หญิงสาวขับรถออกจากบ้านพักของปลัดได้ยังไม่พ้นดีนัก นายอำเภอที่พักอยู่บริเวณเดียวกันก็ขวางหน้ารถเอาไว้
“มีอะไรหรือเปล่าคะนายอำเภอ” เธอถามอดีตคู่ขาที่เคยใช้ร่างกายติดสินบนให้ได้ตำแหน่งนางงามประจำจังหวัดมา
“ไปคุยกันรำลึกความหลังสักหน่อยสิ” เขายิ้มกริ่มแล้วชักชวนเธอไปหาความสุขต่อในบ้านพักของเขาที่ห่างออกไปอีกร้อยเมตร
หญิงสาวขับรถไปจอดที่บ้านพักของนายอำเภอแล้วเดินตามเข้าไปอย่างไม่ขัดขืน เพราะว่าเธอต้องใช้ประโยชน์จากเขาอยู่
“ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายนะคะที่สายพิณจะได้รับใช้นายอำเภอ อีกไม่นานสายพิณก็จะแต่งงานแล้ว” เธอบอกเขาตามตรง
“ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ ว่าจะเดินไปชวนคุณปลัดไปกินข้าวข้างนอกแต่ได้ยินเสียงครางดังจากห้องนอนเลยยืนฟังจนเกิดอารมณ์ก็เท่านั้น” เขารู้ดีว่าเรื่องนี้ย่อมเป็นความลับ เพราะเขาเองก็มีครอบครัวอยู่แล้ว
หญิงสาวยิ้มแล้วถอดชุดกระโปรงของตนออกไป
นายอำเภอสงค์ถอดเสื้อผ้าออกไปทีละชิ้นตามเธอ เดินไปนอนรอที่เตียงแล้วมองหญิงสาวถอดชุดออกไปด้วยความกำหนัด
ลิ้นหนาของเขาเลียรอบริมฝีปากล่างอย่างกระหายรอให้เธอเข้ามาหา
ท่อนเอ็นลำเขื่องที่ผงาดขึ้นมาทำให้สายพิณอดใจที่จะชิมมันไม่ได้ เธอค่อยๆ เดินเข้าไปหาด้วยลีลาที่ยั่วยวน ก่อนจะค่อยๆ คลานขึ้นเตียงแล้วขึ้นไปอยู่บนตัวเขา
“ปรนนิบัติผมสิ” เขาเอามือประสานท้ายทอยของตัวเองแล้วมองเธอด้วยสายตาที่กลัดมัน
นางงามประจำจังหวัดโน้มตัวลงไปจูบริมฝีปากหนา แล้วแทรกปลายลิ้นเข้าไปเกี่ยวจูบปลายลิ้นของเขา มือล้วงลงไปรูดท่อนเนื้อนั้นไปด้วย
เธอวางสะโพกไว้แนบกับสะโพกของเขา โยกตัวถูไถร่องสวาทกับท่อนเนื้อของเขาไปมาในขณะที่เลื่อนไปจูบที่ซอกคอของเขา
“ลีลาดีเหลือเกินแม่คุณเอ๊ย”
หญิงสาวยิ้มรับคำชม เธอเลื่อนลงไปที่แผงอกกว้าง ตวัดเลียเม็ดตุ่มไตกลางแผงอก แล้วลากลิ้นเลียลงไปจนถึงท่อนเอ็นที่เต็มไปด้วยเส้นเลือกปูดโปน
สายพิณห่อปากเป็นรูปวงกลมดูท่อนเนื้อส่วนหัวลงไป แล้วใช้ริมฝีปากรูดมันไปด้วยจนเขาสูดปากครางเสียวออกมาไม่หยุด
“อ๊าส์ เยี่ยมมาก ซี๊ด ร่านสวาทดีจริงๆ อ๊าส์ ซี๊ด แต่ผมไม่ไหวแล้ว” นายอำเภอสงค์ดันตัวเธอนอนลงไปที่เตียงแล้วแยกขาออกกว้าง กดท่อนลำขรุขระนั้นสอดเสยเข้าไปจนมิดลำแล้วขยับซอยอย่างเป็นจังหวะ
“อ๊าส์ นายอำเภอขา ดุ้นใหญ่จัง อ๊าส์ สายพิณเสียวไปหมดแล้ว อ๊าส์ ซี๊ด” เธอพูดกระตุ้นความกำหนัดให้เขา แอ่นสะโพกรับท่อนเนื้อที่ขยับเข้าออกแล้วครางสูดปากอย่างออกรส
นายอำเภอวัยกลางคนกระแทกเข้าไปถี่รัว หมุนควงสะโพกสลับกับการกระแทกงัดซ้ายขวาอย่างชำนาญเพื่อเอาใจสาวรุ่นให้เกิดความสุขสม
“อ๊าส์ เสียวมากค่ะ ซี๊ด อ๊าส์” เธอครางไม่หยุด
“ต่อด้วยท่าโปรดนะ ผมจะเอาให้ร้องขอชีวิตเลย” นายอำเภอสงค์ยิ้มกว้าง เขาจับเธอให้อยู่ในท่าตะแคงแล้วกระแทกเข้ามาอย่างดุดันจนเธอขาสั่นพั่บๆ
ท่อนเนื้อดันเข้าไปในองศาที่เอียงทำมุมเข้ากับสรีระของเธอ ปลายหัวกระแทกปากมดลูกดังกึกๆ ด้านในจนเขารู้สึกได้
“อ๊าส์ นายอำเภอ เมตตาสายพิณด้วย อ๊าส์ จุกถึงคอหอยแล้ว ซี๊ด” หญิงสาวร้องบอกเขาเมื่อท่านี้เข้าได้ลึกจนเธอจุกมากกว่าเสียว
“ไม่จุกไม่เสียวอย่าเรียกผมว่าสงค์ดุ้นดุ” เขาหัวเราะอย่างสะใจแล้วกระหน่ำกระแทกเข้าหาอย่างถี่รัวจนร่างเธอโยกคลอน
“แต่สายพิณไม่ไหว ซี๊ด แคมปลิ้นหมดแล้ว อ๊าส์” เธอขอความเห็นใจเสียงกระเส่าเพราะเพิ่งผ่านดุ้นอวบใหญ่ของปลัดโชคชัยมาหมาดๆ แล้วมาเจอดุ้นเขื่องระดับนายอำเภอเข้าก็เข่าแทบทรุด
การเคลื่อนไหวของเขาหนักหน่วงถึงใจ ท่อนเอ็นกระแทกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนปลายหัวเกี่ยวโดนจุดเสียวถี่ๆ จนเธอทนไม่ไหว
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊าส์ ซี๊ด แตกแล้วค่ะ อ๊าส์ สายพิณแตกแล้ว” เธอบอกเขาเสียงหลง สะโพกเกร็งแล้วบีบรัดท่อนเนื้อเป็นจังหวะเพื่อเร่งให้เขาถึงจุดหมายโดยเร็วเพราะเธอเหนื่อยมากแล้ว
นายอำเภอวัยกลางคนจับเธอให้อยู่ในท่าหมา สอดท่อนเอ็นเข้าไปเต็มแรงแล้วกระแทกเน้นๆ เพื่อกระตุ้นให้เธอมีอารมณ์ร่วมอีกรอบ
“อ๊าส์ อื้อ นายอำเภอสงค์ อ๊าส์ ซี๊ด...ยังไม่พอเหรอคะ อ๊าส์ สายพิณจะเป็นลมแล้ว อ๊าส์”
“พูดเหมือนไม่อยากแต่ก็ครางไม่หยุด ซี๊ด” เขาพูดเสียงกร้าว กัดฟันกระแทกลงไปเน้นๆ
ตับ! ตับ! ตับ! เขาเร่งกระทำอย่างหนักหน่วงคำรามในลำคอกับเสียงครางของเธออย่างมันเขี้ยว
“สายพิณเสียวจนจะแตกอีกรอบแล้ว อ๊าส์” หญิงสาวร้องลั่นเมื่อนาทีนั้นเธอรู้สึกว่าจวนจะถึงเส้นชัยอีกครอบแล้ว
“นี่แหละที่ฉันต้องการ ให้เธอแตกแล้วแตกอีก”
นายอำเภอสงค์ยกยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ เขาเริ่มเร่งความเร็วแล้วเพิ่มแรงตอกอัดลงมาถี่รัว
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊าส์ แตกแล้ว ซี๊ด” หญิงสาวครางเสียงหวีดแหลม
“อ๊าส์ แตกแล้ว ซี๊ด ตอดดีจริงๆ อ๊าส์” เขาร้องเสียงต่ำและหอบกระเส่าเล็กน้อย ปลดปล่อยน้ำกามพ่นสาดเข้าไปอย่างเต็มแรงจนหยดสุดท้าย
“สายพิณกลับแล้วนะคะ”
หญิงสาวลุกไปล้างตัวแล้วกลับมาใส่เสื้อผ้า มองดูเขานอนยิ้มบนเตียงอย่างรู้กันว่านี่จะเป็นความลับ
หากเธอพลาดปลัดไปเธอจะจะทำให้เขาสูญเสียครอบครัวและหน้าที่การงานเหมือนกัน
---------------------
หญิงสาวกลับมาถึงบ้านในสภาพที่อิดโรยเพราะการถูกร่วมรักต่อเนื่องกันจากเจ้าของดุ้นขนาดสูสีทั้งสองคน
กำนันเข้มเห็นสภาพลูกสาวแบบนั้นก็กัดฟันด้วยความเจ็บใจกำลังจะลุกไปถามก็ถูกภรรยาจับแขนห้ามเอาไว้ก่อน
“ไอ้ปลัดนั่นทำลูกเราขนาดนี้เลยเหรอ” เขาพูดด้วยความเจ็บใจ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าหยามตน
“ไหนๆ เราก็อยากได้เขาเป็นลูกเขยอยู่แล้ว นี่ก็เข้าทางพอดี หลับหูหลับตาทำเป็นไม่รู้ดีกว่า ไม่อย่างนั้นคนที่จะอายก็จะเป็นลูกเรา” สายบัวบอกกำนันเข้มผู้เป็นสามีให้เขาใจเย็นลง
“วัยรุ่นหนุ่มสาวก็แบบนี้แหละ”
“อย่างน้อยก็เข้าตามตรอกออกตามประตู แล้วดูลูกเราสิกลับมาในสภาพอ่อนแรงขนาดนั้นไม่รู้ว่าโดนไปกี่รอบ” กำนันเข้มกัดฟันพูดด้วยความโมโห
“ทีตอนพี่ฉุดฉันไปทำเมียก็เอาตั้งสามครั้งรวด พ่อแม่ฉันก็ยังไม่ว่าอะไรเพราะกลัวฉันอายชาวบ้าน ทีนี้มาทำเป็นห่วงลูกสาว” สายบัวต่อว่าสามีทำให้คราวนี้เขาสงบลง
“ก็ได้ข้าจะรอดูว่าไอ้ปลัดนั่นมันจะเอายังไง ถ้านังสายพิณท้องขึ้นมาก่อนจะได้แต่งงานฉันได้เอาเลือดหัวมันออกแน่” กำนันเข้มพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน
ในขณะเดียวกันสายพิณก็อาบน้ำแล้วเปลี่ยนชุดเข้านอนด้วยความอ่อนเพลียเพราะยังไม่ได้กินข้าวเย็นก็ถูกจับไปกินเสียก่อน
เธอวางมือที่เนินสวาทของตนแล้วตบเบาๆ
“อิ่มน้ำไปสองรอบแล้ว ทีนี้ขอพักยาวก่อนนะ รอปลัดโชคชัยมาสู่ขอค่อยออกหากิน” เธอบอกรูเขมือบน้ำตัวเองแล้วหลับตาลงด้วยความอ่อนเพลีย
แต่ริมฝีปากนั้นกลับยกยิ้มอย่างชอบใจ
---------------------
หนึ่งเดือนต่อมาสายพิณอยู่ในชุดเจ้าสาวแบบพื้นเมือง ในพิธีแต่งงานแบบบายศรีสู่ขวัญพ่อแม่ฝ่ายชายดูเหมือนจะไม่ชอบใจในครอบครัวชนบทของลูกสะใภ้ แต่พอมาเห็นความเจริญที่เข้าถึงและตำแหน่งนางงามของสายพิณก็ชอบใจในความสวยของลูกสะใภ้และพอใจฐานะของกำนันเข้มที่ร่ำรวยที่สุดในตำบลและน่าจะลำดับต้นๆ ของจังหวัดที่ไม่น้อยหน้าไปกว่าครอบครัวของตนแขกเหรื่อในงานต่างร่วมแสดงความยินดีกับสายพิณ หญิงสาวยิ้มต้อนรับแขกเหรื่อหลังจากพิธีแต่งงานผ่านไปแล้ว และเชิญให้ทุกคนรับประทานอาหารกำนันเข้มอยู่ในงานก็น้ำตาซึมตั้งแต่เจ้าบ่าวแห่ขบวนขันหมากจนกระทั่งถึงตอนนี้ที่พิธีเสร็จสิ้นก็ยังคงกินเหล้าไปตาแดงไป“พ่อกำนันรักสายพิณมากนะครับ”“ค่ะ คุณปลัดอย่าทำสายพิณเสียใจก็แล้วกัน พ่อกำนันมีปืนด้วยนะคะ ระวังให้ดี” เธอบอกเจ้าบ่าวแล้วขู่เขาแกมหยอกทั้งคู่เดินไปไหว้แขกเหรื่อตามโต๊ะต่างๆ ที่จัดงานฉลองแบบโต๊ะจีนพี่พลบ้านนาโคกที่ได้กันในกระท่อมคืนฝนตกหลังงานหมอลำ พี่หนักลูกลุงผู้ใหญ่ที่จัดหนักในกองฟาง ลุงผู้ใหญ่ที่ฝันหวานกับเธอตอนเมา นายอำเภอสงค์ที่เธอติดสินบนเอาตำแหน่งและอีกหลายๆ คนที่เธอเองก็แทบจำไม่ได้ว่าเคยนอนด้วย ต่างก็พากันมาอวยพ
ชีวิตของฉันกำลังตกอยู่ในฤดูเหงาหลังจากที่เลิกกับแฟนหนุ่มไปแค่เวลาเดือนกว่า ตอนนี้ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองทนไม่ไหวกับความเหงานี้อีกต่อไปแล้ว“อยากมีแฟน” ฉันบ่นกับเพื่อนสาวคนสนิทแล้วพ่นลมหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้ม“อยากมีแฟนหรืออยากเอากับแฟน พูด!” แนนถามกลับอย่างรู้ทันตามประสาเพื่อนที่สนิทกันมานาน“ทั้งคู่แหละ อยากมีคนพาไปกินข้าว ดูหนัง เปลี่ยวใจมาก็อยากโดนเอา..พอใจหรือยัง” ฉันประชดเพื่อนรักแล้วเขี่ยโทรศัพท์ไถดูฟีดข่าวด้วยความเซ็งในอารมณ์“งั้นก็เล่นแอปหาคู่สิจะไปยากอะไร แมตซ์กับใครก็ไปลองเดทดู ถ้าใช่ก็คบไม่ใช่ก็ถือว่าได้คนคุยเพิ่ม” ความคิดของเพื่อนฟังดูเข้าท่าเลยทีเดียว ทำให้ฉันสนใจเป็นอย่างมาก“สอนฉันเล่นหน่อยสิ อยากได้ผู้” ฉันบอกด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นทำให้เธอหรี่ตามองที่เห็นว่าฉันเหมือนจะจริงจังกับเรื่องที่เธอแค่พูดทีเล่นทีจริง“เอาจริงเหรอ แอปที่ว่านี้ส่วนมากเขาไม่ได้แค่นัดคุยนะ เขานัดเอากันด้วย” เธอถามย้ำฉันอย่างจริงจัง“อืม ฉันก็อยากลองดูเหมือนกัน หอยแห้งมานานแล้วนะ” ฉันบ่นด้วยท่าทางที่จริงจังจนแนนยอมสอนให้ฉันเล่น“แอปนี้ ใส่ชื่อข้อมูลส่วนตัวลงไป พร้อมกับช่องคำถามต่างๆ เรื่องความชอบและ
เมื่อใกล้ถึงเวลานัดหมาย ฉันก็รีบอาบน้ำเพื่อให้ร่างกายสะอาดสะอ้านแล้วใส่ชุดเสื้อสายเดี่ยวเอวลอย กับกระโปรงสั้นรัดรูปสีดำที่เตรียมเอาไว้นัดเดทกันครั้งแรกใส่ชุดที่ดูเซ็กซี่หน่อยๆ คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง อีกอย่างเขาชวนไปทำอะไรกันตั้งแต่นัดแรกแบบนี้ก็คงจะชื่นชอบชุดนี้ไม่น้อยฉันไปถึงที่นัดหมายก่อนเวลาแล้วนั่งรอที่ล็อบบี้ของโรงแรม ที่นี่ไม่ใช่โรงแรมกระจอกเลยสักนิด เป็นโรงแรมระดับสี่ดาวแต่ก็หรูหราในระดับหนึ่งสักพักฉันก็เห็นผู้ชายที่หน้าตาเหมือนกับรูปโปรไฟล์กำลังมองมาที่ฉัน ฉันจึงยิ้มให้เขาแล้วสักพักปั๊กก็เดินเข้ามาทักทายฉัน“มิวใช่ไหมครับ”“ค่ะ” ฉันตอบแล้วยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ที่คิดว่าเขาน่าจะประทับใจที่สุด“เราขึ้นไปเลยไหมครับ หรือว่ามิวอยากดื่มอะไรก่อน”“ขึ้นห้องเลยก็ได้ค่ะ” ฉันรู้ความต้องการของเขาอยู่แล้ว จึงตอบตกลงไปและเดินตามเขาไปยังเคาน์เตอร์ต้อนรับมองดูเขาจองห้องแล้วเราก็เดินควงกันขึ้นไปยังห้องพักด้านบนพอถึงห้องเราก็ดื่มเครื่องดื่มที่มีในห้องแล้วนั่งพูดคุยกันสักพักเพื่อให้ต่างคนต่างรู้สึกไม่ประหม่า แล้วเขาก็เข้าไปอาบน้ำในขณะที่ฉันถอดเสื้อผ้าแล้วสวมชุดคลุมของทางโรงแรมไว้รอเขาปั๊ก
หลังจากที่แยกทางจากปั๊ก และเห็นว่าเขากลับไปแล้วฉันก็ยังไม่รีบกลับห้องเพราะกลัวว่าเขาจะแอบตามมา แล้วนัดให้เพื่อนสาวคนสนิทออกมารับไปทานอาหารค่ำด้วยกันเพื่อพูดคุยถึงเรื่องนี้“อะไรนะ นี่แกนัดคุยกันวันแรกก็ไปแง๊บๆ กันแล้วเหรอ”“อืม เขาขอน่ะ ฉันก็ว่าไม่เสียหายนี่ ในเมื่อเราก็ระบุความสนใจถึงเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว” ฉันบอกไปตามตรง“อืม เข้าใจแล้ว ล่ะไงทีนี้ทำไมถึงไม่อยากคบต่อ”“ไม่ชอบน่ะ เรื่องบนเตียงพอแก้ขัดได้แต่ไม่โดนเท่าไร จูบไม่กี่ทีก็เสียบล่ะ ไม่ชอบ” ฉันบอกตามตรงขณะที่เรานั่งรถไปหาร้านอร่อยแถวๆ ที่พักของฉันทานกัน“แล้วจะแมตซ์คู่อีกตอนไหน” แนนถามเกี่ยวกับการสุ่มเลือกคู่ในแอปพลิเคชั่นหาคู่ชื่อดัง“ไม่รู้สิ อาจจะคืนนี้ แต่ละลดความสนใจเป็น ‘นัดคุย’ ยังไม่ต้องรีบร้อนมีอะไรกัน คุยถูกคอก็ค่อยนัดกันไปกินข้าวดูหนัง แบบนี้น่าจะโอเคกว่า”“แล้วแต่แกเถอะ ขอให้เจอคนที่ใช่เร็วๆ นะ” แนนผู้ไม่เคยขัดมีแต่ส่งเสริมเพื่อน ทำให้ฉันสบายใจทุกครั้งที่อยู่ด้วยสักพักปั๊กก็ทักมาถามว่าฉันกำลังจะไปไหน ฉันจึงรู้ได้ทันทีว่าคิดไม่ผิดเข้ากำลังตามดูฉันอยู่แน่“ทานข้าวกับเพื่อนค่ะ” ฉันพิมพ์ตอบกลับไปแล้วถอนหายใจออกมา“อะไร
ฉันอยู่ในชุดที่สุภาพเพราะคู่นัดเป็นคนที่มีอายุในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังคงดูดีและทันสมัยไปในตัวไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังแน่พี่โต้งเองก็มาในชุดที่สุภาพ เสื้อโปโลสีเรียบและกางเกงยีนของเขาทำให้ดูดีในระดับหนึ่ง และที่ถูกใจฉันมากก็เห็นจะเป็นช่อกุหลาบเล็กๆ ในมือเขาที่มอบให้ฉันตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน“ขอบคุณมากนะคะ”“ชอบไหม”“ชอบค่ะ” ฉันตอบแล้วยิ้มให้แก่เขาพี่โต้งยื่นมือมาตรงหน้าเพื่อขอมือฉัน พอฉันวางมือลงเขาก็จับมือฉันเดินไปซื้อตั๋วด้วยกันแล้วให้ฉันเลือกที่นั่ง“เอาที่นั่งตรงกลางแบบนี้จะได้เห็นจอในระดับสายตาพอดี พี่โต้งเห็นด้วยไหมคะ”“แล้วแต่เลยครับพี่ยังก็ได้” เขาตอบอย่างสุภาพและให้เกียรติ ฉันจึงตัดสินให้เขาผ่านในใจพร้อมกับเลือกที่นั่งแล้วเขาก็ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดโดยไม่ยอมให้ฉันหารครึ่งเราซื้อเครื่องดื่มกับป๊อปคอร์นเข้าไปในโรงหนัง ระหว่างที่ดูหนังกันมือเราชนกันในถังป๊อปคอร์นอยู่หลายครั้งเป็นโมเมนต์ที่ทำให้ใจเต้นแรงไม่น้อยช่วงท้ายก่อนที่หนังจะจบเขาก็เลื่อนมากุมมือของฉันเอาไว้ขณะที่เราดูหนังด้วยกัน ไม่ได้มาลูบแข้งลูบขาหรือล้วงควักอะไรอย่างที่ฉันแอบคิดมาก่อนหน้านี้พอหนังจบเราก็จูงมือฉันออก
เราคบหาดูใจและไปทานอาหารด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง โดยที่เขาอาสาจ่ายให้ฉันทุกมื้อหลังจากที่ฉันรู้ฐานะที่แท้จริงของเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจของเขาอีก ปล่อยให้เขาได้เอาใจฉันอย่างเต็มที่พี่โต้งดีกับฉันมาก และฉันเองก็ยังไม่อยากจะปล่อยให้เขาหลุดมือไป ดังนั้นจึงไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเขา มีแต่เขาที่ซื้อของขวัญให้ทุกครั้งที่เราเจอกันจนฉันต้องบอกให้เขาพอ“ไม่เอาแล้วนะคะ เจอกันก็มีของขวัญให้มิวตลอด มิวเกรงใจนะคะแต่ละอย่างแพงๆ ทั้งนั้น ข้าวก็เลี้ยง ของก็ให้ มิวสิไม่มีอะไรให้พี่โต้งเลยสักอย่าง” ฉันบ่นให้เขาเมื่อครั้งนี้เขาซื้อน้ำหอมเคาน์เตอร์แบรนด์ดังให้ฉัน ในครั้งแรกที่ยอมให้เขาขึ้นมาหาถึงห้อง“เราเป็นแฟนกันนะ พี่ก็อยากให้อะไรมิวบ้าง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เอาใจแล้วทำหน้าตาออดอ้อนขัดกับวัยของเขาแต่ก็น่ารักเป็นอย่างมาก ทำให้ใจเต้นแรงได้ดีเลยทีเดียว“แต่มันเยอะเกินไปนี่คะ มิวรับไม่ไหวหรอก”“งั้นก็ตกลงเป็นแฟนพี่สิ” เขาขอฉันเป็นแฟนแล้วยิ้มแป้นรอให้ฉันตอบตกลง“ที่ผ่านมาหนึ่งเดือน ไม่ใช่ว่าเราเป็นแฟนกันแล้วเหรอคะ”“นี่หมายความว่า มิวเป็นแฟนพี่แล้วใช่ไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นและดีใจ“ค่ะ มิวเป็นแฟนพี่โ
หลังจากครั้งแรกระหว่างเราได้ผ่านพ้นไปแล้ว และพี่โต้งรับปากว่าคืนนี้เขาจะอยู่กับฉันฉันปล่อยให้เขาได้พักจนหายเหนื่อย ในระหว่างนั้นเราพูดคุยถึงเรื่องต่างๆ และมีความเห็นไปในทางเดียวกันทั้งเรื่องแนวความคิดและการเข้าอกเข้าใจกัน“ย้ายไปอยู่กับพี่นะ” เขาถามฉันออกมาทำให้ฉันตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก“ไปอยู่ด้วยเลยเหรอคะ พี่โต้งมั่นใจในตัวมิวแล้วเหรอ มิวไม่มีอะไรเลยนะคะ มิวไม่อยากให้ใครมามองว่ามิวตกถังข้าวสารหรอกนะ” ฉันบอกเขาไปตามตรงแม่จะชอบที่เขารวยแต่ก็ไม่ชอบให้คนมองไม่ดี“ใครจะว่าอะไรก็ช่างเขา พี่มั่นใจว่ามันไม่ใช่ก็พอ” เขาพูดเสียงนุ่มแล้วทำท่าจะขึ้นมาคร่อมทับฉันเอาไว้ แต่ฉันดันหน้าอกของเขาลงไปก่อน“มิวบอกแล้วไงคะ ว่ามิวอยากปรนนิบัติพี่โต้งบ้าง นอนนิ่งๆ เถอะค่ะ” ฉันพูดเสียงหวานแล้วหลุบตาลงต่ำหนีสายตาคมกริบที่เขาจ้องมองมา แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกแต่กับเขามันทำให้ฉันรู้สึกประหม่าและตื่นเต้นมาที่จะต้องทำอะไรแบบนี้ฉันดึงผ้าห่มออกเผยให้แท่งลำปรากฏแก่สายตาแล้วลูบจนมันขยายคับเต็มมือ ปลายหัวมันวาวเชิญชวนให้ฉันก้มลงไปใช้ปลายลิ้นแตะสัมผัสมัน ก่อนจะลากปลายลิ้นไปรอบๆ ท่อนลำนั้นแล้วใช้มือรูดรั้งที่โคนลำอย่างเบาม
ฉันตัดสินใจย้ายไปอยู่กับพี่โต้งตามที่เขาชวน บ้านของเขาอยู่แค่คนเดียว ไม่มีแม้แต่แม่บ้านเขาทำความสะอาดบ้านเองและจ้างบริษัททำความสะอาดมาทำให้เดือนละครั้ง“บ้านไม่ได้กว้างมากนะ เพราะพี่คิดว่าจะอยู่คนเดียวเลยไม่ได้สร้างหลังใหญ่มาก”“ไม่ใหญ่ของพี่นี่อยู่ได้ห้าคนเลยนะคะ มีห้องนอนตั้งสามห้องแน่ะ” ฉันส่ายหัวกับความถ่อมตนของแฟนต่างวัย“ห้องนอนใหญ่เป็นของเรา อีกสองห้องก็เอาไว้ให้ลูกดีไหม” เขาบอกเสียงทุ้มแล้วเขามาสวมกอดจากด้านหลังในขณะที่ฉันจัดเสื้อผ้าใส่ตู้อยู่“พึ่งคบกันไม่ถึงสองเดือนเลย วางแผนมีลูกแล้วเหรอคะ”“พี่บอกแล้วไงว่ารักและมั่นใจในตัวมิว อายุพี่เองก็มากแล้วนะ อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แล้ว และมิวคือคนที่พี่เลือก” เขาพูดเสียงเบาแต่ว่าเต็มไปด้วยความจริงจังและความหมายที่ลึกซึ้ง“มิวดีใจนะคะที่พี่โต้งเลือกมิว ขอบคุณที่วางใจมิวค่ะ”เขาจับฉันหมุนตัวไปสบตาแล้วยิ้มกว้างให้ก่อนจะรั้งฉันเข้าไปกอดไว้แน่น“พอได้แล้วค่ะ เดี๋ยวมิวก็จัดของไม่เสร็จกันพอดี”“โอเค งั้นพี่ออกไปทำงานก่อนนะ ตอนเย็นจะมารับไปทานข้าวข้างนอก”“ค่ะ ตั้งใจทำงานนะคะ” ฉันหอมแก้มเขาแล้วจ้องใบหน้าที่ยิ้มกว้างมองฉันอย่างไม่วางตา ก่อนจ
ในวันหยุดยาวของปีนี้ ปกติแล้วผมต้องกลับไปเยี่ยมบ้านกับแฟน แต่พอเราเลิกกันผมก็เคว้งและไม่ได้ตั้งใจจะไปไหนเพราะบ้านตัวเองก็ไม่มีพ่อแม่อยู่แล้ว ญาติๆ ที่เหลืออยู่ก็ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กันนัก พอได้รับคำชวนจากเพื่อนร่วมงานคนสนิทผมจึงตอบรับโดยไม่ต้องคิดมากเราเดินทางไปถึงจังหวัดบ้านเกิดของเมย์ที่เป็นเมียของเพื่อนสนิทผม พอไปถึงก็มีญาติๆ ออกมาต้อนรับ และหนึ่งในนั้นคือ ‘มิน’ น้องสาวของเมย์ที่สวยสะกดตาสะกดใจผมมาก“นี่มินน้องสาวของเมย์ นี่พี่เอกนะเป็นเพื่อนที่ทำงานในแผนกเดียวกันกับพี่” เก่งแนะนำให้เราได้รู้จักกัน เธอยกมือไหว้ผมแล้วยิ้มอย่างไว้ตัวทำให้ผมรู้ว่าผู้หญิงคนนี้คงจีบไม่ง่ายแน่“มากันเหนื่อยๆ เข้าไปพักด้านในก่อนนะคะ มินทำความสะอาดห้องเอาไว้แล้ว ส่วนพี่เอกมินกางมุ้งให้นอนที่ห้องโถงคงไม่เป็นไรนะคะ” เธอหันมาถามผมเสียงหวาน“ไม่ครับ พี่นอนไหนก็ได้” ผมตอบอย่างสุภาพแต่ว่าสายตานั้นปิดบังความรู้สึกไม่ได้ว่าชื่นชอบเธอ“มินน่ะเขาไม่สนใจผู้ชายหรอก รายนั้นน่ะตั้งใจเรียนและเรียบร้อยเป็นแม่ศรีเรือน ผู้ชายไม่มีโอกาสได้จีบสำเร็จหรอก” เมย์บอกผมเมื่อเห็นว่าผมมองตามน้องสาวเธอตาเชื่อม“หวงเหรอเมย์ เอกมันก็โส
ทุกๆ เช้าตั้งแต่ที่มาอยู่ที่นี่ฉันตื่นขึ้นมาทำอาหารให้กับพี่โต้งแบบง่ายๆ เขาจะตื่นสายเป็นประจำเพราะจะเข้าไปที่ร้านช่วงสายจนถึงเย็น ฉันจึงไม่ต้องตื่นเช้ามากก็มีเวลาทำอาหารให้กับเขา จะเรียกว่ามื้อเช้าก็ไม่ใช่มื้อเที่ยงก็ไม่เชิง เราจึงเรียกกันว่ามื้อสาย“วันนี้ทำอะไรครับ”“วันนี้ทำไมตื่นเช้าจังละคะ มิวยังไม่ได้ทำกับข้าวเลย” ฉันพึ่งหุงข้าวไปเขาก็เดินตามฉันลงมาแล้ว“วันนี้ลืมบอกว่าไม่ต้องทำกับข้าว เราไปทานข้างนอกดีกว่า ไปอาบน้ำแต่งตัวสิ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สดชื่น คงอยากให้ฉันไปที่ร้านด้วยแน่ๆ“ค่ะ” ฉันรับปากเขาแล้วเราก็ขึ้นห้องไปอาบน้ำด้วยกัน“อาบพร้อมกันนะจะได้ไม่เสียเวลา” เขาบอกขณะที่ฉันถอดเสื้อผ้าออก แล้วเขาก็ถอดตามฉันเข้ามาในห้องน้ำด้วย“แน่ะ แบบนี้จะไม่ช้าว่าเดิมเหรอคะ” ฉันถามอย่างรู้ทัน“ตอนเช้าไม่นานหรอกน่า” พูดจบเขาก็ดึงฉันไปจูบฉันคล้องคอรับจูบจากเขาอย่างดูดดื่มก่อนที่เราจะเริ่มลูบไล้และไซ้จูบกันอย่างหวานชื่นพี่โต้งดันตัวฉันไปที่อ่างล้างหน้าแล้วอุ้มฉันขึ้นไปนั่งที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ยืนกอดจูบฉันแล้วดันอาวุธที่แข็งแกร่งมาถูไถที่ร่องสวาทในขณะที่จูบไปด้วย“อื้ม หอมจัง” เขาซุกจ
ฉันตัดสินใจย้ายไปอยู่กับพี่โต้งตามที่เขาชวน บ้านของเขาอยู่แค่คนเดียว ไม่มีแม้แต่แม่บ้านเขาทำความสะอาดบ้านเองและจ้างบริษัททำความสะอาดมาทำให้เดือนละครั้ง“บ้านไม่ได้กว้างมากนะ เพราะพี่คิดว่าจะอยู่คนเดียวเลยไม่ได้สร้างหลังใหญ่มาก”“ไม่ใหญ่ของพี่นี่อยู่ได้ห้าคนเลยนะคะ มีห้องนอนตั้งสามห้องแน่ะ” ฉันส่ายหัวกับความถ่อมตนของแฟนต่างวัย“ห้องนอนใหญ่เป็นของเรา อีกสองห้องก็เอาไว้ให้ลูกดีไหม” เขาบอกเสียงทุ้มแล้วเขามาสวมกอดจากด้านหลังในขณะที่ฉันจัดเสื้อผ้าใส่ตู้อยู่“พึ่งคบกันไม่ถึงสองเดือนเลย วางแผนมีลูกแล้วเหรอคะ”“พี่บอกแล้วไงว่ารักและมั่นใจในตัวมิว อายุพี่เองก็มากแล้วนะ อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แล้ว และมิวคือคนที่พี่เลือก” เขาพูดเสียงเบาแต่ว่าเต็มไปด้วยความจริงจังและความหมายที่ลึกซึ้ง“มิวดีใจนะคะที่พี่โต้งเลือกมิว ขอบคุณที่วางใจมิวค่ะ”เขาจับฉันหมุนตัวไปสบตาแล้วยิ้มกว้างให้ก่อนจะรั้งฉันเข้าไปกอดไว้แน่น“พอได้แล้วค่ะ เดี๋ยวมิวก็จัดของไม่เสร็จกันพอดี”“โอเค งั้นพี่ออกไปทำงานก่อนนะ ตอนเย็นจะมารับไปทานข้าวข้างนอก”“ค่ะ ตั้งใจทำงานนะคะ” ฉันหอมแก้มเขาแล้วจ้องใบหน้าที่ยิ้มกว้างมองฉันอย่างไม่วางตา ก่อนจ
หลังจากครั้งแรกระหว่างเราได้ผ่านพ้นไปแล้ว และพี่โต้งรับปากว่าคืนนี้เขาจะอยู่กับฉันฉันปล่อยให้เขาได้พักจนหายเหนื่อย ในระหว่างนั้นเราพูดคุยถึงเรื่องต่างๆ และมีความเห็นไปในทางเดียวกันทั้งเรื่องแนวความคิดและการเข้าอกเข้าใจกัน“ย้ายไปอยู่กับพี่นะ” เขาถามฉันออกมาทำให้ฉันตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก“ไปอยู่ด้วยเลยเหรอคะ พี่โต้งมั่นใจในตัวมิวแล้วเหรอ มิวไม่มีอะไรเลยนะคะ มิวไม่อยากให้ใครมามองว่ามิวตกถังข้าวสารหรอกนะ” ฉันบอกเขาไปตามตรงแม่จะชอบที่เขารวยแต่ก็ไม่ชอบให้คนมองไม่ดี“ใครจะว่าอะไรก็ช่างเขา พี่มั่นใจว่ามันไม่ใช่ก็พอ” เขาพูดเสียงนุ่มแล้วทำท่าจะขึ้นมาคร่อมทับฉันเอาไว้ แต่ฉันดันหน้าอกของเขาลงไปก่อน“มิวบอกแล้วไงคะ ว่ามิวอยากปรนนิบัติพี่โต้งบ้าง นอนนิ่งๆ เถอะค่ะ” ฉันพูดเสียงหวานแล้วหลุบตาลงต่ำหนีสายตาคมกริบที่เขาจ้องมองมา แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกแต่กับเขามันทำให้ฉันรู้สึกประหม่าและตื่นเต้นมาที่จะต้องทำอะไรแบบนี้ฉันดึงผ้าห่มออกเผยให้แท่งลำปรากฏแก่สายตาแล้วลูบจนมันขยายคับเต็มมือ ปลายหัวมันวาวเชิญชวนให้ฉันก้มลงไปใช้ปลายลิ้นแตะสัมผัสมัน ก่อนจะลากปลายลิ้นไปรอบๆ ท่อนลำนั้นแล้วใช้มือรูดรั้งที่โคนลำอย่างเบาม
เราคบหาดูใจและไปทานอาหารด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง โดยที่เขาอาสาจ่ายให้ฉันทุกมื้อหลังจากที่ฉันรู้ฐานะที่แท้จริงของเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจของเขาอีก ปล่อยให้เขาได้เอาใจฉันอย่างเต็มที่พี่โต้งดีกับฉันมาก และฉันเองก็ยังไม่อยากจะปล่อยให้เขาหลุดมือไป ดังนั้นจึงไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเขา มีแต่เขาที่ซื้อของขวัญให้ทุกครั้งที่เราเจอกันจนฉันต้องบอกให้เขาพอ“ไม่เอาแล้วนะคะ เจอกันก็มีของขวัญให้มิวตลอด มิวเกรงใจนะคะแต่ละอย่างแพงๆ ทั้งนั้น ข้าวก็เลี้ยง ของก็ให้ มิวสิไม่มีอะไรให้พี่โต้งเลยสักอย่าง” ฉันบ่นให้เขาเมื่อครั้งนี้เขาซื้อน้ำหอมเคาน์เตอร์แบรนด์ดังให้ฉัน ในครั้งแรกที่ยอมให้เขาขึ้นมาหาถึงห้อง“เราเป็นแฟนกันนะ พี่ก็อยากให้อะไรมิวบ้าง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เอาใจแล้วทำหน้าตาออดอ้อนขัดกับวัยของเขาแต่ก็น่ารักเป็นอย่างมาก ทำให้ใจเต้นแรงได้ดีเลยทีเดียว“แต่มันเยอะเกินไปนี่คะ มิวรับไม่ไหวหรอก”“งั้นก็ตกลงเป็นแฟนพี่สิ” เขาขอฉันเป็นแฟนแล้วยิ้มแป้นรอให้ฉันตอบตกลง“ที่ผ่านมาหนึ่งเดือน ไม่ใช่ว่าเราเป็นแฟนกันแล้วเหรอคะ”“นี่หมายความว่า มิวเป็นแฟนพี่แล้วใช่ไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นและดีใจ“ค่ะ มิวเป็นแฟนพี่โ
ฉันอยู่ในชุดที่สุภาพเพราะคู่นัดเป็นคนที่มีอายุในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังคงดูดีและทันสมัยไปในตัวไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังแน่พี่โต้งเองก็มาในชุดที่สุภาพ เสื้อโปโลสีเรียบและกางเกงยีนของเขาทำให้ดูดีในระดับหนึ่ง และที่ถูกใจฉันมากก็เห็นจะเป็นช่อกุหลาบเล็กๆ ในมือเขาที่มอบให้ฉันตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน“ขอบคุณมากนะคะ”“ชอบไหม”“ชอบค่ะ” ฉันตอบแล้วยิ้มให้แก่เขาพี่โต้งยื่นมือมาตรงหน้าเพื่อขอมือฉัน พอฉันวางมือลงเขาก็จับมือฉันเดินไปซื้อตั๋วด้วยกันแล้วให้ฉันเลือกที่นั่ง“เอาที่นั่งตรงกลางแบบนี้จะได้เห็นจอในระดับสายตาพอดี พี่โต้งเห็นด้วยไหมคะ”“แล้วแต่เลยครับพี่ยังก็ได้” เขาตอบอย่างสุภาพและให้เกียรติ ฉันจึงตัดสินให้เขาผ่านในใจพร้อมกับเลือกที่นั่งแล้วเขาก็ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดโดยไม่ยอมให้ฉันหารครึ่งเราซื้อเครื่องดื่มกับป๊อปคอร์นเข้าไปในโรงหนัง ระหว่างที่ดูหนังกันมือเราชนกันในถังป๊อปคอร์นอยู่หลายครั้งเป็นโมเมนต์ที่ทำให้ใจเต้นแรงไม่น้อยช่วงท้ายก่อนที่หนังจะจบเขาก็เลื่อนมากุมมือของฉันเอาไว้ขณะที่เราดูหนังด้วยกัน ไม่ได้มาลูบแข้งลูบขาหรือล้วงควักอะไรอย่างที่ฉันแอบคิดมาก่อนหน้านี้พอหนังจบเราก็จูงมือฉันออก
หลังจากที่แยกทางจากปั๊ก และเห็นว่าเขากลับไปแล้วฉันก็ยังไม่รีบกลับห้องเพราะกลัวว่าเขาจะแอบตามมา แล้วนัดให้เพื่อนสาวคนสนิทออกมารับไปทานอาหารค่ำด้วยกันเพื่อพูดคุยถึงเรื่องนี้“อะไรนะ นี่แกนัดคุยกันวันแรกก็ไปแง๊บๆ กันแล้วเหรอ”“อืม เขาขอน่ะ ฉันก็ว่าไม่เสียหายนี่ ในเมื่อเราก็ระบุความสนใจถึงเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว” ฉันบอกไปตามตรง“อืม เข้าใจแล้ว ล่ะไงทีนี้ทำไมถึงไม่อยากคบต่อ”“ไม่ชอบน่ะ เรื่องบนเตียงพอแก้ขัดได้แต่ไม่โดนเท่าไร จูบไม่กี่ทีก็เสียบล่ะ ไม่ชอบ” ฉันบอกตามตรงขณะที่เรานั่งรถไปหาร้านอร่อยแถวๆ ที่พักของฉันทานกัน“แล้วจะแมตซ์คู่อีกตอนไหน” แนนถามเกี่ยวกับการสุ่มเลือกคู่ในแอปพลิเคชั่นหาคู่ชื่อดัง“ไม่รู้สิ อาจจะคืนนี้ แต่ละลดความสนใจเป็น ‘นัดคุย’ ยังไม่ต้องรีบร้อนมีอะไรกัน คุยถูกคอก็ค่อยนัดกันไปกินข้าวดูหนัง แบบนี้น่าจะโอเคกว่า”“แล้วแต่แกเถอะ ขอให้เจอคนที่ใช่เร็วๆ นะ” แนนผู้ไม่เคยขัดมีแต่ส่งเสริมเพื่อน ทำให้ฉันสบายใจทุกครั้งที่อยู่ด้วยสักพักปั๊กก็ทักมาถามว่าฉันกำลังจะไปไหน ฉันจึงรู้ได้ทันทีว่าคิดไม่ผิดเข้ากำลังตามดูฉันอยู่แน่“ทานข้าวกับเพื่อนค่ะ” ฉันพิมพ์ตอบกลับไปแล้วถอนหายใจออกมา“อะไร
เมื่อใกล้ถึงเวลานัดหมาย ฉันก็รีบอาบน้ำเพื่อให้ร่างกายสะอาดสะอ้านแล้วใส่ชุดเสื้อสายเดี่ยวเอวลอย กับกระโปรงสั้นรัดรูปสีดำที่เตรียมเอาไว้นัดเดทกันครั้งแรกใส่ชุดที่ดูเซ็กซี่หน่อยๆ คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง อีกอย่างเขาชวนไปทำอะไรกันตั้งแต่นัดแรกแบบนี้ก็คงจะชื่นชอบชุดนี้ไม่น้อยฉันไปถึงที่นัดหมายก่อนเวลาแล้วนั่งรอที่ล็อบบี้ของโรงแรม ที่นี่ไม่ใช่โรงแรมกระจอกเลยสักนิด เป็นโรงแรมระดับสี่ดาวแต่ก็หรูหราในระดับหนึ่งสักพักฉันก็เห็นผู้ชายที่หน้าตาเหมือนกับรูปโปรไฟล์กำลังมองมาที่ฉัน ฉันจึงยิ้มให้เขาแล้วสักพักปั๊กก็เดินเข้ามาทักทายฉัน“มิวใช่ไหมครับ”“ค่ะ” ฉันตอบแล้วยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ที่คิดว่าเขาน่าจะประทับใจที่สุด“เราขึ้นไปเลยไหมครับ หรือว่ามิวอยากดื่มอะไรก่อน”“ขึ้นห้องเลยก็ได้ค่ะ” ฉันรู้ความต้องการของเขาอยู่แล้ว จึงตอบตกลงไปและเดินตามเขาไปยังเคาน์เตอร์ต้อนรับมองดูเขาจองห้องแล้วเราก็เดินควงกันขึ้นไปยังห้องพักด้านบนพอถึงห้องเราก็ดื่มเครื่องดื่มที่มีในห้องแล้วนั่งพูดคุยกันสักพักเพื่อให้ต่างคนต่างรู้สึกไม่ประหม่า แล้วเขาก็เข้าไปอาบน้ำในขณะที่ฉันถอดเสื้อผ้าแล้วสวมชุดคลุมของทางโรงแรมไว้รอเขาปั๊ก
ชีวิตของฉันกำลังตกอยู่ในฤดูเหงาหลังจากที่เลิกกับแฟนหนุ่มไปแค่เวลาเดือนกว่า ตอนนี้ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองทนไม่ไหวกับความเหงานี้อีกต่อไปแล้ว“อยากมีแฟน” ฉันบ่นกับเพื่อนสาวคนสนิทแล้วพ่นลมหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้ม“อยากมีแฟนหรืออยากเอากับแฟน พูด!” แนนถามกลับอย่างรู้ทันตามประสาเพื่อนที่สนิทกันมานาน“ทั้งคู่แหละ อยากมีคนพาไปกินข้าว ดูหนัง เปลี่ยวใจมาก็อยากโดนเอา..พอใจหรือยัง” ฉันประชดเพื่อนรักแล้วเขี่ยโทรศัพท์ไถดูฟีดข่าวด้วยความเซ็งในอารมณ์“งั้นก็เล่นแอปหาคู่สิจะไปยากอะไร แมตซ์กับใครก็ไปลองเดทดู ถ้าใช่ก็คบไม่ใช่ก็ถือว่าได้คนคุยเพิ่ม” ความคิดของเพื่อนฟังดูเข้าท่าเลยทีเดียว ทำให้ฉันสนใจเป็นอย่างมาก“สอนฉันเล่นหน่อยสิ อยากได้ผู้” ฉันบอกด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นทำให้เธอหรี่ตามองที่เห็นว่าฉันเหมือนจะจริงจังกับเรื่องที่เธอแค่พูดทีเล่นทีจริง“เอาจริงเหรอ แอปที่ว่านี้ส่วนมากเขาไม่ได้แค่นัดคุยนะ เขานัดเอากันด้วย” เธอถามย้ำฉันอย่างจริงจัง“อืม ฉันก็อยากลองดูเหมือนกัน หอยแห้งมานานแล้วนะ” ฉันบ่นด้วยท่าทางที่จริงจังจนแนนยอมสอนให้ฉันเล่น“แอปนี้ ใส่ชื่อข้อมูลส่วนตัวลงไป พร้อมกับช่องคำถามต่างๆ เรื่องความชอบและ