แชร์

บทที่ 977

ผู้เขียน: กานเฟย
การเดิมพันมีการตกลงแล้ว

ทั้งสองฝ่ายก็พร้อมที่จะแข่งขันกันแล้ว

ผู้รักษาประตูที่เซียวทงเลือกคือหลี่อวี้เจิน นับว่าเป็นผู้รักษาประตูที่พึ่งพาได้

ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ให้ลู่หนานไปหาข้อมูลคุณหนูเหล่านี้แล้ว จึงพอจะเข้าใจสถานการณ์โดยรวมของทุกคน

หลี่อวี้เจินผู้นี้มาจากครอบครัวนายทหาร ฝึกฝนวรยุทธกับพ่อและพี่ชายของนางมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นความคล่องตัวและความอดทนของนางจึงไม่มีปัญหา

หลิงอวี๋ หลิงหว่าน เผยเหลียนและตู้ตงหงนั้น เซียวทงจัดให้เล่นกองกลาง

ฉินรั่วซือ ฟางเหยาเหยา เถาลี่และเจียงอวี้ สี่คนนี้เล่นเป็นกองหลัง

ส่วนกองหน้าคือเซียวทงกับเจิงจื่ออวี้รับผิดชอบ

เมื่อได้ยินสิ่งนี้หลิงอวี๋ก็เอ่ยโดยมิรู้ตัว “องค์หญิงหก ให้เจียงอวี้ไปเล่นไปกองหน้ากับท่านเถิด! เจียงอวี้มีความอดทนที่ดี ดังนั้นนางจึงเหมาะสมกว่าที่จะเป็นกองหน้า!”

เซียวทงเลิกคิ้วแล้วยิ้มเยาะพลางเอ่ย “หลิงอวี๋ ข้าเป็นหัวหน้าหรือเจ้าเป็นหัวหน้า? ข้าย่อมมีเหตุผลของตัวเองที่จัดการเช่นนี้! เจ้าเพียงแค่เชื่อฟังคำสั่งก็พอแล้ว!”

“แม้ว่านี่จะเป็นการแข่งขัน แต่ก็คล้ายกับการต่อสู้ หากเจ้ามิฟังผู้นำ ก็จะถูกลงโทษ!”

หลิงอวี๋โกรธขึ้นมาครู่หนึ่ง เห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 978

    การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไปคราวนี้เซียวทงส่งลูกกลมอีกครั้ง หลิงอวี๋มองขณะที่นางส่งลูกกลมให้หลิงหว่านอีกครั้ง คราวนี้หลิงหว่านรีบวิ่งไปข้างหน้า แล้วตะลึงใช้หัวโหม่งลูกกลมไปที่ฟางเหยาเหยาฟางเหยาเหยาดูเหมือนจะตอบสนองช้าไปครึ่งจังหวะ คนของมู่หรงชิ่งจึงแย่งลูกกลมไปได้อีกครั้งแล้วหลิงอวี๋รีบเข้าไปแย่งลูกกลมแล้วเตะไปที่เจียงอวี้ เจียงอวี้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว รีบวิ่งไปรับลูกกลมแล้วยิงไกล...หนึ่งต่อหนึ่ง!หลิงอวี๋ถอนหายใจโล่งอก ตราบใดที่มิแพ้เยวี่ยใต้ ขยะนี้ก็จะมิตกใส่หัวของฉินตะวันตก...นางเหลือบมองมู่หรงชิ่งอย่างขอโทษ นี่คือการแข่งขันระหว่างแคว้น เช่นนั้นการแข่งขันจึงต้องมาก่อน และมิตรภาพมาเป็นอันดับสองเท่านั้นมู่หรงชิ่งมองออกมาก ๆ เมื่อนางเห็นหลิงอวี๋มองมาที่ตน นางก็ยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นให้สูง ๆ “พี่หญิงหลิงอวี๋ มิคาดคิดเลยว่าเจ้าจะเตะลูกกลมเก่งถึงเพียงนี้!”“สู้ ๆ!”“สู้ ๆ!”หลิงอวี๋ก็ทำท่าสู้ ๆ ให้นางกลับเช่นกันในการแข่งขันถัดไป เซียวทงจ้องหลิงหว่านส่งลูกกลม ครั้งหนึ่งเตะลูกกลมไปที่หัวของหลิงหว่าน อีกครั้งก็เตะไปที่หลังของหลิงหว่านหลังจากผ่านไปหลายครั้งแล้ว สีหน้าของหลิงอวี๋

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 979

    เซียวทงเห็นสภาพเปื้อนเลือดของหลิงหว่าน ก็ยิ้มอย่างเย็นชา แต่กลับแสร้งทำสีหน้าน่าเกรงขาม“อุบัติเหตุในระหว่างการแข่งขันก็เป็นเรื่องปกติ จะโทษพวกเจ้ามิได้หรอก!”“หลิงหว่าน เจ้าเองก็มิใช่คนใจแคบถึงเพียงนั้นใช่หรือไม่? ใคร ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บกันได้ เจ้าแค่โชคร้าย จะตำหนิเจิงจื่ออวี้กับตู้ตงหงมิได้หรอก!”“...”หลิงหว่านอ้าปากแต่ก็พูดมิออก นางบอกได้หรือว่าเจิงจื่ออวี้กับตู้ตงหงตั้งใจ?นอกจากนี้ เมื่อครู่หากมิใช่เพราะองค์หญิงหกเหยียบตน หากมิได้เหยียบลงมาเช่นนั้น นางคงไม่มีทางได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้!“หลิงหว่าน ทุกคนมาเข้าร่วมการแข่งขัน! หากเจ้ากลัวเจ็บเมื่อครู่เจ้าก็แค่หยุดเล่น แล้วตอนนี้เจ้ามาทำเป็นน่าสงสารเช่นนี้ให้ใครดูเล่า?”เผยเหลียนเอ่ยอย่างมิพอใจ “พวกนางขอโทษเจ้าแล้ว เจ้าจะมิแสดงออกอะไรเลยหรือ?”หลิงอวี๋ให้หลิงซวนนำกล่องยาของตนมาแล้ว เมื่อได้ยินว่าเผยเหลียนยังคงพูดกับหลิงหว่านเช่นนี้จึงขมวดคิ้ว“เผยเหลียน เจ้ามิเห็นหรือว่าใบหน้าของหลิงหว่านได้รับบาดเจ็บ? เจ้าอยากให้นางแสดงออกอะไร?”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะพลางเอ่ย “ที่พวกเจ้ารีบร้อนขอโทษมิใช่เพราะอยากจะล้างมลทินให้ตนเองรึ? หากพวกเจ้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 980

    หลี่อวี้เจินยังคงนอนอยู่บนพื้น หลิงอวี๋กำลังจะก้าวไปช่วยพยุงนางผลก็คือ เซียวทงพุ่งเข้าไป เมื่อเห็นหลี่อวี้เจินลุกขึ้นจากพื้น นางก็มิพูดพร่ำทำเพลงยกมือขึ้นตบหน้าหลี่อวี้เจินทันที“เจ้ารักษาประตูเยี่ยงไรกัน? ข้าเชื่อใจเจ้ามาก เช่นนั้นเจ้าจึงรักษาประตูเช่นนี้หรือ?”“เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่เจ้าสามารถป้องกันประตูนั้นได้! แต่ดูสิ ประตูของเยวี่ยใต้ทำลูกไปได้! เจ้าทำให้พวกเราแพ้!”หลี่อวี้เจินตกตะลึง นางกุมหน้ามองเซียวทงอยากมิอยากจะเชื่อเซียวทงยังคงดุด่าด้วยความโกรธต่อ “มองหาปะไร? เจ้ายังมิยอมรับอีก! ข้ามิน่าให้เจ้ารักษาประตู เจ้ามันขยะ!”“พอแล้ว!”หลิงอวี๋โกรธทันที นางเห็นคราบเลือดบนแขนเสื้อของหลี่อวี้เจิน หลี่อวี้เจินได้รับบาดเจ็บที่ข้อศอกทั้งสองข้างขณะพยายามจับลูกกลมนั้นไว้แต่เซียวทงในฐานะหัวหน้า มิเห็นการทำงานหนักและความพยายามของหลี่อวี้เจินเลยครั้นเดินเข้ามาได้ก็ตบหลี่อวี้เจินโดยมิแยกแยะถูกผิด!นี่มันเกิดอะไรขึ้น?ถึงอย่างไรพ่อกับพี่น้องของหลี่อวี้เจินยังคงทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการทหารในราชสำนัก เซียวทงตบหน้าหลี่อวี้เจินเช่นนี้ จะมิเป็นการตบหน้าพวกเขาด้วยหรือ?เมื่อพี่ชายสอง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 981

    เมื่อเห็นว่าผู้คนตีตัวออกห่างจากเซียวทงไป ไทเฮาก็จ้องมองนางอย่างดุร้าย“การแข่งขันเตะลูกกลมนั้นเป็นการแข่งขันแบบกลุ่ม การแพ้ชนะก็เป็นเรื่องของทั้งกลุ่ม! พี่สะใภ้สี่ของเจ้าพูดถูก เจ้าจะตีใครเพียงเพราะพ่ายแพ้ได้เยี่ยงไร!”“เซียวทง การแพ้ชนะในการแข่งขันเป็นเรื่องปกตินัก หากแพ้ก็ต้องค้นหาเหตุผลของตน มิใช่ไปโทษผู้อื่น!”“เจ้าขอโทษคุณหนูหลี่เสีย! อย่าให้ใครมาเห็นแล้วหัวเราะ! เที่ยวไปบอกว่าเราแพ้มิเป็นเลย!”เมื่อเห็นว่าไทเฮาโกรธ เซียวทงจึงทำได้เพียงเอ่ยกับหลี่อวี้เจินอย่างฝืนใจ “หลี่อวี้เจิน ข้าขอโทษ ข้าหุนหันพลันแล่นไปเอง! ข้าจะชดใช้ให้เจ้า!”พี่น้องตระกูลหลี่ที่เข้ามาเห็นว่าไทเฮาบังคับให้องค์หญิงหกขอโทษแล้วจึงมิพูดอะไรอีก แล้วทั้งสองคนก็ช่วยพยุงหลี่อวี้เจินไปแม้ว่าภายนอกพวกเขาจะทั้งคู่จะมิได้แสดงออกถึงความมิพอใจ แต่ในใจพวกเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจต่อองค์หญิงผู้วางอำนาจผู้นี้!“อาอวี๋ เจ้าเป็นหัวหน้าเถิด!”ไทเฮาเองก็เล่นเตะลูกกลมเป็นเช่นกัน นางมองเห็นความต่างในความแข็งแกร่งของทั้งสามฝ่ายแล้ว นางมิได้มีข้อเรียกร้องสูงส่งอะไรต่อสตรีฉินตะวันตก ขอเพียงมิอยู่จุดต่ำสุดก็พอแล้ว!“เสด็จย่า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 982

    เซียวทงมีหรือจะสนใจรางวัลเหล่านี้ นางเหลือบมองจ้าวเจินเจินแล้วยิ้มพลางเอ่ย“ท่านพี่สะใภ้สอง พระชายาเส้าและไทเฮาต่างหวังให้เราชนะมาก จนมอบรางวัลมากมายถึงเพียงนี้! เช่นนั้นเราจะอยากได้แค่รางวัลมิได้!”“หลิงอวี๋ เจ้ามิคิดเยี่ยงนั้นหรือ? มีรางวัลก็ควรมีบทลงโทษ หากเจ้าอยากเป็นหัวหน้า ก็ต้องแบกรับความรับผิดชอบนี้ด้วย!”ตู้ตงหงก็เอ่ยด้วยท่าทีร้าย ๆ เช่นกัน “เมื่ออยู่สนามรบก็ต้องใช้คำสั่งทหาร พระชายาอ๋องอี้ หากท่านอยากเป็นหัวหน้า เช่นนั้นหากท่านพาพวกเราพ่ายแพ้ ก็ต้องถูกลงโทษ!”หลิงอวี๋หัวเราะ หากแพ้ตนจะถูกลงโทษหรือ? คนเหล่านี้มาเพื่อเล่นตลกหรือ?เซียวทงมิรอให้ไทเฮาเอ่ยปาก นางก็เอ่ยขึ้นมาอย่างบังคับ “หลิงอวี๋ เราก็มิได้ให้เจ้าออกเงินเสียหน่อย หากแพ้เจ้าก็ล้างจานกับทำความสะอาดสถานที่แทนทั้งกลุ่มก็ได้! คำขอนี้มิมากเกินไปหรอกกระมัง!”“ถูกต้อง หากชนะ รางวัลของหัวหน้าก็จะมีอย่างมากมาย ทว่าหากแพ้หัวหน้าก็ควรได้รับการลงโทษมากกว่าคนอื่น ๆ สิ! ข้าเห็นด้วยกับข้อเสนอขององค์หญิงหก!”เจิงจื่ออวี้ เฟิงเหยาเหยาและคนอื่น ๆ ต่างเห็นพ้องด้วยไทเฮาเห็นว่าองครักษ์เดินไปที่กลองแล้ว การแข่งขันกำลังจะเริ่มต้น

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 983

    คำพูดของหลิงอวี๋ทำให้สตรีหลายคนในกลุ่มมีความกระตือรือร้นและมีขวัญกำลังใจขึ้นมากอันซินกับพวกพี่น้องสาวต่างมัดผมยาว ๆ กันเรียบร้อย และจัดเสื้อผ้าจากนั้นก็ลงไปในสนามลู่หนานมารายงานเซียวหลินเทียนเรื่องที่หลิงอวี๋เป็นหัวหน้ากลุ่มและได้มีการเดิมพันกับเซียวทงไว้เซียวหลินเทียนอดมิได้ที่จะรู้สึกกังวลเรื่องหลิงอวี๋ เขาดูการแข่งขันมาตลอดครึ่งแรก ความแข็งแกร่งของกลุ่มฉินตะวันตกสู้เยวี่ยใต้มิได้จริง ๆหลิงอวี๋จะนำกลุ่มเอาชนะเยวี่ยใต้ได้เยี่ยงไรกัน!อันเจ๋อเห็นว่าอันซินน้องสาวของตนก็ลงเล่นด้วย จึงทำท่าทางให้กำลังใจอันซินอยู่ไกล ๆเขายิ้มเยาะแล้วเอ่ยกับเผยอวี้และเซียวหลินเทียน “หากองค์หญิงหกกล้าปฏิบัติต่อหลิงอวี๋กับน้องสาวของข้าเหมือนที่นางทำกับหลิงหว่านและหลี่อวี้เจิน ต่อให้ข้าจะต้องรับโทษจากองค์จักรพรรดิ วันนี้ข้าก็จะมิปล่อยนางไปง่าย ๆ แน่!”เผยอวี้ยังคงโกรธเรื่องที่เจิงจื่ออวี้กับองค์หญิงหกทำให้หลิงหว่านได้รับบาดเจ็บอยู่ เมื่อได้ยินสิ่งนี้จึงเหลือบมององค์หญิงหกนี่มันองค์หญิงแบบใดกัน ก็แค่เกิดมาในราชวงศ์มิใช่หรือ?กล้าที่จะมุ่งเป้าไปที่คู่หมั้นของตนเช่นนี้ หากมิให้บทเรียนกับนางเสียงบ้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 984

    หลังจากที่หลิงอวี๋พูดเช่นนี้ เซียวทงก็มองไปทางอัฒจันทร์โดยมิรู้ตัว เพียงแต่นางมิได้มองไปในทิศทางของจักรพรรดิอู่อัน แต่หันไปทางเผยอวี้เผยอวี้กำลังโบกมือให้กำลังใจฉินตะวันตกอยู่แต่เซียวทงกลับคิดผิดไปว่าเผยอวี้เห็นการแสดงออกของตนเมื่อครู่นี้ ใบหน้าของนางก็แดงเล็กน้อยตนอยากให้เผยอวี้เห็นว่าตนดีกว่าหลิงหว่าน หากตนทำผลงานได้มิดีเท่าหลิงหว่าน เช่นนั้นจะมิทำให้เผยอวี้ดูถูกหรอกหรือ?มิได้การแล้ว แม้ว่าในขณะเดียวกันจะต้องทำให้หลิงอวี๋อับอาย แต่นางก็ต้องทำให้เผยอวี้เห็นความโดดเด่นของตนด้วยในรอบต่อไป เมื่อหลิงอวี๋รับลูกกลมจากสวีเยวี่ยแล้ววิ่งไป เซียวทงก็ริเริ่มตะโกนขึ้นมาเอง “ส่งให้ข้า... ส่งให้ข้า...”เมื่อครู่เผิงเสี่ยวฮุ่ยเห็นองค์หญิงหกจงใจเตะพลาด นางอยากจะเรียกให้หลิงอวี๋ส่งให้ตนแต่หลิงอวี๋ก็ส่งลูกกลมให้เซียวทงโดยมิลังเลเลยหัวใจของเผิงเสี่ยวฮุ่ยสั่นไหว นางคิดว่าพระชายาอ๋องอี้จะมีความพิเศษในการเป็นผู้นำกลุ่ม ไหนเลยจะคิดว่าพระชายาอ๋องอี้จะเป็นคนที่มองสถานการณ์มิออก!น่าเสียดายจริงเชียว!โอกาสทำประตูดี ๆ เช่นนี้ต้องเสียไปอีกแล้ว!อันซินกับคนอื่น ๆ ที่หลิงอวี๋เลือกมารู้สึกผิดหวังเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 985

    “สู้ ๆ! สู้ ๆ!”การแข่งขันในสนามเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ มู่หรงชิ่งมองออกว่าหลิงอวี๋อยู่ในฐานะหัวหน้าแล้วมีการโจมตีที่แข็งแกร่งมาก และทำให้สมาชิกในกลุ่มของตนมีกำลังใจที่ดีอีกด้วยทั้งสองฝ่ายต่างคิดว่านี่คือการแข่งขันสำคัญที่จะตัดสินว่าตนจะอยู่อันดับต่ำสุดหรือไม่ ทั้งคู่จึงสู้กันอย่างเต็มกำลังพวกของเซียวหลินเทียนเริ่มกังวลขึ้นมาแล้วส่วนสตรีแต่ละคนในสนามก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศตึงเครียดของการแข่งขันเจิงจื่ออวี้กับสวี่เหยียนมิเข้าใจเซียวทง นางบอกว่าจะจงใจแพ้ จะทำให้หลิงอวี๋อับอายมิใช่หรือ?แต่ตอนนี้ เซียวทงกำลังตั้งใจทำอย่างหนัก นางรีบเร่งทำประตูทุกครั้งที่มีโอกาสโจมตีเจียงอวี้กับสวีเยวี่ยเป็นกองหน้า เมื่อทั้งสองคนมีโอกาสได้เล่นก็ล้วนเล่นกันอย่างเต็มกำลังปีนี้เจียงอวี้อายุสิบหกปี นางรูปร่างสูงเพรียว หน้าตาก็โดดเด่น พอวิ่งไปมาก ๆ แล้วหน้าก็เริ่มแดงระเรื่อ ท่าทีเปี่ยมล้นไปด้วยพลังที่ดีต่อสุขภาพของนางต่างสร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่ได้เห็นจักรพรรดิอู่อันจ้องมองตรงไปที่นาง ดวงตาของเขากวาดไปทั่วขาเรียวยาวและหน้าอกของนางเป็นครั้งคราวหลายปีที่ผ่านมา ในวังเต็มไปด้วยความงามที่แตกต่างกัน

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1902

    ต่งเฉิงมองหลิงอวี๋พลางพยักหน้ารัว ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบเคราของตัวเองว่า “สาวน้อยนางนี้รู้จักเครื่องยาสมุนไพรมากมายเช่นนี้นับว่าหายาก!”เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้มิใช่สมุนไพรธรรมดาทั้งหมด นอกจากเครื่องยาสมุนไพรที่ใช้ในการกลั่นโอสถระดับต้นแล้ว ยังมีระดับกลางและระดับสูงจำนวนเล็กน้อยอีกด้วยโดยทั่วไป ผู้เข้าสอบที่ตอบได้เจ็ดสิบถึงแปดสิบชนิดก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ทว่าหลิงอวี๋สามารถตอบได้มากกว่าหนึ่งร้อยชนิด ถือว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงเลยทีเดียวเพิ่งเข้ามาก็ทำคะแนนได้ดีถึงเพียงนี้ หากนางได้เรียนอย่างเป็นระบบก็คงแซงหน้าบัณฑิตคนอื่นได้ในมิช้า“ตึง ตึง ตึง!”เมื่อเสียงกลองดังขึ้นสามครั้ง การสอบแข่งขันของกลุ่มนี้ก็สิ้นสุดลง“หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดคะแนน!”กลองหยุดลงแล้ว และบนใบหน้าของศิษย์พี่หญิงก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก นางหยิบป้ายส่งให้หลิงอวี๋พร้อมรอยยิ้ม“การสอบแข่งขันรอบต่อไปจะจัดขึ้นในช่วงบ่าย! ความสามารถในการจำแนกเครื่องยาสมุนไพรของเจ้าดีที่สุดในรอบนี้ ทำให้ดีล่ะ!”“ขอบคุณศิษย์พี่หญิง!”หลิงอวี๋รับป้ายมาด้วยความตื่นเต้น พลางหันไปดูผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ ที่กำลังมองนางด้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1901

    เป็นไปตามคาด หลิงอวี๋เห็นใบหน้าที่งดงามทว่าโหดร้ายนั้น และนั่นก็คือศัตรูที่นางมิอาจลืมเลือน...จ้าวหรุ่ยหรุ่ย!ชั่วขณะนั้นดวงตาของหลิงอวี๋เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พลางนึกอยากจะรุดเข้าไปฉีกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นชิ้น ๆ เพียงหลับตา นางก็มิอาจควบคุมตนมิให้นึกถึงฉากที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเตะต่อยตนความเจ็บปวดและเลือดสด ๆ อีกทั้งความทุกข์ทรมานจากการสูญเสียลูกไปทำให้หลิงอวี๋มิอาจลืมความเกลียดชังที่ตนมีต่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้เลย!คาดมิถึงว่าศัตรูจะปรากฏตัวต่อหน้าตนเช่นนี้!หลิงอวี๋ตื่นตัวมากจนร่างกายสั่นเทา แต่นางก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้นางมิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย การวู่วามลงมือมีแต่จะเป็นการรนหาที่ตายเท่านั้นหลิงอวี๋สูดหายใจเข้าลึกพลางมองเด็กสาวที่ประกาศสงครามกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเด็กสาวคนนี้ดูอายุราว ๆ สิบหกสิบเจ็ดปี มีรูปร่างสูง ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว และดวงตาแวววาวสดใสผมสีดำสนิทของนางถูกแสกกลางและถักเป็นเปียยาวสองข้างพันไว้รอบมวยผม ข้าง ๆ มวยผมนั้นมีปิ่นมุกปักประดับอยู่สองอันเด็กสาวสวมชุดกระโปรงสีม่วงควันธูป และเมื่อดูจากเนื้อผ้าแล้ว นางน่าจะเป็นค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1900

    ข่าวที่สือหรงนำมาให้เซียวหลินเทียนมิใช่ข่าวดี จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยังคงอยู่ในตำหนักเทียนจีและมิได้มาลงทะเบียนด้วยตนเองหากอยากพบกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ก็ทำได้แค่ต้องรอจนถึงวันคัดเลือกรอบแรกเท่านั้นแต่เซียวหลินเทียนก็มิย่อท้อ ถึงอย่างไรขอเพียงจ้าวหรุ่ยหรุ่ยปรากฏตัว เขาก็จะไม่มีทางปล่อยนางหนีไปอีกแน่ ให้นางเป็นอิสระอีกสักสองสามวันก็คงมิเป็นไร!ในช่วงวันเวลาที่เหลือ หลายคนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเช่นเดียวกับหลิงอวี๋ พวกเขาอ่านตำราอย่างหนักและเพิ่มพูนความรู้ที่ขาดไป เพื่อที่จะผ่านการคัดเลือกและได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงทว่าหลิงอวี๋มิรู้เลยว่าศัตรูของตนมาถึงเมืองหลวงแดนเทพแล้ว หลังจากเอาแต่ปิดห้องอ่านตำราเป็นเวลาหลายวันนางก็มาที่สำนักศึกษาชิงหลงที่อยู่นอกเมืองในวันแห่งการคัดเลือก โดยมีผู้รอบรู้เรื่องร่วมเดินทางด้วยหน้าทางเข้าสำนักศึกษาชิงหลงเต็มไปด้วยผู้คนทั้งบุรุษและสตรี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวมกันนับพันคนผู้รอบรู้เห็นเช่นนั้นก็ทึ่งจนพูดมิออก และอ้ำอึ้งพูดออกไปว่า “รู้เช่นนี้ข้าน่าจะมาลงทะเบียนเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงกับเจ้าด้วย เฮ้อ ตอนนี้มันสายไปเสียแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้ม นางรู้ว่าผู้รอบร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1899

    “เถาจื่อ หานอวี้ วันพรุ่งพวกเจ้าไปลงทะเบียนเสีย!”เซียวหลินเทียนทำการตัดสินใจและกำชับว่า “ลงทะเบียนในชื่อของน้องสาวข้า!”“เผยอวี้ ฉินซาน พวกเจ้าสองคนก็ไปลงทะเบียนสาขาที่ตนเองชื่นชอบด้วย พวกเจ้าทั้งคู่บอกแค่ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้าก็พอ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาทุกคนก็หัวเราะอย่างมีความสุข พลางพยักหน้าและจัดลำดับอาวุโสกันให้เซียวหลินเทียนเป็นพี่ใหญ่ของทุกคน เถาจื่อเป็นพี่หญิงใหญ่ หานเหมยเป็นพี่น้องคนที่สาม และหานอวี้เป็นคนที่สี่เซียวหลินเทียนได้บอกจุดประสงค์ของภารกิจให้พวกเขาทราบแล้ว เถาจื่อกับหานอวี้ต้องให้ความสำคัญกับฝั่งของสตรีวันรุ่งขึ้น เถาจื่อและหานอวี้ไปลงทะเบียน และทั้งคู่ก็เลือกวิชาปรุงโอสถเนื่องจากก่อนหน้านี้พวกนางเคยตามหลิงอวี๋ไปจำแนกเครื่องยาสมุนไพรหลายชนิด ในความคิดของพวกนาง การกลั่นโอสถเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการผ่านการประเมินมีชั้นเรียนที่สอนการกลั่นโอสถเพียงสองแห่งเท่านั้น ดังนั้นเถาจื่อและหานอวี้จึงต้องลงทะเบียนเรียนคนละชั้นเรียนและเถาจื่อก็ได้ลงทะเบียนเรียนชั้นเรียนของหอโอสถซ่างกู่เซียวหลินเทียน เผยอวี้และคนอื่น ๆ ก็ไปลงทะเบียนด้วยเซียวหลินเทียนลงทะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1897

    หลิงอวี๋เห็นด้วยกับผู้รอบรู้ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นสงสัยว่านางกับผู้รอบรู้มิใช่พี่น้องกันแท้ ๆ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเป็นแซ่เดียวผู้รอบรู้และใช้นามว่า สิงอวี๋วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ไปที่ห้องโถงหลักของหอโอสถซ่างกู่เพื่อลงทะเบียน ที่ทางเข้าหอโอสถซ่างกู่นั้นมีทั้งบุรุษและสตรีต่อแถวยาวเป็นหางว่าวหลิงอวี๋รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเมื่อเห็นแถวยาวถึงเพียงนี้ ต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไรกว่าตนจะได้ลงทะเบียนเล่านี่!แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่ออนาคตของตนในวันข้างหน้า นางก็ทำได้เพียงต่อแถวต่อไปอย่างว่าง่ายเท่านั้นคุณหนูและนายน้อยบางส่วนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ส่งสาวใช้และคนรับใช้ไปต่อแถวให้เด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูที่อยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา“แม้แต่มาต่อแถวก็ยังไม่มีความจริงใจ แต่กลับอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์เย่น่ะหรือ คนเช่นนี้สมควรถูกปัดตกไปเสีย!”สาวใช้ด้านหน้าหลิงอวี๋ที่มาต่อแถวแทนเจ้านายได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่มีใครตั้งกฎว่าห้ามสาวใช้มาต่อแถวให้นี่! ตระกูลเหลยของท่านขัดสนมากจนไม่มีเงินจ้างสาวใช้หรืออย่างไร?”เหลยเหวินโกรธจัดและตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1896

    หลิงอวี๋มิได้ถือโทษผู้รอบรู้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่มิต้องกังวลไป กินข้าวกันก่อนเถิด ท่านซื้อตำรับกลั่นโอสถมิได้ก็ช่างมัน ข้ามีที่เรียนแล้ว!”ในขณะที่กำลังกินข้าวหลิงอวี๋ก็เล่าให้ผู้รอบรู้ฟังว่าสำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตวิชาปรุงโอสถ“วันพรุ่งข้าจะไปลงทะเบียน หากข้าได้ที่หนึ่ง ข้าก็จะได้เรียนวิชาปรุงโอสถโดยมิต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”แต่แม้จะมิได้ที่หนึ่งหลิงอวี๋ก็คิดว่าตนสามารถหาเงินห้าหมื่นอีแปะจากการขายตำรับยาเพียงมิกี่เล่ม นางจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ“พี่ใหญ่ ตอนที่ลงทะเบียนมีปรมาจารย์ให้เลือกเรียนด้วยสองคน ข้ามิรู้ว่าควรจะเลือกปรมาจารย์คนไหน วันพรุ่งท่านช่วยไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยของแต่ละคนให้ข้าหน่อยนะ!”เมื่อผู้รอบรู้ได้ยินว่า นักปรุงโอสถแห่งหอโอสถไป๋เป่าและซ่างกู่จะรับหน้าที่เป็นครู เขาก็พูดโดยมิลังเลว่า “มิจำเป็นต้องไปสอบถามหรอก เลือกครูของหอโอสถซ่างกู่สิ!”“เพราะเหตุใดหรือ?” หลิงอวี๋ถามด้วยความอยากรู้ผู้รอบรู้ยิ้มหยัน “คนของหอโอสถไป๋เป่าเหล่านั้นเป็นพวกยโสชอบดูถูกคนอื่น! เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังหอโอสถของพวกเขาคือฮูหยินของเจ้าแห่งทะเลของตระกูลหลงอย่างไรเล่า!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1895

    เมื่อเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคัก หลิงอวี๋ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นนางเห็นประกาศว่า สำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตในหลายสาย เช่น สายนักปรุงโอสถ สายนักสร้างอาวุธ สายนักทำนายดวงดาว สายนักอัญเชิญ และสายจอมยุทธ์ ขณะที่หลิงอวี๋กำลังอ่านประกาศ นางก็ได้ยินผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกันจากบทสนทนาของพวกเขา ทำให้หลิงอวี๋ได้รู้ว่า สำนักศึกษาชิงหลงนั้นอยู่ในการดำเนินงานของราชสำนักซึ่งให้การศึกษาด้านการฝึกฝนในระดับสูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นครูคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ หากมีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์เหล่านี้ พวกเขาก็สามารถรับเป็นศิษย์และเข้าร่วมกับกองทัพของราชสำนัก หรือสำนักใหญ่ ๆ ได้แดนเทพเปิดกว้างมากเรื่องความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี สตรีนั้นสามารถเข้ามาร่ำเรียนในสำนักศึกษาและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบัณฑิตชายหลิงอวี๋รู้สึกถูกใจในสิ่งที่ได้เห็น การที่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาเช่นนี้ จะทำให้ตนเข้าใจการปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น ดีกว่าลองผิดลองถูกมิใช่หรือ?นางตั้งใจอ่านอีกครั้ง ข้อกำหนดในการลงทะเบียนมิได้เข้มงวดเกินไป และใช้เงินเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้นในการลงทะเบี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status