Share

บทที่ 65

Author: วิ๋นเจิง
เหล่าองครักษ์ที่ทางเข้าจวนขององค์ชายสาม มีสีหน้าตึงเครียดขึ้นทันที เมื่อสังเกตเห็นซูชิงอู่และ

เย่เสวียนถิงอยู่หน้าประตู

เขาหวังเพียงว่าหากเป็นไปได้ เขาอยากจะติดประกาศหน้าจวนว่าห้ามซูชิงอู่และสุนัขรับใช้ของนางเข้ามาข้างใน

แต่ทว่าเย่เสวียนถิงยืนเอามือไพล่หลังอยู่หน้าประตูพร้อมกับรัศมีความแข็งแกร่ง ดวงตาหงส์ของเขาจ้องมองเหล่าองค์รักษ์ด้วยแววตาเยือกเย็น

แววตานั้นทำให้หลายคนกลัวจนขาแข้งอ่อนในทันที

“กรุณารอสักครู่ กระหม่อมจะไปรายงาน... เดี๋ยวนี้!”

ไม่นานหลังจากนั้น ก็ปรากฏร่าง ๆ หนึ่งเดินออกมาจากข้างในด้วยความรีบร้อน

เย่อวิ๋นถูซึ่งสวมชุดแต่งงานสีแดง มองดูคนทั้งสองที่ยืนอยู่นอกประตูด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว

“ดูเหมือนว่าองค์ชายสามจะไม่ได้ส่งเทียบเชิญถึงท่านทั้งสอง!”

ซูชิงอู่ยิ้มระรื่น นางไม่สนใจสายตาเย็นชาของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย

“เทียบเชิญจะสำคัญอะไร เขาคือเสด็จพี่ของท่านและหม่อมฉันก็ไม่ใช่คนนอก ยิ่งกว่านั้น ทุกคนในเมืองหลวงก็ดูเหมือนจะรู้ว่าหม่อมฉันเป็นแม่สื่อแม่ชักให้กับองค์ชายสามกับแม่นางโจวไม่ใช่หรือ? หากหม่อมฉันไม่ได้เข้าร่วมอวยพรให้ท่านทั้งสองในงานอภิเษก เช่นนี้แล้วจะไม่แปลกไปหน่อยหรื
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 66

    เมื่อองค์ชายสามมีงานรื่นเริง แม้ว่าจะเป็นงานเล็ก ๆ แต่ขุนนางส่วนใหญ่ในเมืองหลวงก็ย่อมต้องมารวมตัวกัน อัครเสนาบดีซูจึงอยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้นไปโดยปริยายรวมถึงซูเชียนหลิงด้วย นางนั่งอยู่ในที่นั่งฝั่งญาติเจ้าสาวเหมือนกันบุตรสาวของขุนนางข้างกายซูเชียนหลิงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า "นั่นชายาเสวียนอ๋องไม่ใช่หรือ?!"“พี่หญิงเชียนหลิง นางไม่อาจเป็นน้องสาวของท่านได้แล้วใช่หรือไม่? นางทำให้ท่านแม่และท่านย่าของท่านป่วย อีกทั้งยังจงใจใส่ร้ายท่านด้วย…”ซูเชียนหลิงพยักหน้าน้อย ๆ เมื่อนางได้ยินสิ่งนี้นางกัดริมฝีปากด้วยสีหน้าขุ่นเคือง“ข้าเองก็ไม่คิดเลยว่าจะเจอนางที่นี่เช่นกัน”“ตระกูลซูของท่านมีสตรีเช่นนี้ได้อย่างไรกัน? นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นสตรีที่เมื่อออกเรือนไปแล้ว อกตัญญูทันทีเฉกเช่นนาง”“ข้าได้ยินมาว่าอัครเสนาบดีซูตัดความสัมพันธ์บิดาบุตรกับนางโดยตรง ข้าเกรงว่าในอนาคตแม้แต่บ้านเดิมนางก็ไม่อาจจะกลับไปได้เสียด้วยซ้ำ...”“ถ้าท่านอ๋องเสวียนไม่พอใจนางและหย่ากับนางขึ้นมา นางจะไม่กลายเป็นพวกเร่ร่อนหรือ?”“ท่านอ๋องเสวียนมีสถานะสูงส่ง เขาจะมีเพียงนางผู้เดียวได้อย่างไร? ตอนนี้นางอาศัยว่าได

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 67

    จมูกของซูเชียนหลิงแทบจะบิดเบี้ยวจากคำพูดยั่วยุของซูชิงอู่ดวงตาของนางเบิกกว้างด้วยอารมณ์โกรธ ไม่อาจปริปากพูดอะไรออกมาได้ เหล่าสตรีที่อยู่ใกล้ ๆ นาง อีกทั้งยังเป็นเพื่อนกับนางด้วย เกิดทนดูไม่ไหวอีกต่อไปและกำลังจะพุ่งเข้ามาแต่ทว่า เสียงเย็นเยียบของเย่เสวียนถิงก็ดังก้องอยู่ในหูของใครหลายคน "เจ้ากล้าหยาบคายต่อพระชายาเช่นนั้นหรือ? ไปเอาความกล้าเช่นนี้มาจากที่ใดกัน?"เขาเดินไปหยุดอยู่ที่ด้านข้างของซูชิงอู่ร่างสูงของเขามีรัศมีที่แข็งแกร่งและท่วมท้นอย่างมากใบหน้าที่เย็นชาและหล่อเหลานั้นเต็มไปด้วยรัศมีอันเยือกเย็นและความชั่วร้ายที่อาจทำให้ขาอ่อนแรงได้อย่างง่ายดายเขาเดินไปหาซูชิงอู่ รอบ ๆ กายปรากฏรัศมีอันรุนแรงท่วมท้นใบหน้าของเขาทั้งงดงาม เยือกเย็น และแฝงไปด้วยเจตนาสังหาร เหล่าสตรีที่ไม่เคยพบเห็น ต่างขวัญเสีย พากันรีบถอยหลังไปสองก้าวอย่างหวาดหวั่นทันทีหลายคนที่เดิมทีเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง และต้องการต่อล้อต่อเถียงกับซูชิงอู่ต่างก็ก้มหน้าลงเช่นกันดวงตาของซูเชียนหลิงแดงก่ำด้วยความโกรธ เมื่อนางเห็นว่าน้องสาวตัวน้อยของนางทำให้เรื่องราวใหญ่โตนางแสดงออกราวกับทุกคนในโลกนี้ทรยศต่อนางทั

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 68

    มุมปากของซูเชียนหลิงกระตุก ความขับข้องใจทำให้นางหายใจไม่ออกและการถูกดูหมิ่นเหยียดหยามทำให้น้ำตาของนางรินไหลมากยิ่งขึ้นเย่อวิ๋นถูตบหลังนางเบา ๆ ด้วยความห่วงใยจากนั้นเขาจึงจ้องมองไปที่เย่เสวียนถิงและพูดว่า "องค์ชายรอง เหมาะสมแล้วหรือที่เจ้าจะกล่าวกับสตรีเช่นนี้?"เย่เสวียนถิงเชิดคางขึ้นอย่างไม่แยแส "หากสตรีนางนั้นเป็นคนร้าย ต้องฆ่านางทิ้งเสีย!"ซูเชียนหลิงตัวสั่นเมื่อนางได้ยินสิ่งนี้ทุกคนรวมตัวกันอยู่ด้านหลังเย่อวิ๋นถูเย่อวิ๋นถูคิดไม่ถึงว่าเย่เสวียนถิงจะพูดเช่นนั้น เขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า "แม่นางซูทำให้ชายาเสวียนขุ่นเคืองเมื่อใด? หากนางไม่สามารถบอกต้นสายปลายเหตุได้ นางก็ควรก้มหัวขอโทษและยอมรับผิด ที่ดูหมิ่นและเหยียดหยามเชียนหลิง!”ซูชิงอู่มองไปยังร่างของซูเชียนหลิงที่เกือบจะแนบชิดกับร่างของเย่อวิ๋นถู มุมปากของนางก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยทุกคนจ้องมองไปยังพวกเขา ไม่กล้าเข้าไปแทรกแซงความขัดแย้งระหว่างองค์ชายทั้งสอง แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าวิ่งมาจากข้างหลังพวกเขาทุกคนหันไปมอง เห็นร่าง ๆ หนึ่งสวมชุดอภิเษกสีแดงปรากฏขึ้นตรงหน้าผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวของโจวหรุ่ย

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 69

    ราชเลขาโจวซึ่งเดิมกำลังต้อนรับแขกอย่างอบอุ่น แสดงสีหน้าตกตะลึงเช่นกันเขาเหลือบมองเย่อวิ๋นถูด้วยความไม่เชื่อ จากนั้นจึงมองบุตรีของตัวเอง แข้งขาไร้เรี่ยวแรงในทันที ดูคล้ายจะเวียนศีรษะญาติฝั่งตระกูลโจวรีบเข้ามาพยุงเขาทันที ฮูหยินโจวถึงกับหลั่งน้ำตา“ใต้เท้า โปรดสงบสติอารมณ์ลงก่อน...”มุมปากของราชเลขาโจวสั่นเล็กน้อย ขณะชี้ไปยังโจวหรุ่ยลูกสาวของเขา แล้วพูดว่า "เจ้าเห็นไหม? เจ้าเห็นหรือไม่? ลูกสาวของข้าถูกสามีตบหน้าในวันอภิเษกของนางต่อหน้าแขกเหรื่อทุกคน จะให้ข้าเอาหน้าไปไว้ที่ใด?!”ร่างกายของเขาสั่นเทิ้ม และดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ "ข้าจะไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้เดี๋ยวนี้ ข้าจะบอกพระองค์ว่าข้าจะลาออกจากตำแหน่ง ข้าไม่อาจแบกหน้าอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้ได้ต่อไปแม้แต่วันเดียว การตบขององค์ชายสามครั้งนี้ไม่ใช่การตบหน้าลูกสาวข้าเลย แต่เป็นที่ใบหน้าของข้าแทน!”โจวหรุ่ยตกอยู่ในอาการมึนงง มีสาวใช้ที่คอยปกปิดใบหน้านางที่กำลังร้องไห้อยู่เย่อวิ๋นถูทำให้เรื่องใหญ่ขึ้นไปอีกขั้น เขาเองยังนึกตกตะลึงกับสิ่งที่เขาเพิ่งทำลงไปไม่น้อยเขาขาดสติไปชั่วขณะเพราะโทสะที่ก่อตัวขึ้นอย่างฉับพลัน จึงได้ลงไม้ลงมือกับโจวหรุ่

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 70

    ในที่สุดความโกรธในดวงตาของใต้เท้าโจวก็สงบลง เขาพูดขึ้นว่า "เพื่อเห็นแก่หน้าอัครเสนาบดี ข้าไม่จะติดใจเอาความเรื่องพฤติกรรมของซูเชียนหลิงในวันนี้ เช่นนั้นแล้วก็ขอให้อัครเสนาบดีสั่งสอนบุตรสาวของท่านให้ดีขึ้นด้วย”อัครเสนาบดีซูมีสีหน้าตึงเครียด นิ้วของเขากดลงบนฝ่ามือเขาโกรธอยู่ในใจ แต่ภายนอกเขายังคงแสดงออกอย่างเรียบเฉย เขาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "ใช่ ใช่ สิ่งที่ใต้เท้าโจวพูดถูกต้องแล้ว"เรื่องนี้ก็จะร้ายแรงเสียยิ่งกว่านี้ หากซูเชียนหลิงทำให้ตระกูลโจวและองค์ชายสามต้องแตกแยกและขัดขวางการอภิเษกในที่สุด เย่อวิ๋นถูยังรีบเอ่ยขึ้นด้วยว่า "ทั้งหมดเป็นเพราะลูกเขยยังเยาว์และควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดี ข้าจะกลับไปเกลี้ยกล่อมหรุ่ยเอ๋อร์ และจะพยายามเพื่อให้ได้รับการอภัยจากนางอภัยอย่างเต็มที่แน่นอน"ราชเลขาโจวมีสีหน้าอ่อนลงเมื่อเขามองเย่อวิ๋นถูเขาโบกแขนเสื้อแล้วพูดว่า "หรุ่ยเอ๋อร์ มานี่สิ!"โจวหรุ่ยถูกประคองมาตรงหน้าของราชเลขาโจว แก้มของนางยังคงบวมและดูน่าสงสาร“ท่านพ่อ ข้าเจ็บใบหน้ามาก แต่ในใจของข้าเจ็บเสียยิ่งกว่า...ฮือ...ฮือ..”เย่อวิ๋นถูก้าวไปข้างหน้าทันที เขาผลักคนรับใช้ทั้งหลายออกไปจากนั้นเ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 71

    นางเคยเห็นคนผู้นี้ในความทรงจำอันเลือนรางของนางองครักษ์เงาลำดับสิบเจ็ดที่เสียชีวิตเพราะปกป้องเย่เสวียนถิงจากลูกธนูลอบสังหารเมื่อนานมาแล้วเขาเป็นหนึ่งในหน่วยองครักษ์ที่ภักดีต่อเย่เสวียนถิงตลอดมาซูชิงอู่ครุ่นคิดอย่างรอบคอบ ม่านหมอกแห่งความทรงจำเจ็ดปีก็สูญสลายหายไป ทันใดนั้นดวงตาของนางก็เฉียบคมทันทีเนื่องจากการลอบสังหารครั้งนั้นจะเกิดขึ้นในสามวันต่อจากนี้ ระหว่างการล่าสัตว์ในฤดูใบไม้ร่วงของวันที่ ยี่สิบเจ็ดเดือนสิบนางไม่ได้ติดตามเขาไปในชีวิตครั้งก่อน แต่เพียงได้รู้เรื่องราวเหล่านี้จากขุนนางบางคน เมื่อเย่เสวียนถิงกลับมาหลังจากที่เย่เสวียนถิงกลับมาจากการล่าสัตว์ เขาก็ขังตัวเองอยู่ในห้องเป็นเวลาถึงครึ่งเดือนในเวลานั้น ซูชิงอู่ต้องการให้เย่เสวียนถิงจากไปไกล ๆ จึงไม่ได้แยแสความรู้สึกของเขาในขณะนั้นเลย ไม่นานหลังจากนั้นนางจึงได้รู้เรื่องการตายขององครักษ์เงาลำดับที่สิบเจ็ดเมื่อมองย้อนกลับไปจากตอนนี้แล้ว ก็รู้สึกใจสั่นในทันทีทันใดนั้น ซูชิงอู่ก็มองไปที่เย่เสวียนถิง "อีกสามวันข้างหน้า ฮ่องเต้จะออกล่าสัตว์ในฤดูใบไม้ร่วงใช่หรือไม่?"เย่เสวียนถิงผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นหรี่ตาลงแล้วพ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 72

    จู่ ๆ เย่เสวียนถิงก็รู้สึกถึงกระแสอันอบอุ่นที่พลุ่งพล่านภายในใจของเขาทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าทุกสิ่งที่เขาทำมาตลอด ตอนนี้คุ้มค่าแล้วเขาลดสายตาลง "โชคดีที่ข้าจับพวกมันได้ทั้งหมด"องครักษ์เงาดึงผ้าคลุมศีรษะของหัวหน้าโจรออกจากนั้นเขาก็กดดาบยาวในมือไว้ที่ลำคอของชายผู้นั้น“บอกข้ามาตามตรง ใครสั่งให้เจ้าทำร้ายบุตรสาวของอัครเสนาบดีซู?”ชายผู้นั้นตกใจกลัว น้ำเสียงของเขาสั่นเครือ "ข้า... ข้าไม่รู้ มีคนมอบถุงเงินให้ข้า แล้วบอกว่าให้รอที่สี่แยกแล้วจับสตรีผู้งดงามนางนั้นไป ข้าไม่รู้อะไรเลย และก็ไม่ได้ทำอะไรนางด้วย นางวิ่งหนีหายไปเอง...”“คนที่ให้เงินเจ้าเป็นบุรุษหรือสตรี แก่หรืออายุน้อย? มีรอยตำหนิบนร่างกายเป็นพิเศษหรือไม่?”หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดด้วยความตื่นตระหนกว่า "น่าจะเป็น... เสียงของหญิงสาว นางสวมหมวกคลุมใบหน้าและไม่สูงเท่าไรนัก หากท่านพาสตรีนางนั้นเข้ามา แล้วข้าได้ยินเสียงนาง ข้าอาจบอกท่านได้ว่าเป็นนางหรือไม่!”เขาพยายามทำให้ตัวมีประโยชน์มากที่สุดองค์รักษ์เงาลำดับที่สิบเจ็ดเหลือบมองไปข้างหลัง ก่อนมองไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาคนอื่น ๆ คนเหล่านั้นจัดการกลุ่มโจรที่เห

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 73

    ซูชิงอู่ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย อย่างมีแผนอยู่ในใจแล้วทันใดนั้นนางก็เลิกม่านขึ้นอีก ส่งยิ้มให้เย่เสวียนถิงซึ่งอยู่ข้างนอกรถม้าได้หยุดลงแล้ว ทุกคนลงจากรถอย่างเป็นระเบียบและเข้าสู่พื้นที่ล่าสัตว์ประจำฤดูใบไม้ร่วงทันทีซูชิงอู่กระดิกนิ้วเรียกให้เย่เสวียนถิงเข้าใกล้นางมากยิ่งขึ้น“ท่านอ๋อง ข้าเองก็อยากล่าสัตว์เหมือนกัน ท่านช่วยพาข้าไปสำรวจป่าแห่งนี้สักพักได้หรือไม่?”เย่เสวียนถิงไม่คาดคิดว่าซูชิงอู่จะร้องขอเช่นนี้เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกว่าความสามารถของเขานั้นมากพอที่จะปกป้องซูชิงอู่ได้ยิ่งไปกว่านั้น สัตว์ดุร้ายขนาดใหญ่ในภูเขาอวิ๋นหลานก็ถูกไล่ออกไปนานแล้ว ตราบใดที่พวกเขาไม่เข้าไปในส่วนลึกของป่าจนเกินไป ก็จะไม่มีอันตรายใดเกิดขึ้น"ตกลง"ซูชิงอู่ยื่นมือออกมาตรง ๆ แล้วพูดว่า "ข้าอยากขี่ม้า”เมื่อมองดูฝ่ามือที่อ่อนนุ่มขาวสะอาดของนาง ผิวบาง ๆ ด้านนอกก็ถูกห่อหุ้มไปด้วยเส้นเลือดสีฟ้า และปลายนิ้วของนางเจือไปด้วยผงแป้งบาง ๆนางคือซูชิงอู่ สตรีผู้เพียบพร้อมจากตระกูลร่ำรวย เรียวนิ้วของนางไม่เคยได้สัมผัสกับความลำบากนิ้วมือแสนงดงาม ปราศจากผิวหนังที่ด้านหนา เป็นความงามอันเปราะบางที่

Latest chapter

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status