Share

ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก
ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก
Author: เดลิล

บทนำ ปฐมบท

last update Last Updated: 2025-02-05 21:07:19

เส้นทางสู่แคว้นฉี

"นางทาสชั้นต่ำเดินช้าเช่นนี้คิดจะถ่วงเวลาพวกข้าอย่างนั้นรึ!!" ผู้คุมส่งเสียงตะโกนดังก้องด้วยโทสะเขาเดินเข้ามาหาทาสนางหนึ่งด้วยท่าทางคุกคามในมือของเขาถือแส้ที่ม้วนเป็นวงกลม ดวงตาฉายแววเหี้ยมโหดร่างเล็ก ๆ ของเจียอีคลานหนีด้วยความหวาดกลัว เขาเงื้อมมือขึ้นสูงแล้วฟาดแส้ลงมาอย่างหนักหน่วง

"โอ๊ย!!" เสียงร้องของฮุ่ยเจียงที่วิ่งเข้ามากอดร่างบางของสาวใช้คนสนิทเอาไว้แน่น นางใช้แผ่นหลังของนางรองรับแส้ที่ฟาดลงมาความแรงของมันทำให้ร่างของนางทรุดลงทันที

นางกัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่นกลั้นเสียงร้องจากอาการเจ็บปวดแผ่นหลังของนางปริแตกเลือดไหลออกมาตามผิวเนื้อ ร่างเล็กผอมแห้งซูบเซียวประหนึ่งต้นหญ้าขาดน้ำแต่กลับแฝงไปด้วยความแข็งแกร่งนางพยายามปกป้องสาวใช้ของตนเองถึงแม้ว่าตอนนี้นางเองก็สภาพย่ำแย่ไม่ต่างกัน เสื้อผ้าที่นางใส่ตอนนี้ขาดเป็นริ้วไม่ต่างจากขอทานแต่ถึงแม้จะผ่านความเจ็บปวดเพียงใดแต่ฮุ่ยเจียงก็ยังอดทน มือที่อ่อนแรงและสั่นเทาโอบกอดสาวใช้คนสนิทเอาไว้

"คุณหนู.." เจียอีสาวใช้ที่ติดตามมาตั้งแต่เล็กมองใบหน้าคุณหนูของนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสารอดีตบุตรสาวท่านราชครูหญิงสาวที่เคยงามพิลาศล้ำดั่งบุปผาแรกแย้มตอนนี้กลับมีรอยแผลจากการถูกกรีดเป็นทางยาวตั้งแต่หางคิ้วจนเกือบถึงปลายคางส่งให้ความงดงามหายไป ผิวเนื้อที่เคยขาวผ่องนวลเนียนไม่ต่างจากไข่มุกกลับหยาบแห้งกร้านผอมแห้งจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ดวงตาคู่งามฉายแววเศร้าหมองไม่จางหาย หญิงสาวผู้มีชาติตระกูลสูงส่งผู้ไม่เคยทะเยอทะยานไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับใครแต่ต้องเผชิญกับโชคชะตาอันโหดร้าย สามีและสหายสนิทที่นางไว้ใจวางแผนทำร้ายนางและใส่ร้ายครอบครัวของนางต้องถูกประหารทั้งตระกูล

ความทุกข์ยังไม่ทันจางหายคุณหนูของนางก็ถูกส่งตัวไปเป็นทาสเพราะความโหดร้ายของสามีของนางกับสหายรักเพียงหนึ่งเดียว

ตระกูลที่มั่งคั่งสูญสิ้นไปชั่วข้ามคืนเหลือเพียงคุณหนูฮุ่ยเจียงที่ถูกขายออกมาไปเป็นทาสเหมือนกับต้องการทรมานให้นางอยู่ไม่สู้ตาย เจียอีกอดร่างเล็กของคุณหนูเอาไว้แน่นก่อนจะเห็นผู้คุมเงื้อมมือที่ถือแส้เตรียมฟาดลงมา นางจะไม่ยอมให้คุณหนูต้องเจ็บอีก..

เจียอีพลิกร่างมารับแส้แทนความแรงของมันทำเอานางกระอักเลือด นางเจ็บจนทนไม่ไหวตัวของนางสั่นสะท้านมือเท้าอ่อนปวกเปียก เจียอีมองใบหน้าคุณหนูเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงขาด ๆ หาย ๆ น้ำตาไหลออกมาด้วยความเสียใจที่จะไม่ได้อยู่รับใช้คุณหนูอีกแล้ว

"คุณหนูบ่าวไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ..แต่คุณหนู..บ่าวยังไม่อยากตาย บ่าวอยากอยู่รับใช้คุณหนู อึก!บ่าวอยากอยู่เลี้ยงนายน้อยให้ท่าน" มือที่อ่อนปวกเปียกเลื่อนลงมาแตะมาที่หน้าท้องคุณหนู ถึงแม้เจ้านายตัวน้อยจะยังเป็นเพียงเม็ดถั่วก็ตามแต่เหมือนกับว่าตอนนี้นางไม่มีโอกาสนั้นแล้วนางไม่มีโอกาสเห็นลูกของคุณหนูของนางแล้ว

"เจียอีไม่นะเจ้าต้องไม่เป็นอะไร เจียอีอยู่กับข้า ฮึก!! อยู่กับข้าก่อน.." ฮุ่ยเจียงจับมือของสาวใช้คนสนิทเอาไว้พูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน น้ำตานางหลั่งออกมาไม่ขาดท่ามกลางแดดร้อนจัดร่างเล็ก ๆ ของสาวใช้ที่หายใจติดขัดจับมือประสานนิ้วมือเข้ากับคุณหนูด้วยความเคารพรักแต่ตอนนี้นางรู้สึกผิดยิ่งนักที่ทิ้งคุณหนูผู้แสนดีให้โดดเดี่ยว รอยยิ้มสุดท้ายปรากฏอยู่บนใบหน้าเหมือนต้องการจดจำเอาไว้ ฮุ่ยเจียงมองสาวใช้ที่กำลังสิ้นใจด้วยสายตาพร่ามัวความเจ็บปวดรวดร้าวเกาะกินหัวใจ สาวใช้ของนางกำลังจะจากไปอีกคนหนึ่งแล้ว...

"คุณหนู..เจียอี.." เจียอีเอ่ยออกมาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ร่างของนางจะทิ้งตัวลงพร้อมกับลมหายใจที่หมดลง ดวงตาของฮุ่ยเจียงเบิกโพลงยามที่เห็นร่างของสาวใช้กระตุกอยู่หลายครั้งก่อนจะนอนแน่นิ่งในอ้อมกอดทั้งที่ดวงตายังเบิกโพลง

"เจียอี เจียอี!!" เสียงร้องเรียกชื่อสาวใช้ราวกับคนขาดสติ นางกอดร่างอันไร้วิญญาณของเจียอีเอาไว้แน่นส่งเสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนราวกับจะขาดใจเป็นที่น่าเวทนาต่อทาสที่พากันยืนมองด้วยความหวาดกลัวเพราะไม่รู้ว่าตนเองนั้นจะมีสภาพแบบคนที่เพิ่งตายไปตอนไหน

ผู้คุมทั้งหลายต่างมองหน้ากันก่อนจะให้สัญญาณ พวกมันชักกระบี่ออกมาจัดการสังหารทาสที่เหลืออยู่ด้วยความรวดเร็วเพราะคนพวกนี้ก็เป็นทาสที่ถูกว่าจ้างให้พามาสังหารไม่ต่างกัน ยังไม่มีใครได้วิ่งหนีเพราะมัวแต่ตกตะลึงเพียงพริบตาเดียวพื้นที่แห่งนี้ก็แดงฉานในอากาศคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือด

ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่ฮุ่ยเจียงกับกลุ่มคนเหล่านี้

"ปล่อยนางไว้ที่นี่แหละถือว่าภารกิจของเราจบสิ้นแล้วยังไงนางก็ไม่มีทางมีชีวิตรอดไปได้ " หนึ่งในผู้คุมพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจราวกับว่าเมื่อกี้ไม่ได้ทำการสังหารผู้คนอย่างโหดเหี้ยมราวกับเป็นผักปลา และคำสั่งที่ได้รับมาคือทำให้ผู้หญิงคนนี้ตายอย่างทรมานที่สุดแต่พวกเขาคิดว่าจากสภาพของนางตอนนี้ก็คงไม่มีทางรอดไปได้

"เอาอย่างที่เจ้าว่าข้าเองก็ขี้เกียจเดินทางแล้วเหมือนกัน" ผู้คุมที่อยู่บนม้าพูดขึ้นก่อนจะหันมาทางฮุ่ยเจียง

"ฮึเจ้านี่ช่างน่าสงสารจริง ๆ ชาติที่แล้วเจ้าคงทำเวรทำกรรมเอาไว้เยอะสินะ ชาตินี้ถึงได้เกิดมารับกรรมตั้งแต่ยังเยาว์แต่จะโทษก็ต้องโทษที่เจ้าโง่เขลาเบาปัญญาถึงเพียงนี้ ป่านนี้สามีกับสหายของเจ้าคงกำลังมีความสุขกับสมบัติของตระกูลเจ้าอย่างสบายใจน่าดู" พูดจบพวกมันก็ควบม้าทะยานออกไปปล่อยนางนอนรอความตายอย่างทรมาน

ฮุ่ยเจียงที่ได้ยินคำเยาะเย้ยถากถางก็จิกมือแน่นพอคิดไปถึงสามีชั่วกับสหายเลวของตัวเองก็พลันเจ็บแน่นในอกจุกจนพูดไปไม่ออก เพราะสิ่งที่ผู้คุมพูดออกมานั้นมันเป็นจริง เพราะความโง่เง่าของนางเองที่ทำให้เรื่องเป็นแบบนี้ ใบหน้าของชายโฉดหญิงชั่วสองคนที่ลอยมาทำเอาฮุ่ยเจียงเจ็บจนกระอักเลือดและเพราะร่างกายที่ไม่สามารถทนต่อบาดแผลได้อีก ร่างเล็ก ๆ ของนางค่อย ๆ เอนลงบนผืนดินที่แตกระแหงพร้อมกับความแค้นที่มีต่อชายโฉดหญิงชั่วคู่นั้น

"โอ๊ย!! อึก!" จู่ ๆ นางก็มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงความเจ็บร้าวเล่นงานไปทั่วร่างทั้งภายในช่องท้องยังบีบรัดถี่ ๆ จนแทบทนไม่ไหว รู้สึกถึงน้ำหนืดกับกลิ่นคาวเลือดที่ไหลออกมาตรงหว่างขามืออันสั่นเทาแตะไปที่กลางหว่างขาแล้วยกขึ้นมาดูพลันหัวใจของนางก็แตกสลายเมื่อรู้ว่าตอนนี้ลูกของนางได้จากไปแล้วเลือดเนื้อเชื้อไขของผู้ชายสารเลวคนนั้นแต่ถึงอย่างนั้นนางก็เสียใจเพราะเลือดอีกครึ่งหนึ่งนั้นเป็นของนางถึงจะอยู่ในท้องนางยังไม่ถึงสองเดือนแต่นางก็รู้สึกผูกพัน คงเพราะการเดินทางอันแสนทรมานกับความเหนื่อยล้าสะสมจนถึงวาระสุดท้ายลูกน้อยถึงได้จากนางไปยังที่ไกลแสนไกล ตอนนี้ทุกคนคงรอนางอยู่...

ท่ามกลางแดดร้อนระอุและผืนดินอันแห้งแล้ง ฮุ่ยเจียงถูกทิ้งให้นอนตายอย่างทรมาน

ความเจ็บปวดทั้งทางร่างกายและจิตใจ บวกกับความสูญเสียลูกในท้องทำให้ฮุ่ยเจียงสิ้นหวังมองโลกมืดมน

ฮุ่ยเจียงทิ้งร่างอันเหนื่อยล้าลงบนผืนดินแห้งแล้งดวงตาพร่ามัวมองตามผู้คุมที่ควบม้าทะยานออกไปด้วยความสิ้นหวัง ความเร็วของม้าทำเอาฝุ่นฟุ้งลอยตลบอบอวลอยู่ในอากาศ นางเตรียมรับวาระสุดท้ายที่จะมาถึงลมหายใจขาดห้วงใกล้จะสิ้นลมแต่ยังไม่ทันที่ฮุ่ยเจียงจะปิดเปลือกตาลง นางก็เห็นกลุ่มคนที่ควบม้าตรงมา ดวงตาที่กำลังจะปิดพยายามลืมขึ้นอีกครั้งนางมองไปยังบุรุษที่กำลังควบม้าทะยานเข้ามาใกล้ มือของเขากวาดกระบี่ไปคราเดียวก็สังหารคนตายไปถึงสองในสามนางมองเหล่าผู้คุมจนพวกมันทีละร่างราวกับใบไม้ร่วงก่อนจะเห็นเขาเข้ามาใกล้มากขึ้น

บุรุษร่างสูงใหญ่กระโจนลงจากม้าตรงมาหานางด้วยความรวดเร็วแต่ตอนนี้นางเจ็บปวดจนทนไม่ไหวและสิ่งที่ได้สัมผัสครั้งสุดท้ายคืออ้อมกอดของเขาพร้อมกับเสียงทุ้มฟังรื่นหูแต่ก็แฝงไปด้วยความร้อนรนนางได้ยินเขาพูดขอโทษซ้ำ ๆ สลับพูดปลอบโยนพลันหัวใจก็อุ่นซ่าน

"เจียงเอ๋อร์..พี่ขอโทษ พี่มาช้าไปพี่ผิดต่อเจ้าแล้ว"

"เจียงเอ๋อร์ พี่ผิดต่อเจ้า..พี่ขอโทษ ตื่นขึ้นมา..ลืมตาขึ้นมาสิ! ได้โปรด..."

ร่างสูงโอบกอดนางด้วยความอ่อนโยนทะนุถนอมราวกับกลัวว่านางจะบุบสลาย

ฮุ่ยเจียงรู้สึกถึงความอบอุ่นที่โอบล้อมและทำให้นางรู้สึกปลอดภัย ใบหน้าที่เคยงดงามยิ้มออกมาด้วยความสุขเป็นครั้งแรก ความเจ็บปวดที่ถาโถมทำให้นางหายใจลำบากสมองขาวโพลน ช่วงเวลาที่เปรียบเสมือนคนใกล้ตายนางเห็นภาพในวันวานวิ่งวนเข้ามาในสมองอันเลอะเลือนของเธอ

ภาพครอบครัวอันแสนสุข ท่านพ่อท่านแม่ แม่รองพี่ใหญ่น้องชายและน้องสาวที่นั่งร่วมวงกันทานข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตา

ภาพในยามที่ทุกคนส่งเสียงหัวเราะให้กันด้วยความสุข

ภาพน้องน้อยทั้งสองคนวิ่งไล่กวดกัน

ภาพที่เด็กผู้ชายคนหนึ่งชอบเข้ามาเล่นกับนางเป็นประจำ

ภาพที่นางร้องไห้น้ำตานองหน้าต่อว่าเด็กชายคนนั้นเมื่อรู้ว่าเขาจะจากนางไปไกล 

เบื้องหน้านางเห็นครอบครัวของนางยืนส่งยิ้มให้เจียอีเองก็ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยเช่นกัน

เปลือกตาของนางหนักอึ้งขึ้นทุกขณะทั้งที่อยากจะเห็นใบหน้าบุรุษผู้มีอ้อมกอดอบอุ่นผู้นี้นักแต่นางก็มิอาจฝืนต่อไปได้มือบางยกขึ้นเพื่อต้องการสัมผัสใบหน้าบุรุษตรงหน้า เหมือนเขาจะรู้ความคิดของนางฝ่ามือหนาจับมือของนางเอาไว้แล้วนำไปวางที่แก้มสากของเขาด้วยความทะนุถนอม

ฮุ่ยเจียงรับรู้ถึงสัมผัสอุ่นร้อนแผ่วเบาที่หน้าผากและหยาดน้ำอุ่น ๆ ที่ไหลลงมากระทบใบหน้าของนาง

ก่อนที่นางจะสิ้นลมหายใจ ฮุ่ยเจียงได้สัมผัสถึงความรักและความห่วงใยจากบุรุษผู้ลึกลับ

...แต่เขาคือผู้ใดกัน...

ร่างแกร่งของบุรุษปริศนาร่ำไห้ออกมาด้วยหัวใจที่แตกสลายน้ำตาไหลลงข้ามแก้มสู่ปลายคางสองมืออันสั่นเทาโอบประคองร่างเล็กผอมแห้งที่ไร้วิญญาณด้วยความรักใคร่ที่ไม่เคยจางหาย ใบหน้าคมเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าร้องเรียกชื่อนางออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดจนมันสะท้อนก้องไปทั่วหุบเขา

"เจียงเอ๋อร์..ม่าย!!!"

ร่างสูงโอบกอดร่างที่ไร้วิญญาณเนิ่นนานความรู้สึกภายในใจรวดร้าวทรมานเจียนตายจากนั้นจึงลุกขึ้นอุ้มร่างของคนที่ตัวเองรักเดินผ่านทหารและองครักษ์ที่นั่งคุกเข่าลงแสดงความเคารพต่อผู้ที่จากไปด้วยฝีเท้าที่มั่นคงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน

"คุณหนู คุณหนูเจ้าคะตื่นเถอะเจ้าค่ะ"

⋇⊶⊰❣⊱⊷⋇ ⋇⊶⊰❣⊱⊷⋇

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 1 การกลับมาของฮุยเจียง 1/1

    ร่างสูงโอบกอดร่างที่ไร้วิญญาณเนิ่นนานความรู้สึกภายในใจรวดร้าวทรมานเจียนตายจากนั้นจึงลุกขึ้นอุ้มร่างของคนที่ตัวเองรักเดินผ่านทหารและองครักษ์ที่นั่งคุกเข่าลงแสดงความเคารพต่อผู้ที่จากไปด้วยฝีเท้าที่มั่นคงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน"คุณหนู คุณหนูเจ้าคะตื่นเถอะเจ้าค่ะ"เฮือกก!! ร่างเล็ก ๆ สะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นคนที่อยู่ตรงหน้า"เจียอี..เจ้ายังไม่ตาย" ฮุ่ยเจียงส่งเสียงร้องเรียกคนตรงหน้าด้วยความดีใจที่ได้เห็นหน้าสาวใช้คนสนิทอีกครั้งนางร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ นางยกมือปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหาสาวใช้ที่ทำหน้าเหลอหลา สองมือของฮุ่ยเจียงจับไหล่สาวใช้พลิกซ้ายพลิกขวาจนร่างเล็กของสาวใช้แทบจะหมุนเป็นลูกข่าง"เจ้ายังเจ็บอยู่หรือไม่แล้วนี่ผู้ใดมาช่วยพวกเรากัน เรารอดตายแล้วใช่หรือไม่ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าลูกข้า.." ฮุ่ยเจียงยื่นมือมาแตะที่หน้าท้องของตัวเองด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มลูกนางยังอยู่แต่พอสาวใช้พูดแย้งขึ้นทำเอาฮุ่ยเจียงถึงกับนิ่งค้างในหัวตอนนี้เต็มไปด้วยความสับสนส่วนสาวใช้ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวก็รีบพูดขัดขึ้นพร้อมจ้องมาที่ฮุ่ยเจียงด้วยสายตาสับสน"คุณหนูท่านเพิ่งจะเข้าสู

    Last Updated : 2025-02-05
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 2 การกลับมาของฮุยเจียง ½

    เรือนฮุ่ยหลันฮุ่ยเจียงเดินเข้ามาในเรือน พ่อบ้านก็เข้ามารายงาน "ท่านราชครูและฮูหยินกำลังรออยู่ในห้องโถงขอรับ" ฮุ่ยเจียงยิ้มบาง ๆ และพยักหน้ารับ เดินตามพ่อบ้านเข้าไปในห้องโถง"คุณหนูมาแล้วขอรับ" พ่อบ้านรายงานเสร็จก็เดินถอยหลังออกไป ทันใดนั้น เสียงใส ๆ ของเด็กสองคนก็ดังขึ้น"พี่รองมาแล้ว! พี่รองมาแล้ว!" เด็กสองคนวิ่งเข้ามาหาฮุ่ยเจียงด้วยความตื่นเต้น ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายสดใส ฮุ่ยเจียงย่อตัวลงอ้าแขนออกกว้างพร้อมรอยยิ้ม ร่างเล็กของเด็กทั้งสองคนวิ่งโถมนางจนเกือบล้มฮุ่ยเจียงที่รู้อยู่แล้วว่าการมาของนางจะต้องเจอกับเจ้าลูกลิงสองตัวที่โถมเข้ามาหานางอย่างเช่นตอนนี้ ในชาติก่อนนางตั้งรับไม่ทันทำให้นางล้มกลิ้งก้นจ้ำเบ้าลงบนพื้นแข็งจนดูน่าตลกในสายตาบ่าวไพร่ แต่วันนี้นางตั้งรับทัน "พี่รอง! พี่รอง!" เด็กชายและเด็กหญิงร้องเรียกพร้อมเสียงหัวเราะสดใส ฮุ่ยเจียงยิ้มพลางกอดพวกเขาเบา ๆ ดวงตาคู่สวยมองน้องชายและน้องสาวด้วยความรักและคิดถึง แม้น้องสาวจะเกิดจากแม่รองแต่ฮุ่ยเจียงก็มีความรักและห่วงใยน้อง ๆ เท่าเทียมกันส่วนมากนางจะใช้เวลาเล่นกับน้อง ๆ สอนคัดตัวอักษรตามที่บิดาเคยสอนและช่วยน้อง ๆ เรียนรู้สิ่งให

    Last Updated : 2025-02-05
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 3 การกลับมาของฮุ่ยเจียง 1/3

    ฮุ่ยเจียงย่อกายทำความเคารพบุคคลทั้งสามจากนั้นก็เดินเข้าไปหาท่านพ่อที่กำลังวางตำราลงโดยมีฮุ่ยหลินเข้ามานั่งบนหัวเข่าแล้วหยิบขนมบนจานขึ้นมากัดกินอย่างเอร็ดอร่อย ฮุ่ยเจียงสอดแขนไปรอบเอวของบิดาใบหน้าเล็กก้มงุดลงไปที่หน้าอกดวงตาหลับพริ้มซึมซับความรู้สึกคิดถึงท่ามกลางความแปลกใจของทั้งสามคน"เจียงเอ๋อร์ลูกพ่อเจ้าเป็นอันใดรึ เจ็บป่วยยังไม่หายใช่หรือไม่" กล่าวจบฮุ่ยหมิ่นก็ยกมือขึ้นแตกหน้าผากเช็กอาการบุตรสาวด้วยความเป็นห่วงเพราะปกตินางไม่ค่อยอ้อนนอกจากตอนยามเจ็บไข้ได้ป่วย"ลูกสบายดีเจ้าค่ะแต่เมื่อคืนลูกเพียงแค่ฝันร้าย" ฮุยเจียงยิ้มให้บิดาแล้วผละออกหลังจากกอดจนพอใจ นางเดินเข้าไปหามารดาที่มองด้วยสายตาอบอุ่นร่างเล็กโถมเข้าหามารดาซบลงบนอกอุ่นด้วยความคิดถึง ดวงตาของนางร้อนผ่าวจนเกือบจะไหลทำให้นางต้องกะพริบตาปริบ ๆ ไม่ปล่อยให้มันไหลออกมาเกรงว่าจะทำให้มารดาเป็นห่วง"เจ้าเด็กคนนี้อ้อนเป็นน้องสาวเจ้าไปได้" ซูลี่ลูบศีรษะเล็ก ๆ ของบุตรสาวที่กำลังอ้อนราวกับเด็กน้อยใบหน้ายังคงส่งรอยยิ้มอบอุ่น ซึ่งเป็นใบหน้าที่ฮุ่ยเจียงเห็นจนชินตา สายตาของมารดาที่มองมาที่นางนั้นเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใยไม่ว่าเวลาจะผ่านไ

    Last Updated : 2025-02-05
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 4 การกลับมาของฮุ่ยเจียง 1/4

    รถม้าประทับตราสกุลฮุ่ยของราชครูเข้ามาจอดอยู่ที่เชิงเขาทางขึ้นวัดเสวียนคง วัดที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาดูเป็นสถานที่ที่เงียบสงบ หลังจากลงรถม้าฮุ่ยเจียงกับสาวใช้ก็เดินขึ้นบันไดที่มีซุ้มต้นไผ่ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เรียงรายขนาบสองข้างทาง มันสูงจนปลายต้นโน้มเอียงเข้าหากันจนกลายเป็นอุโมงค์ต้นไผ่สร้างความร่มรื่นสวยงามฮุ่ยเจียงสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ สูดหายใจเข้าเต็มปอด ดวงหน้างดงามเผยรอยยิ้มสดใส ยามที่สายลมอ่อน ๆ โชยพัดมาปะทะร่างของนาง ช่างสดชื่นนัก! ความรู้สึกสดชื่นที่แทรกซึมเข้ามาในจิตใจทำให้นางมีความสุขอย่างแท้จริง ท้องฟ้าสีฟ้าใสและต้นไม้ที่พลิ้วไหวไปตามลม ความสงบเงียบของธรรมชาติช่วยปลอบประโลมจิตใจนางจากความทุกข์ทรมานจากชาติที่แล้ว สาวใช้ที่ติดตามมาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม เจียอีมองคุณหนูที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาฮุ่ยเจียงยิ้มอย่างสดใส ขณะสายลมพัดโชยพาให้ผมยาวสลวยของนางพลิ้วไหว ดวงตาของนางเป็นประกายสดใส ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านแมกไม้ลงมาราวกับเทพธิดาจากสรวงสวรรค์ เจียอีอดไม่ได้ที่จะชื่นชมจากใจจริง“คุณหนู ท่านช่างงดงามเหลือเกินเจ้าค่ะ” ฮุ่ยเจียงหันมายิ้มให้สาวใช้ “เจียอี เจ้าไม่รู้หรอก

    Last Updated : 2025-02-05
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 5 พบกันครานี้ข้าจะไม่ปล่อยเจ้า 1/1

    เสียงพูดด้วยความตื่นเต้นดีใจพลางหันไปหาสาวใช้หวังว่าจะได้รับคำชื่นชมแต่ไม่คิดว่าในมือของสาวใช้ตอนนี้จะมีปลาเหมือนกันแต่ต่างกันที่ปลาในมือของสาวใช้นั้น ตัวใหญ่กว่าตัวที่นางจับได้เป็นเท่าตัว ดวงตาของฮุ่ยเจียงเบิกกว้างก่อนจะตะโกนถามสาวใช้ด้วยความตื่นเต้น"เจียอี เหตุใดเจ้าจึงจับได้ตัวใหญ่กว่าข้านักเล่า! ข้าไม่ยอมเจ้าแน่ นี่เจ้าปลาน้อยเจ้าจะไปไหนก็ไปเลย..ข้าจะจับตัวพ่อไม่ใช่ลูกปลาตัวน้อยแบบเจ้าสักหน่อย ชิ่ว ๆ ไปเลยนะ" ฮุ่ยเจียงที่เห็นว่าปลาที่อยู่ในมือสาวใช้ตัวใหญ่กว่าของนาง นางก็ยอมไม่ได้จึงปล่อยเจ้าปลาที่จับแล้วมองหาตัวใหญ่กว่า ส่วนเจียอีมองคุณหนูด้วยรอยยิ้มก่อนจะปล่อยปลาในมือตามไปอีกคนกลายเป็นว่าตอนนี้สองนายบ่าวพากันแข่งกันจับปลาการแข่งขันเต็มไปด้วยความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ ฮุ่ยเจียงแกล้งเจียอีด้วยการโยนหยดน้ำไปที่ตัว เจียอีหัวเราะและตอบโต้ด้วยการพยายามสาดน้ำกลับ ทั้งคู่สนุกกับการพยายามจับปลาและไม่ลืมที่จะหยอกล้อกัน เสียงหัวเราะและเสียงน้ำที่ดังกระจายยามที่พวกนางกระโจนจับปลากลายเป็นเสียงที่ไพเราะเสนาะหูต่อคนที่กำลังมองมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคิดถึงคะนึงหาอย่างถึงที่สุดอีกฟากหนึ

    Last Updated : 2025-02-05
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 6 พบกันครานี้ข้าจะไม่ปล่อยเจ้า1/2

    ชาติก่อนในยามสงครามศึกนอกยังไม่น่ากลัวเท่ากับศึกภายใน...สงครามที่ยืดเยื้อกินเวลานานทำให้พี่ชายของนางไม่สามารถเข้าไปช่วยนางได้ทัน พอรู้ข่าวว่าครอบครัวถูกใส่ร้ายก็เร่งเดินทางไปทันทีใครจะคิดว่ามันคือหนึ่งในแผนการที่ล้มล้างตระกูลพอไปถึงหน้าประตูเมืองฮุ่ยเหอก็ถูกจับกุมในทันทีใครจะคิดว่าทั้งตระกูลของนางจะถูกคนชั่วช้าเล่นงานจนดิ้นไม่หลุด ส่วนเขาที่ยังทำสงครามอยู่อีกแคว้นไม่ได้รู้ข่าวคราวเกี่ยวกับครอบครัวของสหายเลยด้วยซ้ำ พอมารู้อีกทีก็ตอนที่ทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตเหลือเพียงนางกับสาวใช้ที่ถูกขายไปเป็นทาส กว่าจะสืบสาวราวเรื่องได้ว่านางถูกพาไปที่ใดก็กินเวลาหลายวัน เขาควบม้าด้วยความเร่งรีบแม้อาหารสักมื้อก็ไม่พักรับประทานเพราะเกรงว่าจะไม่ทัน แต่ใครจะคิดว่านางนั้นถูกพามาทรมานแทนที่จะเป็นการส่งไปเป็นทาสตามที่ได้ยินมา ในตอนที่ไปถึงจุดที่นางอยู่ในตอนนั้นเป็นตอนที่นางกำลังจะทิ้งตัวลงบนผืนดินเหมือนกับไม่สามารถทนต่อไปได้เขาเร่งควบม้าอย่างไม่คิดชีวิตดวงตาคมเข้มสะท้อนความร้อนรนทอดมองร่างเล็กที่กำลังเอนลงบนผืนดินร้อนระอุสองมือก็ตวัดดาบบั่นคอคนที่บังอาจทำร้ายยอดดวงใจคมกระบี่ฟันฉับไปที่คนเหล่านั้นเพื่อแ

    Last Updated : 2025-02-05

Latest chapter

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 6 พบกันครานี้ข้าจะไม่ปล่อยเจ้า1/2

    ชาติก่อนในยามสงครามศึกนอกยังไม่น่ากลัวเท่ากับศึกภายใน...สงครามที่ยืดเยื้อกินเวลานานทำให้พี่ชายของนางไม่สามารถเข้าไปช่วยนางได้ทัน พอรู้ข่าวว่าครอบครัวถูกใส่ร้ายก็เร่งเดินทางไปทันทีใครจะคิดว่ามันคือหนึ่งในแผนการที่ล้มล้างตระกูลพอไปถึงหน้าประตูเมืองฮุ่ยเหอก็ถูกจับกุมในทันทีใครจะคิดว่าทั้งตระกูลของนางจะถูกคนชั่วช้าเล่นงานจนดิ้นไม่หลุด ส่วนเขาที่ยังทำสงครามอยู่อีกแคว้นไม่ได้รู้ข่าวคราวเกี่ยวกับครอบครัวของสหายเลยด้วยซ้ำ พอมารู้อีกทีก็ตอนที่ทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตเหลือเพียงนางกับสาวใช้ที่ถูกขายไปเป็นทาส กว่าจะสืบสาวราวเรื่องได้ว่านางถูกพาไปที่ใดก็กินเวลาหลายวัน เขาควบม้าด้วยความเร่งรีบแม้อาหารสักมื้อก็ไม่พักรับประทานเพราะเกรงว่าจะไม่ทัน แต่ใครจะคิดว่านางนั้นถูกพามาทรมานแทนที่จะเป็นการส่งไปเป็นทาสตามที่ได้ยินมา ในตอนที่ไปถึงจุดที่นางอยู่ในตอนนั้นเป็นตอนที่นางกำลังจะทิ้งตัวลงบนผืนดินเหมือนกับไม่สามารถทนต่อไปได้เขาเร่งควบม้าอย่างไม่คิดชีวิตดวงตาคมเข้มสะท้อนความร้อนรนทอดมองร่างเล็กที่กำลังเอนลงบนผืนดินร้อนระอุสองมือก็ตวัดดาบบั่นคอคนที่บังอาจทำร้ายยอดดวงใจคมกระบี่ฟันฉับไปที่คนเหล่านั้นเพื่อแ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 5 พบกันครานี้ข้าจะไม่ปล่อยเจ้า 1/1

    เสียงพูดด้วยความตื่นเต้นดีใจพลางหันไปหาสาวใช้หวังว่าจะได้รับคำชื่นชมแต่ไม่คิดว่าในมือของสาวใช้ตอนนี้จะมีปลาเหมือนกันแต่ต่างกันที่ปลาในมือของสาวใช้นั้น ตัวใหญ่กว่าตัวที่นางจับได้เป็นเท่าตัว ดวงตาของฮุ่ยเจียงเบิกกว้างก่อนจะตะโกนถามสาวใช้ด้วยความตื่นเต้น"เจียอี เหตุใดเจ้าจึงจับได้ตัวใหญ่กว่าข้านักเล่า! ข้าไม่ยอมเจ้าแน่ นี่เจ้าปลาน้อยเจ้าจะไปไหนก็ไปเลย..ข้าจะจับตัวพ่อไม่ใช่ลูกปลาตัวน้อยแบบเจ้าสักหน่อย ชิ่ว ๆ ไปเลยนะ" ฮุ่ยเจียงที่เห็นว่าปลาที่อยู่ในมือสาวใช้ตัวใหญ่กว่าของนาง นางก็ยอมไม่ได้จึงปล่อยเจ้าปลาที่จับแล้วมองหาตัวใหญ่กว่า ส่วนเจียอีมองคุณหนูด้วยรอยยิ้มก่อนจะปล่อยปลาในมือตามไปอีกคนกลายเป็นว่าตอนนี้สองนายบ่าวพากันแข่งกันจับปลาการแข่งขันเต็มไปด้วยความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ ฮุ่ยเจียงแกล้งเจียอีด้วยการโยนหยดน้ำไปที่ตัว เจียอีหัวเราะและตอบโต้ด้วยการพยายามสาดน้ำกลับ ทั้งคู่สนุกกับการพยายามจับปลาและไม่ลืมที่จะหยอกล้อกัน เสียงหัวเราะและเสียงน้ำที่ดังกระจายยามที่พวกนางกระโจนจับปลากลายเป็นเสียงที่ไพเราะเสนาะหูต่อคนที่กำลังมองมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคิดถึงคะนึงหาอย่างถึงที่สุดอีกฟากหนึ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 4 การกลับมาของฮุ่ยเจียง 1/4

    รถม้าประทับตราสกุลฮุ่ยของราชครูเข้ามาจอดอยู่ที่เชิงเขาทางขึ้นวัดเสวียนคง วัดที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาดูเป็นสถานที่ที่เงียบสงบ หลังจากลงรถม้าฮุ่ยเจียงกับสาวใช้ก็เดินขึ้นบันไดที่มีซุ้มต้นไผ่ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เรียงรายขนาบสองข้างทาง มันสูงจนปลายต้นโน้มเอียงเข้าหากันจนกลายเป็นอุโมงค์ต้นไผ่สร้างความร่มรื่นสวยงามฮุ่ยเจียงสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ สูดหายใจเข้าเต็มปอด ดวงหน้างดงามเผยรอยยิ้มสดใส ยามที่สายลมอ่อน ๆ โชยพัดมาปะทะร่างของนาง ช่างสดชื่นนัก! ความรู้สึกสดชื่นที่แทรกซึมเข้ามาในจิตใจทำให้นางมีความสุขอย่างแท้จริง ท้องฟ้าสีฟ้าใสและต้นไม้ที่พลิ้วไหวไปตามลม ความสงบเงียบของธรรมชาติช่วยปลอบประโลมจิตใจนางจากความทุกข์ทรมานจากชาติที่แล้ว สาวใช้ที่ติดตามมาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม เจียอีมองคุณหนูที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาฮุ่ยเจียงยิ้มอย่างสดใส ขณะสายลมพัดโชยพาให้ผมยาวสลวยของนางพลิ้วไหว ดวงตาของนางเป็นประกายสดใส ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านแมกไม้ลงมาราวกับเทพธิดาจากสรวงสวรรค์ เจียอีอดไม่ได้ที่จะชื่นชมจากใจจริง“คุณหนู ท่านช่างงดงามเหลือเกินเจ้าค่ะ” ฮุ่ยเจียงหันมายิ้มให้สาวใช้ “เจียอี เจ้าไม่รู้หรอก

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 3 การกลับมาของฮุ่ยเจียง 1/3

    ฮุ่ยเจียงย่อกายทำความเคารพบุคคลทั้งสามจากนั้นก็เดินเข้าไปหาท่านพ่อที่กำลังวางตำราลงโดยมีฮุ่ยหลินเข้ามานั่งบนหัวเข่าแล้วหยิบขนมบนจานขึ้นมากัดกินอย่างเอร็ดอร่อย ฮุ่ยเจียงสอดแขนไปรอบเอวของบิดาใบหน้าเล็กก้มงุดลงไปที่หน้าอกดวงตาหลับพริ้มซึมซับความรู้สึกคิดถึงท่ามกลางความแปลกใจของทั้งสามคน"เจียงเอ๋อร์ลูกพ่อเจ้าเป็นอันใดรึ เจ็บป่วยยังไม่หายใช่หรือไม่" กล่าวจบฮุ่ยหมิ่นก็ยกมือขึ้นแตกหน้าผากเช็กอาการบุตรสาวด้วยความเป็นห่วงเพราะปกตินางไม่ค่อยอ้อนนอกจากตอนยามเจ็บไข้ได้ป่วย"ลูกสบายดีเจ้าค่ะแต่เมื่อคืนลูกเพียงแค่ฝันร้าย" ฮุยเจียงยิ้มให้บิดาแล้วผละออกหลังจากกอดจนพอใจ นางเดินเข้าไปหามารดาที่มองด้วยสายตาอบอุ่นร่างเล็กโถมเข้าหามารดาซบลงบนอกอุ่นด้วยความคิดถึง ดวงตาของนางร้อนผ่าวจนเกือบจะไหลทำให้นางต้องกะพริบตาปริบ ๆ ไม่ปล่อยให้มันไหลออกมาเกรงว่าจะทำให้มารดาเป็นห่วง"เจ้าเด็กคนนี้อ้อนเป็นน้องสาวเจ้าไปได้" ซูลี่ลูบศีรษะเล็ก ๆ ของบุตรสาวที่กำลังอ้อนราวกับเด็กน้อยใบหน้ายังคงส่งรอยยิ้มอบอุ่น ซึ่งเป็นใบหน้าที่ฮุ่ยเจียงเห็นจนชินตา สายตาของมารดาที่มองมาที่นางนั้นเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใยไม่ว่าเวลาจะผ่านไ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 2 การกลับมาของฮุยเจียง ½

    เรือนฮุ่ยหลันฮุ่ยเจียงเดินเข้ามาในเรือน พ่อบ้านก็เข้ามารายงาน "ท่านราชครูและฮูหยินกำลังรออยู่ในห้องโถงขอรับ" ฮุ่ยเจียงยิ้มบาง ๆ และพยักหน้ารับ เดินตามพ่อบ้านเข้าไปในห้องโถง"คุณหนูมาแล้วขอรับ" พ่อบ้านรายงานเสร็จก็เดินถอยหลังออกไป ทันใดนั้น เสียงใส ๆ ของเด็กสองคนก็ดังขึ้น"พี่รองมาแล้ว! พี่รองมาแล้ว!" เด็กสองคนวิ่งเข้ามาหาฮุ่ยเจียงด้วยความตื่นเต้น ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายสดใส ฮุ่ยเจียงย่อตัวลงอ้าแขนออกกว้างพร้อมรอยยิ้ม ร่างเล็กของเด็กทั้งสองคนวิ่งโถมนางจนเกือบล้มฮุ่ยเจียงที่รู้อยู่แล้วว่าการมาของนางจะต้องเจอกับเจ้าลูกลิงสองตัวที่โถมเข้ามาหานางอย่างเช่นตอนนี้ ในชาติก่อนนางตั้งรับไม่ทันทำให้นางล้มกลิ้งก้นจ้ำเบ้าลงบนพื้นแข็งจนดูน่าตลกในสายตาบ่าวไพร่ แต่วันนี้นางตั้งรับทัน "พี่รอง! พี่รอง!" เด็กชายและเด็กหญิงร้องเรียกพร้อมเสียงหัวเราะสดใส ฮุ่ยเจียงยิ้มพลางกอดพวกเขาเบา ๆ ดวงตาคู่สวยมองน้องชายและน้องสาวด้วยความรักและคิดถึง แม้น้องสาวจะเกิดจากแม่รองแต่ฮุ่ยเจียงก็มีความรักและห่วงใยน้อง ๆ เท่าเทียมกันส่วนมากนางจะใช้เวลาเล่นกับน้อง ๆ สอนคัดตัวอักษรตามที่บิดาเคยสอนและช่วยน้อง ๆ เรียนรู้สิ่งให

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 1 การกลับมาของฮุยเจียง 1/1

    ร่างสูงโอบกอดร่างที่ไร้วิญญาณเนิ่นนานความรู้สึกภายในใจรวดร้าวทรมานเจียนตายจากนั้นจึงลุกขึ้นอุ้มร่างของคนที่ตัวเองรักเดินผ่านทหารและองครักษ์ที่นั่งคุกเข่าลงแสดงความเคารพต่อผู้ที่จากไปด้วยฝีเท้าที่มั่นคงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน"คุณหนู คุณหนูเจ้าคะตื่นเถอะเจ้าค่ะ"เฮือกก!! ร่างเล็ก ๆ สะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นคนที่อยู่ตรงหน้า"เจียอี..เจ้ายังไม่ตาย" ฮุ่ยเจียงส่งเสียงร้องเรียกคนตรงหน้าด้วยความดีใจที่ได้เห็นหน้าสาวใช้คนสนิทอีกครั้งนางร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ นางยกมือปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหาสาวใช้ที่ทำหน้าเหลอหลา สองมือของฮุ่ยเจียงจับไหล่สาวใช้พลิกซ้ายพลิกขวาจนร่างเล็กของสาวใช้แทบจะหมุนเป็นลูกข่าง"เจ้ายังเจ็บอยู่หรือไม่แล้วนี่ผู้ใดมาช่วยพวกเรากัน เรารอดตายแล้วใช่หรือไม่ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าลูกข้า.." ฮุ่ยเจียงยื่นมือมาแตะที่หน้าท้องของตัวเองด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มลูกนางยังอยู่แต่พอสาวใช้พูดแย้งขึ้นทำเอาฮุ่ยเจียงถึงกับนิ่งค้างในหัวตอนนี้เต็มไปด้วยความสับสนส่วนสาวใช้ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวก็รีบพูดขัดขึ้นพร้อมจ้องมาที่ฮุ่ยเจียงด้วยสายตาสับสน"คุณหนูท่านเพิ่งจะเข้าสู

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทนำ ปฐมบท

    เส้นทางสู่แคว้นฉี"นางทาสชั้นต่ำเดินช้าเช่นนี้คิดจะถ่วงเวลาพวกข้าอย่างนั้นรึ!!" ผู้คุมส่งเสียงตะโกนดังก้องด้วยโทสะเขาเดินเข้ามาหาทาสนางหนึ่งด้วยท่าทางคุกคามในมือของเขาถือแส้ที่ม้วนเป็นวงกลม ดวงตาฉายแววเหี้ยมโหดร่างเล็ก ๆ ของเจียอีคลานหนีด้วยความหวาดกลัว เขาเงื้อมมือขึ้นสูงแล้วฟาดแส้ลงมาอย่างหนักหน่วง"โอ๊ย!!" เสียงร้องของฮุ่ยเจียงที่วิ่งเข้ามากอดร่างบางของสาวใช้คนสนิทเอาไว้แน่น นางใช้แผ่นหลังของนางรองรับแส้ที่ฟาดลงมาความแรงของมันทำให้ร่างของนางทรุดลงทันทีนางกัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่นกลั้นเสียงร้องจากอาการเจ็บปวดแผ่นหลังของนางปริแตกเลือดไหลออกมาตามผิวเนื้อ ร่างเล็กผอมแห้งซูบเซียวประหนึ่งต้นหญ้าขาดน้ำแต่กลับแฝงไปด้วยความแข็งแกร่งนางพยายามปกป้องสาวใช้ของตนเองถึงแม้ว่าตอนนี้นางเองก็สภาพย่ำแย่ไม่ต่างกัน เสื้อผ้าที่นางใส่ตอนนี้ขาดเป็นริ้วไม่ต่างจากขอทานแต่ถึงแม้จะผ่านความเจ็บปวดเพียงใดแต่ฮุ่ยเจียงก็ยังอดทน มือที่อ่อนแรงและสั่นเทาโอบกอดสาวใช้คนสนิทเอาไว้"คุณหนู.." เจียอีสาวใช้ที่ติดตามมาตั้งแต่เล็กมองใบหน้าคุณหนูของนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสารอดีตบุตรสาวท่านราชครูหญิงสาวที่เคยงามพิล

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status