แชร์

บทที่ 630

ผู้เขียน: วิ๋นเจิง
เขาหัวเราะแล้วพูดว่า “มันดึกแล้ว ข้าจะผลัดผ้าให้พระชายาน่ะ”

“???”

ซูชิงอู่คาดไม่ถึงว่าจะได้ยินประโยคเช่นนี้ แก้มของนางจึงกลายเป็นสีแดงทันที

แม้ซูชิงอู่จะรู้ว่าเย่เสวียนถิงจงใจเปลี่ยนเรื่อง แต่นางก็ไม่ต้องการที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องงานต่อไป

แน่นอนว่านางเต็มใจที่จะให้ความร่วมมือ และนางก็เต็มใจอย่างยิ่งที่จะช่วยเขาบรรเทาความกดดันในใจ

นางรู้อยู่เสมอว่าเย่เสวียนถิงต้องการปกป้องนางกับลูก ๆ และทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างเกราะป้องกันสำหรับพวกเขา

ซูชิงอู่ใช้มือทั้งสองข้างกอดคอของเขาเอาไว้ แม้แก้มของนางจะแดงจนเหมือนเลือดจะหยด แต่นางก็รวบรวมความกล้าที่จะเงยหน้าและโต้ตอบอย่างกระตือรือร้น

……

ท้องฟ้ามืดมิดราวกับหมึกสีเข้ม ฮ่องเต้เฒ่าทรงประทับอยู่บนเตียงแล้ว

ขณะนั้น ขันทีหนุ่มคนหนึ่งเดินก้มหน้าเข้ามาจากประตูแล้วพูดด้วยความเคารพไปทางด้านในว่า “ฝ่าบาท กุ้ยเฟยขอเข้าเฝ้าพระองค์ นางกล่าวว่า...ว่ามีบางสิ่งที่สำคัญมากพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้เฒ่าดูเหมือนจะได้ยินดังนั้นจึงหันไปเล็กน้อย

พระเนตรของพระองค์ขุ่นมัวและฟุ้งซ่านเล็กน้อยหลังจากได้ยินการเคลื่อนไหว ทรงเลิกคิ้วเบา ๆ

“เรื่องสำคัญอะไร? ให้นางเข้ามา”

“พ่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 631

    แม้ในตอนแรกนางจะคิดว่าฮ่องเต้เฒ่ากำลังแสร้งทำ ไม่คาดคิดเลยว่าจะเป็นเรื่องจริงฮ่องเต้เฒ่าคลุ้มคลั่งและขว้างกาน้ำชาใส่นาง ทำให้เจียวกุ้ยเฟยตกใจมากจนนางต้องรีบออกจากห้องไป หลังนางออกมาได้ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพียงแต่เดินได้ไม่กี่ก้าว นางก็ตัวแข็งทื่อซูเฟยพร้อมนางกำนัลอาวุโสสองสามคนกำลังเดินไปที่พระที่นั่งหย่างซินเตี้ยน พร้อมกล่องอาหารในมือซูเฟยตกใจเล็กน้อย เมื่อเห็นเจียวกุ้ยเฟยออกมาด้วยท่าทีรีบร้อนและเปื้อนไปด้วยคราบชา จึงเลิกคิ้วขึ้น“กุ้ยเฟย ดึกขนาดนี้แล้ว ท่านมาเยี่ยมฝ่าบาทหรือ?”เจียวกุ้ยเฟยรีบจัดเสื้อผ้าของตนและพยายามรักษาอริยาบถให้สง่าที่สุด "ทำไมหรือ น้องหญิงมาเยี่ยมฝ่าบาทได้ แล้วข้าทำไม่ได้หรือ?"เมื่อได้ยินสิ่งนี้ซูเฟยก็หรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วยิ้ม “แน่นอนว่าไม่ใช่เช่นนั้น เพียงแต่เห็นกุ้ยเฟยดูยุ่งเหยิงเพียงนี้ แม้แต่เสื้อผ้าก็ยังเปียกโชก แปลว่าฮ่องเต้ทรงไม่พอพระทัย ท่านรู้ดีว่าช่วงนี้ฮ่องเต้ทรงประชวร กุ้ยเฟยอย่าทำให้พระวรกายยิ่งทรุดลงไปอีกเลย”เปลือกตาของเจียวกุ้ยเฟยกระตุก นางขี้เกียจเกินกว่าจะเสวนากับซูเฟยเช่นนั้นนางจึงยืดตัวตรงและเดินออกไปทันทีซูเฟยไม่ได้หยุดนาง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 632

    นางปรนนิบัติฮ่องเต้เฒ่าให้นอนหลับ สายตาเหลือบไปเห็นเศษกระเบื้องที่แตกอยู่บนพื้น ขณะนั้นมีขันทีน้อยเข้ามาทำความสะอาดพอดีเม็ดยารอบ ๆ ขวดเครื่องเคลือบถูกบดจนแหลก และขันทีน้อยได้กวาดขึ้นมาแล้ว ซูเฟยฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหยุดขันทีคนนั้นไว้ และก้มตัวใช้ผ้าเช็ดหน้ารวบรวมผงยาบางส่วนขึ้นมาขันทีน้อยสับสน "ซูเฟย..."ซูเฟยกล่าวว่า "ไม่เป็นไร ออกไปเถอะ""พ่ะย่ะค่ะ!"ขันทีน้อยออกจากห้อง และซูเฟยก็นำผ้าเช็ดหน้ากลับไปยังตำหนักของนางทันทีเย่เสวียนถิงและซูชิงอู่บังเอิญอยู่ในวังหลวงในคืนนี้พอดี นางจึงส่งคนไปตามให้พวกเขามาที่ตำหนักของนางหลังจากรับฟังเรื่องจากนางกำนัล ซูชิงอู่และเย่เสวียนถิงก็มาถึงตำหนักจิ้งอี๋ของซูเฟยอย่างรวดเร็วที่นึ่เงียบและสงบเช่นเคย และไม่มีอะไรไรแตกต่างไปจากเมื่อก่อน ซูชิงอู่นั่งตรงข้ามกับซูเฟยและถามขึ้นเบา ๆ "ซูเฟยเรียกหม่อมฉันกับท่านอ๋องมาด้วยเหตุใดหรือเพคะ?"ซูเฟยไม่เสียเวลา วางผ้าเช็ดหน้าที่มีผงยาลงบนโต๊ะ "ชิงอู่ นี่เป็นยาชนิดใดหรือ? ข้าพบมันในห้องของฮ่องเต้ ก่อนหน้านั้นพระองค์ได้พบกับกุ้ยเฟยพอดี"เมื่อได้ยินเกี่ยวข้องกับกุ้ยเฟย ซูชิงอู่ก็ยกมือรับผ้าเช็ดหน้า

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 633

    คำพูดของเย่เสวียนถิงทำให้ซูชิงอู่และซูเฟยอดไม่ได้ที่จะหันมามองเขาซูชิงอู่รู้ดีว่าเย่เสวียนถิงไม่เคยเป็นคนที่จะนั่งรอความตายอยู่เฉย ๆ ยิ่งกว่านั้น ช่องทางในการได้รับข่าวสารของเขายังมากกว่านางเสียอีกปกติแล้วนางจะใช้ความทรงจำจากชาติที่แล้วและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชาตินี้ในการวิเคราะห์ ส่วนเรื่อง อื่นๆ ก็ได้มาจากการสืบสวนขององครักษ์เงาสิบเจ็ดเช่นนั้น เย่เสวียนถิงจึงต้องรู้ความจริงเร็วกว่านางแน่นอนยังไม่ทันที่ซูชิงอู่จะถาม เย่เสวียนถิงก็ตอบคำถามของนางแล้วเขาเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา "เป็นองค์ชายสามจากแคว้นฉีตะวันออกน่ะ"ซูชิงอู่คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ นางเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจและมองไปที่เย่เสวียนถิง "ท่านหมายถึงฉีเทียนหยวนหรือ?"เย่เสวียนถิงพยักหน้าเล็กน้อยและอธิบายอย่างไม่รีบร้อนว่า "เขานั่นแหละ"ซูชิงอู่สงสัยว่า "เขาไม่ได้มาจากแคว้นหนานเย่แล้วเหตุใดเขาถึงเข้ามาแทรกแซงการต่อสู้ภายในของแคว้นหนานเย่เล่า ยิ่งกว่านั้นเขาควบคุมเจียวกุ้ยเฟยได้อย่างไร"นางเคยพบกับฉีเทียนหยวนมาก่อน และไม่ได้สนใจเขามากนักแต่การได้ยินเย่เสวียนถิงเอ่ยถึงชื่อของเขาในวันนี้ ทำให้นางรู้สึกกังวล

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 634

    นอกจากนี้นี่คือคนที่นางสามารถเลือกได้ เช่นนั้นแน่นอนว่าฉีหว่านเอ๋อร์จะถูกใช้เป็นหมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ฉีเทียนหยวน...ไม่ใช่กระต่ายขาวตัวน้อย แต่เป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์เขาเป็นตัวการอยู่บื้องหลังทุกเรื่องเย่เสวียนถิงมองซูชิงอู่กำลังครุ่นคิด รู้ดีว่าหากเพียงบอกเป็นนัยเล็กน้อย ซูชิงอู่ก็จะเข้าใจทันทีนางฉลาดเพียงนี้ หากไม่สามารถคาดเดาเรื่องนี้ได้ ก็เพราะนางไม่รู้จักองค์ชายสามของแคว้นฉีตะวันออกดีพอ“ฉีเทียนหยวนมีเจตนาแอบแฝงถึงได้ส่งน้องสาวตนเองไปแต่งงานกับผู้ที่มีโอกาสสูงที่สุดในการได้เป็นรัชทายาท หาไม่เขาก็คงแต่งงานกับองค์หญิงเองเพื่อจุดประสงค์อื่น”ซูชิงอู่ทำจิตใจให้แจ่มใส และเชื่อมโยงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้เข้าด้วยกันทันใดนั้นนางก็จำข่าวลือบางอย่างเกี่ยวกับองค์ชายแห่งแคว้นฉีตะวันออกได้สตรีหลายคนที่แต่งงานกับฉีเทียนหยวนล้วนเสียชีวิตไปหมด...หลังจากที่องค์หญิงสี่เย่หมิงเยว่ได้ยินข่าวลือนี้ จึงวางแผนให้คนส่งภาพวาดขององค์หญิงห้าไปให้ฉีเทียนหยวน เพื่อที่เขาจะได้อภิเษกกับองค์หญิงห้าไปองค์หญิงห้าไม่ต้องการแต่งงาน เช่นนั้นจึงขอให้นางหาวิธีช่วยให้อีกฝ่ายเลิกล้มความตั

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 635

    ซูเฟยสับสนกับปริศนาที่ทั้งสองพูดคุยกันอย่างสิ้นเชิง นางทำได้เพียงลดสายตาลงและดื่มชาโดยแสร้งทำเป็นว่านางไม่ได้ยินอะไรเลยหลังจากที่ซูชิงอู่และเย่เสวียนถิงคุยกันเรื่องผู้บงการเบื้องหลังเสร็จแล้ว นางก็พูดอีกครั้ง "เสวียนถิง ตอนที่แม่อยู่กับเสด็จพ่อของเจ้า ได้ยินบางอย่างเกี่ยวกับแม่แท้ ๆ ของเจ้า เซี่ยโหวชิ่น"เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย สีหน้าของเขาประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัดจู่ ๆ ซูเฟยก็หยิบต่างหูออกจากแขนเสื้อของนางมันเป็นแบบที่สตรีทั่วไปสวมใส่ แต่มีไข่มุกสดใสห้อยอยู่ งดงามและกลมมน เพียงมองดูก็รู้ว่าเป็นของล้ำค่าไข่มุกมีขนาดประมาณนิ้วหัวแม่มือ เป็นของธรรมชาติแท้ซึ่งหายากที่มีรูปลักษณ์ดีเช่นนี้“นี่เป็นของที่ได้มาจากฝ่าบาท เป็นของต่างหน้าแม่เจ้า เจ้าเองก็รู้ฝ่าบาทประชวรและมักจะสับสน ทรงคิดว่าแม่เป็นมารดาของเจ้า ทรงพร่ำพูดหลายเรื่องและมอบสิ่งนี้ให้แม่”เย่เสวียนถิงยังคงใส่ใจเกี่ยวกับของต่างหน้ามารดาตนเขายืนขึ้นรับต่างหูไปถือไว้อย่างเบามือแม้ว่าจะเหลือต่างหูเพียงข้างเดียว แต่มันก็มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเขา"ขอบพระทัยเสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ"เมื่อซูเฟยได้ยินคำว่าเสด็จแม่ ซูเฟยก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 636

    ซูชิงอู่พยักหน้าเล็กน้อย "หม่อมฉันจะอยู่กับพระนางด้วย"คืนนั้นทั้งสองอยู่ในพระราชวัง แต่เช้าวันรุ่งขึ้นเย่เสวียนถิงก็ออกจากวังไปขณะนี้กำลังระดมกำลังทหาร กำลังคนก็เป็นสิ่งจำเป็นในทุกที่ เย่เสวียนถิงมีหน้าที่รับผิดชอบในการระดมการจัดทัพและส่งกำลังพลซูชิงอู่เดินไปรอบ ๆ พระราชวังกับซูเฟยในยามเช้า จนกระทั่งถึงเที่ยงวัน ในที่สุดก็ได้พบกับชายาองค์รัชทายาท ฉีหว่านเอ๋อหญิงสาวร่างกายอ่อนแอเป็นทุนเดิม และยิ่งอ่อนแอลงเพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อไม่นานมานี้ เช่นนั้นเมื่อมาที่ตำหนักจิ้งอี๋ นางจึงพานางกำนัลมาด้วยหลายคนไปด้วยฉีหว่านเอ๋อร์ยอบกายคำนับต่อซูเฟยและซูชิงอู่อย่างอ่อนโยน "คารวะซูเฟยและชายาเสวียนแล้ว"ซูชิงอู่คำนับตอบ จากนั้นเดินไปช่วยพยุงนางให้นั่งลงในห้องช่วงนี้อากาศข้างนอกเริ่มร้อน ฝนไม่ตกมาหลายวันแล้ว ฤดูแล้งใกล้เข้ามา ในช่วงนี้ความร้อนทำให้ผู้คนรู้สึกกระวนกระวายใจฉีหว่านเอ๋อร์รู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อนางเผชิญหน้ากับซูเฟยและซูชิงอู่ ทันทีที่นางนั่งลง ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า "ซูเฟยเรียกหาหม่อมฉันมา มีเรื่องอันใดหรือไม่เพคะ?"ซูเฟยยิ้มเบา ๆ ซึ่งทำให้ฉีหว่านเอ๋อร์รู้สึกผ่อนคลายมา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 637

    ซูชิงอู่เกือบจะง่วงนอนในตอนแรก แต่ตอนนี้นางก็ตาสว่างขึ้นมาทันทีต้องยอมรับเลยว่า ความสามารถในการเจรจาของซูเฟยนั้นชั้นยอดมันอ่อนโยนราวกับสายฝนพรำที่ตกลงมาโดยไม่รู้ตัว จนฉีหว่านเอ๋อร์ซึ่งมีนิสัยที่ค่อนข้างอ่อนโยนและขี้อายเปิดปากพูดโดยไม่รู้ตัวเมื่อฉีหว่านเอ๋อร์ได้ยินคำถามของนางและเห็นแววตาที่เป็นกังวลของซูเฟย นางรู้สึกว่าหากตนไม่พูดอะไรเลยก็จะดูเหมือนว่าอวดดีเกินไปและนอกเหนือจากเรื่องที่พี่ชายของนางกำชับไว้ว่าอย่าพูด นางคิดว่าการพูดถึงเรื่องที่คนอื่นก็รู้กันอยู่แล้วบ้างย่อมไม่ใช่ปัญหานางเงียบไปสักพัก ก่อนเรียบเรียงคำพูด แล้วเอ่ยว่า"เสด็จพ่อมีบุตรชายเก้าคนและบุตรีอีกแปดคนแม้ว่าอายุจะต่างกันมาก แต่ในปีที่ผ่านมาห้าคนในจำนวนทั้งหมดกลับสิ้นไปแล้ว...""อะไรนะ?"ซูเฟยตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งนี้นางอาศัยอยู่ในวังหลังมาเป็นเวลานา และไม่ค่อยรู้เรื่องโลกภายนอกมากนัก ไม่ต้องพูดถึงความลับในวังของแคว้นฉีตะวันออกเลยเมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ สีหน้าของฉีหว่านเอ๋อร์ก็ดูเคร่งขรึมเล็กน้อย ใบหน้าของนางซีดเซียวมาก“เพคะ พวกเขาทั้งหมดตายอย่างแปลกประหลาด ไม่มีเสียงไม่มีร่องรอย ตอนนี้พี่น้องคนอื่น ๆ ของห

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 638

    ซูชิงอู่ยิ้ม "แล้วทุกคนสงสัยว่าเสด็จพี่ใหญ่ของเจ้าทำเรื่องนี้แน่ ๆ เหมือนกันใช่หรือไม่?"ฉีหว่านเอ๋อร์ตกตะลึงนางมีนิสัยผ่าเผย แต่ไม่ได้โง่เมื่อซูชิงอู่ถามคำถามนี้ นางก็คิดตามและรู้สึกว่ามันเป็นเช่นนั้นจริง ๆเสด็จพี่ใหญ่มักจะถูกผู้คนระแวดระวังและสงสัยมาตลอด ทุกคนคิดว่าเขาคือผู้สังหารเหล่าโอรสธิดา โชคร้ายที่ไม่มีหลักฐานแม้แต่เสด็จพ่อก็ยังลิดรอนอำนาจส่วนใหญ่ของเขาไป และกักบริเวณเขาไว้ในจวนซูชิงอู่ยิ้มและพูดว่า "ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากเขาต้องการเป็นฮ่องเต้ คงยากพอ ๆ กับปีนขึ้นสวรรค์ เว้นเสียแต่เขาจะก่อกบฏ ไม่เช่นนั้นเสด็จพ่อของเจ้าคงไม่ให้โอกาสเขาแน่"รูม่านตาของฉีหว่านเอ๋อร์หดตัวลงทันทีความคิดที่สับสนก่อนหน้านี้ของนางก็พลันกระจ่างขึ้นทันที“พระชายาเสวียน ท่านจงใจยั่วยุให้ข้าพูดถึงเรื่องนี้ใช่หรือไม่?”ซูชิงอู่และซูเฟยมองหน้ากันซูเฟยหัวเราะเบา ๆ และนั่งข้างนางแล้วพูดเบา ๆ "ข้าและชายาเสวียนไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่เป็นห่วงเจ้าเล็กน้อย เหตุผลที่ข้าถามสิ่งเหล่านี้ก็เพราะข้ามีข้อสงสัยบางอย่างเกี่ยวกับบางสิ่ง เช่นนั้นจึงต้องการยืนยันให้แน่ใจก็เท่านั้น”“พวกท่านสงสัยว่าเป็

บทล่าสุด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status