Share

บทที่ 54

Author: วิ๋นเจิง
ตรงหน้าของนางคือหีบหยกแถวหนึ่ง โดยที่หีบแต่ละใบมีสมุนไพรที่ได้รับการเก็บรักษาเป็นอย่างดี

มีสมุนไพรอยู่ทุกชนิด นับเป็นสมบัติที่ยากจะพบได้ในตลาด ลำพังแค่ต้นเดียวก็มีมูลค่าถึงหลายพันตำลึงทองแล้ว!

ซูชิงอู่พลันดวงตาแดงก่ำขึ้นมาทันที

พอนางนึกได้ว่าสุดท้ายของพวกนี้ล้วนถูกหลิงซื่อแลกเปลี่ยนเป็นสินเดิมให้แก่ซูเชียนหลิง โทสะระลอกหนึ่งก็อดมิได้ที่จะปะทุขึ้นมา

นางอยากจะสับทั้งสองคนนี้ให้เป็นชิ้น ๆ นัก แต่นางรู้สึกว่าให้พวกนางตายเช่นนั้นคงจะง่ายดายเกินไปจริง ๆ

ถ้าหากนางมิได้ทรมานพวกนางให้มากพอ นางจะบรรเทาความเกลียดชังลงได้อย่างไรกัน?

ซูชิงอู่ก้าวเข้ามาสัมผัสหีบหยก ข้าวของเหล่านี้ล้วนเป็นของฟางอี๋ซิน เช่นเดียวกับตำรับโอสถอันเป็นสมบัติที่ยากจะพบเจอในพิภพ

นางจึงเอ่ยขึ้นมาว่า "เสวียนถิง ข้าอยากจะเอาของพวกนี้กลับไปด้วย"

"ได้สิ"

เย่เสวียนถิงสั่งให้องครักษ์ที่อยู่ข้างนอกเข้ามาขนย้ายข้าวของออกไป

หีบใบแล้วใบเล่าถูกใส่ลงไปในลังไม้ เมื่อซูชิงอู่เห็นว่าในที่สุดพวกมันก็หวนคืนสู่เจ้าของที่แท้จริง นางก็มองด้วยสายตาพึงพอใจอย่างล้ำลึก

จากนั้นนางก็เดินไปยังหีบอีกใบซึ่งมีอัญมณีล้ำค่านับไม่ถ้วน ก
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 55

    "โอ๊ย เจ็บเหลือเกิน หยุดนะ!" หลิงซื่อกรีดร้อง ทว่านางมิใช่คู่ประมือของซูชิงอู่ ต่อให้นางรับใช้ข้างกายทั้งสองคนคิดจะเข้ามาช่วย แต่พวกนางก็มิอาจขวางเอาไว้ได้ ซูชิงอู่ดึงปิ่นปักผมทองคำหลายเล่มที่อยู่บนศีรษะของอีกฝ่ายเอาไว้ในมือ เส้นผมบางส่วนของหลิงซื่อยังพันอยู่รอบปิ่นปักผม ผมของนางยุ่งเป็นกระเซิงแล้วล้มลงกับพื้น สิ้นสภาพราวกับขอทานผู้หนึ่ง ซูชิงอู่เหลือบมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชาพร้อมแววยิ้มเยาะที่ผุดขึ้นมาจากมุมปากของนาง จากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า "ท่านอ๋อง ไปกันเถอะ" "ซูชิงอู่!" เสียงตะโกนของหลิงซื่อดังสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ทว่ากลับหามีผู้ใดสนใจนาง ราวกับว่าทั่วทั้งจวนอัครเสนาบดีถูกรื้อค้น และหลงเหลือเอาไว้เพียงของไร้ค่า ซูหัวจิ่นแต่งงานออกเรือนและย้ายออกจากจวนอัครเสนาบดีไปแล้ว ฉะนั้นเขาย่อมไม่สนใจว่าจวนอัครเสนาบดีจะลงเอยเช่นใด เขาจะพาซูฉางเซิงไปอยู่ด้วยเป็นการชั่วคราว ส่วนซูเชียนหมิง เขาลำพังตัวคนเดียวทั้งยังประจำการอยู่ในวังหลวงตลอดทั้งปี เขากลับมาเพียงเดือนละครั้งไม่ก็สองครั้งเท่านั้นซึ่งแน่นอนว่าย่อมมิได้ส่งผลกับเขา เมื่อซูชิงอู่เห็นหีบใบใหญ่หลายสิบใ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 56

    เมื่อมีกุญแจดอกนี้ ซูชิงอู่ก็สามารถใช้เงินได้ตามใจ เงินประจำเดือนของบ่าวรับใช้ในตำหนักก็ต้องให้นางอนุมัติจึงจะเบิกถอนได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ยามนี้ซูชิงอู่กุมอำนาจของพระชายาเอาไว้หมดแล้ว หลังจากกลับมาที่เรือนหลัก ซูชิงอู่ก็ตั้งป้ายวิญญาณของมารดาตนเองเอาไว้อีกห้อง จากนั้นก็ตระเตรียมทุกอย่างเพื่อจะได้จุดธูปเซ่นไหว้ทุกวัน จากนั้นนางก็พาตัวแม่นมหลินกลับมาแล้วขังนางเอาไว้ในห้องเก็บฟืนต่อไป เพราะนางรู้สึกว่าอีกฝ่ายคงจะมีความลับซุกซ่อนอยู่ มิหนำซ้ำยังเป็นความลับที่ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าถึงขนาดขอร้องแทนอีกฝ่าย... มิฉะนั้นเมื่อพิจารณาจากอุปนิสัยของฮูหยินผู้เฒ่า นางคงจัดการกับแม่เฒ่าอูที่มาถึงจวนเพื่อวิงวอนขอความเมตตาไปแล้ว ทว่าเรื่องกลับดำเนินมาถึงขั้นที่นางต้องสอดมือเข้ามายุ่งด้วยตนเอง ชะรอยเรื่องนี้คงจะมีเหตุผลอยู่เป็นแน่ ทันทีที่งานวิวาห์สิ้นสุดลง หลังจากกลับถึงตำหนัก วันรุ่งขึ้นเย่เสวียนถิงก็ต้องเดินทางมาเข้าเฝ้าถวายรายงาน จากนั้นข่าวเรื่องที่เมื่อวานนี้จวนอัครเสนาบดีถูกรื้อค้นก็แพร่สะพัดราวกับไฟลามทุ่งโดยมิทราบสาเหตุ ยิ่งไปกว่านั้น สตรีทุกนางของตระกูลซูต่างก็ล้มหมอนนอนเสื่อใน

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 57

    ถึงแม้ว่าซูชิงอู่จะรู้ว่าโจวหรุ่ยมิได้เชิญนางเข้ามาด้วยเจตนาดี แต่ยามที่นางเห็นเย่อวิ๋นถูก็ยังตะลึงงันไปชั่วขณะ ทันใดนั้นนางก็รีบทำสีหน้าตื่นตกใจแล้วหันหลังวิ่งออกไปข้างนอก "ช่วยด้วย มีมือสังหารเจ้าค่ะ!" ทั้งสองคนในห้องต่างตกตะลึงกับท่าทางที่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนไปของซูชิงอู่ ต่อให้เย่อวิ๋นถูนึกถึงฉากที่ได้พบซูชิงอู่มานับไม่ถ้วน เขาก็มิคาดว่าเหตุการณ์จะพลิกผันเช่นนี้ อย่างไรเสียนี่ก็คือจวนเสนาบดีกรมพระคลัง หลังจากได้ยินเสียงตะโกนของซูชิงอู่ บ่าวรับใช้นับไม่ถ้วนก็วิ่งเข้ามาทันที องครักษ์ในจวนเองก็มาถึงประตูเรือนเช่นกัน บรรดาบ่าวรับใช้กับนางรับใช้ที่ซูชิงอู่พามาด้วยต่างรีบเข้ามาล้อมนางเอาไว้ "พระชายา เกิดอันใดขึ้นกระนั้นหรือ!" ซูชิงอู่มีสีหน้าตื่นตระหนก จากนั้นนางก็ชี้มาที่ห้องของโจวหรุ่ยด้วยมือไม้อันสั่นเทาพร้อมสีหน้าซีดเผือด "มะ... เมื่อสักครู่ตอนที่ข้าเดินเข้าห้องมาพร้อมกับคุณหนูโจว จู่ ๆ ข้าก็เห็นบุรุษผู้หนึ่งอยู่ข้างใน อย่างไรเสียแม่นางโจวก็ยังเป็นสตรีที่ยังมิได้ออกเรือน เช่นนั้นจะมีคนแปลกหน้าอยู่ในห้องเช่นนี้ได้อย่างไรกัน? ดังนั้นข้าจึงรู้สึกหวาดกลัวเหลือเกิน..." ทันท

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 58

    ซูชิงอู่ใช่นิ้วหัวแม่มือถูข้อนิ้วเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มที่กดลึกขึ้นเรื่อย ๆ สีหน้าของโจวหรุ่ยพลันแปรเปลี่ยน ยิ่งนางได้ฟังกลับยิ่งรู้สึกกระวนกระวายใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ทันใดนั้นประตูก็เปิดออก บุรุษร่างสูงเพรียวที่มีสีหน้าเย็นชาผู้หนึ่งก้าวเดินออกมาจากข้างใน ตอนนี้ทุกคนต่างตื่นตกใจแล้วสายตาของพวกเขาก็จับจ้องมาที่เขา ฮูหยินผู้เฒ่าแห่งตระกูลโจวรีบแสดงคำนับด้วยท่าทีตื่นตระหนก "ถวายบังคมองค์ชายสามเพคะ!" ฮูหยินโจวเองก็รู้สึกตกตะลึง นางจ้องมองบุรุษที่เดินออกมาจากห้องของบุตรีด้วยสีหน้าตื่นตะลึง นางรู้สึกหวาดกลัวจนตัวสั่นจวนจะล้มลงกับพื้นอยู่รอมร่อ "อะ...องค์ชายสามเสด็จ ขออภัยที่พวกหม่อมฉันมิได้ต้อนรับให้ดีเพคะ..." โจวหรุ่ยกัดริมฝีปากและสีหน้าซีดเผือด ยามนี้ทุกคนในเรือนต่างก็เห็นองค์ชายสามออกมาจากห้องของนาง ซูชิงอู่มิได้ใส่ใจอารมณ์ของทุกคนรอบตัวพลางเอ่ยเสียงดังลั่นขึ้นมาว่า "ที่แท้ก็เป็นองค์ชายสามนี่เอง ข้าก็นึกว่าเป็นมือสังหารหรือโจรเด็ดบุปผาคนใดที่เข้ามาเสียอีก กลางวันแสก ๆ อยู่แท้ ๆ องค์ชายสามก็ลอบเข้ามาในห้องของสตรี ใช่กำลังจะกระทำเรื่องน่าอับอายในหอห้องหรือไม่?" ดวงตาของโจวหร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 59

    ยิ่งฟัง เย่อวิ๋นถูก็ยิ่งโกรธจัด เมื่อก่อนซูชิงอู่มักจะนอบน้อมเอาใจใส่และรอบคอบต่อเขาเสมอมา เขาสั่งให้นางไปทิศตะวันออก นางก็ไม่มีทางไปทิศตะวันตก... ทว่ายามนี้ ดูเหมือนว่านางจะกลายเป็นเม่นที่มีหนามรอบตัว เขาแค่เข้าใกล้นิดเดียว ใบหน้าก็ถูกทิ่มแทงจนได้เลือดเสียแล้ว! เย่อวิ๋นถูเคยได้รับความอัปยศอดสูเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เขาชะงักฝีเท้าพลางข่มกลั้นโทสะที่กำลังปะทุขึ้นมา "ชิงอู่ มาละวางอดีตอันมิน่าอภิรมย์แล้วมาคุยกันดี ๆ เถอะ!" ซูชิงอู่ยิ้มเยาะเย็นชา "ท่านกับข้าหามีสิ่งใดต้องพูดคุยกันอีกไม่" สีหน้าของเย่อวิ๋นถูแสดงความเจ็บปวดออกมา ราวกับซูชิงอู่เป็นสตรีไร้หัวจิตหัวใจที่ทอดทิ้งเขาไป! "อย่างไรเสียหลายปีมานี้พวกเราก็เติบโตขึ้นมาด้วยกัน เจ้าไร้หัวจิตหัวใจถึงขนาดนั้นได้เชียวหรือ?" ซูชิงอู่เลิกคิ้ว "ข้าหามีความรู้สึกให้ท่านไม่ เช่นนั้นจะบอกว่าข้าไร้หัวจิตหัวใจได้อย่างไรกัน?" เย่อวิ๋นถูโกรธจัด "เจ้าสงบสติอารมณ์แล้วพูดคุยกับข้าดี ๆ มิได้หรือ?" ซูชิงอู่ยักไหล่ด้วยท่าทีไม่นำพาใส่ใจ "ข้าใช่ว่าจะมีเวลามาเสวนากับสุนัขให้มากนักหรอกนะ" เมื่อได้ยินวาจาจาบจ้วงของซูชิงอู่ เย่อวิ๋นถ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 60

    นางยกมือข้างหนึ่งปิดปากตนเอง สีหน้าเผยแววประหลาดใจอยู่บ้าง จากนั้นนางก็หลุบตาลงเล็กน้อยพลางเอ่ยถามต่อหน้าทุกคนว่า "อ้อ ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นพี่สะใภ้ของท่าน องค์ชายสามก็มิจำเป็นต้องมอบของขวัญชิ้นใหญ่เช่นนี้ก็ได้ นี่มิใช่วันปีใหม่หรือวันเทศกาลเลย ข้าไม่ตกรางวัลให้ท่านหรอกนะ..." "อันใดนะ ท่านมิอยากลุกขึ้นกระนั้นหรือ? ท่านกำลังขอโทษที่เมื่อสักครู่ล่วงเกินข้าใช่หรือไม่? องค์ชายสามช่างเกรงใจเกินไปแล้วจริง ๆ..." เย่อวิ๋นถูโมโหจนตัวสั่น ทว่าริมฝีปากและฟันกลับชาหนึบจนเขาส่งเสียงไม่ออก หามีผู้ใดทราบไม่ว่ามีเข็มเงินเล่มเล็ก ๆ ซ่อนอยู่ในเล็บมือของซูชิงอู่ เมื่อชีวิตตกอยู่ในเงื้อมมือของผู้อื่น เย่อวิ๋นถูก็ราวกับเนื้อปลาบนเขียงที่พร้อมจะถูกแล่ได้ทุกเมื่อ เจตนาสังหารพลันปะทุขึ้นในใจ นับเป็นครั้งแรกก็ว่าได้ที่เย่อวิ๋นถูคิดจะทรมานคนให้ถึงตาย ซูชิงอู่...ซูชิงอู่! ! เสียงตะโกนของบ่าวรับใช้ที่เคาะหม้อไหอยู่นอกประตูแพร่สะพัดออกไป ดึงดูดความสนใจของผู้สัญจรไปมาให้หยุดมองพลางชี้ไม้ชี้มือมาที่จวนเสนาบดีกรมพระคลัง โจวหรุ่ยร้องไห้หนักเสียจนหายใจแทบไม่ออก ท่าทีแสร้งเป็นมิตรก่อนหน้านี้ที่มีต่อซูชิงอู่

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 61

    หลังจากเย่เสวียนถิงก้าวเท้าพ้นประตู ภาพที่เขาเห็นคือซูชิงอู่คว้าข้อมือของเย่อวิ๋นถูอยู่และเย่อวิ๋นถูที่กำลังคุกเข่าต่อหน้านางเขาหยุดชะงักไปชั่วขณะ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย มองดูเหตุการณ์ด้วยความสับสนเขารู้ดีว่าเย่อวิ๋นถูเป็นคนเช่นไร เขาจะคุกเข่าลงให้นางได้อย่างไร?แม้ว่าเขาจะเป็นเชื้อพระวงศ์ แต่หากไม่ใช่งานประเพณีหรือบางโอกาสที่พิเศษ เขาก็ไม่จำเป็นที่ต้องคุกเข่าลงเช่นนี้เมื่อซูชิงอู่ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้น นางก็หันกลับไปมองทันที จึงได้เห็นเย่เสวียนถิงยืนอยู่ ใบหน้าของนางไร้ซึ่งความกังวลใจ อีกทั้งยังคลี่ยิ้มหวานออกมาด้วยรอยยิ้มนั้นสดใสมากจนผู้คนไม่อาจละสายตาได้ซูชิงอู่ค่อย ๆ ปล่อยมือของนางแล้วก้าวถอยหลังอาการชาของเย่ออวื๋นถูหายไป เขาค่อย ๆ รู้สึกได้ถึงแขนขาของตนเองอีกครั้ง ก่อนจะบีบนวดที่ฝ่ามือและพยายามหยัดกายลุกขึ้นยืนเขามายังจวนซ่างซูอย่างลับ ๆ เพียงลำพัง เช่นนั้นแล้วในเวลานี้จึงไม่มีใครเข้ามารบกวนเขาได้ก่อนที่เย่เสวียนถิงจะทันได้เปิดปากพูด ซูชิงอู่ก็เข้ามาหาเขาอย่างร่าเริง นางเชิดคางขึ้น เอามือไพล่ไว้ด้านหลัง นางดูใสซื่อและไร้เดียงสาทันทีในสายตาของเขา“เสวียนถิง เหตุใดท

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 62

    ดวงตาของเย่อวิ๋นถูดูดุร้าย ความไม่พอใจที่ปรากฏชัดในดวงตาของเขาคล้ายจะเอ่อล้นออกมาเมื่อถูกเปิดเผย เขาเย้ยหยันและพูดขึ้นว่า "ซูชิงอู่มีความรักอันลึกซึ้งต่อข้ามาตลอด ไม่มีทางที่นางจะชอบเจ้า ตราบใดที่ข้าไม่ยอมปล่อยนางไป นางก็จะกลับมาอยู่ข้าง ๆ ข้าคนนี้วันยันค่ำ!"เมื่อซูชิงอู่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ ดวงตาก็เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน“ท้องฟ้าแจ่มใส ดวงอาทิตย์ก็สดใสเช่น ท่านมัวมาฝันกลางวันอะไรอยู่ องค์ชายสาม?”ในอดีตนางเป็นเพียงคนโง่เขลา นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนางถึงถูกคนเจ้าเล่ห์เหล่านี้หลอกลวง!เย่อวิ๋นถูไม่เคยเอ่ยปากว่าชอบนางเลยสักครั้ง แต่นางกลับเข้าใจผิดคิดไปเองว่านางกับเขารักกัน…เมื่อก่อนนางหลงเชื่ออีกฝ่ายอย่างสุดหัวใจเพียงเพราะการกระทำอันคลุมเครือและคำพูดให้ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ของอีกฝ่าย ครานั้นนางแทบจะมอบทั้งหมดของหัวใจให้กับเขาทว่าหากไม่ใช่เพราะพี่ใหญ่ของนางถูกลอบสังหารระหว่างการเดินทางจนทำให้ได้รู้ว่าเย่อวิ๋นถูเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด นางคงจะยอมมอบตำรับยาเกือบทั้งหมดของตระกูลฝางให้เขาไปแล้ว…ซูชิงอู่ไม่ได้ปฏิเสธตัวตนที่โง่เขลาอย่างโงหัวไม่ขึ้นของนางแต่ตอนนี้หัวใจ

Latest chapter

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status