แชร์

บทที่ 239

ผู้เขียน: วิ๋นเจิง
ซูชิงอู่เลิกคิ้วเล็กน้อย “ข้าได้มันมาอย่างไรหาได้ต้องสนใจไม่ ข้ารู้ว่าพี่ชายของข้าชอบมันก็เพียงพอแล้ว”

ซูหัวจิ่นถือภาพวาดไว้อย่างมิอาจจะวางลงได้

เขารู้อยู่ในใจว่าภาพวาดนี้หายากเพียงใด

อาจกล่าวได้ว่า ซูชิงอู่ได้กำไรมากจริง ๆ แม้ว่าภาพวาดนี้จะมีค่ามาก แต่ผู้คนในหอมหาสมบัติก็ไม่ได้สนใจภาพวาดนี้เสียเท่าไร ดังนั้นจึงมีผู้ประมูลไม่มากนัก

ยิ่งกว่านั้นเพราะภาพวาดนี้มีมูลค่ามาก แม้ว่าจะสามารถซื้อมันได้ แต่หากมิได้ชอบจริง ๆ คงไม่มีผู้ใดยอมจ่ายเงินแปดหมื่นตำลึงเพื่อภาพวาดนี้หรอก

เขาเม้มริมฝีปาก แต่ก็รู้สึกอบอุ่นในใจ เมื่อมองดูใบหน้าที่ยิ้มแย้มของซูชิงอู่ ซูหัวจิ่นก็พูดว่า “ภาพวาดนี้คงราคาแพงมาก”

ซูชิงอู่ส่ายหัว “มิได้แพงขนาดนั้น”

ซู่หลานไม่เข้าใจคุณค่าของภาพวาดนี้ เมื่อได้ยินซูหัวจิ่นพูดเช่นนี้ นางก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

ไม่ว่าภาพวาดจะแพงแค่ไหนก็คงจะแค่หนึ่งพันแปดร้อยตำลึงเท่านั้นกระมัง

อย่างไรก็ตาม ซูฉางเซิงรู้เรื่องประเภทนี้เป็นอย่างดีและได้ศึกษาคุณค่าของมันมาไม่น้อย

เขาปิดปากไอเบา ๆ และพูดกับซูหัวจิ่น “พี่ใหญ่ หากมิได้มาเป็นของกำนัล แล้วท่านพี่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 240

    ซูฉางเซิงถึงกับดึงที่มุมเสื้อของพี่รอง “พี่รอง ของกำนัลที่ชิงอู่มอบให้ท่านคืออะไร? เอาออกมาดูสิ!” ใบหน้าของซูเชียนหมิงเปลี่ยนเป็นสีแดงในขณะที่เขาหยิบชุดเกราะเทียนหลินออกมาวางมันลงบนโต๊ะ ชุดเกราะอ่อนสีเงินสง่าแวววาวงดงาม วัสดุมีความเย็นและละเอียดอ่อนต่อการสัมผัส เมื่อถูกดาบฟันชุดเกราะนี้จะเกิดเพียงรอยจาง ๆ เท่านั้น “นี่มัน…” ซูหัวจิ่นและซูฉางเซิงต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน ซูเชียนหมิงอ้าปากค้าง เขาพอมีประสบการณ์และได้ยินข่าวลือมาบ้าง เขามองไปที่ซูชิงอู่และพูดด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ “ชุดเกราะเทียนหลิน!?” ซู่ชิงอู่พยักหน้า “ใช่” นางพยักหน้า และซูเชียนหมิงก็ผลักเกราะเทียนหลินไปที่ซูชิงอู่ทันที “ข้าคงรับของกำนัลราคาแพงเช่นนี้ไว้มิได้ ชิงอู่ เจ้าควรเก็บสิ่งนี้ไว้เพื่อตัวเจ้าเอง เจ้าจะมอบมันให้ผู้อื่นเช่นนี้ได้เยี่ยงไร?” ซูชิงอู่กล่าวว่า “ข้าคิดว่าพี่รองต้องการมันมากกว่าข้า”ใบหน้าของซูเชียนหมิงมืดมน “ข้าขอไม่รับไว้!” ซูชิงอู่ถอนหายใจ แม้ว่านางจะรู้นิสัยของพี่รองแต่นางก็ยังรู้สึกยากที่จะจัดการด้วย “ข้ายังมีอีกชุดหนึ่ง” ซูเชียนหมิงตกใจ “มี

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 241

    อันซู่หลานที่อยู่ด้านข้างก็เห็นสิ่งเหล่านี้เช่นกัน ขณะนี้ใบหน้าของนางไม่เพียงแดงก่ำใบหน้านั้นยังร้อนผ่าวไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวดอีกต่างหากแววตาของซูชิงอู่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง“ของพวกนี้...ของพวกนี้มีค่ามากเกินไปแล้ว ท่านอ๋องอย่าได้...”เย่เสวียนถิงเอ่ยอย่างเคร่งขรึมว่า "ตั้งแต่ยังเล็กชิงอู่เติบโตขึ้นมาภายใต้ร่มเงาของท่านพี่ทั้งหลาย เช่นนั้นแล้วท่านอย่าได้เกรงใจของขวัญเล็กน้อยเหล่านี้เลย พี่ใหญ่"ในฐานะท่านอ๋อง เขามักสงวนท่าทีเมื่อพบหน้ากับพี่น้องตระกูลซู อีกทั้งเขายังแสดงออกถึงความห่วงใยและเอาใจใส่ต่อซูชิงอู่อย่างมากด้วยซูหัวจิ่นนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งโดยไม่รู้ว่าจะพูดอะไร แต่เขาก็รู้เช่นกันว่าไม่อาจปฏิเสธความตั้งใจของอีกฝ่ายได้เขาจึงหันกลับมาพร้อมกับโค้งคำนับเย่เสวียนถิงด้วยความเคารพ “ข้าจะขอรับของขวัญเหล่านี้จากท่านอ๋องไว้ และต่อจากนี้ไปข้าขอฝากฝังน้องหญิงของข้าให้ท่านคอยดูแลด้วย”เย่เสวียนถิงหรี่ตาลงเล็กน้อย ราวกับว่าเขาปรารถนาที่จะผนึกซูชิงอู่ไว้ในดวงตาของเขาเขาพยักหน้าเบา ๆ แล้วพูดว่า "พี่ใหญ่โปรดวางใจ ข้าจะปกป้องนางอย่างสุดกำลังด้วยชีวิตทั้งหมดของข้า ตราบใ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 242

    ซูชิงอู่ผงะเล็กน้อย เมื่อเห็นเด็กเล็ก ๆ น่ารักเงยหน้าขึ้นพร้อมกับยิ้มให้นาง เขาพูดอย่างไพเราะว่า "ท่านอา~"จากนั้นเขาก็อ้าแขนอันจ้ำม่ำออกแล้วกอดขาของนาง“เหตุใดไม่กอดข้าล่ะ?”เขายังคงจำได้จริง ๆ…ซูชิงอู่ใจอ่อนลงทันที นางถอนหายใจพลางแกะมือเล็ก ๆ ของเด็กน้อยที่เกาะขานางไว้ราวกับปลาหมึกยักษ์ออก จากนั้นจึงอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนของนางเคอเอ๋อร์ตัวน้อยหอมแก้มของนาง ดวงตาของเขาเปล่งประกายไปด้วยแสงแวววาว“ท่านอา ช่างงดงามจังเลย~”ซูชิงอู่ผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นนางก็อดหัวเราะไม่ได้นางกอดแนบชิดแก้มอันอ่อนนุ่มของเคอเอ๋อร์ และทันใดนั้นนางก็รู้สึกว่าราวกับว่ามีก้อนหินก้อนเล็ก ๆ ถูกโยนเข้ามาภายในใจของนาง ซึ่งทำให้เกิดระลอกคลื่นหลายต่อหลายชั้นไม่ว่ามารดาของเคอเอ๋อร์จะมีทัศนคติอย่างไร นางก็ไม่อาจลืมได้ว่านี่คือลูกของพี่ใหญ่อีกทั้งเขายังเป็นพี่ชายของลูกน้อยในอนาคตนางด้วยยิ่งไปกว่านั้นเคอเอ๋อร์ยังน่ารักมากเหมือนกับพี่ใหญ่นาง ต่อจากนี้ไปเขาจะต้องเป็นพี่ชายที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่มั่นคงอย่างแน่นอนในอนาคต ชีวิตของเขายังอีกยาวไกลนัก เขาจะต้องไม่จบอยู่แค่นี้เพียงเพราะสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด "เคอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 243

    ซูหัวจิ่นคิดไม่ถึงว่าอันซู่หลานจะตอบโต้อย่างรุนแรงถึงเพียงนี้ เขามองนางที่จากไปด้วยสายตาเย็นชาเช่นนี้ก็ดีบางทีเขาอาจจะต้องสงบสติอารมณ์ลงแล้วคิดว่าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรคืนนั้น อันซู่หลานพาซูเคอกลับไปยังบ้านบิดามารดาของนางจวนตระกูลอันค่อนข้างใหญ่ ภายในจวนมีทั้งคนชราและหนุ่มสาวหลายคนอาศัยอยู่ด้วยกัน เมื่ออันซู่หลานกลับมาถึงจวน นางก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพี่สะใภ้ใหญ่ของนาง ด้วยคำพูดยกยอปอปั้นเหล่านั้น “โอ้ ทั้งสองผู้นี้คือซู่หลานและลูกของนางเคอเอ๋อร์ไม่ใช่หรือ? เหตุใดพวกเจ้าจึงกลับมาช้านัก? เกิดสิ่งใดขึ้นอย่างนั้นหรือ?”เมื่ออันซู่หลานได้ยินคำพูดปลอบประโลมจากครอบครัวของนาง แววตาแห่งความคับข้องใจก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง นางจึงอดไม่ได้ที่จะพรั่งพรูความในใจออกมาหลังจากที่พี่สะใภ้ใหญ่และพี่สะใภ้รองดึงนางไปยังเรือนข้างจวนจนสุดโถงทางเดิน อันซู่หลานก็อุ้มเคอเอ๋อร์แล้วเล่าเรื่องราวทั้งหมด นางไม่อาจสังเกตเห็นความอิจฉาที่ฉายวาบในแววตาของพี่สะใภ้ทั้งสอง พี่สะใภ้ใหญ่ยิ้มให้นางด้วยสายตาอันอ่อนโยนพร้อมกับพูดว่า "ที่แท้เป็นเพราะเรื่องนี้ พระชายาเสวียนผู้น

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 244

    ซูชิงอู่โบกมือ นางหรี่ตาลงเล็กน้อยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "อย่าทำเช่นนี้ แม้ว่าตระกูลอันจะเป็นเพียงมดตัวน้อย แต่ท้ายที่สุดแล้วนี่ก็คือครอบครัวของซูเคอ เช่นนั้นจึงไม่อาจลงมือได้"เมื่อองครักษ์เงาที่สิบเจ็ดได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็ระงับเจตนาสังหารภายในใจ ‘พระชายาใจดีเกินไป…’ทว่าครู่ต่อมา นางก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปว่า "เราต้องทำให้พวกเขาลิ้มรสความสิ้นหวังเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยลงมือฆ่า!"เงาที่สิบเจ็ดตะลึงงันเย่เสวียนถิงมองดูสีหน้าโกรธแค้นของซูชิงอู่พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "ข้าสามารถสั่งให้สอบสวนตระกูลอันได้ทันที"ซูชิงอู่เหลือบมองเย่เสวียนถิง สีหน้าของนางอ่อนลงจากเดิมมาก "ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องเข้ามาแทรกแซงในเรื่องนี้ พรุ่งนี้ข้าจะไปยังจวนตระกูลอันด้วยตัวเองเพื่อดูว่าคนเหล่านั้นตั้งใจจะทำอะไร!"เย่เสวียนถิงกังวลเล็กน้อย "ข้าจะให้เจ้าสิบเจ็ดไปกับเจ้า"“ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องลงมือลงแรงถึงเพียงนี้ ท่านมีสิ่งสำคัญอย่างอื่นที่ต้องจัดการในช่วงนี้ เช่นนั้นสิบเจ็บควรอยู่เคียงข้างท่านจะดีกว่า”เย่เสวียนถิงยิ้มบาง ๆ อย่างอ่อนโยน ร่องรอยของความมืดปรากฏขึ้นในดวงตาลึกของเข

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 245

    ตอนนี้เป็นเดือนที่สิบสองของฤดูหนาว แต่ปีนี้พายุหิมะมาช้า จึงมีเพียงชั้นน้ำแข็งบาง ๆ ที่ก่อตัวบนพื้นผิวสระบัวเด็ก ๆ หลายคนวิ่งไปยังริมสระบัวเพื่อเล่นกัน เด็กทั้งสามจากตระกูลอันก็มายังบริเวณสระบัวพร้อมกับเคอเอ๋อร์เช่นกัน เด็กน้อยไม่อาจรู้ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ใบหน้าของเขายังคงมีรอยยิ้มกว้าง โดยคิดไปว่าพี่น้องของเขากำลังเล่นกับเขาอยู่ทว่าในขณะที่เขาเข้าใกล้สระบัว จู่ ๆ ก็มีคนผลักเขาจากด้านหลัง แรงกระแทกนั้นทำให้ร่างของเขาโอนเอน จากนั้นเขาจึงผลัดตกลงบนสระน้ำแข็งทันทีตามมาด้วยเสียงแตกร้าว เด็กตัวน้อยซึ่งมีอายุเพียงสามขวบแสดงสีหน้าตื่นตระหนก ร่างกายของเขาครึ่งหนึ่งอยู่ในน้ำแล้ว เขายื่นมือออกไปหาพี่น้องของเขาบนฝั่งอย่างหมดทางดิ้นรน พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทาว่า "ท่านพี่ใหญ่ ท่านพี่หญิง ช่วยเคอเอ๋อร์ด้วย ... "ทว่าเด็กทั้งสามจากตระกูลอันกลับมองดูเขาอย่างเฉยเมยบนชายฝั่ง เห็นได้ชัดว่าความอบอุ่นไม่มีเหมือนเช่นเคยอีกต่อไปแล้ว แม้แต่เด็กโตอายุสิบขวบก็ยังมองเขาด้วยสีหน้าบูดบึ้ง อีกฝ่ายมองไปรอบข้าง ก่อนจะจูงมือพี่น้องอีกสองคนให้หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีเด็กตัวน้อยไม่มีความแข

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 246

    “ท่านอา~”ซูชิงอู่เลิกคิ้วพร้อมกับเอ่ยว่า "หืม?"ศีรษะสีดำเล็ก ๆ ของเคอเอ๋อร์โผล่ออกมาจากขนสุนัขจิ้งจอก ดวงตาของเขายังคงมีน้ำตาไหลอยู่ "มีคนผลักเคอเอ๋อร์ เคอเอ๋อร์ก็เลยตกลงไป"เด็กตัวน้อยทั้งรู้สึกเสียใจและวิตกกังวล เมื่อเห็นคนที่ไว้ใจได้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะฟ้องทันที ซูชิงอู่พยักหน้า "อารู้แล้ว"นางไม่ได้ถามว่าใครเป็นคนทำ เพราะ...ไม่จำเป็นกลุ่มคนจากตระกูลอันเฝ้าดูซูชิงอู่เดินออกจากฝูงชนโดยมีเคอเอ๋อร์อยู่ในอ้อมแขนของนาง ทว่าใบหน้าของนางก็ยังไม่ได้เป็นที่น่าจดจำของเหล่าสตรีในเมืองหลวง โดยเฉพาะในจวนของขุนนางระดับล่างเหล่านี้ แน่นอนว่ายศของขุนนางระดับห้านับว่าไม่ได้ต้อยต่ำนัก ผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็ยังให้ความเคารพ แต่ใครใช้ที่ทำให้ซูชิงอู่เกิดในจวนของอัครเสนาบดีอีกทั้งยังคุ้นเคยแค่กับขุนนางขั้นหนึ่งและขั้นสองเล่า?“เจ้าเป็นใคร เหตุใดจู่ ๆ ถึงบุกเข้ามาในจวนของข้า?!”ใบหน้าของใต้เท้าอันซีดเผือด แต่เขาไม่กล้าที่จะทำให้ผู้คนเหล่านี้ต้องขุ่นเคืองใจซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะไม่ทำเช่นนั้นตั้งแต่แรกเห็น คนอื่นต่างไม่รู้จักซูชิงอู่ ในขณะที่อันซู่หลานกลับจดจำใบหน้านี้ไม่รู้ลืมหลังจากท

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 247

    พี่สะใภ้ทั้งสองของซู่หลานตะโกนเสียงดัง พวกนางทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้นด้วยขาที่อ่อนแรง พวกนางถูกองครักษ์หยุดไว้รวมทั้งไม่อาจแม้แต่จะแตะต้องลูก ๆ ของตัวเองได้ พวกนางทำได้แต่เพียงเฝ้าดูเด็กทั้งสามตกลงไปในน้ำเท่านั้น น้ำที่เย็นราวกับน้ำแข็งกลืนร่างเด็ก ๆ เหล่านั้นทันที พี่สะใภ้ใหญ่ของตระกูลอันจ้องมองอย่างโกรธเคือง นางพยายามอย่างยิ่งที่จะรีบเร่งไปหาซูชิงอู่“หยุดนะ พวกเขาเป็นเพียงเด็ก พระชายาเสวียน เหตุใดท่านจึงโหดร้ายไร้เมตตาถึงเพียงนี้? แม้แต่กับเด็กท่านก็ไม่อาจปล่อยไป?”เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ซูชิงอู่ก็เลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วมองไปยังพี่สะใภ้ใหญ่อันที่กำลังพูดอยู่ นางยิ้มมุมปาก จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "นี่โหดร้ายงั้นหรือ? เจ้ายังไม่เคยเห็นความโหดร้ายที่แท้จริงเลย"นางโบกมือเบา ๆ ทันใดนั้น องครักษ์ที่อยู่ด้านหลังก็ดึงเด็กทั้งสามที่กลายเป็นไก่ตกน้ำออกจากสระน้ำแข็งทันทีในวันที่อากาศหนาวจัดในเดือนสิบสอง เด็กทั้งสามตัวสั่นด้วยความหนาวเย็นและไม่อาจส่งเสียงใดได้เลยท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาต่างก็เป็นเพียงเด็ก แต่เคอเอ๋อร์นั้นมีอายุเพียงสามปีเท่านั้น หากเขาตกลงไปในสระน้ำแข็งเช่นนี้

บทล่าสุด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status