"ซินอ๋อง ข้าว่าควรเป็นหมานั่นมากกว่าที่จะต้องตายฝ่าบาทโปรดปรานเจ้าหมาตัวนั้นมากหากมันตายไปคงจะต้องตรอมใจแน่ แต่ซินอ๋องกับพวกเรายังพอต่อรองกันได้"ใต้เท้าหลัวโบกมือห้าม
"ซินอ๋องเป็นน้องชายแท้ๆ เห็นได้ชัดว่าไม่เคยไม่ภักดี กับพวกเราก็แค่รอมชอมก็เท่านั้นไม่ได้เห็นพวกเราในสายตา"
"แล้วหากเป็นการลอบปลงพระชนม์ฝ่าบาทเหมือนที่เราเคยทำนั่นเล่า"ใครคนหนึ่งเสนอความเห็น
"หุบปากเจ้าเสีย ที่นี่มีคนของหลงตี้อยู่ไม่น้อย ไม่ควรพูดหากจะลงมือก็เร่งลงมือในทันที"หลายคน ยิ้มมุมปาก
ตำหนักฮ่องเต้
“คืนนี้ข้าจะไม่นอน รอดูว่าเจ้าจะกลายร่างเป็นคนอีกหรือไม่”
“โฮ้งโฮ้ง (ตามใจ) ”ชลชลเดินวนสามรอบก่อนจะ ทิ้งตัวลงนอนขดกลมเหมือนกองอะไรสักอย่าง หลงตี้นั่งเท้าคางมองตาแป่ว
สักพักหนึ่ง ชลชลก็ลืมตามองคนตัวสูงที่ยังจ้องชลชลตาไม่กะพริบ เที่ยงคืนแล้วกระมั้ง
“จ้านกง เป็น ..เป็นอะไรกับฝ่าบาท”บทจะพูดก็พูดได้ บทจะพูดไม่ได้ก็กลายเป็นเห่า
“ จ้านกงเป็นความทรงจำที่งดงามของข้า เป็นดังชีวิตและ...หัวใจ”
“แล้วฝ่าบาท ทำไมถึงยอมให้เขาจากไป”
คิดแล้วอยากตบปากตัวเองเสียจริงถามอะไรที่ทำให้อีกคนจนกับคำตอบ เรียนจิตวิทยามาได้อย่างไร
“ข้าแค่เพียง ไม่อาจปกป้องเขา”
เปลวไฟในเชิงเทียนดับวูบลงทันที กลิ่นอันตรายสัญญาณ ของคนไม่ดี มือสังหารสองคน กระโจนพลวดเข้ามา ชลชลหูตั้งหางชี้ ส่งเสียงขู่ดังลั่น“ฝ่าบาทหลบไป”
“โฮ้งงงงงโฮ่ง”เห่ากรรโชก ก่อนจะกระโดดเข้ากัดฉับเข้าที่น่องของมือสังหาร กระบี่ในมือฟาดเข้าใส่ชลชลแต่ทว่า ความเร็วไม่อาจเทียบชั้นกับสุนัขอย่างชลชลได้
“มีมือสังหารองครักษ์คุ้มกันฝ่าบาท”เสียงตะโกนของขันทีตู้กัง ชลชล ส่งเสียงทั้งขู่ทั้งเห่ากรรโชก
“ฝ่าบาทหนีไป”หลงตี้วิ่งหยิบกระบี่ข้างผนังห้องเสียงคมกระบี่ปะทะกันดังแสบแก้วหู ชลชลขึ้นคร่อมกัดงับไปทั่วตัวของมือสังหาร เสียงร้องโอดโอ๊ย องครักษ์รีบกรูกันเข้ามาพร้อมด้วยซินอ๋อง ชลชลผุดลุกขึ้นยืน ร่างมนุษย์เปลือยล่อนจ้อน
“ไอ้บ้าเฮ๊ยจะมากลายร่างอะไรตอนนี้” กระโดดผุบหายเข้าไปใต้แท่นนอน มือสังหารยังร้องโอดโอยด้วยบาดแผลเหวอะหวะทั่วทั้งใบหน้า แสงสว่างจากคบเพลิงที่องครักษ์และซินอ๋องนำเข้ามา มองเห็นมือสังหารร่างโชกเลือด นอนร้องโอดโอยอีกคนเผ่นแน่บไปไกล องครักษ์ลากตัวของมือสังหารที่บาดเจ็บออกไป
“เสี่ยวเปา เสี่ยวเปา”หลงตี้ตะโกนเรียกชลชล ใครจะกล้าออกไป แล้วจะเรียกทำไม
“ฝ่าบาทปลอดภัยหรือไม่”หลงตี้พยักหน้า
“องครักษ์มือสังหารอีกคนหนีไปแล้วเสี่ยวเปาคงตามหมอนั่นไป”หลงตี้ก้าวนำออกไปทันที ชลชลถอนหายใจโล่งอก เมื่อทุกคนเงียบเสียงลงไปทิ้งตัวนอนหงาย ใต้แท่นนอน ก่อนจะผุดลุกขึ้นด้วยเหมือนเพิ่งจะนึกอะไรขึ้นได้ วิ่งไปคว้าอาภรณ์มาสวมแบบลวกๆวิ่งตาม หลงตี้ออกไปแต่ ยังไม่ทันจะออกพ้นประตูคมกระบี่ขององครักษ์ขวางหน้าไว้“ปล่อยเขา”หลงตี้ตวาดลั่น“ฝ่าบาท คนผู้นี้”“ขะขะข้า”ชื่ออะไรดีวะเอาวะ นึกชื่อใครไม่ออก“ขะข้าป๋อจ้าน องครักษ์คนใหม่ของฝ่าบาท”เอาชื่อนี้ละวะนึกออกชื่อเดียว เอาตัวรอดกับปัญหาเฉพาะหน้าที่ออกมาเพราะห่วงหลงตี้กลัวว่าจะพบกับอันตราย แต่นึกไม่ถึงว่า องครักษ์ตอนนี้ตรึงกำลังไว้ทั่วตำหนักจากเหตุการณ์เมื่อครู่“ป๋อจ้าน”“เขาเป็นองครักษ์ของข้า”ซินอ๋องขมวดคิ้ว หลงตี้เดินเข้ามาใกล้ๆ ชลชล“เจ้าปลอดภัยดีไหม” น้ำเสียงอ่อนโยนห่วงใย“ปลอดภัย ฝ่าบาทเล่า ปลอดภัยหรือไม่”“ข้าเป็นห่วงเจ้าแทบแย่”“ฝ่าบาทแล้วเสี่ยวเปาเล่า”ซินอ๋องถามขึ้น“ข้าจะเรียกเขาเอง พวกเจ้ากลับไปพักผ่อนได้แล้ว”“รักษาตัวด้วย ซินอ๋องทูลลา องครักษ์ลาดตะเวณตำหนักใหญ่เพิ่มกำลังสองเท่า”สั่งการก่อนจะก้าวออกไแ“ป๋อจ้านเข้าไปข้างใน” ชลชลถอนหายใจอยู่
"เมื่อไหร่จะได้อยู่กับป๋อจ้านทั้งวันไม่ต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบนี้""โฮ้ง โฮ้ง (น่านสิ) หลงตี้กอดชลชลยิ้มกว้าง"แต่แบบนี้ก็ดีน่ารักที่สุดเสี่ยวเปาของข้า"ชลชลไม่อาจห้ามลิ้นยาวที่แลบลิ้นเลียใบหน้าหล่อแสดงความรักความภักดีเหมือนอย่างที่สุนัขมักจะทำภายใน ตำหนักใหญ่กลางหุบเขา จ้านกงเอนตัวลงนอนจิบสุรารสเลิศใบหน้าหล่อเหลาองอาจ พูดกับคนข้างๆ“ปีหนึ่งแล้ว ที่ข้าแสร้งว่าตายคงถึงเวลาที่จะกลับไปแล้ว ในเมื่อตอนนี้ หลงตี้คงยินดีไม่น้อยหากข้ากลับไปแล้วต่อไปจะขอสิ่งใดย่อมง่ายดาย“ท่านแม่ทัพ จะบอกฝ่าบาทว่าอย่างไรในเมื่อทุกคนต่างเห็นได้ชัดว่าร่างไร้วิญญาณท่านแม่ทัพถูกเผาเป็นเถ้าธุรลี”“หลงตี้เห็นข้าก็คงดีใจจน ไม่สงสัยเรื่องการกลับมา จะหลอกล่อเช่นไรก็ ไม่เป็นพิรุธ”“ท่านแม่ทัพครั้งนี้แน่ใจหรือว่าจะได้ครองบัลลังก์”“ครั้งนั้น ใต้เท้าหลัวส่งคนลอบสังหารหลงตี้ ข้ายอมรับกระบี่แทนเพื่อการนี้ ครั้งนี้กลับมาบัลลังก์นั่นจะต้องเป็นของข้า”ยิ้มมุมปาก หลงตี้ไว้ใจ และวางใจเขา จนลืมมองว่าเขามีความตั้งใจ อย่างไร ใต้เท้าหลัวตั้งใจกำจัดเขาเพราะคิดว่าหลงตี้ จะต้องหมดกำลังแรงใจจนอยากจะสละบัลลังก์เสีย แต่มาครั้งนี้ หลงตี
ชลชล ก้มลงงับ ขาหมูในถาดใหญ่อย่างเอร็ดอร่อยจ้านกง เดินออกมาจากห้องของ หลงตี้ หยุดยืนที่ชลชลกินขาหมูอยู่มือใหญ่ไวเท่าความคิดปัดถาดขาหมูร่วงกระจายลงพื้นตู้กังวิ่งเข้ามาทันที ชลชลอ้าปากค้างหูตกหางตก“ใต้เท้าจ้านกง ใต้เท้าเสี่ยวเปาเกิดอะไรขึ้น”“เจ้าหมานี่ กระโจนใส่ข้าจน ขาหมูในถาดหกเสียสิ้น”หลงตี้ ก้าวขาออกมายืนมอง ชลชลที่ทำปากขมุบขมิบ“ตอแหลปานระพีทำไมนายมันตอแหลอย่างนี้ ถ้าหากรู้ว่าเป็นฉันนายจะกล้าตอแหลไหม เดี๋ยวกัดเนื้อหลุดเลย”ไม่มีใครได้ยินนอกจากหลงตี้คนเดียว“เสี่ยวเปา”หลงตี้ได้ยินทุกถ้อยคำชัดเจน ผิวปากพร้อมกับเรียกชลชล“ฝ่าบาทเห็นไหมหมอนั่นตอแหล เขาเป็นคนปัดถาด ขาหมูของข้า”“ตอแหล” พึมพำเบาๆ จ้านกงขมวดคิ้วสงสัยกับ สิ่งที่หลงตี้พูด“โกหกคนอะไรโกหกเก่งที่สุด”“เสี่ยวเปากลับเข้าไปในห้อง ตู้กังไปนำขาหมูมาให้เสี่ยวเปาในห้อง คงยังไม่ทันอิ่ม”“ฝ่าบาท หมาแบบไหนกันที่มีโอกาสกินขาหมูเป็นถาดๆ แทนอาหารเหลือจากห้องเครื่อง”จ้านกงพูดขึ้น ชลชลเบ้ปาก ปานระพี นิสัยแท้จริงของเขาก็แบบนี้ ชลชลไม่เข้าใจว่าคนที่ชอบวางท่ากับชอบบูลลี่คนอื่นทำไมชลชลถึงไปชอบเขาได้ ตอนนี้ยังนึกน้อยใจกับคำพูดของจ้านกงที่บั
ชลชลเดินหนีไม่สนใจจะฟัง ไม่ได้จัดการกับหลงตี้เสียหน่อยจะจัดการกับจ้านกงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับชลชล ที่พึ่งสุดท้ายแบบหลงตี้ก็จะปลอดภัย….แต่ๆ เดี๋ยวก่อน“จัดการ หลงตี้เสียก่อน จ้านกงผู้มุทะลุนั่นหากไม่มีหลงตี้หนุนหลังก็คงเป็นเพียงหมาตัวหนึ่งเหมือนเจ้าหมาเสี่ยวเปาตัวนั้นไม่อาจทำอะไรพวกเราได้”นี่ชลชลเป็นอะไรไปทำไมรู้สึกสงสารหลงตี้ ทำไมรู้สึกสมน้ำหน้าจ้านกง“ส่งมือสังหารไปอีกครั้ง ไม่ว่าจะกี่ครั้งหลงตี้ก็ไม่มีทางสืบหาหรือไต่สวน”ทำไม ทำไมไม่ไต่สวน น่าสงสัย ต้องสืบ“แปลกใจเหตุใดหลงตี้ไม่ยอมไต่สวนเรื่องมือสังหาร”คนสนิทถามเหมือนรู้ใจชลชล"หลงตี้ เดิมเป็นคนที่ไร้ปากเสียงไม่นิยมความยุ่งยากมารดาที่เป็นสนมเลี้ยงดูด้วยความรักและอ่อนโยนเขาจึงกลายเป็นคนที่ไม่ชอบมีปัญหากับใคร""ใต้เท้า"เจ้าหมานั่นแอบฟังเรา"ฉิบหายแล้ว เ_ือกเห็น วิ่งแน่บหางจุกตูดด้วยความไวกว่าแสง ชนเข้ากับร่างสูงของ จ้านกง"ไอ้หมา เ_ร"เงื้อมือขึ้นตั้งใจจะฟาดมือลงบนแผ่นหลังปุกปุยของชลชล""หวีดหวิววว"หลงตี้ผิวปากชลชลกระโจนพรวดเดียวไปยืนเกาะขาหลงตี้สองขาหน้าอยู่ที่อกแน่น แล้วไอ้อาการนี้ อาการดีใจจนออกนอกหน้า มันไม่ใช่นิสัยของชลชล"พอแล้
จวนแม่ทัพ"ท่านหมอ ท่านแม่ทัพเป็นอย่างไรบ้าง"รั้งหมอหลวงไม่ให้ออกมาจากห้องให้ตรวจดูอาการของตัวเองผ่านไปถึงสามชั่วยาม"ฝ่าบาท ท่านแม่ทัพบาดแผลฉกรรจ์ยิ่งนัก อีกทั้งน้ำลายของ สุนัขเสี่ยวเปา ที่ปนไปด้วยอาหารคาวหวานยิ่งส่งผลให้บาดแผลยิ่งรุนแรง""ถึงเพียงนั้นเชียวหรือ""คมเขี้ยวของสัตว์เมื่อต้องผิวเนื้อของมนุษย์มักจะทำให้บาดแผลยากหาย ฝ่าบาทสุนัขทรงเลี้ยงตัวนั้นอาจมี อาการคลุ้มคลั่ง ฝ่าบาทคงต้องจัดสรรที่อยู่ของสุนัขเสี่ยวเปาให้ดี"หลงตี้ถอนหายใจ ปกป้องชลชลก็ยิ่งจะทำให้จ้านกงไม่พอใจ ในใจรู้ดีว่าจ้านกง เป็นคนเช่นไรที่แสร้งทำเป็นดุชลชลเพราะไม่อยากให้จ้านกงเคียดแค้นเช่นนั้นเขาจึงไม่อาจปกป้องชลชลได้คนอย่างจ้านกง ทำเรื่องเลวร้ายไม่มีทางรู้ได้หากเขาไม่อยากให้รู้"ท่านต่อไปไม่ต้องไปที่ตำหนัก ข้าจะมาหาท่านที่นี่""ฝ่าบาทห่วงใยข้าหรือว่ากลัวว่าข้าจะไปเอาเรื่องสุนัขอ้วนตัวนั่น""เสี่ยวเปาพักนี้ไม่รู้เป็นอะไร ข้าห่วงว่าท่านแม่ทัพจะถูกเสี่ยวเปากัดเอาอีก ข้าอยากจะขอร้องไม่อยากให้ท่านต้องลำบาก""ก็ได้ จ้านกงรับบัญชาต่อไปจะไม่ไปที่นั่นหากไม่จำเป็น"แต่ภายในใจกลับคิดว่า เสี่ยวเปาเจ้าหมาโง่ก็อย่าได้ออกมาเพ่นพ
วิสัยสุนัขท้องร้องจ้อกแจ้กเมื่อพบของกินแต่ไม่ยอมขยับตัวยังนอนแบบนั้น"เสี่ยวเปาวันนี้ข้าเอาให้เขานำขาหมูมาเผื่อเจ้าด้วย"หูผึ่งหางชี้ เก็บอาการไว้เก็บอาการ อย่างน้อยก็ห้ามใจไม่ให้ตัวเองลุกขึ้นล่ะวะจ้านกงหันไปยิ้มกับหลงตี้"เมื่อคืนข้าลองทบทวนเรื่องราวทั้งหมดในเมื่อฝ่าบาทโปรดปราน เสี่ยวเปา เพียงนั้น ก็คงเป็นเพราะข้าจากไป ข้าจึงคิดว่าจะมาเห็นแก่ตัวไม่ให้ฝ่าบาทสนใจเสี่ยวเปากลับมาสนใจข้าเพียงคนเดียวก็จะแย่ไปหน่อย เช่นนั้นข้าจึงมาผูกมิตรกับเสี่ยวเปา""ตอแหลดูตาของนายสิจ้านกง ไม่ได้มีความจริงใจแม้แต่น้อยไม่รู้ในนั่นจะใส่ยาถ่ายไว้หรือเปล่าไม่สินิยายจีนโบราณต้องใส่ยาพิษ มันต้องมีพิษแน่นอนเอื้อกกกก"อาหร่อย...น้ำลายไหลชลชลนอนบ่นไปกลืนน้ำลายลงคอไป แต่ที่ทุกคนเห็นคือ เสี่ยวเปาที่นอนนิ่งลอบกลืนน้ำลายลงคอไม่ให้ใครจับสังเกตได้"ไม่เป็นไรเจ้าค่อยๆ กินไปเสี่ยวเปาอาจยังเวลาเช้าอยู่จึงยังไม่หิว"หันหลังกลับไปยิ้มให้กับหลงตี้"ฝ่าบาทยังจำได้ไหม ปลานึ่งซีอิ๋ว ที่ฝ่าบาทโปรดปราน จ้านกงลงมือปรุงเองกับมือ"ชลชลตัวชา ภาพความทรงจำก่อนหน้านั้น ปลานึ่งซีอิ้วใต้แสงเทียนมองผ่านไวน์ขาวไปยังใบหน้าหล่อเหลาของปานระพี
"เจ้าหมานั่น มีบางอย่างที่ทำให้ข้าแปลกใจไม่น้อย""ท่านแม่ทัพก่อนหน้านั้น ผู้คนต่างพูดกันว่าฝ่าบาททดท้อใจจนไม่เป็นอันทำอะไรเมื่อท่านแม่ทัพจากไป มาบัดนี้ ข้าน้อย.. ข้าน้อยรู้สึกว่าฝ่าบาทไม่สู้ยินดียินร้ายเท่าไหร่กับการกลับมาครั้งนี้ของท่านแม่ทัพมีเพียงตอนแรกที่พบกันเท่านั้นที่แสดงถึงความดีพระทัย""ตอนแรกข้าก็คิดว่าฝ่าบาทอย่างไรก็มีข้าอยู่ในใจเสมอแต่ตอนนี้นอกจากเจ้าหมานั่น ฝ่าบาทไม่สนใจใครอื่น""มีเสียงเล่าขานว่าเจ้าหมานั่นเป็นจิ้งจอก ที่กลายร่างมาเพื่อบงการฝ่าบาทแม้กระทั่งใต้เท้าหลัวยังต้องยอมให้กับสุนัขตัวนั้น"จ้านกงถอนหายใจ""จิ้งจอก อืมน่าคิดปรึกษาท่านนักพรตให้จัดการกับจิ้งจอกคงจะดีไม่น้อย"โลกปัจจุบัน"พี่ชล พี่ชล ฟื้นสิฟื้นเดี๋ยวนี้"น้องสาวร้องไห้จนตาบวม"พี่เขาพักผ่อนอยู่ธารธาร (ทาระทาน) หยุดเกเรพี่เขาได้แล้ว""ไม่จริงคุณแม่โกหกพี่ชลเขาไม่ได้พัก"ร้องไห้สะอึกสะอื้น"ธาร จะคอยดูพี่เขาแบบนี้จนกว่าพี่เขาจะพื้น""พี่ระพีเขารีบเดินทางมาที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการพี่ชล ธารกลับพร้อมแม่ให้พี่ระพีเขาคอยดูแลพี่ชลดีกว่า""ไม่เอาหนูไม่ไว้ใจพี่ระพี""พี่เขาเป็นเพื่อนกันอีกอย่างพี่ระพีเขาก็ดีกับพี่
"ไม่ได้พบกันแค่เพียงปีเดียว ดูเจ้าสิ องค์หญิงเจ้าบัดนี้ติดตราตรึงใจจ้านกงยิ่งนัก”ด้วยเพิ่งจะเข้าสู่วัยสาว เจียจิว จึงไม่เคยต้องมือชายหัวใจดวงน้อยสั่นไหวจนน่ากลัว“ท่านแม่ทัพ อย่าล้อเจียจิวเล่น”“ไม่สิ เจ้างดงามเกินใคร คนอย่างจ้านกง จะกล้าล้อเจ้าเล่นหรือไร ก้มลงจรดริมฝีปากที่ริมฝีปากบางเบาๆ เจียจิวตัวสั่นงันงกทำอะไรไม่ถูกมือไม่เย็นเฉียบ“เห็นหรือไม่ว่าข้าพูดจริงองค์หญิงงดงามจนข้าไม่อาจห้ามใจ” ดันร่างเล็กจนไปติดกับต้นไม้ใหญ่ ก้มมองสบตากลมที่มีแต่แววตาเขินอาย“กลับมาครั้งนี้คุ้มค่ายิ่งนักพบกับองค์หญิงที่งดงามขึ้นผิดหูผิดตา จ้านกงคงต้องมององค์หญิงเสียใหม่”“ท่านแม่ทัพปากหวานยิ่งนัก”“องค์หญิงจ้านกงไม่เคยล้อท่านเล่น หวังว่าองค์หญิงจะเมตตา”เจียจิว อ่อนระทวยทั้งใจและกาย จ้านกงซ่อนยิ้มในหน้า สำเร็จในเมื่อหลงตี้ไม่ใส่ใจเขายังมีเหยื่อที่โง่งมเช่นเจียจิวให้เลือกเฟ้นชลชลในร่างมนุษย์หอบผ้าห่มลงไปที่พื้นด้านล่าง อดที่จะเหลือบตามองร่างเปลือยท่อนบน อกแน่นกล้ามเป็นมัดที่กำลังจะทิ้งตัวลงนอนบนแท่นนอนหนาเสียไม่ได้“มาตรงนี้”ตบข้างๆ แท่นนอน“ไม่เอา ฝ่าบาทนอนไปเถอะข้าแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง นอนด้านล่างดีแค่ไห
“ฝ่าบาท เจ้าสุนัขตัวนี้สร้างความปั่นป่วนในท้องพระโรงฝ่าบาทควรจะให้ใครนำตัวออกไปเสียก่อนตอนนี้มีเรื่องสำคัญต้องหาหรือ ฝ่าบาทเช่นไรถึงพระทัยดียิ่งนักให้สุนัขเข้ามาถึงในนี้”“แฮร่ ๆๆๆ ฮึ่มมม”ชลชลส่งเสียงขู่ ใต้เท้าหลัวที่พูดพาดพิง“เสี่ยวเปามานี่”ชลชลวิ่งแน่บกระดิกหางรัวเร็ว กระโดดขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ ลิ้นห้อยหูตั้ง เมื่อไหร่จะเลิก ตื่นเต้นเวลาเจ้านาย ไม่สิคนหล่อเรียกเสียที หลงตี้ยกมือลูบศีรษะเบาๆ“ตู้กังนำเสี่ยวเปาไปที่ห้องเครื่องหาอะไรให้เสี่ยวเปาเป็นของกำนัลรองท้อง สายๆ ข้าจะไปรับที่นั่น”ชลชลยิ้มที่หูรู้ที่หาง ลิ้นห้อยน้ำลายไหล เป็นที่รู้กันว่างานสำเร็จไปแล้วหลงตี้รู้ตัวคนบงการแล้วต่อไปเป็นหน้าที่ของหลงตี้ที่จะต้องทำตามแผนการที่วางไว้กับชลชลเมื่อคืนทำให้อดนอน กันทั้งสองคนตกลงกันว่าจะตลบหลังคนบงการอย่างไร ชลชลเป็นคนวางแผนเสียทั้งหมดหลงตี้อดที่จะชื่นชม ชลชลเสียไม่ได้ สมกับที่เป็นจิ้งจอก อย่างที่หลงตี้เรียกแผนการรัดกุมยิ่งนัก“ใต้เท้าหลัวท่านคิดว่าข้าควรจะจัดการเช่นไรเรื่องนี้”ใต้เท้าหลัวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นทั้งๆ ที่ทำใจไว้แล้วว่าจะไม่แสดงพิรุธ“ฝ่าบาทสิ่งของเหล่านี้เป็นของมีค่าคว
"จากคนพวกนั้น พวกที่กำลังขนของมีค่าใส่ในเกี้ยว ฝ่าบาททำอย่างไรดี ด้านท้ายตำหนักมีคนกำลังขนของมีค่า คนผู้นั้นหน้าตาคุ้นแต่ข้าจำไม่ได้ว่าเคยเห็นเขาที่ไหน""ด้านท้ายตำหนัก"หลงตี้ขมวดคิ้ว ก้าวเดินไปที่ประตู ปิดประตูตำหนักตะโกนดังๆ"องครักษ์ส่งคน ไปที่ท้ายตำหนักและห้ามให้ใครเข้าออกวังหลวงจนกว่าข้าจะอนุญาต""คราวนี้บอกมาเจ้าไปทำอะไรที่นั่น""ฉันๆ ไปเดินเล่น"ขี้หดตดหาย หายปวดท้องไปเลยเจอเรื่องแบบนี้เข้า"ไปเดินเล่น ทั้งๆที่รู้ว่าจะกลายร่างทำไมยังออกไป หากไปกลายร่างต่อหน้าคนอื่นเจ้าจะปลอดภัยหรือไม่ห่วงตัวเองหรือไร"น้ำเสียงเจือปนไปด้วยความโมโห"จริงด้วยลืมคิดไปเสียสนิทเพราะกลายร่างนี่แหละ ถึงต้องวิ่งแน่บกลับมาถ้าเป็นหมาคงไม่โดนสงสัยถึงจะไปเห็นเรื่องไม่ชอบมาพากลก็เถอะ""ข้าเป็นห่วงคราวหลังอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนหากเจ้าเป็นอะไรไปข้าคง ..ใจสลาย"คำสารภาพรักหรือไรหัวหน้าองครักษ์วิ่งกลับมาที่ตำหนัก“ฝ่าบาทไม่พบใครที่นั่นพบเพียงสิ่งของมีค่าควรเมืองมากมาย ที่ถูกลำเลียงใส่ไว้ในเกี้ยว ถึงสามหลัง”“ไวจริงๆ คงไหวตัวทันว่ามีคนมาเห็นจึงหนีไปเสียก่อน”“ใครกันทำเรื่องเช่นนี้”“อือใครกันทำเรื่องแบบนี้ ฝ่าบาทพรุ่งน
“ท่านแม่ทัพ"ประตูเปิดออกดังนัดหมายก็นัดหมายนั่นล่ะ เจียจิวยอมเปิดใจให้แม่ทัพหนุ่มด้วย หลงคำหวานของเขาเข้าเต็มเปา ริมฝีปากอุ่นไม่พูดพล่ามกดปิดที่ริมฝีปากของเจียจิวไม่ทันให้ตั้งตัว“อุ๊ย ท่านแม่ทัพ”สีหน้าตื่นตกใจเเพราะไม่เคยถูกจู่โจมแบบนี้จากใครคนใดมาก่อน“คิดถึงเหลือเกิน คิดถึงองค์หญิงเกินใคร” น้ำเสียงอ่อนหวานยิ่งนัก เจียจิวเขินอาย จ้านกงดึงมือเจียจิวเข้าไปในห้องปิดประตูทันที“ข้ากลัวว่าจะไร้วาสนาหากรอช้ากว่านี้ องค์หญิงจ้านกงต้องการท่าน”เจียจิวหลบตาเขินอาย“โฮ้งโฮ้งๆๆๆ ”เสียงเห่าดังลั่น หน้าประตู“โฮ้งโฮ้ง ๆๆๆๆๆ หงิงหงิงหงิงๆๆๆ ”“เจ้าหมาบ้านั่นมาได้อย่างไร”สีหน้าตื่นตกใจกลัวว่าหลงตี้จะมาด้วย“เอ่อเอ่อ เจียจิวมักจะให้เสี่ยวเปามาที่นี่ยามค่ำ”“เจ้าไล่มันกลับไปเลยข้า ไม่ชอบเจ้าหมานั่น”“แค่หมาตัวอ้วนตัวเดียว ท่านแม่ทัพจะโมโหทำไม”เดินไปเปิดประตู ชลชลวิ่งแน่บเข้าไปในห้อง หมุนตัวสามรอบก่อนจะนอนขดบนแท่นอนของเจียจิว“เจ้าเคยให้เจ้าหมานั่นขึ้นไปนอนบนแท่นนอนหรือไร”“ปกติ เสี่ยวเปาขึ้นไปนอนกับข้าเป็นประจำ”“โฮ่งโฮ้งโฮ่ง โฮ้งโฮ้ง (หมดอารมณ์เลยสิ) ”มองก็รู้สีหน้าสีตากำลังหื่นหิว หากมาช้ากว่านี้ ห
“หา ฝ่าบาทจะทำเช่นนั้นไม่ได้ ใต้เท้าหลัวเป็นที่เคารพนับถือเป็นถึง เสนาบดีแล้วยังเป็นผู้นำสี่ตระกูลใหญ่ฝ่าบาทสั่งลงทัณฑ์ เหมือนกับใต้เท้าเป็นขันทีหรือนางกำนัลเป็นการลดเกียรติ...ของใต้เท้าหลัว”หลงตี้ยิ้ม“ดี คุกเข่าไม่เหมาะกับ ตำแหน่งเช่นนั้นข้าขอสั่งให้ลดเบี้ยหวัดหนึ่งเดือน ต่อไปใครไม่มาประชุมขุนนางหนึ่งครั้งไม่ต้องจ่ายเบี้ยหวัดหนึ่งเดือน”“ฝ่าบาท กว่าปีมานี้ฝ่าบาทก็ไม่เคยเข้าประชุมขุนนาง”“ตบปาก ตบปากเลย พูดชี้นำคนอื่นดีนัก”ชลชลส่งเสียเบาๆ ในลำคอหลงตี้ส่ายหน้า ไม่ทำให้เห็นก็จะไม่มีใครกลัวที่ผ่านมาเขาใจดีเกินไป“ดี องครักษ์จับตัวคนพูด มาตบปาก”องครักษ์หันหน้าหันหลัง“องครักษ์ไม่ได้ยินพระบัญชาหรือไร”ซินอ๋องตวาดดังๆ“โฮ้งโฮ้ง แฮร่ๆๆๆๆ ”องครักษ์รีบจับตัวคนสอพลอต่อใต้เท้าหลัวมาข้างหน้าตบปากไปสองสามที“ฝ่าบาทโปรดประทานอภัยข้าน้อยสมควรตาย ต่อไปข้าน้อยไม่กล้าแล้ว”ทรุดกายลงคุกเข่ากับพื้นแค่สองสามทีก็ถึงกับทรุดได้ผลไม่น้อย“ไม่ได้ให้ตาย แต่ก็ดีแล้วพูดมาแบบนี้ข้า จะได้รู้ว่าใครภักดีต่อข้าใครภักดีต่อใต้เท้าหลัว” จ้านกงเดินเข้ามาในท้องพระโรงพร้อมกับเสียงปรบมือ“ยอดเยี่ยม ฝ่าบาทสมควรยิ่งแล้ว”ซินอ๋อง
จวนใต้เท้าหลัว“มือสังหารมือดี มาถึงหรือยัง”“ขอรับใต้เท้า”“ดี เร่งมือ ให้เร็วที่สุดไม่มีเวลาแล้วหลายวันมานี้ จ้านกงกลับมาส่งผลให้ฝ่าบาทกระปรี้กระเปร่า และยังหันมาสนใจเรื่องราวในราชสำนัก ข้าตั้งใจทำสิ่งใดก็ต้องระงับยับยั้งไว้ก่อน”“ใต้เท้า ท่านแม่ทัพจ้านกง ขอพบท่าน”ใต้เท้าหลัวขมวดคิ้ว“เชิญเขาเข้ามา” จ้านกงไม่รอให้เชิญก้าวขาเข้าไปข้างในทันที“ท่านแม่ทัพไม่เจอกันเสียนานไม่คิดว่าท่านจะเปลี่ยนข้าง”“ใต้เท้า ข้ามาครั้งนี้ ตั้งใจมาผูกมิตรกับใต้เท้า”ใต้เท้าหลัว ยิ้มแต่ทว่าภายในใจหาเชื่อคำพูดของจ้านกงไม่“ว่ามา”“ข้า มีข้อเสนอ”ใต้เท้าหลัวเลิกคิ้วสูง“ข้อเสนอของท่านแม่ทัพเกรงว่าจะไปกันกับสิ่งที่ข้าต้องการไม่ได้”“ใต้เท้าลองฟังดูก่อนบางที อาจ ดีกว่าที่ใต้เท้าคิดไว้”“ได้ เชิญท่านแม่ทัพ”“ท่าน ช่วยข้า ข้าช่วยท่านบัลลังก์เป็นของข้า การคลังเป็นของท่าน อีกทั้งการจัดเก็บภาษี ทั้งหมดข้ายกให้ท่านเพียงผู้เดียว” ใต้เท้าหลัวยิ้ม พยักหน้าขึ้นลงช้าๆ“ดี พูดได้ดี เอาตามนี้ คราวนี้บอกมาจะให้ข้าช่วยอะไร”“ช่วยสังหารคนข้างกายฝ่าบาทให้ข้า”"เหล่าขุนนางต่างถวายฎีกา กดดันให้ฝ่าบาทมีความขัดเจน""ความชัดเจน ข้าอ
"ไม่ได้พบกันแค่เพียงปีเดียว ดูเจ้าสิ องค์หญิงเจ้าบัดนี้ติดตราตรึงใจจ้านกงยิ่งนัก”ด้วยเพิ่งจะเข้าสู่วัยสาว เจียจิว จึงไม่เคยต้องมือชายหัวใจดวงน้อยสั่นไหวจนน่ากลัว“ท่านแม่ทัพ อย่าล้อเจียจิวเล่น”“ไม่สิ เจ้างดงามเกินใคร คนอย่างจ้านกง จะกล้าล้อเจ้าเล่นหรือไร ก้มลงจรดริมฝีปากที่ริมฝีปากบางเบาๆ เจียจิวตัวสั่นงันงกทำอะไรไม่ถูกมือไม่เย็นเฉียบ“เห็นหรือไม่ว่าข้าพูดจริงองค์หญิงงดงามจนข้าไม่อาจห้ามใจ” ดันร่างเล็กจนไปติดกับต้นไม้ใหญ่ ก้มมองสบตากลมที่มีแต่แววตาเขินอาย“กลับมาครั้งนี้คุ้มค่ายิ่งนักพบกับองค์หญิงที่งดงามขึ้นผิดหูผิดตา จ้านกงคงต้องมององค์หญิงเสียใหม่”“ท่านแม่ทัพปากหวานยิ่งนัก”“องค์หญิงจ้านกงไม่เคยล้อท่านเล่น หวังว่าองค์หญิงจะเมตตา”เจียจิว อ่อนระทวยทั้งใจและกาย จ้านกงซ่อนยิ้มในหน้า สำเร็จในเมื่อหลงตี้ไม่ใส่ใจเขายังมีเหยื่อที่โง่งมเช่นเจียจิวให้เลือกเฟ้นชลชลในร่างมนุษย์หอบผ้าห่มลงไปที่พื้นด้านล่าง อดที่จะเหลือบตามองร่างเปลือยท่อนบน อกแน่นกล้ามเป็นมัดที่กำลังจะทิ้งตัวลงนอนบนแท่นนอนหนาเสียไม่ได้“มาตรงนี้”ตบข้างๆ แท่นนอน“ไม่เอา ฝ่าบาทนอนไปเถอะข้าแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง นอนด้านล่างดีแค่ไห
"เจ้าหมานั่น มีบางอย่างที่ทำให้ข้าแปลกใจไม่น้อย""ท่านแม่ทัพก่อนหน้านั้น ผู้คนต่างพูดกันว่าฝ่าบาททดท้อใจจนไม่เป็นอันทำอะไรเมื่อท่านแม่ทัพจากไป มาบัดนี้ ข้าน้อย.. ข้าน้อยรู้สึกว่าฝ่าบาทไม่สู้ยินดียินร้ายเท่าไหร่กับการกลับมาครั้งนี้ของท่านแม่ทัพมีเพียงตอนแรกที่พบกันเท่านั้นที่แสดงถึงความดีพระทัย""ตอนแรกข้าก็คิดว่าฝ่าบาทอย่างไรก็มีข้าอยู่ในใจเสมอแต่ตอนนี้นอกจากเจ้าหมานั่น ฝ่าบาทไม่สนใจใครอื่น""มีเสียงเล่าขานว่าเจ้าหมานั่นเป็นจิ้งจอก ที่กลายร่างมาเพื่อบงการฝ่าบาทแม้กระทั่งใต้เท้าหลัวยังต้องยอมให้กับสุนัขตัวนั้น"จ้านกงถอนหายใจ""จิ้งจอก อืมน่าคิดปรึกษาท่านนักพรตให้จัดการกับจิ้งจอกคงจะดีไม่น้อย"โลกปัจจุบัน"พี่ชล พี่ชล ฟื้นสิฟื้นเดี๋ยวนี้"น้องสาวร้องไห้จนตาบวม"พี่เขาพักผ่อนอยู่ธารธาร (ทาระทาน) หยุดเกเรพี่เขาได้แล้ว""ไม่จริงคุณแม่โกหกพี่ชลเขาไม่ได้พัก"ร้องไห้สะอึกสะอื้น"ธาร จะคอยดูพี่เขาแบบนี้จนกว่าพี่เขาจะพื้น""พี่ระพีเขารีบเดินทางมาที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการพี่ชล ธารกลับพร้อมแม่ให้พี่ระพีเขาคอยดูแลพี่ชลดีกว่า""ไม่เอาหนูไม่ไว้ใจพี่ระพี""พี่เขาเป็นเพื่อนกันอีกอย่างพี่ระพีเขาก็ดีกับพี่
วิสัยสุนัขท้องร้องจ้อกแจ้กเมื่อพบของกินแต่ไม่ยอมขยับตัวยังนอนแบบนั้น"เสี่ยวเปาวันนี้ข้าเอาให้เขานำขาหมูมาเผื่อเจ้าด้วย"หูผึ่งหางชี้ เก็บอาการไว้เก็บอาการ อย่างน้อยก็ห้ามใจไม่ให้ตัวเองลุกขึ้นล่ะวะจ้านกงหันไปยิ้มกับหลงตี้"เมื่อคืนข้าลองทบทวนเรื่องราวทั้งหมดในเมื่อฝ่าบาทโปรดปราน เสี่ยวเปา เพียงนั้น ก็คงเป็นเพราะข้าจากไป ข้าจึงคิดว่าจะมาเห็นแก่ตัวไม่ให้ฝ่าบาทสนใจเสี่ยวเปากลับมาสนใจข้าเพียงคนเดียวก็จะแย่ไปหน่อย เช่นนั้นข้าจึงมาผูกมิตรกับเสี่ยวเปา""ตอแหลดูตาของนายสิจ้านกง ไม่ได้มีความจริงใจแม้แต่น้อยไม่รู้ในนั่นจะใส่ยาถ่ายไว้หรือเปล่าไม่สินิยายจีนโบราณต้องใส่ยาพิษ มันต้องมีพิษแน่นอนเอื้อกกกก"อาหร่อย...น้ำลายไหลชลชลนอนบ่นไปกลืนน้ำลายลงคอไป แต่ที่ทุกคนเห็นคือ เสี่ยวเปาที่นอนนิ่งลอบกลืนน้ำลายลงคอไม่ให้ใครจับสังเกตได้"ไม่เป็นไรเจ้าค่อยๆ กินไปเสี่ยวเปาอาจยังเวลาเช้าอยู่จึงยังไม่หิว"หันหลังกลับไปยิ้มให้กับหลงตี้"ฝ่าบาทยังจำได้ไหม ปลานึ่งซีอิ๋ว ที่ฝ่าบาทโปรดปราน จ้านกงลงมือปรุงเองกับมือ"ชลชลตัวชา ภาพความทรงจำก่อนหน้านั้น ปลานึ่งซีอิ้วใต้แสงเทียนมองผ่านไวน์ขาวไปยังใบหน้าหล่อเหลาของปานระพี
จวนแม่ทัพ"ท่านหมอ ท่านแม่ทัพเป็นอย่างไรบ้าง"รั้งหมอหลวงไม่ให้ออกมาจากห้องให้ตรวจดูอาการของตัวเองผ่านไปถึงสามชั่วยาม"ฝ่าบาท ท่านแม่ทัพบาดแผลฉกรรจ์ยิ่งนัก อีกทั้งน้ำลายของ สุนัขเสี่ยวเปา ที่ปนไปด้วยอาหารคาวหวานยิ่งส่งผลให้บาดแผลยิ่งรุนแรง""ถึงเพียงนั้นเชียวหรือ""คมเขี้ยวของสัตว์เมื่อต้องผิวเนื้อของมนุษย์มักจะทำให้บาดแผลยากหาย ฝ่าบาทสุนัขทรงเลี้ยงตัวนั้นอาจมี อาการคลุ้มคลั่ง ฝ่าบาทคงต้องจัดสรรที่อยู่ของสุนัขเสี่ยวเปาให้ดี"หลงตี้ถอนหายใจ ปกป้องชลชลก็ยิ่งจะทำให้จ้านกงไม่พอใจ ในใจรู้ดีว่าจ้านกง เป็นคนเช่นไรที่แสร้งทำเป็นดุชลชลเพราะไม่อยากให้จ้านกงเคียดแค้นเช่นนั้นเขาจึงไม่อาจปกป้องชลชลได้คนอย่างจ้านกง ทำเรื่องเลวร้ายไม่มีทางรู้ได้หากเขาไม่อยากให้รู้"ท่านต่อไปไม่ต้องไปที่ตำหนัก ข้าจะมาหาท่านที่นี่""ฝ่าบาทห่วงใยข้าหรือว่ากลัวว่าข้าจะไปเอาเรื่องสุนัขอ้วนตัวนั่น""เสี่ยวเปาพักนี้ไม่รู้เป็นอะไร ข้าห่วงว่าท่านแม่ทัพจะถูกเสี่ยวเปากัดเอาอีก ข้าอยากจะขอร้องไม่อยากให้ท่านต้องลำบาก""ก็ได้ จ้านกงรับบัญชาต่อไปจะไม่ไปที่นั่นหากไม่จำเป็น"แต่ภายในใจกลับคิดว่า เสี่ยวเปาเจ้าหมาโง่ก็อย่าได้ออกมาเพ่นพ