แชร์

บทที่ 58

ผู้แต่ง: วิ๋นเจิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ซูชิงอู่ใช่นิ้วหัวแม่มือถูข้อนิ้วเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มที่กดลึกขึ้นเรื่อย ๆ

สีหน้าของโจวหรุ่ยพลันแปรเปลี่ยน ยิ่งนางได้ฟังกลับยิ่งรู้สึกกระวนกระวายใจมากขึ้นเรื่อย ๆ

ทันใดนั้นประตูก็เปิดออก

บุรุษร่างสูงเพรียวที่มีสีหน้าเย็นชาผู้หนึ่งก้าวเดินออกมาจากข้างใน

ตอนนี้ทุกคนต่างตื่นตกใจแล้วสายตาของพวกเขาก็จับจ้องมาที่เขา

ฮูหยินผู้เฒ่าแห่งตระกูลโจวรีบแสดงคำนับด้วยท่าทีตื่นตระหนก "ถวายบังคมองค์ชายสามเพคะ!"

ฮูหยินโจวเองก็รู้สึกตกตะลึง นางจ้องมองบุรุษที่เดินออกมาจากห้องของบุตรีด้วยสีหน้าตื่นตะลึง นางรู้สึกหวาดกลัวจนตัวสั่นจวนจะล้มลงกับพื้นอยู่รอมร่อ

"อะ...องค์ชายสามเสด็จ ขออภัยที่พวกหม่อมฉันมิได้ต้อนรับให้ดีเพคะ..."

โจวหรุ่ยกัดริมฝีปากและสีหน้าซีดเผือด

ยามนี้ทุกคนในเรือนต่างก็เห็นองค์ชายสามออกมาจากห้องของนาง

ซูชิงอู่มิได้ใส่ใจอารมณ์ของทุกคนรอบตัวพลางเอ่ยเสียงดังลั่นขึ้นมาว่า "ที่แท้ก็เป็นองค์ชายสามนี่เอง ข้าก็นึกว่าเป็นมือสังหารหรือโจรเด็ดบุปผาคนใดที่เข้ามาเสียอีก กลางวันแสก ๆ อยู่แท้ ๆ องค์ชายสามก็ลอบเข้ามาในห้องของสตรี ใช่กำลังจะกระทำเรื่องน่าอับอายในหอห้องหรือไม่?"

ดวงตาของโจวหร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 59

    ยิ่งฟัง เย่อวิ๋นถูก็ยิ่งโกรธจัด เมื่อก่อนซูชิงอู่มักจะนอบน้อมเอาใจใส่และรอบคอบต่อเขาเสมอมา เขาสั่งให้นางไปทิศตะวันออก นางก็ไม่มีทางไปทิศตะวันตก... ทว่ายามนี้ ดูเหมือนว่านางจะกลายเป็นเม่นที่มีหนามรอบตัว เขาแค่เข้าใกล้นิดเดียว ใบหน้าก็ถูกทิ่มแทงจนได้เลือดเสียแล้ว! เย่อวิ๋นถูเคยได้รับความอัปยศอดสูเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เขาชะงักฝีเท้าพลางข่มกลั้นโทสะที่กำลังปะทุขึ้นมา "ชิงอู่ มาละวางอดีตอันมิน่าอภิรมย์แล้วมาคุยกันดี ๆ เถอะ!" ซูชิงอู่ยิ้มเยาะเย็นชา "ท่านกับข้าหามีสิ่งใดต้องพูดคุยกันอีกไม่" สีหน้าของเย่อวิ๋นถูแสดงความเจ็บปวดออกมา ราวกับซูชิงอู่เป็นสตรีไร้หัวจิตหัวใจที่ทอดทิ้งเขาไป! "อย่างไรเสียหลายปีมานี้พวกเราก็เติบโตขึ้นมาด้วยกัน เจ้าไร้หัวจิตหัวใจถึงขนาดนั้นได้เชียวหรือ?" ซูชิงอู่เลิกคิ้ว "ข้าหามีความรู้สึกให้ท่านไม่ เช่นนั้นจะบอกว่าข้าไร้หัวจิตหัวใจได้อย่างไรกัน?" เย่อวิ๋นถูโกรธจัด "เจ้าสงบสติอารมณ์แล้วพูดคุยกับข้าดี ๆ มิได้หรือ?" ซูชิงอู่ยักไหล่ด้วยท่าทีไม่นำพาใส่ใจ "ข้าใช่ว่าจะมีเวลามาเสวนากับสุนัขให้มากนักหรอกนะ" เมื่อได้ยินวาจาจาบจ้วงของซูชิงอู่ เย่อวิ๋นถ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 60

    นางยกมือข้างหนึ่งปิดปากตนเอง สีหน้าเผยแววประหลาดใจอยู่บ้าง จากนั้นนางก็หลุบตาลงเล็กน้อยพลางเอ่ยถามต่อหน้าทุกคนว่า "อ้อ ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นพี่สะใภ้ของท่าน องค์ชายสามก็มิจำเป็นต้องมอบของขวัญชิ้นใหญ่เช่นนี้ก็ได้ นี่มิใช่วันปีใหม่หรือวันเทศกาลเลย ข้าไม่ตกรางวัลให้ท่านหรอกนะ..." "อันใดนะ ท่านมิอยากลุกขึ้นกระนั้นหรือ? ท่านกำลังขอโทษที่เมื่อสักครู่ล่วงเกินข้าใช่หรือไม่? องค์ชายสามช่างเกรงใจเกินไปแล้วจริง ๆ..." เย่อวิ๋นถูโมโหจนตัวสั่น ทว่าริมฝีปากและฟันกลับชาหนึบจนเขาส่งเสียงไม่ออก หามีผู้ใดทราบไม่ว่ามีเข็มเงินเล่มเล็ก ๆ ซ่อนอยู่ในเล็บมือของซูชิงอู่ เมื่อชีวิตตกอยู่ในเงื้อมมือของผู้อื่น เย่อวิ๋นถูก็ราวกับเนื้อปลาบนเขียงที่พร้อมจะถูกแล่ได้ทุกเมื่อ เจตนาสังหารพลันปะทุขึ้นในใจ นับเป็นครั้งแรกก็ว่าได้ที่เย่อวิ๋นถูคิดจะทรมานคนให้ถึงตาย ซูชิงอู่...ซูชิงอู่! ! เสียงตะโกนของบ่าวรับใช้ที่เคาะหม้อไหอยู่นอกประตูแพร่สะพัดออกไป ดึงดูดความสนใจของผู้สัญจรไปมาให้หยุดมองพลางชี้ไม้ชี้มือมาที่จวนเสนาบดีกรมพระคลัง โจวหรุ่ยร้องไห้หนักเสียจนหายใจแทบไม่ออก ท่าทีแสร้งเป็นมิตรก่อนหน้านี้ที่มีต่อซูชิงอู่

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 61

    หลังจากเย่เสวียนถิงก้าวเท้าพ้นประตู ภาพที่เขาเห็นคือซูชิงอู่คว้าข้อมือของเย่อวิ๋นถูอยู่และเย่อวิ๋นถูที่กำลังคุกเข่าต่อหน้านางเขาหยุดชะงักไปชั่วขณะ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย มองดูเหตุการณ์ด้วยความสับสนเขารู้ดีว่าเย่อวิ๋นถูเป็นคนเช่นไร เขาจะคุกเข่าลงให้นางได้อย่างไร?แม้ว่าเขาจะเป็นเชื้อพระวงศ์ แต่หากไม่ใช่งานประเพณีหรือบางโอกาสที่พิเศษ เขาก็ไม่จำเป็นที่ต้องคุกเข่าลงเช่นนี้เมื่อซูชิงอู่ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้น นางก็หันกลับไปมองทันที จึงได้เห็นเย่เสวียนถิงยืนอยู่ ใบหน้าของนางไร้ซึ่งความกังวลใจ อีกทั้งยังคลี่ยิ้มหวานออกมาด้วยรอยยิ้มนั้นสดใสมากจนผู้คนไม่อาจละสายตาได้ซูชิงอู่ค่อย ๆ ปล่อยมือของนางแล้วก้าวถอยหลังอาการชาของเย่ออวื๋นถูหายไป เขาค่อย ๆ รู้สึกได้ถึงแขนขาของตนเองอีกครั้ง ก่อนจะบีบนวดที่ฝ่ามือและพยายามหยัดกายลุกขึ้นยืนเขามายังจวนซ่างซูอย่างลับ ๆ เพียงลำพัง เช่นนั้นแล้วในเวลานี้จึงไม่มีใครเข้ามารบกวนเขาได้ก่อนที่เย่เสวียนถิงจะทันได้เปิดปากพูด ซูชิงอู่ก็เข้ามาหาเขาอย่างร่าเริง นางเชิดคางขึ้น เอามือไพล่ไว้ด้านหลัง นางดูใสซื่อและไร้เดียงสาทันทีในสายตาของเขา“เสวียนถิง เหตุใดท

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 62

    ดวงตาของเย่อวิ๋นถูดูดุร้าย ความไม่พอใจที่ปรากฏชัดในดวงตาของเขาคล้ายจะเอ่อล้นออกมาเมื่อถูกเปิดเผย เขาเย้ยหยันและพูดขึ้นว่า "ซูชิงอู่มีความรักอันลึกซึ้งต่อข้ามาตลอด ไม่มีทางที่นางจะชอบเจ้า ตราบใดที่ข้าไม่ยอมปล่อยนางไป นางก็จะกลับมาอยู่ข้าง ๆ ข้าคนนี้วันยันค่ำ!"เมื่อซูชิงอู่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ ดวงตาก็เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน“ท้องฟ้าแจ่มใส ดวงอาทิตย์ก็สดใสเช่น ท่านมัวมาฝันกลางวันอะไรอยู่ องค์ชายสาม?”ในอดีตนางเป็นเพียงคนโง่เขลา นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนางถึงถูกคนเจ้าเล่ห์เหล่านี้หลอกลวง!เย่อวิ๋นถูไม่เคยเอ่ยปากว่าชอบนางเลยสักครั้ง แต่นางกลับเข้าใจผิดคิดไปเองว่านางกับเขารักกัน…เมื่อก่อนนางหลงเชื่ออีกฝ่ายอย่างสุดหัวใจเพียงเพราะการกระทำอันคลุมเครือและคำพูดให้ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ของอีกฝ่าย ครานั้นนางแทบจะมอบทั้งหมดของหัวใจให้กับเขาทว่าหากไม่ใช่เพราะพี่ใหญ่ของนางถูกลอบสังหารระหว่างการเดินทางจนทำให้ได้รู้ว่าเย่อวิ๋นถูเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด นางคงจะยอมมอบตำรับยาเกือบทั้งหมดของตระกูลฝางให้เขาไปแล้ว…ซูชิงอู่ไม่ได้ปฏิเสธตัวตนที่โง่เขลาอย่างโงหัวไม่ขึ้นของนางแต่ตอนนี้หัวใจ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 63

    นี่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนสตรีที่อยู่ข้างหน้าเขายังคงเป็นซูชิงอู่ที่เขารู้จักแต่ทว่า บุคลิกของนางก็นับว่าเปลี่ยนไปจริง ๆ เช่น เมื่อก่อนนางเคยใจดีต่อผู้อื่นและไม่เคยทะเลาะกับผู้ใดเลยนางเชื่อฟังบิดามารดาและย่าของตนเป็นอย่างมาก รวมทั้งเชื่อฟังคำพูดของเย่อวิ๋นถูอีกด้วย…แต่ตอนนี้นางเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ และไม่ใช่ว่านางแสร้งทำเสียอีกต่างหากเย่เสวียนถิงยังคงไตร่ตรองถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ราวกับว่ามีกำแพงกั้นอยู่เหนือเขา ทำให้เขามองไม่เห็นความจริง ไม่ว่าจะพยายามมากเพียงใดก็ตามทันทีที่นางกลับมาถึงจวนอ๋อง ซูชิงอู่ก็ผลักเย่เสวียนถิงเข้าไปในห้องของนางทันทีนางตรวจดูขาของเขาอย่างระมัดระวัง สีหน้าดูไม่พอใจ“ยังไม่ทันหายดีท่านก็ขี่ม้าวิ่งวุ่นไปทั่ว ท่านไม่คิดจะเอาขาไว้อีกต่อไปแล้วใช่หรือไม่?”นางมุ่ยหน้าด้วยความโกรธเคืองเล็กน้อย ดวงตาทั้งสองของนางกลมโตเป็นประกายสิ่งที่เย่เสวียนถิงรู้สึกได้คือความห่วงใยอันลึกซึ้งเสียงของเขาทุ้มต่ำและแหบเล็กน้อย "อาอู่ มานี่หน่อย"เมื่อซูชิงอู่ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น นางก็มองเขาด้วยความสงสัยจากนั้นนางก็โน้มตัวเข้าไปใกล้เขาอย่างเชื่อฟัง ร่า

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 64

    "ปัง!"ซูชิงอู่ตบโต๊ะหัวใจของอวิ๋นจื่อเต้นรัว เมื่อนางเห็นสีหน้าโกรธแค้นบนใบหน้าของซูชิงอู่ดวงตาสีดำสนิทเหล่านั้นก็เต็มไปด้วยความโกรธเช่นกันโต๊ะที่นางเพิ่งตบก็ปรากฏรอยแยกตรงกลางอวิ๋นจื่อคล้ายจะเวียนศีรษะแต่ทว่ามีเพียงเท้าได้รูปราวกับหยกโผล่ออกมาจากม่าน ผมเส้นยาวและนุ่มสลวยของซูชิงอู่พาดลงบนไหล่ของนาง แม้ว่าจะไม่แต่งหน้า แต่พวงแก้มสีขาวอมชมพูก็ยังคงสวยงามอยู่นิ้วเรียวยาวดังลำเทียน ผิวขาวดุจหิมะ คอยาวราวกับหงส์ ฟันเรียงสวยราวกับเม็ดข้าวโพด…พระชายาสมควรได้รับถ้อยคำชมเชยทั้งหมดในโลกนี้เพื่อบรรยายถึงนางอวิ๋นจื่อรู้สึกเพียงว่าองค์ชายสามเย่อวิ๋นถูผู้นั้นตาบอด เขามองไม่เห็นความงามของซูชิงอู่เลยแม้แต่น้อยแน่นอนว่านางลืมข้อบกพร่องบางอย่างของบุรุษไป เช่นของที่ได้มาง่าย ๆ มักจะไม่ได้รับการยกย่องอวิ๋นจื่อก้มศีรษะลงแล้วกระซิบว่า “ทางฝั่งของอัครเสนาบดีซู ฮูหยินผู้เฒ่าและหลิงซื่อต่างก็ป่วยหนัก อัครเสนาบดีซูได้เชิญหมอหลวงมารักษาพวกนางแต่อาการก็ไม่ดีขึ้นเลย และด้วยความโกรธนายท่านซูก็พลั้งปากพูดออกไปว่าจะตัดสัมพันธ์พ่อลูกกับท่าน…”ซูชิงอู่ยิ้มทันทีหลังจากที่ได้ยินแม้ว่าอัครเสนาบดี

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 65

    เหล่าองครักษ์ที่ทางเข้าจวนขององค์ชายสาม มีสีหน้าตึงเครียดขึ้นทันที เมื่อสังเกตเห็นซูชิงอู่และเย่เสวียนถิงอยู่หน้าประตูเขาหวังเพียงว่าหากเป็นไปได้ เขาอยากจะติดประกาศหน้าจวนว่าห้ามซูชิงอู่และสุนัขรับใช้ของนางเข้ามาข้างในแต่ทว่าเย่เสวียนถิงยืนเอามือไพล่หลังอยู่หน้าประตูพร้อมกับรัศมีความแข็งแกร่ง ดวงตาหงส์ของเขาจ้องมองเหล่าองค์รักษ์ด้วยแววตาเยือกเย็นแววตานั้นทำให้หลายคนกลัวจนขาแข้งอ่อนในทันที“กรุณารอสักครู่ กระหม่อมจะไปรายงาน... เดี๋ยวนี้!”ไม่นานหลังจากนั้น ก็ปรากฏร่าง ๆ หนึ่งเดินออกมาจากข้างในด้วยความรีบร้อนเย่อวิ๋นถูซึ่งสวมชุดแต่งงานสีแดง มองดูคนทั้งสองที่ยืนอยู่นอกประตูด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว“ดูเหมือนว่าองค์ชายสามจะไม่ได้ส่งเทียบเชิญถึงท่านทั้งสอง!”ซูชิงอู่ยิ้มระรื่น นางไม่สนใจสายตาเย็นชาของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย“เทียบเชิญจะสำคัญอะไร เขาคือเสด็จพี่ของท่านและหม่อมฉันก็ไม่ใช่คนนอก ยิ่งกว่านั้น ทุกคนในเมืองหลวงก็ดูเหมือนจะรู้ว่าหม่อมฉันเป็นแม่สื่อแม่ชักให้กับองค์ชายสามกับแม่นางโจวไม่ใช่หรือ? หากหม่อมฉันไม่ได้เข้าร่วมอวยพรให้ท่านทั้งสองในงานอภิเษก เช่นนี้แล้วจะไม่แปลกไปหน่อยหรื

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 66

    เมื่อองค์ชายสามมีงานรื่นเริง แม้ว่าจะเป็นงานเล็ก ๆ แต่ขุนนางส่วนใหญ่ในเมืองหลวงก็ย่อมต้องมารวมตัวกัน อัครเสนาบดีซูจึงอยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้นไปโดยปริยายรวมถึงซูเชียนหลิงด้วย นางนั่งอยู่ในที่นั่งฝั่งญาติเจ้าสาวเหมือนกันบุตรสาวของขุนนางข้างกายซูเชียนหลิงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า "นั่นชายาเสวียนอ๋องไม่ใช่หรือ?!"“พี่หญิงเชียนหลิง นางไม่อาจเป็นน้องสาวของท่านได้แล้วใช่หรือไม่? นางทำให้ท่านแม่และท่านย่าของท่านป่วย อีกทั้งยังจงใจใส่ร้ายท่านด้วย…”ซูเชียนหลิงพยักหน้าน้อย ๆ เมื่อนางได้ยินสิ่งนี้นางกัดริมฝีปากด้วยสีหน้าขุ่นเคือง“ข้าเองก็ไม่คิดเลยว่าจะเจอนางที่นี่เช่นกัน”“ตระกูลซูของท่านมีสตรีเช่นนี้ได้อย่างไรกัน? นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นสตรีที่เมื่อออกเรือนไปแล้ว อกตัญญูทันทีเฉกเช่นนาง”“ข้าได้ยินมาว่าอัครเสนาบดีซูตัดความสัมพันธ์บิดาบุตรกับนางโดยตรง ข้าเกรงว่าในอนาคตแม้แต่บ้านเดิมนางก็ไม่อาจจะกลับไปได้เสียด้วยซ้ำ...”“ถ้าท่านอ๋องเสวียนไม่พอใจนางและหย่ากับนางขึ้นมา นางจะไม่กลายเป็นพวกเร่ร่อนหรือ?”“ท่านอ๋องเสวียนมีสถานะสูงส่ง เขาจะมีเพียงนางผู้เดียวได้อย่างไร? ตอนนี้นางอาศัยว่าได

บทล่าสุด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 805

    เย่เสวียนถิงตัวแข็งทื่อทันทีม้าของเขาเดินหมุนเป็นวงกลม สีหน้าของเขาแสดงให้เห็นถึงความลังเลอย่างชัดเจนซูชิงอู่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่และพูดว่า "ข้าสัญญากับท่านว่าจะไม่ไปสถานที่อันตราย"เย่เสวียนถิงถอนหายใจ "ค่ายทหารไม่มีกฎให้สตรีเข้าร่วม"ซูชิงอู่ยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น "ถ้าอย่างนั้น ข้าจะปลอมตัวเป็นบุรุษ"เย่เสวียนถิง "..."เมื่อนึกถึงทักษะการปลอมตัวอันยอดเยี่ยมของซูชิงอู่ เย่เสวียนถิงก็ลังเลขึ้นมาอีกครั้งด้วยความสามารถของนาง คงไม่มีใครสามารถจับได้ว่านางปลอมตัวเป็นบุรุษ ไม่ว่าจะเป็นการปลอมตัวหรือเปลี่ยนเสียง นางก็ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบเย่เสวียนถิงเห็นความกระตือรือร้นในดวงตาของซูชิงอู่ พลางถอนหายใจเล็กน้อย จากนั้นก็มองนางอย่างจนใจและพูดว่า "ก็ได้ แต่เจ้ารับปากข้ามาก่อนว่าจะไม่ปล่อยให้ตัวเองบาดเจ็บ"ทันใดนั้นดวงตาของซูชิงอู่ก็ส่องประกาย "ท่านอ๋อง ไปกันเถอะ"นี่เป็นครั้งแรกที่ซูชิงอู่ไปที่ชายแดนชาติก่อนนางวางตัวเป็นกุลสตรี จึงแทบไม่ได้ออกจากเมืองหลวงเลยผู้คนนับหมื่นในเมืองฉี ก่อนหน้านี้ถูกพวกเขาพาไปอยู่เมืองอื่น และเมื่อเย่เสวียนถิงจากมาก็พาพวกเขามาด้วยอย่างน้อยผู้คนมา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 804

    นางออกมาจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ พ่อแม่ของนางเสียชีวิตด้วยน้ำมือของคนเหล่านั้น และนางต้องการแก้แค้นเย่เสวียนถิงเหลือบมองนาง จากนั้นก็พยักหน้าเบา ๆ“อาอู่ อย่าเพิ่งเคลื่อนไหวคนเดียว ไว้รอข้ากลับมาก่อน”ตราบใดที่เขายังอยู่ใกล้ แคว้นอู๋ตะวันตกก็จะพ่ายแพ้อย่างแน่นอนเพียงแต่ยังไม่ทราบว่าสงครามนี้จะกินเวลานานเท่าใดเย่เสวียนถิงได้ปรากฏตัวต่อหน้าฝ่าบาท ข่าวการกลับมาของเขาต้องแพร่กระจายออกไปแน่ สิ่งที่เขาต้องทำคือเคลื่อนไหวให้เร็วกว่าคนส่งข่าวเหล่านั้นซูชิงอู่ที่เห็นว่าเขาเปิดเผยใบหน้า นางก็รู้ได้ว่าเขากำลังจะจากไปตอนนี้ปัญหาของตระกูลเจียวได้รับการแก้ไขแล้ว ไม่มีอุปสรรคในราชสำนัก และนางไม่ต้องกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพี่ชายของนางและคนอื่น ๆ อีกต่อไปเย่ชิวหมิงจะนำกองทหารที่เหลืออยู่ในเมืองหลวงตามล่าตระกูลเจียวที่เหลือ และนางก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซงแล้ว“เสวียนถิง ท่านจะออกเดินทางวันนี้ใช่หรือไม่?”เย่เสวียนถิงพยักหน้าเขาเหลือบมองลูกชายอีกสองคนแล้วเดินไป แม้เขาจะไม่ได้กอดพวกเขา แต่อย่างน้อยก็ลูบหัวพวกเขาลูกชายคนโตเหมือนเขามากกว่าใบหน้าเล็ก ๆ ที่อ้วนท้วนเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 803

    เย่เสวียนถิงออกบ้านมานานถึงเพียงนี้ ทำได้แค่คอยไปแอบมองเด็ก ๆ ลับหลังเท่านั้น และไม่เคยแม้แต่จะเข้าไปอยู่ใกล้เด็ก ๆ เลยคราวนี้เขาถอดหน้ากากออกเพื่อเปิดเผยตัวตน ซึ่งทำให้หลายคนในห้องตกใจอวิ๋นจื่อและอวิ๋นชิงก้าวไปมองเย่เสวียนถิงด้วยสีหน้าตกใจซูชิงอู่เห็นเขายืนอยู่ข้างเตียงด้วยความระมัดระวัง และเห็นสายตาท่าทางของเขาที่กำลังจับจ้องไปเด็ก ๆ นางจึงยื่นตัวเจ้าหนูคนเล็กส่งให้อีกฝ่าย“มาสิ อุ้มลูกสาวท่านหน่อย”เด็กหญิงตัวเล็กผู้มีพี่ชายสองคนที่เกิดในเดือนเดียวกันหลังจากการเปลี่ยนแปลงภายในไม่กี่เดือน จากรูปร่างที่เล็กและบอบบางในตอนแรก นางก็กลายเป็นตุ๊กตากระเบื้องที่แกะสลักด้วยหยกสีชมพูลักษณะหน้าตาของนางเหมือนซูชิงอู่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดดวงตาที่คล้ายองุ่นสีดำคู่นั้นงดงามราวกับอัญมณีที่บริสุทธิ์ที่สุดในใต้หล้าเย่เสวียนถิงรู้ดีอยู่แล้วเกี่ยวกับสถานการณ์ของเจ้าหนูคนเล็ก และใจของเขาก็ห่อเหี่ยวทันทีเมื่อเขานึกถึงการที่ซูชิงอู่เกือบจะประสบเหตุตอนที่นางให้กำเนิดเด็กคนนี้เขาแตะปลายจมูกของเจ้าหนูคนเล็กอย่างระมัดระวังสัมผัสที่นุ่มนวลและละเอียดอ่อนทำให้หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่น“ฮัดชิ่ว

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 802

    เย่เสวียนถิงไม่ได้อธิบายอะไรมาก แต่ยังไว้ซึ่งท่าทีเคารพนอบน้อม “เสด็จแม่ทรงไม่ต้องกังวลพ่ะย่ะค่ะ”“แม่จะไม่กังวลได้อย่างไร”ซูไทเฮาตอบกลับ แต่นางก็รู้เช่นกันว่านางทำอะไรไม่ได้ “ตอนนี้เจ้ากลับมาเช่นนี้ หลายคนก็น่าจะเห็นแล้ว เจ้าไม่กลัวว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นหากทางชายแดนได้รับข่าวหรือ?”เย่เสวียนถิงพยักหน้าเบา ๆ "กลับมาคราวนี้ ประการแรกก็เพื่อความปลอดภัยของอาอู่ และประการที่สอง เพื่อล่องูออกจากรูและจู่โจมโดยไม่ให้ตั้งตัว ไม่สำคัญว่ากระหม่อมจะอยู่ที่ชายแดนหรือไม่ ขอเพียงกระหม่อมปรากฏตัวในเวลาที่เหมาะสมก็พอพ่ะย่ะค่ะ”ซูไทเฮาตกตะลึง “ช่างเถอะ ข้าก็ค่อยไม่เข้าใจกลยุทธ์ในสนามรบของพวกเจ้านัก ขอเพียงพวกเจ้าทุกคนปลอดภัย ก็ดียิ่งกว่าสิ่งอื่นใดแล้ว"ซูไทเฮายังไม่รู้ว่าเจียวกุ้ยเฟยทำอะไรลงไป เมื่อซูชิงอู่ตามเข้าไปข้างใน นางก็เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนและหลังให้ซูไทเฮาฟังเมื่อซูไทเฮาได้ยินว่าเจียวกุ้ยเฟยแอบพาสตรีนางหนึ่งที่กำลังตั้งครรภ์ออกจากพระราชวัง และซ่อนนางไว้ในสำนักสงฆ์ฮุ่ยชิง ดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด“หรือที่ตระกูลเจียวทำเช่นนี้เพราะต้องการก่อกบฏ?”ซู

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 801

    ทหารม้าของตระกูลหลิ่วและเมืองฉีต่างหิวโหย พวกเขาเร่งฝีเท้าตามมาทันที เพื่อเตรียมหาสถานที่พักฟื้นเมื่อเย่ชิวหมิงเห็นภาพนี้ นิ้วมือของเขาที่ปล่อยอยู่ข้างลำตัวก็กระชับขึ้นเล็กน้อยเขามองลงไปที่พื้น “ศพทั้งหมดในสำนักสงฆ์ฮุ่ยชิงถูกกำจัดไปแล้วหรือยัง?"“ทูลฝ่าบาท จัดการเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ ทุกศพถูกรวมไว้ด้วยกันและให้คนนำไปฝังแล้วพ่ะย่ะค่ะ”คนที่ส่งข่าวหยุดชะงักและถามว่า “มีอยู่หนึ่งศพที่กระหม่อมและคนอื่น ๆ ไม่สามารถตัดสินใจได้ ขอฝ่าบาทโปรดทรงช่วยตัดสินใจด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ศพหนึ่งถูกลากมาศพมีเลือดออกจากทุกช่องทวาร และมีคราบเลือดทั่วร่างกายขุนนางชันสูตรศพผู้หนึ่งก้าวไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบศพแล้วจึงรายงานด้วยเสียงแผ่วเบา “ฝ่าบาท สตรีนางนี้ตั้งครรภ์ได้เกือบสามเดือนแล้ว และนางก็สวมหน้ากากหนังมนุษย์ด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ขณะที่ขุนนางชันสูตรพูด เขาก็ถอดหน้ากากหนังมนุษย์บนใบหน้าของอีกฝ่ายออกอย่างระมัดระวัง และเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของนางนางเป็นสตรีที่มีรูปร่างหน้าตาค่อนข้างงดงามเพียงแต่ว่าสภาพการตายของนางในเวลานี้ช่างน่าสังเวชอย่างยิ่ง สีหน้าของนางบิดเบี้ยว ริมฝีปากสีแดงของนางกลายเป็นสีดำ แ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 800

    ความรู้สึกนี้ว่างเปล่าเล็กน้อย และซูชิงอู่ก็รีบเดินออกจากประตูบ้านทันทีและมองออกไปข้างนอกเมื่อมองที่นี่ในเวลากลางวัน ทิวทัศน์ก็งดงามเป็นพิเศษไม่ง่ายเลยที่จะหาสถานที่เช่นนี้ในเขตชานเมืองซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงได้นางรีบวิ่งออกไป ไม่ไกลนัก นางเห็นเย่เสวียนถิงนำม้ามาที่นี่ เขาเร่งฝีเท้าเข้ามาหานาง พลางยื่นมืออุ้มนางขึ้นหลังม้า“เสวียนถิง ไปเอาม้ามาจากไหน?”เย่เสวียนถิงพูดข้างหูของนาง “เย่ชิวหมิงให้คนส่งมาให้”เมื่อได้ยินชื่อนี้ ซูชิงอู่ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “เขาน่าจะรู้เรื่องเกี่ยวกับสำนักชีฮุ่ยชิงอันแล้ว ไปหาเขากันเถอะ"เย่เสวียนถิงไม่ได้สวมหน้ากาก และใบหน้าที่หล่อเหลาอย่างยิ่งของเขาก็ถูกเปิดเผยต่อหน้าทุกคนอย่างน่าประทับใจกองทัพเมืองฉีรู้ตัวตนของท่านอ๋องมานานแล้ว ดังนั้นสีหน้าท่าทางของพวกเขาจึงเป็นธรรมชาติมาก ทว่าเหล่าแม่ทัพและรองแม่ทัพที่ยืนอยู่ด้านหลังเย่ชิวหมิงต่างก็เบิกตากว้าง“ทะ...ท่านอ๋องเสวียน!”“เหตุใดเขาถึงอยู่ที่นี่ล่ะ?”"หากอ๋องเสวียนอยู่ในเมืองหลวง แล้วที่ชาย..."ดวงตาของทุกคนเบิกกว้างด้วยความเหลือเชื่อมีเพียงเย่ชิวหมิงเท่านั้นที่พอจะคาดเดาความจริงได้แล้

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 799

    ซูชิงอู่คว้าเสื้อคลุมที่เขาสวมบนตัวนางแล้วถามอย่างไม่สบายใจว่า “แล้วท่านล่ะ?"เย่เสวียนถิงหลุบสายตาลงเล็กน้อย มีแสงจันทร์สะท้อนในดวงตาของเขา "บนภูเขาไม่ปลอดภัย ข้าจะเฝ้าอยู่ข้างนอก"ซูชิงอู่ไม่ถามอะไรอีก นางเดินไปที่บ่อน้ำและถอดเสื้อผ้าของนางออกหากเย่เสวียนถิงไม่อยู่ที่นี่ นางคงไม่สามารถอาบน้ำในป่าได้ง่าย ๆเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ใกล้ ๆ ซูชิงอู่จึงรู้สึกค่อนข้างปลอดภัยหลังจากอาบน้ำเสร็จก็เห็นเสื้อผ้าวางอยู่บนฝั่งขนาดกำลังพอดีสำหรับนาง ราวกับมันถูกเตรียมไว้เพื่อนางโดยเฉพาะหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ตั้งอยู่บนไหล่เขาขนาดไม่ใหญ่นัก นอกจากบ่อน้ำพุร้อนที่อยู่ในบริเวณบ้านพักแล้ว ก็มีบ้านเพียงห้าหลังเท่านั้นบ้านที่อยู่ตรงกลางคือหลังที่ใหญ่ที่สุด ซูชิงอู่เดินเข้ามาด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็พบว่าข้างในบ้านตกแต่งเรียบง่ายและสะอาดสะอ้านเดินเข้าไปข้างในก็คือบ้านที่ใช้อยู่อาศัย มีเตียงขนาดใหญ่วางอยู่ตรงกลาง นอกจากตรงจุดนี้ที่ได้รับการทำความสะอาดแล้ว ส่วนอื่น ๆ ก็ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นหนาเป็นชั้น เห็นได้ชัดว่าเย่เสวียนถิงเข้ามาทำความสะอาดให้เมื่อครู่ซูชิงอู่รู้สึกอบอุ่นใจทว่านางไม่ได้ออกปาก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 798

    ทันใดนั้นก็มีเสื้อคลุมอีกตัวหนึ่งคลุมตัวของนางไว้ความหนาวเย็นบนร่างกายของนางถูกขจัดออกไปในทันที และจู่ ๆ เย่เสวียนถิง ก็โน้มตัวลงมาและดึงนางให้ลุกขึ้นยืน“อาอู่ มากับข้าสิ”ซูชิงอู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงยืนขึ้นต่อหน้าทุกคน กองไฟตรงหน้านางยังคงปะทุอยู่ และผู้คนที่นั่งรอกันอย่างเบื่อหน่ายก็มองตรงไปยังทิศทางที่พวกเขาทั้งสองจากไปทุกคนยังคงหิวอยู่ ตอนนี้ดึกมากแล้ว แม้กระทั่งการกินข้าวจึงกลายเป็นปัญหา หลินอิงย่างกระต่ายป่าที่นางเพิ่งจับได้และมอบให้นายน้อยของนางอย่างระมัดระวัง“นายน้อย ทานสิเจ้าคะ”หลิ่วจ้งอิ๋นเหลือบมองหลินอิง เดิมทีเขาต้องการทิ้งเด็กคนนี้ไว้ที่บ้านเพื่อดูแลคนชรา แต่นางไม่ยอม จึงกลายเป็นว่ามีสตรีติดตามเขาไปทุกที่เขารับกระต่ายขึ้นมาแล้วมองสายตาของเด็กน้อยที่แอบมองเขา แต่ก็ลังเลที่จะพูด จากนั้นเขาก็ยื่นขากระต่ายทั้งสองข้างให้นางแม้หลินอิงจะไม่ได้พูดตลอดการเดินทาง แต่ในระหว่างการต่อสู้ไม่นานมานี้ นางซึ่งเป็นสตรีคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขาพร้อมดาบในมือ สิ่งนี้ทำให้เขาดูเป็นคนใจร้าย และนั่นก็ค่อนข้างน่าสะเทือนใจในฐานะนายน้อยตระกูลหลิ่ว เขามีชีวิตที่ราบรื่นและได

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 797

    “เสวียนถิง ท่านมองข้าสิ”ม่านตาของเย่เสวียนถิงสั่นไหวเล็กน้อย เขาคว้าข้อมือของซูชิงอู่ไว้ดาบในมือของเขาหล่นลงกับพื้นทั้งที่ยังคงเปื้อนเลือด“ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่ทิ้งท่านไปไหนอีก”ซูชิงอู่ตอบอย่างจริงจัง น้ำเสียงของนางมั่นคงหนักแน่นนางจะไม่ทำให้ตัวเองต้องเสียใจทีหลังอีก“ดูสิ ตอนนี้ข้าสามารถปกป้องตัวเองได้แล้ว ท่านกลับจากชายแดนเมื่อไร ช่วยสอนวรยุทธให้ข้าได้หรือไม่?”นางปลอบประโลมอารมณ์ในดวงตาของเย่เสวียนถิงได้เขาใช้นิ้วลูบหลังมือของนางเบา ๆ“เอาล่ะ อาอู่ หนอนกู่พวกนั้นก็อันตรายมากเช่นกัน จากนี้เจ้าไม่…”ซูชิงอู่หัวเราะเบา ๆ พลางก้มหน้า “กู่เหล่านั้นเป็นวิธีที่ข้าใช้ปกป้องตัวเอง อีกทั้งท่านอ๋องก็ไม่สามารถอยู่เคียงข้างข้าได้ตลอด หากข้าไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ ท่านจะเป็นห่วงข้ามากกว่าเดิมหรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เย่เสวียนถิงก็เลิกคิ้วและพยักหน้าเขารู้สึกไม่ชอบใจที่ตัวเขาไร้ประโยชน์ทั้งยังทำให้อาอู่ตกอยู่ในอันตรายหากเขาอยู่เคียงข้างนาง เขายังสามารถจับตาดูนางได้ แต่เมื่อเขาต้องจากที่นี่ไปยังสนามรบชายแดน ถึงตอนนั้น…เย่เสวียนถิงไม่กล้านึกถึงความฝันที่เขาพูดถึงเหตุผลท

DMCA.com Protection Status