Share

บทที่ 96

Author: กานเฟย
คำพูดนี้กระตุ้นความคะนึงที่จักรพรรดิอู่อันมีต่อพระสนมอวิ๋นเฟย นางมากความรู้ความสามารถรอบด้าน ทั้งอ่อนโยนมีคุณธรรม ไฉนเลยจะเหมือนหลิงอวี๋ดอกหยางน้ำหญิงใจง่ายเช่นนี้!

หากนางรู้ว่ามีลูกสะใภ้ไม่รู้จักอายเยี่ยงนี้ ภายในใจนางคงเศร้าสลดมากโข!

ชายาผิงหยางสบโอกาสกล่าวคำเช่นกัน “ท่านอดีตเสนาบดี ท่านไม่อาจปกป้องคนผิดได้เพียงเพราะหลิงอวี๋คือหลานสาวของท่านใช่หรือไม่? ท่านอ๋องอี้ยังเป็นพระโอรส(บุตรชาย)ของฝ่าบาทและเป็นพระราชนัดดา(หลานชาย)ของไทเฮา!”

“หลิงอวี๋ทำให้ท่านอ๋องอี้ต้องอัปยศอดสู! และนำความเสื่อมเสียสู่ราชวงศ์! หนังสือหย่าร้างฉบับเดียวจะสามารถทดแทนที่ผ่านมาได้เยี่ยงไร? ท่านคิดว่าราชวงศ์ไร้เกียรติศักดิ์ศรีหรือกระไร?”

เมื่อชายาผิงหยางกล่าวออกมา ขุนนางท่านอื่น ๆ และสตรีในราชวงศ์ต่างทยอยผงกศีรษะตาม ๆ กัน

“ถูกต้อง หากเป็นภรรยาจากครอบครัวสามัญชนทั่วไปคบชู้ล่วงประเวณี จะต้องถูกโทษจิ้นจูหลงจับถ่วงน้ำ ยิ่งไปกว่านั้นหลิงอวี๋คือพระสุณิสา(ลูกสะใภ้)ของราชวงศ์! การผิดประเวณียิ่งต้องทวีความร้ายแรง! ฝ่าบาทควรทรงประหารนางไปตั้งนานแล้วเสียด้วยซ้ำ!”

“ใช่ ฝ่าบาททรงไว้ชีวิตนางเนื่องเห็นแก่เกียรติของท่านอดีตเ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (3)
goodnovel comment avatar
กล้า ปิยังกูร
แล้วแต่ละตอนก็สั้นเกิน
goodnovel comment avatar
กล้า ปิยังกูร
ตายให้จบเรื่องคร้าบ ถ้าจะมีแต่คนเกลียดขนาดนั้น
goodnovel comment avatar
jing jai
เฮ้ยหมดคำจะพูด นางเอก จะซวยอะไรขนาดนั้นมีแต่คนเกลียดแม้แต่ฮ่องเต้ก็ยังเอ่ยปากแล้วพระเอกก็ไร้เยื่อใยเหลือเกิน งั้นก็ตายซะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 97

    ในเวลานี้ผู้ใดจะกล้าพูดส่งเดชกันเล่า?กลัวว่าถ้ากล่าวคำมิเหมาะก็จะพัวพันถึงครอบครัวตนด้วย!เซียวหลินเทียนหลับตาลง หลิงอวี๋เป็นสตรีไม่รู้จักสำรวมกิริยา ทั้งยังขวัญกล้าเทียมฟ้า หากตายก็เป็นเพราะนางหาเรื่องใส่ตัวเอง!นางยังกล้าเปรียบเด็กคนนี้กับจักรพรรดิ เสด็จพ่อจะยินยอมให้ลูกนอกสมรสผู้นี้มีชีวิตอยู่บนใต้หล้าอีกได้เยี่ยงไร?หลิงเยวี่ยมองตาโต จับจ้องไปทางองครักษ์มือดาบหลายนายทะยานเข้ามากุมตัวเขาและมารดาของตนแช่มช้าด้วยความสับสนมึนงงเขาหวาดกลัวจนสีหน้าขาวซีด หลิงอวี๋มองดูอย่างปวดใจ แต่เขากลับจับปกคอเสื้อของตนไว้แน่น ไม่ร่ำไห้สักแอะ และไม่ขออภัยโทษเช่นกันหลิงอวี๋กวาดสายตามองไปทั่วลาน คนที่นางมองล้วนหลบสายตากันหมดนางมองไปทางไทเฮาพบว่า ไทเฮาจ้องมองนางอย่างลึกซึ้งโดยไม่อาจหยั่งรู้ได้ ท่าทีราวกับปลีกตัวออกจากสถานการณ์โดยสิ้นเชิงในใจหลิงอวี๋รู้สึกสิ้นหวัง นางคิดว่า ตนยังมีบุญคุณช่วยชีวิตไทเฮา ทั้งยังไทเฮาก็ตั้งครรภ์แปดเดือนเช่นกัน หากไม่คำนึงถึงอารมณ์หรือเหตุผล ไทเฮาควรจะเชื่อตนสิ!ผู้ใดจะรู้เล่าว่า หลิงอวี๋หยิบยกส่วนนี้มาพูดแล้ว ไทเฮาก็ยังไม่สะทกสะท้าน!ไทเฮากำลังทดสอบตนอยู่หรือไม่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 98

    ดวงหน้าของท่านอดีตเสนาบดีเปี่ยมด้วยเส้นโลหิตและมีเส้นเลือดดำปูดโปนบนหน้าผากเขาคิดจะลุกขึ้นหลายครา แต่ล้วนถูกพ่อลูกหลิงเสียงเซิงกดเอาไว้สุดแรงเขามองสองแม่ลูกหลิงอวี๋ถูกลากไปไกลอย่างปวดใจ ชั่วชีวิตของท่านอดีตเสนาบดีเพียงหลั่งเลือดไม่หลั่งน้ำตา เป็นคราแรกที่หางตาเปียกชื้น…หรือว่าตนผู้เป็นคนผมขาวต้องส่งคนผมดำ(1)สู่แดนมรณะจริงหรือ?เขามองลูกนอกสมรสที่ฝูงชนกล่าวถึงคนนั้น…หลิงเยวี่ยพรั่นพรึงจนดวงหน้าขาวซีด แต่กลับจับหลิงอวี๋ไว้แน่น ไม่ร่ำไห้และไม่ขออภัยโทษเช่นกันองครักษ์กองทัพหลวงสองนายฉุดลากเขาไปข้างนอกอย่างหยาบคายหลิงเยวี่ยถูกดึงล้มลงธรณี องครักษ์ไม่ได้สนใจ ใจเหี้ยมเตะเขาไปหนึ่งที ทั้งยังฉุดเขาขึ้นลากไปข้างนอกอีกหนท่านอดีตเสนาบดีมองแววตาหวาดกลัวของหลิงเยวี่ยด้วยความปวดร้าว เขายังเด็กขนาดนี้ก็ต้องมาประสบพลอยฟ้าพลอยฝนงั้นหรือ?หลิงอวี๋ถูกอุดปากไว้ สิ้นหวังหมดหนทาง ตัวนางหากตายก็ไม่เป็นไร แต่เยวี่ยเยวี่ย เด็กผู้นี้คือผู้บริสุทธิ์จริง ๆ!อีกครั้งที่นางมองไปทางท่านอดีตเสนาบดีกอดความหวังอันริบหรี่ นางไม่อ้อนวอนเขาให้ช่วยตน เพียงคิดหวังให้เขาช่วยชีวิตหลิงเยวี่ยเท่านั้น!แววตาสิ้นห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 99

    จักรพรรดิอู่อันชะงักงันเหมือนกัน ทอดมองท่านอดีตเสนาบดีด้วยความเหลือจะเชื่อเขาเลี้ยงหลานสาวที่ไม่รู้จักอายเช่นนี้ ตนก็ไม่ได้ตำหนิกล่าวโทษเขาด้วยซ้ำ แต่เขายังกล้าขอความเมตตาต่อตนอีกหรือ?ท่านอดีตเสนาบดีหนวดเคราสั่นระริกพลางถลกเสื้อคลุมขึ้น ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว ก่อนจะคุกเข่าลงโดยไม่กล่าวสิ่งใดอีกจักรพรรดิอู่อันหลับตาลง จากนั้นความขึ้งโกรธก็พุ่งทะยานขึ้นท่านอดีตเสนาบดีใช้การกระทำเช่นนี้มาทักท้วงอย่างเรียบนิ่งว่าตนจะประหารหลิงอวี๋โดยไม่แยกแยะถูกผิด แสดงว่าเขาไม่ยอมแพ้งั้นหรือ?ชายชราโง่เขลาผู้นี้คิดว่าตนมีคุณความดีหลายส่วน เพราะถูกตนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญน่ะหรือ จึงขวัญกล้าข่มขู่ตนงั้นสิ?จักรพรรดิอู่อันมีความคิดนับไม่ถ้วนแล่นเข้ามาในหัวสมองฉับพลัน ทันใดนั้นภายในใจก็เกิดความปรารถนาที่จะประหารเขา…เส้นโลหิตดำบนหน้าผากจักรพรรดิเต้นตุบ ๆ ขณะกำลังครุ่นคิดหาข้ออ้างบางอย่างมาประหารไอ้แก่ไร้สมองนี้เสีย!ไม่มีผู้ใดในใต้หล้าเข้าใจบุตรชายตนได้ดีไปกว่ามารดา!ไทเฮาเห็นสีหน้าอารมณ์ของจักรพรรดิอู่อันก็คาดเดาความคิดเขาได้ทันที นางขมวดหัวคิ้วมุ่นพลางยกมือจับเขาเอาไว้ กล่าวเสียงแผ่ว“ย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 100

    “ท่านปู่ไม่ได้ติดตามหลิงอวี๋ตลอดเวลา แต่ที่หลิงอวี๋อยากจะพูดก็คือ หลิงอวี๋จำคำสั่งสอนของท่านปู่ได้เสมอ”“ดังนั้นแม้ว่าหลิงอวี๋จะทะเลาะกับผู้อื่นอยู่ข้างนอก กระทำเรื่องไร้กาลเทศะเหล่านั้น แต่หลิงอวี๋ยึดถือคำสั่งสอนของท่านปู่ ไม่ทำเรื่องประเภทคบชู้นั่น!”หลิงอวี๋กล่าวอย่างใจเย็น “หลิงอวี๋ยอมรับว่า พิสมัยท่านอ๋องอี้ในปีนั้นและใช้กลอุบายเล็กน้อยจริง แต่หลิงอวี๋กล้าสาบานต่อสรวงสวรรค์ว่า หม่อมฉันติดตามท่านอ๋องอี้ด้วยความบริสุทธิ์ใสสะอาด!”“ท่านอ๋องอี้ ท่านตรัสอย่างยุติธรรมได้หรือไม่? ว่าครานั้นหลิงอวี๋บริสุทธิ์หรือเปล่า?”เซียวหลิยเทียนตกตะลึง ในวันนั้นที่เขาถูกหลิงอวี๋วางแผนทำร้าย เนื่องเพราะเดือดดาลมากไปเลยไม่ได้จับตาดูละเอียดว่านางบริสุทธิ์หรือไม่และเมื่อครู่หลิงอวี๋ก็กล่าวได้ถูกต้อง เขาไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่านางคบชู้ เพียงพึ่งความสงสัยตัดสินความผิดของนางนั้นไม่ยุติธรรม!ทุกสายตาต่างจับจ้องไปทางตนเซียวหลินเทียนค่อนข้างรู้สึกขัดแย้งที่จะยอมรับว่านางบริสุทธิ์หรือไม่ยอมรับดี?ถ้าไม่ยอมรับ เช่นนั้นหลิงอวี๋ก็จะถูกลากตัวไปตัดหัว!แต่หากยอมรับ นั่นมิใช่คือการช่วยหลิงอวี๋หรือ?เป็นอุบา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 101

    “ในใต้หล้านี้ มีเด็กมากมายกำเนิดก่อนสิบเดือน! เกิดก่อนกำหนดหน่อยก็เป็นเด็กนอกสมรสแล้วรึ?”“สาเหตุที่ทารกในครรภ์คลอดเร็วมีค่อนข้างมาก อย่างเช่น การหกล้มจะส่งผลให้ส่วนท้องได้รับบาดเจ็บทำให้ต้องคลอดก่อนกำหนด! และอารมณ์ตื่นเต้นรุนแรงในช่วงปลายระยะการตั้งครรภ์ก็ส่งผลให้คลอดก่อนกำหนดได้เช่นกัน!”หลิงอวี๋พูดจาฉะฉานมีหลักมีฐาน “อีกทั้งยังสภาพทารกในครรภ์ก็อาจส่งผลให้คลอดก่อนกำหนดได้ อย่างเช่น การทำงานของรกไม่เพียงพอ หรือมีภาวะรกเกาะต่ำ(1)!”“หากไม่เชื่อข้าก็ลองถามหมอหลวงได้ว่าข้ากล่าวถูกต้องหรือไม่!”ชายาผิงหยางยิ้มหยันกล่าวคำ “แม้ว่าเจ้าจะพูดถูก แต่เจ้าก็แตกต่างจากคนอื่นอยู่ดี เจ้าอภิเษกสมรสกับท่านอ๋องอี้เพียงแปดเดือนก็ให้กำเนิดลูกนอกสมรสนี้แล้ว!”“ถูกต้อง! หากเจ้ามีความสามารถก็อย่าเบี่ยงเบนประเด็นสิ เอาหลักฐานออกมาพิสูจน์เลยว่า ลูกนอกสมรสคนนี้เป็นลูกของลูกพี่ลูกน้องของข้า!”เสิ่นจวนมองหลิงอวี๋พลางพูดอย่างปากดี เพราะกังวลว่าชายาผิงหยางจะเถียงไม่สู้นางเลยช่วยพูดแทรกเข้ามาดวงตาชายาผิงหยางทอประกาย “ใช่แล้ว เจ้ากล้าตรวจหยาดเลือดรู้ญาติ(2)หรือไม่! หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นลูกนอกสมรส เจ้าต้องคุกเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 102

    “ฝ่าบาท ทองคำแท้ไม่กลัวไฟหลอม! หลิงอวี๋ก็ไร้สิ่งใดต้องกลัวเพคะ!”หลิงอวี๋เงยศีรษะขึ้นพลางกล่าวหนักแน่น“เชิญหมอหลวง… ตรวจหยาดเลือดรู้ญาติ!”ตามคำบัญชาของจักรพรรดิอู่อัน หมอหลวงก็ไปเตรียมการทันควันเซียวหลินเทียนกำลังฟังมาตลอด ครั้นได้ยินหลิงอวี๋พูดถึงสาเหตุหลายประเภทของการคลอดก่อนกำหนด หัวใจเขาก็สั่นไวถ้าหลิงอวี๋ติดตามตนด้วยความบริสุทธิ์จริง ๆ การคลอดก่อนกำหนดสองเดือนของเด็กคนนั้นก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน!ก่อนหน้าเขาโกรธแค้นหลิงอวี๋ที่มีเจตนาร้ายกับตน บีบคั้นให้ตนทิ้งคนที่รักไป ทำให้พอหลังแต่งงานกันเขาก็ไปสนามรบทันทีขณะที่เด็กเกิดเขาไม่ได้อยู่เมืองหลวง เลยไม่รู้แจ้งถึงสาเหตุที่หลิงอวี๋คลอดก่อนกำหนดในครานั้นเมื่อได้ยินข่าวลือว่า หลิงอวี๋ออกเรือนกับเขาแต่กำลังอุ้มท้องบุตรชายนอื่น ทว่านั่นคือเหตุที่ทำให้นางคลอดลูกแปดเดือน!ความโกรธเข้าครอบงำเขาในเวลานั้นจึงไม่ได้ส่งคนไปตรวจสอบ คิดเอาเองว่า เด็กคนนี้ไม่ใช่บุตรของตน!หรือว่าเขาจะเข้าใจผิดจริง?ครั้นได้ยินหลิงอวี๋กล่าวยินยอมตรวจหยาดเลือดรู้ญาติ เซียวหลินเทียนพลันกำหมัดแน่นอารมณ์ตึงเครียดฉับพลัน ทันใดนั้นก็นึกถึงคำพูดที่หลิงอวี๋เอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 103

    “ความจริงกระจ่างแล้ว ข้าขอประกาศว่าเยวี่ยเยวี่ยคือบุตรชายของอ๋องอี้เซียวหลินเทียน! เรื่องนี้ให้มันจบลงที่นี่และวันข้างหน้าจะไม่อนุญาตให้ผู้ใดเอ่ยถึงเรื่องลูกนอกสมรสอีก!”จักรพรรดิอู่อันกวาดสายตามองทั่วลานพลางป่าวประกาศอย่างไร้ทางเลี่ยงคราวนี้เขาไม่รู้ว่าควรจะเล่นงานหลิงอวี๋เช่นไรแล้ว ไร้ซึ่งข้ออ้างจะประหาร!มีเพียงความยินดีปรีดาเดียวเท่านั้นคือ เด็กคนนี้มีสายเลือดของราชวงศ์โดยแท้จริง ช่วยล้างมลทินความอัปยศอดสูที่ราชวงศ์ต้องประสบมานับหลายปีลง!“หลิงอวี๋ขอขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงยืนยันฐานะของเยวี่ยเยวี่ย! ฝ่าบาท หลิงอวี๋ยังมีเรื่องจะขอกราบทูลอีกเพคะ!” หลิงอวี๋คำนับพลางกล่าวเคร่งขรึมจักรพรรดิอู่อันทอดมองท่านอดีตเสนาบดีที่ยังคงคุกเข่าอยู่พลางนึกถึงความปรารถนาประหารแม่ลูกหลิงอวี๋อันแรงกล้าเมื่อครู่…หลิงอวี๋ช่างหัวมัน! จะฆ่าหรือไม่ไม่สำคัญ!แต่เด็กมีสายเลือดราชวงศ์และถือเป็นหลานชายตน!ท่านอดีตเสนาบดีแสดงท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนอีกครั้ง สิ่งนี้ทำให้ความหลงใหลเกียรติศักดิ์ศรีของจักรพรรดิอู่อันพึงพอใจยิ่งยวด!ถือว่าเห็นแก่เด็ก และให้หน้าหลิงอวี๋เล็กน้อย!จักรพรรดิอู่อันผงกศีรษะแสดงความเคาร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 104

    จักรพรรดิอู่อันตกตะลึงต่อฉากนี้จนพูดอะไรไม่ออก นี่เป็นความบันเทิงที่ไม่เคยพบในวังหลวงมาก่อน!เมื่อชายาผิงหยางคุกเข่าลง เขาถึงได้สติคืนพลางมองค้อนไปยังหลิงอวี๋อย่างไม่พอใจ กล่าวตำหนิว่า “หลิงอวี๋ ขอประทานอภัยต่ออ๋องผิงหยางเสีย!”หลิงอวี๋ตอบอย่างหัวรั้น “ฝ่าบาท หลิงอวี๋มิใช่กล่าวสิ่งใดผิด! หลิงอวี๋กล้าเอาศีรษะเป็นประกันเลยเพคะ! ว่าท่านอ๋องผิงหยางประสบภาวะมีบุตรยาก!”“หมอหลวงก็อยู่ที่นี่ โปรดฝ่าบาทอนุญาตให้เขาวินิจฉัยท่านอ๋องผิงหยางเถิด! หากยืนยันได้ว่า หลิงอวี๋ใส่ไคล้ หลิงอวี๋ไม่เพียงจะโขกหัวแสดงความขออภัยเท่านั้น แต่ยังจะให้ศีรษะที่อยู่บนคอนี้ถวายพวกเขาด้วยเพคะ!”เมื่อวาจานี้ได้เผยออกมา ทุกคนต่างเงียบสนิทไม่มีแม้แต่เสียงนกเสียงกาหลิงอวี๋กระทั่งเอาหัวตัวเองมาเดิมพันเช่นนี้ ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน?ท่านอดีตเสนาบดีเดิมทีคิดไกล่เกลี่ยยุติขัดแย้งให้หลิงอวี๋ ทว่าวาจาห้ามปรามยังมิทันเอ่ย หลิงอวี๋ก็โพล่งออกมาซะแล้วเขานึกถึงความคับแค้นระหว่างตนกับท่านอ๋องอี้ แล้วก็นึกถึงฉากสองแม่ลูกหลิงอวี๋เมื่อครู่เกือบจะถูกพระชายาผิงหยางฆ่าตาย เขาก็ส่ายหัวสักพักไม่คิดเตือนใด ๆ แล้ว“ฝ่าบาท พระชายาผิง

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1922

    “ท่านอาจารย์ ไป๋จื่อมิใช่กุญแจสำคัญของการทำยาหรอกเจ้าค่ะ แต่เป็นน้ำต่างหาก!”หลิงอวี๋ตอบออกไปอย่างอดทน “ในตอนที่ข้าระบุส่วนผสมยา ข้าพบว่าในโอสถชะลอวัยนั้นมีน้ำตะกั่วอยู่เจ้าค่ะ!”“ที่จริงแล้วสารตะกั่วนี้มิสามารถนำไปใช้ในเครื่องสำอางได้ แม้ว่ามันจะมีผลในการส่งเสริมการดูดซึมของเครื่องยาสมุนไพรตัวอื่น ๆ เข้าสู่ผิวหนังได้ แต่ตัวมันเองก็เป็นพิษเช่นกันเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋บอกสิ่งที่ตนรู้เกี่ยวกับสารตะกั่วให้เย่ซื่อฝานฟัง เมื่อเย่ซื่อฝานฟังแล้วก็พยักหน้าซ้ำ ๆแวดวงปรุงโอสถรู้เพียงแค่ผลการส่งเสริมการดูดซึมของสารตะกั่วมาโดยตลอด แต่กลับรู้อันตรายของสารตะกั่วเพียงผิวเผินเท่านั้นเมื่อเครื่องยาสมุนไพรที่เลือกใช้กับสารตะกั่วขัดขวางกันและกัน อัตราความสำเร็จในการทำยานั้นก็ย่อมต่ำลงเป็นธรรมดาหลิงอวี๋เลือกใช้เพียงแค่น้ำเปล่า และทิ้งสารตะกั่วไป เมื่อเป็นเช่นนี้น้ำเปล่าก็จะมิสามารถขัดขวางสรรพคุณของเครื่องยาสมุนไพรได้ และอัตราความสำเร็จในการทำยาก็จะสูงขึ้น“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงเติมน้ำปูนใสลงไปในโอสถสมานแผลเล่า?”เย่ซื่อฝานลืมตัวไปเสียสิ้นว่าตัวตนของเขากับหลิงอวี๋ในตอนนี้สลับกันอยู่ น้ำเสียงของเขาคล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1921

    หลิงอวี๋กำลังคิดว่าจะหาโอกาสจากไป มิคารวะเป็นศิษย์แล้วดีหรือไม่ ทางด้านคนที่พูดอยู่ก็เดินเข้ามาเมื่อหลิงอวี๋หันไปมองผ่านพุ่มไม้ไป ก็เห็นว่าคนที่มานั้นเป็นบุรุษสามคนคนหนึ่งอายุหกสิบกว่า รูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าเหลี่ยม ดูหน้าตาคล้ายกับเย่ซื่อฝาน นั่นก็คือท่านผู้เฒ่าตระกูลเย่และบุรุษที่อยู่ข้าง ๆ เขาอายุราว ๆ สี่สิบ รูปร่างเตี้ยกว่าเล็กน้อย และใบหน้าเหลี่ยมเช่นกัน ดูแล้วเขากับชายชราผู้นั้นน่าจะเป็นพ่อลูกกันส่วนบุรุษหนุ่มวัยประมาณเกือบยี่สิบที่เดินตามหลังทั้งสองคนมานั้น เมื่อหลิงอวี๋เห็นเขา ก็รู้สึกว่าคุ้นหน้ามากหรือว่าคนนี้จะเป็นเย่หรง?ตนรู้สึกคุ้นหน้า เพราะว่าก่อนหน้านี้เคยพบเขาหรือ?“ท่านผู้อาวุโส!”เมื่อจางอิ๋งและบรรดาศิษย์พี่เห็นชายชรา พวกเขาต่างก็โค้งคำนับพร้อมกัน หลิงอวี๋เองก็รีบโค้งคำนับตามอย่างรวดเร็วเช่นกัน“พวกเจ้าพาศิษย์คนใหม่ของเย่ซื่อฝานมาคารวะเป็นศิษย์หรือ? นางชื่อสิงอวี๋ใช่หรือไม่?”ท่านผู้เฒ่าเย่เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม และใบหน้าที่มีความเมตตา“ท่านผู้อาวุโส นางคือสิงอวี๋เจ้าค่ะ!”จางอิ๋งดึงหลิงอวี๋ออกมา แล้วแนะนำให้ท่านผู้เฒ่ารู้จักดวงตาที่ดูมีชีวิตชีวาของท่านผ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1920

    หลิงอวี๋มิได้รู้ตัวเลยว่าเพราะการป้องกันที่เข้มงวดเกือบสุดขีดของนาง จะทำให้นางพลาดการพบกันครั้งแรกกับเซียวหลินเทียนไป!เซียวหลินเทียนสำรวจสตรีส่วนใหญ่ที่มารวมกันที่นี่แล้วแต่ก็มิพบใครที่ดูเหมือนหลิงอวี๋ หรือแม้แต่ใครก็ตามที่กำลังตั้งครรภ์เลยเขาเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับสำนักศึกษาชิงหลง และคิดว่าตนกำลังเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะหลิงอวี๋มิได้อยู่ที่นี่!แม้จะเสียใจ แต่ขอเพียงมีความหวังบ้างสักนิดเซียวหลินเทียนก็จะมิยอมแพ้ เขากำชับให้เถาจื่อและหานอวี้เฝ้าระวังต่อไป จากนั้นก็เดินทางจากไปพร้อมกับทุกคนวันต่อมา จางอิ๋งกับศิษย์อีกหลายคนมารับหลิงอวี๋ไปที่ตระกูลเย่ และจางอิ๋งก็แนะนำศิษย์พี่หลายคนให้หลิงอวี๋รู้จักทีละคนปัจจุบันเย่ซื่อฝานมีศิษย์เพียงแค่เจ็ดคนรวมหลิงอวี๋ด้วย และหลิงอวี๋ก็อยู่ในลำดับที่เจ็ดจางอิ๋งเป็นศิษย์ลำดับที่ห้า ศิษย์พี่ใหญ่นั้นเข้าสำนักมานานที่สุด ปีนี้เขาอายุยี่สิบหกปีแล้ว ดูเป็นคนจริงใจและซื่อสัตย์ด้านศิษย์พี่หญิงใหญ่แต่งงานแล้วและเพิ่งคลอดลูก ดังนั้นนางจึงมิได้มารับหลิงอวี๋ศิษย์พี่สามและศิษย์พี่สี่มีอายุใกล้เคียงกัน พวกเขาอายุยี่สิบกว่า ๆ ทั้งสองก็ดูซื่อสัต

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1919

    หลิงอวี๋ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงปฏิเสธ นางกล่าวว่า “ศิษย์พี่หญิง ฝากท่านขอบคุณความปรารถนาดีของท่านอาจารย์แทนข้าด้วย!”“บ้านข้ามีกฎของครอบครัวอยู่ว่าห้ามหยิบยืมเงินจากคนนอกโดยมิจำเป็น ตอนที่ท่านปู่ของข้ายังมีชีวิตอยู่เคยเตือนข้ากับท่านพี่ไว้ว่ามีเงินเท่าไรก็ใช้เท่าที่มี!”“สิงอวี๋มิกล้าขัดคำสอนของท่านปู่ ความปรารถนาดีของท่านอาจารย์นั้นข้าขอขอบคุณจากใจจริง! ข้าจะพึ่งพาความพยายามของตัวเอง ข้าจะหาเงินและคิดหาวิธีร่วมกับพี่ชายเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยของพวกเรา”หลิงอวี๋มิรับตั๋วเงินสามแสน พลางพูดด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อนี่คือเงินที่ท่านอาจารย์และศิษย์พี่หญิงเดิมพันชนะมา มันก็ควรจะเป็นของพวกท่าน! หากท่านอาจารย์คิดว่านี่คือเงินที่ได้มาอย่างมิชอบ จะสามารถบริจาคให้กับคนที่ต้องการความช่วยเหลือก็ได้!”จางอิ๋งคาดมิถึงว่าหลิงอวี๋ผู้ยากจนจะมิถูกเงินสามแสนที่ตกจากท้องฟ้าลงมาอยู่ตรงหน้าล่อใจ ทำเอานางรู้สึกนับถือขึ้นมานางปฏิบัติตามคำกำชับของเย่ซื่อฝานและมิบังคับให้หลิงอวี๋รับเงิน นางจึงเก็บตั๋วเงินกลับไปและกล่าวลาหลิงอวี๋เมื่อหลิงอวี๋เดินออกมา คนส่วนใหญ่ที่อยู่ที่ลานก็ออกไปแล้ว เม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1918

    หลิงอวี๋เดินตามจางอิ๋งมาถึงห้องโถง ซึ่งบัณฑิตใหม่ทั้งหมดได้มารวมตัวกันที่นี่ทั้งสองชั้นเรียนได้คัดเลือกบัณฑิตที่คุณสมบัติผ่านเกณฑ์เรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้เข้าสอบที่ถูกคัดออกคนอื่น ๆ จะมิสามารถเข้ามาได้หลิงอวี๋เดินตามจางอิ๋งไปยืนในชั้นเรียนของเย่ซื่อฝาน เหลยเหวินและจงเจิ้งเฟยต่างก็มองหลิงอวี๋ด้วยสายตาแปลก ๆทั้งสองคาดมิถึงว่าหลิงอวี๋จะมีความสามารถโดดเด่นและทำคะแนนออกมาได้ดี ซึ่งเป็นคะแนนที่สูงจนบัณฑิตในรอบเกือบสิบปีนี้เทียบมิติด และสุดท้ายนางก็ได้กลายมาเป็นศิษย์ของเย่ซื่อฝานส่วนพวกนางนั้นเป็นเพียงบัณฑิตธรรมดา แม้จะได้รับการสั่งสอนจากเย่ซื่อฝาน แต่ก็เรียกเย่ซื่อฝานว่าท่านครูได้เท่านั้น ในขณะที่หลิงอวี๋กลับสามารถเรียกเย่ซื่อฝานว่า ท่านอาจารย์การเป็นศิษย์กับการเป็นบัณฑิตมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด“เสี่ยวอวี๋ ยินดีด้วยนะ!”เหลยเหวินยังมีทัศนคติที่ดี รู้จักตนเอง และพอใจที่ได้เป็นบัณฑิตของเย่ซื่อฝานแล้ว มิได้ฝันถึงสิ่งที่เกินตัวไปมากนักคำแสดงความยินดีนี้จึงเป็นสิ่งที่ออกมาจากใจจงเจิ้งเฟยกลับรู้สึกจิตใจมิมั่นคง แต่ก็เป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น นางรู้ดีว่าวิชาปรุงโอสถมิได้ขึ้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1917

    หลิงอวี๋มิรู้เลยว่าโอสถสองเม็ดที่นางกลั่นได้มีอัตราความสำเร็จสูงกว่าของคนอื่น ๆ มาก ดังนั้นนางและหลงอิงจึงกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในสำนักศึกษาชิงหลงตั้งแต่ยังมิออกมาจากค่ายกลด้วยซ้ำ“ครั้งนี้มีอัจฉริยะปรากฏตัวในหอปรุงโอสถ อัตราความสำเร็จของโอสถทั้งสองเตาแซงหน้าปรมาจารย์เย่และปรมาจารย์ไป่หลี่ไปแล้ว ไป ไปดูกันว่าอัจฉริยะผู้นั้นคือใคร!”ทางด้านของเซียวหลินเทียนที่ผ่านการประเมินได้มารวมกลุ่มกับเผยอวี้อีกครั้งและกำลังจะออกไปรอกลุ่มของเถาจื่อ เขาก็ได้ยินเสียงของบรรดาบัณฑิตโห่ร้องกันอย่างตื่นเต้น“นางลงทะเบียนชั้นเรียนของปรมาจารย์ท่านไหนรึ?”“ชั้นเรียนของปรมาจารย์เย่!”“โอ้โห เช่นนี้มิใช่ว่าหอโอสถซ่างกู่แย่งสมบัติล้ำค่าไปแล้วหรอกรึ! แล้วคนผู้นั้นมีที่มาที่ไปอย่างไรเล่า?”“มิรู้สิ มิเคยได้ยินชื่อนางมาก่อนเลย!”เซียวหลินเทียนคิดว่ามันคงไร้ประโยชน์ที่จะรออยู่ข้างนอก สู้ไปดูกับพวกเขาดีกว่า จะได้ตามหาหลิงอวี๋ไปด้วย“ไป ไปดูกันเถอะ!”เซียวหลินเทียนพาคนสองคนเดินตามฝูงชนไปที่หอปรุงโอสถบรรดาบัณฑิตที่อยู่ข้างหน้ายังคงสนทนากันอย่างกระตือรือร้นในขณะที่เซียวหลินเทียนและอีกสองคนฟังอยู่เงียบ ๆ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1916

    “เปิดเตาเลย!”หลงอิงที่อยู่ในค่ายกลตะโกนด้วยความตื่นเต้นหลิงอวี๋เปิดเตาและเทโอสถออกมาโอสถจำนวนมากหล่นลงบนจานทีละเม็ดเสียงดังขลุก ๆ โอสถแต่ละเม็ดที่เด้งขึ้นมาทำให้ทุกคนกลั้นหายใจนับจำนวนอย่างเงียบ ๆ“ยี่สิบ… ยี่สิบห้า… ยี่สิบเจ็ด!”โอสถทั้งหมดถูกเทลงบนจาน หลังจากทุกคนนับเสร็จก็พากันมองไปที่หลิงอวี๋ด้วยความมิอยากเชื่อ“เหมียวหยาง ยี่สิบเจ็ดเม็ดรึ? ข้ามิได้นับผิดใช่หรือไม่?”ไป่หลี่ไห่ถามด้วยเสียงสั่นเครือนี่คือสิ่งที่เย่ซื่อฝานอยากจะถามเช่นกันเมื่อพิจารณาจากขนาดของเตากลั่นและจำนวนเครื่องยาสมุนไพร หากอัตราความสำเร็จของโอสถเตานี้มีถึงสิบส่วน ก็จะมีโอสถทั้งหมดสามสิบเม็ดขณะนี้หลิงอวี๋กลั่นโอสถออกมาได้ยี่สิบเจ็ดเม็ด ดังนั้นอัตราความสำเร็จจึงอยู่ที่เก้าในสิบ!นี่เป็น… เป็นอัตราความสำเร็จที่น่าตกใจยิ่งนัก!แม้แต่ปรมาจารย์ปรุงโอสถอย่างเย่ซื่อฝานและไป่หลี่ไห่ หากอยากได้อัตราความสำเร็จสูงถึงขั้นนี้ก็มีแต่ต้องกลั่นโอสถระดับต้นเท่านั้น แทบจะเป็นไปมิได้เลยที่โอสถระดับกลางจะบรรลุอัตราความสำเร็จถึงเก้าในสิบ“ช้าก่อน พวกเจ้าดูสิว่านั่นอะไร?”จู่ ๆ เย่ซื่อฝานก็พูดขึ้นทุกคนมองตามสายตา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1915

    ทุกคนที่อยู่ข้างนอกมีอารมณ์ที่แตกต่างกันไป ขณะที่กำลังคิดฟุ้งซ่าน พวกเขาก็เห็นหลิงอวี๋นำเครื่องยาสมุนไพรอีกกองหนึ่งมาให้หลงอิงมิเพียงเย่ซื่อฝานเท่านั้น แต่ไป่หลี่ไห่และคนอื่น ๆ ก็จ้องมองการกระทำของหลิงอวี๋ด้วยเช่นกัน พวกเขาเห็นว่าหลิงอวี๋หยิบสมุนไพรขึ้นมาโดยมิได้ใช้ตาชั่งยาในการตวงเลย ทุกอย่างล้วนถูกหยิบขึ้นมาด้วยมือเปล่าทั้งสิ้นนางหยิบนั่นหยิบนี่โยนลงไป ราวกับเด็กที่กำลังเล่นซนเหมียวหยางอดมิได้ที่จะพูดจาดูแคลน “การที่นางกลั่นยาเตาแรกออกมาได้นั่นถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีนัก ให้นางทำอีกครั้งดูสิ นางไม่มีทางทำสำเร็จหรอก!”ปริมาณของโอสถแต่ละชนิดจะมีตัวเลขที่แน่นอน ซึ่งเป็นผลที่ได้มาจากบรรพบุรุษมากมายที่ประสบกับความล้มเหลวมานับมิถ้วนหลิงอวี๋หยิบเครื่องยาสมุนไพรขึ้นมาอย่างลวก ๆ นางคงมิรู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเก็บมาได้เท่าไรแล้วหากปรุงอีกรอบแล้วกะปริมาณมิถูกต้อง โอสถที่กลั่นออกมาอาจจะมิเป็นไปตามต้องการเย่ซื่อฝานเองก็รู้ความจริงข้อนี้ แต่เขากลับมิได้มองหลิงอวี๋เช่นนั้นเขารู้ว่าปรมาจารย์ที่แท้จริงนั้น เมื่อสั่งสมประสบการณ์มาหลายสิบปี ก็จะสามารถกะปริมาณเครื่องยาสมุนไพรที่หยิบมาได้เพียง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1914

    ในห้องปรุงโอสถมิได้มีเพียงเครื่องยาสมุนไพร แต่ยังมีน้ำหลายชนิดที่สามารถเติมลงไปเพื่อผสมเครื่องยาสมุนไพรเข้ากัน น้ำเหล่านี้เป็นส่วนประกอบพื้นฐานที่ใช้ในการปรุงโอสถในชีวิตประจำวันน้ำแต่ละชนิดที่ผสมกับเครื่องยาสมุนไพรให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นไป่หลี่ไห่จึงสนใจเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งที่หลิงอวี๋เติมเข้าไปคืออะไร“อาจารย์ ข้าเห็นแล้ว มันคือน้ำเปล่าขอรับ!”เหมียวหยางพูดอย่างดูแคลนน้ำเปล่ารึ?เมื่อได้ยินเช่นนั้น ไป๋หลี่ไห่ก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เขามองไปที่เย่ซื่อฝานแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่เย่ ข้าว่าครั้งนี้ว่าที่ศิษย์ของท่านจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”“หากนางเติมน้ำชนิดอื่นลงไปก็อาจทำให้อัตราความสำเร็จสูงขึ้นได้บ้าง แต่นี่น้ำเปล่า… มีเพียงคนที่ไม่มีความรู้เรื่องการปรุงโอสถเท่านั้นที่จะเติมน้ำชนิดนี้ลงไป!”เมื่อจางอิ๋งได้ยินคำพูดของเหมียวหยาง นางก็รู้สึกเป็นกังวลแทนหลิงอวี๋ขึ้นมา และคิดว่าตนกำลังจะเสียเงินสองหมื่นไปโดยเปล่าประโยชน์!แต่เย่ซื่อฝานกลับกล่าวอย่างมิรีบร้อน “สิ่งที่พวกเราต้องการคือผลลัพธ์ ไยต้องสนใจกระบวนการด้วยเล่า!”“ข้าว่าว่าที่ศิษย์ของข้าผู้นี้มีความคิดที่ดีทีเดีย

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status