ฉันตัดสินใจย้ายไปอยู่กับพี่โต้งตามที่เขาชวน บ้านของเขาอยู่แค่คนเดียว ไม่มีแม้แต่แม่บ้านเขาทำความสะอาดบ้านเองและจ้างบริษัททำความสะอาดมาทำให้เดือนละครั้ง
“บ้านไม่ได้กว้างมากนะ เพราะพี่คิดว่าจะอยู่คนเดียวเลยไม่ได้สร้างหลังใหญ่มาก”
“ไม่ใหญ่ของพี่นี่อยู่ได้ห้าคนเลยนะคะ มีห้องนอนตั้งสามห้องแน่ะ” ฉันส่ายหัวกับความถ่อมตนของแฟนต่างวัย
“ห้องนอนใหญ่เป็นของเรา อีกสองห้องก็เอาไว้ให้ลูกดีไหม” เขาบอกเสียงทุ้มแล้วเขามาสวมกอดจากด้านหลังในขณะที่ฉันจัดเสื้อผ้าใส่ตู้อยู่
“พึ่งคบกันไม่ถึงสองเดือนเลย วางแผนมีลูกแล้วเหรอคะ”
“พี่บอกแล้วไงว่ารักและมั่นใจในตัวมิว อายุพี่เองก็มากแล้วนะ อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แล้ว และมิวคือคนที่พี่เลือก” เขาพูดเสียงเบาแต่ว่าเต็มไปด้วยความจริงจังและความหมายที่ลึกซึ้ง
“มิวดีใจนะคะที่พี่โต้งเลือกมิว ขอบคุณที่วางใจมิวค่ะ”
เขาจับฉันหมุนตัวไปสบตาแล้วยิ้มกว้างให้ก่อนจะรั้งฉันเข้าไปกอดไว้แน่น
“พอได้แล้วค่ะ เดี๋ยวมิวก็จัดของไม่เสร็จกันพอดี”
“โอเค งั้นพี่ออกไปทำงานก่อนนะ ตอนเย็นจะมารับไปทานข้าวข้างนอก”
“ค่ะ ตั้งใจทำงานนะคะ” ฉันหอมแก้มเขาแล้วจ้องใบหน้าที่ยิ้มกว้างมองฉันอย่างไม่วางตา ก่อนจะเดินคล้องแขนเขาลงไปส่งที่ลานจอดรถเพื่อให้เขาไปทำงานเสียที
พี่โต้งหอมแก้มฉันฟอดใหญ่แล้วขึ้นรถไปอย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะขับออกไปโดยมีฉันโบกมือให้เขาจนลับตา
---------------------
ในตอนเย็นฉันจัดของออกมาหมดแล้วก็อาบน้ำแต่งตัวสวยๆ ไว้รอให้เขามารับ
พี่โต้งกลับช้ากว่าที่บอกนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้โทรตามเขาเพราะกลัวจะเสียสมาธิในการขับรถ แล้วนั่งรอจนกระทั่งเขามาถึงแล้วส่งยิ้มให้อย่างเอาใจ
“กลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำก่อนไหมคะ”
“ไม่ดีกว่า ไปทานข้าวเสร็จแล้วค่อยกลับมาอาบน้ำก็ได้” เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่ดูดีใจ กลับมาที่บ้านแล้วมีคนรออยู่แบบนี้มันคงทำให้เขารู้สึกว่าบ้านเป็นบ้านมากขึ้น
เราไปทานอาหารกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับบ้านของเขา ฉันรับหน้าที่สั่งอาหารให้เราทั้งคู่จากนั้นก็นั่งทานอาหารกันอย่างมีความสุข
“เอาของหวานเพิ่มไหมคะ มิวเห็นมีเมนูของหวานที่ใช้หญ้าหวานแทนน้ำตาลด้วย พี่โต้งน่าจะทานได้” ฉันถามอย่างเอาใจหลังจากที่ทานอาหารจานหลักเสร็จแล้ว และรู้ว่าเขากำลังเลี่ยงน้ำตาลเพื่อสุขภาพ
“ไม่ดีกว่า แค่มองน้ามิวพี่ก็รู้สึกหวานชื่นใจแล้ว” เขาพูดด้วยโทนเสียงนุ่มทุ้ม หวานใส่ฉันได้ทุกโอกาสอย่างไม่หยุด แทบจะเรียกว่าเขาคลั่งรักเลยก็ว่าได้
“มิว ที่ติดต่อไม่ได้คือมีคนคุยใหม่แบบนี้เหรอ” เสียงของผู้ชายดังขึ้นจากด้านหลัง ฉันหันไปมองก็พบว่าเป็นปั๊ก
“นี่คุณเป็นใคร อย่ามาขึ้นเสียงใส่แฟนผมนะ”
“เขาเป็นคนที่มิวเคยออกเดทด้วยก่อนหน้าที่โต้งค่ะ แต่ว่ามิวไม่โอเคกับเขาเลยบล็อกไป” ฉันบอกพี่โต้งตามตรง
“ก็เราตกลงคบหากันแล้วนี่ คืนนั้นที่โรงแรมครางลั่นแบบพอใจไม่ใช่เหรอแล้วมาบอกว่าไม่ชอบ ถุย!” เขาพูดด้วยความโมโหไม่ให้เกียรติฉันเลยสักนิดจนเพื่อนเขาที่มาด้วยกันต้องรีบมาดึงแขนเอาไว้ก่อนจะเกิดเรื่อง
“กินในที่ลับขับในที่แจ้ง นี่เหรอวะผู้ชาย” พี่โต้งกัดฟันจ้องหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ แต่ไม่ได้ใช้กำลังตัดสินปัญหาตรงหน้า
“กลับโต๊ะเถอะปั๊ก คนมองกันใหญ่แล้ว” เพื่อนเขารั้งเอาไว้
ฉันหน้าชา สายตาคนที่จ้องมาเหมือนกับว่าฉันเป็นผู้หญิงใจง่ายนัดกับคนอื่นไปทั่ว จะแก้ตัวก็ยิ่งจะเข้าตัวจึงได้แต่ยืนนิ่งพลางคิดว่าฉันกับพี่โต้งคงจะจบลงแน่คราวนี้
“ไหนบอกว่าคบกันไง พูดมาสิ บล็อกทำไมวะ ไม่คบทำไมไม่บอกตรงๆ” ปั๊กร้องตะโกนเสียงดัง
ฉันเห็นอย่างนั้นจึงตัดสินใจพูดออกไปให้มันจบๆ
“ฉันมองหาความสัมพันธ์ที่มั่นคง แต่นายน่ะเห็นแต่เรื่องบนเตียงเป็นสำคัญ แล้วยังขับรถสะกดรอยตามฉันอีก คนโรคจิตแบบนายน่ะใครจะอยากคบต่อ” ฉันพูดจบก็เดินออกไปจากตรงนั้น หนีสายตาของคนที่มองมาเพราะรู้สึกอับอาย
ฉันเดินไปร้องไห้ในห้องน้ำอยู่นานพอสมควร จนกระทั่งคิดว่าพี่โต้งคงจะกลับออกไปแล้วฉันจึงเดินออกมาจากร้านแล้วพบว่าเขายืนรออยู่
เขาคงผิดหวังในตัวฉันและอยากจะจบความสัมพันธ์จึงมายืนบอกลาฉันแบบนี้
“กลับบ้านกันเถอะ”
“ถ้าพี่โต้งอยากเลิกกับมิว มิวเข้าใจนะคะ คงไม่มีใครรับได้กับผู้หญิงที่ใช้ร่างกายตามหาความรักอย่างมิว” ฉันบอกเขาไปตามตรงทำให้อีกฝ่ายถอนหายใจออกมา
“พี่เล่นแอปนั้นก็ต้องรู้อยู่แล้วในระดับหนึ่งไม่ใช่เหรอ พี่ไม่ถือสาหรอกนะ” เขาโอบไหล่ฉันให้เดินกลับไปที่รถด้วยกัน จนกระทั่งถึงรถก็จับไหล่ฉันทั้งสองข้างให้หันไปทาแล้วเชยคางขึ้นมาสบตากัน
“ถี่อยากได้แฟนที่ไม่เคยผ่านมือผู้ชายพี่คงต้องไปดักรอที่หน้าโรงเรียนมัธยมแล้วละมั้ง อย่าคิดมากสิ ทีพี่ผ่านการมีแฟน เที่ยวอ่าง ผ่านผู้หญิงมาตั้งกี่คนเพื่อตามหาคนที่ใช่กว่าจะเจอมิว” เขาเปรียบเทียบกับตัวเอง ไม่ถือสาฉันเลยสักนิด
ฉันโผเข้าไปกอดเขาไม่คิดเลยว่าผู้ชายคนนี้จะมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ มีเหตุผลและให้เกียรติไม่ดูถูกผู้หญิงเลยสักนิด
“ขอบคุณนะคะที่พี่ไม่รังเกียจมิว” ฉันบอกแล้วร้องไห้ซบอกนั้น รู้สึกอบอุ่นปลอดภัยทุกครั้งที่เขาอยู่ข้างกายแบบนี้
“พี่ไม่สนอดีตของมิวหรอกนะ แค่ปัจจุบันมิวกับพี่เรารักกัน เท่านั้นแหละที่พี่สน เลิกร้องไห้ได้แล้ว อย่าไปเสียน้ำตาให้กับหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งที่เดินผ่านชีวิตเรา เอาเท้าไปเขี่ยก็เหม็นติดเท้าเปล่าๆ ลืมมันไปนะ” เขากอดฉันแล้วลูบเบาๆ ที่แผ่นหลังพร้อมกับคำพูดให้กำลังใจที่ไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
ฉันกอดเขาแล้วร้องสะอื้นด้วยความรู้สึกประทับใจในความดีของเขา รวมไปถึงความรักที่เขามอบให้กับรักออนไลน์ที่ไม่ใช่คนดีเด่อะไรอย่างฉัน
“มิวรักพี่โต้งนะคะ ต่อจากนี้ไปมิวจะทำทุกอย่างให้พี่โต้งมีความสุข ตอบแทนที่พี่เองก็รักและเชื่อมั่นในตัวมิว ขอบคุณสำหรับทุกอย่างค่ะ” ฉันบอกเขาเสียงเครือแล้วดันตัวออกจากเขา
พี่โต้งใช้ปลายนิ้วเกลี่ยน้ำตาออกไปจากหางตาแล้วยิ้มกลับมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความห่วงใย
“ตาช้ำหมดแล้ว คืนนี้จะฉลองที่พาเมียเข้าบ้านยังไงละทีนี้ ดูสิหน้าก็บวมด้วย เลิกร้องนะ” เขาปลอบด้วยคำพูดที่ติดตลกแล้วส่งยิ้มที่นุ่มนวลและอ่อนโยนมาให้
“ค่ะ มิวไม่ร้องแล้ว” ฉันปาดน้ำตาออกแล้วยิ้มกว้างตอบกลับไป แม้รู้ตัวว่าในตอนนี้ตัวเองคงแทบดูไม่ได้เลยก็ตาม
“กลับบ้านกันนะคนดี” พี่โต้งลูบหัวฉันเบาๆ แล้วเปิดประตูรถให้อย่างเอาใจ ท่าทีที่แสนอบอุ่นนี้ฉันคงหาไม่ได้จากใครอีกแล้ว
---------------------
ทุกๆ เช้าตั้งแต่ที่มาอยู่ที่นี่ฉันตื่นขึ้นมาทำอาหารให้กับพี่โต้งแบบง่ายๆ เขาจะตื่นสายเป็นประจำเพราะจะเข้าไปที่ร้านช่วงสายจนถึงเย็น ฉันจึงไม่ต้องตื่นเช้ามากก็มีเวลาทำอาหารให้กับเขา จะเรียกว่ามื้อเช้าก็ไม่ใช่มื้อเที่ยงก็ไม่เชิง เราจึงเรียกกันว่ามื้อสาย“วันนี้ทำอะไรครับ”“วันนี้ทำไมตื่นเช้าจังละคะ มิวยังไม่ได้ทำกับข้าวเลย” ฉันพึ่งหุงข้าวไปเขาก็เดินตามฉันลงมาแล้ว“วันนี้ลืมบอกว่าไม่ต้องทำกับข้าว เราไปทานข้างนอกดีกว่า ไปอาบน้ำแต่งตัวสิ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สดชื่น คงอยากให้ฉันไปที่ร้านด้วยแน่ๆ“ค่ะ” ฉันรับปากเขาแล้วเราก็ขึ้นห้องไปอาบน้ำด้วยกัน“อาบพร้อมกันนะจะได้ไม่เสียเวลา” เขาบอกขณะที่ฉันถอดเสื้อผ้าออก แล้วเขาก็ถอดตามฉันเข้ามาในห้องน้ำด้วย“แน่ะ แบบนี้จะไม่ช้าว่าเดิมเหรอคะ” ฉันถามอย่างรู้ทัน“ตอนเช้าไม่นานหรอกน่า” พูดจบเขาก็ดึงฉันไปจูบฉันคล้องคอรับจูบจากเขาอย่างดูดดื่มก่อนที่เราจะเริ่มลูบไล้และไซ้จูบกันอย่างหวานชื่นพี่โต้งดันตัวฉันไปที่อ่างล้างหน้าแล้วอุ้มฉันขึ้นไปนั่งที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ยืนกอดจูบฉันแล้วดันอาวุธที่แข็งแกร่งมาถูไถที่ร่องสวาทในขณะที่จูบไปด้วย“อื้ม หอมจัง” เขาซุกจ
ในวันหยุดยาวของปีนี้ ปกติแล้วผมต้องกลับไปเยี่ยมบ้านกับแฟน แต่พอเราเลิกกันผมก็เคว้งและไม่ได้ตั้งใจจะไปไหนเพราะบ้านตัวเองก็ไม่มีพ่อแม่อยู่แล้ว ญาติๆ ที่เหลืออยู่ก็ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กันนัก พอได้รับคำชวนจากเพื่อนร่วมงานคนสนิทผมจึงตอบรับโดยไม่ต้องคิดมากเราเดินทางไปถึงจังหวัดบ้านเกิดของเมย์ที่เป็นเมียของเพื่อนสนิทผม พอไปถึงก็มีญาติๆ ออกมาต้อนรับ และหนึ่งในนั้นคือ ‘มิน’ น้องสาวของเมย์ที่สวยสะกดตาสะกดใจผมมาก“นี่มินน้องสาวของเมย์ นี่พี่เอกนะเป็นเพื่อนที่ทำงานในแผนกเดียวกันกับพี่” เก่งแนะนำให้เราได้รู้จักกัน เธอยกมือไหว้ผมแล้วยิ้มอย่างไว้ตัวทำให้ผมรู้ว่าผู้หญิงคนนี้คงจีบไม่ง่ายแน่“มากันเหนื่อยๆ เข้าไปพักด้านในก่อนนะคะ มินทำความสะอาดห้องเอาไว้แล้ว ส่วนพี่เอกมินกางมุ้งให้นอนที่ห้องโถงคงไม่เป็นไรนะคะ” เธอหันมาถามผมเสียงหวาน“ไม่ครับ พี่นอนไหนก็ได้” ผมตอบอย่างสุภาพแต่ว่าสายตานั้นปิดบังความรู้สึกไม่ได้ว่าชื่นชอบเธอ“มินน่ะเขาไม่สนใจผู้ชายหรอก รายนั้นน่ะตั้งใจเรียนและเรียบร้อยเป็นแม่ศรีเรือน ผู้ชายไม่มีโอกาสได้จีบสำเร็จหรอก” เมย์บอกผมเมื่อเห็นว่าผมมองตามน้องสาวเธอตาเชื่อม“หวงเหรอเมย์ เอกมันก็โส
บ้านหนองอีเลิศ บ้านหนองผักตบ และบ้านหนองคันจอง เป็นสามหมู่บ้านที่ผูกพันธมิตรกันด้วยการส่งลูกสาวหลานสาวของตนไปแต่งงานกับชายหนุ่มอีกหมู่บ้านปีนี้เป็นปีที่หมู่บ้านหนองอีเลิศต้องการลูกสะใภ้ เทียนชัยคือว่าที่เจ้าบ่าวที่กำลังรอเข้าพิธีดูตัวกับหญิงสาวจากทั้งสองหมู่บ้านพ่อแม่ของเทียนชัยจัดงานดูตัวหมู่ขึ้นตามธรรมเนียม เชิญหญิงสาวตัวแทนของทั้งสองหมู่บ้านให้มากินข้าวกับลูกชายตามลำพังโดยไม่มีผู้ใหญ่เกี่ยวข้องทับทิม สาวงามบ้านหนองผักตบนั่งชม้ายชายตามองเขาแล้วยิ้มหวานให้อย่างเชิญชวน หน้าอกหน้าใจนั้นอวบอิ่มล้นคอเสื้อกระเช้า ผ้าถุงที่ใส่ก็สั้นเสมอเข่าเผยให้เห็นน่องขาที่ขาวเนียนบัวงาม หญิงสาวที่ชื่อฟังดูเหมือนเรียบร้อย เธอสวมเสื้อยืดสีสันสดใสรัดติ้วจนเห็นขอบเสื้อชั้นในและอกอวบที่เบียดชิดและสวมกางเกงยีนขาสั้น นั่งอยู่ข้างพี่สาวของเธอด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มบัวตอง หญิงสาวจากบ้านหนองคันจองพี่สาวของบัวงาม เธอสวมเสื้อติดกระดุมคอบัวอย่างมิดชิด หน้าอกดูไม่ดันออกมาเท่าสองคนแรกแต่สะโพกภายใต้กระโปรงที่สวมใส่นั้นดูหนั่นแน่นน่าสัมผัสและคนสุดท้าย แก้วกานต์ หญิงสาวจากบ้านหนองผักตบอีกคนที่แต่งกายในชุดทำงานคล้ายกั
วันต่อมาถึงเวลาดูตัวกับหญิงสาวคนถัดไป พ่อแม่ของเทียนชัยรู้ดีว่าช่วงเวลาเลือกคู่แบบนี้พวกเขาจะต้องไม่อยู่รบกวนลูกชายจึงออกไปทำสวนตั้งแต่เช้าแก้วกานต์ที่ได้ตกลงนัดหมายเอาไว้แล้วว่าจะมาดูตัวกับเทียนชัย เธอมาที่บ้านของเขาแล้วชายหนุ่มก็พาเธอไปยังห้องดูตัวแทบจะทันที“วันนี้วันเสาร์เลยไม่ได้ไปโรงเรียนสินะครับ” เขาชวนเธอคุยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเขินอายเล็กน้อย“ค่ะ” เธอตอบแล้วหลุบตาต่ำลง นั่งที่เตียงแล้วเอามือบิดกันด้วยความตื่นเต้น“เคยดูตัวมาก่อนหน้านี้หรือยัง”“ปีก่อนดูตัวกับพี่โชคไปแล้วค่ะ”“แล้วเขาเลียดีไหม” เขาถามเสียงพร่าเพื่อปลุกเร้าอารมณ์อีกฝ่าย“ก็เลียดีค่ะ เอาหลายรอบด้วย จำได้ว่าฉันจับไข้ไปทำงานไม่ไหวเลยทีเดียว” เธอตอบแล้วตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น“แล้วดุ้นใหญ่ไหม” เขาถามแล้ววางมือที่ต้นขาของเธอ แล้วลูบวนเบาๆ เพื่อปลุกเร้าอารมณ์“ใหญ่ค่ะ” เธอตอบเสียงเบา ตัวสั่นเทาด้วยความตื่นเต้นเทียนชัยยิ้มอย่างพอใจเขายืนขึ้นแล้วถอดกางเกงออกไป เผยท่อนเนื้อที่อวบใหญ่ให้เธอได้เปรียบเทียบ “ใหญ่กว่านี้ไหม” เขาถามเสียงพร่า“พี่เทียนใหญ่กว่าค่ะ” เธอมองด้วยสายตาที่ลุกวาว กลืนน้ำลายลงคอด้วยความกระหาย“ถอดเสื
หลังจากพักเอาแรงจากการ ‘ดูตัว’ กับครูแก้วกานต์ร่านสวาทไปแล้ว เทียนชัยก็รอให้บัวตองมาหาตนด้วยความตื่นเต้นที่จะลิ้มลองการดูตัวกับเธอจนทนไม่ไหวอยากแกะเสื้อผ้าที่มิดชิดเหล่านั้นดูว่าจะซ่อนรูปเท่าครูพี่เลี้ยงคนเมื่อเช้าหรือไม่ แต่ดูจากบั้นท้ายงอนงามเมื่อวานนี้แล้วเขาเดาว่าแคมเอต้องอวบกระแทกมันอย่างแน่นอนบัวตองที่ลางานวันศุกร์และเสาร์เพื่อเข้าพิธีดูตัว เธอมาถุงในตอนบ่ายแก่ๆ ด้วยชุดลำลองที่สุภาพหญิงสาวไหว้ทักทายเขาแล้วยิ้มให้ด้วยความมั่นใจ แล้วเป็นฝ่ายเชิญชวนเขาไปดูตัวอย่างไม่รีรอ“ห้องดูตัวของเราอยู่ไหนคะ” เธอยิ้มมองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาอย่างตรงไปตรงมา“ตามพี่มาสิ” เขาบอกแล้วเดินนำหน้าไปยังห้องนอนของเขาที่ใช้เป็นห้องดูตัวพอไปถึงบัวตองก็ไม่รอช้า เธอถอดเสื้อผ้าตัวเองออกแล้วบอกให้เขารีบถอดออกไปเช่นเดียวกัน“ไม่คุยกันสักหน่อยเหรอบัวตอง”“ไม่ล่ะ ตองไม่ได้ดูตัวมาสองปีแล้ว รอดูตัวปีนี้แทบไม่ไหว ได้เป็นสะใภ้ไหมตองไม่สน ตองใช้นิ้วจนเบื่ออยากได้ท่อนเนื้ออุ่นๆ มาแยงเต็มทีแล้ว” เธอบอกด้วยน้ำเสียงกระเหี้ยนกระหือรือ“ตรงๆ แบบนี้พี่ชอบ” เขายิ้มอย่างชอบใจพอเสื้อผ้าถูกถอดออกไปจนหมด แม่เส
แววตาสดใสและรอยยิ้มของสาวแรกรุ่นนั้นทำให้หัวใจของเทียนชัยวัยยี่สิบห้าพองโตแล้วมองเธอด้วยสายตาที่โลมเลียหญิงสาวมาหาเขาในตอนสายของวันอาทิตย์ด้วยเสื้อผ้าในแบบที่วัยรุ่นทั่วไปมักใส่กันเสื้อยืดเอวลอยและกางเกงยีนขาสั้นที่โชว์ให้เห็นเรียวขาขาวเนียนนั้น ประกอบกับที่บัวตองบอกว่าเธอยังไม่เคยผ่านมือชายก็ทำให้เขายิ่งรู้สึกกระสันที่จะร่วมสวาทด้วย“ดูตัวปีแรกเหรอ”“จ้ะ บัวงามเพิ่งเรียนจบม.ปลาย ปีนี้ย่างสิบเก้าพ่อแม่เลยให้ดูตัวเลยจ้ะ” เธอตอบแล้วมองด้วยสายตาที่ตื่นเต้น เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เธอเองก็รอคอยที่จะอยากลิ้มรสพิธีดูตัวดูสักครั้ง“งั้นพี่จะสอนบัวงามนะ จะได้รู้ว่าเขาดูตัวกันแบบไหน” เขาพูดเสียงกระเส่า พาเธอไปนั่งที่เตียงแล้วจัดการถอดกางเกงของเธอออกไปมือหนาแยกเข่าเธอออกกว้างเพื่อสำรวจกลีบบัวสีหวานแล้วใช้นิ้วมือเขี่ยที่เม็ดเสียว ลากนิ้วไปมาที่ร่องสวาทอย่างหลงใหล “ตรงนี้คือเม็ดเสียว รูนี้คือรูที่ใช้ดูตัว” เขาพูดแล้วใช้นิ้วแยงเข้าไปทีละนิ้ว เร่งซอยนิ้วเข้าออกจนเธอตัวสั่น“อื้อ พี่เทียน อ๊าส์ รู้สึกดีมากเลยค่ะ ซี๊ด” เธอครางลั่นเสียงสั่นพริ้วด้วยความกระสัน“เขาเรียกว่าเสียว ลองพูดสิ”“เสียวค่ะ อ๊าส
การตัดสินใจเลือกเจ้าสาวของเทียนชัยนั้นยุ่งยากเหลือเกินแก้วกานต์ดูเป็นคนเรียบร้อยแต่ก็มีด้านมืดที่ร่านสวาทอย่างไม่แสดงออกซึ่งเขาไม่ค่อยชอบในจุดนี้ต่างกับบัวตองที่ร่านสวาทและหื่นอย่างตรงไปตรงมาแต่ทำงานในเมืองที่ต้องพักในตัวเมือง ส่วนบัวงามนั้นก็ดูไร้เดียงสาและตรงไปตรงมากินไม่รู้จักอิ่มเหมือนพี่สาว ประสบการณ์บนเตียงน้อยและทับทิมแม่ค้าขายขนมหวานที่เธออกอวบเต็มมือและยังว่านอนสอนง่าย ดังนั้นบัวงามจึงมีสิทธิ์มากกว่าคนอื่นเพียงข่าวลือที่ได้ยินทำให้เขาลังเลว่าควรเลือกเธอดีหรือไม่ เพราะเพื่อนของเขาบอกว่าตลอดเวลาที่รอให้ถึงการดูตัวอีกฝ่ายนั้นระเริงรักไปทั่วกับในคนหมู่บ้านของตัวเองแต่นั้นก็เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้นเขานั่งคิดวกวนไปมา จนในที่สุดก็พิจารณาไปถึงหน้าที่การงานมากกว่าเรื่องบนเตียง แล้วตัดสินใจที่จะเลือกคนที่เขาเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวเขามากที่สุดเมื่อถึงเวลาที่เขาจะให้คำตอบแก่สาวๆ ทั้งสองหมู่บ้าน เทียนชัยเลือกสองพี่น้องจากหมู่บ้านหนองคันจองเพื่อแต่งงานด้วยทับทิมและแก้วกานต์จากบ้านหนองผักตบจึงต้องกลับไปด้วยความเสียดายบัวตองทำงานในเมือง เขาจะให้เธอลาออกมาช่วยทำบัญชีของที่บ้าน
ณ ที่ทำการบ้านของกำนันเข้ม ได้จัดให้มีงานเลี้ยงต้อนรับปลัดคนใหม่ที่ย้ายมาประจำที่อำเภอโคกเนินนางสายพิณกำลังช่วยบิดาต้อนรับแขกเหรื่อด้วยรอยยิ้มที่แสนหวานหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในหมู่บ้าน มีทั้งตำแหน่งนางงามประจำจังหวัด นางงามนพมาศ และนางงามมารยาทงาม การันตีความสวยแบบสมบูรณ์พร้อมทั้งกายและใจของเธอหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่พากันมาในงานนี้ต่างอยากมาชื่นชมความสวยของเธอทั้งนั้น โดยเฉพาะปลัดหนุ่มที่มองเธอตาเป็นมันด้วยความหลงใหล“พ่อกำนัน ผู้ใหญ่ผินเมามากแล้วให้คนไปส่งแกหน่อยสิ รถฉันออกไม่ได้มีคนคนอื่นจอดขวาง”ชาวบ้านคนหนึ่งในงานเดินเข้ามาบอกด้วยความร้อนใจ เพราะผู้ใหญ่ผินเป็นประเภทเมาแล้วกร่างอาจทำให้งานเสียได้“เดี๋ยวหาคนไปส่งก่อน” กำนันเข้มมองไปรอบๆ หาลูกน้องของตน แต่ละคนก็ดูเหมือนจะเมาเพราะวันนี้ตนอนุญาตให้เต็มที่“สายพิณไปส่งลุงผู้ใหญ่เองจ้ะพ่อ รถสายพิณจอดอยู่หน้างานพอดี” เธอรับอาสาจากบิดา“งั้นพ่อฝากด้วยนะ” เขาหันมายิ้มกับลูกสาวที่อาสาช่วยงานอย่างไม่เกี่ยง แล้วหันไปยิ้มสบตากับปลัดหนุ่มเล็กน้อยปลัดอำเภอที่ย้ายมาใหม่มองตามหญิงสาวด้วยสายตาที่อาลัยอาวรณ์ เขาอยากพูดคุยกับเธอให้มากกว่านี้
ในวันหยุดยาวของปีนี้ ปกติแล้วผมต้องกลับไปเยี่ยมบ้านกับแฟน แต่พอเราเลิกกันผมก็เคว้งและไม่ได้ตั้งใจจะไปไหนเพราะบ้านตัวเองก็ไม่มีพ่อแม่อยู่แล้ว ญาติๆ ที่เหลืออยู่ก็ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กันนัก พอได้รับคำชวนจากเพื่อนร่วมงานคนสนิทผมจึงตอบรับโดยไม่ต้องคิดมากเราเดินทางไปถึงจังหวัดบ้านเกิดของเมย์ที่เป็นเมียของเพื่อนสนิทผม พอไปถึงก็มีญาติๆ ออกมาต้อนรับ และหนึ่งในนั้นคือ ‘มิน’ น้องสาวของเมย์ที่สวยสะกดตาสะกดใจผมมาก“นี่มินน้องสาวของเมย์ นี่พี่เอกนะเป็นเพื่อนที่ทำงานในแผนกเดียวกันกับพี่” เก่งแนะนำให้เราได้รู้จักกัน เธอยกมือไหว้ผมแล้วยิ้มอย่างไว้ตัวทำให้ผมรู้ว่าผู้หญิงคนนี้คงจีบไม่ง่ายแน่“มากันเหนื่อยๆ เข้าไปพักด้านในก่อนนะคะ มินทำความสะอาดห้องเอาไว้แล้ว ส่วนพี่เอกมินกางมุ้งให้นอนที่ห้องโถงคงไม่เป็นไรนะคะ” เธอหันมาถามผมเสียงหวาน“ไม่ครับ พี่นอนไหนก็ได้” ผมตอบอย่างสุภาพแต่ว่าสายตานั้นปิดบังความรู้สึกไม่ได้ว่าชื่นชอบเธอ“มินน่ะเขาไม่สนใจผู้ชายหรอก รายนั้นน่ะตั้งใจเรียนและเรียบร้อยเป็นแม่ศรีเรือน ผู้ชายไม่มีโอกาสได้จีบสำเร็จหรอก” เมย์บอกผมเมื่อเห็นว่าผมมองตามน้องสาวเธอตาเชื่อม“หวงเหรอเมย์ เอกมันก็โส
ทุกๆ เช้าตั้งแต่ที่มาอยู่ที่นี่ฉันตื่นขึ้นมาทำอาหารให้กับพี่โต้งแบบง่ายๆ เขาจะตื่นสายเป็นประจำเพราะจะเข้าไปที่ร้านช่วงสายจนถึงเย็น ฉันจึงไม่ต้องตื่นเช้ามากก็มีเวลาทำอาหารให้กับเขา จะเรียกว่ามื้อเช้าก็ไม่ใช่มื้อเที่ยงก็ไม่เชิง เราจึงเรียกกันว่ามื้อสาย“วันนี้ทำอะไรครับ”“วันนี้ทำไมตื่นเช้าจังละคะ มิวยังไม่ได้ทำกับข้าวเลย” ฉันพึ่งหุงข้าวไปเขาก็เดินตามฉันลงมาแล้ว“วันนี้ลืมบอกว่าไม่ต้องทำกับข้าว เราไปทานข้างนอกดีกว่า ไปอาบน้ำแต่งตัวสิ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สดชื่น คงอยากให้ฉันไปที่ร้านด้วยแน่ๆ“ค่ะ” ฉันรับปากเขาแล้วเราก็ขึ้นห้องไปอาบน้ำด้วยกัน“อาบพร้อมกันนะจะได้ไม่เสียเวลา” เขาบอกขณะที่ฉันถอดเสื้อผ้าออก แล้วเขาก็ถอดตามฉันเข้ามาในห้องน้ำด้วย“แน่ะ แบบนี้จะไม่ช้าว่าเดิมเหรอคะ” ฉันถามอย่างรู้ทัน“ตอนเช้าไม่นานหรอกน่า” พูดจบเขาก็ดึงฉันไปจูบฉันคล้องคอรับจูบจากเขาอย่างดูดดื่มก่อนที่เราจะเริ่มลูบไล้และไซ้จูบกันอย่างหวานชื่นพี่โต้งดันตัวฉันไปที่อ่างล้างหน้าแล้วอุ้มฉันขึ้นไปนั่งที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ยืนกอดจูบฉันแล้วดันอาวุธที่แข็งแกร่งมาถูไถที่ร่องสวาทในขณะที่จูบไปด้วย“อื้ม หอมจัง” เขาซุกจ
ฉันตัดสินใจย้ายไปอยู่กับพี่โต้งตามที่เขาชวน บ้านของเขาอยู่แค่คนเดียว ไม่มีแม้แต่แม่บ้านเขาทำความสะอาดบ้านเองและจ้างบริษัททำความสะอาดมาทำให้เดือนละครั้ง“บ้านไม่ได้กว้างมากนะ เพราะพี่คิดว่าจะอยู่คนเดียวเลยไม่ได้สร้างหลังใหญ่มาก”“ไม่ใหญ่ของพี่นี่อยู่ได้ห้าคนเลยนะคะ มีห้องนอนตั้งสามห้องแน่ะ” ฉันส่ายหัวกับความถ่อมตนของแฟนต่างวัย“ห้องนอนใหญ่เป็นของเรา อีกสองห้องก็เอาไว้ให้ลูกดีไหม” เขาบอกเสียงทุ้มแล้วเขามาสวมกอดจากด้านหลังในขณะที่ฉันจัดเสื้อผ้าใส่ตู้อยู่“พึ่งคบกันไม่ถึงสองเดือนเลย วางแผนมีลูกแล้วเหรอคะ”“พี่บอกแล้วไงว่ารักและมั่นใจในตัวมิว อายุพี่เองก็มากแล้วนะ อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แล้ว และมิวคือคนที่พี่เลือก” เขาพูดเสียงเบาแต่ว่าเต็มไปด้วยความจริงจังและความหมายที่ลึกซึ้ง“มิวดีใจนะคะที่พี่โต้งเลือกมิว ขอบคุณที่วางใจมิวค่ะ”เขาจับฉันหมุนตัวไปสบตาแล้วยิ้มกว้างให้ก่อนจะรั้งฉันเข้าไปกอดไว้แน่น“พอได้แล้วค่ะ เดี๋ยวมิวก็จัดของไม่เสร็จกันพอดี”“โอเค งั้นพี่ออกไปทำงานก่อนนะ ตอนเย็นจะมารับไปทานข้าวข้างนอก”“ค่ะ ตั้งใจทำงานนะคะ” ฉันหอมแก้มเขาแล้วจ้องใบหน้าที่ยิ้มกว้างมองฉันอย่างไม่วางตา ก่อนจ
หลังจากครั้งแรกระหว่างเราได้ผ่านพ้นไปแล้ว และพี่โต้งรับปากว่าคืนนี้เขาจะอยู่กับฉันฉันปล่อยให้เขาได้พักจนหายเหนื่อย ในระหว่างนั้นเราพูดคุยถึงเรื่องต่างๆ และมีความเห็นไปในทางเดียวกันทั้งเรื่องแนวความคิดและการเข้าอกเข้าใจกัน“ย้ายไปอยู่กับพี่นะ” เขาถามฉันออกมาทำให้ฉันตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก“ไปอยู่ด้วยเลยเหรอคะ พี่โต้งมั่นใจในตัวมิวแล้วเหรอ มิวไม่มีอะไรเลยนะคะ มิวไม่อยากให้ใครมามองว่ามิวตกถังข้าวสารหรอกนะ” ฉันบอกเขาไปตามตรงแม่จะชอบที่เขารวยแต่ก็ไม่ชอบให้คนมองไม่ดี“ใครจะว่าอะไรก็ช่างเขา พี่มั่นใจว่ามันไม่ใช่ก็พอ” เขาพูดเสียงนุ่มแล้วทำท่าจะขึ้นมาคร่อมทับฉันเอาไว้ แต่ฉันดันหน้าอกของเขาลงไปก่อน“มิวบอกแล้วไงคะ ว่ามิวอยากปรนนิบัติพี่โต้งบ้าง นอนนิ่งๆ เถอะค่ะ” ฉันพูดเสียงหวานแล้วหลุบตาลงต่ำหนีสายตาคมกริบที่เขาจ้องมองมา แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกแต่กับเขามันทำให้ฉันรู้สึกประหม่าและตื่นเต้นมาที่จะต้องทำอะไรแบบนี้ฉันดึงผ้าห่มออกเผยให้แท่งลำปรากฏแก่สายตาแล้วลูบจนมันขยายคับเต็มมือ ปลายหัวมันวาวเชิญชวนให้ฉันก้มลงไปใช้ปลายลิ้นแตะสัมผัสมัน ก่อนจะลากปลายลิ้นไปรอบๆ ท่อนลำนั้นแล้วใช้มือรูดรั้งที่โคนลำอย่างเบาม
เราคบหาดูใจและไปทานอาหารด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง โดยที่เขาอาสาจ่ายให้ฉันทุกมื้อหลังจากที่ฉันรู้ฐานะที่แท้จริงของเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจของเขาอีก ปล่อยให้เขาได้เอาใจฉันอย่างเต็มที่พี่โต้งดีกับฉันมาก และฉันเองก็ยังไม่อยากจะปล่อยให้เขาหลุดมือไป ดังนั้นจึงไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเขา มีแต่เขาที่ซื้อของขวัญให้ทุกครั้งที่เราเจอกันจนฉันต้องบอกให้เขาพอ“ไม่เอาแล้วนะคะ เจอกันก็มีของขวัญให้มิวตลอด มิวเกรงใจนะคะแต่ละอย่างแพงๆ ทั้งนั้น ข้าวก็เลี้ยง ของก็ให้ มิวสิไม่มีอะไรให้พี่โต้งเลยสักอย่าง” ฉันบ่นให้เขาเมื่อครั้งนี้เขาซื้อน้ำหอมเคาน์เตอร์แบรนด์ดังให้ฉัน ในครั้งแรกที่ยอมให้เขาขึ้นมาหาถึงห้อง“เราเป็นแฟนกันนะ พี่ก็อยากให้อะไรมิวบ้าง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เอาใจแล้วทำหน้าตาออดอ้อนขัดกับวัยของเขาแต่ก็น่ารักเป็นอย่างมาก ทำให้ใจเต้นแรงได้ดีเลยทีเดียว“แต่มันเยอะเกินไปนี่คะ มิวรับไม่ไหวหรอก”“งั้นก็ตกลงเป็นแฟนพี่สิ” เขาขอฉันเป็นแฟนแล้วยิ้มแป้นรอให้ฉันตอบตกลง“ที่ผ่านมาหนึ่งเดือน ไม่ใช่ว่าเราเป็นแฟนกันแล้วเหรอคะ”“นี่หมายความว่า มิวเป็นแฟนพี่แล้วใช่ไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นและดีใจ“ค่ะ มิวเป็นแฟนพี่โ
ฉันอยู่ในชุดที่สุภาพเพราะคู่นัดเป็นคนที่มีอายุในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังคงดูดีและทันสมัยไปในตัวไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังแน่พี่โต้งเองก็มาในชุดที่สุภาพ เสื้อโปโลสีเรียบและกางเกงยีนของเขาทำให้ดูดีในระดับหนึ่ง และที่ถูกใจฉันมากก็เห็นจะเป็นช่อกุหลาบเล็กๆ ในมือเขาที่มอบให้ฉันตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน“ขอบคุณมากนะคะ”“ชอบไหม”“ชอบค่ะ” ฉันตอบแล้วยิ้มให้แก่เขาพี่โต้งยื่นมือมาตรงหน้าเพื่อขอมือฉัน พอฉันวางมือลงเขาก็จับมือฉันเดินไปซื้อตั๋วด้วยกันแล้วให้ฉันเลือกที่นั่ง“เอาที่นั่งตรงกลางแบบนี้จะได้เห็นจอในระดับสายตาพอดี พี่โต้งเห็นด้วยไหมคะ”“แล้วแต่เลยครับพี่ยังก็ได้” เขาตอบอย่างสุภาพและให้เกียรติ ฉันจึงตัดสินให้เขาผ่านในใจพร้อมกับเลือกที่นั่งแล้วเขาก็ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดโดยไม่ยอมให้ฉันหารครึ่งเราซื้อเครื่องดื่มกับป๊อปคอร์นเข้าไปในโรงหนัง ระหว่างที่ดูหนังกันมือเราชนกันในถังป๊อปคอร์นอยู่หลายครั้งเป็นโมเมนต์ที่ทำให้ใจเต้นแรงไม่น้อยช่วงท้ายก่อนที่หนังจะจบเขาก็เลื่อนมากุมมือของฉันเอาไว้ขณะที่เราดูหนังด้วยกัน ไม่ได้มาลูบแข้งลูบขาหรือล้วงควักอะไรอย่างที่ฉันแอบคิดมาก่อนหน้านี้พอหนังจบเราก็จูงมือฉันออก
หลังจากที่แยกทางจากปั๊ก และเห็นว่าเขากลับไปแล้วฉันก็ยังไม่รีบกลับห้องเพราะกลัวว่าเขาจะแอบตามมา แล้วนัดให้เพื่อนสาวคนสนิทออกมารับไปทานอาหารค่ำด้วยกันเพื่อพูดคุยถึงเรื่องนี้“อะไรนะ นี่แกนัดคุยกันวันแรกก็ไปแง๊บๆ กันแล้วเหรอ”“อืม เขาขอน่ะ ฉันก็ว่าไม่เสียหายนี่ ในเมื่อเราก็ระบุความสนใจถึงเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว” ฉันบอกไปตามตรง“อืม เข้าใจแล้ว ล่ะไงทีนี้ทำไมถึงไม่อยากคบต่อ”“ไม่ชอบน่ะ เรื่องบนเตียงพอแก้ขัดได้แต่ไม่โดนเท่าไร จูบไม่กี่ทีก็เสียบล่ะ ไม่ชอบ” ฉันบอกตามตรงขณะที่เรานั่งรถไปหาร้านอร่อยแถวๆ ที่พักของฉันทานกัน“แล้วจะแมตซ์คู่อีกตอนไหน” แนนถามเกี่ยวกับการสุ่มเลือกคู่ในแอปพลิเคชั่นหาคู่ชื่อดัง“ไม่รู้สิ อาจจะคืนนี้ แต่ละลดความสนใจเป็น ‘นัดคุย’ ยังไม่ต้องรีบร้อนมีอะไรกัน คุยถูกคอก็ค่อยนัดกันไปกินข้าวดูหนัง แบบนี้น่าจะโอเคกว่า”“แล้วแต่แกเถอะ ขอให้เจอคนที่ใช่เร็วๆ นะ” แนนผู้ไม่เคยขัดมีแต่ส่งเสริมเพื่อน ทำให้ฉันสบายใจทุกครั้งที่อยู่ด้วยสักพักปั๊กก็ทักมาถามว่าฉันกำลังจะไปไหน ฉันจึงรู้ได้ทันทีว่าคิดไม่ผิดเข้ากำลังตามดูฉันอยู่แน่“ทานข้าวกับเพื่อนค่ะ” ฉันพิมพ์ตอบกลับไปแล้วถอนหายใจออกมา“อะไร
เมื่อใกล้ถึงเวลานัดหมาย ฉันก็รีบอาบน้ำเพื่อให้ร่างกายสะอาดสะอ้านแล้วใส่ชุดเสื้อสายเดี่ยวเอวลอย กับกระโปรงสั้นรัดรูปสีดำที่เตรียมเอาไว้นัดเดทกันครั้งแรกใส่ชุดที่ดูเซ็กซี่หน่อยๆ คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง อีกอย่างเขาชวนไปทำอะไรกันตั้งแต่นัดแรกแบบนี้ก็คงจะชื่นชอบชุดนี้ไม่น้อยฉันไปถึงที่นัดหมายก่อนเวลาแล้วนั่งรอที่ล็อบบี้ของโรงแรม ที่นี่ไม่ใช่โรงแรมกระจอกเลยสักนิด เป็นโรงแรมระดับสี่ดาวแต่ก็หรูหราในระดับหนึ่งสักพักฉันก็เห็นผู้ชายที่หน้าตาเหมือนกับรูปโปรไฟล์กำลังมองมาที่ฉัน ฉันจึงยิ้มให้เขาแล้วสักพักปั๊กก็เดินเข้ามาทักทายฉัน“มิวใช่ไหมครับ”“ค่ะ” ฉันตอบแล้วยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ที่คิดว่าเขาน่าจะประทับใจที่สุด“เราขึ้นไปเลยไหมครับ หรือว่ามิวอยากดื่มอะไรก่อน”“ขึ้นห้องเลยก็ได้ค่ะ” ฉันรู้ความต้องการของเขาอยู่แล้ว จึงตอบตกลงไปและเดินตามเขาไปยังเคาน์เตอร์ต้อนรับมองดูเขาจองห้องแล้วเราก็เดินควงกันขึ้นไปยังห้องพักด้านบนพอถึงห้องเราก็ดื่มเครื่องดื่มที่มีในห้องแล้วนั่งพูดคุยกันสักพักเพื่อให้ต่างคนต่างรู้สึกไม่ประหม่า แล้วเขาก็เข้าไปอาบน้ำในขณะที่ฉันถอดเสื้อผ้าแล้วสวมชุดคลุมของทางโรงแรมไว้รอเขาปั๊ก
ชีวิตของฉันกำลังตกอยู่ในฤดูเหงาหลังจากที่เลิกกับแฟนหนุ่มไปแค่เวลาเดือนกว่า ตอนนี้ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองทนไม่ไหวกับความเหงานี้อีกต่อไปแล้ว“อยากมีแฟน” ฉันบ่นกับเพื่อนสาวคนสนิทแล้วพ่นลมหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้ม“อยากมีแฟนหรืออยากเอากับแฟน พูด!” แนนถามกลับอย่างรู้ทันตามประสาเพื่อนที่สนิทกันมานาน“ทั้งคู่แหละ อยากมีคนพาไปกินข้าว ดูหนัง เปลี่ยวใจมาก็อยากโดนเอา..พอใจหรือยัง” ฉันประชดเพื่อนรักแล้วเขี่ยโทรศัพท์ไถดูฟีดข่าวด้วยความเซ็งในอารมณ์“งั้นก็เล่นแอปหาคู่สิจะไปยากอะไร แมตซ์กับใครก็ไปลองเดทดู ถ้าใช่ก็คบไม่ใช่ก็ถือว่าได้คนคุยเพิ่ม” ความคิดของเพื่อนฟังดูเข้าท่าเลยทีเดียว ทำให้ฉันสนใจเป็นอย่างมาก“สอนฉันเล่นหน่อยสิ อยากได้ผู้” ฉันบอกด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นทำให้เธอหรี่ตามองที่เห็นว่าฉันเหมือนจะจริงจังกับเรื่องที่เธอแค่พูดทีเล่นทีจริง“เอาจริงเหรอ แอปที่ว่านี้ส่วนมากเขาไม่ได้แค่นัดคุยนะ เขานัดเอากันด้วย” เธอถามย้ำฉันอย่างจริงจัง“อืม ฉันก็อยากลองดูเหมือนกัน หอยแห้งมานานแล้วนะ” ฉันบ่นด้วยท่าทางที่จริงจังจนแนนยอมสอนให้ฉันเล่น“แอปนี้ ใส่ชื่อข้อมูลส่วนตัวลงไป พร้อมกับช่องคำถามต่างๆ เรื่องความชอบและ