ้างนี้ไว้ใช้ประโยชน์ในภายหลัง“ยังไม่หายอีกเหรอพ่อเอก” แม่ของมินถามด้วยความห่วงใยแล้วนำน้ำเกลือแร่มาให้ผมดื่ม“รู้สึกว่ายังเพลียๆ และยังเข้าห้องน้ำบ่อยอยู่เลยครับ”“เย็นนี้ที่วัดมีงานวัด จะไปได้ไหมล่ะ มีวงดนตรีลูกทุ่งหมอลำมาด้วยนะ” เก่งถามผมคงเสียดายหากผมไม่ได้ไป“ก็อยากไปนะ แต่ฉันกลัวว่าจะเป็นภาระนะสิ ขออยู่เฝ้าบ้านให้ดีกว่า” ผมบอกเพื่อรักแล้วหันไปยิ้มให้กับทุกคนที่ดูจะห่วงใยอาการของผมมาก“แล้วนั่นจะไปไหนล่ะมิน” เมย์ร้องถามขึ้นมา เห็นหน้าเธอแล้วก็อดคิดถึงตอนที่แอบดูทั้งคู่เอากันไม่ได้“ออกไปงานวัดกับเพื่อนน่ะพี่เมย์ นัดกันเอาไว้แล้ว”“ไปกับเพื่อนอีกแล้ว” แม่เธอบ่นขึ้นมา“อย่าบ่นหน่อยเลยแม่ ลูกมันก็นานๆ จะออกไปกับเพื่อน มินน่ะดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว ใช่ไหมลูก” พ่อหันไปช่วยพูดกับแม่แล้วโบกมือให้มินไปผมอมยิ้มในใจ เธอจะออกไปกับเพื่อนที่ไหนเล่า แค่ทำให้ทุกคนตายใจแล้วจะย้อนกลับมามีความสุขกับผมต่างหากล่ะ‘เจ้าแผนการจริงๆ ’ ผมยิ้มให้กับความเจ้าเล่ห์ของเธอครอบครัวคงจะตั้งความหวังกับลูกสา
เก่งและเมย์ชวนผมไปทำบุญที่วัดที่กำลังจัดงานทำบุญใหญ่ตามประเพณี ผมหาข้ออ้างว่าตนเองท้องเสียแล้วขอนอนพักที่บ้านตามที่ตกลงกับมินเอาไว้เมื่อทุกคนในบ้านออกไปกันหมดแล้ว มินเองที่ออกไปทำบุญกับเพื่อนๆ แต่เช้าก็ย้อนกลับมาแล้วพาผมนั่งรถมอเตอร์ไซค์ไปที่ทุ่งนาของที่บ้าน แล้วจอดรถที่หน้ากระท่อมเล็กๆ แห่งหนึ่งที่มินเรียกมันว่าเถียงนาบรรยากาศของทุ่งนาเงียบสงบมาก มองไปทางไหนก็มีแต่ทุ่งนาไม่มีคนอยู่แถวนี้เลย“ตอนนี้ชาวบ้านไปรวมตัวที่วัดกันหมดแล้วค่ะ รับรองว่าไม่มีใครมารบกวนเราสองคนแน่” เธอพูดเสียงหวานแล้วเดินนำผมเข้าไปยังเถียงนาที่ว่านั่น“คนอื่นไปทำบุญแต่เรามาทำบาปกัน พี่ใจคอไม่ดีเลย” ผมพูดไปอย่างนั้น ตื่นเต้นกับสถานที่จนอาวุธดันตัวแข็งตั้งลำโด่แล้ว“ไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรหรอกค่ะ มินยี่สิบเอ็ดปีแล้วนะคะปีหน้าก็เรียนจบแล้ว อีกอย่างมินเองก็เต็มใจ”เราสองคนยิ้มให้กันแล้วช่วยกันถอดเสื้อผ้าพาดเอาไว้ที่ปลายแคร่ มีเสื่อปูเอาไว้อยู่แล้วแบบนี้สถานที่เหมาะเจาะมากผมดึงมินมากอดแล้วจูบที่ริมฝีปากเธออย่างดูดดื่ม แทรกปลายลิ้นเกี่ยวจูบกันด้วยความปรารถนามือของผมล้วงเข้าไปในร่องสวาทของเธอ มือของเธอจับท่อนลำผมรูดรั้ง
ในช่วงเวลากลางดึกที่ผมเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ แม้ทุกอย่างเริ่มเงียบสงัดตั้งแต่ช่วงสี่ทุ่มจนได้ยินเสียงลมหนาวที่พัดผ่านยอดไม้ แต่ผมก็ยังไม่วางใจแล้วรอจนถึงเวลาห้าทุ่มผมค่อยๆ ย่องขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน เสียงดังเอียดอาดของพื้นไม้เวลาที่เดินย่างลงไปทำให้ผมหวั่นใจว่าจะมีคนตื่นมาดูมากแต่โชคดีที่ไม่มีใครรู้สึกตัวเพราะอากาศหนาวที่ทำให้ทุกคนนอนหลับสบายใต้ผ้าห่มห้องแรกที่อยู่ซ้ายมือมีชื่อของมินติดอยู่อย่างชัดเจน ผมยิ้มกริ่มแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องเธอ มินกำลังรอผมอยู่แล้วทำนิ้วชนที่ปากทำสัญญาณให้ผมเงียบแล้วพาผมไปที่ผนังห้องของเธอ“รอตั้งนาน มาดูฉากเด็ดกัน” เธอบอกเสียงเบาแล้วให้ผมส่องดูรูเล็กๆ ที่เป็นรอยแตกของไม้เพื่อมองทะลุไปยังอีกห้อง“พี่เก่งกับพี่เมย์กำลังเอากัน กลับมาบ้านทีไรก็เอากันแบบนี้ตลอดเลยลีลาโคตรเด็ด” เธอกระซิบข้างหูผมแล้วเอามือลูบท่อนลำภายใต้กางเกงผมกลืนน้ำลาย มองดูลีลาของเมย์อย่างตื่นตาเรือนร่างที่อวบอัดขย่มลงไปแล้วเม้มริมฝีปากกลั้นเสียงครางกันอย่างสุดฤทธิ์ ในขณะที่เก่งเองก็ยกคอขึ้นดูดสองเต้าด้วยความกระหายมือของมินก็ลูบไล้ผมไม่หยุด แล้วถอดกางเกงผมออกไปคุกเข่าอมท่อนลำให้ผมในขณะที
มินดันผมไปชิดที่ผนังห้องน้ำ เธอยิ้มแล้วถอดผ้าขนหนูออกไปแขวนไว้เผยให้เห็นรูปร่างสวยงามอย่างเต็มตา ส่ายหน้าอกให้กระเพื่อมตรงหน้าให้ผมมองมันด้วยความปรารถนาเธอคุกเข่าลงลูบไล้ท่อนลำประจำกายจนมันขยายใหญ่คับมือ ปลายลิ้นชื้นของเธอเลียไปรอบๆ ปลายหยักแล้วดูดเบาๆ ไล่ไปตามเส้นเลือดที่ขดอยู่รอบลำอย่างชำนาญ เป็นวิธีการที่บ่งบอกว่าเธอน่าจะเคยทำมันมาก่อนหน้านี้แล้ว“ทำไมเลียเก่งขนาดนี้” ผมชักสงสัยแล้วสิว่า ต่อหน้าคนอื่นเธอจะเป็นคนเรียบร้อย แต่ว่าลับหลังมาร้อยก็คงเสร็จเธอเรียบ“ถ้าเสียงดังมีคนได้ยิน พี่เอกเองจะซวยนะคะที่เข้ามาปลุกปล้ำมินในห้องน้ำ” เธอขู่เสียงเบา จากนั้นก็อมส่วนหัวเข้าไปแล้วใช้ริมฝีปากรูดส่วนปลายพลางใช้มือช่วยรูดชักไปด้วยผมทนต่อความเสียวที่เกินต้านไม่ไหว โยกสะโพกดันท่อนลำนั้นเข้าไปในปากเธอแล้วครางเสียงเบาในลำคอก้มมองริมฝีปากสีชมพูเรื่อที่ครอบครองท่อนลำของผมด้วยความพอใจ“เป็นแฟนพี่นะ” ผมขอเธอเสียงเบาเธอคายท่อนลำผมออกไปแล้วยืนสบตาด้วยแววตาที่ฉ่ำหวาน “ต้องดูก่อนค่ะว่าลีลาพี่เอกดีแค่ไหน หากเราเข้ากันได้ดีมินก็ขอคิดดูอีกทีก่อน”พูดจบเธอก็ดันผมไปนั่งที่ชักโครกแล้วเป็นฝ่ายนั่งหันหลังเริ่มข
ในวันหยุดยาวของปีนี้ ปกติแล้วผมต้องกลับไปเยี่ยมบ้านกับแฟน แต่พอเราเลิกกันผมก็เคว้งและไม่ได้ตั้งใจจะไปไหนเพราะบ้านตัวเองก็ไม่มีพ่อแม่อยู่แล้ว ญาติๆ ที่เหลืออยู่ก็ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กันนัก พอได้รับคำชวนจากเพื่อนร่วมงานคนสนิทผมจึงตอบรับโดยไม่ต้องคิดมากเราเดินทางไปถึงจังหวัดบ้านเกิดของเมย์ที่เป็นเมียของเพื่อนสนิทผม พอไปถึงก็มีญาติๆ ออกมาต้อนรับ และหนึ่งในนั้นคือ ‘มิน’ น้องสาวของเมย์ที่สวยสะกดตาสะกดใจผมมาก“นี่มินน้องสาวของเมย์ นี่พี่เอกนะเป็นเพื่อนที่ทำงานในแผนกเดียวกันกับพี่” เก่งแนะนำให้เราได้รู้จักกัน เธอยกมือไหว้ผมแล้วยิ้มอย่างไว้ตัวทำให้ผมรู้ว่าผู้หญิงคนนี้คงจีบไม่ง่ายแน่“มากันเหนื่อยๆ เข้าไปพักด้านในก่อนนะคะ มินทำความสะอาดห้องเอาไว้แล้ว ส่วนพี่เอกมินกางมุ้งให้นอนที่ห้องโถงคงไม่เป็นไรนะคะ” เธอหันมาถามผมเสียงหวาน“ไม่ครับ พี่นอนไหนก็ได้” ผมตอบอย่างสุภาพแต่ว่าสายตานั้นปิดบังความรู้สึกไม่ได้ว่าชื่นชอบเธอ“มินน่ะเขาไม่สนใจผู้ชายหรอก รายนั้นน่ะตั้งใจเรียนและเรียบร้อยเป็นแม่ศรีเรือน ผู้ชายไม่มีโอกาสได้จีบสำเร็จหรอก” เมย์บอกผมเมื่อเห็นว่าผมมองตามน้องสาวเธอตาเชื่อม“หวงเหรอเมย์ เอกมันก็โส
ทุกๆ เช้าตั้งแต่ที่มาอยู่ที่นี่ฉันตื่นขึ้นมาทำอาหารให้กับพี่โต้งแบบง่ายๆ เขาจะตื่นสายเป็นประจำเพราะจะเข้าไปที่ร้านช่วงสายจนถึงเย็น ฉันจึงไม่ต้องตื่นเช้ามากก็มีเวลาทำอาหารให้กับเขา จะเรียกว่ามื้อเช้าก็ไม่ใช่มื้อเที่ยงก็ไม่เชิง เราจึงเรียกกันว่ามื้อสาย“วันนี้ทำอะไรครับ”“วันนี้ทำไมตื่นเช้าจังละคะ มิวยังไม่ได้ทำกับข้าวเลย” ฉันพึ่งหุงข้าวไปเขาก็เดินตามฉันลงมาแล้ว“วันนี้ลืมบอกว่าไม่ต้องทำกับข้าว เราไปทานข้างนอกดีกว่า ไปอาบน้ำแต่งตัวสิ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สดชื่น คงอยากให้ฉันไปที่ร้านด้วยแน่ๆ“ค่ะ” ฉันรับปากเขาแล้วเราก็ขึ้นห้องไปอาบน้ำด้วยกัน“อาบพร้อมกันนะจะได้ไม่เสียเวลา” เขาบอกขณะที่ฉันถอดเสื้อผ้าออก แล้วเขาก็ถอดตามฉันเข้ามาในห้องน้ำด้วย“แน่ะ แบบนี้จะไม่ช้าว่าเดิมเหรอคะ” ฉันถามอย่างรู้ทัน“ตอนเช้าไม่นานหรอกน่า” พูดจบเขาก็ดึงฉันไปจูบฉันคล้องคอรับจูบจากเขาอย่างดูดดื่มก่อนที่เราจะเริ่มลูบไล้และไซ้จูบกันอย่างหวานชื่นพี่โต้งดันตัวฉันไปที่อ่างล้างหน้าแล้วอุ้มฉันขึ้นไปนั่งที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ยืนกอดจูบฉันแล้วดันอาวุธที่แข็งแกร่งมาถูไถที่ร่องสวาทในขณะที่จูบไปด้วย“อื้ม หอมจัง” เขาซุกจ
ฉันตัดสินใจย้ายไปอยู่กับพี่โต้งตามที่เขาชวน บ้านของเขาอยู่แค่คนเดียว ไม่มีแม้แต่แม่บ้านเขาทำความสะอาดบ้านเองและจ้างบริษัททำความสะอาดมาทำให้เดือนละครั้ง“บ้านไม่ได้กว้างมากนะ เพราะพี่คิดว่าจะอยู่คนเดียวเลยไม่ได้สร้างหลังใหญ่มาก”“ไม่ใหญ่ของพี่นี่อยู่ได้ห้าคนเลยนะคะ มีห้องนอนตั้งสามห้องแน่ะ” ฉันส่ายหัวกับความถ่อมตนของแฟนต่างวัย“ห้องนอนใหญ่เป็นของเรา อีกสองห้องก็เอาไว้ให้ลูกดีไหม” เขาบอกเสียงทุ้มแล้วเขามาสวมกอดจากด้านหลังในขณะที่ฉันจัดเสื้อผ้าใส่ตู้อยู่“พึ่งคบกันไม่ถึงสองเดือนเลย วางแผนมีลูกแล้วเหรอคะ”“พี่บอกแล้วไงว่ารักและมั่นใจในตัวมิว อายุพี่เองก็มากแล้วนะ อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แล้ว และมิวคือคนที่พี่เลือก” เขาพูดเสียงเบาแต่ว่าเต็มไปด้วยความจริงจังและความหมายที่ลึกซึ้ง“มิวดีใจนะคะที่พี่โต้งเลือกมิว ขอบคุณที่วางใจมิวค่ะ”เขาจับฉันหมุนตัวไปสบตาแล้วยิ้มกว้างให้ก่อนจะรั้งฉันเข้าไปกอดไว้แน่น“พอได้แล้วค่ะ เดี๋ยวมิวก็จัดของไม่เสร็จกันพอดี”“โอเค งั้นพี่ออกไปทำงานก่อนนะ ตอนเย็นจะมารับไปทานข้าวข้างนอก”“ค่ะ ตั้งใจทำงานนะคะ” ฉันหอมแก้มเขาแล้วจ้องใบหน้าที่ยิ้มกว้างมองฉันอย่างไม่วางตา ก่อนจ