หลงตี้ลุกขึ้นเท้าคางมอง ชลชลด้วยสายตาหลากหลายทั้งชื่นชมตื่นเต้น ดีใจและประหลาดใจ
“น่าจะพูดได้น้า แต่แบบนี้ก็ดีข้ากำลังเหงา เจ้ามาทันเวลาพอดี”
ดึงร่างเล็กกว่ามากอดแนบแน่น ความอบอุ่นอ่อนโยนแล่นเข้าสู่หัวใจ
“ปล่อยนะโว๊ย”เผลอตะโกนออกไปยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเมื่อมันเปล่งเสียงออกมาเป็นภาษาคน
“อย่าดิ้นสิ อุ่นเสียจริง อุ่นเข้าไปข้างในเลยเชียว อบอุ่นใจของข้ายิ่งนักเฮ๊ย มะมะเมื่อกี้ จะจะเจ้าพูดได้แล้วนี่”
ชลชลเบ้ปาก ผลักร่างใหญ่ออกห่าง
“โฮ้งโฮ้ง (ถอยไป) ” อ้าวทำไมกลายเป็นเห่าอีกแล้ว สวรรค์กำลังเล่นตลกอะไรกันแน่ เดี๋ยวคนเดี๋ยวหมา
"หูฟาดไป"หลงตี้ยิ้ม ยียวน
“เฮ้อ ไม่ยอมให้กอด ข้านี้ใจบางเลยก็ได้ ข้านอนห่างหน่อยก็ได้ แต่ขออย่างเดียวอย่าจากข้าไปไหนอย่าหนีไปไหนก็พอ”อยู่ๆ หลงตี้ก็รู้สึกว่าหัวใจเปี่ยมสุข นอนหลับตาไปพร้อมกับรอยยิ้ม
"เฮ้อ" ชลชลนั่งสัปหงกบนแท่นนอน กับผ้าห่มหนึ่งผืนจนรุ่งสาง อากาศเริ่มเย็นลงขยับตัวกอดผ้าห่ม
“เฮ้ย ขนมาไงอีกเนี๊ยะ”กลายเป็นเสี่ยวเปาเหมือนเดิม หลงตี้ลุกขึ้นนั่งมองตาค้าง
“จริงๆ ด้วยเจ้ากลายร่างจากคนเป็นหมา สวรรค์สวรรค์เป็นสวรรค์ที่ส่งเจ้ามา ส่งหมาเฮ้ยคนในร่างหมาหรือหมาในร่างคน เอาอย่างไรดีหมาพูดได้หรือคนมีขน”
ชลชลทิ้งตัวลงนอน หลับตาเสียไม่อยากมอง หลงตี้ที่เอาแต่ดีใจทั้งๆ ที่ชลชล เริ่มรู้สึกว่าชะตาชีวิตของตัวเองไม่แน่ไม่นอนแล้วต่อจากนี้ วันนี้เป็นหมากลางคืนเป็นคนแล้วหากคืนที่จะถึงนี้ไม่กลายเป็นนู่นนี่อีกหรือ
เช้าต่อมา
“ฝ่าบาทวันนี้ตื่นแต่เช้า”
“ข้าจะเข้าไปที่ท้องพระโรงเสียหน่อย ตู้กังอย่าเพิ่งเข้าไปกวนเสี่ยวเปา ไว้ข้ามาค่อยเข้าไปพร้อมกันตอนนี้เสี่ยวเปานอนอยู่”
“ใต้เท้าเสี่ยวเปาไม่หิวแต่เช้าหรือไร”
“เมื่อคืนเขานอนดึก”ไม่ได้นอนเลยเอาแต่นั่งจ้องหน้าเขาจนเมื่อรุ่งสาง เขาก็เห็นได้ชัดว่า หนุ่มหล่อคนนั้นกลายเป็นร่างปุกปุยของ เสี่ยวเปากับตาตัวเอง
ชลชลวิ่งแน่บตามตูดหลงตี้ไปทันที
"เฮ้ยเจ้าจะมาทำไมกัน"
"ใครจะอยู่คนเดียว แล้วที่แน่ๆที่นี่ฉันก็ไม่รู้จักใครอีกอย่างตามหลักก็ไม่ควรปล่อยคนที่มีอาการซึมเศร้าไปไหนคนเดียว"บ่นเบาๆหลงตี้ไม่ทันได้ยิน
"ดีอย่างน้อยก็มีเจ้าเป็นสหายในยามที่ต้องกลับเข้าไปในท้องพระโรงอีกครั้งในรอบปี"
น้ำเสียงช่างเศร้าสร้อยยิ่งนัก ชลชลรับรู้ได้ถึงความหวาดกลัวในน้ำเสียงเศร้าสร้อยนั้น ชลชลอยู่นี่ทั้งคนไม่ต้องกลัว555ทั้งๆที่ใจก็นึกหวั่น
ท้องพระโรงกว้างใหญ่
"ฮ่องเต้เสด็จจจจจจจจ"เสียงขานจากขันทีติดตาม เหล่าขุนนางต่างทำหน้าเหลอหลาบ้างก็ลืมแม้กระทั่งทำความเคารพฮ่องเต้ เสียงซุบซิบดังระหว่างทางที่ก้าวเดิน
"สุนัขตัวโปรดต้องให้พวกเรา ถวายพระพรด้วยไหมเป็นแค่หมาแต่ให้เดินข้างกายอย่างนี้เวลาพวกเราถวายพระพรมิต้องถวายพระพรหมาด้วยหรือ"
ชลชลหันมองคนพูด หลงตี้นิ่งเสีย
เอาวะ
"โฮ้งโฮ้ง โฮ่ง (ปากดีนัก) "
กระโจนเข้าใส่คนพูดจนล้มหงายหลัง ถอยหนีลนลาน ชลชลแกล้งงับที่ใบหน้าแต่ไม่ให้โดน
“เหวอ….เหวอ ฝ่าบาทโปรดอภัยฝ่าบาทสั่งให้ใต้เท้าเสี่ยวเปา หยุดที” ชลชล ถอนหายใจ กำลังสนุกเชียวเวลาเห็นสายตาขี้ขลาดของคนปากเก่งนี่ช่างสนุกเสียจริง
หลงตี้ผิวปากหวีดหวิว บาดหู เสียงผิวปากช่างยั่วยวนใจ ชลชลวิ่งแน่บไปกระดิกหางตรงหน้าหลงตี้ ยิ้มกว้างสุดกว้าง เหมือนต้องการให้เขาชม ตายห่าล่ะทำไมทำตัวเหมือนหมาขี้อ้อนแบบนี้ไปได้ อยากให้เจ้านายชมอย่างนั้นหรือ
หลงตี้ยกมือขึ้นลูบหัวเบาๆ ชลชล หลับตาพลิ้ม เฮ้อ!ปลื้มปริ่ม
“เสี่ยวเปาอย่าทำเขา”น้ำเสียงอ่อนโยน ชลชลแล่บลิ้นห้อยออกมา ดีใจที่โดนมืออุ่นลูบหัว
“โฮ้งโฮ้งโฮ้งโฮ้ง โฮ่ง (ก็เขานินทานาย) ” หลงตี้ หันไปมองขุนนางปากพล่อย
“เจ็บตรงไหนหรือไม่”เอ่ยปากถามอย่างเสียไม่ได้ทั้งๆที่เห็นว่าไม่ได้เจ็บอะไรแค่เช็ดน้ำลายของสุนัขออกจากใบหน้า
“ฝ่าบาท ท้องพระโรงคือสถานที่สำคัญไม่สมควรนำสุนัขเข้ามา”ขุนนางใจกล้าผู้หนึ่งก้าวออกมาประสานมือด้านหน้า
“ใช่ใช่ใช่”เสียงขุนนางต่างส่งเสียงพร้อมเพรียงกัน
“โฮ้ง”เห่าเสียงดังลั่น ขุนนางผู้นั้น ถอยหนี ทำท่าทีหวาดกลัว
“เสี่ยวเปา อย่าโมโห ไปไปกับข้า ในเมื่อไม่มีบาดแผลก็ถือว่าเลิกแล้วต่อกันเสีย คราวหลังเอาเป็นว่าข้าจะไม่ให้เสี่ยวเปาเข้ามา วันนี้ฉุกละหุก ข้าต้องการมารับฎีกาด้วยตัวเอง” ซินอ๋องเดินมายิ้มรับหลงตี้
“ฝ่าบาทมาด้วยตัวเองเป็นนิมิตหมายอันดียิ่งนักเสี่ยวเปาเจ้านี่แจ๋วจริงพาฝ่าบาทมาที่นี่ได้ แล้วยังมาคอยคุ้มกันฝ่าบาทด้วยตัวเอง” ชลชลยิ้มแฮะๆ ลิ้นห้อยหูลู่ตามแบบหมาอารมณ์ดี ซินอ๋องลูบหัวเบาๆ“ เชิญ ฝ่าบาทบนบัลลังก์วันนี้ข้อราชการมากมาย”ชลชลเดินอกผายไหล่ผึ่งขึ้นไปนั่งข้างๆ หลงตี้บนบัลลังก์มังกรเฮ้อบัลลังก์มังกร แต่...ยังไม่ทันจะได้ ยืดอก“ฝ่าบาทข้าน้อยเห็นว่าไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะให้หมาขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์เคียงข้างฝ่าบาท”“ไม่นั่งก็ได้วะ”หลงตี้ขมวดคิ้ว ใต้เท้าหลัวพูดขึ้น เฮ้อน่าเบื่อเมื่อไหร่จะเลิกพูดเรื่องนี้เสียทีชลชลเดินลงจากบัลลังก์ มายืน ข้างๆ องครักษ์“ใต้เท้าหลัว สุนัขทรงเลี้ยงของข้าตัวนี้ มักชอบไปไหนมาไหนกับข้า เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบัลลังก์นี่สำคัญเพียงใดเหมือนที่ข้าเองก็ไม่เคยสนใจว่าบัลลังก์นี่สำคัญถึงกับต้องแย่งชิงกันด้วยหรือ การแย่งชิงทำลายทุกอย่างแม้กระทั่งมิตรภาพ”“ฝ่าบาท หากคิดว่าบัลลังก์นี้ไม่สำคัญก็ทรงสละมันเสีย”ใต้เท้าหลัว พูดขึ้นด้วยท่าทีจริงจังไม่มีความหวั่นเกรงในอำนาจของหลงตี้“หากข้ายอมสละมัน แล้วชีวิตของแม่ทัพจ้านกงก็ไม่อาจคืนกลับมาเพราะการแย่งชิงเขาจึงต้องตายข้าประกา
"ซินอ๋อง ข้าว่าควรเป็นหมานั่นมากกว่าที่จะต้องตายฝ่าบาทโปรดปรานเจ้าหมาตัวนั้นมากหากมันตายไปคงจะต้องตรอมใจแน่ แต่ซินอ๋องกับพวกเรายังพอต่อรองกันได้"ใต้เท้าหลัวโบกมือห้าม"ซินอ๋องเป็นน้องชายแท้ๆ เห็นได้ชัดว่าไม่เคยไม่ภักดี กับพวกเราก็แค่รอมชอมก็เท่านั้นไม่ได้เห็นพวกเราในสายตา""แล้วหากเป็นการลอบปลงพระชนม์ฝ่าบาทเหมือนที่เราเคยทำนั่นเล่า"ใครคนหนึ่งเสนอความเห็น"หุบปากเจ้าเสีย ที่นี่มีคนของหลงตี้อยู่ไม่น้อย ไม่ควรพูดหากจะลงมือก็เร่งลงมือในทันที"หลายคน ยิ้มมุมปากตำหนักฮ่องเต้“คืนนี้ข้าจะไม่นอน รอดูว่าเจ้าจะกลายร่างเป็นคนอีกหรือไม่”“โฮ้งโฮ้ง (ตามใจ) ”ชลชลเดินวนสามรอบก่อนจะ ทิ้งตัวลงนอนขดกลมเหมือนกองอะไรสักอย่าง หลงตี้นั่งเท้าคางมองตาแป่วสักพักหนึ่ง ชลชลก็ลืมตามองคนตัวสูงที่ยังจ้องชลชลตาไม่กะพริบ เที่ยงคืนแล้วกระมั้ง“จ้านกง เป็น ..เป็นอะไรกับฝ่าบาท”บทจะพูดก็พูดได้ บทจะพูดไม่ได้ก็กลายเป็นเห่า“ จ้านกงเป็นความทรงจำที่งดงามของข้า เป็นดังชีวิตและ...หัวใจ”“แล้วฝ่าบาท ทำไมถึงยอมให้เขาจากไป”คิดแล้วอยากตบปากตัวเองเสียจริงถามอะไรที่ทำให้อีกคนจนกับคำตอบ เรียนจิตวิทยามาได้อย่างไร“ข้าแค่เพียง ไม่อา
“องครักษ์มือสังหารอีกคนหนีไปแล้วเสี่ยวเปาคงตามหมอนั่นไป”หลงตี้ก้าวนำออกไปทันที ชลชลถอนหายใจโล่งอก เมื่อทุกคนเงียบเสียงลงไปทิ้งตัวนอนหงาย ใต้แท่นนอน ก่อนจะผุดลุกขึ้นด้วยเหมือนเพิ่งจะนึกอะไรขึ้นได้ วิ่งไปคว้าอาภรณ์มาสวมแบบลวกๆวิ่งตาม หลงตี้ออกไปแต่ ยังไม่ทันจะออกพ้นประตูคมกระบี่ขององครักษ์ขวางหน้าไว้“ปล่อยเขา”หลงตี้ตวาดลั่น“ฝ่าบาท คนผู้นี้”“ขะขะข้า”ชื่ออะไรดีวะเอาวะ นึกชื่อใครไม่ออก“ขะข้าป๋อจ้าน องครักษ์คนใหม่ของฝ่าบาท”เอาชื่อนี้ละวะนึกออกชื่อเดียว เอาตัวรอดกับปัญหาเฉพาะหน้าที่ออกมาเพราะห่วงหลงตี้กลัวว่าจะพบกับอันตราย แต่นึกไม่ถึงว่า องครักษ์ตอนนี้ตรึงกำลังไว้ทั่วตำหนักจากเหตุการณ์เมื่อครู่“ป๋อจ้าน”“เขาเป็นองครักษ์ของข้า”ซินอ๋องขมวดคิ้ว หลงตี้เดินเข้ามาใกล้ๆ ชลชล“เจ้าปลอดภัยดีไหม” น้ำเสียงอ่อนโยนห่วงใย“ปลอดภัย ฝ่าบาทเล่า ปลอดภัยหรือไม่”“ข้าเป็นห่วงเจ้าแทบแย่”“ฝ่าบาทแล้วเสี่ยวเปาเล่า”ซินอ๋องถามขึ้น“ข้าจะเรียกเขาเอง พวกเจ้ากลับไปพักผ่อนได้แล้ว”“รักษาตัวด้วย ซินอ๋องทูลลา องครักษ์ลาดตะเวณตำหนักใหญ่เพิ่มกำลังสองเท่า”สั่งการก่อนจะก้าวออกไแ“ป๋อจ้านเข้าไปข้างใน” ชลชลถอนหายใจอยู่
"เมื่อไหร่จะได้อยู่กับป๋อจ้านทั้งวันไม่ต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบนี้""โฮ้ง โฮ้ง (น่านสิ) หลงตี้กอดชลชลยิ้มกว้าง"แต่แบบนี้ก็ดีน่ารักที่สุดเสี่ยวเปาของข้า"ชลชลไม่อาจห้ามลิ้นยาวที่แลบลิ้นเลียใบหน้าหล่อแสดงความรักความภักดีเหมือนอย่างที่สุนัขมักจะทำภายใน ตำหนักใหญ่กลางหุบเขา จ้านกงเอนตัวลงนอนจิบสุรารสเลิศใบหน้าหล่อเหลาองอาจ พูดกับคนข้างๆ“ปีหนึ่งแล้ว ที่ข้าแสร้งว่าตายคงถึงเวลาที่จะกลับไปแล้ว ในเมื่อตอนนี้ หลงตี้คงยินดีไม่น้อยหากข้ากลับไปแล้วต่อไปจะขอสิ่งใดย่อมง่ายดาย“ท่านแม่ทัพ จะบอกฝ่าบาทว่าอย่างไรในเมื่อทุกคนต่างเห็นได้ชัดว่าร่างไร้วิญญาณท่านแม่ทัพถูกเผาเป็นเถ้าธุรลี”“หลงตี้เห็นข้าก็คงดีใจจน ไม่สงสัยเรื่องการกลับมา จะหลอกล่อเช่นไรก็ ไม่เป็นพิรุธ”“ท่านแม่ทัพครั้งนี้แน่ใจหรือว่าจะได้ครองบัลลังก์”“ครั้งนั้น ใต้เท้าหลัวส่งคนลอบสังหารหลงตี้ ข้ายอมรับกระบี่แทนเพื่อการนี้ ครั้งนี้กลับมาบัลลังก์นั่นจะต้องเป็นของข้า”ยิ้มมุมปาก หลงตี้ไว้ใจ และวางใจเขา จนลืมมองว่าเขามีความตั้งใจ อย่างไร ใต้เท้าหลัวตั้งใจกำจัดเขาเพราะคิดว่าหลงตี้ จะต้องหมดกำลังแรงใจจนอยากจะสละบัลลังก์เสีย แต่มาครั้งนี้ หลงตี
ชลชล ก้มลงงับ ขาหมูในถาดใหญ่อย่างเอร็ดอร่อยจ้านกง เดินออกมาจากห้องของ หลงตี้ หยุดยืนที่ชลชลกินขาหมูอยู่มือใหญ่ไวเท่าความคิดปัดถาดขาหมูร่วงกระจายลงพื้นตู้กังวิ่งเข้ามาทันที ชลชลอ้าปากค้างหูตกหางตก“ใต้เท้าจ้านกง ใต้เท้าเสี่ยวเปาเกิดอะไรขึ้น”“เจ้าหมานี่ กระโจนใส่ข้าจน ขาหมูในถาดหกเสียสิ้น”หลงตี้ ก้าวขาออกมายืนมอง ชลชลที่ทำปากขมุบขมิบ“ตอแหลปานระพีทำไมนายมันตอแหลอย่างนี้ ถ้าหากรู้ว่าเป็นฉันนายจะกล้าตอแหลไหม เดี๋ยวกัดเนื้อหลุดเลย”ไม่มีใครได้ยินนอกจากหลงตี้คนเดียว“เสี่ยวเปา”หลงตี้ได้ยินทุกถ้อยคำชัดเจน ผิวปากพร้อมกับเรียกชลชล“ฝ่าบาทเห็นไหมหมอนั่นตอแหล เขาเป็นคนปัดถาด ขาหมูของข้า”“ตอแหล” พึมพำเบาๆ จ้านกงขมวดคิ้วสงสัยกับ สิ่งที่หลงตี้พูด“โกหกคนอะไรโกหกเก่งที่สุด”“เสี่ยวเปากลับเข้าไปในห้อง ตู้กังไปนำขาหมูมาให้เสี่ยวเปาในห้อง คงยังไม่ทันอิ่ม”“ฝ่าบาท หมาแบบไหนกันที่มีโอกาสกินขาหมูเป็นถาดๆ แทนอาหารเหลือจากห้องเครื่อง”จ้านกงพูดขึ้น ชลชลเบ้ปาก ปานระพี นิสัยแท้จริงของเขาก็แบบนี้ ชลชลไม่เข้าใจว่าคนที่ชอบวางท่ากับชอบบูลลี่คนอื่นทำไมชลชลถึงไปชอบเขาได้ ตอนนี้ยังนึกน้อยใจกับคำพูดของจ้านกงที่บั
ชลชลเดินหนีไม่สนใจจะฟัง ไม่ได้จัดการกับหลงตี้เสียหน่อยจะจัดการกับจ้านกงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับชลชล ที่พึ่งสุดท้ายแบบหลงตี้ก็จะปลอดภัย….แต่ๆ เดี๋ยวก่อน“จัดการ หลงตี้เสียก่อน จ้านกงผู้มุทะลุนั่นหากไม่มีหลงตี้หนุนหลังก็คงเป็นเพียงหมาตัวหนึ่งเหมือนเจ้าหมาเสี่ยวเปาตัวนั้นไม่อาจทำอะไรพวกเราได้”นี่ชลชลเป็นอะไรไปทำไมรู้สึกสงสารหลงตี้ ทำไมรู้สึกสมน้ำหน้าจ้านกง“ส่งมือสังหารไปอีกครั้ง ไม่ว่าจะกี่ครั้งหลงตี้ก็ไม่มีทางสืบหาหรือไต่สวน”ทำไม ทำไมไม่ไต่สวน น่าสงสัย ต้องสืบ“แปลกใจเหตุใดหลงตี้ไม่ยอมไต่สวนเรื่องมือสังหาร”คนสนิทถามเหมือนรู้ใจชลชล"หลงตี้ เดิมเป็นคนที่ไร้ปากเสียงไม่นิยมความยุ่งยากมารดาที่เป็นสนมเลี้ยงดูด้วยความรักและอ่อนโยนเขาจึงกลายเป็นคนที่ไม่ชอบมีปัญหากับใคร""ใต้เท้า"เจ้าหมานั่นแอบฟังเรา"ฉิบหายแล้ว เ_ือกเห็น วิ่งแน่บหางจุกตูดด้วยความไวกว่าแสง ชนเข้ากับร่างสูงของ จ้านกง"ไอ้หมา เ_ร"เงื้อมือขึ้นตั้งใจจะฟาดมือลงบนแผ่นหลังปุกปุยของชลชล""หวีดหวิววว"หลงตี้ผิวปากชลชลกระโจนพรวดเดียวไปยืนเกาะขาหลงตี้สองขาหน้าอยู่ที่อกแน่น แล้วไอ้อาการนี้ อาการดีใจจนออกนอกหน้า มันไม่ใช่นิสัยของชลชล"พอแล้
จวนแม่ทัพ"ท่านหมอ ท่านแม่ทัพเป็นอย่างไรบ้าง"รั้งหมอหลวงไม่ให้ออกมาจากห้องให้ตรวจดูอาการของตัวเองผ่านไปถึงสามชั่วยาม"ฝ่าบาท ท่านแม่ทัพบาดแผลฉกรรจ์ยิ่งนัก อีกทั้งน้ำลายของ สุนัขเสี่ยวเปา ที่ปนไปด้วยอาหารคาวหวานยิ่งส่งผลให้บาดแผลยิ่งรุนแรง""ถึงเพียงนั้นเชียวหรือ""คมเขี้ยวของสัตว์เมื่อต้องผิวเนื้อของมนุษย์มักจะทำให้บาดแผลยากหาย ฝ่าบาทสุนัขทรงเลี้ยงตัวนั้นอาจมี อาการคลุ้มคลั่ง ฝ่าบาทคงต้องจัดสรรที่อยู่ของสุนัขเสี่ยวเปาให้ดี"หลงตี้ถอนหายใจ ปกป้องชลชลก็ยิ่งจะทำให้จ้านกงไม่พอใจ ในใจรู้ดีว่าจ้านกง เป็นคนเช่นไรที่แสร้งทำเป็นดุชลชลเพราะไม่อยากให้จ้านกงเคียดแค้นเช่นนั้นเขาจึงไม่อาจปกป้องชลชลได้คนอย่างจ้านกง ทำเรื่องเลวร้ายไม่มีทางรู้ได้หากเขาไม่อยากให้รู้"ท่านต่อไปไม่ต้องไปที่ตำหนัก ข้าจะมาหาท่านที่นี่""ฝ่าบาทห่วงใยข้าหรือว่ากลัวว่าข้าจะไปเอาเรื่องสุนัขอ้วนตัวนั่น""เสี่ยวเปาพักนี้ไม่รู้เป็นอะไร ข้าห่วงว่าท่านแม่ทัพจะถูกเสี่ยวเปากัดเอาอีก ข้าอยากจะขอร้องไม่อยากให้ท่านต้องลำบาก""ก็ได้ จ้านกงรับบัญชาต่อไปจะไม่ไปที่นั่นหากไม่จำเป็น"แต่ภายในใจกลับคิดว่า เสี่ยวเปาเจ้าหมาโง่ก็อย่าได้ออกมาเพ่นพ
วิสัยสุนัขท้องร้องจ้อกแจ้กเมื่อพบของกินแต่ไม่ยอมขยับตัวยังนอนแบบนั้น"เสี่ยวเปาวันนี้ข้าเอาให้เขานำขาหมูมาเผื่อเจ้าด้วย"หูผึ่งหางชี้ เก็บอาการไว้เก็บอาการ อย่างน้อยก็ห้ามใจไม่ให้ตัวเองลุกขึ้นล่ะวะจ้านกงหันไปยิ้มกับหลงตี้"เมื่อคืนข้าลองทบทวนเรื่องราวทั้งหมดในเมื่อฝ่าบาทโปรดปราน เสี่ยวเปา เพียงนั้น ก็คงเป็นเพราะข้าจากไป ข้าจึงคิดว่าจะมาเห็นแก่ตัวไม่ให้ฝ่าบาทสนใจเสี่ยวเปากลับมาสนใจข้าเพียงคนเดียวก็จะแย่ไปหน่อย เช่นนั้นข้าจึงมาผูกมิตรกับเสี่ยวเปา""ตอแหลดูตาของนายสิจ้านกง ไม่ได้มีความจริงใจแม้แต่น้อยไม่รู้ในนั่นจะใส่ยาถ่ายไว้หรือเปล่าไม่สินิยายจีนโบราณต้องใส่ยาพิษ มันต้องมีพิษแน่นอนเอื้อกกกก"อาหร่อย...น้ำลายไหลชลชลนอนบ่นไปกลืนน้ำลายลงคอไป แต่ที่ทุกคนเห็นคือ เสี่ยวเปาที่นอนนิ่งลอบกลืนน้ำลายลงคอไม่ให้ใครจับสังเกตได้"ไม่เป็นไรเจ้าค่อยๆ กินไปเสี่ยวเปาอาจยังเวลาเช้าอยู่จึงยังไม่หิว"หันหลังกลับไปยิ้มให้กับหลงตี้"ฝ่าบาทยังจำได้ไหม ปลานึ่งซีอิ๋ว ที่ฝ่าบาทโปรดปราน จ้านกงลงมือปรุงเองกับมือ"ชลชลตัวชา ภาพความทรงจำก่อนหน้านั้น ปลานึ่งซีอิ้วใต้แสงเทียนมองผ่านไวน์ขาวไปยังใบหน้าหล่อเหลาของปานระพี
“เสี่ยวเปา”พึมพำออกมาเบาๆ ด้วยเสียงแหบแห้ง“ตามหมอหลวง ใครก็ได้ตามหมอหลวง” ดึง เสื้อคลุมของตัวเองออกมาคลุมให้กับ ชลชลที่นอนหงายเหยียดยาว“ฝ่าบาทโปรดไตร่ตรองนั่นเสื้อคลุมมังกร คนผู้นี้ไม่ทราบว่าเป็นใครกัน”ตู้กังกับเจียงหยา ทรุดกายลงคุกเข่า“เสื้อคลุมมังกรแล้วอย่างไร” ยิ้มทั้งสีหน้าและแววตา เจียจิว มองหลงตี้ตาไม่กะพริบ ก้มลงแนบใบหูกับอกข้างซ้ายประสานมือกดไปที่ช่องออกทำซีพีอาร์ ก้มลงแนบหูกับออกก่อนจะกดริมฝีปากกับปากบางเป่าลมหายใจเข้าไปช่วยชีวิต ชลชลอย่างสุดกำลัง“แค่กๆๆๆ อ่อกกๆๆ ”ร่างของชลชลสะท้อนขึ้นมาข้างบน สำลักน้ำออกมาจากลำคอลืมตาขึ้น พร้อมกับรอยยิ้ม“ฝ่าบาท” หลงตี้กอดซบชลชลไว้ในอ้อมแขน น้ำตาไหลรินไม่อายสายตาของคนทั้งหมดที่อยู่ตรงนั้น“ข้าคิดถึงเจ้า ข้าคิดถึงเจ้าที่สุด แล้วสวรรค์ก็เมตตาส่งเจ้ามาพบกับข้าอีกครั้ง”ชลชล อมยิ้มช่าง โชคดีเหลือเกินว่าแต่ ไอ้หมอนั่นคนที่ชนชลชลจนตกสะพานนั่นมา มัน ใต้เท้าหลัวชัดๆแต่เป้นสมัยหนุ่มๆ“บ็อกๆๆๆๆ ”เสียง ลุกหมาตัวน้อยเห่าขู่คนทั้งหมด หลงตี้หันไปมองสุนัขตัวน้อยก่อนจะส่งเสียงหัวเราะขึ้นพร้อมกันกับชลชล“ฝ่าบาทว่าแต่ เจ้าตัวน้อยเป็นหมาของใคร”“ข้ายกให
เฉิงตูโลกปัจจุบัน ชลสอดมือลงไปในกระเป๋ากางเกง เดินทอดน่องมองทิวทัศน์รอบๆ ที่แสนจะงดงามของเมืองเฉิงตู บางอย่างของเฉิงตู รูู้สึกคุ้นเคยเสียจริงชลชลอมยิ้มนี่เขาเป็นเอามาก เห็นได้ชัดว่าเป็นแค่ฝันไม่ได้เป็นความจริงเสียหน่อยคนบ้าที่ไหนจะย้อนเวลาได้มีเฉพาะในนิยายเท่านั้น แล้วยังย้อนเวลาไปเป็นหมาอีกเสียงไกด์นำเที่ยวส่งเสียงเจื้อยแจ้ว ไทยกับจีนปนกันไปมา ชลชลพอจะฟังออกบางคำบางคำก้ผสมปนเปกันมั่วไปหมดสวนสวย ด้านข้างกับรูปแกะสลักสุนัขพันธ์ุเชาเชา ชลชลอดที่จะเดินไปที่นั่นไม่ได้แหงนหน้ามองรูปสลักก่อนจะยิ้ม ใครช่างทำ เหมือนของจริงเปี๊ยบเลยหยุดยืนอยู่นานสองนานก่อนจะทอดสายตาออกไปสะพาน สูงที่งดงามจนไม่อาจละสายตาชลชลก้าวขาขึ้นไปบนสะพาน“เดี๋ยวก่อน คุณจะไปไหน”เสียงหญิงชาวจีนคนหนึ่ง ตวาดแวดใส่สามีหรือคู่รักไม่อาจทราบได้ ชลชลก็แค่เหลือบตามองไม่ทันได้เห็นใบหน้าของคนผู้ชายที่ยืนหันหลัง“ผมเบื่อแล้ว แม้แต่ตอนมาเที่ยวคุณยังหาเรื่องทะเลาะกับผม”“คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ”ยังตวาดไม่เลิกไม่อายสายตาใคร“ใครบอกไม่ได้ ผมบอกว่าได้ก็ได้สิ”ก้าวขาจากไป หญิงชาวจีน กระชากแขนสุดแรงก่อนที่ร่างสูงของอีกคนจะเซถลาชนเข้ากับร่างส
โลกปัจจุบัน“พี่ชล พี่ปานระพีมาเยี่ยม พี่”ธารธาร เดินเข้ามากอดอกที่หน้าประตูด้วยใบหน้า เบื่อหน่ายเต็มกำลัง“เชิญพี่เขาเข้ามา”“แต่พี่เขามากับ...ใครอีกคน”“เชิญเขาเข้ามา พี่ไม่ได้อะไรกับเขาแล้ว”ธารธารถอนหายใจ หันหลังเดินออกจากห้องไป“ชลเป็นอย่างไรบ้าง หายหรือยัง”น้ำเสียงห่วงใย ชลชลยิ้ม“พี่ปานระพีเล่าสบายดีไหม”“ก็ต้องสบายดิ ไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อย พี่มีใครจะแนะนำ”ชลชลกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ แม้จะทำใจไว้แล้วแต่ก้อดที่จะใจสั่น ไหววูบคล้ายจะเป็นลมเสียไม่ได้“นี่ ปัญยภัทร...เขาเป็น...อืมเราสองคนกำลังคบกันปัญยพัทรเขาย้ายเข้าไปอยู่ในคอนโดของพี่”พูดรัวเร็ว ชลชลยิ้มบางๆ กับใบหน้าที่คุ้นตาของหลงต่าชินอ๋องใน นามปัญยพัทร“ยินดีที่รู้จัก “อีกคนยิ้มเจื่อนๆ“ชลไม่โกรธพี่นะ”“ม่ายยย ไม่ โกรธจะโกรธเรื่องอะไรพี่สบายดีก็ดีแล้วมีความสุขก็ดีแล้วอีกอย่าง ชลก็ว่าเขา เป็นคนดีนะ”“ชลรู้ได้อย่างไร”“อ่อ เอิ่ม คือ ไม่สิ รู้สึกว่าถูกชะตากับน้องเขา”“อืม พี่ กลัวว่าชลจะโกรธแต่ได้ยินแบบนี้ ก็โล่งใจ”ปัญยภัทรยิ้ม แห้งๆ“ไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไรแล้วตอนนี้ ชลเองก็ ...กำลังมองหาใครสักคนเหมือนกัน”“อืมไม่มีอะไรแล้วพี่กลับก่อน
จวนเสนาบดี“555สำเร็จสำเร็จไปขั้นหนึ่ง ของมีค่าเหล่านั้นข้าชนออกมาจนสิ้น สับเปลี่ยนบ้างหยิบฉวยออกมาเฉยๆ บ้าง เจ้าหน้าโง่ จ้านกงก็ไม่มีทางต่อกรกับข้า ฝ่าบาทก็เอาแต่เศร้าโศกเสียใจเรื่อง หมาป่วย แบบนี้อีกไม่นาน บีบให้สละบัลลังก์เสียก้ไม่ยาก หรือจะส่งมือสังหารอีกที”คนสนิทยิ้มกริ่ม“ใต้เท้า สิ่งของมีค่าควรเมืองเหล่านั้นมาอยู่ที่นี่หมดแล้ว ใต้เท้าจะไม่เชยชมมันหน่อยหรือไร”สอพลอ ใต้เท้าหลัวยิ้ม ก่อนจะก้าวขาไปเปิด หีบห่อของสิ่งของมีค่าเหล่านั้นที่สับเปลี่ยนหยิบฉวยมา“ข้านี้สุดแสนจะ ภูมิใจ”อ้าปากค้างเมื่อเห็นสิ่งของ ในนั้นว่าไม่ใช่สิ่งของมีค่าอย่างที่ควรจะเป็น ปาสิ่งของในมือลงบนพื้นแตกกระจาย กำมัดแน่นด้วยความรู้สึกเจ็บแค้นอย่างที่สุดก่อนหน้านั้น“ฝ่าบาทก็แค่ สับเปลี่ยนของพวกนั้นเสียเชื่อว่าไม่นานใต้เท้าหลัวจะต้องส่งคนมาชิงของพวกนั้นคืนไปหรือดีหน่อยอาจหาทางยักยอกหรือสับเปลี่ยนอย่างนั้นไม่สู้เราสับเปลี่ยนเสียก่อน”ชลชลนั่งอธิบายแผนการให้หลงตี้ฟังก่อนวันที่จ้านกงจะมาขอรับผิดชอบสิ่งของมีค่าควรเมืองเหล่านั้น“เจ้าเชื่อว่าข้าจะต้องมาชิงเอาของไปอย่างนั้นหรือ”“ของที่กำลังจะเป็นของเขา ฝ่าบาท คิดว่าเขา
วังหลวงภพอดีต"ท่านหมอ เสี่ยวเปาเป็นอย่างไรบ้าง""ฝ่าบาทพระอาญาไม่พ้นเกล้า อาการของใต้เท้าเสี่ยวเปาสาหัสยิ่งนัก ข้าน้อยเกรงว่า..."ตู้กังปาดน้ำตา"ทำอย่างไรจึงจะช่วยเจ้าหมาตัวนี้ได้""ฝ่าบาทลูกดอกทำลายหัวใจ ข้าน้อยไม่แน่ใจว่าจะฟื้นฟูมันกลับขึ้นมาได้""ข้าควรทำเช่นไร""ฝ่าบาท มีทางเดียวจำต้องป่าวประกาศออกไปหาคนที่มีความถนัดด้านสรีระและการรักษาสัตว์โดยเฉพาะ""ตู้กังป่าวประกาศออกไปทั่วแคว้นใครสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของเสี่ยวเปาให้ดีขึ้นมาได้ข้าจะปูนบำเหน็จให้อย่างงาม""ฝ่าบาท นั่นแค่หมาทำไมต้องทุ่มเทเพียงนี้"จ้านกงก้าวขาเข้ามาข้างในตู้กังกับหมอหลวงจากไปหลงตี้กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น"เสี่ยวเปาไม่ใช่แค่หมา เสี่ยวเปาคือทุกอย่างของข้า""ฝ่าบาท เลิกคิดว่าเจ้าหมานั่นเป็นทุกอย่างได้แล้วเราคือมนุษย์พวกมันก็แค่สัตว์เลี้ยงหย่อนใจ""ไม่ไม่ จ้านกงท่านเลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้วนอกจากเสี่ยวเปา ข้าไม่ต้องการสิ่งใด”จ้านกงกอดรวบลำตัวของหลงตี้ไว้แน่น“ฝ่าบาท ฝ่าบาทลืมเลือนความสัมพันธ์ของเราแล้วหรือ ฝ่าบาทลืมจ้านกงแล้วหรือ ฝ่าบาทลืมรสจูบของจ้านกงแล้วหรือ”หลงตี้ดิ้นรนออกจากอ้อมแขนของจ้านกง จ้านกงพลิกร่างของ
จวนเสนาบดีของใต้เท้าหลัว"พลาดย่างนั้นหรือข้าให้เจ้าสังหารหลงตี้แต่พลาดไปโดนเจ้าหมาโง่นั่นได้อย่างไร""ใต้เท้าเจ้าหมานั่น รู้ได้ทันทีว่าข้ากำลังเล็งธนูไปที่ฝ่าบาท""อืม ไม่น่าเชื่อเจ้าหมานั่นจะฉลาดเพียงนั้น""ใต้เท้า"จ้านกงประสานมือ"มีเรื่องใด"โบกมือให้มือสังหารออกไปก่อนกลัวว่าความลับเรื่องส่งมือสังหารสังหารหลงตี้จะสร้างความไม่พอใจให้กับจ้านกงเขาประเมินจ้านกงต่ำไป"ของสำคัญใต้เท้าจ้านกงนำมันมาเก็บไว้ที่จวนแม่ทัพเรียบร้อยแล้วใต้เท้าส่งของเลียนแบบไปสับเปลี่ยนได้เต็มที่ระหว่างนี้ทยอยนำออกมาเสีย""555ไม่น่าเชื่อ ท่านแม่ทัพช่างทำงานได้รวดเร็วเพียงนี้""แล้วเรื่องที่ข้าไหว้วานใต้เท้า"ยิ้มมุมปาก"ข้า ส่งคนลอบสังหารทว่ากลับเป็นเจ้าหมาโง่นั่นที่รับลูกดอกแทน""เจ้าหมาโง่555สมน้ำหน้ายิ่งนัก อยากเห็นเหลือเกินว่าที่นี่จะเห่าหอนอย่างไร""เป็นเรื่องดีใช่หรือไม่""เป็นเรื่องดีที่สุดเจ้าหมานั่นสมควรตายอย่างที่สุดส่วนคนผู้นั้นไว้ข้านั่งบนบัลลังก์จึงค่อยกำจัดเขายังไม่สาย"ใต้เท้าหลัวยิ้มมุมปาก"ข้าจะทยอยส่งของเข้าไปสับเปลี่ยนเสียทั้งหมดในเร็ววัน วันนี้พบเจอเรื่องดี เด็กๆ นำสุราอาหารมาฉลองมิตรภาพของข้ากับ
ศาลาริมน้ำชายามบ่ายกับขนม ชลชลนั่งลิ้นห้อยมองคนนู่นที่คนนี้ที"พี่ใหญ่ ท่าคิดว่าท่านแม่ทัพจ้านกงเป็นอย่างไรบ้าง"หลงตี้เลิกคิ้วสูง"เจ้าเล่าคิดว่าเขาเป็นคนอย่างไร"เจียจิวเขินอาย"ขะ ข้าคิดว่า...""ฝ่าบาท วันนี้จ้านกงแวะมาดื่มชายามบ่ายพูดคุยเรื่องราชสำนัก"มาขัดจังหวะได้พอเหมาะพอเจาะ"อืม เราสองพี่น้องพูดถึงท่านอยู่พอดี"เลิกคิ้วสูงยิ้มอย่างที่คิดว่าดูดีที่สุด"พูดถึงข้า โอ้ดีใจเสียจริงทั้งสองคนพูดถึงจ้านกง"ประสานมือตรงหน้าด้วยท่าทีองอาจ"อ๊วกก...ตอแหล"ชลชลเผลอหลุดปาก"เสียงอะไร"จ้านกงขมวดคิ้ว"บรู้ๆๆๆๆๆๆๆๆ "หอนเสียเลย จะอ๊วก"เสี่ยวเปาเงียบหน่อย"หลงตี้เตือนเบาๆ ชลชลขยับตัวเดินออกจากศาลาอยากเสือกแต่ ไม่อยากเห็นหน้าจ้านกง"ฝ่าบาทเรื่อง ของมีค่าเหล่านั้นจ้านกงกำลังคิดว่า เอามาเก็บรวบรวมไว้ที่จวนแม่ทัพของข้า จนกว่าจะไต่สวนหาคนผิด""ทำไมต้องเอาไปไว้ที่นั่นมีสิ่งใดสำคัญ""จ้านกงคิดว่า ที่จวนแม่ทัพปลอดภัยที่สุด""อืม ช่างตรงใจข้า อีกสองวันให้เจียงหยาและพวกลำเลียงของพวกนั้นไปไว้ที่จวนแม่ทัพเสีย"จ้านกงยิ้มมุมปาก"น้อมบัญชาฝ่าบาท จ้านกงจะดูแลของเหล่านั้นให้ดีที่สุด"หลงตี้ยิ้มบางๆ เจียจิวก้มหน้าเขิ
จวนหลงต๋าชินอ๋อง"วันนี้ข้าสุขสมยิ่งนัก บอกไปใครจะเชื่อชินอ๋องทำข้าอิ่มเอมกว่าใคร กดเอวหนาลงบนเอวของชินอ๋องกระแทกอย่างแรง ร่างชินอ๋องสะท้อนตามแรงกระแทกวัวเคยขาม้าเคยขี้ รับรุกสอดคล้องเหมาะเจาะพอดี"อ่า...ซี๊ดท่านแม่ทัพท่าน...จงใจจะให้ข้าตายหรือไรรสสวาทท่านเร่าร้อนเพียงนี้เกรงว่าพรุ่งนี้ข้าคงเดินไม่ไหว""เจ้าทำให้ข้าสุขสม ร่างกายของเจ้าทำข้าสุขสมไม่อาจปล่อยผ่านคืนนี้คงต้องทั้งคืนเป็นแน่ข้าอดอยากมานานคิดถึงชินอ๋องรูปงามมานาน""กลัวแต่ว่าพอได้ครองบัลลังก์อยู่ข้างกายพี่ใหญ่หลงตี้ท่านจะลืมข้าเสียสิ้น""หลงตี้จนป่านนี้ยังเล่นตัว ข้าหาได้เชยชมเขาไม่อีกอย่างเจ้าหมานั่นยังนอนร่วมแท่นนอนด้วยข้าล้วนหมดโอกาส""ข้าจึงต้องขอบใจเสี่ยวเปาที่ทำให้ท่าคิดถึงข้า"จ้านกงกระแทกเอวลงถี่ๆ"เอาอีกท่านแม่ทัพเอาอีกอย่าหยุดซี๊ดอ่า...ข้าใจจะขาดแล้วซี๊ดดดด"บทรักที่ปรนเปรอให้กันและกัน ทำเอาทั้งสองหมดเรี่ยวแรงนอนคอพับไปด้วยความอ่อนเพลียจ้านกงเอามืก่ายหน้าผาก หลงตี้กับบุรุษร่างเปลือยคนนั้น ถึงขั้นไหนกันแล้วรสสวาทชินอ๋องแม่จะถึงลูกถึงคน แต่หลงตี้น่าจะหวานละมุนยิ่งกว่าพลิกตัวอ้าปากรูดอมมังกรของชินอ๋องอีกครั้งให้ชูชัน"
“ลองใจคนเช่นจ้านกงจะต้องแลกด้วยความรู้สึกเจ็บปวด”พูดด้วยความมั่นใจ ชลชลรู้ดีว่าจ้านกงมีหลายอย่างที่หลงตี้ไม่รู้ในยามลับหลังหลงตี้ เขาปฏิบัติตัว อย่างไรบ้างทั้งกับเจียจิว และ กับเสี่ยวเปา ชลชลไม่แน่ใจว่าหลงตี้จะรู้เรื่องนี้ไหม“ข้าต้องเผื่อใจใช่ไหม ก่อนหน้านั้นจ้านกงดีกับข้ากว่าใครตอนนี้ข้าไม่แน่ใจว่าเป็นข้าหรือเขาที่เปลี่ยนไป”ทอดอาลัยในน้ำเสียง“นั่นสิเป็นข้าหรือเขาที่เปลี่ยนไปชลชลโยงเข้าหาเรื่องของตัวเอง ก็ในเมื่อตอนนี้เริ่มคิดถึงเรื่องของปานระพีที่ ทำเรื่องเลวร้ายให้จดจำ“เจ้าหมายความว่าอย่างไร”“การลืมใครสักคนช่างยากเย็นยิ่งนัก”ชลชลนั่งหันหลังพิงแผ่นหลังกว้างของหลงตี้“เจ้าต้องลืมใครกัน เป็นสุนัขจะต้องลืมใคร”“จะบ้าหรือก่อนที่จะมานี่ข้าเคยเป็นคนมาก่อนแล้วถูกคนผู้หนึ่งนอกใจ ไม่รู้สวรรค์หรือนรกส่งข้าให้มาที่นี่ อือน่าจะเป็นนรกมากกว่าเพราะส่งข้ามาในร่างหมาแต่ก็นะหมาก็หมาฮ่องเต้ค่อยยังชั่วหน่อย”หลงตี้หันหน้ามาจ้องตาคม"คนผู้นั้นเป็นใคร"น้ำเสียงคาดคั้น จ้องตากลมโต"อยากจะรู้ไปทำไมอ่า ก็ในเมื่อ คนผู้นั้นไม่ได้อยู่ภพนี้เสียหน่อย""ไม่ได้เจ้าเป็นของข้าและเป็นของข้าคนเดียวห้ามคิดถึงผู้อื่น"