หลังจากนั้นไม่กี่วัน ตาเซียงหม่าก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหวประกอบกับความเสียใจจึงสิ้นลมไปในอ้อมกอดของเมียคู่ทุกข์คู่ยากและหลานสาว
เซียงเจินจูซึ่งเดิมเป็นเด็กสาวอ่อนแอเรียบร้อยถึงกับล้มป่วยไปอีกคนด้วยความเศร้าเสียใจ และนั่นก็เป็นวันที่ไข่มุกได้เข้ามาในร่างนี้พอดี
หมายความว่านายทุนใหญ่อยากได้ที่ดินตรงนี้จึงส่งนักเลงมาคุกคามสร้างเรื่องทำให้ตาของเซียงเจินจูต้องตาย
กว่าไข่มุกจะบีบอัดย่อยความทรงจำเหล่านั้นจนเข้าใจเรื่องราวได้มากขึ้น เหงื่อก็ออกจนเปียกท่วมตัว
หญิงสาวนอนนิ่งคิดอย่างกังวัลใจ เธอยังต้องตื่นไปดูแลร้านชานมไข่มุกของตนเอง แม้จะมีลูกน้องอยู่หลายคน แต่ด้วยร้านของเธอขายดีมากเพราะเธอใช้ใบชาที่ผสมผสานจากการคิดค้นอยู่หลายเดือน อีกทั้งยังมีสูตรการต้มที่ไม่เหมือนใครจึงทำให้รสชาติชาหอมอร่อย เพียงแค่กำลังต้มกลิ่นก็ลอยออกไปยั่วจมูกจนลูกค้าต้องมายืนออรอที่หน้าร้านแล้ว
ลูกน้องที่สลับสับเปลี่ยนกันมักจะชงชาให้ลูกค้าไม่ทันโดยเฉพาะช่วงพักซึ่งจะมีคนทำงานแห่มาสั่งพร้อมๆกันทีละหลายๆแก้วจนแม้แต่เธอยังหัวหมุน
หญิงสาวจึงไม่ใคร่ยอมไปไหนเพราะงกเงินไม่อยากพลาดการหารายได้ที่มีเข้ามา อีกอย่างเธอไม่เคยบอกสูตรการผสมใบชากับใคร ดังนั้นหากสต๊อกใบชาที่มีในร้านหมด พวกเขาคงไม่มีวัตถุดิบในการต้มชาอีกแน่
ถ้าเธอยังมัวมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ คงพลาดการหาเงินไปหลายสตางค์ทีเดียว
ทำอย่างไรดี ไม่น่าเดินตามคุณยายคนนั้นมาเลย ต้องติดอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหนกัน
เมื่อได้ยินเสียงดังที่หน้าประตูอีกครั้ง ไข่มุกจึงชันร่างลุกขึ้นเอนนั่งบนเตียงอย่างอ่อนแรง
“เอ้า...ดื่มยาเสีย ขมสักนิด ยายเอาน้ำตาลกรวดมาให้อมแล้ว”
หญิงสาวเอื้อมมือรับถ้วยยาสีดำมาดื่มรวดเดียวแล้วอมน้ำตาลกรวดตามเข้าไปในปากขณะรีบพูด
“ยายจ๋า หนูอยากกลับไป ยายพาหนูกลับเถอะนะ หนูไม่อยากได้ผู้ชายอะไรที่ว่าแล้ว”
ยายเหลียนมองหน้าหลานสาวอย่างวิตกกังวลด้วยสีหน้าไม่รู้ว่าหลานสาวเอ่ยถึงเรื่องใด
“อาจู เจ้ายังปวดหัวอยู่หรือ เหตุใดเอ่ยวาจาประหลาดนัก”
“หนู...เอ่อ...ข้า...”
“เอาล่ะ นอนพักอีกคืน ได้กินยาแล้วพรุ่งนี้อาการคงดีขึ้นมาก” ยายเหลียนตัดสินใจไม่เซ้าซี้ พยุงร่างหลานสาวให้นอนลง ห่มผ้าให้อย่างใส่ใจแล้วเดินออกไป
เมื่อเห็นใบหน้าเศร้าหมองของยายเฒ่า ไข่มุกก็คิดถึงยายของตัวเองที่ตายจากไปนานแล้ว ขณะทบทวนความทรงจำของเด็กสาวเจ้าของร่างไปด้วย
เซียงเจินจูหรือ ชื่อของเด็กสาวคนนี้คือเซียงเจินจู
ส่วนยายเฒ่าเมื่อครู่เป็นยายของนางชื่อยายเหลียน
เรื่องนี้ประหลาดเกินไปแล้ว
ไข่มุกนอนคิดวนเวียนหาทางกลับไปยังร้านชานมของตัวเองแต่เมื่อคิดถึงการตายของตาเฒ่าซึ่งเป็นตาของเซียงเจินจู หญิงสาวก็เกิดเจ็บแค้นแทนขึ้นมา
ร้านชาเซียงซือมีชื่อเสียงโด่งดังเปิดมาตั้ง30กว่าปี ไอ้คนชั่วพวกนั้นจะมาบีบคั้นเอาที่ดินไปอย่างหน้าด้านๆได้อย่างไร
ฉันไม่ยอมหรอก รังแกกันเกินไปแล้ว
เอาล่ะ ในเมื่อยังหาทางกลับไปไม่ได้และต้องติดอยู่ในร่างของเด็กสาวคนนี้ ถ้าอย่างนั้นฉันจะหาทางแก้แค้นแทนเธอเอง แล้วจะพยายามรักษาร้านชาของตายายเอาไว้ให้ได้
ดีเหมือนกันจะได้ใช้โอกาสนี้ศึกษาเรื่องใบชาและวิธีการชงชาโบราณ เผื่อนำไปใช้ปรับปรุงกับชานมที่ร้านบ้าง
ตอนที่สามลุกขึ้นสู้รุ่งเช้า ไข่มุกในร่างเซียงเจินจูลุกขึ้นออกมาเดินสำรวจภายในร้านชาจนทั่ว ข้าวของซึ่งโดนทุบทำลายยังกองเกลื่อนกลาดกระจัดกระจาย ร้านชาเซียงซือไม่เหลือสภาพให้เปิดทำการได้ในเร็ววันนี้แน่ “อาจู ดีขึ้นแล้วหรือ เช่นนั้นวันนี้พวกเราไปส่งตาเฒ่าด้วยกันเถอะ” เสียงเศร้าพร้อมน้ำตารินหลั่งเป็นภาพที่สะเทือนใจหญิงสาว สองตายายใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาหลายสิบปี คงไม่คิดว่าจะมีวันที่ต้องพรากจากกันอย่างไม่ทันได้เตรียมใจ แม้ยายเหลียนจะไม่อยากให้หลานสาวออกไปข้างนอกแต่ด้วยเห็นว่าเป็นการส่งตาเฒ่าครั้งสุดท้าย จึงพานางไปด้วย นั่นจึงเป็นครั้งแรกของเซียงเจินจูและไข่มุกซึ่งได้ออกมาเห็นโลกภายนอก พิธีส่งศพของตาเซียงหม่ามีคนมาร่วมงานมากมาย ด้วยตาเฒ่ามีอัธยาศัยดีและมีน้ำใจจึงเป็นที่รักของลูกค้าและผู้คนรอบข้าง หญิงสาวเดินประคองร่างอ่อนแรงของยายเหลียนไปมองผู้คนที่มาร่วมงานไปอย่างประเมินสถานการณ์ เสียงพูดคุยของคนรอบข้างดังเข้ามาเป็นระยะ “น่าเสียดายจริงๆ ตาหม่าตายไปแบบนี้ ต่อไปพวกเราจะหาชาที่ทั้งอร่อยทั้งหอมหวานเช่นนี้ได้จากที่ใดอีก”
ตอนที่สาม ลุกขึ้นสู้“คนของทางการเองใช่ว่าจะทำอันใดได้ อย่างมากก็จับพวกนักเลงไปขังไว้สักคนสองคน แต่พวกเราคงต้องอยู่อย่างอกสั่นขวัญแขวน ตราบใดที่พวกเขายังอยากได้ที่ดินตรงนี้เฮ้อ...เดิมทีพวกเขาส่งคนมาขอซื้อ แต่หว่านล้อมอย่างไรตาเฒ่าก็ไม่ยอมขาย สุดท้ายจึงต้องสังเวยชีวิต” ยายเหลียนก้มลงเช็ดน้ำตา “ชั่วชาติจริงๆ” ไข่มุกในร่างเซียงเจินจูเผลอด่าออกมาจนยายเหลียนซึ่งกำลังหลั่งน้ำตาอย่างทดท้อต้องมองจ้องด้วยหลานสาวผู้เคยอ่อนแอและเรียบร้อย ยามนี้แลดูแปลกออกไป “พวกเรายังมีเงินทองอีกมากหรือไม่เจ้าคะ” เซียงเจินจูถามถึงเรื่องสำคัญ การจะทำสิ่งใดย่อมต้องใช้เงินทองหว่านลงไป “มีมากทีเดียว พวกเราเก็บเอาไว้ให้เจ้านะอาจู เจ้าไม่ต้องกังวลว่าจะยากลำบาก” ยายเฒ่าแปลความไปอีกด้าน “เช่นนั้นขอให้ข้าสักหน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ” “เจ้าจะทำสิ่งใดหรือ” “ข้าจะนำไปซื้อของตอบแทนให้ผู้ที่นำซองมาให้ในงานของท่านตาเจ้าค่ะ” สาวน้อยยกข้ออ้าง “อืม...จริงด้วย ข้ามัวแต่เศร้าหมองจนหลงลืมธรรมเนียมไป เอ้านี่เงิน...อาจู หาซื้อขนมเปี๊ยะอย่างดีล่ะ” ยายเหลีย
ย้อนมิติมาเปิดร้านชาไข่มุกเขียนโดยวันว่างว่างของหญิงใหญ่แนะนำตัวละครเซียงเจินจู หลานสาวของตายายเจ้าของร้านขายชาเซียงซือไข่มุก หญิงสาวเจ้าของร้านชานมไข่มุกในอาคารสำนักงานอันหรูหราหวางชิวเฟิน ขุนนางใหญ่ตำแหน่งเจ้ากรมศึกษา(ซือถู)มู่หวังเยี่ยน เลขาและเพื่อนสนิทของหวางชิวเฟินมู่เยว่ฉี น้องสาวของมู่หวังเยี่ยนยายเหลียน ยายเฒ่าของเซียงเจินจูคิดจะยึดที่ดินร้านชาของนางหรือ ผู้ใดจะยอมกัน แต่เขาทั้งหล่อทั้งมีตำแหน่งใหญ่โต หรือนางจะยอมให้เขายึดทั้งร้านทั้งตัวนางดี ไม่ใช่สิ นางต้องสร้างร้านชาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไปต่างหากสาวน้อยผู้ย้อนไปอยู่ในร่างของหลานสาวเจ้าของร้านชาชื่อดัง แต่กลับอยู่ในช่วงที่โดนข่มขู่เพื่อจะยึดที่ดินไปสร้างเป็นสำนักศึกษา หญิงสาวจึงไม่ยอมและตั้งใจจะเปิดร้านชาต่อไปโดยนำความรู้ที่มีมาพัฒนา ไม่คาดว่าจะพบกับเจ้ากรมการศึกษาผู้หล่อเหลามาดดี นางจึงเจรจาต่อรองจนได้เปิดร้านชาใหญ่โต สองหนุ่มสาวเริ่มต้นจากความไม่ลงรอย ความสัมพันธ์ค่อยคืบหน้าไปในทางที่ดี ขณะที่ร้านชาเจริญรุ่งเรือง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ใน ย้อนมิติมาเปิดร้านชาไข่มุกตอนที่หนึ่งเซอร์ไพรส์หญิงสาวตื่
ตอนที่หนึ่ง เซอร์ไพรส์ไข่มุกจำได้ว่าตัวเองลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามคุณยายไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว จากนั้นเธอก็จำไม่ได้แล้วไข่มุกซึ่งกำลังตั้งสติจ้องมองใบหน้าซึ่งเหี่ยวย่นกว่าเมื่อคืนพร้อมเสื้อผ้าซึ่งแปลกตาพลางขมวดคิ้วทำไมคุณยายแต่งตัวคล้ายชุดโบราณ ว่าแต่ เธอนอนอยู่ที่ไหน ไม่ใช่คอนโดแล้วก็ไม่ใช่ในร้านชาด้วยแล้ว...เมื่อกี้ คุณยายเรียกเธอว่าอะไรนะหญิงสาวมีแต่คำถามเต็มหัวจนมือเหี่ยวย่นมาวางทาบบนหน้าผากแล้วลูบไล้เนื้อตัวด้วยกิริยาห่วงกังวล“อืม...ตัวไม่ร้อนแล้ว สีหน้าดีขึ้น”ไข่มุกมองตามมือที่ลูบไล้ตัวเองไปจนพบว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่เป็นชุดโบราณคล้ายกับของคุณยายเฮ้ย!...ทำไมฉันใส่ชุดนี้ล่ะ หรือว่าเมื่อคืนเผลอทำอะไรไม่ดีจนคุณยายต้องเปลี่ยนชุดให้ “อาจู เหตุใดจึงมีสีหน้าเช่นนั้น หรือว่ายังปวดหัวอยู่ เอาเถอะ เจ้ายังไม่หายดี นอนพักอีกหน่อย ยายจะไปต้มยาแล้วนำเข้ามาให้”ไข่มุกฟังคำพูดจาแปลกๆและท่าทีห่วงใยของคุณยายด้วยความฉงนใจ จนเมื่อร่างเล็กของยายเดินลับหายไป เธอจึงล้มตัวลงนอนคิดถึงเรื่องเมื่อคืนต่อเมื่อคืนเธอกำลังนอนเกลือกกลิ้งร้องไห้เป็นบ้าเป็นบออยู่บนพื้นในร้านชานมไข่มุกที่เปิดอยู่ในอาคา
“ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ มุกถามว่าเมื่อไหร่” หญิงสาวแผดเสียงดังลั่น“ก็ตั้งแต่หนูยังอยู่ที่ร้านนั่นแหละค่ะ” สาวน้อยบนเตียงเห็นว่าผู้ชายคนเดียวในห้องยังยืนนิ่งไม่ยอมพูดจึงตอบออกมาเสียเองแถมยังขยายความแก้โง่เพิ่มอีก“คุณไข่มุกคงไม่รู้ว่าพี่เขาเต๊าะหนูตั้งแต่เห็นหน้าครั้งแรกแล้ว วันไหนที่คุณไม่อยู่ พวกเราก็โบ๊ะบ๊ะกันในร้านทุกครั้ง” อดีตลูกจ้างของไข่มุกลอยหน้าลอยตาบอก “น้องมุก ยัยนี่ก็แค่ของกินเล่นชั่วครั้งชั่วคราว อย่าคิดมากไปเลยนะ ยังไงพี่ก็รักน้องมุกคนเดียว” แฟนหนุ่มของเธอรีบแก้ตัวหน้าด้านด้าน“จะของเล่นของชั่วคราวยังไง มุกก็ไม่สน แค่พี่กินลูกจ้างในร้านมุกก็ไม่ยอมแล้ว นี่ยังแอบกินกันในร้านของมุกอีก เห็นร้านมุกเป็นอะไร ร้านนั่งดริ๊งก์เหรอ” หญิงสาวตะโกนต่อว่าทั้งน้ำตา “พี่คงติดนิสัยกินไม่เลือก ทำไมคะ แค่มีรูให้เสียบ จะรูไหนก็เสียบได้ใช่ไหมคะ” ไข่มุกหันไปตะโกนถามแฟนหนุ่มด้วยความเจ็บใจ “พี่ไม่ได้เป็นแบบนั้นนะมุก ก็มุกไม่ยอมพี่สักที มัวแต่เล่นตัวอยู่ได้ สมัยนี้คนเป็นแฟนกันคู่ไหนจะไม่เคยมีอะไรกันบ้าง พวกเราเป็นแฟนกันมาจะครบปีอยู่แล้ว มัวแต่หอมแก้มจูบปากนิดหน่อยแค่นั้น มัน
ตอนที่สองร้านชาเซียงซือจู่ๆ ไข่มุกก็รู้สึกปวดหัวแทบระเบิด ความทรงจำมากมายหลั่งไหลเข้ามาราวสายน้ำเพล้ง เพล้ง เพล้งเสียงกาน้ำชาและข้าวของแตกกระจายพร้อมเสียงหวีดร้องของลูกค้าซึ่งวิ่งหนีกันอลหม่านเรียกให้เซียงเจินจูซึ่งนั่งอ่านหนังสืออยู่ด้านหลังร้านต้องรีบวิ่งไปลอบมองดูเหตุการณ์“นายท่าน อย่าได้ทำลายร้านของข้าเลย มีเรื่องใดพูดกันดีดีเถิดขอรับ” ตาเฒ่าเซียงหม่ากำลังจับมือชายคนหนึ่งไม่ให้ขว้างกาน้ำชาลงบนพื้นพลางก้มหัวขอร้องด้วยท่าทีอ่อนน้อม“ชาของเจ้าทั้งจืดชืดแล้วยังไม่ร้อน เจ้าดูถูกว่าข้าไม่มีเงินซื้อชาดีดีหรือจึงจัดชาถูกๆมาให้เช่นนี้”เสียงโวยวายหาเรื่องดังออกมาก่อนชายคนนั้นจะส่งสัญญาณให้พรรคพวกทุบกาและถ้วยน้ำชาที่วางอยู่จนแตกละเอียด“นายท่าน พวกเราไม่เคยคิดเช่นนั้น ลูกค้าทุกคนคือผู้มีพระคุณ อย่าได้ทำเช่นนี้เลยเจ้าค่ะ หากท่านไม่พอใจพวกเรายินดีชดใช้เงินคืนให้นะเจ้าคะ” ยายเหลียนรีบคุกเข่าโขกหัวขออภัยจนหัวบวมปูด“เชอะ ชดใช้หรือ พวกเจ้ามีกี่ชีวิตกันจึงจะชดใช้ให้ข้า” เสียงข่มขู่ดังออกมาอย่างวางอำนาจ“ทางที่ดีรีบปิดร้านแล้วย้ายกลับไปอยู่บ้านนอกของเจ้าเสีย อย่าได้เสนอหน้าอยู่ที่นี่อีก เข้าใ
ตอนที่สาม ลุกขึ้นสู้“คนของทางการเองใช่ว่าจะทำอันใดได้ อย่างมากก็จับพวกนักเลงไปขังไว้สักคนสองคน แต่พวกเราคงต้องอยู่อย่างอกสั่นขวัญแขวน ตราบใดที่พวกเขายังอยากได้ที่ดินตรงนี้เฮ้อ...เดิมทีพวกเขาส่งคนมาขอซื้อ แต่หว่านล้อมอย่างไรตาเฒ่าก็ไม่ยอมขาย สุดท้ายจึงต้องสังเวยชีวิต” ยายเหลียนก้มลงเช็ดน้ำตา “ชั่วชาติจริงๆ” ไข่มุกในร่างเซียงเจินจูเผลอด่าออกมาจนยายเหลียนซึ่งกำลังหลั่งน้ำตาอย่างทดท้อต้องมองจ้องด้วยหลานสาวผู้เคยอ่อนแอและเรียบร้อย ยามนี้แลดูแปลกออกไป “พวกเรายังมีเงินทองอีกมากหรือไม่เจ้าคะ” เซียงเจินจูถามถึงเรื่องสำคัญ การจะทำสิ่งใดย่อมต้องใช้เงินทองหว่านลงไป “มีมากทีเดียว พวกเราเก็บเอาไว้ให้เจ้านะอาจู เจ้าไม่ต้องกังวลว่าจะยากลำบาก” ยายเฒ่าแปลความไปอีกด้าน “เช่นนั้นขอให้ข้าสักหน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ” “เจ้าจะทำสิ่งใดหรือ” “ข้าจะนำไปซื้อของตอบแทนให้ผู้ที่นำซองมาให้ในงานของท่านตาเจ้าค่ะ” สาวน้อยยกข้ออ้าง “อืม...จริงด้วย ข้ามัวแต่เศร้าหมองจนหลงลืมธรรมเนียมไป เอ้านี่เงิน...อาจู หาซื้อขนมเปี๊ยะอย่างดีล่ะ” ยายเหลีย
ตอนที่สามลุกขึ้นสู้รุ่งเช้า ไข่มุกในร่างเซียงเจินจูลุกขึ้นออกมาเดินสำรวจภายในร้านชาจนทั่ว ข้าวของซึ่งโดนทุบทำลายยังกองเกลื่อนกลาดกระจัดกระจาย ร้านชาเซียงซือไม่เหลือสภาพให้เปิดทำการได้ในเร็ววันนี้แน่ “อาจู ดีขึ้นแล้วหรือ เช่นนั้นวันนี้พวกเราไปส่งตาเฒ่าด้วยกันเถอะ” เสียงเศร้าพร้อมน้ำตารินหลั่งเป็นภาพที่สะเทือนใจหญิงสาว สองตายายใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาหลายสิบปี คงไม่คิดว่าจะมีวันที่ต้องพรากจากกันอย่างไม่ทันได้เตรียมใจ แม้ยายเหลียนจะไม่อยากให้หลานสาวออกไปข้างนอกแต่ด้วยเห็นว่าเป็นการส่งตาเฒ่าครั้งสุดท้าย จึงพานางไปด้วย นั่นจึงเป็นครั้งแรกของเซียงเจินจูและไข่มุกซึ่งได้ออกมาเห็นโลกภายนอก พิธีส่งศพของตาเซียงหม่ามีคนมาร่วมงานมากมาย ด้วยตาเฒ่ามีอัธยาศัยดีและมีน้ำใจจึงเป็นที่รักของลูกค้าและผู้คนรอบข้าง หญิงสาวเดินประคองร่างอ่อนแรงของยายเหลียนไปมองผู้คนที่มาร่วมงานไปอย่างประเมินสถานการณ์ เสียงพูดคุยของคนรอบข้างดังเข้ามาเป็นระยะ “น่าเสียดายจริงๆ ตาหม่าตายไปแบบนี้ ต่อไปพวกเราจะหาชาที่ทั้งอร่อยทั้งหอมหวานเช่นนี้ได้จากที่ใดอีก”
หลังจากนั้นไม่กี่วัน ตาเซียงหม่าก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหวประกอบกับความเสียใจจึงสิ้นลมไปในอ้อมกอดของเมียคู่ทุกข์คู่ยากและหลานสาวเซียงเจินจูซึ่งเดิมเป็นเด็กสาวอ่อนแอเรียบร้อยถึงกับล้มป่วยไปอีกคนด้วยความเศร้าเสียใจ และนั่นก็เป็นวันที่ไข่มุกได้เข้ามาในร่างนี้พอดีหมายความว่านายทุนใหญ่อยากได้ที่ดินตรงนี้จึงส่งนักเลงมาคุกคามสร้างเรื่องทำให้ตาของเซียงเจินจูต้องตาย กว่าไข่มุกจะบีบอัดย่อยความทรงจำเหล่านั้นจนเข้าใจเรื่องราวได้มากขึ้น เหงื่อก็ออกจนเปียกท่วมตัวหญิงสาวนอนนิ่งคิดอย่างกังวัลใจ เธอยังต้องตื่นไปดูแลร้านชานมไข่มุกของตนเอง แม้จะมีลูกน้องอยู่หลายคน แต่ด้วยร้านของเธอขายดีมากเพราะเธอใช้ใบชาที่ผสมผสานจากการคิดค้นอยู่หลายเดือน อีกทั้งยังมีสูตรการต้มที่ไม่เหมือนใครจึงทำให้รสชาติชาหอมอร่อย เพียงแค่กำลังต้มกลิ่นก็ลอยออกไปยั่วจมูกจนลูกค้าต้องมายืนออรอที่หน้าร้านแล้วลูกน้องที่สลับสับเปลี่ยนกันมักจะชงชาให้ลูกค้าไม่ทันโดยเฉพาะช่วงพักซึ่งจะมีคนทำงานแห่มาสั่งพร้อมๆกันทีละหลายๆแก้วจนแม้แต่เธอยังหัวหมุนหญิงสาวจึงไม่ใคร่ยอมไปไหนเพราะงกเงินไม่อยากพลาดการหารายได้ที่มีเข้ามา อีกอย่างเธอไม่เคยบอกสูตรการผสม
ตอนที่สองร้านชาเซียงซือจู่ๆ ไข่มุกก็รู้สึกปวดหัวแทบระเบิด ความทรงจำมากมายหลั่งไหลเข้ามาราวสายน้ำเพล้ง เพล้ง เพล้งเสียงกาน้ำชาและข้าวของแตกกระจายพร้อมเสียงหวีดร้องของลูกค้าซึ่งวิ่งหนีกันอลหม่านเรียกให้เซียงเจินจูซึ่งนั่งอ่านหนังสืออยู่ด้านหลังร้านต้องรีบวิ่งไปลอบมองดูเหตุการณ์“นายท่าน อย่าได้ทำลายร้านของข้าเลย มีเรื่องใดพูดกันดีดีเถิดขอรับ” ตาเฒ่าเซียงหม่ากำลังจับมือชายคนหนึ่งไม่ให้ขว้างกาน้ำชาลงบนพื้นพลางก้มหัวขอร้องด้วยท่าทีอ่อนน้อม“ชาของเจ้าทั้งจืดชืดแล้วยังไม่ร้อน เจ้าดูถูกว่าข้าไม่มีเงินซื้อชาดีดีหรือจึงจัดชาถูกๆมาให้เช่นนี้”เสียงโวยวายหาเรื่องดังออกมาก่อนชายคนนั้นจะส่งสัญญาณให้พรรคพวกทุบกาและถ้วยน้ำชาที่วางอยู่จนแตกละเอียด“นายท่าน พวกเราไม่เคยคิดเช่นนั้น ลูกค้าทุกคนคือผู้มีพระคุณ อย่าได้ทำเช่นนี้เลยเจ้าค่ะ หากท่านไม่พอใจพวกเรายินดีชดใช้เงินคืนให้นะเจ้าคะ” ยายเหลียนรีบคุกเข่าโขกหัวขออภัยจนหัวบวมปูด“เชอะ ชดใช้หรือ พวกเจ้ามีกี่ชีวิตกันจึงจะชดใช้ให้ข้า” เสียงข่มขู่ดังออกมาอย่างวางอำนาจ“ทางที่ดีรีบปิดร้านแล้วย้ายกลับไปอยู่บ้านนอกของเจ้าเสีย อย่าได้เสนอหน้าอยู่ที่นี่อีก เข้าใ
“ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ มุกถามว่าเมื่อไหร่” หญิงสาวแผดเสียงดังลั่น“ก็ตั้งแต่หนูยังอยู่ที่ร้านนั่นแหละค่ะ” สาวน้อยบนเตียงเห็นว่าผู้ชายคนเดียวในห้องยังยืนนิ่งไม่ยอมพูดจึงตอบออกมาเสียเองแถมยังขยายความแก้โง่เพิ่มอีก“คุณไข่มุกคงไม่รู้ว่าพี่เขาเต๊าะหนูตั้งแต่เห็นหน้าครั้งแรกแล้ว วันไหนที่คุณไม่อยู่ พวกเราก็โบ๊ะบ๊ะกันในร้านทุกครั้ง” อดีตลูกจ้างของไข่มุกลอยหน้าลอยตาบอก “น้องมุก ยัยนี่ก็แค่ของกินเล่นชั่วครั้งชั่วคราว อย่าคิดมากไปเลยนะ ยังไงพี่ก็รักน้องมุกคนเดียว” แฟนหนุ่มของเธอรีบแก้ตัวหน้าด้านด้าน“จะของเล่นของชั่วคราวยังไง มุกก็ไม่สน แค่พี่กินลูกจ้างในร้านมุกก็ไม่ยอมแล้ว นี่ยังแอบกินกันในร้านของมุกอีก เห็นร้านมุกเป็นอะไร ร้านนั่งดริ๊งก์เหรอ” หญิงสาวตะโกนต่อว่าทั้งน้ำตา “พี่คงติดนิสัยกินไม่เลือก ทำไมคะ แค่มีรูให้เสียบ จะรูไหนก็เสียบได้ใช่ไหมคะ” ไข่มุกหันไปตะโกนถามแฟนหนุ่มด้วยความเจ็บใจ “พี่ไม่ได้เป็นแบบนั้นนะมุก ก็มุกไม่ยอมพี่สักที มัวแต่เล่นตัวอยู่ได้ สมัยนี้คนเป็นแฟนกันคู่ไหนจะไม่เคยมีอะไรกันบ้าง พวกเราเป็นแฟนกันมาจะครบปีอยู่แล้ว มัวแต่หอมแก้มจูบปากนิดหน่อยแค่นั้น มัน
ตอนที่หนึ่ง เซอร์ไพรส์ไข่มุกจำได้ว่าตัวเองลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามคุณยายไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว จากนั้นเธอก็จำไม่ได้แล้วไข่มุกซึ่งกำลังตั้งสติจ้องมองใบหน้าซึ่งเหี่ยวย่นกว่าเมื่อคืนพร้อมเสื้อผ้าซึ่งแปลกตาพลางขมวดคิ้วทำไมคุณยายแต่งตัวคล้ายชุดโบราณ ว่าแต่ เธอนอนอยู่ที่ไหน ไม่ใช่คอนโดแล้วก็ไม่ใช่ในร้านชาด้วยแล้ว...เมื่อกี้ คุณยายเรียกเธอว่าอะไรนะหญิงสาวมีแต่คำถามเต็มหัวจนมือเหี่ยวย่นมาวางทาบบนหน้าผากแล้วลูบไล้เนื้อตัวด้วยกิริยาห่วงกังวล“อืม...ตัวไม่ร้อนแล้ว สีหน้าดีขึ้น”ไข่มุกมองตามมือที่ลูบไล้ตัวเองไปจนพบว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่เป็นชุดโบราณคล้ายกับของคุณยายเฮ้ย!...ทำไมฉันใส่ชุดนี้ล่ะ หรือว่าเมื่อคืนเผลอทำอะไรไม่ดีจนคุณยายต้องเปลี่ยนชุดให้ “อาจู เหตุใดจึงมีสีหน้าเช่นนั้น หรือว่ายังปวดหัวอยู่ เอาเถอะ เจ้ายังไม่หายดี นอนพักอีกหน่อย ยายจะไปต้มยาแล้วนำเข้ามาให้”ไข่มุกฟังคำพูดจาแปลกๆและท่าทีห่วงใยของคุณยายด้วยความฉงนใจ จนเมื่อร่างเล็กของยายเดินลับหายไป เธอจึงล้มตัวลงนอนคิดถึงเรื่องเมื่อคืนต่อเมื่อคืนเธอกำลังนอนเกลือกกลิ้งร้องไห้เป็นบ้าเป็นบออยู่บนพื้นในร้านชานมไข่มุกที่เปิดอยู่ในอาคา
ย้อนมิติมาเปิดร้านชาไข่มุกเขียนโดยวันว่างว่างของหญิงใหญ่แนะนำตัวละครเซียงเจินจู หลานสาวของตายายเจ้าของร้านขายชาเซียงซือไข่มุก หญิงสาวเจ้าของร้านชานมไข่มุกในอาคารสำนักงานอันหรูหราหวางชิวเฟิน ขุนนางใหญ่ตำแหน่งเจ้ากรมศึกษา(ซือถู)มู่หวังเยี่ยน เลขาและเพื่อนสนิทของหวางชิวเฟินมู่เยว่ฉี น้องสาวของมู่หวังเยี่ยนยายเหลียน ยายเฒ่าของเซียงเจินจูคิดจะยึดที่ดินร้านชาของนางหรือ ผู้ใดจะยอมกัน แต่เขาทั้งหล่อทั้งมีตำแหน่งใหญ่โต หรือนางจะยอมให้เขายึดทั้งร้านทั้งตัวนางดี ไม่ใช่สิ นางต้องสร้างร้านชาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไปต่างหากสาวน้อยผู้ย้อนไปอยู่ในร่างของหลานสาวเจ้าของร้านชาชื่อดัง แต่กลับอยู่ในช่วงที่โดนข่มขู่เพื่อจะยึดที่ดินไปสร้างเป็นสำนักศึกษา หญิงสาวจึงไม่ยอมและตั้งใจจะเปิดร้านชาต่อไปโดยนำความรู้ที่มีมาพัฒนา ไม่คาดว่าจะพบกับเจ้ากรมการศึกษาผู้หล่อเหลามาดดี นางจึงเจรจาต่อรองจนได้เปิดร้านชาใหญ่โต สองหนุ่มสาวเริ่มต้นจากความไม่ลงรอย ความสัมพันธ์ค่อยคืบหน้าไปในทางที่ดี ขณะที่ร้านชาเจริญรุ่งเรือง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ใน ย้อนมิติมาเปิดร้านชาไข่มุกตอนที่หนึ่งเซอร์ไพรส์หญิงสาวตื่