แชร์

บทที่ 381

ผู้แต่ง: จูน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เหลียงซื่อยังไม่ได้กล่าวอะไร จิ้นกั๋วกงก็พูดเสียงดังขึ้นมา "นางจะพูดอะไรได้อีก? ทั้งวี่ทั้งวันก็เอาแต่คิดฟุ้งซ่านว่ามีคนทำร้ายนาง เหตุเพลิงไหม้เดิมมันก็เป็นแค่อุบัติเหตุอยู่แล้ว แค่คิดดูก็รู้ จวนมหาเสนาบดีไม่มีทางลงมือกับคนของจวนกั๋วกงของเราเป็นแน่ เรื่องนี้ทางฝั่งของจวนมหาเสนาบดีจะได้ประโยชน์อันใด? ถ้าตามที่นางกล่าวหามา เพื่อที่จะฆ่าคุณหนูใหญ่ของจวนมหาเสนาบดี ก็ยิ่งเป็นเรื่องที่เหลวไหล คนเป็นพ่อจะฆ่าบุตรสาวของตนเองได้ลงคออย่างไร และถึงแม้จะฆ่าได้ ก็ไม่จำเป็นต้องสร้างเหตุเพลิงไหม้เสียใหญ่โต คนที่มีสมองย่อมจะไม่คิดเช่นนี้ และจะว่าไปแล้ว หลังจากที่เสี่ยวเยว่ของพวกเราแต่งออกไป ก็พูดกันดีแล้วว่านางคือผิงชี แต่เซี่ยจื่ออันกลับไม่คุกเข่าโขกศีรษะคำนับ และไม่ยกน้ำชา ตามกฎแล้ว เดิมทีก็สามารถสั่งสอนนางได้ เหตุใดต้องลอบวางเพลิงด้วยเล่า?"

ตาวเหล่าต้ากับเสี่ยวซุนที่ยืนอยู่นอกประตู ก็ได้ฟังคนที่อยู่ด้านในห้องโถงพูดคุยกันมาโดยตลอด

หลังจากที่ตาวเหล่าต้าได้ยินสิ่งที่จิ้นกั๋วกงพูด ก็กระซิบถามเสี่ยวซุน "ตาเฒ่าชั่วช้านี้น่ารังเกียจเสียจริง เจ้าว่าเขาจะรังแกคุณหนูใหญ่หรือไม่?"

เสี่ยวซุนกล่าวเสียงค่อย "ร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 382

    ไท่เป่าเงยหน้าขึ้น มองดูฮูหยินผู้เฒ่าด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม "ที่ท่านพูดมาก็มีเหตุผล คนที่มือสะอาดไม่จำเป็นต้องล้าง ไม่จำเป็นต้องไปสนใจคำพูดเหลวไหลพวกนั้น อีกทั้งทุกคนก็ล้วนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เรื่องที่ไม่ดีก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว เช่นนั้นก็ให้มันแล้วกันไป ดีหรือไม่?"ตอนที่เขาคำถามนี้ ก็ได้มองไปที่จิ้นกั๋วกงแม้ว่าจิ้นกั๋วกงต้องการที่จะยุติเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่ว่าเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว พูดออกมาแล้วก็ตั้งมากมาย ประเด็นที่เหลียงซื่อกล่าวมาก็มีข้อสงสัยอยู่หลายจุด หากไม่อธิบายให้กระจ่าง เหล่าผู้อาวุโสก็ไม่รู้ว่าจะคิดเห็นเช่นไรกับจวนกั๋วกงดังนั้นเขาคิดว่ามีเรื่องไหนที่จำเป็นต้องพูดก็แค่พูดออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตอนนี้พวกเขาก็ถือไพ่เหนือกว่า ไท่เป่าก็จะได้ไม่เชื่อคำพูดของเหลียงซื่อ หากไม่ใช้โอกาสในวันนี้ทำให้ทุกเข้าใจ ก็ไม่ว่าวันไหนจะมีใครหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีกดังนั้นจิ้นกั๋วกงจึงลุกขึ้นมาและกล่าวอย่างนอบน้อม ไท่เป่า ตระกูลซีเหมินของพวกเราตั้งรกรากอยู่ในเมืองหลวงมานานกว่าสองร้อยปี ชื่อเสียงดีงาม เกียรติยศสูงส่ง ไม่เคยแปดเปื้อนด้วยเรื่องสกปรกอันใด ด้วยเหตุนี้จึงได้รับความเคาร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 383

    เหลียงซื่อพูดพลาง จู่ ๆ ก็เหมือนว่านางจะนึกอะไรขึ้นมาได้ "จริงสิ ก่อนหน้านี้ที่บอกว่าจะนำสินสอดกลับมาส่วนหนึ่ง แล้วส่วนหนึ่งที่ว่านั่นได้นำกลับมาแล้วหรือยัง?"ซีเหมินเสี่ยวเยว่ตอบอย่างไม่ได้สนใจอะไร แต่นางก็ได้พูดโกหกออกไป "ทั้งหมดก็อยู่ในเรือนด้านข้างมิใช่หรือ? ถูกไฟเผาไปหมดแล้ว"ก่อนจะเริ่มแผนการวางเพลิง นางได้สั่งคนให้มาย้ายสินสอด และเงินถมสินสอดออกไปจนหมดแล้วเหลียงซื่อมองไปที่ปิ่นปักผมบนศีรษะนาง "ปิ่นนั่นก็เป็นสินสอดนี่ ข้าเอาไว้ในกล่องเครื่องประดับ และเก็บไว้ในหีบเก็บสินสอดด้วยมือของข้าเอง หากถูกไฟเผาจนไม่เหลือแล้ว เหตุใดเจ้าถึงนำออกมาปักอยู่ได้เล่า?"ซีเหมินเสี่ยวเยว่ยื่นมือออกไปลูบปิ่นเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าค่อนข้างตึงเครียด "อันนี้… หรือ? อันนี้ใช่ไหมเจ้าคะ?""ไม่ผิดแน่ สินสอดของเจ้าข้าเป็นผู้ดูแลให้ด้วยตนเอง เครื่องประดับบนศีรษะของเจ้าทุกชิ้น ล้วนเป็นข้าที่สั่งช่างฝีมือให้เร่งทำให้เจ้าทั้งวันทั้งคืนจนเสร็จ" เหลียงซื่อจ้องไปที่นางพลางกล่าวซีเหมินเสี่ยวเยว่ชะงักงันไปชั่วขณะ เพิ่งจะบอกไปว่าถูกเผาไปแล้ว จะพูดออกไปว่าไม่ได้ถูกไฟเผาแต่นางจำผิดไปก็คงจะไม่ได้? หากยอมรับว

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 384

    "อืม จริงอย่างที่เจ้าเล่ามาก็มีความเป็นไปได้ จากนั้นฮูหยินรองก็ได้ไปขอให้คุณหนูรองของจวนมหาเสนาบดีช่วยจัดการกับคุณหนูใหญ่เซี่ยจื่ออัน ซึ่งเจ้าเองก็ไม่เห็นด้วยใช่หรือไม่?" ไท่เป่าเอ่ยถามซีเหมินเสี่ยวเยว่พยักหน้าอย่างมึน ๆ "ใช่เจ้าค่ะ ข้าไม่เห็นด้วย"แต่ว่า พอพูดจบ นางก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนหน้านี้นางได้พูดถึงเรื่องนี้ไปหรือไม่?นางมองไปที่มหาเสนาบดีเซี่ยอย่างขอความช่วยเหลือ แต่สีหน้าของเขาแลดูไม่ได้เลย คนฉลาดอย่างเขา ย่อมรู้อยู่แล้วว่าที่ไท่เป่าค่อย ๆ ถามทีละนิด เพื่อให้นางเผยพิรุธออกมาหากนางพูดผิดแม้นเพียงประโยคเดียว มันก็จะยิ่งทำให้นางเผยข้อผิดพลาดออกมามากขึ้น อีกทั้งสิ่งที่นางเล่าออกมาก็ยิ่งจะไม่มีความน่าเชื่อถืออีกอย่าง เขาเชื่อว่าวันนี้ไท่เป่าไม่ได้ถูกกดดันให้ไต่ถาม ไท่เป่าเคยดำรงตำแหน่งเป็นถึงสมุหราชเลขาธิการ เจ้ากรมอาญาคนปัจจุบันก็เคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา ตอนนี้ทางกรมอาญาก็ได้ตรวจสอบคดีของจวนมหาเสนาบดีร่วมกับจิงจ้าวหยิ่นแห่งศาลาว่าการ ไม่รู้ว่าเจ้ากรมอาญาผู้นั้นได้ขอให้ไท่เป่าช่วยหรือไม่?เป็นอย่างที่คาดไว้ สีหน้าของไท่เป่าเปลี่ยนไปในทันที นิ่วหน้ามองไปที่ซีเหมินเสี

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 385

    ไท่เป่ากล่าวต่อไป "จุดที่สี่ ตอนที่คณะเชิดมังกรไฟเดินแห่ขบวนมา ก็มีคนร่วมเดินขบวนจำนวนมาก ตอนที่เฉินหลิวหลิ่วเกือบจะโดนไฟเผา เจ้าบอกว่าตอนนั้นมีบ่าวรับใช้มากมายอยู่ด้วย ในเมื่อมีบ่าวรับใช้ ก็ต้องรู้ว่ามีคนอยู่ในเรือนด้านข้าง ทำไมถึงไม่รีบเข้าไปแจ้งให้พวกเขารีบหนีออกมา?"มหาเสนาบดีเซี่ยจึงออกมาพูด "ไท่เป่า ในเวลานั้น บ่าวรับใช้หลายคนก็หารู้ไม่ว่าในเรือนด้านข้างมีคนอยู่ อีกทั้งเกิดไฟไหม้อย่างฉับพลัน ทำให้ทุกคนวิ่งกันอย่างวุ่นวาย ไหนจะต้องช่วยอพยพคนที่เดินร่วมขบวนมาด้วยอีก ทำให้ลืมเรื่องอื่นไปชั่วขณะก็เป็นได้"ไท่เป่าขึ้นเสียงดัง "ดี ถือว่าบ่าวรับใช้ไปร่วมขบวนไม่รู้เรื่อง แต่ว่าในเวลานั้นก็มีคนของเจ้าคอยสังเกตการณ์มาโดยตลอด เหตุใดคนผู้นี้ถึงไม่ไปแจ้งเรื่องเล่า?"ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง "สถานการณ์ในตอนนั้นวุ่นวายมาก มันไม่ได้ง่ายดายดั่งที่ท่านไท่เป่าคิด ท่านจำเป็นต้องเคืองโกรธด้วยหรือ?"ไท่เป่ามองไปที่ฮูหยินผู้เฒ่า "ใช่ มันอาจจะไม่ง่ายดายอย่างที่ข้าคิดไว้ บางทีมันอาจจะมีอะไรที่ค่อนข้างจะซับซ้อนกว่านั้น ฮูหยินผู้เฒ่า ท่านว่าจริงหรือไม่?"ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ได้พูดอะไร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 386

    ตอนนี้ทางจวนกั๋วกงก็ยังไม่ทันได้เข้าไปเกี่ยวข้อง อันที่จริงก็ไม่ควรไปแปดเปื้อนกับเรื่องสกปรกพวกนี้อยู่แล้ว"ท่านปู่!" ซีเหมินเสี่ยวเยว่สะอื้นไห้คร่ำครวญ นึกไม่ถึงว่าปู่ของตนเองจะทำตัวห่างเหินเหมือนคนที่ไม่รู้จักกันเช่นนี้ไท่เป่ามองไปที่จิ้นกั๋วกง แล้วกล่าวเสียงเข้ม "เจ้าพูดเช่นนี้ ข้าเองก็วางใจได้แล้ว ต่อไปก็เตือนคนของเจ้าด้วยว่า ช่วยเก็บหางให้มิดชิดหน่อย หากก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก ข้าก็จะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น"จิ้นกั๋วกงกล่าวด้วยใบหน้าที่สลด "ขอบคุณไท่เป่าที่ตักเตือน ข้าจะจดจำคำของท่านไว้"จิ้นกั๋วกงรู้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ เดิมทีสามารถพูดให้กระจ่างได้ แต่ว่าไท่เป่าก็ไม่ได้ไล่บี้ต่อไป ถือเป็นการไว้หน้าจวนกั๋วกงแล้ว รักษาไว้ซึ่งเกียรติ ส่วนเรื่องที่ทางกรมอาญากับทางศาลาว่าการจะตรวจสอบหรือจับกุมใครอย่างไร เพียงแค่ไม่ได้เกิดเรื่องขึ้นในจวนกั๋วกง เขาก็จะได้ไม่ต้องไปมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้"ในเมื่อวันนี้วันเป็นการเลี้ยงฉลองต้อนรับลูกเขย อาหารก็จัดเตรียมไว้แล้ว ก็ทานอาหารมือนี้กันให้เบิกบานใจกันเถิด เรื่องของวันพรุ่งนี้ ก็ค่อยคิดกันวันพรุ่ง จะได้ไม่ทำให้การมาของเหล่าผู้อาวุโ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 387

    ซีเหมินเสี่ยวเยว่อดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ตะคอกใส่เหลียงซื่ออย่างเดือดดาล "ท่านตามมาราวีข้าไม่เลิกรา ต้องการจะทำอะไรกันแน่? ข้าก็ถูกท่านทำร้ายจนมีชะตากรรมเช่นนี้แล้ว ท่านยังไม่พอใจอีกหรือ?"พรุ่งนี้คนของศาลาว่าการก็จะมาหานางแล้ว นางคงจะต้องติดคุกอย่างเลี่ยงไม่ได้ เหลียงซื่อยังจะตามมาราวีนางไม่เลิกราอีกจิ้นกั๋วกงที่ยังขุ่นเคืองกับการกระทำของนางเมื่อครู่นี้ พอตอนนี้มาเห็นว่านางจงใจมาขวางทางซีเหมินเสี่ยวเยว่เอาไว้อีก ก็ทำให้เขาโกรธขึ้นมาจริง ๆ แล้วพูดขึ้นมาด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง "เจ้ายังอยากยังทำอะไรอีก? มีอะไรก็มาลงกับข้านี่"เหลียงซื่อหันไป แล้วยิ้มให้อย่างเยือกเย็น "วางใจเถิด ท่านพ่อ ในเมื่อวันนี้ข้ายอมทุ่มหมดตัว ก็ย่อมจะไม่เหลือเยื่อใยอะไรอีก บัญชีนี้ที่มีต่อตระกูลซีเหมิน พวกเราค่อยชำระกันภายหลัง ตอนนี้ข้าต้องการชำระบัญชีแค้นกับจวนมหาเสนาบดี"จิ้นกั๋วกงที่เห็นว่านางดื้อดึงเช่นนี้ ซึ่งแต่ต่างจากเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก ก็โมโหจนดวงตาขุ่นมัว สั่งคนให้ปิดประตูใหญ่ และกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน "ดี ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าจะชำระบัญชียังไง เด็ก ๆ ไปเก็บของที่เป็นของฮูหยินรองให้หมด บัญชีนี้

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 388

    จู่ ๆ เหลียงซื่อก็ลงมือ ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นล้วนไม่ทันได้ตั้งตัวจิ้นกั๋วกงปิดประตูใหญ่แล้ว เดิมทีคิดว่าจะทำให้เหลียงซื่อรู้สึกกลัวได้ ไม่คาดคิดว่านางจะดื้อรั้นถึงเพียงนี้ ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็เริ่มลงมือในทันทีซีเหมินเสี่ยวเยว่ที่ถูกนางกระชากผม ก็กรีดร้องขึ้นมา หลี่ซื่อก็พุ่งเข้าไปช่วยบุตรสาวของนาง แต่ก็ถูกเหลียงซื่อถีบออกไป นางตะคอกเสียงดังลั่น "ถ้าเข้ามาอีก ข้าจะกระชากหนังหัวของนางให้หลุดออกมาเลย!"พูดพลางก็ออกแรงดึงอีก จนซีเหมินเสี่ยวเหมินเสี่ยวเยว่ลงไปดิ้นทุรุนทุรายอยู่ที่พื้น เจ็บปวดจนต้องร้องโหยหวนออกมาหลี่ซื่อร้องคร่ำครวญกับจิ้นกั๋วกง "ท่านพ่อ ท่านดูสิ นางกระทำชั่วอย่างไร้ยางอาย""ใครกันที่กระทำชั่วอย่างไร้ยางอาย? เรื่องที่นางทำร้ายข้า พวกท่านทุกคนก็ต่างรู้ดี แต่มีสักคนไหมที่จะพูดช่วยข้าบ้าง? ล้วนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ใช่หรือไม่? ทุกคนคิดว่าข้าต้องเป็นผู้ที่ต้องสังเวยชีวิตเพื่อพวกท่านใช่ไหม? วันนั้นหลังจากที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น พวกท่านก็รู้ว่าข้าอยู่ที่เรือนเซี่ยจื่อหย่วน ไม่มีใครมาถามไถ่ถึงอาการบาดเจ็บของข้าเลยสักนิด ข้าจึงกลับไปที่บ้านเดิมของข้า แต่ก็ไม่มีคนในจวนกั๋วกงคน

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 389

    มหาเสนาบดีเซี่ยอดทนต่อความโกรธพูดกับเหลียงซื่อ "เจ้าปล่อยนางไปก่อนเถิด มีอะไรก็ค่อย ๆ พูดจากันดี ๆ มิได้หรือ?"เหลียงซื่อเงยหน้าที่เคืองแค้นขึ้นมา "พวกท่านเคยพูดจาดีกับข้าตั้งแต่เมื่อไหร่? หลังจากที่ข้าหนีออกมาจากเรือนด้านข้างแล้ว ก็ได้รักษาตัวอยู่ที่เรือนเซี่ยจื่อหย่วน ในเวลานั้นคนในจวนมหาเสนาบดีของท่านไม่เห็นมาพูดจาดี ๆ กับข้าบ้างเลยเล่า? มหาเสนาบดีเซี่ย ตอนนี้ท่านอยากปกป้องความสงบสุขร่มเย็นในจวนของท่าน วันนี้ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ก็ต้องสะสางกับข้าให้จบ คุณหนูใหญ่เซี่ยต้องการให้หย่าอะไรนั่น ข้าไม่สน ข้าเพียงต้องการให้ท่านหย่ากับซีเหมินเสี่ยวเยว่""อะไรนะ?"เมื่อกล่าวจบ หลี่ซื่อก็อุทานออกมาก่อนใครเพื่อน จากนั้นก็ชี้หน้าด่าเหลียงซื่อเสียยกใหญ่ "เจ้ายังมีหน้ามาพูดอีกว่าไม่อิจฉาที่นางได้แต่งกับมหาเสนาบดี? ดีร้ายอย่างไรนางก็ยังเป็นหลานของเจ้านะ เจ้าทำกับนางเช่นนี้ได้อย่างไร? เจ้าช่างใจดำอำมหิตยิ่งนัก สามีของนางก็ตายไปแล้วคนหนึ่ง หากเจ้ายังให้นางหย่าอีก ชีวิตนี้ของนางก็คงจบสิ้นแล้ว"เหลียงซื่อกล่าวอย่างเย็นเยียบ "แล้วมันเกี่ยวอันใดกับข้าด้วยเล่า นางหาเรื่องใส่ตัวเอง หากนางรู้จักใช้ชีวิ

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1168

    ร่างกายของแม่ทัพเฒ่าฉินสั่นสะท้านด้วยความโกรธ “เจ้าสาปแช่งปู่รึ เจ้าเคยคำนึงถึงญาติพี่น้องหรือไม่?”เมื่อหมอหลวงมาถึง กลับไม่มีคนในตระกูลฉินคอยเฝ้าเขาอยู่ในห้อง ดังนั้นจึงมีเพียงแต่บ่าวรับใช้หลังจากตรวจสอบอาการเสร็จ หมอหลวงก็กล่าวด้วยสีหน้าตกตะลึง “ท่านแม่ทัพเฒ่า เมื่อไม่กี่วันมานี้ท่านได้ไปที่ใดมา? แล้วท่านเคยเข้าไปในพื้นที่โรคระบาดหรือไม่?” “ไม่เคย ข้าไม่เคยไปที่นั่น” สีหน้าของแม่ทัพเฒ่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของหมอหลวง “ท่านกำลังสงสัยว่าข้าติดเชื้อโรคระบาดใช่หรือไม่?”“อาการช่างคล้ายคลึงกันยิ่งนัก” หมอกลวงกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“เป็นไปไม่ได้!” แม่ทัพเฒ่าฉินรู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก “ท่านวินิจฉัยผิดหรือไม่?”“ข้าจะจัดยาให้ท่านสองชนิดก่อน หากดื่มยาเหล่านี้แล้วไม่ได้ผล เช่นนั้นไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแล้วขอรับ” หมอหลวงกล่าวแม่ทัพเฒ่าฉินกล่าวด้วยความลนลาน “ฉินโจวบังคับให้ท่านพูดเช่นนี้ใช่หรือไม่?”หมอหลวงรู้สึกประหลาดใจ “แม่ทัพเฒ่า ท่านหมายความว่าอย่างไร? เหตุใดแม่ทัพฉินถึงต้องบังคับให้ข้าพูดเช่นนี้?”หมอหลวงชะงักไปชั่วครู่หนึ่งแล้วโพล่งถาม “ท่านเคยพูดคุยกับองค์ชายเ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1167

    นางสามารถเสียสละได้ แต่จะไม่มีทางทรยศต่อประชาชนเป่ยโม่เด็ดขาดสำหรับความจงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิและประเทศชาติ นางจะต้องรักประชาชนก่อน จึงจะสามารถภักดีต่อองค์จักรพรรดิได้ฉินโจวกล่าวคำเบา “ข้าเข้าไปในพระราชวังเพื่อเชิญหมอหลวงแล้ว ท่านปู่พักผ่อนก่อนเถิด ข้าจะออกไปเดินเล่นรับลมสักหน่อย”ดวงตาของแม่ทัพเฒ่าฉินอัดแน่นด้วยความโกรธ แต่ก็พยายามอย่างหนักเพื่อระงับมันฉินโจวเดินออกจากห้อง และเห็นว่าฉินเป้าน้องชายของตนนั่งอยู่ที่สวน เมื่อเห็นนางเดินออกมา เขาก็ถามว่า “ท่านปู่เป็นอย่างไรบ้าง?”ฉินโจวจำคำพูดของท่านปู่ได้อย่างแม่นยำ จึงเมินเฉยต่อเขาและตอบอย่างใจเย็น “เข้าไปดูด้วยตนเองสิ”ฉินเป้าคลี่ยิ้ม แต่มันกลับดูอ้างว้างอย่างยิ่ง “ข้าได้ยินสิ่งที่ท่านปู่พูดกับท่านแล้ว ข้าไม่อยากเข้าไป”ฉินโจวตกตะลึง “เพราะเหตุใด เขาทุ่มเทความพยายามทั้งหมดไปกับหารวางแผนเพื่อเจ้า เจ้าควรขอบคุณท่านปู่สิ”ฉินเป้าหัวเราะเยาะ “จริงรึ? หากเขาทอดทิ้งท่านเพื่อตระกูลได้ ในอนาคตเขาจะไม่ทอดทิ้งข้าหรือ? ข้าไม่ต้องการชื่อเสียงหรือความดีงามใด ๆ พวกมันไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการเลย”ฉินโจวดูถูกน้องชายมาโดยตลอด เพราะเขาไม่ได

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1166

    ทั้งสองคนเดินออกไปและหยุดอยู่บนทางเดิน หมอมองฉินโจวพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “ท่านแม่ทัพ ข้ากำลังสงสัยว่าท่านแม่ทัพเฒ่าจะป่วยด้วยโรคระบาดขอรับ”ฉินโจวตกตะลึง “โรคระบาด? เป็นไปได้อย่างไร? ปู่ของข้าไม่เคยออกไปข้างนอก และไม่เคยติดต่อกับผู้ป่วยโรคนี้เลย แล้วเขาจะติดเชื้อโรคระบาดได้อย่างไร?”“ข้าเคยรักษาผู้ป่วยโรคระบาดมาก่อน ซึ่งอาการคล้ายคลึงกันอย่างมาก ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอ ตาแดง หายใจเร็วขึ้น เมื่อเกิดอาการเหล่านี้พร้อมกันจะอันตรายอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นโรคนี้ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดขอรับ” หมอกล่าว“เป็นไปไม่ได้ หากจะติดเชื้อโรคระบาดก็ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีเชื้ออยู่แล้ว แต่ท่านปู่ของข้าไม่เคยใกล้ชิดคนเหล่านั้นเลย แล้วเขาจะติดเชื้อได้อย่างไร?” ฉินโจวยังคงไม่เชื่อหมอประสานหมัด “ทั้งหมดนี้คือคำวินิจฉัยของข้า หากท่านแม่ทัพไม่เชื่อ ก็สามารถขอให้หมอคนอื่นมาตรวจดูได้ หรือท่านจะพาเขาไปที่พระราชวัง และขอให้หมอหลวงช่วยตรวจอาการ ข้าไร้ความสามารถ จึงอาจวินิจฉัยผิดพลาดได้ ลาก่อนขอรับ ๆ!”สิ้นคำ หมอก็หยิบกล่องยาแล้วออกไปโดยไม่เขียนใบสั่งยาด้วยซ้ำฉินโจวสับสนไม่น้อย ท่านปู่ติดเชื้อโร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1165

    หัวใจของฉินโจวเย็นเยียบราวกับน้ำ “ใช่ ตราบใดที่ข้าตายในสนามรบ ตระกูลฉินก็ยังจะเป็นผู้กล้า และเป็นขุนนางผู้มีเกียรติ”แม่ทัพเฒ่าฉินเงียบไปครู่ใหญ่ จากนั้นกล่าวคำเบา “ในฐานะหลานสาวตระกูลฉิน มันเป็นหน้าที่ของเจ้าที่ต้องเสียสละเพื่อชื่อเสียง และรากฐานของตระกูล”ฉินโจวกำหมัดแน่นด้วยความไม่พอใจ “หลายปีที่ผ่านมานี้ ข้ายังทำไม่พออีกหรือ? ตอนนี้มีใครในตระกูลฉินบ้างที่ไม่เกาะกินเลือดนี้ของข้า?”แม่ทัพเฒ่าฉินลุกยืนขึ้นพลางกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าเคยเตือนเจ้าแล้ว คราวนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจ้าจะต้องเข้าไปในพระราชวัง ข้าให้คำมั่นกับฮองเฮาเฉาแล้ว ว่าวันนี้เจ้าจะไปที่นั่นเพื่อทูลขอรับคำสั่ง หากเจ้าไม่ไป ข้าก็จะรับคำสั่งและออกรบด้วยตนเอง”“ท่าน...” ฉินโจวมองเขาด้วยสายตาโศกเศร้า “ท่านปู่ ข้าก็เป็นหลานสาวของท่านเหมือนกัน ท่านไม่สงสารข้าบ้างหรือ?”“ปู่สงสารเจ้าสิ แต่ภารกิจหน้าที่ของตระกูลฉินจะต้องถูกส่งต่อ ตอนนี้น้องชายของเจ้าโตพอแล้ว เจ้าจะต้องพาเขาไปสร้างความสำเร็จทางการทหารด้วย และเจ้าจะได้รับส่วนแบ่งของน้องเจ้า เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลฉินก็จะได้ผู้สืบทอดคนใหม่”ฉินโจวผงะไปชั่วครู่ ก่อนระเบิดหัวเราะ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1164

    เมื่อได้ยินคำพูดของฉินโจว แม่ทัพเฒ่าฉินก็โมโหมากจนเคราสั่นสะท้าน “อาโจว อะไรจะสำคัญไปกว่าการบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่? องค์จักรพรรดิเพียงต้องการขยายอาณาเขตของแคว้น เจ้าควรรู้เอาไว้ว่าเมื่อเรายึดครองต้าโจวสำเร็จ เป่ยโม่จะมีพื้นที่เพิ่มมากกว่าครึ่งหนึ่ง และมันจะเป็นความดีความชอบของตระกูลฉิน ทำให้ตระกูลของเราถูกจดจำไปหลายชั่วอายุคน! นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องการมาตลอดรึ? เจ้าไม่ต้องการบอกคนทั้งโลก ว่าแม้ฉินโจวจะเป็นสตรี แต่นางก็สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างผ่าเผยหรือ?”ฉินโจวมองดูใบหน้าที่ฉายแววตื่นเต้นปนโกรธเกรี้ยวของปู่ ทันใดนั้นนางก็สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติถูกต้อง มันคือความต้องการของนาง แต่ความสำเร็จของนางจะต้องไม่แลกกับการเหยียบย่ำกระดูกของประชาชนชาวเป่ยโม่นางรักเป่ยโม่และหวังที่จะขยายอาณาเขตของแคว้น นอกจากนี้นางยังต้องการเสาะหาดินแดนอุดมสมบูรณ์เพื่อประชาชน เพราะหวังว่าพวกเขาจะสามารถอยู่อาศัยและทำกินอย่างสงบสุข และพึงพอใจโดยไม่ต้องทนทุกข์จากการพลัดถิ่นอย่างไรก็ตาม ในตอนนี้หากต้องการบรรลุอำนาจ นางจำต้องสละชีวิตประชาชนจำนวนมาก และนำเงินภาษีของทุกคนมาใช้ในการทำสงคราม ทำให้โรคร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1163

    มือสังหารเหล่านั้นแต่งกายคล้ายกับชาวต้าโจวและสวมหน้ากากผ้าสีดำ กลุ่มคนนิรนามราวเจ็ดถึงแปดคนกระโดดลงมาจากท้องฟ้ากลางวันแสก ๆ ทันทีที่เท้าของคนเหล่านั้นแตะพื้น พวกมันก็เริ่มโจมตีอย่างดุดันฉินโจวเห็นมือสังหารคนหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับกระบี่ยาว จากนั้นร่ายรำอยู่หลายกระบวนท่าราวกับนางฟ้าโปรยดอกไม้ ขณะแสงแดดตกกระทบกระบี่ส่องกระจายไปทั่วเหล่าทหารที่เพิ่งมาถึงกระโจนเข้าไปร่วมวงต่อสู้อย่างรวดเร็วหลังจากประดาบกันไปกว่าร้อยครั้ง มือสังหารก็ถูกบีบบังคับให้ล่าถอย ฉินโจวจ่อกระบี่ไปที่คอของหนึ่งในมือสังหาร พลางถามเสียงเข้ม “ตอบข้า ใครเป็นคนส่งเจ้ามา?”มือสังหารตอบอย่างเย็นชา “ฆ่าไอ้หมารับใช้เป่ยโม่ให้หมด!”“หมารับใช้เป่ยโม่? เห็นได้ชัดว่าพวกเจ้าไม่ได้เป็นคนเป่ยโม่ พวกเจ้ามาจากต้าโจวใช่หรือไม่?” ฉินโจวโมโหอย่างมาก ขณะชี้ดาบไปยังหน้าอกของอีกฝ่าย “ไอ้เลวมู่หรงเจี๋ยส่งพวกเจ้ามาใช่หรือไม่?”“หญิงเลวอย่าเจ้ากล้าเอ่ยชื่อของท่านอ๋อง ทำให้พระองค์มัวหมองได้อย่างไร?” มือสังหารตะโกนฉินโจวชักดาบกลับพร้อมกล่าวอย่างเย็นชา “กลับไปซะ!”มือสังหารตกตะลึง ราวกับไม่คาดคิดว่าฉินโจวจะปล่อยตัวเขาไป”เ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1162

    ฉินโจวกล่าวด้วยความโมโห “ข้าหลอกลวงเจ้าเมื่อไร?”“ไม่งั้นรึ? เจ้าและอ๋องฉีเอ่ยปากว่า หากจื่ออันตกลงเดินทางมาที่เป่ยโม่ พวกเจ้าจะส่งองค์ชายรัชทายาทไปที่ต้าโจวเป็นองค์ประกัน แล้วพวกเจ้าทำตามที่พูดแล้วหรือไม่?”“องค์ชายรัชทายาทเดินทางไปยังต้าโจวแล้ว!”“ผู้ที่เดินทางไปยังต้าโจวคือองค์ชายเจ็ด ไม่ใช่องค์ชายรัชทายาท องค์ชายเจ็ดไม่ได้เป็นที่โปรดปราน ดังนั้นจักรพรรดิเป่ยโม่จะส่งเขาไปสังเวยเมื่อใดก็ได้”“เป็นไปไม่ได้!” ฉินโจวประหลาดใจอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าผู้ที่เดินทางไปคือองค์ชายรัชทายาท เพราะองค์จักรพรรดิทรงตรัสด้วยตนเองว่าจะส่งเขาไปที่ต้าโจว“เจ้าอย่าเพิ่งสนใจเรื่องนี้เลย ก่อนหน้านี้ทั้งสองแคว้นตกลงทำสนธิสัญญาสงบศึก หลังจากการแพร่ระบาดสิ้นสุดลง แต่เจ้ากลับวางแผนโจมตีพวกเราในขณะที่ข้ายังอยู่ที่เป่ยโม่ เจ้าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร?” มู่หรงเจี๋ยกล่าวอย่างเคร่งเครียดฉินโจวตอบ “ผิดแล้ว เป็นเพราะต้าโจวที่เคลื่อนทัพโจมตีทหารฝั่งขวาของเราก่อน และสังหารทหารของเราไปกว่าร้อยคน ข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเคลื่อนทัพเข้าไปใกล้ เพื่อบีบบังคับให้พวกเจ้าถอยกลับ”“ไร้สาระ กองทัพของเราหยุดเคลื่อนท

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1161

    อย่างไรก็ตาม การจัดหาเสบียงอาหารสำหรับพื้นที่ภัยพิบัติยังไม่เพียงพอ และยังขาดแคลนเสื้อผ้าอาภรณ์ นอกจากนี้หลังจากที่พระชายาผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มาถึงเป่ยโม่ ก็ยังไม่ได้รับใบสั่งยาแม้แต่ฉบับเดียว ดังนั้นความอดทนของประชาชนจึงค่อย ๆ หมดลง แต่ความโกรธและความขุ่นเคืองกลับยิ่งมากขึ้นทันทีที่ข่าวลือแพร่สะพัด ก็เป็นเสมือนเป็นการขว้างเปลวไฟใส่ ‘ระเบิด’ หนึ่งหมื่นตุน ทำให้มันระเบิดออกอย่างรวดเร็วผู้ประสบภัยนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้าสู่เมืองหลวงอย่างรวดเร็วหลังจากที่ฉินโจวลงจากภูเขา นางก็พบว่าองค์จักรพรรดิทำอะไรกับทหารม้า และทหารเจ็ดหมื่นนายที่ประจำการที่เมืองหลวง ซึ่งเขาออกคำสั่งให้ทหารเหล่านั้นขับไล่เหล่าผู้ประสบภัยออกไปนางเห็นด้วยตาตนเองว่าทหารใต้บังคับบัญชาของนางสร้างกำแพงมนุษย์อันแน่นหนา เมื่อผู้ประสภัยเดินทางเข้ามา พวกเขาก็จะโบกหอกเพื่อขับไล่คนเหล่านั้นออกไปผู้ประสบภัยมากกว่าสิบรายได้รับบาดเจ็บจากหอกทหารเหล่านั้นอยู่ใต้บังคับบัญชาของนาง แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะไม่ได้ฆ่าผู้ใด แต่เมื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้นจะต้องมีการฆ่าแกงกันอย่างแน่นอนฉินโจวโกรธจัดจึงขี่ม้าเข้าไปขวางเอาไว้ “หยุด หยุดเ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1160

    ฉินโจวกวาดสายตามองพลางเยาะเย้ยจื่ออันไม่สนใจนาง และพาหลินตานไปยังเขตตะวันตกภายในสองวันนี้มีผู้เสียชีวิตถึงสามคน ซึ่งทั้งหมดถูกหามออกไปหลังจากที่หลินตามเดินเข้ามาเขาหลั่งน้ำตาหลั่งน้ำตาขณะมองดูการเผาศพจื่ออันไม่คิดว่าเขาจะมีความอ่อนไหวมากเพียงนี้ “ท่านหมอหลิน ท่านเป็นอะไรหรือไม่?”หลินตานปาดน้ำตา “ข้าขอโทษ ข้าเพียง... คิดถึงครอบครัวขอรับ”“ครอบครัวของท่าน? แล้วตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ใดหรือ?” จื่ออันถาม“ตายหมดแล้วขอรับ ภรรยาและลูกสะใภ้ของข้าตายเพราะเหตุแผ่นดินไหวทั้งคู่ ส่วนลูกชายและหลานชายติดเชื้อโรคระบาดก่อนตายไปเช่นกัน ข้าจึงเป็นคนเดียวที่เหลือรอด” หลินตานสูดหายใจเข้าลึก ใบหน้าที่อยู่ภายใต้ผมสีขาวฉายแววความเศร้าโศกและหดหู่จื่ออันไม่คาดคิดว่าเขาจะมาจากพื้นที่โรคระบาดเช่นกัน เมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อย จื่ออันก็ไม่รู้จะปลอบใจเขาเช่นไร จึงได้แต่นิ่งเงียบและอยู่เคียงข้างไม่นานหลินตานก็ถามว่า “ท่านหมอเซี่ย โรคระบาดนี้สามารถรักษาหายได้จริงหรือขอรับ?”ตอนนั้นเองจื่ออันก็นึกได้ว่าเขาเป็นหมอเท้าเปล่า และหลังจากเดินทางพเนจรไปที่ต่าง ๆ เขาอาจรู้จักจินเย่าฉือก็เป็นได้ ดังนั้นจึงรีบถามว

DMCA.com Protection Status