Share

บทที่ 3 การกลับมาของฮุ่ยเจียง 1/3

last update Huling Na-update: 2025-02-05 21:09:50

ฮุ่ยเจียงย่อกายทำความเคารพบุคคลทั้งสามจากนั้นก็เดินเข้าไปหาท่านพ่อที่กำลังวางตำราลงโดยมีฮุ่ยหลินเข้ามานั่งบนหัวเข่าแล้วหยิบขนมบนจานขึ้นมากัดกินอย่างเอร็ดอร่อย ฮุ่ยเจียงสอดแขนไปรอบเอวของบิดาใบหน้าเล็กก้มงุดลงไปที่หน้าอกดวงตาหลับพริ้มซึมซับความรู้สึกคิดถึงท่ามกลางความแปลกใจของทั้งสามคน

"เจียงเอ๋อร์ลูกพ่อเจ้าเป็นอันใดรึ เจ็บป่วยยังไม่หายใช่หรือไม่" กล่าวจบฮุ่ยหมิ่นก็ยกมือขึ้นแตกหน้าผากเช็กอาการบุตรสาวด้วยความเป็นห่วงเพราะปกตินางไม่ค่อยอ้อนนอกจากตอนยามเจ็บไข้ได้ป่วย

"ลูกสบายดีเจ้าค่ะแต่เมื่อคืนลูกเพียงแค่ฝันร้าย" ฮุยเจียงยิ้มให้บิดาแล้วผละออกหลังจากกอดจนพอใจ นางเดินเข้าไปหามารดาที่มองด้วยสายตาอบอุ่นร่างเล็กโถมเข้าหามารดาซบลงบนอกอุ่นด้วยความคิดถึง ดวงตาของนางร้อนผ่าวจนเกือบจะไหลทำให้นางต้องกะพริบตาปริบ ๆ ไม่ปล่อยให้มันไหลออกมาเกรงว่าจะทำให้มารดาเป็นห่วง

"เจ้าเด็กคนนี้อ้อนเป็นน้องสาวเจ้าไปได้" ซูลี่ลูบศีรษะเล็ก ๆ ของบุตรสาวที่กำลังอ้อนราวกับเด็กน้อยใบหน้ายังคงส่งรอยยิ้มอบอุ่น ซึ่งเป็นใบหน้าที่ฮุ่ยเจียงเห็นจนชินตา สายตาของมารดาที่มองมาที่นางนั้นเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใยไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ความรักของแม่นั้นไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

"ก็ข้ารักท่านแม่นี่เจ้าคะ" ฮุ่ยเจียงตอบมารดาด้วยน้ำเสียงติดสั่น

"ข้ารู้ ๆ เอ้ายังเหลืออีกคนหนึ่งแม่เจ้าน้อยใจแล้วกระมัง" ฮุ่ยเจียงผละจากอกมารดาก่อนจะจู่โจมไปที่แม่รองอ้อมกอดของนางรัดแน่น ไม่ต่างจากที่กอดกับมารดาผู้ให้กำเนิด

"แม่รองท่านอย่าน้อยใจไปข้าเองก็รักท่านเหมือนกัน นี่แหนะ...ข้ารักแม่รองนะเจ้าคะ " นางพูดพร้อมกับยื่นนิ้วเล็ก ๆ ไปที่เอวซึ่งเป็นจุดอ่อนของแม่รองด้วยความขี้เล่น

"คิก คิก คุณหนู ไม่นะไม่เล่นแบบนี้"

"เมื่อกี้แม่รอง เรียกข้าว่ายังไงนะเจ้าคะ" เสียงเด็กสาวเข้มขึ้นดวงตาเรียวหรี่ลงนิ้วเล็ก ๆ ยังจ่ออยู่ที่เอวของนาง

เย่วซินที่เผลอเรียกว่าคุณหนูก็เบิกตาโพลงนางรีบบิดตัวหนีนิ้วเล็ก ๆ ของเด็กสาวตรงหน้าเพราะใครต่างก็รู้ว่านางและบุตรสาวเป็นคนบ้าจี้เพียงใดและนั่นยังเป็นสิ่งที่ลูกเลี้ยงที่นางรักไม่ต่างกับบุตรสาวในไส้ชอบแกล้งนาง ทำให้ตอนนี้นางได้แต่หัวเราะน้ำตาไหลพร้อมกับพูดละล่ำละลักแก้ตัวพัลวันทั้งยังส่งเสียงหัวเราะออกมาไม่หยุด

"แม่รองเพียงเผอเรอไปเท่านั้นลูกอย่าถือสา คิก คิก เจ้าปล่อยแม่รองด้วย โปรดไว้ชีวิตข้าสักครา" เสียงหัวเราะพร้อมกับร้องขอทำเอาสองสามีภรรยากับเด็กน้อยอีกสองคนมองและยิ้มตามแต่ไม่มีใครสักคนยื่นมือเข้ามาช่วยแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงที่กำลังจะฆ่ากันตายด้วยเสียงหัวเราะ

"ไม่เจ้าค่ะวันนี้แม่รองต้องตายด้วยน้ำมือของข้า ฮ่า ฮ่า ฮ่า นี่แหนะ ๆ ๆ " ฮุ่ยเจียงที่รักแม่รองไม่น้อยกว่าแม่แท้ ๆ และยังชอบจี้เอวเพราะแม่รองหัวเราะได้อร่อยนัก

"ท่านพี่ พี่หญิงช่วยข้าด้วยลูกท่านจะฆ่าข้าแล้ว คิก คิก " เย่วซินร้องขอความช่วยเหลือจากสามีและฮูหยินรองทั้งยังส่งเสียงหัวเราะไม่หยุด

"ลูกข้าที่ไหนกัน นางลูกเจ้าชัด ๆ มีที่ไหนหัวเราะกันจนลั่นจวนแบบนี้ ลูกข้าอยู่นั่นต่างหาก ฮุ่ยหลินมาหาแม่ใหญ่มา.. แม่ใหญ่จะป้อนขนมให้ นี่แม่ใหญ่ให้คนซื้อขนมที่เจ้าชอบมาเลยนะ" ฮูหยินใหญ่พูดขึ้นพร้อมกับหยิบถังหูลู่ที่ถูกบรรจุใส่กล่องอย่างดีที่ให้คนไปรับที่ร้านมา เพื่อฮุ่ยหลินโดยเฉพาะที่พูดว่านางเป็นลูกอีกคนนั้นไม่เกินจริงเพราะนางรักลูกทุกคนที่เกิดมาจากสามีที่นางรักรวมถึงภรรยารองของสามีนางเองก็รักไม่ต่างจากน้องสาวอาจเป็นเพราะความเอ็นดูตั้งแต่ครั้งแรกที่พบจะกล่าวว่าถูกชะตาก็ไม่ผิดนัก เย่วซินนั้นเป็นคนเจียมเนื้อเจียมตัวและเคารพนางด้วยใจจริงและเป็นอย่างนั้นอย่างเสมอต้นเสมอปลายไม่ใช่แค่สามีที่เย่วซินดูแลเป็นอย่างดี นางเองก็ได้รับการดูแลจากเย่วซินอย่างดีเช่นกัน

ในตอนที่พบกับเย่วซินครั้งแรกนั้น นางและสามีได้ไปเยี่ยมญาติที่ต่างเมืองระหว่างทางกลับเจอเข้ากับเย่วซินที่กำลังนั่งร้องไห้ ดูแล้วน่าเวทนาข้างกายมีศพของผู้เป็นบิดานอนอยู่อย่างอนาถ

ในตอนนั้นนางพึ่งอายุเพียงสิบสี่ปีเท่านั้นผู้คนที่มามุงดูต่างก็พากันสงสารแต่ก็ไม่มีใครเข้าไปช่วยเหลือ ด้วยความที่นางเป็นคนมีจิตใจเมตตาจึงเข้าไปถามไถ่ถึงได้รู้ว่าทั้งสองคนเดินทางมาจากต่างแคว้นเพื่อมาหางานทำ แต่เพราะบิดาที่อายุมากหลังจากตรากตรำเดินทางอย่างยาวนานร่างกายอ่อนล้าและด้วยโรคชราทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา นางรู้สึกได้ถึงความกลัวและชีวิตที่โดดเดี่ยวของเย่วซิน จึงขออนุญาตสามีพาเย่วซินกลับมาด้วย

สามปีผ่านไปเย่วซินก็เติบโตตามวัยในตอนนั้นนางเองก็กำลังท้องฮุ่ยเจียงและเห็นว่าสามีนั้นต้องห่างหายเรื่องของสามีภรรยา

ตอนนั้นสามีของนางเองก็เพิ่งเข้าสู่วัยฉกรรจ์ดังนั้นความต้องการย่อมมีมากแน่นอน แต่เพราะสามียังคงรักนางจึงมิได้ปรายตามองหญิงใดขนาดเย่วซินสวยงามไม่แพ้กับลูกคุณหนูในเมืองสามียังมิชายตาคอยเว้นระยะห่างเรื่อยมา เย่วซินเองก็ไม่ได้คิดจะปีนเตียงสามีของนางและอยู่อย่างคนรับใช้คอยรับใช้นางไม่ห่างกาย

แต่เพราะนางสงสารสามีและต้องการหาคนมาแบ่งเบาจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคนสนิทข้างกาย ถึงจะใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่นานแต่ทุกอย่างก็ราบรื่นดี แต่กับสามีของนางนั้นการเจรจาไม่ราบรื่นเท่าไรนัก

จนนางต้องขอร้อง สามีจึงทำตามความต้องการของนางและหลังจากนั้นการแต่งเข้าจวนของฮูหยินรองก็ถูกจัดขึ้น ผ่านมาแล้วยี่สิบห้าปีครอบครัวของเราก็ยังอยู่เย็นเป็นสุข

ซูลี่ป้อนขนมฮุ่ยหลินด้วยความอ่อนโยนน้ำเสียงที่เรียกนางก็ฟังดูนุ่มระรื่นหู

"ขอบคุณเจ้าค่ะแม่ใหญ่ข้ารักท่านที่สุดเลยเจ้าค่ะ" เด็กน้อยรู้ความรู้จักอ้อนเอาใจและรู้ว่าท่านพ่อแม่ใหญ่และท่านแม่รวมถึงพี่ชายใหญ่และพี่สาวรักนางทุกคน ฮุ่ยหลินเป็นเด็กร่าเริงสดใสคิดสิ่งใดก็พูดสิ่งนั้นจึงไม่มีใครไม่เอ็นดูเพราะถูกเลี้ยงมาอย่างดีทั้งตอนนี้ยังอ้อนแม่ใหญ่หยิบขนมป้อนให้นางอีกด้วย

"นี่เจ้าค่ะแม่ใหญ่ ลูกป้อนท่านบ้างนะเจ้าคะ" เด็กน้อยเอาใจใบหน้ากลมส่งยิ้มจนตาหยี

ส่วนสองคนแม่ลูกที่เมื่อกี้ยังหัวเราะร่า ตอนนี้ต่างก็นั่งมองสตรีต่างวัย ที่ต่างเอาอกเอาใจกันไม่หยุดพลางหันมามองหน้าแล้วพูดออกมาพร้อมกัน "แม่รองโดนทิ้งแล้ว//เจ้าโดนทิ้งแล้ว" เสียงที่ดังก้องทำให้ฮุ่ยหมิ่นให้ไปมองแล้วส่ายหัว ก่อนจะหันมากวักมือเรียกลูกชายที่กำลังนั่งยิ้มเข้ามาใกล้ ๆ

"เจ้ามาอ่านตำราให้ข้าฟังดีกว่า" ฮุ่ยเฉิงก้มหน้ารับแล้วเดินมาหาบิดานั่งข้าง ๆ อย่างเชื่อฟัง

"ขอรับท่านพ่อ"

...

ฮุ่ยเจียงขึ้นมานั่งบนรถม้าหลังจากที่ขออนุญาตท่านพ่อท่านแม่เพื่อจะไปไหว้พระที่วัด มือบางตวัดผ้าม่านขึ้นแล้วมองไปที่เรือนฮุ่ยหลันอีกครั้งยามที่เห็นท่านพ่อท่านแม่และแม่รองหัวเราะและส่งยิ้มให้กันอย่างมีความสุขรวมถึงน้อง ๆ ที่นั่งเล่นกันไม่ห่างนางก็ยิ้มตามอย่างมีความสุข มือบางปล่อยผ้าม่านลงพลางคิดว่านี่กระมังที่เป็นเหตุให้นางมองคนอื่นในแง่ดีตามไปด้วย เพราะครอบครัวของนางสมานฉันท์อยู่ร่วมกันได้เป็นอย่างดีในตอนที่สหายนางเข้ามาขอร้องนางให้ช่วยเหลือนางจึงไม่อาจตัดเยื่อใยได้เพราะคิดว่ายังไงก็เป็นสหายกันมานาน

ด้วยความคิดที่น้อยไปในหัวสมองน้อย ๆ ของนางเพียงแค่คิดว่าขนาดท่านแม่ยังพาแม่รองเข้าจวนและยังให้เป็นฮูหยินรองอยู่ร่วมกันอย่างรักใคร่กลมเกลียวกันได้แล้วเหตุใดสหายของนางที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กจะอยู่ร่วมกันไม่ได้ ในยามที่สหายเดือดร้อนนางจึงช่วยเหลืออย่างดีที่สุดแต่ใครจะคิดว่าการช่วยเหลือในครั้งนั้นเป็นการชักนำความเดือดร้อนมาให้ สหายรักปีนเตียงสามีนางยังพอทำใจได้

แต่การที่พวกมันร่วมมือกันใส่ร้ายครอบครัวของนางว่าก่อกบฏจนถูกประหารนี่สิ! นางยอมไม่ได้...

นี่สินะความโง่งมของนางในชาติที่แล้วเพราะคิดว่านางดีต่อใครคนนั้นก็จะดีตอบแต่นางคงลืมคิดไปว่าคนทุกคนไม่ได้จะเป็นเหมือนท่านแม่และแม่รอง

ความแค้นต่อพวกเจ้าในชาติที่แล้วข้าจะไม่มีวันลืม!

Kaugnay na kabanata

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 4 การกลับมาของฮุ่ยเจียง 1/4

    รถม้าประทับตราสกุลฮุ่ยของราชครูเข้ามาจอดอยู่ที่เชิงเขาทางขึ้นวัดเสวียนคง วัดที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาดูเป็นสถานที่ที่เงียบสงบ หลังจากลงรถม้าฮุ่ยเจียงกับสาวใช้ก็เดินขึ้นบันไดที่มีซุ้มต้นไผ่ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เรียงรายขนาบสองข้างทาง มันสูงจนปลายต้นโน้มเอียงเข้าหากันจนกลายเป็นอุโมงค์ต้นไผ่สร้างความร่มรื่นสวยงามฮุ่ยเจียงสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ สูดหายใจเข้าเต็มปอด ดวงหน้างดงามเผยรอยยิ้มสดใส ยามที่สายลมอ่อน ๆ โชยพัดมาปะทะร่างของนาง ช่างสดชื่นนัก! ความรู้สึกสดชื่นที่แทรกซึมเข้ามาในจิตใจทำให้นางมีความสุขอย่างแท้จริง ท้องฟ้าสีฟ้าใสและต้นไม้ที่พลิ้วไหวไปตามลม ความสงบเงียบของธรรมชาติช่วยปลอบประโลมจิตใจนางจากความทุกข์ทรมานจากชาติที่แล้ว สาวใช้ที่ติดตามมาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม เจียอีมองคุณหนูที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาฮุ่ยเจียงยิ้มอย่างสดใส ขณะสายลมพัดโชยพาให้ผมยาวสลวยของนางพลิ้วไหว ดวงตาของนางเป็นประกายสดใส ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านแมกไม้ลงมาราวกับเทพธิดาจากสรวงสวรรค์ เจียอีอดไม่ได้ที่จะชื่นชมจากใจจริง“คุณหนู ท่านช่างงดงามเหลือเกินเจ้าค่ะ” ฮุ่ยเจียงหันมายิ้มให้สาวใช้ “เจียอี เจ้าไม่รู้หรอก

    Huling Na-update : 2025-02-05
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 5 พบกันครานี้ข้าจะไม่ปล่อยเจ้า 1/1

    เสียงพูดด้วยความตื่นเต้นดีใจพลางหันไปหาสาวใช้หวังว่าจะได้รับคำชื่นชมแต่ไม่คิดว่าในมือของสาวใช้ตอนนี้จะมีปลาเหมือนกันแต่ต่างกันที่ปลาในมือของสาวใช้นั้น ตัวใหญ่กว่าตัวที่นางจับได้เป็นเท่าตัว ดวงตาของฮุ่ยเจียงเบิกกว้างก่อนจะตะโกนถามสาวใช้ด้วยความตื่นเต้น"เจียอี เหตุใดเจ้าจึงจับได้ตัวใหญ่กว่าข้านักเล่า! ข้าไม่ยอมเจ้าแน่ นี่เจ้าปลาน้อยเจ้าจะไปไหนก็ไปเลย..ข้าจะจับตัวพ่อไม่ใช่ลูกปลาตัวน้อยแบบเจ้าสักหน่อย ชิ่ว ๆ ไปเลยนะ" ฮุ่ยเจียงที่เห็นว่าปลาที่อยู่ในมือสาวใช้ตัวใหญ่กว่าของนาง นางก็ยอมไม่ได้จึงปล่อยเจ้าปลาที่จับแล้วมองหาตัวใหญ่กว่า ส่วนเจียอีมองคุณหนูด้วยรอยยิ้มก่อนจะปล่อยปลาในมือตามไปอีกคนกลายเป็นว่าตอนนี้สองนายบ่าวพากันแข่งกันจับปลาการแข่งขันเต็มไปด้วยความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ ฮุ่ยเจียงแกล้งเจียอีด้วยการโยนหยดน้ำไปที่ตัว เจียอีหัวเราะและตอบโต้ด้วยการพยายามสาดน้ำกลับ ทั้งคู่สนุกกับการพยายามจับปลาและไม่ลืมที่จะหยอกล้อกัน เสียงหัวเราะและเสียงน้ำที่ดังกระจายยามที่พวกนางกระโจนจับปลากลายเป็นเสียงที่ไพเราะเสนาะหูต่อคนที่กำลังมองมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคิดถึงคะนึงหาอย่างถึงที่สุดอีกฟากหนึ

    Huling Na-update : 2025-02-05
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 6 พบกันครานี้ข้าจะไม่ปล่อยเจ้า1/2

    ชาติก่อนในยามสงครามศึกนอกยังไม่น่ากลัวเท่ากับศึกภายใน...สงครามที่ยืดเยื้อกินเวลานานทำให้พี่ชายของนางไม่สามารถเข้าไปช่วยนางได้ทัน พอรู้ข่าวว่าครอบครัวถูกใส่ร้ายก็เร่งเดินทางไปทันทีใครจะคิดว่ามันคือหนึ่งในแผนการที่ล้มล้างตระกูลพอไปถึงหน้าประตูเมืองฮุ่ยเหอก็ถูกจับกุมในทันทีใครจะคิดว่าทั้งตระกูลของนางจะถูกคนชั่วช้าเล่นงานจนดิ้นไม่หลุด ส่วนเขาที่ยังทำสงครามอยู่อีกแคว้นไม่ได้รู้ข่าวคราวเกี่ยวกับครอบครัวของสหายเลยด้วยซ้ำ พอมารู้อีกทีก็ตอนที่ทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตเหลือเพียงนางกับสาวใช้ที่ถูกขายไปเป็นทาส กว่าจะสืบสาวราวเรื่องได้ว่านางถูกพาไปที่ใดก็กินเวลาหลายวัน เขาควบม้าด้วยความเร่งรีบแม้อาหารสักมื้อก็ไม่พักรับประทานเพราะเกรงว่าจะไม่ทัน แต่ใครจะคิดว่านางนั้นถูกพามาทรมานแทนที่จะเป็นการส่งไปเป็นทาสตามที่ได้ยินมา ในตอนที่ไปถึงจุดที่นางอยู่ในตอนนั้นเป็นตอนที่นางกำลังจะทิ้งตัวลงบนผืนดินเหมือนกับไม่สามารถทนต่อไปได้เขาเร่งควบม้าอย่างไม่คิดชีวิตดวงตาคมเข้มสะท้อนความร้อนรนทอดมองร่างเล็กที่กำลังเอนลงบนผืนดินร้อนระอุสองมือก็ตวัดดาบบั่นคอคนที่บังอาจทำร้ายยอดดวงใจคมกระบี่ฟันฉับไปที่คนเหล่านั้นเพื่อแ

    Huling Na-update : 2025-02-05
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทนำ ปฐมบท

    เส้นทางสู่แคว้นฉี"นางทาสชั้นต่ำเดินช้าเช่นนี้คิดจะถ่วงเวลาพวกข้าอย่างนั้นรึ!!" ผู้คุมส่งเสียงตะโกนดังก้องด้วยโทสะเขาเดินเข้ามาหาทาสนางหนึ่งด้วยท่าทางคุกคามในมือของเขาถือแส้ที่ม้วนเป็นวงกลม ดวงตาฉายแววเหี้ยมโหดร่างเล็ก ๆ ของเจียอีคลานหนีด้วยความหวาดกลัว เขาเงื้อมมือขึ้นสูงแล้วฟาดแส้ลงมาอย่างหนักหน่วง"โอ๊ย!!" เสียงร้องของฮุ่ยเจียงที่วิ่งเข้ามากอดร่างบางของสาวใช้คนสนิทเอาไว้แน่น นางใช้แผ่นหลังของนางรองรับแส้ที่ฟาดลงมาความแรงของมันทำให้ร่างของนางทรุดลงทันทีนางกัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่นกลั้นเสียงร้องจากอาการเจ็บปวดแผ่นหลังของนางปริแตกเลือดไหลออกมาตามผิวเนื้อ ร่างเล็กผอมแห้งซูบเซียวประหนึ่งต้นหญ้าขาดน้ำแต่กลับแฝงไปด้วยความแข็งแกร่งนางพยายามปกป้องสาวใช้ของตนเองถึงแม้ว่าตอนนี้นางเองก็สภาพย่ำแย่ไม่ต่างกัน เสื้อผ้าที่นางใส่ตอนนี้ขาดเป็นริ้วไม่ต่างจากขอทานแต่ถึงแม้จะผ่านความเจ็บปวดเพียงใดแต่ฮุ่ยเจียงก็ยังอดทน มือที่อ่อนแรงและสั่นเทาโอบกอดสาวใช้คนสนิทเอาไว้"คุณหนู.." เจียอีสาวใช้ที่ติดตามมาตั้งแต่เล็กมองใบหน้าคุณหนูของนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสารอดีตบุตรสาวท่านราชครูหญิงสาวที่เคยงามพิล

    Huling Na-update : 2025-02-05
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 1 การกลับมาของฮุยเจียง 1/1

    ร่างสูงโอบกอดร่างที่ไร้วิญญาณเนิ่นนานความรู้สึกภายในใจรวดร้าวทรมานเจียนตายจากนั้นจึงลุกขึ้นอุ้มร่างของคนที่ตัวเองรักเดินผ่านทหารและองครักษ์ที่นั่งคุกเข่าลงแสดงความเคารพต่อผู้ที่จากไปด้วยฝีเท้าที่มั่นคงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน"คุณหนู คุณหนูเจ้าคะตื่นเถอะเจ้าค่ะ"เฮือกก!! ร่างเล็ก ๆ สะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นคนที่อยู่ตรงหน้า"เจียอี..เจ้ายังไม่ตาย" ฮุ่ยเจียงส่งเสียงร้องเรียกคนตรงหน้าด้วยความดีใจที่ได้เห็นหน้าสาวใช้คนสนิทอีกครั้งนางร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ นางยกมือปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหาสาวใช้ที่ทำหน้าเหลอหลา สองมือของฮุ่ยเจียงจับไหล่สาวใช้พลิกซ้ายพลิกขวาจนร่างเล็กของสาวใช้แทบจะหมุนเป็นลูกข่าง"เจ้ายังเจ็บอยู่หรือไม่แล้วนี่ผู้ใดมาช่วยพวกเรากัน เรารอดตายแล้วใช่หรือไม่ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าลูกข้า.." ฮุ่ยเจียงยื่นมือมาแตะที่หน้าท้องของตัวเองด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มลูกนางยังอยู่แต่พอสาวใช้พูดแย้งขึ้นทำเอาฮุ่ยเจียงถึงกับนิ่งค้างในหัวตอนนี้เต็มไปด้วยความสับสนส่วนสาวใช้ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวก็รีบพูดขัดขึ้นพร้อมจ้องมาที่ฮุ่ยเจียงด้วยสายตาสับสน"คุณหนูท่านเพิ่งจะเข้าสู

    Huling Na-update : 2025-02-05
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 2 การกลับมาของฮุยเจียง ½

    เรือนฮุ่ยหลันฮุ่ยเจียงเดินเข้ามาในเรือน พ่อบ้านก็เข้ามารายงาน "ท่านราชครูและฮูหยินกำลังรออยู่ในห้องโถงขอรับ" ฮุ่ยเจียงยิ้มบาง ๆ และพยักหน้ารับ เดินตามพ่อบ้านเข้าไปในห้องโถง"คุณหนูมาแล้วขอรับ" พ่อบ้านรายงานเสร็จก็เดินถอยหลังออกไป ทันใดนั้น เสียงใส ๆ ของเด็กสองคนก็ดังขึ้น"พี่รองมาแล้ว! พี่รองมาแล้ว!" เด็กสองคนวิ่งเข้ามาหาฮุ่ยเจียงด้วยความตื่นเต้น ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายสดใส ฮุ่ยเจียงย่อตัวลงอ้าแขนออกกว้างพร้อมรอยยิ้ม ร่างเล็กของเด็กทั้งสองคนวิ่งโถมนางจนเกือบล้มฮุ่ยเจียงที่รู้อยู่แล้วว่าการมาของนางจะต้องเจอกับเจ้าลูกลิงสองตัวที่โถมเข้ามาหานางอย่างเช่นตอนนี้ ในชาติก่อนนางตั้งรับไม่ทันทำให้นางล้มกลิ้งก้นจ้ำเบ้าลงบนพื้นแข็งจนดูน่าตลกในสายตาบ่าวไพร่ แต่วันนี้นางตั้งรับทัน "พี่รอง! พี่รอง!" เด็กชายและเด็กหญิงร้องเรียกพร้อมเสียงหัวเราะสดใส ฮุ่ยเจียงยิ้มพลางกอดพวกเขาเบา ๆ ดวงตาคู่สวยมองน้องชายและน้องสาวด้วยความรักและคิดถึง แม้น้องสาวจะเกิดจากแม่รองแต่ฮุ่ยเจียงก็มีความรักและห่วงใยน้อง ๆ เท่าเทียมกันส่วนมากนางจะใช้เวลาเล่นกับน้อง ๆ สอนคัดตัวอักษรตามที่บิดาเคยสอนและช่วยน้อง ๆ เรียนรู้สิ่งให

    Huling Na-update : 2025-02-05

Pinakabagong kabanata

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 6 พบกันครานี้ข้าจะไม่ปล่อยเจ้า1/2

    ชาติก่อนในยามสงครามศึกนอกยังไม่น่ากลัวเท่ากับศึกภายใน...สงครามที่ยืดเยื้อกินเวลานานทำให้พี่ชายของนางไม่สามารถเข้าไปช่วยนางได้ทัน พอรู้ข่าวว่าครอบครัวถูกใส่ร้ายก็เร่งเดินทางไปทันทีใครจะคิดว่ามันคือหนึ่งในแผนการที่ล้มล้างตระกูลพอไปถึงหน้าประตูเมืองฮุ่ยเหอก็ถูกจับกุมในทันทีใครจะคิดว่าทั้งตระกูลของนางจะถูกคนชั่วช้าเล่นงานจนดิ้นไม่หลุด ส่วนเขาที่ยังทำสงครามอยู่อีกแคว้นไม่ได้รู้ข่าวคราวเกี่ยวกับครอบครัวของสหายเลยด้วยซ้ำ พอมารู้อีกทีก็ตอนที่ทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตเหลือเพียงนางกับสาวใช้ที่ถูกขายไปเป็นทาส กว่าจะสืบสาวราวเรื่องได้ว่านางถูกพาไปที่ใดก็กินเวลาหลายวัน เขาควบม้าด้วยความเร่งรีบแม้อาหารสักมื้อก็ไม่พักรับประทานเพราะเกรงว่าจะไม่ทัน แต่ใครจะคิดว่านางนั้นถูกพามาทรมานแทนที่จะเป็นการส่งไปเป็นทาสตามที่ได้ยินมา ในตอนที่ไปถึงจุดที่นางอยู่ในตอนนั้นเป็นตอนที่นางกำลังจะทิ้งตัวลงบนผืนดินเหมือนกับไม่สามารถทนต่อไปได้เขาเร่งควบม้าอย่างไม่คิดชีวิตดวงตาคมเข้มสะท้อนความร้อนรนทอดมองร่างเล็กที่กำลังเอนลงบนผืนดินร้อนระอุสองมือก็ตวัดดาบบั่นคอคนที่บังอาจทำร้ายยอดดวงใจคมกระบี่ฟันฉับไปที่คนเหล่านั้นเพื่อแ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 5 พบกันครานี้ข้าจะไม่ปล่อยเจ้า 1/1

    เสียงพูดด้วยความตื่นเต้นดีใจพลางหันไปหาสาวใช้หวังว่าจะได้รับคำชื่นชมแต่ไม่คิดว่าในมือของสาวใช้ตอนนี้จะมีปลาเหมือนกันแต่ต่างกันที่ปลาในมือของสาวใช้นั้น ตัวใหญ่กว่าตัวที่นางจับได้เป็นเท่าตัว ดวงตาของฮุ่ยเจียงเบิกกว้างก่อนจะตะโกนถามสาวใช้ด้วยความตื่นเต้น"เจียอี เหตุใดเจ้าจึงจับได้ตัวใหญ่กว่าข้านักเล่า! ข้าไม่ยอมเจ้าแน่ นี่เจ้าปลาน้อยเจ้าจะไปไหนก็ไปเลย..ข้าจะจับตัวพ่อไม่ใช่ลูกปลาตัวน้อยแบบเจ้าสักหน่อย ชิ่ว ๆ ไปเลยนะ" ฮุ่ยเจียงที่เห็นว่าปลาที่อยู่ในมือสาวใช้ตัวใหญ่กว่าของนาง นางก็ยอมไม่ได้จึงปล่อยเจ้าปลาที่จับแล้วมองหาตัวใหญ่กว่า ส่วนเจียอีมองคุณหนูด้วยรอยยิ้มก่อนจะปล่อยปลาในมือตามไปอีกคนกลายเป็นว่าตอนนี้สองนายบ่าวพากันแข่งกันจับปลาการแข่งขันเต็มไปด้วยความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ ฮุ่ยเจียงแกล้งเจียอีด้วยการโยนหยดน้ำไปที่ตัว เจียอีหัวเราะและตอบโต้ด้วยการพยายามสาดน้ำกลับ ทั้งคู่สนุกกับการพยายามจับปลาและไม่ลืมที่จะหยอกล้อกัน เสียงหัวเราะและเสียงน้ำที่ดังกระจายยามที่พวกนางกระโจนจับปลากลายเป็นเสียงที่ไพเราะเสนาะหูต่อคนที่กำลังมองมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคิดถึงคะนึงหาอย่างถึงที่สุดอีกฟากหนึ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 4 การกลับมาของฮุ่ยเจียง 1/4

    รถม้าประทับตราสกุลฮุ่ยของราชครูเข้ามาจอดอยู่ที่เชิงเขาทางขึ้นวัดเสวียนคง วัดที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาดูเป็นสถานที่ที่เงียบสงบ หลังจากลงรถม้าฮุ่ยเจียงกับสาวใช้ก็เดินขึ้นบันไดที่มีซุ้มต้นไผ่ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เรียงรายขนาบสองข้างทาง มันสูงจนปลายต้นโน้มเอียงเข้าหากันจนกลายเป็นอุโมงค์ต้นไผ่สร้างความร่มรื่นสวยงามฮุ่ยเจียงสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ สูดหายใจเข้าเต็มปอด ดวงหน้างดงามเผยรอยยิ้มสดใส ยามที่สายลมอ่อน ๆ โชยพัดมาปะทะร่างของนาง ช่างสดชื่นนัก! ความรู้สึกสดชื่นที่แทรกซึมเข้ามาในจิตใจทำให้นางมีความสุขอย่างแท้จริง ท้องฟ้าสีฟ้าใสและต้นไม้ที่พลิ้วไหวไปตามลม ความสงบเงียบของธรรมชาติช่วยปลอบประโลมจิตใจนางจากความทุกข์ทรมานจากชาติที่แล้ว สาวใช้ที่ติดตามมาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม เจียอีมองคุณหนูที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาฮุ่ยเจียงยิ้มอย่างสดใส ขณะสายลมพัดโชยพาให้ผมยาวสลวยของนางพลิ้วไหว ดวงตาของนางเป็นประกายสดใส ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านแมกไม้ลงมาราวกับเทพธิดาจากสรวงสวรรค์ เจียอีอดไม่ได้ที่จะชื่นชมจากใจจริง“คุณหนู ท่านช่างงดงามเหลือเกินเจ้าค่ะ” ฮุ่ยเจียงหันมายิ้มให้สาวใช้ “เจียอี เจ้าไม่รู้หรอก

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 3 การกลับมาของฮุ่ยเจียง 1/3

    ฮุ่ยเจียงย่อกายทำความเคารพบุคคลทั้งสามจากนั้นก็เดินเข้าไปหาท่านพ่อที่กำลังวางตำราลงโดยมีฮุ่ยหลินเข้ามานั่งบนหัวเข่าแล้วหยิบขนมบนจานขึ้นมากัดกินอย่างเอร็ดอร่อย ฮุ่ยเจียงสอดแขนไปรอบเอวของบิดาใบหน้าเล็กก้มงุดลงไปที่หน้าอกดวงตาหลับพริ้มซึมซับความรู้สึกคิดถึงท่ามกลางความแปลกใจของทั้งสามคน"เจียงเอ๋อร์ลูกพ่อเจ้าเป็นอันใดรึ เจ็บป่วยยังไม่หายใช่หรือไม่" กล่าวจบฮุ่ยหมิ่นก็ยกมือขึ้นแตกหน้าผากเช็กอาการบุตรสาวด้วยความเป็นห่วงเพราะปกตินางไม่ค่อยอ้อนนอกจากตอนยามเจ็บไข้ได้ป่วย"ลูกสบายดีเจ้าค่ะแต่เมื่อคืนลูกเพียงแค่ฝันร้าย" ฮุยเจียงยิ้มให้บิดาแล้วผละออกหลังจากกอดจนพอใจ นางเดินเข้าไปหามารดาที่มองด้วยสายตาอบอุ่นร่างเล็กโถมเข้าหามารดาซบลงบนอกอุ่นด้วยความคิดถึง ดวงตาของนางร้อนผ่าวจนเกือบจะไหลทำให้นางต้องกะพริบตาปริบ ๆ ไม่ปล่อยให้มันไหลออกมาเกรงว่าจะทำให้มารดาเป็นห่วง"เจ้าเด็กคนนี้อ้อนเป็นน้องสาวเจ้าไปได้" ซูลี่ลูบศีรษะเล็ก ๆ ของบุตรสาวที่กำลังอ้อนราวกับเด็กน้อยใบหน้ายังคงส่งรอยยิ้มอบอุ่น ซึ่งเป็นใบหน้าที่ฮุ่ยเจียงเห็นจนชินตา สายตาของมารดาที่มองมาที่นางนั้นเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใยไม่ว่าเวลาจะผ่านไ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 2 การกลับมาของฮุยเจียง ½

    เรือนฮุ่ยหลันฮุ่ยเจียงเดินเข้ามาในเรือน พ่อบ้านก็เข้ามารายงาน "ท่านราชครูและฮูหยินกำลังรออยู่ในห้องโถงขอรับ" ฮุ่ยเจียงยิ้มบาง ๆ และพยักหน้ารับ เดินตามพ่อบ้านเข้าไปในห้องโถง"คุณหนูมาแล้วขอรับ" พ่อบ้านรายงานเสร็จก็เดินถอยหลังออกไป ทันใดนั้น เสียงใส ๆ ของเด็กสองคนก็ดังขึ้น"พี่รองมาแล้ว! พี่รองมาแล้ว!" เด็กสองคนวิ่งเข้ามาหาฮุ่ยเจียงด้วยความตื่นเต้น ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายสดใส ฮุ่ยเจียงย่อตัวลงอ้าแขนออกกว้างพร้อมรอยยิ้ม ร่างเล็กของเด็กทั้งสองคนวิ่งโถมนางจนเกือบล้มฮุ่ยเจียงที่รู้อยู่แล้วว่าการมาของนางจะต้องเจอกับเจ้าลูกลิงสองตัวที่โถมเข้ามาหานางอย่างเช่นตอนนี้ ในชาติก่อนนางตั้งรับไม่ทันทำให้นางล้มกลิ้งก้นจ้ำเบ้าลงบนพื้นแข็งจนดูน่าตลกในสายตาบ่าวไพร่ แต่วันนี้นางตั้งรับทัน "พี่รอง! พี่รอง!" เด็กชายและเด็กหญิงร้องเรียกพร้อมเสียงหัวเราะสดใส ฮุ่ยเจียงยิ้มพลางกอดพวกเขาเบา ๆ ดวงตาคู่สวยมองน้องชายและน้องสาวด้วยความรักและคิดถึง แม้น้องสาวจะเกิดจากแม่รองแต่ฮุ่ยเจียงก็มีความรักและห่วงใยน้อง ๆ เท่าเทียมกันส่วนมากนางจะใช้เวลาเล่นกับน้อง ๆ สอนคัดตัวอักษรตามที่บิดาเคยสอนและช่วยน้อง ๆ เรียนรู้สิ่งให

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 1 การกลับมาของฮุยเจียง 1/1

    ร่างสูงโอบกอดร่างที่ไร้วิญญาณเนิ่นนานความรู้สึกภายในใจรวดร้าวทรมานเจียนตายจากนั้นจึงลุกขึ้นอุ้มร่างของคนที่ตัวเองรักเดินผ่านทหารและองครักษ์ที่นั่งคุกเข่าลงแสดงความเคารพต่อผู้ที่จากไปด้วยฝีเท้าที่มั่นคงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน"คุณหนู คุณหนูเจ้าคะตื่นเถอะเจ้าค่ะ"เฮือกก!! ร่างเล็ก ๆ สะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นคนที่อยู่ตรงหน้า"เจียอี..เจ้ายังไม่ตาย" ฮุ่ยเจียงส่งเสียงร้องเรียกคนตรงหน้าด้วยความดีใจที่ได้เห็นหน้าสาวใช้คนสนิทอีกครั้งนางร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ นางยกมือปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหาสาวใช้ที่ทำหน้าเหลอหลา สองมือของฮุ่ยเจียงจับไหล่สาวใช้พลิกซ้ายพลิกขวาจนร่างเล็กของสาวใช้แทบจะหมุนเป็นลูกข่าง"เจ้ายังเจ็บอยู่หรือไม่แล้วนี่ผู้ใดมาช่วยพวกเรากัน เรารอดตายแล้วใช่หรือไม่ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าลูกข้า.." ฮุ่ยเจียงยื่นมือมาแตะที่หน้าท้องของตัวเองด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มลูกนางยังอยู่แต่พอสาวใช้พูดแย้งขึ้นทำเอาฮุ่ยเจียงถึงกับนิ่งค้างในหัวตอนนี้เต็มไปด้วยความสับสนส่วนสาวใช้ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวก็รีบพูดขัดขึ้นพร้อมจ้องมาที่ฮุ่ยเจียงด้วยสายตาสับสน"คุณหนูท่านเพิ่งจะเข้าสู

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทนำ ปฐมบท

    เส้นทางสู่แคว้นฉี"นางทาสชั้นต่ำเดินช้าเช่นนี้คิดจะถ่วงเวลาพวกข้าอย่างนั้นรึ!!" ผู้คุมส่งเสียงตะโกนดังก้องด้วยโทสะเขาเดินเข้ามาหาทาสนางหนึ่งด้วยท่าทางคุกคามในมือของเขาถือแส้ที่ม้วนเป็นวงกลม ดวงตาฉายแววเหี้ยมโหดร่างเล็ก ๆ ของเจียอีคลานหนีด้วยความหวาดกลัว เขาเงื้อมมือขึ้นสูงแล้วฟาดแส้ลงมาอย่างหนักหน่วง"โอ๊ย!!" เสียงร้องของฮุ่ยเจียงที่วิ่งเข้ามากอดร่างบางของสาวใช้คนสนิทเอาไว้แน่น นางใช้แผ่นหลังของนางรองรับแส้ที่ฟาดลงมาความแรงของมันทำให้ร่างของนางทรุดลงทันทีนางกัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่นกลั้นเสียงร้องจากอาการเจ็บปวดแผ่นหลังของนางปริแตกเลือดไหลออกมาตามผิวเนื้อ ร่างเล็กผอมแห้งซูบเซียวประหนึ่งต้นหญ้าขาดน้ำแต่กลับแฝงไปด้วยความแข็งแกร่งนางพยายามปกป้องสาวใช้ของตนเองถึงแม้ว่าตอนนี้นางเองก็สภาพย่ำแย่ไม่ต่างกัน เสื้อผ้าที่นางใส่ตอนนี้ขาดเป็นริ้วไม่ต่างจากขอทานแต่ถึงแม้จะผ่านความเจ็บปวดเพียงใดแต่ฮุ่ยเจียงก็ยังอดทน มือที่อ่อนแรงและสั่นเทาโอบกอดสาวใช้คนสนิทเอาไว้"คุณหนู.." เจียอีสาวใช้ที่ติดตามมาตั้งแต่เล็กมองใบหน้าคุณหนูของนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสารอดีตบุตรสาวท่านราชครูหญิงสาวที่เคยงามพิล

I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status