พวกของพระชายาเส้าและจักรพรรดิอู่อันต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง ครึ่งแรกของการแข่งขันระหว่างเยวี่ยใต้กับฉีตะวันออกก็จบลงแล้ว ผลคะแนนห้าต่อสองโดยที่ฉีตะวันออกเป็นผู้นำคะแนนหลังจากพักไปสิบห้านาทีการแข่งขันก็ดำเนินต่อไปในช่วงครึ่งหลัง ในที่สุดเซียวทงก็กลับมาพร้อมกับเหล่าสตรี นางก็ยังคงมิรู้สึกกังวลเลยแม้แต่น้อยแล้วลากตู้ตงหงกับเผยเหลียนออกไปกระซิบพึมพำกันอยู่ข้าง ๆหลิงอวี๋เห็นแล้วก็พูดมิออก นางสังเกตเห็นแล้วว่ากลุ่มของเซี่ยโฮ่วตานรั่วนั้นแข็งแกร่งมากจริง ๆ สตรีในสนามมีความอดทนดี ทั้งยังทำงานร่วมกันได้ดีด้วยทว่าหากต้องการจะเอาชนะกลุ่มของเซี่ยโฮ่วตานรั่วนั้น มันยากเกินไป!ส่วนกลุ่มของมู่หรงชิ่งอ่อนแอกว่าของเซี่ยโฮ่วตานรั่วเล็กน้อยมู่หรงชิ่งเป็นคนนิสัยดี แต่ระดับการจัดการของนางนั้นด้อยกว่ามาก แม้ว่ากลุ่มของนางจะมิได้อ่อนแอ แต่ความสามารถของกลุ่มในการร่วมมือกันนั้นด้อยกว่ากลุ่มของเซี่ยโฮ่วตานรั่วมาก!หลิงอวี๋ยังสังเกตเห็นอีกว่า ระหว่างพักมู่หรงชิ่งถูกมู่หรงเหยียนซงเรียกไปคุยอยู่สักพักนี่เป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋ได้เห็นมู่หรงเหยียนซง แม้ว่าจะอยู่ห่างไกล มิได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกัน
การเดิมพันมีการตกลงแล้วทั้งสองฝ่ายก็พร้อมที่จะแข่งขันกันแล้วผู้รักษาประตูที่เซียวทงเลือกคือหลี่อวี้เจิน นับว่าเป็นผู้รักษาประตูที่พึ่งพาได้ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ให้ลู่หนานไปหาข้อมูลคุณหนูเหล่านี้แล้ว จึงพอจะเข้าใจสถานการณ์โดยรวมของทุกคนหลี่อวี้เจินผู้นี้มาจากครอบครัวนายทหาร ฝึกฝนวรยุทธกับพ่อและพี่ชายของนางมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นความคล่องตัวและความอดทนของนางจึงไม่มีปัญหาหลิงอวี๋ หลิงหว่าน เผยเหลียนและตู้ตงหงนั้น เซียวทงจัดให้เล่นกองกลางฉินรั่วซือ ฟางเหยาเหยา เถาลี่และเจียงอวี้ สี่คนนี้เล่นเป็นกองหลังส่วนกองหน้าคือเซียวทงกับเจิงจื่ออวี้รับผิดชอบเมื่อได้ยินสิ่งนี้หลิงอวี๋ก็เอ่ยโดยมิรู้ตัว “องค์หญิงหก ให้เจียงอวี้ไปเล่นไปกองหน้ากับท่านเถิด! เจียงอวี้มีความอดทนที่ดี ดังนั้นนางจึงเหมาะสมกว่าที่จะเป็นกองหน้า!”เซียวทงเลิกคิ้วแล้วยิ้มเยาะพลางเอ่ย “หลิงอวี๋ ข้าเป็นหัวหน้าหรือเจ้าเป็นหัวหน้า? ข้าย่อมมีเหตุผลของตัวเองที่จัดการเช่นนี้! เจ้าเพียงแค่เชื่อฟังคำสั่งก็พอแล้ว!”“แม้ว่านี่จะเป็นการแข่งขัน แต่ก็คล้ายกับการต่อสู้ หากเจ้ามิฟังผู้นำ ก็จะถูกลงโทษ!”หลิงอวี๋โกรธขึ้นมาครู่หนึ่ง เห
การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไปคราวนี้เซียวทงส่งลูกกลมอีกครั้ง หลิงอวี๋มองขณะที่นางส่งลูกกลมให้หลิงหว่านอีกครั้ง คราวนี้หลิงหว่านรีบวิ่งไปข้างหน้า แล้วตะลึงใช้หัวโหม่งลูกกลมไปที่ฟางเหยาเหยาฟางเหยาเหยาดูเหมือนจะตอบสนองช้าไปครึ่งจังหวะ คนของมู่หรงชิ่งจึงแย่งลูกกลมไปได้อีกครั้งแล้วหลิงอวี๋รีบเข้าไปแย่งลูกกลมแล้วเตะไปที่เจียงอวี้ เจียงอวี้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว รีบวิ่งไปรับลูกกลมแล้วยิงไกล...หนึ่งต่อหนึ่ง!หลิงอวี๋ถอนหายใจโล่งอก ตราบใดที่มิแพ้เยวี่ยใต้ ขยะนี้ก็จะมิตกใส่หัวของฉินตะวันตก...นางเหลือบมองมู่หรงชิ่งอย่างขอโทษ นี่คือการแข่งขันระหว่างแคว้น เช่นนั้นการแข่งขันจึงต้องมาก่อน และมิตรภาพมาเป็นอันดับสองเท่านั้นมู่หรงชิ่งมองออกมาก ๆ เมื่อนางเห็นหลิงอวี๋มองมาที่ตน นางก็ยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นให้สูง ๆ “พี่หญิงหลิงอวี๋ มิคาดคิดเลยว่าเจ้าจะเตะลูกกลมเก่งถึงเพียงนี้!”“สู้ ๆ!”“สู้ ๆ!”หลิงอวี๋ก็ทำท่าสู้ ๆ ให้นางกลับเช่นกันในการแข่งขันถัดไป เซียวทงจ้องหลิงหว่านส่งลูกกลม ครั้งหนึ่งเตะลูกกลมไปที่หัวของหลิงหว่าน อีกครั้งก็เตะไปที่หลังของหลิงหว่านหลังจากผ่านไปหลายครั้งแล้ว สีหน้าของหลิงอวี๋
เซียวทงเห็นสภาพเปื้อนเลือดของหลิงหว่าน ก็ยิ้มอย่างเย็นชา แต่กลับแสร้งทำสีหน้าน่าเกรงขาม“อุบัติเหตุในระหว่างการแข่งขันก็เป็นเรื่องปกติ จะโทษพวกเจ้ามิได้หรอก!”“หลิงหว่าน เจ้าเองก็มิใช่คนใจแคบถึงเพียงนั้นใช่หรือไม่? ใคร ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บกันได้ เจ้าแค่โชคร้าย จะตำหนิเจิงจื่ออวี้กับตู้ตงหงมิได้หรอก!”“...”หลิงหว่านอ้าปากแต่ก็พูดมิออก นางบอกได้หรือว่าเจิงจื่ออวี้กับตู้ตงหงตั้งใจ?นอกจากนี้ เมื่อครู่หากมิใช่เพราะองค์หญิงหกเหยียบตน หากมิได้เหยียบลงมาเช่นนั้น นางคงไม่มีทางได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้!“หลิงหว่าน ทุกคนมาเข้าร่วมการแข่งขัน! หากเจ้ากลัวเจ็บเมื่อครู่เจ้าก็แค่หยุดเล่น แล้วตอนนี้เจ้ามาทำเป็นน่าสงสารเช่นนี้ให้ใครดูเล่า?”เผยเหลียนเอ่ยอย่างมิพอใจ “พวกนางขอโทษเจ้าแล้ว เจ้าจะมิแสดงออกอะไรเลยหรือ?”หลิงอวี๋ให้หลิงซวนนำกล่องยาของตนมาแล้ว เมื่อได้ยินว่าเผยเหลียนยังคงพูดกับหลิงหว่านเช่นนี้จึงขมวดคิ้ว“เผยเหลียน เจ้ามิเห็นหรือว่าใบหน้าของหลิงหว่านได้รับบาดเจ็บ? เจ้าอยากให้นางแสดงออกอะไร?”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะพลางเอ่ย “ที่พวกเจ้ารีบร้อนขอโทษมิใช่เพราะอยากจะล้างมลทินให้ตนเองรึ? หากพวกเจ้า
หลี่อวี้เจินยังคงนอนอยู่บนพื้น หลิงอวี๋กำลังจะก้าวไปช่วยพยุงนางผลก็คือ เซียวทงพุ่งเข้าไป เมื่อเห็นหลี่อวี้เจินลุกขึ้นจากพื้น นางก็มิพูดพร่ำทำเพลงยกมือขึ้นตบหน้าหลี่อวี้เจินทันที“เจ้ารักษาประตูเยี่ยงไรกัน? ข้าเชื่อใจเจ้ามาก เช่นนั้นเจ้าจึงรักษาประตูเช่นนี้หรือ?”“เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่เจ้าสามารถป้องกันประตูนั้นได้! แต่ดูสิ ประตูของเยวี่ยใต้ทำลูกไปได้! เจ้าทำให้พวกเราแพ้!”หลี่อวี้เจินตกตะลึง นางกุมหน้ามองเซียวทงอยากมิอยากจะเชื่อเซียวทงยังคงดุด่าด้วยความโกรธต่อ “มองหาปะไร? เจ้ายังมิยอมรับอีก! ข้ามิน่าให้เจ้ารักษาประตู เจ้ามันขยะ!”“พอแล้ว!”หลิงอวี๋โกรธทันที นางเห็นคราบเลือดบนแขนเสื้อของหลี่อวี้เจิน หลี่อวี้เจินได้รับบาดเจ็บที่ข้อศอกทั้งสองข้างขณะพยายามจับลูกกลมนั้นไว้แต่เซียวทงในฐานะหัวหน้า มิเห็นการทำงานหนักและความพยายามของหลี่อวี้เจินเลยครั้นเดินเข้ามาได้ก็ตบหลี่อวี้เจินโดยมิแยกแยะถูกผิด!นี่มันเกิดอะไรขึ้น?ถึงอย่างไรพ่อกับพี่น้องของหลี่อวี้เจินยังคงทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการทหารในราชสำนัก เซียวทงตบหน้าหลี่อวี้เจินเช่นนี้ จะมิเป็นการตบหน้าพวกเขาด้วยหรือ?เมื่อพี่ชายสอง
เมื่อเห็นว่าผู้คนตีตัวออกห่างจากเซียวทงไป ไทเฮาก็จ้องมองนางอย่างดุร้าย“การแข่งขันเตะลูกกลมนั้นเป็นการแข่งขันแบบกลุ่ม การแพ้ชนะก็เป็นเรื่องของทั้งกลุ่ม! พี่สะใภ้สี่ของเจ้าพูดถูก เจ้าจะตีใครเพียงเพราะพ่ายแพ้ได้เยี่ยงไร!”“เซียวทง การแพ้ชนะในการแข่งขันเป็นเรื่องปกตินัก หากแพ้ก็ต้องค้นหาเหตุผลของตน มิใช่ไปโทษผู้อื่น!”“เจ้าขอโทษคุณหนูหลี่เสีย! อย่าให้ใครมาเห็นแล้วหัวเราะ! เที่ยวไปบอกว่าเราแพ้มิเป็นเลย!”เมื่อเห็นว่าไทเฮาโกรธ เซียวทงจึงทำได้เพียงเอ่ยกับหลี่อวี้เจินอย่างฝืนใจ “หลี่อวี้เจิน ข้าขอโทษ ข้าหุนหันพลันแล่นไปเอง! ข้าจะชดใช้ให้เจ้า!”พี่น้องตระกูลหลี่ที่เข้ามาเห็นว่าไทเฮาบังคับให้องค์หญิงหกขอโทษแล้วจึงมิพูดอะไรอีก แล้วทั้งสองคนก็ช่วยพยุงหลี่อวี้เจินไปแม้ว่าภายนอกพวกเขาจะทั้งคู่จะมิได้แสดงออกถึงความมิพอใจ แต่ในใจพวกเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจต่อองค์หญิงผู้วางอำนาจผู้นี้!“อาอวี๋ เจ้าเป็นหัวหน้าเถิด!”ไทเฮาเองก็เล่นเตะลูกกลมเป็นเช่นกัน นางมองเห็นความต่างในความแข็งแกร่งของทั้งสามฝ่ายแล้ว นางมิได้มีข้อเรียกร้องสูงส่งอะไรต่อสตรีฉินตะวันตก ขอเพียงมิอยู่จุดต่ำสุดก็พอแล้ว!“เสด็จย่า
เซียวทงมีหรือจะสนใจรางวัลเหล่านี้ นางเหลือบมองจ้าวเจินเจินแล้วยิ้มพลางเอ่ย“ท่านพี่สะใภ้สอง พระชายาเส้าและไทเฮาต่างหวังให้เราชนะมาก จนมอบรางวัลมากมายถึงเพียงนี้! เช่นนั้นเราจะอยากได้แค่รางวัลมิได้!”“หลิงอวี๋ เจ้ามิคิดเยี่ยงนั้นหรือ? มีรางวัลก็ควรมีบทลงโทษ หากเจ้าอยากเป็นหัวหน้า ก็ต้องแบกรับความรับผิดชอบนี้ด้วย!”ตู้ตงหงก็เอ่ยด้วยท่าทีร้าย ๆ เช่นกัน “เมื่ออยู่สนามรบก็ต้องใช้คำสั่งทหาร พระชายาอ๋องอี้ หากท่านอยากเป็นหัวหน้า เช่นนั้นหากท่านพาพวกเราพ่ายแพ้ ก็ต้องถูกลงโทษ!”หลิงอวี๋หัวเราะ หากแพ้ตนจะถูกลงโทษหรือ? คนเหล่านี้มาเพื่อเล่นตลกหรือ?เซียวทงมิรอให้ไทเฮาเอ่ยปาก นางก็เอ่ยขึ้นมาอย่างบังคับ “หลิงอวี๋ เราก็มิได้ให้เจ้าออกเงินเสียหน่อย หากแพ้เจ้าก็ล้างจานกับทำความสะอาดสถานที่แทนทั้งกลุ่มก็ได้! คำขอนี้มิมากเกินไปหรอกกระมัง!”“ถูกต้อง หากชนะ รางวัลของหัวหน้าก็จะมีอย่างมากมาย ทว่าหากแพ้หัวหน้าก็ควรได้รับการลงโทษมากกว่าคนอื่น ๆ สิ! ข้าเห็นด้วยกับข้อเสนอขององค์หญิงหก!”เจิงจื่ออวี้ เฟิงเหยาเหยาและคนอื่น ๆ ต่างเห็นพ้องด้วยไทเฮาเห็นว่าองครักษ์เดินไปที่กลองแล้ว การแข่งขันกำลังจะเริ่มต้น
คำพูดของหลิงอวี๋ทำให้สตรีหลายคนในกลุ่มมีความกระตือรือร้นและมีขวัญกำลังใจขึ้นมากอันซินกับพวกพี่น้องสาวต่างมัดผมยาว ๆ กันเรียบร้อย และจัดเสื้อผ้าจากนั้นก็ลงไปในสนามลู่หนานมารายงานเซียวหลินเทียนเรื่องที่หลิงอวี๋เป็นหัวหน้ากลุ่มและได้มีการเดิมพันกับเซียวทงไว้เซียวหลินเทียนอดมิได้ที่จะรู้สึกกังวลเรื่องหลิงอวี๋ เขาดูการแข่งขันมาตลอดครึ่งแรก ความแข็งแกร่งของกลุ่มฉินตะวันตกสู้เยวี่ยใต้มิได้จริง ๆหลิงอวี๋จะนำกลุ่มเอาชนะเยวี่ยใต้ได้เยี่ยงไรกัน!อันเจ๋อเห็นว่าอันซินน้องสาวของตนก็ลงเล่นด้วย จึงทำท่าทางให้กำลังใจอันซินอยู่ไกล ๆเขายิ้มเยาะแล้วเอ่ยกับเผยอวี้และเซียวหลินเทียน “หากองค์หญิงหกกล้าปฏิบัติต่อหลิงอวี๋กับน้องสาวของข้าเหมือนที่นางทำกับหลิงหว่านและหลี่อวี้เจิน ต่อให้ข้าจะต้องรับโทษจากองค์จักรพรรดิ วันนี้ข้าก็จะมิปล่อยนางไปง่าย ๆ แน่!”เผยอวี้ยังคงโกรธเรื่องที่เจิงจื่ออวี้กับองค์หญิงหกทำให้หลิงหว่านได้รับบาดเจ็บอยู่ เมื่อได้ยินสิ่งนี้จึงเหลือบมององค์หญิงหกนี่มันองค์หญิงแบบใดกัน ก็แค่เกิดมาในราชวงศ์มิใช่หรือ?กล้าที่จะมุ่งเป้าไปที่คู่หมั้นของตนเช่นนี้ หากมิให้บทเรียนกับนางเสียงบ้า
คนที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยสั่งการล้วนปะปนอยู่ในฝูงชน เมื่อเห็นคนนั้นกระโดดออกมาฟ้องร้องหลี่ต้าหนิว ก็มีคนตามกันออกมา“ใต้เท้าเถี่ยทำเพื่อฮองเฮา จึงจงใจปกปิดหลี่ต้าหนิว!”“สังหารหลี่ต้าหนิว ลงโทษฮองเฮาสถานหนัก ถอดถอนฮองเฮา!”“ถอดถอนฮองเฮา!”เสียงคัดค้านเหล่านั้นแหลมสูงขึ้นเรื่อย ๆ“เงียบ!”แม่ทัพสือตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง พลางตะคอกเสียงแข็ง “ใต้เท้าเถี่ยกำลังไต่สวน ห้ามพวกเจ้าเอะอะเสียงดัง มิเช่นนั้นจะถูกลงโทษที่ส่งเสียงดัง!”“เกรียงไกร...”ทหารกองทัพหลงที่อยู่รอบ ๆ ตะโกนขึ้นมาโดยพร้อมเพรียงกันบรรยากาศที่ทรงอำนาจและหอกที่ส่องประกายในมือพวกเขาปรามให้คนที่โวยวายจำนวนมากมิกล้าพูดคนหนึ่งคิดว่าแม่ทัพสือมิกล้าสังหารตนต่อหน้าคนจำนวนมากเช่นนี้ จึงตะโกนขึ้นมา“ใต้เท้าเถี่ยตัดสินคดีมิยุติธรรม ยังมิให้เราเอ่ยทวงความยุติธรรมอีกหรือ? พวกเราเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวใต้เท้าเถี่ยแล้วไต่สวนคดีนี้ใหม่อีกครั้ง!เซียวหลินเทียนสีหน้าเรียบนิ่งลง นี่มิได้กำลังท้าทายใต้เท้าเถี่ย แต่กำลังท้าทายอำนาจของตน!เขามองแม่ทัพสือ แม่ทัพสือจึงโบกมือทันที จากนั้นทหารกองทัพหลวงหลายคนก็พุ่งไปข้างหน้าแล้วกดคนผู้นั้นลงกับพื้
“มิต้องกลัว แม้ว่าทุกคนในใต้หล้าจะร้ายกับเจ้า เจ้าก็ยังมีข้าอยู่!”หลิงอวี๋เดินไปอย่างมั่นคง เซียวหลินเทียนนั้นจับมือของนางไว้แน่นแม้ว่าจะมิได้พูด แต่คำที่เซียวหลินเทียนสัญญาก็ดังก้องอยู่ข้างหูของหลิงอวี๋นางมองหนทางไกลที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน คนที่มาในวันนี้มากกว่าในวันพิธีแต่งตั้งฮองเฮาหลายเท่ามิได้มีเพียงแต่ขุนนาง ยังมีทูตจากแคว้นเล็กที่มาประชุม และมีเหล่าราษฎรที่นางเคยคิดทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อประโยชน์และความสุขของพวกเขาด้วย...มีศัตรู และมีสหาย!หลิงอวี๋เห็นท่านอดีตเสนาบดี เจียงอวี้ และพระชายาผิงหนานอยู่ท่ามกลางฝูงชนนั้น...แล้วก็เห็นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยที่มีผ้าปิดหน้าและองค์ชายคัง!หลิงอวี๋ยิ้มแล้วตามเซียวหลินเทียนเดินไปที่แท่นสูงดูเหมือนว่านี่มิใช่การมาเข้าร่วมการพิพากษาคดีของตน แต่แค่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงท้องถนนซึ่งหาได้ยากที่จะแสดงความรุ่งเรืองของฉินตะวันตกเซียวหลินเทียนยืนอยู่หน้าเก้าอี้มังกรสูงใหญ่ที่จัดมาเป็นพิเศษ สายตากวาดมองไปรอบ ๆ จากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยอำนาจและสงบเยือก“เหล่าขุนนางและราษฎรฉินตะวันตก ทุกคนมาเข้าร่วมงานเลี้ยงท้องถนนนี้ก็ล้วนรู้กันดีว่างา
หลิงหว่านอยู่ในห้องได้ยินดังนั้นใจก็จมดิ่งลงทันทีด้านนอกมิรู้ว่ามีคนแบบใดเฝ้าพวกเขาอยู่ หลิงเสียงกังก็ถูกวางยาพิษอีก พวกเขาจะหนีไปได้อย่างปลอดภัยหรือ?“แล้วหลิงหว่านเล่า?” อีกคนหนึ่งเอ่ยถาม“เก็บนางไว้ก่อน รอผ่านวันพรุ่งไปแล้วค่อยว่ากัน!”วันพรุ่ง?วันพรุ่งจะเกิดอะไรขึ้น?หลิงหว่านมิเข้าใจเรื่องภายนอก แต่ฟังจากบทสนทนาของทั้งสองคนแล้วนางก็รู้ว่าวันพรุ่งจะต้องเป็นวันสำคัญแน่นอนนางกับหลิงเสียงกังจะต้องหนีไปให้ได้ก่อนวันพรุ่งจะมาถึง และไปเปิดโปงแผนร้ายของเฝิงฉินดีที่สองคนนั้นแค่คุยกันอยู่ด้านนอก มิได้เข้ามาตรวจสอบด้านในกระทั่งด้านนอกไม่มีเสียงใดแล้ว หลิงหว่านก็กระซิบอย่างร้อนใจ “ท่านพ่อ อีกนานหรือไม่?”หลิงหว่านมองมิเห็นหลิงเสียงกัง ริมฝีปากของเขาทั้งบนและล่างล้วนถูไปกับเชือกป่านจนเลือดเปื้อนเชือกป่านแดงฉานไปหมดเขาเองก็ได้ยินบทสนทนาของสองคนนั้นและกังวลมากเช่นกัน เขามีเวลามิมากแล้ว เขาต้องรีบช่วยแก้มัดให้หลิงหว่านแล้วให้นางหนีออกไปนางเป็นลูกสาวของตน แม้ว่าเขาจะจำมิได้ แต่คำเรียกพ่อนั้นก็เป็นแรงให้เขา!หลิงเสียงกังกับหลิงหว่านล้วนมิรู้ว่าเผยอวี้พาคนมาหาที่นี่จนพบแล้ว ที่มิ
เฝิงฉินตอบสนองต่อเสียงก่นด่าของหลิงหว่านด้วยรอยยิ้มดูถูก แล้วเดินเข้ามามองนาง“หลิงหว่าน เจ้ากับพ่อเจ้าอยู่ในกำมือข้า เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าแม่เจ้าทำเพื่อชีวิตของพวกเจ้า แม้ว่าข้าจะให้นางไปกินอุจจาระนางเองก็จะยอมทำตามแต่โดยดี!”ใจของหลิงหว่านจมดิ่งลง และเกิดลางสังหรณ์ที่มิดีขึ้นมาเฝิงฉินกล้าพูดทุกอย่างนี้กับตน หรือว่ามิได้คิดจะให้ตนมีชีวิตกลับไปอีกแล้ว?“พวกเจ้าต้องการทำสิ่งใดกันแน่?”หลิงหว่านตะโกนออกไปอย่างหวาดกลัวแต่เฝิงฉินกลับมิเสียเวลาพูดกับนางแล้วหมุนตัวเดินไปข้างกายหลิงเสียงกัง และพยายามโน้มน้าวหลิงเสียงกังแต่หลิงเสียงกังนิ่งเฉย เขาสามารถลำบากเพื่อเฝิงฉินได้ แต่เรื่องที่จะให้ตนใช้ข้อหาที่ไม่มีจริงไปใส่ร้ายหลิงอวี๋นั้นเขาไม่มีทางยอมทำเด็ดขาดสุดท้ายเฝิงฉินจึงเดินออกไปพร้อมกับโทสะ“ท่านพ่อ เราอยู่ที่นี่มิได้ เฝิงฉินไม่มีทางกล้าที่จะฟ้องร้องพี่หญิงหลิงหลิงเช่นนี้แน่ เบื้องหลังของนางจะต้องมีคนคอยหนุนหลังอยู่!”หลิงหว่านคิดในจุดนี้อย่างรวดเร็วแล้วเอ่ยอย่างร้อนใจ “จุดประสงค์ของคนที่ให้การสนับสนุนนางคือการทำลายพี่หญิงหลิงหลิง เมื่อนางบรรลุจุดประสงค์แล้วจะต้องสังหารพวกเราเป็นแ
หลิงหว่านกับหลิงเสียงกังถูกขังไว้ในไร่นาร้างแห่งหนึ่งหลิงหว่านถูกเฝิงฉินพาไปที่ชานเมืองเมื่อยามไปหาหลิงเสียงกัง เฝิงฉินบอกว่าหลิงเสียงกังเกิดอาการปวดหัวขึ้นมา หลิงหว่านเป็นห่วงอาการป่วยของบิดาตนจึงตามไปไหนเลยจะคิดว่าเมื่อเข้าประตูไปแล้วจะถูกเฝิงฉินเอาไม้ทุบสลบไปกระทั่งหลิงหว่านฟื้นขึ้นมาจึงได้พบว่าตนถูกมัดแขนขาอยู่บนเก้าอี้เก่า ๆ ตัวหนึ่งส่วนหลิงเสียงกังก็นอนอยู่ในดงหญ้าที่พื้น และถูกมัดแขนขาเช่นกัน“ท่านพ่อ!”หลิงหว่านมิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เฝิงฉินหาทางผูกมัดหลิงเสียงกังมาโดยตลอดมิใช่หรือ?มัดตนไว้ยังพอยอมรับได้ แต่เหตุไฉนต้องมัดหลิงเสียงกังด้วยเล่า!“แค่ก!”หลิงเสียงกังฟื้นจากการที่ถูกหลิงหว่านปลุกขึ้นมา แล้วก็รู้สึกถึงกลิ่นเลือดในปาก จากนั้นเขาก็ไออย่างรุนแรงแล้วกระอักเลือดออกมา“ท่านพ่อ!”หลิงหว่านกังวลเป็นอย่างมาก เห็นว่าหลิงเสียงกังที่ดูแข็งแรงดีเมื่อหลายวันก่อนกลับมีท่าทีอ่อนแอเช่นนี้ ต้องพยายามอยู่หลายครั้งจึงจะลุกขึ้นนั่งได้“เฝิงฉิน เหตุใดเจ้าจึงทำกับข้าเช่นนี้?!”หลิงเสียงกังมิได้สนใจหลิงหว่านแล้วตะโกนแผดเสียงออกมาที่มุมปากของเขามีเลือดไหล แต่เลือดเหล่านี้มิ
“ฝ่าบาท! เรื่องนี้จะทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ? แคว้นเล็กเหล่านั้นล้วนอยู่ที่เมืองหลวง ครานี้บัณฑิตโวยวายกันจนเป็นเช่นนี้ หากมิไกล่เกลี่ยพวกเขาให้ดี ผลที่ตามมาคงยากเกินจะรับไหวพ่ะย่ะค่ะ!”สองวันมานี้หลี่ว์เซียงติดเชื้อไข้หวัดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน เมื่อเห็นว่าเรื่องของหลิงอวี๋ใหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆ ก็อยู่บ้านมิได้แล้วจึงรีบมาราชสำนัก“พวกเจ้าอย่าได้ร้อนใจ ข้าเรียกพวกเจ้ามาก็เพราะจะหารือเรื่องนี้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างปลอบใจ “ข้ามิประหารผู้ใดง่าย ๆ หรอก ทว่าหากมีเจตนาชั่วร้าย คิดจะใช้เรื่องนี้มาบีบบังคับให้ข้าประนีประนอม เช่นนั้นคงเป็นไปมิได้!”“วันพรุ่งข้าจะจัดงานเลี้ยงท้องถนนและชี้แจงเรื่องนี้ เรื่องที่พวกเจ้าสองคนต้องทำในวันนี้ก็คือ ไกล่เกลี่ยให้บัณฑิตเหล่านั้นกลับไปโดยมิต้องเปลืองแรง!”เซียวหลินเทียนให้แม่ทัพเฉินไปตรวจสอบเรื่องอาคารศึกษาถล่ม หลี่ต้าหนิวเองก็ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกรมอาญาเป็นการชั่วคราวเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนต้องทำให้ชัดเจนก่อนวันพรุ่งเซียวหลินเทียนรู้ดี หากมิเตรียมให้พร้อม งานเลี้ยงท้องถนนในวันพรุ่งก็จะเป็นหายนะครั้งใหญ่ที่สุดที่ตนพบหลังจากครองบัลลังก์มา“การจัด
กับคนกันเอง หลิงอวี๋มิเคยแล้งน้ำใจได้ลงนี่คือสาเหตุหลักที่หลิงซวนกับพวกหานเหมยยินดีติดตามหลิงอวี๋ด้วยความรักโดยมิเสียใจ“ฮองเฮาเพคะ ครานี้องค์จักรพรรดิทรงทำเพื่อท่าน นับว่าทรงทุ่มเทแรงกายแรงใจเลยทีเดียว!”หลิงซวนอดมิได้ที่จะเอ่ย “ยามตกทุกข์ได้ยากจะพบความจริงใจ หม่อมฉันรู้สึกว่าฮองเฮาน่าจะให้โอกาสพระองค์ อย่าได้ปิดกั้นพระองค์อีกเลยเพคะ!”คำพูดของหลิงซวนเป็นคำกำกวม พวกนางผู้เป็นนางรับใช้ข้างกายของหลิงอวี๋ ล้วนรู้เรื่องราวภายในที่องค์จักรพรรดิมาพักที่พระตำหนักคุนหนิงในทุกครั้งเป็นอย่างดีว่านั่นเป็นการนอนหลับเฉย ๆ มิได้ทำสิ่งใดทั้งนั้นนี่หลิงซวนบอกใบ้ให้หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนได้ทำในสิ่งที่สามีภรรยาที่แท้จริงทำกัน อย่าได้ปิดกั้นเซียวหลินเทียนอีกเลย...หลิงอวี๋ย่อมเข้าใจในการบอกใบ้ของหลิงซวนอยู่แล้ว เหตุใดครานี้นางจึงมิเป็นฝ่ายไปตรวจสอบคดี หนึ่งก็คือรู้สึกผิดหวัง สองก็คือนางต้องการจะดูว่าเซียวหลินเทียนจะสามารถทำอะไรเพื่อตนได้บ้างเห็นได้ชัดว่าการกระทำของเซียวหลินเทียนในสองวันมานี้ผ่านมาก ๆนี่คือทัศนคติที่ควรมีในฐานะสามี!“ฮองเฮา ได้ยินมาว่าองค์จักรพรรดิจัดงานเลี้ยงท้องถนน สิ
จ้าวฮุยมองเซียวหลินเทียนจากไปด้วยสายตาที่ซับซ้อน จักรพรรดิองค์ใหม่ผู้นี้แตกต่างจากจักรพรรดิอู่อันโดยสิ้นเชิงภาพในวันนี้ทำให้เขาตระหนักได้ว่า หากทำให้เซียวหลินเทียนโกรธ เซียวหลินเทียนก็สามารถทำได้ทุกอย่าง!เหอะ ๆ!เซียวหลินเทียน เจ้าคิดว่าข่มขู่ขุนนางแล้วจะสามารถปกป้องหลิงอวี๋ไว้ได้เยี่ยงนั้นรึ?มันยังมิจบหรอก!เจ้ามิอาจห้ามปากของทุกคนได้!ขอเพียงเจ้ายังต้องการแผ่นดินฉินตะวันตกและยังต้องการนั่งบัลลังก์มังกรอย่างมั่นคงอยู่วันนี้เจ้าส่งผู้ตรวจการเจียงไปเข้าคุกอย่างไร วันข้างหน้าก็ต้องไปเชิญเขาออกมาอย่างเคารพข้าจะดูว่าเจ้าจะตบหน้าตัวเจ้าเองอย่างไร!สองวันมานี้แม้ว่าหลิงอวี๋จะมิได้สนใจเรื่องภายนอก แต่หลิงซวนก็ยังเล่าเรื่องที่เกิดภายนอกให้นางฟังอย่างภักดีโดยละเว้นเรื่องนางซุนไว้เมื่อได้ยินเรื่องชาวบ้านเหล่านั้นบอกว่าตนให้พวกเขาเลี้ยงวัวนมเพื่อให้ตนอาบน้ำ หลิงอวี๋ก็หัวเราะด้วยความโกรธเมื่อเทียบกับการทรยศของนางซุนผู้เป็นญาติของตน การใส่ร้ายแบบที่มิเห็นความหวังดีของผู้อื่นเช่นนี้ช่างเบาบางมากสำหรับหลิงอวี๋แต่แม้ว่าตัวหลิงอวี๋จะมิสนใจ แต่ก็ต้องคิดว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อตนและเ
เหล่าขุนนางที่ยังคงพูดอยู่ตกใจกลัวจนเงียบกริบและพากันคุกเข่าลงทันทีนี่เป็นครั้งแรกที่เซียวหลินเทียนโกรธราวกับฟ้าผ่าลงมาเช่นนี้นับตั้งแต่ครองบัลลังก์มา“พล่ามกันพอแล้วหรือไม่?”เซียวหลินเทียนตะคอกด้วยความโกรธ “อย่าเอาคำว่ากษัตริย์ผู้ทรงธรรมมาข่มขู่ข้าา! ตัวข้าเข้าสู่สนามรบตั้งแต่เจ็ดขวบ ข้าจะมิเคยเห็นภาพนองเลือดเชียวรึ? ข้าจะกลัวที่พวกเจ้าจะวิ่งชนเสาหรือ?”“วันนี้ข้าจะเอ่ย ณ ที่แห่งนี้ ข้ายอมเผด็จการหากจะต้องปกป้องหลิงอวี๋!”“อย่าว่าแต่ที่หลิงอวี๋มิได้มีความผิดใด ๆ แม้ว่านางคิดอยากจะนั่งในตำแหน่งนี้ของข้าจริง ๆ ข้าก็ยินดีจะหลีกทางให้… เพราะข้าเชื่อว่าหากหลิงอวี๋เป็นจักรพรรดินีก็ไม่มีทางด้อยไปกว่าข้า!”ขุนนางเหล่านั้นล้วนตกใจกับคำพูดนี้ของเซียวหลินเทียน!นี่… นี่… องค์จักรพรรดิถูกกระตุ้นจนจิตมีปัญหาหรือ?มิฉะนั้นจะพูดคำพูดที่ไร้สาระจนคาดมิถึงเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร!“ราษฎรทำผิดกฎหมายทางจวนขุนนางยังให้โอกาสพวกเขาได้อุทธรณ์! พวกเจ้าเป็นขุนนางในราชสำนักของข้า เป็นเจ้าหน้าที่ปกครองบ้านเมือง แต่พวกเจ้าฟังดูว่าพวกเจ้าพูดอะไรออกมา?”เซียวหลินเทียนตวาด “มิทำการสอบสวน มิรวบรวมหลักฐาน อา