“หากพูดเช่นนี้เสียแต่แรก จะได้รับโทษเช่นนั้นหรือ!”อิงเหนียงยิ้มเยาะแล้วเอ่ย “เจ้ากลับไปรอก่อน อีกมิกี่วันข้าจะทำให้เจ้าแต่งงานเข้าตำหนักอ๋องอี้!”“ต่อไปหากข้าต้องการให้เจ้าทำสิ่งใด ข้าจะหาคนส่งข้อความถึงเจ้า! หากเจ้ากล้ามิเชื่อฟังข้า ข้าก็จะทำให้เจ้าตาย!”อิงเหนียงเอ่ยอย่างโหดร้าย “เจ้าเองก็อย่าแม้แต่จะคิดขอให้ใครช่วยเอาหนอนกู่ออกให้เจ้า หนอนกู่ที่ข้าเลี้ยงไว้ หากมีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติข้าก็จะรู้ทันที!”“หากเจ้ายังมิได้เอาหนอนกู่ออกไป ข้าก็สามารถทำให้เจ้าตายได้! ดังนั้น... เจ้าควรทำตัวดี ๆ!”หลังจากที่อิงเหนียงไปแล้ว ฉินรั่วซือก็ไม่มีกะจิตกะใจที่จะไหว้พระแล้ว นางรีบพานางรับใช้กลับบ้านทันทีมิถึงสองวัน นางก็ได้ยินข่าวว่า ฮองเฮาเว่ยเสนอให้ตนแต่งงานกับเซียวหลินเทียนในฐานะชายารองจริง ๆ!ตอนนั้นที่ฉินรั่วซือได้ยินข่าวก็รู้สึกประหลาดใจและมีความสุขมาก อิงเหนียงทำได้จริง ๆ หรือ?แต่ต่อมา หลังจากฉินซานกลับมา เขาถามฉินรั่วซือด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “รั่วซือ เหตุใดฮองเฮาถึงให้เจ้าไปเป็นชายารองท่านอ๋องอี้? เจ้าไปทำสิ่งใดลับหลังข้า?”ฉินรั่วซือมีหรือจะกล้าบอกความจริง จึงเอ่ยไปอย่างรู้สึกผิด
เมื่อเซียวทงเห็นว่าฉินรั่วซือมิยอมเปลี่ยนตัวก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจให้กับหลิงอวี๋ “ท่านพี่สะใภ้สี่ อย่าได้ทำให้ความกระตือรือร้นของทุกคนลดน้อยลงเลย! เอาตามนี้เถิด!”“ไป พวกเราไปเปลี่ยนอาภรณ์เตรียมตัวกัน!”ฟางเหยาเหยาก็มิพอใจที่หลิงอวี๋เสนอจะเปลี่ยนตัวนางเช่นกัน จึงลากตู้ตงหง เผยเหลียนและคนอื่น ๆ ตามองค์หญิงหกไปเปลี่ยนอาภรณ์หลิงอวี๋จนใจ จึงกระซิบกับอันซิน “เจ้าให้พวกสวีเยวี่ย เผิงเสี่ยวฮุ่ยและเว่ยอวิ๋นไปเปลี่ยนอาภรณ์ด้วย เตรียมพร้อมไว้หากประเดี๋ยวมีคนมิไหวก็จะให้เข้าแทน!”มิรู้ว่าอันซินไปบอกพวกนางว่าอย่างไร แต่คนเหล่านั้นมิได้มีการโต้แย้งแล้วไปหาที่เปลี่ยนอาภรณ์ทันทีทางด้านแขกบุรุษได้ยินว่าพวกสตรีกำลังจะแข่งขันเตะลูกกลมกัน จักรพรรดิอู่อันจึงนำพวกเขามารอชมความสนุกกันทั้งสามกลุ่มจากสามแคว้น มีองค์หญิงจากทั้งสามแคว้นเป็นหัวหน้า อันได้แก่ เซียวทง มู่หรงชิ่งและเซี่ยโฮ่วตานรั่วไทเฮาเป็นประธานในการจับสลาก หัวหน้าทั้งสามคนต่างเปลี่ยนเป็นชุดขี่ม้า มัดผม เรียบร้อยและยืนต่อหน้าไทเฮาอย่างกล้าหาญไทเฮายิ้มแล้วให้ไป่ซุ่ยวางหลอดฉลากไว้บนโต๊ะ และเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “การแข่งขันเตะลูกกลมสตรีสามแคว้น
หลิงอวี๋เองก็จนใจเช่นกัน แต่หัวหน้ากลุ่มได้รับการยืนยันจากจักรพรรดิอู่อันแล้ว ตนคิดจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนเองได้ที่ไหนกัน!“พวกเจ้าคอยดูกลยุทธ์และจุดเด่นของทั้งสองฝ่ายไว้ให้ดีก่อน! คอยสังเกตข้อบกพร่องของพวกนางให้มากเป็นพิเศษ! พวกเรามิอยากอยู่รั้งท้าย หากความแข็งแกร่งของเรามิเท่าของพวกนาง เราก็ทำได้เพียงคิดอุบายเอาชนะให้ได้!”สวีเยวี่ยที่สามารถเล่นเตะลูกกลมได้ กับเผิงเสี่ยวฮุ่ย เว่ยอวิ๋น เจียงอวี้และคนอื่น ๆ ต่างก็เฝ้าดูอย่างตั้งใจในมิช้าฉีตะวันออกก็ทำประตูได้แล้วหนึ่งลูก เซี่ยโฮ่วตานรั่วก็กระโดดขึ้นมาอย่างมีความสุขแล้วโบกมือไปที่ผู้ตัดสินองค์ชายหนิงแห่งฉีตะวันออกแย้มรอยยิ้มบนในหน้า เขานั่งอยู่กับองค์ชายคัง เซียวหลินเทียนและมู่หรงเหยียนซงเมื่อองค์ชายคังเห็นท่าทีตื่นเต้นของเซี่ยโฮ่วตานรั่ว เขาก็ยิ้มแล้วเอ่ย “องค์ชายหนิง องค์หญิงตานรั่วเป็นวีรสตรีในหมู่สตรีจริง ๆ นางมีความสามารถทั้งทางบุ๋นและบู๊ หาได้ยากมากในหมู่สตรี!”“องค์ชายคังชมเกินไปแล้ว!”องค์ชายหนิงอยู่ในวัยยี่สิบต้น ๆ ใบหน้าของเขาคมชัดราวกับประติมากรรม มีขอบมีมุม ภายนอกดูสงบสง่างาม แต่ในดวงตามีประกายที่ทำให้คนมิกล้าดูถูกแม้
หลังจากถูกเตือนจากหลิงอวี๋ จูหลานก็ได้ตรวจสอบเรื่องที่เสี่ยวเป่าของนางติดเชื้อโรคฝีดาษแล้วสิ่งที่ทำให้นางตกใจก็คือ อาการเจ็บป่วยของเสี่ยวเป่านั้นเกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์จริง ๆ!และเป็นพระชายาเว่ยอีกแล้วที่ติดสินบนคนรับใช้ แอบเอาเสื้อผ้าที่ผู้ป่วยโรคฝีดาษสวมใส่มาวางไว้ใต้หมอนของเสี่ยวเป่าเงียบ ๆจูหลานโกรธมาก และดุด่าองค์ชายเย่“ท่านไม่มีความสามารถที่จะไปเทียบเทียมกับผู้อื่นด้วยซ้ำ แต่กลับคิดถึงตำแหน่งนั้น! ดูเอาเถิด ท่านเพิ่งจะเคลื่อนไหว เขาก็ลงดาบกับลูกชายของท่านแล้ว!”“ท่านยังห้ามหม่อมฉันมิให้ไปขอร้องพี่สะใภ้สี่ให้มาตรวจเสี่ยวเป่าอีก… หากไม่มีพี่สะใภ้สี่ เสี่ยวเป่าก็คงตายไปแล้ว!”จูหลานตะโกนออกมาอย่างเศร้าเสียใจ “เซียวหลินมู่ หม่อมฉันแต่งงานกับท่านโดยมิคิดว่าท่านจะต้องกลายเป็นผู้สูงศักดิ์ที่สุดในฉินตะวันตก!”“หากตำแหน่งนั้นสำคัญสำหรับท่านมากถึงเพียงนั้น... สำคัญมากจนท่านแลกได้กระทั่งชีวิตของเราแม่ลูก! เช่นนั้นท่านก็ไปแย่งชิงมาให้ได้เสียเถิด! หวังเพียงว่าในท้ายที่สุดท่านจะมิเสียใจเพคะ!”ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา จูหลานก็ขับไล่องค์ชายเย่ออกจากเรือนของตนก่อนหน้านี้นางบอกหลิงอวี๋ว
พวกของพระชายาเส้าและจักรพรรดิอู่อันต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง ครึ่งแรกของการแข่งขันระหว่างเยวี่ยใต้กับฉีตะวันออกก็จบลงแล้ว ผลคะแนนห้าต่อสองโดยที่ฉีตะวันออกเป็นผู้นำคะแนนหลังจากพักไปสิบห้านาทีการแข่งขันก็ดำเนินต่อไปในช่วงครึ่งหลัง ในที่สุดเซียวทงก็กลับมาพร้อมกับเหล่าสตรี นางก็ยังคงมิรู้สึกกังวลเลยแม้แต่น้อยแล้วลากตู้ตงหงกับเผยเหลียนออกไปกระซิบพึมพำกันอยู่ข้าง ๆหลิงอวี๋เห็นแล้วก็พูดมิออก นางสังเกตเห็นแล้วว่ากลุ่มของเซี่ยโฮ่วตานรั่วนั้นแข็งแกร่งมากจริง ๆ สตรีในสนามมีความอดทนดี ทั้งยังทำงานร่วมกันได้ดีด้วยทว่าหากต้องการจะเอาชนะกลุ่มของเซี่ยโฮ่วตานรั่วนั้น มันยากเกินไป!ส่วนกลุ่มของมู่หรงชิ่งอ่อนแอกว่าของเซี่ยโฮ่วตานรั่วเล็กน้อยมู่หรงชิ่งเป็นคนนิสัยดี แต่ระดับการจัดการของนางนั้นด้อยกว่ามาก แม้ว่ากลุ่มของนางจะมิได้อ่อนแอ แต่ความสามารถของกลุ่มในการร่วมมือกันนั้นด้อยกว่ากลุ่มของเซี่ยโฮ่วตานรั่วมาก!หลิงอวี๋ยังสังเกตเห็นอีกว่า ระหว่างพักมู่หรงชิ่งถูกมู่หรงเหยียนซงเรียกไปคุยอยู่สักพักนี่เป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋ได้เห็นมู่หรงเหยียนซง แม้ว่าจะอยู่ห่างไกล มิได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกัน
การเดิมพันมีการตกลงแล้วทั้งสองฝ่ายก็พร้อมที่จะแข่งขันกันแล้วผู้รักษาประตูที่เซียวทงเลือกคือหลี่อวี้เจิน นับว่าเป็นผู้รักษาประตูที่พึ่งพาได้ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ให้ลู่หนานไปหาข้อมูลคุณหนูเหล่านี้แล้ว จึงพอจะเข้าใจสถานการณ์โดยรวมของทุกคนหลี่อวี้เจินผู้นี้มาจากครอบครัวนายทหาร ฝึกฝนวรยุทธกับพ่อและพี่ชายของนางมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นความคล่องตัวและความอดทนของนางจึงไม่มีปัญหาหลิงอวี๋ หลิงหว่าน เผยเหลียนและตู้ตงหงนั้น เซียวทงจัดให้เล่นกองกลางฉินรั่วซือ ฟางเหยาเหยา เถาลี่และเจียงอวี้ สี่คนนี้เล่นเป็นกองหลังส่วนกองหน้าคือเซียวทงกับเจิงจื่ออวี้รับผิดชอบเมื่อได้ยินสิ่งนี้หลิงอวี๋ก็เอ่ยโดยมิรู้ตัว “องค์หญิงหก ให้เจียงอวี้ไปเล่นไปกองหน้ากับท่านเถิด! เจียงอวี้มีความอดทนที่ดี ดังนั้นนางจึงเหมาะสมกว่าที่จะเป็นกองหน้า!”เซียวทงเลิกคิ้วแล้วยิ้มเยาะพลางเอ่ย “หลิงอวี๋ ข้าเป็นหัวหน้าหรือเจ้าเป็นหัวหน้า? ข้าย่อมมีเหตุผลของตัวเองที่จัดการเช่นนี้! เจ้าเพียงแค่เชื่อฟังคำสั่งก็พอแล้ว!”“แม้ว่านี่จะเป็นการแข่งขัน แต่ก็คล้ายกับการต่อสู้ หากเจ้ามิฟังผู้นำ ก็จะถูกลงโทษ!”หลิงอวี๋โกรธขึ้นมาครู่หนึ่ง เห
การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไปคราวนี้เซียวทงส่งลูกกลมอีกครั้ง หลิงอวี๋มองขณะที่นางส่งลูกกลมให้หลิงหว่านอีกครั้ง คราวนี้หลิงหว่านรีบวิ่งไปข้างหน้า แล้วตะลึงใช้หัวโหม่งลูกกลมไปที่ฟางเหยาเหยาฟางเหยาเหยาดูเหมือนจะตอบสนองช้าไปครึ่งจังหวะ คนของมู่หรงชิ่งจึงแย่งลูกกลมไปได้อีกครั้งแล้วหลิงอวี๋รีบเข้าไปแย่งลูกกลมแล้วเตะไปที่เจียงอวี้ เจียงอวี้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว รีบวิ่งไปรับลูกกลมแล้วยิงไกล...หนึ่งต่อหนึ่ง!หลิงอวี๋ถอนหายใจโล่งอก ตราบใดที่มิแพ้เยวี่ยใต้ ขยะนี้ก็จะมิตกใส่หัวของฉินตะวันตก...นางเหลือบมองมู่หรงชิ่งอย่างขอโทษ นี่คือการแข่งขันระหว่างแคว้น เช่นนั้นการแข่งขันจึงต้องมาก่อน และมิตรภาพมาเป็นอันดับสองเท่านั้นมู่หรงชิ่งมองออกมาก ๆ เมื่อนางเห็นหลิงอวี๋มองมาที่ตน นางก็ยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นให้สูง ๆ “พี่หญิงหลิงอวี๋ มิคาดคิดเลยว่าเจ้าจะเตะลูกกลมเก่งถึงเพียงนี้!”“สู้ ๆ!”“สู้ ๆ!”หลิงอวี๋ก็ทำท่าสู้ ๆ ให้นางกลับเช่นกันในการแข่งขันถัดไป เซียวทงจ้องหลิงหว่านส่งลูกกลม ครั้งหนึ่งเตะลูกกลมไปที่หัวของหลิงหว่าน อีกครั้งก็เตะไปที่หลังของหลิงหว่านหลังจากผ่านไปหลายครั้งแล้ว สีหน้าของหลิงอวี๋
เซียวทงเห็นสภาพเปื้อนเลือดของหลิงหว่าน ก็ยิ้มอย่างเย็นชา แต่กลับแสร้งทำสีหน้าน่าเกรงขาม“อุบัติเหตุในระหว่างการแข่งขันก็เป็นเรื่องปกติ จะโทษพวกเจ้ามิได้หรอก!”“หลิงหว่าน เจ้าเองก็มิใช่คนใจแคบถึงเพียงนั้นใช่หรือไม่? ใคร ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บกันได้ เจ้าแค่โชคร้าย จะตำหนิเจิงจื่ออวี้กับตู้ตงหงมิได้หรอก!”“...”หลิงหว่านอ้าปากแต่ก็พูดมิออก นางบอกได้หรือว่าเจิงจื่ออวี้กับตู้ตงหงตั้งใจ?นอกจากนี้ เมื่อครู่หากมิใช่เพราะองค์หญิงหกเหยียบตน หากมิได้เหยียบลงมาเช่นนั้น นางคงไม่มีทางได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้!“หลิงหว่าน ทุกคนมาเข้าร่วมการแข่งขัน! หากเจ้ากลัวเจ็บเมื่อครู่เจ้าก็แค่หยุดเล่น แล้วตอนนี้เจ้ามาทำเป็นน่าสงสารเช่นนี้ให้ใครดูเล่า?”เผยเหลียนเอ่ยอย่างมิพอใจ “พวกนางขอโทษเจ้าแล้ว เจ้าจะมิแสดงออกอะไรเลยหรือ?”หลิงอวี๋ให้หลิงซวนนำกล่องยาของตนมาแล้ว เมื่อได้ยินว่าเผยเหลียนยังคงพูดกับหลิงหว่านเช่นนี้จึงขมวดคิ้ว“เผยเหลียน เจ้ามิเห็นหรือว่าใบหน้าของหลิงหว่านได้รับบาดเจ็บ? เจ้าอยากให้นางแสดงออกอะไร?”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะพลางเอ่ย “ที่พวกเจ้ารีบร้อนขอโทษมิใช่เพราะอยากจะล้างมลทินให้ตนเองรึ? หากพวกเจ้า
คนที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยสั่งการล้วนปะปนอยู่ในฝูงชน เมื่อเห็นคนนั้นกระโดดออกมาฟ้องร้องหลี่ต้าหนิว ก็มีคนตามกันออกมา“ใต้เท้าเถี่ยทำเพื่อฮองเฮา จึงจงใจปกปิดหลี่ต้าหนิว!”“สังหารหลี่ต้าหนิว ลงโทษฮองเฮาสถานหนัก ถอดถอนฮองเฮา!”“ถอดถอนฮองเฮา!”เสียงคัดค้านเหล่านั้นแหลมสูงขึ้นเรื่อย ๆ“เงียบ!”แม่ทัพสือตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง พลางตะคอกเสียงแข็ง “ใต้เท้าเถี่ยกำลังไต่สวน ห้ามพวกเจ้าเอะอะเสียงดัง มิเช่นนั้นจะถูกลงโทษที่ส่งเสียงดัง!”“เกรียงไกร...”ทหารกองทัพหลงที่อยู่รอบ ๆ ตะโกนขึ้นมาโดยพร้อมเพรียงกันบรรยากาศที่ทรงอำนาจและหอกที่ส่องประกายในมือพวกเขาปรามให้คนที่โวยวายจำนวนมากมิกล้าพูดคนหนึ่งคิดว่าแม่ทัพสือมิกล้าสังหารตนต่อหน้าคนจำนวนมากเช่นนี้ จึงตะโกนขึ้นมา“ใต้เท้าเถี่ยตัดสินคดีมิยุติธรรม ยังมิให้เราเอ่ยทวงความยุติธรรมอีกหรือ? พวกเราเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวใต้เท้าเถี่ยแล้วไต่สวนคดีนี้ใหม่อีกครั้ง!เซียวหลินเทียนสีหน้าเรียบนิ่งลง นี่มิได้กำลังท้าทายใต้เท้าเถี่ย แต่กำลังท้าทายอำนาจของตน!เขามองแม่ทัพสือ แม่ทัพสือจึงโบกมือทันที จากนั้นทหารกองทัพหลวงหลายคนก็พุ่งไปข้างหน้าแล้วกดคนผู้นั้นลงกับพื้
“มิต้องกลัว แม้ว่าทุกคนในใต้หล้าจะร้ายกับเจ้า เจ้าก็ยังมีข้าอยู่!”หลิงอวี๋เดินไปอย่างมั่นคง เซียวหลินเทียนนั้นจับมือของนางไว้แน่นแม้ว่าจะมิได้พูด แต่คำที่เซียวหลินเทียนสัญญาก็ดังก้องอยู่ข้างหูของหลิงอวี๋นางมองหนทางไกลที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน คนที่มาในวันนี้มากกว่าในวันพิธีแต่งตั้งฮองเฮาหลายเท่ามิได้มีเพียงแต่ขุนนาง ยังมีทูตจากแคว้นเล็กที่มาประชุม และมีเหล่าราษฎรที่นางเคยคิดทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อประโยชน์และความสุขของพวกเขาด้วย...มีศัตรู และมีสหาย!หลิงอวี๋เห็นท่านอดีตเสนาบดี เจียงอวี้ และพระชายาผิงหนานอยู่ท่ามกลางฝูงชนนั้น...แล้วก็เห็นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยที่มีผ้าปิดหน้าและองค์ชายคัง!หลิงอวี๋ยิ้มแล้วตามเซียวหลินเทียนเดินไปที่แท่นสูงดูเหมือนว่านี่มิใช่การมาเข้าร่วมการพิพากษาคดีของตน แต่แค่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงท้องถนนซึ่งหาได้ยากที่จะแสดงความรุ่งเรืองของฉินตะวันตกเซียวหลินเทียนยืนอยู่หน้าเก้าอี้มังกรสูงใหญ่ที่จัดมาเป็นพิเศษ สายตากวาดมองไปรอบ ๆ จากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยอำนาจและสงบเยือก“เหล่าขุนนางและราษฎรฉินตะวันตก ทุกคนมาเข้าร่วมงานเลี้ยงท้องถนนนี้ก็ล้วนรู้กันดีว่างา
หลิงหว่านอยู่ในห้องได้ยินดังนั้นใจก็จมดิ่งลงทันทีด้านนอกมิรู้ว่ามีคนแบบใดเฝ้าพวกเขาอยู่ หลิงเสียงกังก็ถูกวางยาพิษอีก พวกเขาจะหนีไปได้อย่างปลอดภัยหรือ?“แล้วหลิงหว่านเล่า?” อีกคนหนึ่งเอ่ยถาม“เก็บนางไว้ก่อน รอผ่านวันพรุ่งไปแล้วค่อยว่ากัน!”วันพรุ่ง?วันพรุ่งจะเกิดอะไรขึ้น?หลิงหว่านมิเข้าใจเรื่องภายนอก แต่ฟังจากบทสนทนาของทั้งสองคนแล้วนางก็รู้ว่าวันพรุ่งจะต้องเป็นวันสำคัญแน่นอนนางกับหลิงเสียงกังจะต้องหนีไปให้ได้ก่อนวันพรุ่งจะมาถึง และไปเปิดโปงแผนร้ายของเฝิงฉินดีที่สองคนนั้นแค่คุยกันอยู่ด้านนอก มิได้เข้ามาตรวจสอบด้านในกระทั่งด้านนอกไม่มีเสียงใดแล้ว หลิงหว่านก็กระซิบอย่างร้อนใจ “ท่านพ่อ อีกนานหรือไม่?”หลิงหว่านมองมิเห็นหลิงเสียงกัง ริมฝีปากของเขาทั้งบนและล่างล้วนถูไปกับเชือกป่านจนเลือดเปื้อนเชือกป่านแดงฉานไปหมดเขาเองก็ได้ยินบทสนทนาของสองคนนั้นและกังวลมากเช่นกัน เขามีเวลามิมากแล้ว เขาต้องรีบช่วยแก้มัดให้หลิงหว่านแล้วให้นางหนีออกไปนางเป็นลูกสาวของตน แม้ว่าเขาจะจำมิได้ แต่คำเรียกพ่อนั้นก็เป็นแรงให้เขา!หลิงเสียงกังกับหลิงหว่านล้วนมิรู้ว่าเผยอวี้พาคนมาหาที่นี่จนพบแล้ว ที่มิ
เฝิงฉินตอบสนองต่อเสียงก่นด่าของหลิงหว่านด้วยรอยยิ้มดูถูก แล้วเดินเข้ามามองนาง“หลิงหว่าน เจ้ากับพ่อเจ้าอยู่ในกำมือข้า เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าแม่เจ้าทำเพื่อชีวิตของพวกเจ้า แม้ว่าข้าจะให้นางไปกินอุจจาระนางเองก็จะยอมทำตามแต่โดยดี!”ใจของหลิงหว่านจมดิ่งลง และเกิดลางสังหรณ์ที่มิดีขึ้นมาเฝิงฉินกล้าพูดทุกอย่างนี้กับตน หรือว่ามิได้คิดจะให้ตนมีชีวิตกลับไปอีกแล้ว?“พวกเจ้าต้องการทำสิ่งใดกันแน่?”หลิงหว่านตะโกนออกไปอย่างหวาดกลัวแต่เฝิงฉินกลับมิเสียเวลาพูดกับนางแล้วหมุนตัวเดินไปข้างกายหลิงเสียงกัง และพยายามโน้มน้าวหลิงเสียงกังแต่หลิงเสียงกังนิ่งเฉย เขาสามารถลำบากเพื่อเฝิงฉินได้ แต่เรื่องที่จะให้ตนใช้ข้อหาที่ไม่มีจริงไปใส่ร้ายหลิงอวี๋นั้นเขาไม่มีทางยอมทำเด็ดขาดสุดท้ายเฝิงฉินจึงเดินออกไปพร้อมกับโทสะ“ท่านพ่อ เราอยู่ที่นี่มิได้ เฝิงฉินไม่มีทางกล้าที่จะฟ้องร้องพี่หญิงหลิงหลิงเช่นนี้แน่ เบื้องหลังของนางจะต้องมีคนคอยหนุนหลังอยู่!”หลิงหว่านคิดในจุดนี้อย่างรวดเร็วแล้วเอ่ยอย่างร้อนใจ “จุดประสงค์ของคนที่ให้การสนับสนุนนางคือการทำลายพี่หญิงหลิงหลิง เมื่อนางบรรลุจุดประสงค์แล้วจะต้องสังหารพวกเราเป็นแ
หลิงหว่านกับหลิงเสียงกังถูกขังไว้ในไร่นาร้างแห่งหนึ่งหลิงหว่านถูกเฝิงฉินพาไปที่ชานเมืองเมื่อยามไปหาหลิงเสียงกัง เฝิงฉินบอกว่าหลิงเสียงกังเกิดอาการปวดหัวขึ้นมา หลิงหว่านเป็นห่วงอาการป่วยของบิดาตนจึงตามไปไหนเลยจะคิดว่าเมื่อเข้าประตูไปแล้วจะถูกเฝิงฉินเอาไม้ทุบสลบไปกระทั่งหลิงหว่านฟื้นขึ้นมาจึงได้พบว่าตนถูกมัดแขนขาอยู่บนเก้าอี้เก่า ๆ ตัวหนึ่งส่วนหลิงเสียงกังก็นอนอยู่ในดงหญ้าที่พื้น และถูกมัดแขนขาเช่นกัน“ท่านพ่อ!”หลิงหว่านมิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เฝิงฉินหาทางผูกมัดหลิงเสียงกังมาโดยตลอดมิใช่หรือ?มัดตนไว้ยังพอยอมรับได้ แต่เหตุไฉนต้องมัดหลิงเสียงกังด้วยเล่า!“แค่ก!”หลิงเสียงกังฟื้นจากการที่ถูกหลิงหว่านปลุกขึ้นมา แล้วก็รู้สึกถึงกลิ่นเลือดในปาก จากนั้นเขาก็ไออย่างรุนแรงแล้วกระอักเลือดออกมา“ท่านพ่อ!”หลิงหว่านกังวลเป็นอย่างมาก เห็นว่าหลิงเสียงกังที่ดูแข็งแรงดีเมื่อหลายวันก่อนกลับมีท่าทีอ่อนแอเช่นนี้ ต้องพยายามอยู่หลายครั้งจึงจะลุกขึ้นนั่งได้“เฝิงฉิน เหตุใดเจ้าจึงทำกับข้าเช่นนี้?!”หลิงเสียงกังมิได้สนใจหลิงหว่านแล้วตะโกนแผดเสียงออกมาที่มุมปากของเขามีเลือดไหล แต่เลือดเหล่านี้มิ
“ฝ่าบาท! เรื่องนี้จะทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ? แคว้นเล็กเหล่านั้นล้วนอยู่ที่เมืองหลวง ครานี้บัณฑิตโวยวายกันจนเป็นเช่นนี้ หากมิไกล่เกลี่ยพวกเขาให้ดี ผลที่ตามมาคงยากเกินจะรับไหวพ่ะย่ะค่ะ!”สองวันมานี้หลี่ว์เซียงติดเชื้อไข้หวัดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน เมื่อเห็นว่าเรื่องของหลิงอวี๋ใหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆ ก็อยู่บ้านมิได้แล้วจึงรีบมาราชสำนัก“พวกเจ้าอย่าได้ร้อนใจ ข้าเรียกพวกเจ้ามาก็เพราะจะหารือเรื่องนี้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างปลอบใจ “ข้ามิประหารผู้ใดง่าย ๆ หรอก ทว่าหากมีเจตนาชั่วร้าย คิดจะใช้เรื่องนี้มาบีบบังคับให้ข้าประนีประนอม เช่นนั้นคงเป็นไปมิได้!”“วันพรุ่งข้าจะจัดงานเลี้ยงท้องถนนและชี้แจงเรื่องนี้ เรื่องที่พวกเจ้าสองคนต้องทำในวันนี้ก็คือ ไกล่เกลี่ยให้บัณฑิตเหล่านั้นกลับไปโดยมิต้องเปลืองแรง!”เซียวหลินเทียนให้แม่ทัพเฉินไปตรวจสอบเรื่องอาคารศึกษาถล่ม หลี่ต้าหนิวเองก็ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกรมอาญาเป็นการชั่วคราวเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนต้องทำให้ชัดเจนก่อนวันพรุ่งเซียวหลินเทียนรู้ดี หากมิเตรียมให้พร้อม งานเลี้ยงท้องถนนในวันพรุ่งก็จะเป็นหายนะครั้งใหญ่ที่สุดที่ตนพบหลังจากครองบัลลังก์มา“การจัด
กับคนกันเอง หลิงอวี๋มิเคยแล้งน้ำใจได้ลงนี่คือสาเหตุหลักที่หลิงซวนกับพวกหานเหมยยินดีติดตามหลิงอวี๋ด้วยความรักโดยมิเสียใจ“ฮองเฮาเพคะ ครานี้องค์จักรพรรดิทรงทำเพื่อท่าน นับว่าทรงทุ่มเทแรงกายแรงใจเลยทีเดียว!”หลิงซวนอดมิได้ที่จะเอ่ย “ยามตกทุกข์ได้ยากจะพบความจริงใจ หม่อมฉันรู้สึกว่าฮองเฮาน่าจะให้โอกาสพระองค์ อย่าได้ปิดกั้นพระองค์อีกเลยเพคะ!”คำพูดของหลิงซวนเป็นคำกำกวม พวกนางผู้เป็นนางรับใช้ข้างกายของหลิงอวี๋ ล้วนรู้เรื่องราวภายในที่องค์จักรพรรดิมาพักที่พระตำหนักคุนหนิงในทุกครั้งเป็นอย่างดีว่านั่นเป็นการนอนหลับเฉย ๆ มิได้ทำสิ่งใดทั้งนั้นนี่หลิงซวนบอกใบ้ให้หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนได้ทำในสิ่งที่สามีภรรยาที่แท้จริงทำกัน อย่าได้ปิดกั้นเซียวหลินเทียนอีกเลย...หลิงอวี๋ย่อมเข้าใจในการบอกใบ้ของหลิงซวนอยู่แล้ว เหตุใดครานี้นางจึงมิเป็นฝ่ายไปตรวจสอบคดี หนึ่งก็คือรู้สึกผิดหวัง สองก็คือนางต้องการจะดูว่าเซียวหลินเทียนจะสามารถทำอะไรเพื่อตนได้บ้างเห็นได้ชัดว่าการกระทำของเซียวหลินเทียนในสองวันมานี้ผ่านมาก ๆนี่คือทัศนคติที่ควรมีในฐานะสามี!“ฮองเฮา ได้ยินมาว่าองค์จักรพรรดิจัดงานเลี้ยงท้องถนน สิ
จ้าวฮุยมองเซียวหลินเทียนจากไปด้วยสายตาที่ซับซ้อน จักรพรรดิองค์ใหม่ผู้นี้แตกต่างจากจักรพรรดิอู่อันโดยสิ้นเชิงภาพในวันนี้ทำให้เขาตระหนักได้ว่า หากทำให้เซียวหลินเทียนโกรธ เซียวหลินเทียนก็สามารถทำได้ทุกอย่าง!เหอะ ๆ!เซียวหลินเทียน เจ้าคิดว่าข่มขู่ขุนนางแล้วจะสามารถปกป้องหลิงอวี๋ไว้ได้เยี่ยงนั้นรึ?มันยังมิจบหรอก!เจ้ามิอาจห้ามปากของทุกคนได้!ขอเพียงเจ้ายังต้องการแผ่นดินฉินตะวันตกและยังต้องการนั่งบัลลังก์มังกรอย่างมั่นคงอยู่วันนี้เจ้าส่งผู้ตรวจการเจียงไปเข้าคุกอย่างไร วันข้างหน้าก็ต้องไปเชิญเขาออกมาอย่างเคารพข้าจะดูว่าเจ้าจะตบหน้าตัวเจ้าเองอย่างไร!สองวันมานี้แม้ว่าหลิงอวี๋จะมิได้สนใจเรื่องภายนอก แต่หลิงซวนก็ยังเล่าเรื่องที่เกิดภายนอกให้นางฟังอย่างภักดีโดยละเว้นเรื่องนางซุนไว้เมื่อได้ยินเรื่องชาวบ้านเหล่านั้นบอกว่าตนให้พวกเขาเลี้ยงวัวนมเพื่อให้ตนอาบน้ำ หลิงอวี๋ก็หัวเราะด้วยความโกรธเมื่อเทียบกับการทรยศของนางซุนผู้เป็นญาติของตน การใส่ร้ายแบบที่มิเห็นความหวังดีของผู้อื่นเช่นนี้ช่างเบาบางมากสำหรับหลิงอวี๋แต่แม้ว่าตัวหลิงอวี๋จะมิสนใจ แต่ก็ต้องคิดว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อตนและเ
เหล่าขุนนางที่ยังคงพูดอยู่ตกใจกลัวจนเงียบกริบและพากันคุกเข่าลงทันทีนี่เป็นครั้งแรกที่เซียวหลินเทียนโกรธราวกับฟ้าผ่าลงมาเช่นนี้นับตั้งแต่ครองบัลลังก์มา“พล่ามกันพอแล้วหรือไม่?”เซียวหลินเทียนตะคอกด้วยความโกรธ “อย่าเอาคำว่ากษัตริย์ผู้ทรงธรรมมาข่มขู่ข้าา! ตัวข้าเข้าสู่สนามรบตั้งแต่เจ็ดขวบ ข้าจะมิเคยเห็นภาพนองเลือดเชียวรึ? ข้าจะกลัวที่พวกเจ้าจะวิ่งชนเสาหรือ?”“วันนี้ข้าจะเอ่ย ณ ที่แห่งนี้ ข้ายอมเผด็จการหากจะต้องปกป้องหลิงอวี๋!”“อย่าว่าแต่ที่หลิงอวี๋มิได้มีความผิดใด ๆ แม้ว่านางคิดอยากจะนั่งในตำแหน่งนี้ของข้าจริง ๆ ข้าก็ยินดีจะหลีกทางให้… เพราะข้าเชื่อว่าหากหลิงอวี๋เป็นจักรพรรดินีก็ไม่มีทางด้อยไปกว่าข้า!”ขุนนางเหล่านั้นล้วนตกใจกับคำพูดนี้ของเซียวหลินเทียน!นี่… นี่… องค์จักรพรรดิถูกกระตุ้นจนจิตมีปัญหาหรือ?มิฉะนั้นจะพูดคำพูดที่ไร้สาระจนคาดมิถึงเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร!“ราษฎรทำผิดกฎหมายทางจวนขุนนางยังให้โอกาสพวกเขาได้อุทธรณ์! พวกเจ้าเป็นขุนนางในราชสำนักของข้า เป็นเจ้าหน้าที่ปกครองบ้านเมือง แต่พวกเจ้าฟังดูว่าพวกเจ้าพูดอะไรออกมา?”เซียวหลินเทียนตวาด “มิทำการสอบสวน มิรวบรวมหลักฐาน อา