เราคบหาดูใจและไปทานอาหารด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง โดยที่เขาอาสาจ่ายให้ฉันทุกมื้อหลังจากที่ฉันรู้ฐานะที่แท้จริงของเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจของเขาอีก ปล่อยให้เขาได้เอาใจฉันอย่างเต็มที่
พี่โต้งดีกับฉันมาก และฉันเองก็ยังไม่อยากจะปล่อยให้เขาหลุดมือไป ดังนั้นจึงไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเขา มีแต่เขาที่ซื้อของขวัญให้ทุกครั้งที่เราเจอกันจนฉันต้องบอกให้เขาพอ
“ไม่เอาแล้วนะคะ เจอกันก็มีของขวัญให้มิวตลอด มิวเกรงใจนะคะแต่ละอย่างแพงๆ ทั้งนั้น ข้าวก็เลี้ยง ของก็ให้ มิวสิไม่มีอะไรให้พี่โต้งเลยสักอย่าง” ฉันบ่นให้เขาเมื่อครั้งนี้เขาซื้อน้ำหอมเคาน์เตอร์แบรนด์ดังให้ฉัน ในครั้งแรกที่ยอมให้เขาขึ้นมาหาถึงห้อง
“เราเป็นแฟนกันนะ พี่ก็อยากให้อะไรมิวบ้าง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เอาใจแล้วทำหน้าตาออดอ้อนขัดกับวัยของเขาแต่ก็น่ารักเป็นอย่างมาก ทำให้ใจเต้นแรงได้ดีเลยทีเดียว
“แต่มันเยอะเกินไปนี่คะ มิวรับไม่ไหวหรอก”
“งั้นก็ตกลงเป็นแฟนพี่สิ” เขาขอฉันเป็นแฟนแล้วยิ้มแป้นรอให้ฉันตอบตกลง
“ที่ผ่านมาหนึ่งเดือน ไม่ใช่ว่าเราเป็นแฟนกันแล้วเหรอคะ”
“นี่หมายความว่า มิวเป็นแฟนพี่แล้วใช่ไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นและดีใจ
“ค่ะ มิวเป็นแฟนพี่โต้งนานแล้ว” ฉันตอบเขาไปให้ชื่นใจแล้วก็โดนเขาดึงข้าไปกอดจนฉันต้องดันเขาออกไปด้วยความเขินอายเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาถึงเนื้อถึงตัวขนาดนี้
การคบหากับคนที่อายุมากกว่ามันก็ไม่เลวเหมือนกัน ให้ความรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งเวลาอยู่ใกล้ และยังมีแจ็กพ็อตแถมตรงที่เขารวยอีกด้วย
“ไหนๆ เราก็เป็นแฟนกันแล้ว มิวจะว่าอะไรไหมหากว่าพี่อยากจะขยับสถานะความสัมพันธ์ของเราให้สนิทขึ้นไปอีก”
ฉันได้แต่พยักหน้าน้อยๆ แทนคำตอบอย่างเอียงอาย ร้านเขาก็ไปมาหลายครั้งแล้ว ลูกน้องเขาก็ให้เกียรติฉันเหมือนว่าเป็นนายของพวกเขาอีกคน แบบนี้ฉันจึงไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธจึงทำให้เขาดีใจมาก
พี่โต้งเชยคางฉันขึ้นไปสบตาแล้วจ้องตากันด้วยความรักใคร่ไม่ได้มีแต่แววหื่นกระหายเพียงอย่างเดียว มันทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาต่างจากแฟนเก่าและผู้ชายที่เคยผ่านมา ไม่ได้แสวงหาแค่ความสุขบนเตียง แต่เขาต้องการใครสักคนให้มีส่วนร่วมในชีวิต
“พี่จริงจังกับมิวนะ ไม่ต้องกลัวว่าพี่จะมาหลอกลวงอะไรทั้งนั้น” เขาบอกฉันเสียงนุ่มแล้วค่อยๆ เลื่อนมือมาจับที่ไหล่ทั้งสองข้าง
ฉันไม่ได้กลัวเขาหลอกเลยสักนิด ของที่เขาซื้อให้ฉันมูลค่าของมันก็หลักแสนแล้ว เขาต่างหากที่ควรกังวลว่าฉันจะหลอกเขาหรือเปล่า
ใบหน้าหล่อคมในวัยสี่สิบโน้มลงมาใกล้ฉันจนได้กลิ่นลมหายใจที่สะอาดของเขา ฉันเผยอปากรับจูบด้วยความเต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มไซ้จูบที่ซอกคอเพื่อปลุกเร้าอารมณ์แล้วจัดการเสื้อผ้าของเราออกไปอย่างรวดเร็วอย่างช่ำชอง
“พี่โต้ง อื้ม...” ฉันครางเรียกชื่อเขาเมื่อโดนเขาเล้าโลมอย่างนุ่มนวล ร่างของฉันถูกอุ้มไปวางที่เตียงแล้วเขาก็พรมจูบไปทั่วพร้อมกับลูบคลำสัดส่วนต่างๆ ที่ตระการตา
เขาเลื่อนตัวลงมาที่หน้าอกแล้วเชยชิมยอดอกด้วยความหลงใหล มือลูบวนขยำที่สองเต้าก่อนจะเลื่อนลงไปที่หน้าท้องแล้วจูบลงไปที่เนินสวาทพร้อมกับใช้นิ้วคลึงที่จุดกระสันจนฉันครางเสียงหลงอย่างพอใจ
“อื้ม พี่โต้ง พี่โต้งขา” ฉันรู้สึกได้ถึงความเปียกแฉะที่กลีบฉ่ำพร้อมกับปลายลิ้นของเขาที่กระดกรัวอยู่ด้านในทำให้ฉันเคลิบเคลิ้มจนไม่สามารถถอนตัวออกจากรสสวาทนี้ได้
“ไม่ไหวแล้ว พี่โต้งขา เอาเข้ามาเถอะ” ฉันร้องขอเขาอย่างไม่อายเพราะตอนนี้ฉันถูกกระตุ้นจนอารมณ์เตลิดไปหมดแล้ว
เขาลุกไปสวมใส่เครื่องป้องกันอย่างใจเย็นแล้วกลับมาหาฉัน มือหนาจับเข่าทั้งสองแยกออกจากกันแล้วขยับเข้ามาชิดสะโพก กดท่อนลำเข้ามาจนมิดด้ามแล้วขยับเข้าออกอย่างนุ่มนวล
“อ๊าส์ เป็นของพี่นะคนดี” เขาพูดเสียงพร่าแล้วซอยถี่ๆ
“อ๊ะ อ๊ะ พี่โต้ง ซี๊ด...” ฉันครางออกมาไม่เป็นศัพท์สลับกับเรียกชื่อเขาไม่หยุดกับรสสวาทที่แสนหฤหรรษ์จากเขา
พี่โต้งโน้มตัวลงมาจูบที่ริมฝีปากของฉันแล้วกระแทกสะโพกเข้ามารัวๆ ด้วยความเร็วถี่ยิบ ทำให้ฉันที่ถูกเล้าโลมไปก่อนหน้านี้จนเกิดความปรารถนาที่สูงลิ่วถึงกับทนไม่ไหว ถึงจุดหมายไปก่อนเขาอย่างควบคุมไม่อยู่
“อื้อ เสร็จแล้ว อ๊าส์...” ฉันครางบอกเขาเสียงเบาข้างใบหูจากนั้นพี่โต้งก็กระแทกเข้ามาไม่ยั้ง จมูกที่ไซ้ซอกคออยู่ทำให้ฉันเริ่มมีอารมณ์ร่วมอีกรอบแล้วแอ่นสะโพกเข้าหาเขา
เขายกตัวขึ้น จับขาฉันพาดที่แขนทั้งสองข้างยกสะโพกให้สูงขึ้นแล้วซอยสะโพกเข้ามารัวๆ พร้อมกับมองกลับเนื้อที่ปลิ้นเข้าออกด้วยฝีมือการซอยไม่ยั้งของเขาด้วยสายตาที่พอใจ
“พี่โต้งขา อื้อ.อย่าหยุดนะคะ อย่าหยุด”
“มิวสวยมาก อื้ม พี่จะไม่ไหวแล้ว”
“มิวใกล้แล้ว อีกนิดค่ะ อื้อ ซี๊ด” ฉันครางกระเส่า เร่งให้เขากระแทกเข้ามารัวๆ เพราะความกำหนัดที่กำลังจะถึงจุดหมาย
“ซี๊ด อ๊าส์...” เขาร้องเสียงดังแล้วกระแทกเข้ามาตับๆ ฉันถึงจุดหมายไปอย่างเสียวสุดๆ แล้วมองดูใบหน้าของเขาที่กัดฟันกระแทกเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่จะถึงจุดหมายตามมาติดๆ
น้ำรักพ่นกระตุกผ่านเครื่องป้องกันอยู่ด้านในจนฉันรู้สึกได้ตอนที่ปลายหัวกระตุกพ่นเข้ามาแล้วสบตากับเขาด้วยความรักใคร่และบ่งบอกว่าฉันพอใจมากแค่ไหน
“พี่โต้งเหนื่อยไหมคะ” ฉันถามเสียงหวานอย่างเอาใจ
“เหนื่อยสิพี่แก่แล้ว”
ฉันถอดถุงยางอนามัยเอาไปทิ้งให้เขาอย่างเอาใจแล้วนำผ้าขนหนูมาพันตัวไว้ก่อนจะเดินไปหาเขาด้วยท่าทางที่ดูมีความสุขกับบทรักที่เขามอบให้
“งั้นรอบหน้า ให้มิวเอาใจพี่โต้งเองนะคะ” ฉันบอกเสียงเบาด้วยท่าทีขัดเขินหน่อยๆ เป็นจริตที่น่ารักสำหรับคนวัยนี้ที่ชอบให้คนรักเอาใจ
“แฟนพี่น่ารักที่สุดเลย” เขาพูดด้วยเสียงที่ปนหายใจหอบหน่อยๆ ก่อนจะดึงฉันเข้าไปกอดด้วยความรักและเอ็นดูในความช่างเอาใจที่ฉันแสดงออกไปเมื่อครู่
“คืนนี้ค้างกับมิวนะคะ มิวอยากเอาใจพี่โต้ง” ฉันอ้อนขอเขาอย่างยั่วยวนและเชิญชวนให้เขาตอบรับคำชวนจากฉัน
“ได้สิไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” พี่โต้งตอบด้วยความเต็มใจ มือเขาลูบที่หัวไหล่ของฉันแล้วยิ้มกว้างออกมาด้วยความสุข
---------------------
หลังจากครั้งแรกระหว่างเราได้ผ่านพ้นไปแล้ว และพี่โต้งรับปากว่าคืนนี้เขาจะอยู่กับฉันฉันปล่อยให้เขาได้พักจนหายเหนื่อย ในระหว่างนั้นเราพูดคุยถึงเรื่องต่างๆ และมีความเห็นไปในทางเดียวกันทั้งเรื่องแนวความคิดและการเข้าอกเข้าใจกัน“ย้ายไปอยู่กับพี่นะ” เขาถามฉันออกมาทำให้ฉันตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก“ไปอยู่ด้วยเลยเหรอคะ พี่โต้งมั่นใจในตัวมิวแล้วเหรอ มิวไม่มีอะไรเลยนะคะ มิวไม่อยากให้ใครมามองว่ามิวตกถังข้าวสารหรอกนะ” ฉันบอกเขาไปตามตรงแม่จะชอบที่เขารวยแต่ก็ไม่ชอบให้คนมองไม่ดี“ใครจะว่าอะไรก็ช่างเขา พี่มั่นใจว่ามันไม่ใช่ก็พอ” เขาพูดเสียงนุ่มแล้วทำท่าจะขึ้นมาคร่อมทับฉันเอาไว้ แต่ฉันดันหน้าอกของเขาลงไปก่อน“มิวบอกแล้วไงคะ ว่ามิวอยากปรนนิบัติพี่โต้งบ้าง นอนนิ่งๆ เถอะค่ะ” ฉันพูดเสียงหวานแล้วหลุบตาลงต่ำหนีสายตาคมกริบที่เขาจ้องมองมา แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกแต่กับเขามันทำให้ฉันรู้สึกประหม่าและตื่นเต้นมาที่จะต้องทำอะไรแบบนี้ฉันดึงผ้าห่มออกเผยให้แท่งลำปรากฏแก่สายตาแล้วลูบจนมันขยายคับเต็มมือ ปลายหัวมันวาวเชิญชวนให้ฉันก้มลงไปใช้ปลายลิ้นแตะสัมผัสมัน ก่อนจะลากปลายลิ้นไปรอบๆ ท่อนลำนั้นแล้วใช้มือรูดรั้งที่โคนลำอย่างเบาม
ฉันตัดสินใจย้ายไปอยู่กับพี่โต้งตามที่เขาชวน บ้านของเขาอยู่แค่คนเดียว ไม่มีแม้แต่แม่บ้านเขาทำความสะอาดบ้านเองและจ้างบริษัททำความสะอาดมาทำให้เดือนละครั้ง“บ้านไม่ได้กว้างมากนะ เพราะพี่คิดว่าจะอยู่คนเดียวเลยไม่ได้สร้างหลังใหญ่มาก”“ไม่ใหญ่ของพี่นี่อยู่ได้ห้าคนเลยนะคะ มีห้องนอนตั้งสามห้องแน่ะ” ฉันส่ายหัวกับความถ่อมตนของแฟนต่างวัย“ห้องนอนใหญ่เป็นของเรา อีกสองห้องก็เอาไว้ให้ลูกดีไหม” เขาบอกเสียงทุ้มแล้วเขามาสวมกอดจากด้านหลังในขณะที่ฉันจัดเสื้อผ้าใส่ตู้อยู่“พึ่งคบกันไม่ถึงสองเดือนเลย วางแผนมีลูกแล้วเหรอคะ”“พี่บอกแล้วไงว่ารักและมั่นใจในตัวมิว อายุพี่เองก็มากแล้วนะ อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แล้ว และมิวคือคนที่พี่เลือก” เขาพูดเสียงเบาแต่ว่าเต็มไปด้วยความจริงจังและความหมายที่ลึกซึ้ง“มิวดีใจนะคะที่พี่โต้งเลือกมิว ขอบคุณที่วางใจมิวค่ะ”เขาจับฉันหมุนตัวไปสบตาแล้วยิ้มกว้างให้ก่อนจะรั้งฉันเข้าไปกอดไว้แน่น“พอได้แล้วค่ะ เดี๋ยวมิวก็จัดของไม่เสร็จกันพอดี”“โอเค งั้นพี่ออกไปทำงานก่อนนะ ตอนเย็นจะมารับไปทานข้าวข้างนอก”“ค่ะ ตั้งใจทำงานนะคะ” ฉันหอมแก้มเขาแล้วจ้องใบหน้าที่ยิ้มกว้างมองฉันอย่างไม่วางตา ก่อนจ
ทุกๆ เช้าตั้งแต่ที่มาอยู่ที่นี่ฉันตื่นขึ้นมาทำอาหารให้กับพี่โต้งแบบง่ายๆ เขาจะตื่นสายเป็นประจำเพราะจะเข้าไปที่ร้านช่วงสายจนถึงเย็น ฉันจึงไม่ต้องตื่นเช้ามากก็มีเวลาทำอาหารให้กับเขา จะเรียกว่ามื้อเช้าก็ไม่ใช่มื้อเที่ยงก็ไม่เชิง เราจึงเรียกกันว่ามื้อสาย“วันนี้ทำอะไรครับ”“วันนี้ทำไมตื่นเช้าจังละคะ มิวยังไม่ได้ทำกับข้าวเลย” ฉันพึ่งหุงข้าวไปเขาก็เดินตามฉันลงมาแล้ว“วันนี้ลืมบอกว่าไม่ต้องทำกับข้าว เราไปทานข้างนอกดีกว่า ไปอาบน้ำแต่งตัวสิ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สดชื่น คงอยากให้ฉันไปที่ร้านด้วยแน่ๆ“ค่ะ” ฉันรับปากเขาแล้วเราก็ขึ้นห้องไปอาบน้ำด้วยกัน“อาบพร้อมกันนะจะได้ไม่เสียเวลา” เขาบอกขณะที่ฉันถอดเสื้อผ้าออก แล้วเขาก็ถอดตามฉันเข้ามาในห้องน้ำด้วย“แน่ะ แบบนี้จะไม่ช้าว่าเดิมเหรอคะ” ฉันถามอย่างรู้ทัน“ตอนเช้าไม่นานหรอกน่า” พูดจบเขาก็ดึงฉันไปจูบฉันคล้องคอรับจูบจากเขาอย่างดูดดื่มก่อนที่เราจะเริ่มลูบไล้และไซ้จูบกันอย่างหวานชื่นพี่โต้งดันตัวฉันไปที่อ่างล้างหน้าแล้วอุ้มฉันขึ้นไปนั่งที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ยืนกอดจูบฉันแล้วดันอาวุธที่แข็งแกร่งมาถูไถที่ร่องสวาทในขณะที่จูบไปด้วย“อื้ม หอมจัง” เขาซุกจ
ในวันหยุดยาวของปีนี้ ปกติแล้วผมต้องกลับไปเยี่ยมบ้านกับแฟน แต่พอเราเลิกกันผมก็เคว้งและไม่ได้ตั้งใจจะไปไหนเพราะบ้านตัวเองก็ไม่มีพ่อแม่อยู่แล้ว ญาติๆ ที่เหลืออยู่ก็ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กันนัก พอได้รับคำชวนจากเพื่อนร่วมงานคนสนิทผมจึงตอบรับโดยไม่ต้องคิดมากเราเดินทางไปถึงจังหวัดบ้านเกิดของเมย์ที่เป็นเมียของเพื่อนสนิทผม พอไปถึงก็มีญาติๆ ออกมาต้อนรับ และหนึ่งในนั้นคือ ‘มิน’ น้องสาวของเมย์ที่สวยสะกดตาสะกดใจผมมาก“นี่มินน้องสาวของเมย์ นี่พี่เอกนะเป็นเพื่อนที่ทำงานในแผนกเดียวกันกับพี่” เก่งแนะนำให้เราได้รู้จักกัน เธอยกมือไหว้ผมแล้วยิ้มอย่างไว้ตัวทำให้ผมรู้ว่าผู้หญิงคนนี้คงจีบไม่ง่ายแน่“มากันเหนื่อยๆ เข้าไปพักด้านในก่อนนะคะ มินทำความสะอาดห้องเอาไว้แล้ว ส่วนพี่เอกมินกางมุ้งให้นอนที่ห้องโถงคงไม่เป็นไรนะคะ” เธอหันมาถามผมเสียงหวาน“ไม่ครับ พี่นอนไหนก็ได้” ผมตอบอย่างสุภาพแต่ว่าสายตานั้นปิดบังความรู้สึกไม่ได้ว่าชื่นชอบเธอ“มินน่ะเขาไม่สนใจผู้ชายหรอก รายนั้นน่ะตั้งใจเรียนและเรียบร้อยเป็นแม่ศรีเรือน ผู้ชายไม่มีโอกาสได้จีบสำเร็จหรอก” เมย์บอกผมเมื่อเห็นว่าผมมองตามน้องสาวเธอตาเชื่อม“หวงเหรอเมย์ เอกมันก็โส
บ้านหนองอีเลิศ บ้านหนองผักตบ และบ้านหนองคันจอง เป็นสามหมู่บ้านที่ผูกพันธมิตรกันด้วยการส่งลูกสาวหลานสาวของตนไปแต่งงานกับชายหนุ่มอีกหมู่บ้านปีนี้เป็นปีที่หมู่บ้านหนองอีเลิศต้องการลูกสะใภ้ เทียนชัยคือว่าที่เจ้าบ่าวที่กำลังรอเข้าพิธีดูตัวกับหญิงสาวจากทั้งสองหมู่บ้านพ่อแม่ของเทียนชัยจัดงานดูตัวหมู่ขึ้นตามธรรมเนียม เชิญหญิงสาวตัวแทนของทั้งสองหมู่บ้านให้มากินข้าวกับลูกชายตามลำพังโดยไม่มีผู้ใหญ่เกี่ยวข้องทับทิม สาวงามบ้านหนองผักตบนั่งชม้ายชายตามองเขาแล้วยิ้มหวานให้อย่างเชิญชวน หน้าอกหน้าใจนั้นอวบอิ่มล้นคอเสื้อกระเช้า ผ้าถุงที่ใส่ก็สั้นเสมอเข่าเผยให้เห็นน่องขาที่ขาวเนียนบัวงาม หญิงสาวที่ชื่อฟังดูเหมือนเรียบร้อย เธอสวมเสื้อยืดสีสันสดใสรัดติ้วจนเห็นขอบเสื้อชั้นในและอกอวบที่เบียดชิดและสวมกางเกงยีนขาสั้น นั่งอยู่ข้างพี่สาวของเธอด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มบัวตอง หญิงสาวจากบ้านหนองคันจองพี่สาวของบัวงาม เธอสวมเสื้อติดกระดุมคอบัวอย่างมิดชิด หน้าอกดูไม่ดันออกมาเท่าสองคนแรกแต่สะโพกภายใต้กระโปรงที่สวมใส่นั้นดูหนั่นแน่นน่าสัมผัสและคนสุดท้าย แก้วกานต์ หญิงสาวจากบ้านหนองผักตบอีกคนที่แต่งกายในชุดทำงานคล้ายกั
วันต่อมาถึงเวลาดูตัวกับหญิงสาวคนถัดไป พ่อแม่ของเทียนชัยรู้ดีว่าช่วงเวลาเลือกคู่แบบนี้พวกเขาจะต้องไม่อยู่รบกวนลูกชายจึงออกไปทำสวนตั้งแต่เช้าแก้วกานต์ที่ได้ตกลงนัดหมายเอาไว้แล้วว่าจะมาดูตัวกับเทียนชัย เธอมาที่บ้านของเขาแล้วชายหนุ่มก็พาเธอไปยังห้องดูตัวแทบจะทันที“วันนี้วันเสาร์เลยไม่ได้ไปโรงเรียนสินะครับ” เขาชวนเธอคุยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเขินอายเล็กน้อย“ค่ะ” เธอตอบแล้วหลุบตาต่ำลง นั่งที่เตียงแล้วเอามือบิดกันด้วยความตื่นเต้น“เคยดูตัวมาก่อนหน้านี้หรือยัง”“ปีก่อนดูตัวกับพี่โชคไปแล้วค่ะ”“แล้วเขาเลียดีไหม” เขาถามเสียงพร่าเพื่อปลุกเร้าอารมณ์อีกฝ่าย“ก็เลียดีค่ะ เอาหลายรอบด้วย จำได้ว่าฉันจับไข้ไปทำงานไม่ไหวเลยทีเดียว” เธอตอบแล้วตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น“แล้วดุ้นใหญ่ไหม” เขาถามแล้ววางมือที่ต้นขาของเธอ แล้วลูบวนเบาๆ เพื่อปลุกเร้าอารมณ์“ใหญ่ค่ะ” เธอตอบเสียงเบา ตัวสั่นเทาด้วยความตื่นเต้นเทียนชัยยิ้มอย่างพอใจเขายืนขึ้นแล้วถอดกางเกงออกไป เผยท่อนเนื้อที่อวบใหญ่ให้เธอได้เปรียบเทียบ “ใหญ่กว่านี้ไหม” เขาถามเสียงพร่า“พี่เทียนใหญ่กว่าค่ะ” เธอมองด้วยสายตาที่ลุกวาว กลืนน้ำลายลงคอด้วยความกระหาย“ถอดเสื
หลังจากพักเอาแรงจากการ ‘ดูตัว’ กับครูแก้วกานต์ร่านสวาทไปแล้ว เทียนชัยก็รอให้บัวตองมาหาตนด้วยความตื่นเต้นที่จะลิ้มลองการดูตัวกับเธอจนทนไม่ไหวอยากแกะเสื้อผ้าที่มิดชิดเหล่านั้นดูว่าจะซ่อนรูปเท่าครูพี่เลี้ยงคนเมื่อเช้าหรือไม่ แต่ดูจากบั้นท้ายงอนงามเมื่อวานนี้แล้วเขาเดาว่าแคมเอต้องอวบกระแทกมันอย่างแน่นอนบัวตองที่ลางานวันศุกร์และเสาร์เพื่อเข้าพิธีดูตัว เธอมาถุงในตอนบ่ายแก่ๆ ด้วยชุดลำลองที่สุภาพหญิงสาวไหว้ทักทายเขาแล้วยิ้มให้ด้วยความมั่นใจ แล้วเป็นฝ่ายเชิญชวนเขาไปดูตัวอย่างไม่รีรอ“ห้องดูตัวของเราอยู่ไหนคะ” เธอยิ้มมองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาอย่างตรงไปตรงมา“ตามพี่มาสิ” เขาบอกแล้วเดินนำหน้าไปยังห้องนอนของเขาที่ใช้เป็นห้องดูตัวพอไปถึงบัวตองก็ไม่รอช้า เธอถอดเสื้อผ้าตัวเองออกแล้วบอกให้เขารีบถอดออกไปเช่นเดียวกัน“ไม่คุยกันสักหน่อยเหรอบัวตอง”“ไม่ล่ะ ตองไม่ได้ดูตัวมาสองปีแล้ว รอดูตัวปีนี้แทบไม่ไหว ได้เป็นสะใภ้ไหมตองไม่สน ตองใช้นิ้วจนเบื่ออยากได้ท่อนเนื้ออุ่นๆ มาแยงเต็มทีแล้ว” เธอบอกด้วยน้ำเสียงกระเหี้ยนกระหือรือ“ตรงๆ แบบนี้พี่ชอบ” เขายิ้มอย่างชอบใจพอเสื้อผ้าถูกถอดออกไปจนหมด แม่เส
แววตาสดใสและรอยยิ้มของสาวแรกรุ่นนั้นทำให้หัวใจของเทียนชัยวัยยี่สิบห้าพองโตแล้วมองเธอด้วยสายตาที่โลมเลียหญิงสาวมาหาเขาในตอนสายของวันอาทิตย์ด้วยเสื้อผ้าในแบบที่วัยรุ่นทั่วไปมักใส่กันเสื้อยืดเอวลอยและกางเกงยีนขาสั้นที่โชว์ให้เห็นเรียวขาขาวเนียนนั้น ประกอบกับที่บัวตองบอกว่าเธอยังไม่เคยผ่านมือชายก็ทำให้เขายิ่งรู้สึกกระสันที่จะร่วมสวาทด้วย“ดูตัวปีแรกเหรอ”“จ้ะ บัวงามเพิ่งเรียนจบม.ปลาย ปีนี้ย่างสิบเก้าพ่อแม่เลยให้ดูตัวเลยจ้ะ” เธอตอบแล้วมองด้วยสายตาที่ตื่นเต้น เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เธอเองก็รอคอยที่จะอยากลิ้มรสพิธีดูตัวดูสักครั้ง“งั้นพี่จะสอนบัวงามนะ จะได้รู้ว่าเขาดูตัวกันแบบไหน” เขาพูดเสียงกระเส่า พาเธอไปนั่งที่เตียงแล้วจัดการถอดกางเกงของเธอออกไปมือหนาแยกเข่าเธอออกกว้างเพื่อสำรวจกลีบบัวสีหวานแล้วใช้นิ้วมือเขี่ยที่เม็ดเสียว ลากนิ้วไปมาที่ร่องสวาทอย่างหลงใหล “ตรงนี้คือเม็ดเสียว รูนี้คือรูที่ใช้ดูตัว” เขาพูดแล้วใช้นิ้วแยงเข้าไปทีละนิ้ว เร่งซอยนิ้วเข้าออกจนเธอตัวสั่น“อื้อ พี่เทียน อ๊าส์ รู้สึกดีมากเลยค่ะ ซี๊ด” เธอครางลั่นเสียงสั่นพริ้วด้วยความกระสัน“เขาเรียกว่าเสียว ลองพูดสิ”“เสียวค่ะ อ๊าส
ในวันหยุดยาวของปีนี้ ปกติแล้วผมต้องกลับไปเยี่ยมบ้านกับแฟน แต่พอเราเลิกกันผมก็เคว้งและไม่ได้ตั้งใจจะไปไหนเพราะบ้านตัวเองก็ไม่มีพ่อแม่อยู่แล้ว ญาติๆ ที่เหลืออยู่ก็ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กันนัก พอได้รับคำชวนจากเพื่อนร่วมงานคนสนิทผมจึงตอบรับโดยไม่ต้องคิดมากเราเดินทางไปถึงจังหวัดบ้านเกิดของเมย์ที่เป็นเมียของเพื่อนสนิทผม พอไปถึงก็มีญาติๆ ออกมาต้อนรับ และหนึ่งในนั้นคือ ‘มิน’ น้องสาวของเมย์ที่สวยสะกดตาสะกดใจผมมาก“นี่มินน้องสาวของเมย์ นี่พี่เอกนะเป็นเพื่อนที่ทำงานในแผนกเดียวกันกับพี่” เก่งแนะนำให้เราได้รู้จักกัน เธอยกมือไหว้ผมแล้วยิ้มอย่างไว้ตัวทำให้ผมรู้ว่าผู้หญิงคนนี้คงจีบไม่ง่ายแน่“มากันเหนื่อยๆ เข้าไปพักด้านในก่อนนะคะ มินทำความสะอาดห้องเอาไว้แล้ว ส่วนพี่เอกมินกางมุ้งให้นอนที่ห้องโถงคงไม่เป็นไรนะคะ” เธอหันมาถามผมเสียงหวาน“ไม่ครับ พี่นอนไหนก็ได้” ผมตอบอย่างสุภาพแต่ว่าสายตานั้นปิดบังความรู้สึกไม่ได้ว่าชื่นชอบเธอ“มินน่ะเขาไม่สนใจผู้ชายหรอก รายนั้นน่ะตั้งใจเรียนและเรียบร้อยเป็นแม่ศรีเรือน ผู้ชายไม่มีโอกาสได้จีบสำเร็จหรอก” เมย์บอกผมเมื่อเห็นว่าผมมองตามน้องสาวเธอตาเชื่อม“หวงเหรอเมย์ เอกมันก็โส
ทุกๆ เช้าตั้งแต่ที่มาอยู่ที่นี่ฉันตื่นขึ้นมาทำอาหารให้กับพี่โต้งแบบง่ายๆ เขาจะตื่นสายเป็นประจำเพราะจะเข้าไปที่ร้านช่วงสายจนถึงเย็น ฉันจึงไม่ต้องตื่นเช้ามากก็มีเวลาทำอาหารให้กับเขา จะเรียกว่ามื้อเช้าก็ไม่ใช่มื้อเที่ยงก็ไม่เชิง เราจึงเรียกกันว่ามื้อสาย“วันนี้ทำอะไรครับ”“วันนี้ทำไมตื่นเช้าจังละคะ มิวยังไม่ได้ทำกับข้าวเลย” ฉันพึ่งหุงข้าวไปเขาก็เดินตามฉันลงมาแล้ว“วันนี้ลืมบอกว่าไม่ต้องทำกับข้าว เราไปทานข้างนอกดีกว่า ไปอาบน้ำแต่งตัวสิ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สดชื่น คงอยากให้ฉันไปที่ร้านด้วยแน่ๆ“ค่ะ” ฉันรับปากเขาแล้วเราก็ขึ้นห้องไปอาบน้ำด้วยกัน“อาบพร้อมกันนะจะได้ไม่เสียเวลา” เขาบอกขณะที่ฉันถอดเสื้อผ้าออก แล้วเขาก็ถอดตามฉันเข้ามาในห้องน้ำด้วย“แน่ะ แบบนี้จะไม่ช้าว่าเดิมเหรอคะ” ฉันถามอย่างรู้ทัน“ตอนเช้าไม่นานหรอกน่า” พูดจบเขาก็ดึงฉันไปจูบฉันคล้องคอรับจูบจากเขาอย่างดูดดื่มก่อนที่เราจะเริ่มลูบไล้และไซ้จูบกันอย่างหวานชื่นพี่โต้งดันตัวฉันไปที่อ่างล้างหน้าแล้วอุ้มฉันขึ้นไปนั่งที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ยืนกอดจูบฉันแล้วดันอาวุธที่แข็งแกร่งมาถูไถที่ร่องสวาทในขณะที่จูบไปด้วย“อื้ม หอมจัง” เขาซุกจ
ฉันตัดสินใจย้ายไปอยู่กับพี่โต้งตามที่เขาชวน บ้านของเขาอยู่แค่คนเดียว ไม่มีแม้แต่แม่บ้านเขาทำความสะอาดบ้านเองและจ้างบริษัททำความสะอาดมาทำให้เดือนละครั้ง“บ้านไม่ได้กว้างมากนะ เพราะพี่คิดว่าจะอยู่คนเดียวเลยไม่ได้สร้างหลังใหญ่มาก”“ไม่ใหญ่ของพี่นี่อยู่ได้ห้าคนเลยนะคะ มีห้องนอนตั้งสามห้องแน่ะ” ฉันส่ายหัวกับความถ่อมตนของแฟนต่างวัย“ห้องนอนใหญ่เป็นของเรา อีกสองห้องก็เอาไว้ให้ลูกดีไหม” เขาบอกเสียงทุ้มแล้วเขามาสวมกอดจากด้านหลังในขณะที่ฉันจัดเสื้อผ้าใส่ตู้อยู่“พึ่งคบกันไม่ถึงสองเดือนเลย วางแผนมีลูกแล้วเหรอคะ”“พี่บอกแล้วไงว่ารักและมั่นใจในตัวมิว อายุพี่เองก็มากแล้วนะ อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แล้ว และมิวคือคนที่พี่เลือก” เขาพูดเสียงเบาแต่ว่าเต็มไปด้วยความจริงจังและความหมายที่ลึกซึ้ง“มิวดีใจนะคะที่พี่โต้งเลือกมิว ขอบคุณที่วางใจมิวค่ะ”เขาจับฉันหมุนตัวไปสบตาแล้วยิ้มกว้างให้ก่อนจะรั้งฉันเข้าไปกอดไว้แน่น“พอได้แล้วค่ะ เดี๋ยวมิวก็จัดของไม่เสร็จกันพอดี”“โอเค งั้นพี่ออกไปทำงานก่อนนะ ตอนเย็นจะมารับไปทานข้าวข้างนอก”“ค่ะ ตั้งใจทำงานนะคะ” ฉันหอมแก้มเขาแล้วจ้องใบหน้าที่ยิ้มกว้างมองฉันอย่างไม่วางตา ก่อนจ
หลังจากครั้งแรกระหว่างเราได้ผ่านพ้นไปแล้ว และพี่โต้งรับปากว่าคืนนี้เขาจะอยู่กับฉันฉันปล่อยให้เขาได้พักจนหายเหนื่อย ในระหว่างนั้นเราพูดคุยถึงเรื่องต่างๆ และมีความเห็นไปในทางเดียวกันทั้งเรื่องแนวความคิดและการเข้าอกเข้าใจกัน“ย้ายไปอยู่กับพี่นะ” เขาถามฉันออกมาทำให้ฉันตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก“ไปอยู่ด้วยเลยเหรอคะ พี่โต้งมั่นใจในตัวมิวแล้วเหรอ มิวไม่มีอะไรเลยนะคะ มิวไม่อยากให้ใครมามองว่ามิวตกถังข้าวสารหรอกนะ” ฉันบอกเขาไปตามตรงแม่จะชอบที่เขารวยแต่ก็ไม่ชอบให้คนมองไม่ดี“ใครจะว่าอะไรก็ช่างเขา พี่มั่นใจว่ามันไม่ใช่ก็พอ” เขาพูดเสียงนุ่มแล้วทำท่าจะขึ้นมาคร่อมทับฉันเอาไว้ แต่ฉันดันหน้าอกของเขาลงไปก่อน“มิวบอกแล้วไงคะ ว่ามิวอยากปรนนิบัติพี่โต้งบ้าง นอนนิ่งๆ เถอะค่ะ” ฉันพูดเสียงหวานแล้วหลุบตาลงต่ำหนีสายตาคมกริบที่เขาจ้องมองมา แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกแต่กับเขามันทำให้ฉันรู้สึกประหม่าและตื่นเต้นมาที่จะต้องทำอะไรแบบนี้ฉันดึงผ้าห่มออกเผยให้แท่งลำปรากฏแก่สายตาแล้วลูบจนมันขยายคับเต็มมือ ปลายหัวมันวาวเชิญชวนให้ฉันก้มลงไปใช้ปลายลิ้นแตะสัมผัสมัน ก่อนจะลากปลายลิ้นไปรอบๆ ท่อนลำนั้นแล้วใช้มือรูดรั้งที่โคนลำอย่างเบาม
เราคบหาดูใจและไปทานอาหารด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง โดยที่เขาอาสาจ่ายให้ฉันทุกมื้อหลังจากที่ฉันรู้ฐานะที่แท้จริงของเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจของเขาอีก ปล่อยให้เขาได้เอาใจฉันอย่างเต็มที่พี่โต้งดีกับฉันมาก และฉันเองก็ยังไม่อยากจะปล่อยให้เขาหลุดมือไป ดังนั้นจึงไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเขา มีแต่เขาที่ซื้อของขวัญให้ทุกครั้งที่เราเจอกันจนฉันต้องบอกให้เขาพอ“ไม่เอาแล้วนะคะ เจอกันก็มีของขวัญให้มิวตลอด มิวเกรงใจนะคะแต่ละอย่างแพงๆ ทั้งนั้น ข้าวก็เลี้ยง ของก็ให้ มิวสิไม่มีอะไรให้พี่โต้งเลยสักอย่าง” ฉันบ่นให้เขาเมื่อครั้งนี้เขาซื้อน้ำหอมเคาน์เตอร์แบรนด์ดังให้ฉัน ในครั้งแรกที่ยอมให้เขาขึ้นมาหาถึงห้อง“เราเป็นแฟนกันนะ พี่ก็อยากให้อะไรมิวบ้าง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เอาใจแล้วทำหน้าตาออดอ้อนขัดกับวัยของเขาแต่ก็น่ารักเป็นอย่างมาก ทำให้ใจเต้นแรงได้ดีเลยทีเดียว“แต่มันเยอะเกินไปนี่คะ มิวรับไม่ไหวหรอก”“งั้นก็ตกลงเป็นแฟนพี่สิ” เขาขอฉันเป็นแฟนแล้วยิ้มแป้นรอให้ฉันตอบตกลง“ที่ผ่านมาหนึ่งเดือน ไม่ใช่ว่าเราเป็นแฟนกันแล้วเหรอคะ”“นี่หมายความว่า มิวเป็นแฟนพี่แล้วใช่ไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นและดีใจ“ค่ะ มิวเป็นแฟนพี่โ
ฉันอยู่ในชุดที่สุภาพเพราะคู่นัดเป็นคนที่มีอายุในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังคงดูดีและทันสมัยไปในตัวไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังแน่พี่โต้งเองก็มาในชุดที่สุภาพ เสื้อโปโลสีเรียบและกางเกงยีนของเขาทำให้ดูดีในระดับหนึ่ง และที่ถูกใจฉันมากก็เห็นจะเป็นช่อกุหลาบเล็กๆ ในมือเขาที่มอบให้ฉันตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน“ขอบคุณมากนะคะ”“ชอบไหม”“ชอบค่ะ” ฉันตอบแล้วยิ้มให้แก่เขาพี่โต้งยื่นมือมาตรงหน้าเพื่อขอมือฉัน พอฉันวางมือลงเขาก็จับมือฉันเดินไปซื้อตั๋วด้วยกันแล้วให้ฉันเลือกที่นั่ง“เอาที่นั่งตรงกลางแบบนี้จะได้เห็นจอในระดับสายตาพอดี พี่โต้งเห็นด้วยไหมคะ”“แล้วแต่เลยครับพี่ยังก็ได้” เขาตอบอย่างสุภาพและให้เกียรติ ฉันจึงตัดสินให้เขาผ่านในใจพร้อมกับเลือกที่นั่งแล้วเขาก็ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดโดยไม่ยอมให้ฉันหารครึ่งเราซื้อเครื่องดื่มกับป๊อปคอร์นเข้าไปในโรงหนัง ระหว่างที่ดูหนังกันมือเราชนกันในถังป๊อปคอร์นอยู่หลายครั้งเป็นโมเมนต์ที่ทำให้ใจเต้นแรงไม่น้อยช่วงท้ายก่อนที่หนังจะจบเขาก็เลื่อนมากุมมือของฉันเอาไว้ขณะที่เราดูหนังด้วยกัน ไม่ได้มาลูบแข้งลูบขาหรือล้วงควักอะไรอย่างที่ฉันแอบคิดมาก่อนหน้านี้พอหนังจบเราก็จูงมือฉันออก
หลังจากที่แยกทางจากปั๊ก และเห็นว่าเขากลับไปแล้วฉันก็ยังไม่รีบกลับห้องเพราะกลัวว่าเขาจะแอบตามมา แล้วนัดให้เพื่อนสาวคนสนิทออกมารับไปทานอาหารค่ำด้วยกันเพื่อพูดคุยถึงเรื่องนี้“อะไรนะ นี่แกนัดคุยกันวันแรกก็ไปแง๊บๆ กันแล้วเหรอ”“อืม เขาขอน่ะ ฉันก็ว่าไม่เสียหายนี่ ในเมื่อเราก็ระบุความสนใจถึงเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว” ฉันบอกไปตามตรง“อืม เข้าใจแล้ว ล่ะไงทีนี้ทำไมถึงไม่อยากคบต่อ”“ไม่ชอบน่ะ เรื่องบนเตียงพอแก้ขัดได้แต่ไม่โดนเท่าไร จูบไม่กี่ทีก็เสียบล่ะ ไม่ชอบ” ฉันบอกตามตรงขณะที่เรานั่งรถไปหาร้านอร่อยแถวๆ ที่พักของฉันทานกัน“แล้วจะแมตซ์คู่อีกตอนไหน” แนนถามเกี่ยวกับการสุ่มเลือกคู่ในแอปพลิเคชั่นหาคู่ชื่อดัง“ไม่รู้สิ อาจจะคืนนี้ แต่ละลดความสนใจเป็น ‘นัดคุย’ ยังไม่ต้องรีบร้อนมีอะไรกัน คุยถูกคอก็ค่อยนัดกันไปกินข้าวดูหนัง แบบนี้น่าจะโอเคกว่า”“แล้วแต่แกเถอะ ขอให้เจอคนที่ใช่เร็วๆ นะ” แนนผู้ไม่เคยขัดมีแต่ส่งเสริมเพื่อน ทำให้ฉันสบายใจทุกครั้งที่อยู่ด้วยสักพักปั๊กก็ทักมาถามว่าฉันกำลังจะไปไหน ฉันจึงรู้ได้ทันทีว่าคิดไม่ผิดเข้ากำลังตามดูฉันอยู่แน่“ทานข้าวกับเพื่อนค่ะ” ฉันพิมพ์ตอบกลับไปแล้วถอนหายใจออกมา“อะไร
เมื่อใกล้ถึงเวลานัดหมาย ฉันก็รีบอาบน้ำเพื่อให้ร่างกายสะอาดสะอ้านแล้วใส่ชุดเสื้อสายเดี่ยวเอวลอย กับกระโปรงสั้นรัดรูปสีดำที่เตรียมเอาไว้นัดเดทกันครั้งแรกใส่ชุดที่ดูเซ็กซี่หน่อยๆ คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง อีกอย่างเขาชวนไปทำอะไรกันตั้งแต่นัดแรกแบบนี้ก็คงจะชื่นชอบชุดนี้ไม่น้อยฉันไปถึงที่นัดหมายก่อนเวลาแล้วนั่งรอที่ล็อบบี้ของโรงแรม ที่นี่ไม่ใช่โรงแรมกระจอกเลยสักนิด เป็นโรงแรมระดับสี่ดาวแต่ก็หรูหราในระดับหนึ่งสักพักฉันก็เห็นผู้ชายที่หน้าตาเหมือนกับรูปโปรไฟล์กำลังมองมาที่ฉัน ฉันจึงยิ้มให้เขาแล้วสักพักปั๊กก็เดินเข้ามาทักทายฉัน“มิวใช่ไหมครับ”“ค่ะ” ฉันตอบแล้วยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ที่คิดว่าเขาน่าจะประทับใจที่สุด“เราขึ้นไปเลยไหมครับ หรือว่ามิวอยากดื่มอะไรก่อน”“ขึ้นห้องเลยก็ได้ค่ะ” ฉันรู้ความต้องการของเขาอยู่แล้ว จึงตอบตกลงไปและเดินตามเขาไปยังเคาน์เตอร์ต้อนรับมองดูเขาจองห้องแล้วเราก็เดินควงกันขึ้นไปยังห้องพักด้านบนพอถึงห้องเราก็ดื่มเครื่องดื่มที่มีในห้องแล้วนั่งพูดคุยกันสักพักเพื่อให้ต่างคนต่างรู้สึกไม่ประหม่า แล้วเขาก็เข้าไปอาบน้ำในขณะที่ฉันถอดเสื้อผ้าแล้วสวมชุดคลุมของทางโรงแรมไว้รอเขาปั๊ก
ชีวิตของฉันกำลังตกอยู่ในฤดูเหงาหลังจากที่เลิกกับแฟนหนุ่มไปแค่เวลาเดือนกว่า ตอนนี้ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองทนไม่ไหวกับความเหงานี้อีกต่อไปแล้ว“อยากมีแฟน” ฉันบ่นกับเพื่อนสาวคนสนิทแล้วพ่นลมหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้ม“อยากมีแฟนหรืออยากเอากับแฟน พูด!” แนนถามกลับอย่างรู้ทันตามประสาเพื่อนที่สนิทกันมานาน“ทั้งคู่แหละ อยากมีคนพาไปกินข้าว ดูหนัง เปลี่ยวใจมาก็อยากโดนเอา..พอใจหรือยัง” ฉันประชดเพื่อนรักแล้วเขี่ยโทรศัพท์ไถดูฟีดข่าวด้วยความเซ็งในอารมณ์“งั้นก็เล่นแอปหาคู่สิจะไปยากอะไร แมตซ์กับใครก็ไปลองเดทดู ถ้าใช่ก็คบไม่ใช่ก็ถือว่าได้คนคุยเพิ่ม” ความคิดของเพื่อนฟังดูเข้าท่าเลยทีเดียว ทำให้ฉันสนใจเป็นอย่างมาก“สอนฉันเล่นหน่อยสิ อยากได้ผู้” ฉันบอกด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นทำให้เธอหรี่ตามองที่เห็นว่าฉันเหมือนจะจริงจังกับเรื่องที่เธอแค่พูดทีเล่นทีจริง“เอาจริงเหรอ แอปที่ว่านี้ส่วนมากเขาไม่ได้แค่นัดคุยนะ เขานัดเอากันด้วย” เธอถามย้ำฉันอย่างจริงจัง“อืม ฉันก็อยากลองดูเหมือนกัน หอยแห้งมานานแล้วนะ” ฉันบ่นด้วยท่าทางที่จริงจังจนแนนยอมสอนให้ฉันเล่น“แอปนี้ ใส่ชื่อข้อมูลส่วนตัวลงไป พร้อมกับช่องคำถามต่างๆ เรื่องความชอบและ