แชร์

บทที่ 622

ผู้เขียน: วิ๋นเจิง
ซูชิงอู่ต้องการไปที่ชายแดนกับเขาด้วยอย่างมาก

แต่ตอนนี้นางมีลูกสามคนแล้ว ในฐานะแม่ นางไม่สามารถทำตัวไร้ความรับผิดชอบได้

หลังจากเย่เสวียนถิงจากไป จำต้องใช้เวลาอยู่ที่นั่นอย่างน้อยหนึ่งหรือสองปีถึงจะสามารถกลับมาได้ ซึ่งซูชิงอู่จะต้องคอยเลี้ยงดูลูก ๆ ภายในช่วงเวลานี้

ซูชิงอู่พูดเสียงเบา “พี่ใหญ่และพี่รองคอยปกป้องข้าอยู่ในเมืองหลวง ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องห่วงข้ากับลูก ๆ เลย อย่างน้อยที่นี่ก็ยังปลอดภัยกว่าชายแดน ยิ่งไปกว่านั้นหากท่านอ๋องไม่สามารถมีชัยเหนือแคว้นอู๋ตะวันตกได้ ภายภาคหน้าเราต้องถูกโจมตีจากทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน”

นี่ก็เป็นสิ่งที่เย่เสวียนถิงกังวลด้วยเช่นกัน

ต้องมีแผ่นดินอาศัยก่อนถึงจะมีบ้านได้

เย่เสวียนถิงพยายามอย่างหนักเพื่อนำกองทหารไปต่อสู้ปกป้องชายแดนของแคว้นหนานเย่ จนทำให้สนามรบเปื้อนเลือด ไม่ใช่เพื่อชื่อเสียงและความโด่งดังไปตลอดทุกยุคทุกสมัย

แต่เพื่อคนข้างหลังที่เขาต้องการปกป้อง

หากแคว้นหนานเย่ล่มสลาย พวกเขาจะกลายเป็นกลุ่มเชลยศึก และจะมีเพียงคนที่คิดน้อยเท่านั้นที่จะสมรู้ร่วมคิดกับศัตรูต่างแคว้นเพื่อจัดการกับแผ่นดินของตนเอง

เป็นความโง่เขลาที่เกินจะเยียวยา

เย่เสวียนถิ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 623

    ตอนนี้เมืองหลวงของแคว้นหนานเย่ได้เริ่มเตรียมพร้อมสำหรับการทำสงครามแล้วซูชิงอู่มองดูเวลาเพราะเพิ่งได้รับข่าวมาว่าแม่ทัพมู่หรงใกล้จะมาถึงแล้วนางและเย่เสวียนถิงนั่งอยู่ริมหน้าต่างชั้นสองของโรงน้ำชาใกล้ประตูเมือง จากตรงนี้พวกเขาสามารถมองเห็นแม่ทัพมู่หรงเข้ามาในเมืองหลวงได้เย่ชิวหมิงได้จัดขุนนางใหญ่หลายคนไว้รอต้อนรับพวกเขาที่ประตูเมือง นอกจากนี้ องครักษ์ยังได้ทำการกรุยทางให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ เพื่อเป็นการให้เกียรติแม่ทัพมู่หรงเมื่อเวลาผ่านไป เหงื่อบนหน้าผากของเจ้าหน้าที่ทั้งสองที่เฝ้าประตูก็ผุดออกมา พระอาทิตย์ค่อย ๆ เคลื่อนไปทีละน้อย พวกเขารอตั้งแต่เช้ายันบ่ายซูชิงอู่ทั้งดื่มชาทั้งทานอาหาร จากนั้นนางก็นั่งบนเก้าอี้โดยเชิดคางขึ้นแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “มาช้ากว่าที่คาดไว้มาก ดูเหมือนว่าบุตรชายคนโตแห่งตระกูลมู่หรงผู้นี้เองก็คงกังวลมากเช่นกัน”เย่เสวียนถิงยิ้มมุมปาก เขาได้จัดเตรียมองครักษ์ไว้ด้านล่างแล้วเพื่อป้องกันไม่ให้มู่หรงฉางฉวนสร้างปัญหาก่อความวุ่นวายในเมืองหลวงแม้ช่วงนี้เขาจะยุ่งพอสมควร แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นการปรับตัว การฝึกทหารและม้าก็ได้รับการจัดการโดยรองแม่ทัพของเขาดัง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 624

    เขายกมือขึ้นแล้วพูดว่า “ตามข้าเข้าเมืองมา!”เหล่าทหารและกองม้าที่อยู่ด้านหลังเตรียมพร้อมที่จะออกเดินในทันที โดยจ้องมองไปที่ประตูเมืองหลวงอย่างดุดันเจ้าหน้าที่ทั้งสองมองหน้ากันและรีบขวางพวกเขาทันที “ท่านแม่ทัพ หากปราศจากคำสั่งของฝ่าบาท กองกำลังใดใดก็ตามที่ท่านพามาไม่สามารถเข้าไปในเมืองหลวงได้ หากท่านฝ่าฝืนคำสั่งนี้ ก็อาจจะ…”ครู่ต่อมา จู่ ๆ เขาก็ควบม้าไปข้างหน้าสองสามก้าว มาหยุดอยู่ตรงหน้าเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้พูด พลางวางหอกในมือให้ตรงกับคอของอีกฝ่าย“จะเกิดอะไรขึ้นหากข้าผู้นี้ฝ่าฝืนคำสั่งรึ?”“ก็…”เจ้าหน้าที่ผู้นั้นตกใจมากจนไม่สามารถพูดประโยคที่สมบูรณ์ได้ในเวลานี้เมื่อเห็นความขี้ขลาดของอีกฝ่าย มู่หรงฉางฉวนก็แค่นเสียงเย็น “เป็นเพียงคนไร้ประโยชน์ แต่กลับกล้ามาขวางทางข้าผู้นี้!”เขากำลังจะออกคำสั่งอีกครั้ง แต่ทันใดนั้นกลุ่มองครักษ์ที่เย่เสวียนถิงได้เตรียมไว้ล่วงหน้าก็มาขวางทางเขาเอาไว้แม้จะมีคนไม่มากนัก แต่รัศมีของคนเหล่านี้ก็ไม่ได้ดูอ่อนแอซึ่งแตกต่างจากจินตนาการของมู่หรงฉางฉวนที่คิดเกี่ยวกับองครักษ์ที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงคนเหล่านี้มีพลังกายที่ยอดเยี่ยม ทั้งยังไม่มีความกลั

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 625

    สิ่งที่มู่หรงฉางฉวนทำคือความพยายามที่จะก่อกบฏหากไม่แสดงอำนาจบอกให้เขารู้ถึงความร้ายแรง เกรงว่าเขาอาจจะทำให้สถานการณ์ในเมืองหลวงพลิกผันขึ้นมาได้มู่หรงฉางฉวนใบหน้าเปลี่ยนสีเมื่อได้ยินคำยั่วยุของเย่เสวียนถิงเขาได้ยินเกี่ยวกับชื่อเสียงของเย่เสวียนถิงและหวาดกลัวในกิตติศัพท์เทพเจ้าแห่งสงครามเล็กน้อยแต่เมื่อนึกถึงอาการบาดเจ็บที่ขาจนกลายเป็นความพิการของอีกฝ่าย ซึ่งคงจะทำให้อ่อนแอลงกว่าเดิมอย่างแน่นอน นอกจากนี้เย่เสวียนถิงยังได้รับการประคบประหงมในเมืองหลวงมานานแล้วและอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจับดาบอย่างไร...เมื่อคิดได้เช่นนั้น อารมณ์ของเขาก็ค่อย ๆ สงบลง และเขาก็จับหอกไว้มั่นอีกครั้ง “เอาล่ะ ให้ข้าได้สัมผัสกับพลังของท่านอ๋องเสวียนเสียหน่อย!”ยามที่กองทัพต่อสู้กัน แม่ทัพจากทั้งสองฝั่งจะต่อสู้กันเพียงลำพัง และคนอื่น ๆ จะต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวนี่คือการต่อสู้แห่งศักดิ์ศรีของแม่ทัพทั้งสองบรรดาคนที่อยู่ด้านหลังมู่หรงฉางฉวนถอยออกไปเล็กน้อย ส่วนเหล่าองครักษ์ก็ขยับขยายพื้นที่ตรงหน้าประตูเมืองเพื่อให้มีที่เพียงพอสำหรับทั้งสองคนขณะที่เย่เสวียนถิงถือหอกอยู่ในมือ สายตาของเขาเย็นชาและคมปลาบ ไ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 626

    เมื่อซูชิงอู่เห็นภาพตรงหน้าก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะ “สู้ไม่ได้ก็บอกว่าสู้ไม่ได้สิ จะมากลัวเสียหน้าทำไม”มู่หรงฉางฉวนจะโจมตีอีกครั้ง นี่คือวิธีการเผชิญหน้ากันบนหลังม้า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าในช่วงเวลานั้นร่างกายกับม้าจะร่วมมือกันได้ดีเพียงใดหากสามารถร่วมมือกันได้ดี พวกเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงโจมตีนั้นจะมากกว่าตอนที่ตัวคนยืนอยู่บนพื้นหลายเท่าคราวนี้ไม่มีใครพยายามหลบและสกัดกั้น หอกทั้งสองเข้าโรมรันกันในทันทีเย่เสวียนถิงใช้แรงช่วงเอวกดแขนลงและใช้ประโยชน์จากแรงที่ม้าชนกัน เขาได้ยินเสียงดังเป๊าะ เป็นหอกในมือของมู่หรงฉางฉวนที่หักกระจาย!มันถูกหักออกเป็นสามส่วน!ก่อนที่มู่หรงฉางฉวนจะได้โต้ตอบ เขาก็ถูกเตะเข้าที่หน้าอกและหล่นลงจากหลังม้ามู่หรงฉางฉวนกลิ้งตัวเพื่อลดโอกาสบาดเจ็บ เขากลิ้งตัวอยู่บนพื้นหลายตลบ แต่เมื่อเขาลุกขึ้นปลายหอกก็ถูกกดมาที่คอแล้วเหตุการณ์นั้นตกทำให้รอบข้างอยู่ในความเงียบทันใดนั้น องครักษ์ทุกคนก็ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน“เยี่ยม!”“ท่านอ๋องช่างไร้เทียมทาน!”เสียงกู่ร้องที่ชวนให้หูหนวกเหล่านั้นทำเอามู่หรงฉางฉวนหน้าซีดบรรดาท

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 627

    จะไม่คุกเข่าก็ไม่ได้ เพราะเหล่าทหารของเขาทั้งหมดตกอยู่ในกำมือของคู่ต่อสู้แล้วเย่เสวียนถิงเก็บหอกแล้วพูดกับเซียวเฝิงที่ติดตามมา “เจ้าให้คนนำเหล่าทหารและม้าไปไว้ที่ฮวยเฉิงแล้วรอข่าวจากข้า”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวเฝิงรับคำสั่งทันทีเขาลงมือสั่งคนประมาณร้อยคน จากนั้นจึงขี่ม้าไปต่อหน้าคนเหล่านั้น “ขึ้นมาแล้วมุ่งหน้าไปยังฐานประจำการในฮวยเฉิง!"“ขอรับ!”ทหารและม้านับหมื่นที่มู่หรงฉางฉวนนำมาทั้งหมดถูกเซียวเฝิงคุมตัวไป กองทัพที่แข็งแกร่งค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไป และเงาร่างแห่งความมืดก็ค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากเมืองหลวงมุมปากของมู่หรงฉางฉวนกระตุก เขาลุกขึ้นยืนอย่างไม่แยแส คาดไม่ถึงว่าการกลับมาในครั้งนี้ เขาจะไม่เพียงล้มเหลวในการสร้างอำนาจของตนเท่านั้น แต่ยังต้องมอบคนเหล่านั้นทั้งหมดให้กับเย่เสวียนถิงด้วยเมื่อเห็นทุกคนรอบตัวเขาจากไป มู่หรงฉางฉวนก็ไม่คิดที่จะต่อต้าน เขาเดินตามเจ้าหน้าที่เข้าวังไปด้วยสีหน้าเย็นชาซูชิงอู่ที่เฝ้าดูการแสดงใหญ่ที่ชั้นบนเผยรอยยิ้มกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ นางจิบชาแล้วลุกเดินลงไปยังชั้นล่างเย่เสวียนถิงกำลังรอนางอยู่ที่ประตูซูชิงอู่ยิ้มและกล่าวว่า “เมื่อครู่ท่าน

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 628

    “ฝ่าบาท กระหม่อมยินดีสละชีพเพื่อแคว้นหนานเย่และปกป้องชายแดนของแคว้นหนานเย่พ่ะย่ะค่ะ!”“ข้าเข้าใจเจ้า แต่ข้าตัดสินใจเรื่องนี้แล้ว ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องพูดอะไรไปมากกว่านี้”มู่หรงฉางฉวนรู้สึกขนลุกไปชั่วขณะหนึ่งแม้เขาจะเตรียมใจไว้แล้วก่อนที่จะกลับมา แต่ตอนนี้เมื่อเขาได้ยินฮ่องเต้เฒ่าตรัสคำดังกล่าวด้วยสองหูของตัวเอง แววตาของเขาก็สั่นสะท้านโดยไม่สมัครใจ“ฝ่าบาท กระหม่อม...”“เจ้าจะไม่ให้หรือ?”ทันใดนั้นฮ่องเต้เฒ่าก็ตรัสถามกลับ น้ำเสียงของพระองค์เต็มไปด้วยแววอันตรายมู่หรงฉางฉวนสับสนและรีบโน้มตัวลงทำความเคารพทันที “ให้พ่ะย่ะค่ะ แต่เรื่องที่สำคัญคือตอนนี้ตราพยัคฆ์ไม่ได้อยู่ที่กระหม่อม โปรดขอเวลาให้กระหม่อม แล้วกระหม่อมจะนำตราพยัคฆ์มามอบให้ภายในสามวันอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้เฒ่าทรงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าเล็กน้อย “ได้ เช่นนั้นข้าจะให้เวลาเจ้าสามวัน”มู่หรงฉางฉวนโค้งคำนับทำความเคารพ “หากไม่มีอะไรแล้ว กระหม่อมขอทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”“ไปเถิด”ฮ่องเต้เฒ่าทรงมีท่าทีร้อนรนมู่หรงฉางฉวนถอยกลับไปที่ประตูพระตำหนักจินหลวน จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไป ในที่สุดความรู้สึกหดหู่อันรุนแรง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 629

    แน่นอนว่าเย่เสวียนถิงเข้าใจว่าซูชิงอู่หมายถึงอะไร ไม่นานมานี้นางได้เล่าทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเอง ในเมื่อนางรู้ นั่นหมายความว่านางต้องรู้เรื่องนี้มาจากชีวิตชาติก่อนเป็นความจริงอย่างแน่นอนและคำพูดของนางก็ทำให้คนฟังเข้าใจใจความสำคัญได้อย่างง่าย ๆ ทำให้พวกเขาสามารถเตรียมการล่วงหน้าได้แม้ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์มาก แต่เย่เสวียนถิงก็ไม่อยากให้ซูชิงอู่จำชีวิตชาติก่อนได้เขารู้สึกเป็นทุกข์เสมอเมื่อได้ยินและเขายังรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถปกป้องซูชิงอู่ได้อย่างเหมาะสมเย่เสวียนถิงรู้ดีว่าแม้อาอู่จะซ่อนอะไรหลายอย่างไว้และไม่บอกเขา แต่นางก็ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากมาย และเหตุผลของเรื่องทั้งหมดนี้คือ...เขาไม่มีกำลังมากพอ...เนื่องจากเขาไม่มีกำลังเขาจึงถูกฆ่าเนื่องจากเขาไม่แข็งแกร่งพอ เขาจึงไม่สามารถปกป้องนางได้สิ่งเหล่านั้นที่เขาทำได้ไม่ดีในชาติก่อนจะต้องทำอย่างระมัดระวังมากขึ้นในชาตินี้ และเขาจะไม่มีวันทำให้ตัวเองต้องเสียใจอีกครั้งเย่เสวียนถิงหลุบตาลง ดวงตาของเขาขรึมขึ้นเรื่อย ๆ และเขาพูดอย่างเคร่งเครียด “ไปส่งจดหมายถึงเจ้าเมืองให้ข้าหน่อย”องครักษ์ลำดับที่สิบเจ็ดตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากน

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 630

    เขาหัวเราะแล้วพูดว่า “มันดึกแล้ว ข้าจะผลัดผ้าให้พระชายาน่ะ”“???”ซูชิงอู่คาดไม่ถึงว่าจะได้ยินประโยคเช่นนี้ แก้มของนางจึงกลายเป็นสีแดงทันทีแม้ซูชิงอู่จะรู้ว่าเย่เสวียนถิงจงใจเปลี่ยนเรื่อง แต่นางก็ไม่ต้องการที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องงานต่อไปแน่นอนว่านางเต็มใจที่จะให้ความร่วมมือ และนางก็เต็มใจอย่างยิ่งที่จะช่วยเขาบรรเทาความกดดันในใจนางรู้อยู่เสมอว่าเย่เสวียนถิงต้องการปกป้องนางกับลูก ๆ และทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างเกราะป้องกันสำหรับพวกเขาซูชิงอู่ใช้มือทั้งสองข้างกอดคอของเขาเอาไว้ แม้แก้มของนางจะแดงจนเหมือนเลือดจะหยด แต่นางก็รวบรวมความกล้าที่จะเงยหน้าและโต้ตอบอย่างกระตือรือร้น……ท้องฟ้ามืดมิดราวกับหมึกสีเข้ม ฮ่องเต้เฒ่าทรงประทับอยู่บนเตียงแล้วขณะนั้น ขันทีหนุ่มคนหนึ่งเดินก้มหน้าเข้ามาจากประตูแล้วพูดด้วยความเคารพไปทางด้านในว่า “ฝ่าบาท กุ้ยเฟยขอเข้าเฝ้าพระองค์ นางกล่าวว่า...ว่ามีบางสิ่งที่สำคัญมากพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้เฒ่าดูเหมือนจะได้ยินดังนั้นจึงหันไปเล็กน้อยพระเนตรของพระองค์ขุ่นมัวและฟุ้งซ่านเล็กน้อยหลังจากได้ยินการเคลื่อนไหว ทรงเลิกคิ้วเบา ๆ“เรื่องสำคัญอะไร? ให้นางเข้ามา”“พ่

บทล่าสุด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status