แชร์

บทที่ 157

ผู้เขียน: วิ๋นเจิง
ซูเฟยมีสีหน้าตกตะลึง นางยกมือขึ้นปิดริมฝีปากแล้วถอยหลังไปสองสามก้าว

นางมองไปยังนางกำนัลอาวุโสสวี่อย่างไม่กะพริบตาพร้อมกับชี้นิ้วไปที่คนผู้นั้นแล้วพูดขึ้นด้วยความโกรธว่า "เจ้า...เจ้า..."

นางก็ไม่ใช่หญิงสาวที่จะไม่รู้อะไรเลย ตอนนี้นางรู้สึกเวียนศีรษะแทบจะล้มลงกับพื้น

ซูชิงอู่และเย่เสวียนถิงต่างก็รีบเร่งก้าวไปข้างหน้าทันที ก่อนจะเอื้อมมือประคองซูเฟยอย่างรวดเร็วพร้อมกันทั้งทางซ้ายและขวา

ซูเฟยไม่สนใจความคิดของตนที่มีต่อซูชิงอู่อีกต่อไป ความคิดภายในใจของนางทั้งหมดถูกยับยั้งโดยการทรยศของนางกำนัลอาวุโสสวี่ซึ่งอยู่เคียงข้างตนมาตลอด

นางกำนัลอาวุโสสวี่พูดไม่ออก นางรีบคุกเข่าลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นานทุกคนในห้องก็ได้กลิ่นแปลก ๆ

นางกลัวมากจนปัสสาวะราด

เย่เสวียนถิงขมวดคิ้ว "พานางออกไป แล้วโบยนางให้ตาย!"

องครักษ์เงาที่สิบเจ็ดเอื้อมมือคว้าคอเสื้อของนางกำนัลอาวุโสสวี่ขึ้นมาในขณะที่เขากำลังจะจากไป

จู่ ๆ ซูชิงอู่ก็พูดขึ้น

"อย่าได้รีบร้อน"

องครักษ์เงาที่สิบเจ็ดหยุดเดินอย่างเชื่อฟัง เขาตั้งใจฟังคำแนะนำต่อไปของชายาเสวียน

ดวงตาที่มองซูชิงอู่เต็มไปด้วยความเคารพและความชื่นชม

เพราะในสา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 158

    ซูเฟยผงะ ทันใดนั้นก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่างซึ่งทำให้หนังศีรษะของนางรู้สึกชาหนึบในทันที“ข้าจำได้ว่าพี่สาวของฮองเฮาถูกวางยาพิษโดยฮ่องเต้องค์ก่อนเพราะไสยศาสตร์ของนาง เช่นนั้นเรื่องนี้จึงกลายเป็นเรื่องต้องห้าม และฮองเฮาก็ไม่ยอมให้สิ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ปรากฏในพระราชวัง… เพราะเหตุนี้ ตลอดหลายปีที่ผ่านจึงไม่มีเรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้น แล้วใครกันที่กล้าทำเลวร้ายเช่นนี้?”ซูชิงอู่กรอกตาจะเป็นใครได้อีกเล่า?ผู้มีอำนาจในเหล่าสตรีของฮ่องเต้ นอกจากฮองเฮาแล้ว ก็คือ เจียวกุ้ยเฟย“ไม่ว่าใครจะเป็นผู้บงการที่แท้จริงเบื้องหลังเรื่องนี้ หากซูเฟยยังคงอยู่เฉย ๆ เช่นนี้ต่อไป หม่อมฉันเกรงว่าท่านอาจจะไม่เหลือแม้แต่กระดูกหรือเศษซากให้แร้งกัดกิน”ใบหน้าของซูเฟยซีดเผือด นางเต็มไปด้วยความละอายใจในชีวิตก่อนหน้าองค์ชายหกสิ้นพระชนม์ด้วยอาการป่วยอย่างไม่ทราบสาเหตุ และพบว่ามีบางคนใช้ไสยศาสตร์ในวังหลวงแห่งนี้ฮองเฮาโกรธเคืองอย่างมากเมื่อทราบเรื่องนี้เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวซูเฟยจึงถูกลงโทษและกักขังในตำหนักจิ้งอี๋ รวมทั้งไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากประตูตำหนักตลอดชีวิตต้องขอบคุณตระกูลหลินซึ่งช่วยเหลืออยู

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 159

    “เขาป่วยหนักถึงเพียงนี้ได้เช่นไร เหตุใดเจ้าจึงไม่เรียกหมอหลวงมาถวายการรักษาให้องค์ชายหก?”ฮุ่ยเฟยกล่าวว่า "หมอหลวงตรวจดูแล้ว บอกเพียงว่าองค์ชายหกร่างกายอ่อนแอ และขอให้หม่อมฉันดูแลเขาให้ดี จากนั้นเขาก็สั่งยาให้สองสามอย่างแล้วจากไป"ซูเฟยเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "นี่ไม่เหลวไหลไปหน่อยหรือ? แม้แต่ข้าเองก็ยังเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติกับองค์ชายหก... "ฮุ่ยเฟยคิดไม่ถึงเลยว่าซูเฟยจะพูดเช่นนี้ นิ้วของนางที่ห้อยอยู่ข้างลำตัวกำขึ้นเล็กน้อยนางหรุบตาลง ขอบตาแดงก่ำ "ฉางอิ๋งป่วยมาหลายปีแล้ว หม่อมฉันเกรงว่าแม้แต่หมอหลวงก็คงชินแล้ว ถึงกับมีคนแอบบอกหม่อมฉันว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงสิบหนาวด้วยซ้ำ... "ซูเฟยแสดงท่าทีเห็นใจ นางชอบเด็ก ๆ มาโดยตลอด ไม่เช่นนั้นนางคงไม่เสนอตัวรับเลี้ยงเย่เสวียนถิงในเวลานั้นขณะที่นางกำลังจะพูด ทันใดนั้นฮุ่ยเฟยก็คุกเข่าลงบนพื้น มองซูเฟยด้วยสายตามีความหวัง“ท่านพี่หญิงซูเฟย โปรดช่วยหม่อมฉันด้วย ตอนนี้มีเพียงท่านเท่านั้นที่จะช่วยหม่อมฉันได้…”กระโปรงของซูเฟยถูกดึงรั้งไว้จึงทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจ"ข้าจะช่วยเจ้าได้อย่างไร?"ฮุ่ยเฟยเงยหน้าขึ้นมองราวกับว่านางกำลังคว้าฟางเส้น

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 160

    ฮุ่ยเฟยลดสายตาลง ก่อนจะกัดริมฝีปากแล้วพูดว่า "หากซูเฟยต้องการทำอะไรกับองค์ชายหก นางก็จะไม่มาในวันนี้ และเพียงรอข่าวการตายของฉางอิ๋งอย่างเงียบ ๆ ในตำหนักของนาง นี่คือเหตุผลที่ข้ายอมให้นางมาเยี่ยมฉางอิ๋ง…”ซูเฟยอยู่ในห้องกำลังมองซูชิงอู่ด้วยสีหน้ากังวล "เจ้าตกลงกับฮุ่ยเฟยเช่นนี้ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับองค์ชายหกในมือของเรา ... "ซูชิงอู่สัมผัสชีพจรขององค์ชายหกด้วยมือหนึ่งขณะตอบคำถามของซูเฟย“มีข้อควรระวังอะไรบ้าง?”ในสายตาของนาง หากสิ่งใดรักษาได้ก็ได้ และหากรักษาไม่ได้ก็คือไม่ได้ ไม่มีอะไรไปมากนี้นี่เป็นเพียงปัญหาที่ทั้งยากและง่ายชีพจรขององค์ชายหกอ่อนแอมากซึ่งดูเหมือนว่าจะมีสาเหตุมาจากความบกพร่องแต่กำเนิด เมื่อตรวจสอบชีพจรเขาอย่างรอบคอบ นางจึงสามารถค้นพบความผิดปกติที่ละเอียดอ่อนนั้นได้ซูเฟยเดินไปมาอยู่ในห้อง“แม้ว่าข้าจะช่วยองค์ชายหกได้ครั้งหนึ่ง แต่ข้าเกรงว่าคนเหล่านั้นจะยังไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นฮองเฮาหรือเจียวกุ้ยเฟย ข้าเกรงว่าพวกนางไม่ต้องการให้องค์ชายหกมีชีวิตอยู่”ซูชิงอู่เลิกคิ้วแล้วพูดว่า “จะช่วยคนต้องช่วยให้ถึงที่สุด เมื่อช่วยแล้วก็ต้องช่วยจนกว่าจะสำเร็จ อนาคตในวังห

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 161

    จากนั้นกลุ่มคนที่เพิ่งเข้ามาจับพวกนางก็ล้มลงกับพื้น สูญเสียกำลังทั้งหมดทันทีซูเฟยตกตะลึงอย่างยิ่งเมื่อเห็นฉากอันมหัศจรรย์และน่าขนลุกเช่นนี้นางไม่รู้ว่าซูชิงอู่ทำสิ่งนี้ได้เช่นไร!ซูชิงอู่สะบัดแป้งออกจากปลายนิ้วของนาง พร้อมกับรู้สึกว่าการต่อดิ้นรนขัดขืนขององค์ชายหกอ่อนลง ก่อนที่นางจะปล่อยมือฮุ่ยเฟยคลานอยู่บนพื้น น้ำตาไหลอาบหน้า น้ำเสียงของนางแหบแห้งและสั่นเทา “อย่า... อย่าทำร้ายองค์ชายหก”ซูชิงอู่ถอนหายใจ“หม่อมฉันพูดแล้วว่าอย่าเข้ามา หม่อมฉันรู้ว่าท่านจะต้องมีท่าทีตอบโต้เช่นนี้”องค์ชายหกไม่ได้ป่วย แต่ถูกพิษกู่ดังนั้นวิธีการรักษาจึงไม่ค่อยน่าดูนักในฐานะมารดาผู้ให้กำเนิดขององค์ชายหก ฮุ่ยเฟยทนไม่ได้ที่จะเห็นองค์ชายหกต้องทนทุกข์ทรมานฮุ่ยเฟยกัดฟันก่อนจะพยายามลุกขึ้นยืน แม้ว่านางจะพยายามอยู่หลายครั้งแต่กลับล้มลงกับพื้นทุกครั้งขณะที่ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความเสียใจ นางก็เห็นองค์ชายหกนอนอยู่บนเตียง ร่างของเขากระตุก จากนั้นเขาก็เอียงศีรษะ ก่อนจะอาเจียนเลือดสีดำออกมาเต็มปากซูชิงอู่โยนเทียนที่อยู่ข้าง ๆ นางลงบนเลือดสีดำทันที ทันใดนั้นเลือดสีดำก็ไหม้อย่างน่าประหล

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 162

    ซูชิงอู่ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า "อย่าได้กังวล ทุกอย่างกำลังไปได้ดี องค์ชายหกไม่ได้ป่วย แต่เขาถูกใครบางคนวางยาพิษต่างหาก"เห็นได้ชัดว่าเย่เสวียนถิงประหลาดใจ "พิษกู่ใช่หรือไม่?"เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้เรื่องนี้มากนัก ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็มืดลงมากเย่เสวียนถิงจับมือของซูชิงอู่ทันที หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น พร้อมกับริมฝีปากซึ่งเม้มจนเป็นเส้นตรง“เจ้าเผชิญกับสิ่งที่อันตรายถึงเพียงนั้นได้เช่นไร?”ซูชิงอู่ปลอบใจเขาพลางเอ่ยขึ้นว่า "ไม่เป็นไร ท่านอย่าลืมว่าข้าก็รู้ทักษะทางการแพทย์ด้วยเช่นกัน แม้ว่าพิษกู่จะฟังดูอันตราย แต่หากสามารถเข้าใจเรื่องเหล่านี้ได้ก็ไม่มีสิ่งใดน่ากังวล"เย่เสวียนถิงมีสีหน้ากังวล "พิษกู่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง แม้แต่หมอหลวงในพระราชวังก็ไม่รู้เรื่องนี้มากนัก ใครกันที่ทำสิ่งเลวร้ายเช่นนี้กับเด็กอายุแปดหนาวได้"“เป็นท่านราชครู” เมื่อสามคำนี้ออกมาจากปากของซูชิงอู่ รูม่านตาของเย่เสวียนถิงก็หดลงทันทีเขาจับปลายนิ้วของซูชิงอู่แน่นไว้แน่น และหัวใจของเขาก็รู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี“ท่านราชครูละทางโลกไปแล้ว อีกทั้งเขายังเก็บตัวอยู่ในวังตลอดทั้งปี เขาจะเข้ามายุ่งเกี่ยว

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 163

    ผู้คุมสอบกระซิบอยู่ด้านข้างว่า “นี่เป็นการประลองรอบสุดท้ายแล้ว บุรุษผู้นี้มีชื่อว่าเซียวเฝิง เขาเป็นคนที่โดดเด่นในการสอบศิลปะการต่อสู้ในครั้งนี้ หลายคนไม่สามารถผ่านสามกระบวนท่าในมือของเขาได้ ไม่เพียงเท่านั้นเขายังเป็นคนมองโลกในแง่ดีมาก” เย่เสวียนถิงพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมกับหรี่ดวงตาหงส์ของเขาลงเบา ๆเขาเคยพบกับบุรุษผู้นี้มาก่อนทั้งยังเคยมีปฏิสัมพันธ์กับเขาด้วย เขาเป็นคนมีพรสวรรค์ที่หาได้ยากจริง ๆสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเซียวเฝิงยังเด็กมาก เขาเพียงแต่อยู่ในวัยยี่สิบต้น ๆ เท่านั้น และมีอนาคตที่สดใสรอเขาอยู่เบื้องหน้าเขาหันหน้าไปมองซูชิงอู่ จากนั้นจึงเห็นว่าสีหน้าของนางไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลย เขาลดสายตาลงในเวลานี้เสียงกลองก็ดังขึ้นเซียวเฝิงและฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกำลังเดินขึ้นไปบนสังเวียนซึ่งทั้งคู่ต่างก็สวมชุดฝึกแบบเดียวกันสังเวียนเป็นเวทีทรงกลมซึ่งถูกสร้างขึ้น โดยมีสองวิธีที่จะเอาชนะได้คือ วิธีแรกต้องทำให้คู่ต่อสู้ตกจากเวที และอีกวิธีคือทำให้คู่ต่อสู้ยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยตนเองแม้ว่าซูชิงอู่จะเคยได้ยินว่าเซียวเฝิงได้รับบาดเจ็บในสังเวียนนี้ในชีวิตครั้งก่อนของนาง แต่นางก็ไม่รู้ว่าจะเ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 164

    ความเจ็บปวดแสนสาหัสทำให้ร่างกายของเขาอ่อนแรง อดไม่ได้ที่จะคุกเข่าบนเวที เขาใช้มือซ้ายกดตำแหน่งที่บาดเจ็บ จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมอง 'สหาย' ที่ถูกเตะออกจากเวทีอยากไม่อยากเชื่อสายตาทั้งบริเวณตกอยู่ในความเงียบสงัดไม่มีใครคาดคิดว่าเรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันสีหน้าเย้ยหยันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้ที่ถูกเขาเตะออกไป เขาถ่มน้ำลายออกมาเป็นฟองเลือด ก่อนจะยิ้มขึ้นอย่างมีความสุข“ฮ่าฮ่า เซียวเฝิง ตอนนี้มือของเจ้าไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงแล้ว ข้าอยากจะเห็นเหลือเกินว่าเจ้าจะยังคงเป็นผู้ชนะศิลปะการต่อสู้ในอันดับต้น ๆ ได้เช่นไร? เหตุใดเจ้าถึงเข้าร่วมการทดสอบศิลปะการต่อสู้นี้ หากไม่มีเจ้า เช่นนั้นจะต้องเป็นข้าที่เป็นผู้ชนะศิลปะการต่อสู้แน่ !"เมื่อผู้คุมสอบได้ยินเสียง เขาก็กลับมามีสติอีกครั้งก่อนจะพูดขึ้นว่า "รีบตามหมอหลวงเร็วเข้า!"มีหมอหลวงอยู่ใกล้ ๆ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการทดสอบศิลปะการต่อสู้เพราะถึงยังไงเมื่อมีการต่อสู้เกิดขึ้นย่อมมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอนใบหน้าของเซียวเฝิงซีดเผือดตอนนี้เขาขยับมือไม่ได้เลย ทั้งแขนของเขาก็เจ็บปวดมากจนเหงื่อผุดพรายขึ้นบนหน้า

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 165

    "ข้าเข้าใจแล้ว"ผู้คุมสอบจัดเสื้อผ้าของเขาแล้วเอ่ยเสียงดัง "จอหงวน*ฝ่ายบู๊ เซียวเฝิง!" เซียวเฝิงไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์จะพลิกผันเช่นนี้แก้มของเขาเปลี่ยนเป็นแดง และเปลวไฟก็ลุกไหม้ในดวงตาของเขาเซียวเฝิงคุกเข่าลงแล้วปิดบาดแผลของเขาไว้ ก่อนจะก้มหัวให้เย่เสวียนถิงซึ่งอยู่เหนือเขา"ขอบคุณใต้เท้ามาก!"ผู้คุมสอบเดินลงมาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "เซียวเฝิง เจ้าควรขอบคุณท่านอ๋องเสวียนมากกว่านี้ หากไม่ใช่เพราะเขาพูดออกมา เจ้าที่สูญเสียแขนไปข้างหนึ่งแล้ว คงไม่สามารถเป็นผู้ชนะศิลปะอันดับหนึ่งในศิลปะการต่อสู้ได้ ต่อไปเจ้าต้องเข้าร่วมการทดสอบในพระราชวัง เตรียมตัวให้พร้อมเถอะ”"ขอรับ ขอบคุณ ขอบคุณท่านอ๋องเสวียน ท่านอ๋องมีเมตตาและคุณธรรมอันสูงส่งอันยิ่งใหญ่ ข้าน้อยผู้นี้จะจดจำขึ้นใจ!"ผู้คุมสอบตบไหล่เซียวเฝิง ก่อนจะหันหลังกลับและจากไปซูชิงอู่แอบเกาฝ่ามือของเย่เสวียนถิง และพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ท่านอ๋องทำได้ดีมาก"เย่เสวียนถิงเหลือบมองไปด้านข้างของเซียวเฝิงแล้วพูดว่า "เพื่อเห็นแก่หน้าของเจ้า อาอู่"ซูชิงอู่ยิ้มเบา ๆ แล้วเดินลงจากเวทีพร้อมกับเย่เสวียนถิงเซียวเฝิงตามมาทันที เขาอดทนต่อความเจ็บปวดที่

บทล่าสุด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status