แชร์

บทที่ 200

ผู้เขียน: วิ๋นเจิง
เย่เสวียนถิงพยักหน้า จากนั้นหันกลับขึ้นไปบนหลังม้า เขาก้มลงมาเล็กน้อยพร้อมยื่นมือไปหาซูชิงอู่

ทันใดนั้น ซูชิงอู่ก็เงยหน้าขึ้นมองไปยังบุรุษที่ขี่ม้าอยู่ข้าง ๆ นาง

ร่างสูงของเขาบดบังแสงทองที่อยู่ด้านหลัง ข้อต่อนิ้วชัดเจนจากมือที่ยื่นออกมานั้นดูเหมือนจะเปล่งแสงจาง ๆ

นางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ตกตะลึงอยู่นานก่อนจะยื่นมือออกไป มือแกร่งจับมือของนาง ฉับพลันร่างกายของนางก็เบาลงและขึ้นไปนั่งอยู่ในอ้อมแขนของเย่เสวียนถิง

“ไป!”

เสียงของเย่เสวียนถิงดังก้องในหูของนางราวกับฟ้าร้อง

ซูชิงอู่รู้สึกค่อนข้างคุ้นเคยกับเสียงนั้น จิตใจของนางสับสนมากแต่นางคิดอะไรไม่ออก

เย่เสวียนถิงคงไม่รู้ว่าเขามีเสน่ห์แค่ไหนเมื่อทำท่าทางเช่นนี้

ซูชิงอู่สัมผัสใบหน้าอันร้อนผ่าวและแดงก่ำของตน จากนั้นสัมผัสหัวใจที่เต้นระรัว โดยรู้ว่า… ตนคงไม่มีทางหนีจากความรู้สึกนี้ไปได้ตลอดชีวิต

เย่เสวียนถิงพาคนเหล่านั้นไปที่ฝ่ายสืบคดีที่เขารับผิดชอบ

ภายในเรือนจำเต็มไปด้วยคนชั่ว ทันทีที่ซูชิงอู่เดินลงบันไดไปยังคุกใต้ดินกับเย่เสวียนถิง นางก็เห็นดวงตานับไม่ถ้วนจ้องมองพวกเขาจากด้านหลังลูกกรงเหล็กที่ขนาบท
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 201

    หลิงซื่อเงยหน้าขึ้นมองท่าทีของซูชิงอู่ด้วยความกลัว “ไม่ ไม่ใช่ข้า ไม่ใช่ข้าจริง ๆ...” นางรีบส่ายหัวรัว ๆ อย่างสิ้นหวัง มีคนอยู่ข้าง ๆ เดินเข้ามาพร้อมแส้เตรียมลงมือ ทันทีที่หลิงซื่อเห็นแส้ ม่านตาของนางก็หดตัวลง มันใดนั้นซูชิงอู่ก็พูดว่า “ท่านอ๋อง หม่อมฉันมีเรื่องจะถามหลิงซื่ออีกสักหน่อย ช่วยให้พวกเขาออกไปก่อนได้หรือไม่เพคะ” เย่เสวียนถิงโบกมือ คนอื่น ๆ ออกจากห้องขังกันไปทีละคน จากนั้นเขาก็หันหลังเดินออกไป แต่ก่อนที่เขาจะก้าวออกจากห้อง ซูชิงอู่ก็เอ่ยว่า “ท่านอ๋องโปรดอยู่กับหม่อมฉันก่อนเถิดเพคะ อยู่ตรงนี้คนเดียวหม่อมฉันกลัวนิดหน่อย” ฝีเท้าของเย่เสวียนถิงหยุดชะงัก พลันรู้สึกมีความสุขขึ้นมาในใจเขาชะงักฝีเท้าที่จะเดินออกไปพร้อมหันกลับมาด้วยท่าทีสงบ จากนั้นปิดประตูหินแล้วมายืนข้างซูชิงอู่ แสงเทียนในห้องขังสลัว และเงียบพอที่จะได้ยินการหายใจอันหนักหน่วงของหลิงซื่อ เสียงของนางแหบแห้งจากการถูกทรมานทั้งวันทั้งคืน “ข้าสารภาพทุกอย่างที่รู้ไปหมดแล้ว ขอร้องพวกท่าน ช่วยปล่อยข้าไปเถิด…” ซูชิงอู่มองดูท่าทางที่น่าสมเพชของหลิงซื่อโดยไ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 202

    คำพูดที่ออกจากปากของนางนั้นค่อนข้างประชดประชัน นิสัยของหลิงซื่อเป็นเช่นนี้ และซูเชียนหลิงก็ได้รับสิ่งนี้มาจากนางเช่นกัน ซูชิงอู่หรี่ตาลง “เจ้าไม่คู่ควรที่จะตัดสินสิ่งที่แม่ของข้าทำ” “ใช่แล้ว นางเป็นดวงจันทร์ที่สว่างไสวในใต้หล้า ส่วนข้าก็เป็นแค่ไส้เดือนคลานอยู่ในโคลน จะเปรียบเทียบกับนางได้เยี่ยงไร” หลิงซื่อหัวเราะกับตัวเองแล้วพูดอีกครั้ง “แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าพี่ห้าของเจ้ามิได้ป่วยเลย ทว่าถูกวางยาพิษ และคนที่วางยาเขาคือคนไข้ของฟางอี๋ซิน แต่นางกลับปกป้องเด็กคนนั้นมิได้… ฟางอี๋ซินช่วยชีวิตผู้คนทุกวัน แต่สุดท้ายนางก็ไม่สามารถรักษาลูกของตัวเองได้ ต่อมานางค้นหายาอายุวัฒนะต่าง ๆ ทุกที่เพื่อล้างพิษพี่ห้าของเจ้า ข้าได้ยินมาว่านางเตรียมจะทำยาแก้พิษ แต่นางกลับต้องมาจากไปเสียก่อน ช่างน่าเสียดาย...” ซูชิงอู่ถามว่า “เจ้ามาบอกข้าเรื่องนี้ เจ้าต้องการสิ่งใด?”หลิงซื่อขมวดคิ้วและพูดอย่างอ่อนแอ “ข้าก็แค่เลื่อนลอย มีอะไรในใจข้าก็พูดออกไป…” ซูชิงอู่ยกริมฝีปาก “เจ้าอยากให้ข้ารู้สึกอึดอัดรึ? เจ้าอยากให้ข้ารู้สึกว่าทุกสิ่งที่ท่านแม่ทำในยามนั้นไม่คุ้มค่ารึ? หรือเจ้าต

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 203

    “โอ้? ดูเหมือนว่าคนผู้นั้นจะมีอำนาจและสถานะไม่น้อย เช่นนั้นข้าจะรอให้เขามาหาข้าเพื่อแก้แค้น” ซูชิงอู่ดูคล้ายจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม ดวงตาของนางไร้ความอบอุ่น หลิงซื่อตัวสั่นเมื่อเห็นเช่นนั้น นางลดสายตาลงพลางกัดฟันพูดว่า “เชียนหลิงเป็นองค์หญิงแห่งแคว้นซีอู๋ตะวันตก ธิดาทางสายเลือดของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันของแคว้นซีอู๋ตะวันตก... ข้าได้บอกความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแก่เจ้าแล้ว เจ้าปล่อยข้าไป…” ครู่ต่อมาเสียงของหลิงซื่อก็ขาดหาย ดูเหมือนคอของนางจะถูกปาด ซูชิงอู่มองดูนาง คิ้วของนางเลิกขึ้นเล็กน้อย และยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่กริชสีเงินที่นางถืออยู่ในมือแสดงให้เห็นว่านางทำอะไรไปเมื่อกี้ นางพูดว่า “ขอบคุณที่บอกความจริง แต่... ข้าแค่บอกว่าจะลองพิจารณาดู บัดนี้ข้าคิดได้แล้ว ข้าไม่คิดจะปล่อยเจ้าไป”ดวงตาของหลิงซื่อเบิกกว้าง สีหน้าของนางเริ่มบิดเบี้ยว ดุร้ายราวกับผี เลือดที่คอของนางยังคงไหลออกมา มิสามารถหยุดมันได้ นางทำได้เพียงรู้สึกถึงการหายใจไม่ออกและหนาวสั่น ความกลัวความตายแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ดวงตาปูดโปน นางจ้องมองที่ซู่ชิงอู่ด้วยความขุ่นเคืองยิ่ง ความโกรธที่ถูกหลอก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 204

    บัดนี้แม้ว่ารูปลักษณ์ของนางจะเหมือนเดิมทุกประการ แต่นางรู้ดีว่าภายในนั้นเน่าเฟะไปนานแล้ว แม้ว่าตอนนี้นางไม่สามารถถูกเรียกว่าปิศาจร้ายได้ แต่นางก็ไม่ใช่คนใจดีและเป็นคนดีอย่างแน่นอน นางสามารถใช้ประโยชน์จากหัวใจของผู้คน วางแผนเพื่อผลประโยชน์ของตน และฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา... อ้อมกอดของบุรุษผู้นี้อบอุ่นและมั่นคง ทำให้การเต้นของหัวใจของซูชิงอู่ค่อย ๆ คงที่ ซูชิงอู่ยืนเขย่งเท้าแล้วจูบริมฝีปากอ่อนนุ่มของเย่เสวียนถิง นางจงใจแลบลิ้นโลมเลียอย่างเย้ายวน ทันใดนั้นแขนของเย่เสวียนถิงรอบเอวของนางก็ตึงขึ้น การหายใจของเขาก็หนักหน่วงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แววตาของเขาจ้องอย่างลึกล้ำ “อาอู่ พอก่อน”ซูชิงอู่ลืมไปเลยว่านี่คือห้องขังเปื้อนเลือดที่มีศพอยู่ข้าง ๆ ซึ่งจ้องมองมาตาไม่กะพริบ ในใจของนางค่อนข้างสงบ เสียงของนางอ่อนโยนราวกับนกขมิ้น “หม่อมฉันรู้เพคะ แม้ว่าท่านอ๋องจะเห็นสิ่งนี้ ท่านก็จะไม่ทิ้งหม่อมฉันไป…” เย่เสวียนถิงถอนหายใจ แววตาของเขานั้นช่างอ่อนโยน จากนั้นเขาก็อุ้มซู่ชิงอู่ขึ้นมาแล้วเดินออกจากห้องขังไป ผู้คุมหลายคนที่ประตูเห็นคนสองคนเดินออกจากห้

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 205

    มหาราชครูมู่หรงมีบุตรชายทั้งหมดสองคน บัดนี้ที่เย่เสวียนถิงเหยียบย่ำหนึ่งในนั้นจนแหลกสลาย ความเกลียดชังนี้บอกได้เลยว่าคงอยู่ร่วมใต้หล้าเดียวกันไม่ได้แล้ว ทว่าสำหรับสองฝ่ายที่ถือเป็นศัตรูกันแต่เดิม เหตุการณ์เช่นนี้ก็มีได้ใหญ่อะไร ดังนั้นเย่เสวียนถิงจึงดูสงบ ทั้งฮองเฮาและมหาราชครูที่กำลังคร่ำครวญทำให้ฮ่องเต้ถึงกับปวดหัว เขาจึงต้องรีบจัดการกับเรื่องนี้อย่างหลีกเลี่ยงมิได้ รู้สึกสับสนอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยถามว่า “ชิงอู่ เหตุใดจึงมาที่นี่ด้วยเล่า?” ดวงตาของซูซิงอู่เป็นสีแดงก่ำ นางเงยหน้าขึ้นมองฮ่องเต้ด้วยท่าทีโศกเศร้า ทันใดนั้นนางก็คุกเข่าลงบนพื้นและสะอื้น “เรื่องนี้เป็นเพราะชิงอู่เพคะ ขอฝ่าบาททรงโปรดอย่าได้ตำหนิท่านอ๋องเลยเพคะ!” เย่เสวียนถิงเองก็คุกเข่าลงข้าง ๆ ซูชิงอู่ และอธิบายทุกอย่างโดยละเอียด“เช่นนั้นตัวลูกจึงโกรธมาก จึงให้คนทุบตีคุณชายมู่หรง ไหนเลยจะรู้ว่าคุณชายมู่หรงจะบอบบางถึงเพียงนี้จนทำลายส่วนนั้นของเขาไปโดยมิได้ตั้งใจ” ดวงตาของมหาราชครูมู่หรงโกรธมากจนแทบจะเปลี่ยนเป็นเขียว “ท่านอ๋องเสวียนตรัสเรื่องไร้สาระแล้ว หมาย

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 206

    ดูไปแล้วก็เหมือนกับการตามหานาง ทว่าในความเป็นจริงมันเป็นการทำลายชื่อเสียงของนางให้สิ้นซากและทำให้ทุกคนรู้ว่าซูชิงอู่ถูกกลุ่มโจรลักพาตัวไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นางเน้นย้ำให้พวกเหล่าคุณชายผู้สูงศักดิ์ในเมืองหลวงจดจำใบหน้าของซูชิงอู่ และเตือนพวกเขาว่าอย่าได้แต่งงานกับนางในภายหน้า ซูชิงอู่โจมตีอย่างหนักอีกครั้ง “แม้ว่าเขาจะมิเคยพบตัวข้า แต่เขาควรจำรถม้าของจวนอ๋องได้ เขาจู่โจมรถม้าจวนอ๋อง นี่มิใช่เป็นเพียงความไม่เคารพท่านอ๋อง แต่ยังมิเคารพต่องฮ่องเต้ด้วย การทุบตีเขาเพื่อลงโทษเพียงหนึ่งครั้ง ถือเป็นการผ่อนปรนมากแล้ว” “ท่าน ท่าน……” มหาราชครูมู่หรงไม่เคยเห็นสตรีที่พูดจาเฉียบคมเช่นนี้มาก่อน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือฮ่องเต้นั้นชื่นชอบซูชิงอู่มาก เมื่อฮ่องเต้ได้ยินก็ดูเหมือนว่าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ใบหน้าของเขามืดลงทันที“มหาราชครูมู่หรง เรื่องนี้ย่อมมีเหตุและผล เหตุผลก็คือฉางอันบุตรชายคนเล็กของเจ้ามีเจตนาที่ไม่ดีต่อพระชายาก่อน เช่นนั้นจึงถูกอ๋องเสวียนจัดการ สรุปแล้วการกระทำของเขาจะต้องถูกลงโทษ... ทว่าเมื่อพิจารณาถึงความทุกข์ทรมานของเขาแล้ว ข้าจะปล่อยผ่านไปตราบใดท

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 207

    ในตำหนักฮุ่ยหนิงบรรยากาศเคร่งเครียดผู้คนในตำหนักดูโศกเศร้าทันทีที่ฮ่องเต้มาถึง ฮุ่ยเฟยก็เดินออกไปด้วยความตื่นตระหนก และคุกเข่าต่อหน้าเขาด้วยดวงตาสีแดงก่ำ"ฝ่าบาทได้โปรดเถอะเพคะ ช่วยองค์ชายหกด้วย ฝ่าบาทได้โปรดช่วยชีวิตเขาด้วย!"ฮ่องเต้ขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามขันทีหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ เขาว่า "หมอหลวงมากันหมดแล้วเหรอ?"ขันทีหนุ่มตอบทันที "ทูลฝ่าบาท หมอหลวงหลิน และหมอหลวงหลี่ กำลังวินิจฉัยและรักษาองค์ชายหกอยู่ด้านใน"ฮ่องเต้ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเขามองลงไปที่ฮุ่ยเฟย และยื่นมือออกไปช่วยนางลุกขึ้น“หมอหลวงมาแล้วไม่ใช่เหรอ ฉางอิ๋งเป็นองค์ชาย เขามีโชคคอยคุ้มครอง เขาต้องไม่เป็นไรแน่ อย่ากังวลมากไปนักเลย”ฮุ่ยเฟยยืนขึ้น หลุบตาลงและตัวสั่นไปทั้งตัวฮองเฮาและคนอื่น ๆ ก็รีบวิ่งไปเช่นกันในช่วงเวลาสั้น ๆ ทั้งทั้งลานของตำหนักฮุ่ยหนิง ก็เต็มไปด้วยผู้คนแม้ตอนนี้ฮองเฮาจะถูกลดทอนอำนาจลงไปแล้ว แต่ในฐานะผู้ดูแลหกตำหนักฝ่ายใน คำพูดของพระนางก็ยังคงมีน้ำหนักอยู่บ้าง นางหรี่ตาลงและมองไปรอบ ๆ ทันใดนั้นก็ถามว่า "ซูเฟยอยู่ที่ใด เรื่องใหญ่โตเช่นนี้แล้ว ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบหกตำหนักฝ่ายในชั่วคราวอย่า

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 208

    ในช่วงเวลาอันปลอดภัยนั้น รังสีบางอย่างเหมือนจะส่องผ่านความมืดที่อยู่ลึกเข้าไปในหัวใจของซูชิงอู่ ทำให้หัวใจของนางสั่นสะท้านฮ่องเต้หรี่ตาลงและคิดอย่างลึกซึ้ง "แต่ท่านราชครูไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงมานานสองปีแล้ว ฮองเฮารู้หรือไม่ว่าเขาอยู่ที่ใด?"ฮองเฮาทำความเคารพและพูดว่า "หม่อมฉันเพิ่งรู้มาว่าท่านราชครูได้เข้ามาในเมืองหลวงแล้ว หากเป็นไปได้ หม่อมฉันจะขอให้ใครซักคนเชิญเขามาทันที!"ดวงตาของฮ่องเต้หรี่ลงดวงตาของเขาค่อนข้างคล้ายกับของเย่เสวียนถิง ทั้งคู่มีดวงตารูปหงส์ที่ยาวและแคบยามสบมองคนนับว่าเฉียบแหลมแม้ว่าเขาจะอายุไม่น้อยแล้ว แต่ฮ่องเต้ก็ยังมสง่างามไม่เปลี่ยน นอกจากนี้ หลังจากอยู่บนบัลลังก์มานานหลายทศวรรษ ความสง่างามของเขาปรากฏขึ้นได้จากการเคลื่อนไหวของมือเสียด้วยซ้ำ“เอาล่ะ ขอบใจฮองเฮาที่เสนอความคิด”"นี่เป็นสิ่งที่หม่อมฉันควรทำอยู่แล้วเพคะ"ฮองเฮาจึงรีบส่งคนไปเชิญท่านราชครูมาทันทีทั้งสถานที่เงียบไปอึดใจหนึ่ง ฮ่องเต้ไม่พูด จึงไม่มีใครกล้าเอ่ยปากเหล่าพระชายาและนางสนมหลายพระองค์นั่งอยู่รอบ ๆ องค์ฮ่องเต้ ในขณะที่ซูชิงอู่ และเย่เสวียนถิงอยู่ด้านหลังซูเฟยซูเฟยรู้สึกประหม่าเล็ก

บทล่าสุด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status