ชีวิตของฉันกำลังตกอยู่ในฤดูเหงาหลังจากที่เลิกกับแฟนหนุ่มไปแค่เวลาเดือนกว่า ตอนนี้ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองทนไม่ไหวกับความเหงานี้อีกต่อไปแล้ว
“อยากมีแฟน” ฉันบ่นกับเพื่อนสาวคนสนิทแล้วพ่นลมหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้ม
“อยากมีแฟนหรืออยากเอากับแฟน พูด!” แนนถามกลับอย่างรู้ทันตามประสาเพื่อนที่สนิทกันมานาน
“ทั้งคู่แหละ อยากมีคนพาไปกินข้าว ดูหนัง เปลี่ยวใจมาก็อยากโดนเอา..พอใจหรือยัง” ฉันประชดเพื่อนรักแล้วเขี่ยโทรศัพท์ไถดูฟีดข่าวด้วยความเซ็งในอารมณ์
“งั้นก็เล่นแอปหาคู่สิจะไปยากอะไร แมตซ์กับใครก็ไปลองเดทดู ถ้าใช่ก็คบไม่ใช่ก็ถือว่าได้คนคุยเพิ่ม” ความคิดของเพื่อนฟังดูเข้าท่าเลยทีเดียว ทำให้ฉันสนใจเป็นอย่างมาก
“สอนฉันเล่นหน่อยสิ อยากได้ผู้” ฉันบอกด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นทำให้เธอหรี่ตามองที่เห็นว่าฉันเหมือนจะจริงจังกับเรื่องที่เธอแค่พูดทีเล่นทีจริง
“เอาจริงเหรอ แอปที่ว่านี้ส่วนมากเขาไม่ได้แค่นัดคุยนะ เขานัดเอากันด้วย” เธอถามย้ำฉันอย่างจริงจัง
“อืม ฉันก็อยากลองดูเหมือนกัน หอยแห้งมานานแล้วนะ” ฉันบ่นด้วยท่าทางที่จริงจังจนแนนยอมสอนให้ฉันเล่น
“แอปนี้ ใส่ชื่อข้อมูลส่วนตัวลงไป พร้อมกับช่องคำถามต่างๆ เรื่องความชอบและงานอดิเรกแล้วมันจะจับคู่คนที่แมตซ์กับเราให้” แนนอธิบายเบื้องต้น
ฉันพยักหน้าเข้าใจแล้วรอฟังเธออธิบายต่อ
“แล้วในช่องความสนใจ ถ้าแกสนใจอยากนัดเอาแก้เหงาก็ใส่คำว่า ‘นัดเจอ’ ถ้าสนใจอยากคบจริงจังใส่คำว่า ‘นัดคุย’ และถ้าแกอยากลองคุยๆ แล้วเอากันไปด้วยก็ใส่คำว่า ‘นัดเดท’ คนในแอปจะรู้กันเองว่าความสนใจทั้งสามแบบนี้คืออะไร”
“อืม พอเข้าใจแล้ว ใส่ความสนใจลงไปแล้วระบบก็จะแมตซ์คนที่มีความต้องการเหมือนเราให้ รวมถึงงานอดิเรกและลักษณะนิสัยด้วยใช่ไหม”
“ใช่ มันจะสุ่มเลือกให้ ถ้าชอบก็กดเข้าไปคุย ถ้าไม่ชอบก็กดสุ่มใหม่” แนนอธิบายอย่างละเอียดทำให้ฉันเข้าใจเรื่องแอปหาคู่ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในตอนนี้ แล้วเริ่มโหลดแอปมาพร้อมกับกรอกข้อมูลลงไป เลือกภาพโปรไฟล์ที่สวยและดูดีที่สุดลงไปด้วย
‘ความสนใจ...นัดเดท’ ฉันเลือกแบบที่สามที่สามารถคบดูใจกันและมีความสัมพันธ์เพื่อทดลองคบหากันก่อน ซึ่งเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับความต้องการของฉันจริงๆ
หลังจากสมัครเสร็จฉันก็ยิ้มอย่างพอใจยังไม่ได้เริ่มสุ่มจับคู่เพราะอยากคุยแบบส่วนตัวกับคนที่ตัวเองสุ่มด้วยตอนที่อยู่ตามลำพังมากกว่า
---------------------
ในตอนหัวค่ำที่ห้องพักของฉัน หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วฉันก็สุ่มเลือกคู่เดท แล้วระบบก็จับคู่กับผู้ชายคนหนึ่งให้
“สวัสดีค่ะ” ฉันทักไปก่อน
“ดี ชื่อแนค เตงชื่อไร” เขาทักมาอย่างแนว ฉันปัดตกกดสุ่มเลือกคนถัดไปทันที
ระบบจับคู่ให้ฉันอีกครั้ง แล้วครั้งนี้เขาเป็นฝ่ายทักมาก่อน
“สวัสดีครับ ปั๊ก” เขาทักทายมาอย่างสุภาพ
“สวัสดีค่ะ ชื่อมิวนะคะ” ฉันพิมพ์กลับไปแล้วรอเขาตอบกลับมาด้วยความตื่นเต้น
หลังจากนั้นเขาก็ชวนคุยเรื่องหนังที่เราชอบแนวแอคชั่นเหมือนกัน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นคุยเรื่องทั่วๆ ไปอย่างถูกคอ มีหลายเรื่องที่ความชอบเราตรงกันก่อนที่จะเปิดฉากพูดถึงเรื่องการนัดคุยกันตามจุดประสงค์ที่เราใช้แอปพลิเคชันนี้
“ผมทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศใกล้กับโรงแรมเปี่ยมสุข เรานัดเจอกันที่นั่นดีไหมครับ” เขาถามตรงๆ อย่างไม่อ้อมค้อม เพราะความสนใจของพวกเราคือนัดคุยและนัดเอากันทั้งสองอย่าง
“ได้ค่ะ วันไหนดีคะ” ฉันตอบกลับไปด้วยยิ้มกว้างไม่หุบ ตื่นเต้นที่จะได้มีใครสักคนคลายเหงา
“วันพรุ่งนี้ก็ได้ครับ ผมเลิกงานตอนห้าโมงครึ่ง จะรอคุณที่หน้าโรงแรมเปี่ยมสุข” เขานัดหมายอย่างคล่องแคล่วราวกับว่าทำแบบนี้บ่อยๆ ซึ่งก็คงต้องหาคนคุยไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอคนที่ใช่
“ตกลงค่ะ ฉันจะไปตามนัดพรุ่งนี้นะคะ” ฉันตอบตกลงกับเขาไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน แล้วเราก็คุยกันเรื่องอื่นอีกสักพักก่อนที่เขาจะขอตัวออกจากการสนทนาไป
ฉันลุกขึ้นไปเปลี่ยนเป็นชุดลำลองเพื่อลงไปซื้อของจำเป็นที่มินิมาร์ทด้านล่างของหอพัก ‘นมเปรี้ยวที่ทำให้ลดกลิ่น’ คือเป้าหมายของฉัน แม้จะไม่รู้ว่ามันได้ผลหรือเปล่าแต่ไม่ลองก็ไม่รู้
ส่วนเขาเองก็มีหน้าที่เตรียมเครื่องป้องกันเอาไว้ตามที่เราตกลงกันก่อนวางสาย
จากนั้นฉันก็รีบกลับไปที่ห้อง ดื่มนมเปรี้ยวไปสามขวดรวดก่อนที่จะเลือกชุดที่จะใส่ไปหาเขาในวันพรุ่งนี้ด้วยความตื่นเต้น ทั้งๆ ที่ตัวเองก็มีแฟนมาแล้วสองคน แต่ไม่รู้ว่าทำไมครั้งนี้ต้องตื่นเต้นกว่าทุกครั้งคงเป็นเพราะมันเป็นการนัดคุยกันทางออนไลน์และยังไม่เคยเจอตัวจริงกันมาก่อนก็อาจเป็นได้
ก่อนหน้านี้หลังจากที่เลิกกับแฟนแล้วต้องใช้ชีวิตคนเดียวในยามค่ำคืน ฉันใช้แตงกวาคลายความเหงาด้วยตนเองมาเกือบเดือนและวนเวียนกับมะเขือยาวอยู่อย่างนั้น แต่หลังจากพรุ่งนี้ฉันจะไม่ต้องใช้มันอีกต่อไปแล้ว
ฉันทิ้งตัวลงที่เตียงพยายามข่มตาให้หลับ พรุ่งนี้ก็จะได้เจอเขาแล้วและฉันก็ไม่ต้องเหงาอีกต่อไป
---------------------
เมื่อใกล้ถึงเวลานัดหมาย ฉันก็รีบอาบน้ำเพื่อให้ร่างกายสะอาดสะอ้านแล้วใส่ชุดเสื้อสายเดี่ยวเอวลอย กับกระโปรงสั้นรัดรูปสีดำที่เตรียมเอาไว้นัดเดทกันครั้งแรกใส่ชุดที่ดูเซ็กซี่หน่อยๆ คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง อีกอย่างเขาชวนไปทำอะไรกันตั้งแต่นัดแรกแบบนี้ก็คงจะชื่นชอบชุดนี้ไม่น้อยฉันไปถึงที่นัดหมายก่อนเวลาแล้วนั่งรอที่ล็อบบี้ของโรงแรม ที่นี่ไม่ใช่โรงแรมกระจอกเลยสักนิด เป็นโรงแรมระดับสี่ดาวแต่ก็หรูหราในระดับหนึ่งสักพักฉันก็เห็นผู้ชายที่หน้าตาเหมือนกับรูปโปรไฟล์กำลังมองมาที่ฉัน ฉันจึงยิ้มให้เขาแล้วสักพักปั๊กก็เดินเข้ามาทักทายฉัน“มิวใช่ไหมครับ”“ค่ะ” ฉันตอบแล้วยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ที่คิดว่าเขาน่าจะประทับใจที่สุด“เราขึ้นไปเลยไหมครับ หรือว่ามิวอยากดื่มอะไรก่อน”“ขึ้นห้องเลยก็ได้ค่ะ” ฉันรู้ความต้องการของเขาอยู่แล้ว จึงตอบตกลงไปและเดินตามเขาไปยังเคาน์เตอร์ต้อนรับมองดูเขาจองห้องแล้วเราก็เดินควงกันขึ้นไปยังห้องพักด้านบนพอถึงห้องเราก็ดื่มเครื่องดื่มที่มีในห้องแล้วนั่งพูดคุยกันสักพักเพื่อให้ต่างคนต่างรู้สึกไม่ประหม่า แล้วเขาก็เข้าไปอาบน้ำในขณะที่ฉันถอดเสื้อผ้าแล้วสวมชุดคลุมของทางโรงแรมไว้รอเขาปั๊ก
หลังจากที่แยกทางจากปั๊ก และเห็นว่าเขากลับไปแล้วฉันก็ยังไม่รีบกลับห้องเพราะกลัวว่าเขาจะแอบตามมา แล้วนัดให้เพื่อนสาวคนสนิทออกมารับไปทานอาหารค่ำด้วยกันเพื่อพูดคุยถึงเรื่องนี้“อะไรนะ นี่แกนัดคุยกันวันแรกก็ไปแง๊บๆ กันแล้วเหรอ”“อืม เขาขอน่ะ ฉันก็ว่าไม่เสียหายนี่ ในเมื่อเราก็ระบุความสนใจถึงเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว” ฉันบอกไปตามตรง“อืม เข้าใจแล้ว ล่ะไงทีนี้ทำไมถึงไม่อยากคบต่อ”“ไม่ชอบน่ะ เรื่องบนเตียงพอแก้ขัดได้แต่ไม่โดนเท่าไร จูบไม่กี่ทีก็เสียบล่ะ ไม่ชอบ” ฉันบอกตามตรงขณะที่เรานั่งรถไปหาร้านอร่อยแถวๆ ที่พักของฉันทานกัน“แล้วจะแมตซ์คู่อีกตอนไหน” แนนถามเกี่ยวกับการสุ่มเลือกคู่ในแอปพลิเคชั่นหาคู่ชื่อดัง“ไม่รู้สิ อาจจะคืนนี้ แต่ละลดความสนใจเป็น ‘นัดคุย’ ยังไม่ต้องรีบร้อนมีอะไรกัน คุยถูกคอก็ค่อยนัดกันไปกินข้าวดูหนัง แบบนี้น่าจะโอเคกว่า”“แล้วแต่แกเถอะ ขอให้เจอคนที่ใช่เร็วๆ นะ” แนนผู้ไม่เคยขัดมีแต่ส่งเสริมเพื่อน ทำให้ฉันสบายใจทุกครั้งที่อยู่ด้วยสักพักปั๊กก็ทักมาถามว่าฉันกำลังจะไปไหน ฉันจึงรู้ได้ทันทีว่าคิดไม่ผิดเข้ากำลังตามดูฉันอยู่แน่“ทานข้าวกับเพื่อนค่ะ” ฉันพิมพ์ตอบกลับไปแล้วถอนหายใจออกมา“อะไร
ฉันอยู่ในชุดที่สุภาพเพราะคู่นัดเป็นคนที่มีอายุในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังคงดูดีและทันสมัยไปในตัวไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังแน่พี่โต้งเองก็มาในชุดที่สุภาพ เสื้อโปโลสีเรียบและกางเกงยีนของเขาทำให้ดูดีในระดับหนึ่ง และที่ถูกใจฉันมากก็เห็นจะเป็นช่อกุหลาบเล็กๆ ในมือเขาที่มอบให้ฉันตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน“ขอบคุณมากนะคะ”“ชอบไหม”“ชอบค่ะ” ฉันตอบแล้วยิ้มให้แก่เขาพี่โต้งยื่นมือมาตรงหน้าเพื่อขอมือฉัน พอฉันวางมือลงเขาก็จับมือฉันเดินไปซื้อตั๋วด้วยกันแล้วให้ฉันเลือกที่นั่ง“เอาที่นั่งตรงกลางแบบนี้จะได้เห็นจอในระดับสายตาพอดี พี่โต้งเห็นด้วยไหมคะ”“แล้วแต่เลยครับพี่ยังก็ได้” เขาตอบอย่างสุภาพและให้เกียรติ ฉันจึงตัดสินให้เขาผ่านในใจพร้อมกับเลือกที่นั่งแล้วเขาก็ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดโดยไม่ยอมให้ฉันหารครึ่งเราซื้อเครื่องดื่มกับป๊อปคอร์นเข้าไปในโรงหนัง ระหว่างที่ดูหนังกันมือเราชนกันในถังป๊อปคอร์นอยู่หลายครั้งเป็นโมเมนต์ที่ทำให้ใจเต้นแรงไม่น้อยช่วงท้ายก่อนที่หนังจะจบเขาก็เลื่อนมากุมมือของฉันเอาไว้ขณะที่เราดูหนังด้วยกัน ไม่ได้มาลูบแข้งลูบขาหรือล้วงควักอะไรอย่างที่ฉันแอบคิดมาก่อนหน้านี้พอหนังจบเราก็จูงมือฉันออก
เราคบหาดูใจและไปทานอาหารด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง โดยที่เขาอาสาจ่ายให้ฉันทุกมื้อหลังจากที่ฉันรู้ฐานะที่แท้จริงของเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจของเขาอีก ปล่อยให้เขาได้เอาใจฉันอย่างเต็มที่พี่โต้งดีกับฉันมาก และฉันเองก็ยังไม่อยากจะปล่อยให้เขาหลุดมือไป ดังนั้นจึงไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเขา มีแต่เขาที่ซื้อของขวัญให้ทุกครั้งที่เราเจอกันจนฉันต้องบอกให้เขาพอ“ไม่เอาแล้วนะคะ เจอกันก็มีของขวัญให้มิวตลอด มิวเกรงใจนะคะแต่ละอย่างแพงๆ ทั้งนั้น ข้าวก็เลี้ยง ของก็ให้ มิวสิไม่มีอะไรให้พี่โต้งเลยสักอย่าง” ฉันบ่นให้เขาเมื่อครั้งนี้เขาซื้อน้ำหอมเคาน์เตอร์แบรนด์ดังให้ฉัน ในครั้งแรกที่ยอมให้เขาขึ้นมาหาถึงห้อง“เราเป็นแฟนกันนะ พี่ก็อยากให้อะไรมิวบ้าง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เอาใจแล้วทำหน้าตาออดอ้อนขัดกับวัยของเขาแต่ก็น่ารักเป็นอย่างมาก ทำให้ใจเต้นแรงได้ดีเลยทีเดียว“แต่มันเยอะเกินไปนี่คะ มิวรับไม่ไหวหรอก”“งั้นก็ตกลงเป็นแฟนพี่สิ” เขาขอฉันเป็นแฟนแล้วยิ้มแป้นรอให้ฉันตอบตกลง“ที่ผ่านมาหนึ่งเดือน ไม่ใช่ว่าเราเป็นแฟนกันแล้วเหรอคะ”“นี่หมายความว่า มิวเป็นแฟนพี่แล้วใช่ไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นและดีใจ“ค่ะ มิวเป็นแฟนพี่โ
หลังจากครั้งแรกระหว่างเราได้ผ่านพ้นไปแล้ว และพี่โต้งรับปากว่าคืนนี้เขาจะอยู่กับฉันฉันปล่อยให้เขาได้พักจนหายเหนื่อย ในระหว่างนั้นเราพูดคุยถึงเรื่องต่างๆ และมีความเห็นไปในทางเดียวกันทั้งเรื่องแนวความคิดและการเข้าอกเข้าใจกัน“ย้ายไปอยู่กับพี่นะ” เขาถามฉันออกมาทำให้ฉันตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก“ไปอยู่ด้วยเลยเหรอคะ พี่โต้งมั่นใจในตัวมิวแล้วเหรอ มิวไม่มีอะไรเลยนะคะ มิวไม่อยากให้ใครมามองว่ามิวตกถังข้าวสารหรอกนะ” ฉันบอกเขาไปตามตรงแม่จะชอบที่เขารวยแต่ก็ไม่ชอบให้คนมองไม่ดี“ใครจะว่าอะไรก็ช่างเขา พี่มั่นใจว่ามันไม่ใช่ก็พอ” เขาพูดเสียงนุ่มแล้วทำท่าจะขึ้นมาคร่อมทับฉันเอาไว้ แต่ฉันดันหน้าอกของเขาลงไปก่อน“มิวบอกแล้วไงคะ ว่ามิวอยากปรนนิบัติพี่โต้งบ้าง นอนนิ่งๆ เถอะค่ะ” ฉันพูดเสียงหวานแล้วหลุบตาลงต่ำหนีสายตาคมกริบที่เขาจ้องมองมา แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกแต่กับเขามันทำให้ฉันรู้สึกประหม่าและตื่นเต้นมาที่จะต้องทำอะไรแบบนี้ฉันดึงผ้าห่มออกเผยให้แท่งลำปรากฏแก่สายตาแล้วลูบจนมันขยายคับเต็มมือ ปลายหัวมันวาวเชิญชวนให้ฉันก้มลงไปใช้ปลายลิ้นแตะสัมผัสมัน ก่อนจะลากปลายลิ้นไปรอบๆ ท่อนลำนั้นแล้วใช้มือรูดรั้งที่โคนลำอย่างเบาม
ฉันตัดสินใจย้ายไปอยู่กับพี่โต้งตามที่เขาชวน บ้านของเขาอยู่แค่คนเดียว ไม่มีแม้แต่แม่บ้านเขาทำความสะอาดบ้านเองและจ้างบริษัททำความสะอาดมาทำให้เดือนละครั้ง“บ้านไม่ได้กว้างมากนะ เพราะพี่คิดว่าจะอยู่คนเดียวเลยไม่ได้สร้างหลังใหญ่มาก”“ไม่ใหญ่ของพี่นี่อยู่ได้ห้าคนเลยนะคะ มีห้องนอนตั้งสามห้องแน่ะ” ฉันส่ายหัวกับความถ่อมตนของแฟนต่างวัย“ห้องนอนใหญ่เป็นของเรา อีกสองห้องก็เอาไว้ให้ลูกดีไหม” เขาบอกเสียงทุ้มแล้วเขามาสวมกอดจากด้านหลังในขณะที่ฉันจัดเสื้อผ้าใส่ตู้อยู่“พึ่งคบกันไม่ถึงสองเดือนเลย วางแผนมีลูกแล้วเหรอคะ”“พี่บอกแล้วไงว่ารักและมั่นใจในตัวมิว อายุพี่เองก็มากแล้วนะ อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แล้ว และมิวคือคนที่พี่เลือก” เขาพูดเสียงเบาแต่ว่าเต็มไปด้วยความจริงจังและความหมายที่ลึกซึ้ง“มิวดีใจนะคะที่พี่โต้งเลือกมิว ขอบคุณที่วางใจมิวค่ะ”เขาจับฉันหมุนตัวไปสบตาแล้วยิ้มกว้างให้ก่อนจะรั้งฉันเข้าไปกอดไว้แน่น“พอได้แล้วค่ะ เดี๋ยวมิวก็จัดของไม่เสร็จกันพอดี”“โอเค งั้นพี่ออกไปทำงานก่อนนะ ตอนเย็นจะมารับไปทานข้าวข้างนอก”“ค่ะ ตั้งใจทำงานนะคะ” ฉันหอมแก้มเขาแล้วจ้องใบหน้าที่ยิ้มกว้างมองฉันอย่างไม่วางตา ก่อนจ
ทุกๆ เช้าตั้งแต่ที่มาอยู่ที่นี่ฉันตื่นขึ้นมาทำอาหารให้กับพี่โต้งแบบง่ายๆ เขาจะตื่นสายเป็นประจำเพราะจะเข้าไปที่ร้านช่วงสายจนถึงเย็น ฉันจึงไม่ต้องตื่นเช้ามากก็มีเวลาทำอาหารให้กับเขา จะเรียกว่ามื้อเช้าก็ไม่ใช่มื้อเที่ยงก็ไม่เชิง เราจึงเรียกกันว่ามื้อสาย“วันนี้ทำอะไรครับ”“วันนี้ทำไมตื่นเช้าจังละคะ มิวยังไม่ได้ทำกับข้าวเลย” ฉันพึ่งหุงข้าวไปเขาก็เดินตามฉันลงมาแล้ว“วันนี้ลืมบอกว่าไม่ต้องทำกับข้าว เราไปทานข้างนอกดีกว่า ไปอาบน้ำแต่งตัวสิ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สดชื่น คงอยากให้ฉันไปที่ร้านด้วยแน่ๆ“ค่ะ” ฉันรับปากเขาแล้วเราก็ขึ้นห้องไปอาบน้ำด้วยกัน“อาบพร้อมกันนะจะได้ไม่เสียเวลา” เขาบอกขณะที่ฉันถอดเสื้อผ้าออก แล้วเขาก็ถอดตามฉันเข้ามาในห้องน้ำด้วย“แน่ะ แบบนี้จะไม่ช้าว่าเดิมเหรอคะ” ฉันถามอย่างรู้ทัน“ตอนเช้าไม่นานหรอกน่า” พูดจบเขาก็ดึงฉันไปจูบฉันคล้องคอรับจูบจากเขาอย่างดูดดื่มก่อนที่เราจะเริ่มลูบไล้และไซ้จูบกันอย่างหวานชื่นพี่โต้งดันตัวฉันไปที่อ่างล้างหน้าแล้วอุ้มฉันขึ้นไปนั่งที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ยืนกอดจูบฉันแล้วดันอาวุธที่แข็งแกร่งมาถูไถที่ร่องสวาทในขณะที่จูบไปด้วย“อื้ม หอมจัง” เขาซุกจ
ในวันหยุดยาวของปีนี้ ปกติแล้วผมต้องกลับไปเยี่ยมบ้านกับแฟน แต่พอเราเลิกกันผมก็เคว้งและไม่ได้ตั้งใจจะไปไหนเพราะบ้านตัวเองก็ไม่มีพ่อแม่อยู่แล้ว ญาติๆ ที่เหลืออยู่ก็ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กันนัก พอได้รับคำชวนจากเพื่อนร่วมงานคนสนิทผมจึงตอบรับโดยไม่ต้องคิดมากเราเดินทางไปถึงจังหวัดบ้านเกิดของเมย์ที่เป็นเมียของเพื่อนสนิทผม พอไปถึงก็มีญาติๆ ออกมาต้อนรับ และหนึ่งในนั้นคือ ‘มิน’ น้องสาวของเมย์ที่สวยสะกดตาสะกดใจผมมาก“นี่มินน้องสาวของเมย์ นี่พี่เอกนะเป็นเพื่อนที่ทำงานในแผนกเดียวกันกับพี่” เก่งแนะนำให้เราได้รู้จักกัน เธอยกมือไหว้ผมแล้วยิ้มอย่างไว้ตัวทำให้ผมรู้ว่าผู้หญิงคนนี้คงจีบไม่ง่ายแน่“มากันเหนื่อยๆ เข้าไปพักด้านในก่อนนะคะ มินทำความสะอาดห้องเอาไว้แล้ว ส่วนพี่เอกมินกางมุ้งให้นอนที่ห้องโถงคงไม่เป็นไรนะคะ” เธอหันมาถามผมเสียงหวาน“ไม่ครับ พี่นอนไหนก็ได้” ผมตอบอย่างสุภาพแต่ว่าสายตานั้นปิดบังความรู้สึกไม่ได้ว่าชื่นชอบเธอ“มินน่ะเขาไม่สนใจผู้ชายหรอก รายนั้นน่ะตั้งใจเรียนและเรียบร้อยเป็นแม่ศรีเรือน ผู้ชายไม่มีโอกาสได้จีบสำเร็จหรอก” เมย์บอกผมเมื่อเห็นว่าผมมองตามน้องสาวเธอตาเชื่อม“หวงเหรอเมย์ เอกมันก็โส
ในวันหยุดยาวของปีนี้ ปกติแล้วผมต้องกลับไปเยี่ยมบ้านกับแฟน แต่พอเราเลิกกันผมก็เคว้งและไม่ได้ตั้งใจจะไปไหนเพราะบ้านตัวเองก็ไม่มีพ่อแม่อยู่แล้ว ญาติๆ ที่เหลืออยู่ก็ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กันนัก พอได้รับคำชวนจากเพื่อนร่วมงานคนสนิทผมจึงตอบรับโดยไม่ต้องคิดมากเราเดินทางไปถึงจังหวัดบ้านเกิดของเมย์ที่เป็นเมียของเพื่อนสนิทผม พอไปถึงก็มีญาติๆ ออกมาต้อนรับ และหนึ่งในนั้นคือ ‘มิน’ น้องสาวของเมย์ที่สวยสะกดตาสะกดใจผมมาก“นี่มินน้องสาวของเมย์ นี่พี่เอกนะเป็นเพื่อนที่ทำงานในแผนกเดียวกันกับพี่” เก่งแนะนำให้เราได้รู้จักกัน เธอยกมือไหว้ผมแล้วยิ้มอย่างไว้ตัวทำให้ผมรู้ว่าผู้หญิงคนนี้คงจีบไม่ง่ายแน่“มากันเหนื่อยๆ เข้าไปพักด้านในก่อนนะคะ มินทำความสะอาดห้องเอาไว้แล้ว ส่วนพี่เอกมินกางมุ้งให้นอนที่ห้องโถงคงไม่เป็นไรนะคะ” เธอหันมาถามผมเสียงหวาน“ไม่ครับ พี่นอนไหนก็ได้” ผมตอบอย่างสุภาพแต่ว่าสายตานั้นปิดบังความรู้สึกไม่ได้ว่าชื่นชอบเธอ“มินน่ะเขาไม่สนใจผู้ชายหรอก รายนั้นน่ะตั้งใจเรียนและเรียบร้อยเป็นแม่ศรีเรือน ผู้ชายไม่มีโอกาสได้จีบสำเร็จหรอก” เมย์บอกผมเมื่อเห็นว่าผมมองตามน้องสาวเธอตาเชื่อม“หวงเหรอเมย์ เอกมันก็โส
ทุกๆ เช้าตั้งแต่ที่มาอยู่ที่นี่ฉันตื่นขึ้นมาทำอาหารให้กับพี่โต้งแบบง่ายๆ เขาจะตื่นสายเป็นประจำเพราะจะเข้าไปที่ร้านช่วงสายจนถึงเย็น ฉันจึงไม่ต้องตื่นเช้ามากก็มีเวลาทำอาหารให้กับเขา จะเรียกว่ามื้อเช้าก็ไม่ใช่มื้อเที่ยงก็ไม่เชิง เราจึงเรียกกันว่ามื้อสาย“วันนี้ทำอะไรครับ”“วันนี้ทำไมตื่นเช้าจังละคะ มิวยังไม่ได้ทำกับข้าวเลย” ฉันพึ่งหุงข้าวไปเขาก็เดินตามฉันลงมาแล้ว“วันนี้ลืมบอกว่าไม่ต้องทำกับข้าว เราไปทานข้างนอกดีกว่า ไปอาบน้ำแต่งตัวสิ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สดชื่น คงอยากให้ฉันไปที่ร้านด้วยแน่ๆ“ค่ะ” ฉันรับปากเขาแล้วเราก็ขึ้นห้องไปอาบน้ำด้วยกัน“อาบพร้อมกันนะจะได้ไม่เสียเวลา” เขาบอกขณะที่ฉันถอดเสื้อผ้าออก แล้วเขาก็ถอดตามฉันเข้ามาในห้องน้ำด้วย“แน่ะ แบบนี้จะไม่ช้าว่าเดิมเหรอคะ” ฉันถามอย่างรู้ทัน“ตอนเช้าไม่นานหรอกน่า” พูดจบเขาก็ดึงฉันไปจูบฉันคล้องคอรับจูบจากเขาอย่างดูดดื่มก่อนที่เราจะเริ่มลูบไล้และไซ้จูบกันอย่างหวานชื่นพี่โต้งดันตัวฉันไปที่อ่างล้างหน้าแล้วอุ้มฉันขึ้นไปนั่งที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ยืนกอดจูบฉันแล้วดันอาวุธที่แข็งแกร่งมาถูไถที่ร่องสวาทในขณะที่จูบไปด้วย“อื้ม หอมจัง” เขาซุกจ
ฉันตัดสินใจย้ายไปอยู่กับพี่โต้งตามที่เขาชวน บ้านของเขาอยู่แค่คนเดียว ไม่มีแม้แต่แม่บ้านเขาทำความสะอาดบ้านเองและจ้างบริษัททำความสะอาดมาทำให้เดือนละครั้ง“บ้านไม่ได้กว้างมากนะ เพราะพี่คิดว่าจะอยู่คนเดียวเลยไม่ได้สร้างหลังใหญ่มาก”“ไม่ใหญ่ของพี่นี่อยู่ได้ห้าคนเลยนะคะ มีห้องนอนตั้งสามห้องแน่ะ” ฉันส่ายหัวกับความถ่อมตนของแฟนต่างวัย“ห้องนอนใหญ่เป็นของเรา อีกสองห้องก็เอาไว้ให้ลูกดีไหม” เขาบอกเสียงทุ้มแล้วเขามาสวมกอดจากด้านหลังในขณะที่ฉันจัดเสื้อผ้าใส่ตู้อยู่“พึ่งคบกันไม่ถึงสองเดือนเลย วางแผนมีลูกแล้วเหรอคะ”“พี่บอกแล้วไงว่ารักและมั่นใจในตัวมิว อายุพี่เองก็มากแล้วนะ อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แล้ว และมิวคือคนที่พี่เลือก” เขาพูดเสียงเบาแต่ว่าเต็มไปด้วยความจริงจังและความหมายที่ลึกซึ้ง“มิวดีใจนะคะที่พี่โต้งเลือกมิว ขอบคุณที่วางใจมิวค่ะ”เขาจับฉันหมุนตัวไปสบตาแล้วยิ้มกว้างให้ก่อนจะรั้งฉันเข้าไปกอดไว้แน่น“พอได้แล้วค่ะ เดี๋ยวมิวก็จัดของไม่เสร็จกันพอดี”“โอเค งั้นพี่ออกไปทำงานก่อนนะ ตอนเย็นจะมารับไปทานข้าวข้างนอก”“ค่ะ ตั้งใจทำงานนะคะ” ฉันหอมแก้มเขาแล้วจ้องใบหน้าที่ยิ้มกว้างมองฉันอย่างไม่วางตา ก่อนจ
หลังจากครั้งแรกระหว่างเราได้ผ่านพ้นไปแล้ว และพี่โต้งรับปากว่าคืนนี้เขาจะอยู่กับฉันฉันปล่อยให้เขาได้พักจนหายเหนื่อย ในระหว่างนั้นเราพูดคุยถึงเรื่องต่างๆ และมีความเห็นไปในทางเดียวกันทั้งเรื่องแนวความคิดและการเข้าอกเข้าใจกัน“ย้ายไปอยู่กับพี่นะ” เขาถามฉันออกมาทำให้ฉันตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก“ไปอยู่ด้วยเลยเหรอคะ พี่โต้งมั่นใจในตัวมิวแล้วเหรอ มิวไม่มีอะไรเลยนะคะ มิวไม่อยากให้ใครมามองว่ามิวตกถังข้าวสารหรอกนะ” ฉันบอกเขาไปตามตรงแม่จะชอบที่เขารวยแต่ก็ไม่ชอบให้คนมองไม่ดี“ใครจะว่าอะไรก็ช่างเขา พี่มั่นใจว่ามันไม่ใช่ก็พอ” เขาพูดเสียงนุ่มแล้วทำท่าจะขึ้นมาคร่อมทับฉันเอาไว้ แต่ฉันดันหน้าอกของเขาลงไปก่อน“มิวบอกแล้วไงคะ ว่ามิวอยากปรนนิบัติพี่โต้งบ้าง นอนนิ่งๆ เถอะค่ะ” ฉันพูดเสียงหวานแล้วหลุบตาลงต่ำหนีสายตาคมกริบที่เขาจ้องมองมา แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกแต่กับเขามันทำให้ฉันรู้สึกประหม่าและตื่นเต้นมาที่จะต้องทำอะไรแบบนี้ฉันดึงผ้าห่มออกเผยให้แท่งลำปรากฏแก่สายตาแล้วลูบจนมันขยายคับเต็มมือ ปลายหัวมันวาวเชิญชวนให้ฉันก้มลงไปใช้ปลายลิ้นแตะสัมผัสมัน ก่อนจะลากปลายลิ้นไปรอบๆ ท่อนลำนั้นแล้วใช้มือรูดรั้งที่โคนลำอย่างเบาม
เราคบหาดูใจและไปทานอาหารด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง โดยที่เขาอาสาจ่ายให้ฉันทุกมื้อหลังจากที่ฉันรู้ฐานะที่แท้จริงของเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจของเขาอีก ปล่อยให้เขาได้เอาใจฉันอย่างเต็มที่พี่โต้งดีกับฉันมาก และฉันเองก็ยังไม่อยากจะปล่อยให้เขาหลุดมือไป ดังนั้นจึงไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเขา มีแต่เขาที่ซื้อของขวัญให้ทุกครั้งที่เราเจอกันจนฉันต้องบอกให้เขาพอ“ไม่เอาแล้วนะคะ เจอกันก็มีของขวัญให้มิวตลอด มิวเกรงใจนะคะแต่ละอย่างแพงๆ ทั้งนั้น ข้าวก็เลี้ยง ของก็ให้ มิวสิไม่มีอะไรให้พี่โต้งเลยสักอย่าง” ฉันบ่นให้เขาเมื่อครั้งนี้เขาซื้อน้ำหอมเคาน์เตอร์แบรนด์ดังให้ฉัน ในครั้งแรกที่ยอมให้เขาขึ้นมาหาถึงห้อง“เราเป็นแฟนกันนะ พี่ก็อยากให้อะไรมิวบ้าง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เอาใจแล้วทำหน้าตาออดอ้อนขัดกับวัยของเขาแต่ก็น่ารักเป็นอย่างมาก ทำให้ใจเต้นแรงได้ดีเลยทีเดียว“แต่มันเยอะเกินไปนี่คะ มิวรับไม่ไหวหรอก”“งั้นก็ตกลงเป็นแฟนพี่สิ” เขาขอฉันเป็นแฟนแล้วยิ้มแป้นรอให้ฉันตอบตกลง“ที่ผ่านมาหนึ่งเดือน ไม่ใช่ว่าเราเป็นแฟนกันแล้วเหรอคะ”“นี่หมายความว่า มิวเป็นแฟนพี่แล้วใช่ไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นและดีใจ“ค่ะ มิวเป็นแฟนพี่โ
ฉันอยู่ในชุดที่สุภาพเพราะคู่นัดเป็นคนที่มีอายุในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังคงดูดีและทันสมัยไปในตัวไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังแน่พี่โต้งเองก็มาในชุดที่สุภาพ เสื้อโปโลสีเรียบและกางเกงยีนของเขาทำให้ดูดีในระดับหนึ่ง และที่ถูกใจฉันมากก็เห็นจะเป็นช่อกุหลาบเล็กๆ ในมือเขาที่มอบให้ฉันตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน“ขอบคุณมากนะคะ”“ชอบไหม”“ชอบค่ะ” ฉันตอบแล้วยิ้มให้แก่เขาพี่โต้งยื่นมือมาตรงหน้าเพื่อขอมือฉัน พอฉันวางมือลงเขาก็จับมือฉันเดินไปซื้อตั๋วด้วยกันแล้วให้ฉันเลือกที่นั่ง“เอาที่นั่งตรงกลางแบบนี้จะได้เห็นจอในระดับสายตาพอดี พี่โต้งเห็นด้วยไหมคะ”“แล้วแต่เลยครับพี่ยังก็ได้” เขาตอบอย่างสุภาพและให้เกียรติ ฉันจึงตัดสินให้เขาผ่านในใจพร้อมกับเลือกที่นั่งแล้วเขาก็ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดโดยไม่ยอมให้ฉันหารครึ่งเราซื้อเครื่องดื่มกับป๊อปคอร์นเข้าไปในโรงหนัง ระหว่างที่ดูหนังกันมือเราชนกันในถังป๊อปคอร์นอยู่หลายครั้งเป็นโมเมนต์ที่ทำให้ใจเต้นแรงไม่น้อยช่วงท้ายก่อนที่หนังจะจบเขาก็เลื่อนมากุมมือของฉันเอาไว้ขณะที่เราดูหนังด้วยกัน ไม่ได้มาลูบแข้งลูบขาหรือล้วงควักอะไรอย่างที่ฉันแอบคิดมาก่อนหน้านี้พอหนังจบเราก็จูงมือฉันออก
หลังจากที่แยกทางจากปั๊ก และเห็นว่าเขากลับไปแล้วฉันก็ยังไม่รีบกลับห้องเพราะกลัวว่าเขาจะแอบตามมา แล้วนัดให้เพื่อนสาวคนสนิทออกมารับไปทานอาหารค่ำด้วยกันเพื่อพูดคุยถึงเรื่องนี้“อะไรนะ นี่แกนัดคุยกันวันแรกก็ไปแง๊บๆ กันแล้วเหรอ”“อืม เขาขอน่ะ ฉันก็ว่าไม่เสียหายนี่ ในเมื่อเราก็ระบุความสนใจถึงเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว” ฉันบอกไปตามตรง“อืม เข้าใจแล้ว ล่ะไงทีนี้ทำไมถึงไม่อยากคบต่อ”“ไม่ชอบน่ะ เรื่องบนเตียงพอแก้ขัดได้แต่ไม่โดนเท่าไร จูบไม่กี่ทีก็เสียบล่ะ ไม่ชอบ” ฉันบอกตามตรงขณะที่เรานั่งรถไปหาร้านอร่อยแถวๆ ที่พักของฉันทานกัน“แล้วจะแมตซ์คู่อีกตอนไหน” แนนถามเกี่ยวกับการสุ่มเลือกคู่ในแอปพลิเคชั่นหาคู่ชื่อดัง“ไม่รู้สิ อาจจะคืนนี้ แต่ละลดความสนใจเป็น ‘นัดคุย’ ยังไม่ต้องรีบร้อนมีอะไรกัน คุยถูกคอก็ค่อยนัดกันไปกินข้าวดูหนัง แบบนี้น่าจะโอเคกว่า”“แล้วแต่แกเถอะ ขอให้เจอคนที่ใช่เร็วๆ นะ” แนนผู้ไม่เคยขัดมีแต่ส่งเสริมเพื่อน ทำให้ฉันสบายใจทุกครั้งที่อยู่ด้วยสักพักปั๊กก็ทักมาถามว่าฉันกำลังจะไปไหน ฉันจึงรู้ได้ทันทีว่าคิดไม่ผิดเข้ากำลังตามดูฉันอยู่แน่“ทานข้าวกับเพื่อนค่ะ” ฉันพิมพ์ตอบกลับไปแล้วถอนหายใจออกมา“อะไร
เมื่อใกล้ถึงเวลานัดหมาย ฉันก็รีบอาบน้ำเพื่อให้ร่างกายสะอาดสะอ้านแล้วใส่ชุดเสื้อสายเดี่ยวเอวลอย กับกระโปรงสั้นรัดรูปสีดำที่เตรียมเอาไว้นัดเดทกันครั้งแรกใส่ชุดที่ดูเซ็กซี่หน่อยๆ คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง อีกอย่างเขาชวนไปทำอะไรกันตั้งแต่นัดแรกแบบนี้ก็คงจะชื่นชอบชุดนี้ไม่น้อยฉันไปถึงที่นัดหมายก่อนเวลาแล้วนั่งรอที่ล็อบบี้ของโรงแรม ที่นี่ไม่ใช่โรงแรมกระจอกเลยสักนิด เป็นโรงแรมระดับสี่ดาวแต่ก็หรูหราในระดับหนึ่งสักพักฉันก็เห็นผู้ชายที่หน้าตาเหมือนกับรูปโปรไฟล์กำลังมองมาที่ฉัน ฉันจึงยิ้มให้เขาแล้วสักพักปั๊กก็เดินเข้ามาทักทายฉัน“มิวใช่ไหมครับ”“ค่ะ” ฉันตอบแล้วยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ที่คิดว่าเขาน่าจะประทับใจที่สุด“เราขึ้นไปเลยไหมครับ หรือว่ามิวอยากดื่มอะไรก่อน”“ขึ้นห้องเลยก็ได้ค่ะ” ฉันรู้ความต้องการของเขาอยู่แล้ว จึงตอบตกลงไปและเดินตามเขาไปยังเคาน์เตอร์ต้อนรับมองดูเขาจองห้องแล้วเราก็เดินควงกันขึ้นไปยังห้องพักด้านบนพอถึงห้องเราก็ดื่มเครื่องดื่มที่มีในห้องแล้วนั่งพูดคุยกันสักพักเพื่อให้ต่างคนต่างรู้สึกไม่ประหม่า แล้วเขาก็เข้าไปอาบน้ำในขณะที่ฉันถอดเสื้อผ้าแล้วสวมชุดคลุมของทางโรงแรมไว้รอเขาปั๊ก
ชีวิตของฉันกำลังตกอยู่ในฤดูเหงาหลังจากที่เลิกกับแฟนหนุ่มไปแค่เวลาเดือนกว่า ตอนนี้ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองทนไม่ไหวกับความเหงานี้อีกต่อไปแล้ว“อยากมีแฟน” ฉันบ่นกับเพื่อนสาวคนสนิทแล้วพ่นลมหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้ม“อยากมีแฟนหรืออยากเอากับแฟน พูด!” แนนถามกลับอย่างรู้ทันตามประสาเพื่อนที่สนิทกันมานาน“ทั้งคู่แหละ อยากมีคนพาไปกินข้าว ดูหนัง เปลี่ยวใจมาก็อยากโดนเอา..พอใจหรือยัง” ฉันประชดเพื่อนรักแล้วเขี่ยโทรศัพท์ไถดูฟีดข่าวด้วยความเซ็งในอารมณ์“งั้นก็เล่นแอปหาคู่สิจะไปยากอะไร แมตซ์กับใครก็ไปลองเดทดู ถ้าใช่ก็คบไม่ใช่ก็ถือว่าได้คนคุยเพิ่ม” ความคิดของเพื่อนฟังดูเข้าท่าเลยทีเดียว ทำให้ฉันสนใจเป็นอย่างมาก“สอนฉันเล่นหน่อยสิ อยากได้ผู้” ฉันบอกด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นทำให้เธอหรี่ตามองที่เห็นว่าฉันเหมือนจะจริงจังกับเรื่องที่เธอแค่พูดทีเล่นทีจริง“เอาจริงเหรอ แอปที่ว่านี้ส่วนมากเขาไม่ได้แค่นัดคุยนะ เขานัดเอากันด้วย” เธอถามย้ำฉันอย่างจริงจัง“อืม ฉันก็อยากลองดูเหมือนกัน หอยแห้งมานานแล้วนะ” ฉันบ่นด้วยท่าทางที่จริงจังจนแนนยอมสอนให้ฉันเล่น“แอปนี้ ใส่ชื่อข้อมูลส่วนตัวลงไป พร้อมกับช่องคำถามต่างๆ เรื่องความชอบและ