แชร์

บทที่ 104

ผู้แต่ง: กานเฟย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
จักรพรรดิอู่อันตกตะลึงต่อฉากนี้จนพูดอะไรไม่ออก นี่เป็นความบันเทิงที่ไม่เคยพบในวังหลวงมาก่อน!

เมื่อชายาผิงหยางคุกเข่าลง เขาถึงได้สติคืนพลางมองค้อนไปยังหลิงอวี๋อย่างไม่พอใจ กล่าวตำหนิว่า “หลิงอวี๋ ขอประทานอภัยต่ออ๋องผิงหยางเสีย!”

หลิงอวี๋ตอบอย่างหัวรั้น “ฝ่าบาท หลิงอวี๋มิใช่กล่าวสิ่งใดผิด! หลิงอวี๋กล้าเอาศีรษะเป็นประกันเลยเพคะ! ว่าท่านอ๋องผิงหยางประสบภาวะมีบุตรยาก!”

“หมอหลวงก็อยู่ที่นี่ โปรดฝ่าบาทอนุญาตให้เขาวินิจฉัยท่านอ๋องผิงหยางเถิด! หากยืนยันได้ว่า หลิงอวี๋ใส่ไคล้ หลิงอวี๋ไม่เพียงจะโขกหัวแสดงความขออภัยเท่านั้น แต่ยังจะให้ศีรษะที่อยู่บนคอนี้ถวายพวกเขาด้วยเพคะ!”

เมื่อวาจานี้ได้เผยออกมา ทุกคนต่างเงียบสนิทไม่มีแม้แต่เสียงนกเสียงกา

หลิงอวี๋กระทั่งเอาหัวตัวเองมาเดิมพันเช่นนี้ ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน?

ท่านอดีตเสนาบดีเดิมทีคิดไกล่เกลี่ยยุติขัดแย้งให้หลิงอวี๋ ทว่าวาจาห้ามปรามยังมิทันเอ่ย หลิงอวี๋ก็โพล่งออกมาซะแล้ว

เขานึกถึงความคับแค้นระหว่างตนกับท่านอ๋องอี้ แล้วก็นึกถึงฉากสองแม่ลูกหลิงอวี๋เมื่อครู่เกือบจะถูกพระชายาผิงหยางฆ่าตาย เขาก็ส่ายหัวสักพักไม่คิดเตือนใด ๆ แล้ว

“ฝ่าบาท พระชายาผิง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 105

    เมื่อหลิงอวี๋เห็นสถานการณ์ก็แทบอ้าปากตาค้าง ทว่าท้ายที่สุดยั้งกิริยาไว้ได้!คำก็ชินอ๋อง(1) สองคำก็อ๋องเพียงอาศัยสายสัมพันธ์ญาติพี่น้องกล่าวอ้างว่าการตรวจสายเลือดราชวงศ์ไม่ได้แม่นยำเสมอไป แต่อย่างไรเสียชายาผิงหยางควรถูกหย่าร้างก็เพียงพอแล้ว!นางยังไม่ได้โหดเหี้ยมถึงขั้นจะให้ชายาผิงหยางอยู่ในสภาพจิ้นจูหลงแน่นอน!สามารถไว้ชีวิตคนได้ก็ไว้ไปเถอะ!ครั้นทุกคนเห็นสถานการณ์ต่างปิดหน้าละอายแทนตระกูลอ๋องผิงหยางไม่เปรียบเทียบก็ไม่เจ็บปวด!“ข้าก็บอกแล้วว่าบุตรชายนางเป็นลูกนอกสมรส! พวกเจ้าไม่เห็นหรือ? อธิราชน้อยผู้นั้นมีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนท่านอ๋องผิงหยางสักนิด!”“ใช่แล้ว เจ้าไม่เห็นรึ บุตรชายของท่านอ๋องอี้ผู้นั้นมีมารยาท สุภาพและวางตัวดี! ถูกกรีดมือก็ไม่งอแงเลย! ”“ไฉนเลยจะเหมือนลูกนอกสมรสผู้นี้ ครั้นถูกกรีดมือก็ด่าคน… แถมยังด่าหมอหลวงเป็นทาสด้วย! ไม่เข้าใจเรื่องมรรยาทเลยสักนิดเดียว!”“เมื่อกี้พวกเจ้าไม่เห็นมารยาทบนโต๊ะของเขาหรือ? ยัดทุกสิ่งอย่างเข้าปาก! ราวกับผีหิวโหยกลับชาติมาเกิดก็ไม่ปาน!”“ลูกนอกสมรสก็คือลูกนอกสมรสนั่นแหละ! ไฉนเลยจะเทียบเคียงสายเลือดแห่งราชวงศ์ได้!”หลิงอวี๋ได้ยิน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 106

    “ใช่ พระชายาอ๋องอี้ พวกเราไม่ได้มีเงินแบบพระชายา แต่พ่อของข้าก็ถวายหยกแกะสลักให้ไทเฮาหนึ่งชิ้น มูลค่าห้าหมื่นตำลึงเงิน!”เพื่อที่จะขัดขวางหลิงอวี๋ เจิงจื่ออวี้เองก็ไม่ละความพยายามและพูดอย่างภาคภูมิใจ“เงินที่พระชายาซื้อแจกันดินเผาเคลือบสีนั่น คาดว่าจะซื้อไม่ได้แม้แต่กล่องหยกแกะสลักของพ่อข้าเลยนะ!”หลิงอวี๋ยิ้มไม่พูดอะไร ห้าหมื่น? เจิงจื่ออวี้จะกล้าพูดมากกว่านี้หรือไม่นะ?เจ้ากรมผู้หนึ่ง มีเงินเดือนในหนึ่งปีแค่เท่าไหร่เอง?นางยิ่งโอ้อวด เชื่อไหมว่าเดี๋ยวก็คล้ายกับที่พวกลูกสาวไร้สมองที่อวดรถหรูลงบนโซเชี่ยลในสมัยปัจจุบัน จนทำให้พ่อของนางต้องเข้าคุกเหล่าสตรีคนอื่นที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ไม่ได้นึกถึงขั้นนั้นเลย ต่างก็หัวเราะเยาะเย้ยของกำนัลที่ถวายไปกระทั่งมูลค่ากล่องของคนอื่นยังเทียบไม่ได้เลย พระชายาอ๋องอี้นี่ ช่างน่าสงสารเสียจริง!“ท่านอ๋องอี้ถวายฉากกั้นลมแกะสลักหนึ่งคู่ ส่วนพระชายาอ๋องอี้ถวายแจกันดินเผาเคลือบสีหนึ่งชิ้น!”“แจกันดินเผาเคลือบสีเนี่ยนะ! พระชายาอ๋องอี้ถวายสิ่งนั้นจริงหรือ?”เมื่อครู่ตอนที่เจ้าหน้าที่ลงทะเบียน ก็มีคนรับใช้จำนวนไม่น้อยที่เห็นแล้วรายงานต่อเจ้านายของตนเอง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 107

    ท่านลุงไม่รอให้จักรพรรดิอู่อันได้ซักไซ้เอาความใด ๆ ก็ชิงเอ่ยขึ้นมา “พระชายาอ๋องอี้ แม้ว่าเจ้าจะติดหนี้เงินกู้อยู่ไม่น้อย ไม่มีเงินที่จะไปซื้อของกำนัลราคาแพง ๆ แต่ก็ไม่ควรถวายแจกันดินเผาเคลือบสีนี่มาแค่พอเป็นพิธีเช่นนี้นะ!”“สิ่งนั้นมันราคาเท่าไหร่กันเอง! ยังจะเป็นของที่แตกอีก!”“ได้ยินว่าเจ้าก็ไปกู้ยืมเงินมาเป็นหมื่นเพื่อที่จะซื้อดาบมีชื่อเสียงให้กับอ๋องอี้นี่! เช่นนั้นเหตุใดจึงไม่กู้อีกสักหน่อย มาซื้อของกำนัลเช่นนั้นให้ไทเฮาเล่า?”“หรือว่าในสายตาของเจ้า ไทเฮายังไม่ได้มีคุณค่าเทียบเทียมอ๋องอี้!”ทันทีที่ประโยคนี้ออกมา สีหน้าของจักรพรรดิอู่อันก็แย่อีกกว่าเดิม สีหน้าของไทเฮาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนแล้ว เรื่องสมบัติเงินทองนางไม่ได้สนใจเลยจะให้มากให้น้อย แค่ให้ด้วยใจก็พอแล้ว!เพื่อที่จะให้เกียรติหลิงอวี๋ นางยังเขียนเทียบเชิญให้หลิงอวี๋ด้วยตัวของนางเอง แต่หลิงอวี๋กลับละเลยตนเองเช่นนี้หรือ?เดิมทีทุกคนจะผสมโรงคำพูดของท่านลุงไปเพื่อจะดูถูกหลิงอวี๋ แต่นึกถึงเมื่อครู่ที่เอ็ดตะโรกันจนเกือบถูกองค์จักรพรรดิลงโทษพอนึกถึงจุดจบของพระชายาผิงหยางอีก คนที่คิดจะช่วยพูดสนับสนุนในครั้งนี้ล้วนไม่กล้าเอ่ยอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 108

    เส้าเจิ้งซานอึ้งไปครู่หนึ่ง พอตั้งสติได้ก็โวยขึ้นมาอย่างหวั่นวิตก “หลิงอวี๋ เจ้าไม่เข้าใจอะไรก็อย่าเที่ยวพูดจาเหลวไหล! นี่จะไม่ใช่งานแกะสลักของปรมาจารย์จูจู้ได้เยี่ยงไร?”“เจ้าไม่เคยเห็นงานฝีมือของปรมาจารย์จูจู้เสียด้วยซ้ำ เหตุใดจึงกล้าพูดอย่างไม่ละอายว่าเป็นของปลอม? อีกอย่าง ทั้งกู่ฉิน หมากล้อม พู่กันจีนและภาพวาดจีนเจ้าเองก็ไม่รู้สักอย่าง แล้วเจ้าจะเข้าใจงานศิลปะเช่นนี้หรือ?”เหล่าขุนนางและฮูหยินด้านล่างที่ชื่นชอบงานแกะสลักต่างพากันพยักหน้าหลิงอวี๋นั้นโง่เขลาเบาปัญญา ชื่อเสียงของนางที่ไม่มีความสามารถทั้งกู่ฉิน หมากล้อม พู่กันจีนและภาพวาดจีนนั้นแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวง นางจะมาเข้าใจงานศิลปะที่งดงามชั้นสูงเช่นนี้ได้เยี่ยงไร!“หลิงอวี๋ เจ้าไม่เข้าใจก็อย่างแสร้งทำเป็นเข้าใจเลย! มาแอบอ้างทำเป็นผู้เชี่ยวชาญ มันจะไม่ให้คนอื่นหัวเราะเยาะหรือไง!”“เจ้าแยกแยะได้เพียงแค่เสื้อผ้าดีหรือไม่น่ะสิ! เพราะว่าสามารถทะเลาะกับคนอื่นเพื่อเสื้อผ้าเครื่องประดับได้!”“ใช่ คนเช่นเจ้ามาเชยชมผลงานของปรมาจารย์จูจู้ ก็จะเป็นการดูหมิ่นปรมาจารย์จูจู้ รีบหุบปากไปเสียเถิด!”คนจำนวนต่างพากันดูถูกหลิงอวี๋ แ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 109

    เส้าเจิ้งซานมองอย่างสับสน พลางเอ่ยอย่างไม่พอใจ “งานทุกชิ้นของปรมาจารย์จูจู้นั้นมีรูปแบบต่างกัน ท่าทางของมือต่างกันก็เป็นเรื่องปกติมาก!”“ท่านลุงพูดเช่นนี้ผิดแล้ว!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างไม่รีบไม่ร้อน “เทพเจ้าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปรมาจารย์จูจู้ปฏิบัติต่องานทุกชิ้นของตัวเอง โดยเฉพาะการแกะสลักรูปเทพเจ้านั้น ไม่มีทางที่จะดูหมิ่นต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นแน่!”“ท่าทางนี้ มันคือการดูหมิ่นต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์! ผู้ที่แกะสลักมีจิตใจที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ หรือไม่ก็มีความสามารถแต่ไม่ได้รับการยอมรับ หรือไม่ก็ชิงชังโชคชะตาที่ไม่ยุติธรรม ถึงได้ดูหมิ่นท้าววิรุฬหกมหาราชด้วยท่าทางเช่นนี้!”หลิงอวี๋ยกนิ้วก้อยของตนเองขึ้นมา พลางเอ่ยกับทุกคน “ในใต้หล้าของพวกเราการดูหมิ่นคนผู้หนึ่ง ก็ใช้นิ้วนี้แทนใช่หรือไม่?”“ปรมาจารย์จูจู้เป็นคนเปิดเผยและตรงไปตรงมา อีกทั้งยังภูมิใจในความสามารถของตน งานของเขาไม่มีทางที่จะมีท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยามใครเช่นนี้! นี่ยังไม่ได้พูดเรื่องอื่นเลยนะ อย่างแรกเลยก็คือ การไม่เคารพผลงานของตน!”“พวกท่าาคิดดูเถิด ปรมาจารย์จูจู้เป็นอัจฉริยะแห่งยุค เขาอาจจะมีการแสดงผลงานที่ไม่เหมือนกันได้ แต

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 110

    “สิ่งนี้เรียกว่าแว่นตากระจ่าง!”หลิงอวี๋รู้สึกว่าชื่อแว่นสายตามันไม่หรูหรามากพอ จึงได้เปลี่ยนชื่อนางยิ้มพลางเอ่ย “ตัวชั้นวางนี้ทำจากไม้กฤษณาฉีหนาน!”หลิงอวี๋เอ่ยคำนี้ออกไป ทุกคนก็เบิกตาโตหันมามองคนที่รู้เรื่องต่างก็รู้กัน ว่าไม้กฤษณามีหลายประเภท หากบอกว่าไม้กฤษณาทั่วไปคือไข่มุก เช่นนั้นไม้กฤษณาฉีหนานก็เป็นเหมือนเครื่องประดับราคาแพง!ไม้กฤษณาฉีหนานอย่างดีชิ้นหนึ่งสามารถขายได้ในราคานับหมื่นไปจนถึงนับแสนเลยทีเดียว!ดูเหมือนหลิงอวี๋จะไม่เห็นความปั่นป่วนที่นางก่อขึ้น นางหยิบแว่นตากระจ่างขึ้นมาและสาธิตวิธีใช้นางคล้องสร้อยไข่มุกไว้บนคอ ใส่เลนส์ไว้ที่สันจมูก สวมแล้วยิ้มพลางเอ่ย “เช่นนี้เพคะ ไทเฮาใช้สิ่งนี้จะทรงพระอักษรได้ชัดเจนมากเพคะ!"นี่คือสิ่งที่หลิงอวี๋ได้เตรียมไว้หลังจากที่ได้ยินแม่นมลี่พูดถึงในวังมีวิธีที่จะใส่ร้ายมากมาย เป็นการเลี่ยงไม่ให้มีใครมาทำอะไรกับของกำนัลของตนเอง ไม่คิดเลยว่าจะได้ใช้จริง ๆ “มีของที่มหัศจรรย์เช่นนี้ด้วยหรือ?”ทันทีที่ไทเฮาเหลียงได้ยินก็ให้ความสนใจทันที นางยิ้มพลางเอ่ย “ส่งขึ้นมาให้ข้าดูหน่อย! ข้ากำลังคิดว่าข้าแก่แล้ว มองสิ่งใดก็เลือนรางไปหมด หากสาม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 111

    ขณะที่หลิงอวี๋กำลังชมการแสดงร้องรำทำเพลงอยู่นั้น ไป่ซุ่ยนางกำนัลข้างกายไทเฮาก็เข้ามาและกระซิบข้างหูนาง“พระชายาอ๋องอี้ เชิญตามข้ามาเจ้าค่ะ ไทเฮาต้องการพบพระชายาตามลำพัง!”หลิงอวี๋ตะลึงไปครู่หนึ่ง เหลือบมองขึ้นมา เห็นไทเฮาที่อยู่บนเวทีไม่ได้อยู่ที่นั่งตรงนั้นแล้วนางพยักหน้าเบา ๆ แล้วจูงหลิงเยวี่ยเดินตามไป่ซุ่ยไป“พระชายาอ๋องอี้ ไทเฮามีพระชนมายุมากแล้ว ไม่ใช่ผู้ที่จะลืมบุญคุณคน...”ไป่ซุ่ยกระซิบ “เมื่อครู่ตอนที่พระชายาจะถูกบั่นหัว ไม่ใช่ว่าพระองค์ไม่อยากช่วย… พระชายาคิดดูดี ๆ ก็จะเข้าใจความลำบากพระทัยของไทเฮาเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋รู้ว่าไป๋ซุ่ยมีเจตนาดี มาเตือนตนเองว่า อย่าพูดเหลวไหลเมื่อพบกับไทเฮา ดังนั้นจึงพยักหน้าอย่างเข้าใจออกมาจากศาลาในสวน ก็จะพบกับศาลาแห่งหนึ่งเมื่อครู่ไทเฮาเหน็ดเหนื่อยมา จึงมานั่งพักอยู่ที่นี่“หลิงอวี๋คารวะไทเฮาเพคะ!”หลิงอวี๋ทำมือแสดงให้หลิงเยวี่ยอยู่ที่เดิม แล้วตนก็เดินไปที่บันไดและโค้งคำนับไทเฮาเหลียงถอดมงกุฎหงส์ออกแล้ว เผยให้เห็นผมสีขาวของนาง มองแล้วไม่ได้สง่างามเท่าบนเวทีก่อนหน้านี้ แต่เสื้อคลุมหงส์อันหรูหราบนร่างนั้น ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและต

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 112

    หลิงอวี๋กะพริบตาปริบ ๆ นางไม่สามารถอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นกับร่างของนางได้ เรื่องการให้ความสำคัญกับสามีให้มากก็ไม่ใช่แนวคิดของคนในโลกอนาคตอย่างนางสามารถรับได้แต่คำพูดของไทเฮากลับเตือนนางว่า ในสมัยโบราณอำนาจทางการเมืองมันมีขึ้นมีลง วันนี้จักรพรรดิอู่อันเป็นจักรพรรดิ แต่วันอื่นก็อาจเปลี่ยนเป็นคนอื่นเป็นจักรพรรดิได้ ตนเองจะยังสามารถเปลี่ยนเรื่องไม่ดีให้เป็นเรื่องดีได้หรือไม่?ในเมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่ในดินแดนฉินตะวันตกแล้ว นางก็ต้องหาผู้หนุนหลังที่แข็งแกร่งให้ตนเอง!“หลินเทียนเป็นหลานชายของข้า แม้ว่าจะมีความไม่สนิทใจต่อข้าอยู่บ้าง แต่ข้าก็ยังหวังให้เขาโชคดี!”ไทเฮามองหลิงอวี๋ พลางเอ่ยถาม “ขาของเขาบาดเจ็บ ได้ยินว่าไปหาหมอหายารักษามาทั่วทุกที่แล้วก็ยังไม่เห็นผล เจ้ามีความรู้เรื่องการรักษา เหตุใดจึงไม่คิดวิธีช่วยรักษาขาของเขาให้หายดีเล่า? เช่นนี้ก็จะสามารถทำให้ความสัมพันธ์ของสามีภรรยาปรองดองกันได้แล้ว!”หลิงอวี๋ใจเต้น เซียวหลินเทียนเป็นองค์ชาย อีกทั้งยังเป็นพ่อแท้ ๆ ของหลิงเยวี่ยด้วยความสัมพันธ์ขั้นนี้กับหลิงเยวี่ย นางก็คงไม่มีทางจะเป็นศัตรูกับเซียวหลินเทียนไปได้ทั้งชีวิตหรอก!ในเมื่อ

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1578

    กระทั่งลู่หนานกับทุกคนปีนขึ้นไปถึงแท่นกันหมด ทุกคนออกแรงดันร่วมกัน แต่ประตูเหล็กก็มิขยับ“ฮองเฮา นี่น่าจะเป็นประตูที่มีกลไกควบคุมอยู่พ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่มิรู้ว่ากลไกอยู่ข้างในหรือว่าข้างนอก พวกเราลองหากันดูเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ลู่หนานเสนอทุกคนก็แยกย้ายกันตามหาบริเวณใกล้ ๆหลิงอวี๋มองไปที่ประตูเหล็กที่ดูหนักหน่วงนั้น นอกจากมังกรทองนั้นแล้ว บนประตูเหล็กยังมีลวดลายแฝงอีกนับมิถ้วนลวดลายแฝงเหล่านี้มองแวบแรกเป็นเพียงแค่การตกแต่ง แต่เมื่อดูให้ละเอียดแล้วดูคล้ายกับรูปภาพสามมิติที่นางเคยเล่นในยุคปัจจุบัน ขอเพียงจ้องมองดูสักหน่อยก็จะเห็นรูปภาพที่ต่างกันอยู่ข้างในหลิงอวี๋เห็นภาพกลุ่มหนึ่ง บนนั้นเป็นรูปเหมือนคนเก่าแก่มากและแต่งตัวแปลก ๆ พวกเขากำลังต่อสู้กันอยู่อย่างดุเดือดคนกลุ่มสุดท้ายถูกบีบให้ยอมแพ้และอพยพไปในระหว่างการเดินทางที่ยาวไกลนั้น พวกเขาพบกับการไล่ล่า การสู้รบ การเกิดแก่เจ็บตาย และโรคภัยต่าง ๆ เดิมทีพวกเขาเป็นชนเผ่าที่มีกันอยู่หลายร้อยคน สุดท้ายกลับกลายเป็นยิ่งนานวันไปก็ยิ่งน้อยลง...ฉากสงครามเหล่านั้นถูกบรรยายจนทำให้หลิงอวี๋รู้สึกราวกับอยู่ในสถานการณ์จริง ราวกับว่านางเห็นความรุน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1577

    “งดงามมาก สวรรค์บนหล้ามนุษย์คงเป็นเช่นนี้กระมัง!”สุ่ยหลิงกับหานเหมยต่างก็ร้องออกมาอย่างตกตะลึงลู่หนานกับพวกองครักษ์ก็พากันเออออไปด้วยดอกไม้ที่ผลิบานงดงามเหล่านั้น น้ำตกที่ไหลลงมา ทั้งยังมีไอหมอกที่ลอยอยู่เหนือแอ่งน้ำลึก ทำให้กลายเป็นภาพที่มีความสวยสดงดงามยิ่งนักระหว่างที่หลิงอวี๋ประหลาดใจอยู่นั้น กลับรู้สึกถึงสนามแม่เหล็กที่แข็งแกร่งมากคลื่นสนามแม่เหล็กนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าบนเจดีย์วัดไคหยวนที่ติ้งโจววันนั้นอีก!สายตาของหลิงอวี๋มองไปทางน้ำตกด้านบน แสงอาทิตย์สาดส่องลงมา น้ำเหล่านั้นที่เป็นราวกับม่านธรรมชาติ สะท้อนเป็นแสงหลากสีราวกับมายาจู่ ๆ หลิงอวี๋ก็นึกถึงถ้ำม่านน้ำในไซอิ๋ว หลังน้ำตกมีถ้ำด้วยหรือไม่?นางรู้สึกได้ว่าศูนย์กลางน้ำตกนั้นเป็นสถานที่ที่สนามแม่เหล็กแข็งแกร่งที่สุด“ลู่หนาน!”หลิงอวี๋เรียกลู่หนาน แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “สถานที่แห่งนี้เหมาะแก่การบำเพ็ญตนมาก เจ้าจงแบ่งคน คนกลุ่มหนึ่งบำเพ็ญตนอยู่กับที่ ส่วนอีกกลุ่มรับผิดชอบในการระวังภัย!”“ข้าจะพาพวกเถาจื่อไปดูที่น้ำตกเสียหน่อย อาจจะพบอะไรก็ได้!”“ให้กระหม่อมตามท่านไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ลู่หนานเห็นน้ำตกที่สูงนั้นแล้วจะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1576

    คราวนี้หลิงอวี๋วางแผนไว้ว่าจะไปสามวัน หลี่ชุงบอกว่าภูเขาด้านหลังของหมู่บ้านตระกูลหลี่นั้นใหญ่มาก เครื่องยาสมุนไพรล้ำค่าเหล่านั้นสามารถพบได้ในสถานที่ที่คนมิอาจเข้าถึงได้เท่านั้นออกไปหนนี้ หลิงอวี๋เตรียมเสบียงไปจำนวนหนึ่ง คนที่พาไปก็ล้วนเป็นคนที่มีวรยุทธ์ และเข้าไปในส่วนลึกของภูเขาด้านหลังในวันนั้นเลยดังที่หลี่ชุงได้บอกไว้ ยิ่งเดินลึกเข้าไป เครื่องยาสมุนไพรก็ยิ่งมาก หลิงอวี๋มิสนใจเครื่องยาสมุนไพรทั่วไป แล้วเลือกเก็บเอาเครื่องยาสมุนไพรที่ยากจะพบในยามปกติการฝึกฝนของหลิงอวี๋พัฒนาขึ้น ทั้งยังเรียนรู้การสร้างแหวนพระสุเมรุระดับต่ำในมิติอีกด้วย นางจึงทำมอบให้เถาจื่อ สุ่ยหลิงและพวกนางรับใช้ข้างกายทุกคนเช่นนี้แล้วเมื่อทุกคนเก็บเครื่องยาสมุนไพรจึงมิต้องแบก ล้วนใส่ไว้ในแหวนพระสุเมรุกันทั้งหมดเถาจื่อกับพวกสุ่ยหลิงได้รับแหวนพระสุเมรุครั้งแรกก็ตกใจมาก พวกนางมิคาดคิดว่าข้างในของแหวนเล็ก ๆ จะมีพื้นที่ใหญ่ถึงเพียงนั้น ที่สามารถเก็บสิ่งของของตนเข้าไปได้ทั้งหมด อีกทั้งหลิงอวี๋ก็บอกพวกนางว่าพื้นที่นี้จะขยายใหญ่ตามการฝึกฝนของพวกนางที่พัฒนาขึ้นด้วยพวกนางรับใช้จึงถูกล่อลวงในทันที พวกนางจึงยิ่งฝึก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1575

    เซียวหลินเทียนพูดเช่นนี้ หลิงอวี๋ก็วางใจไปได้มากก็จริง แม้ว่าการฝึกฝนพลังวิญญาณของเซียวหลินเทียนจะมิสู้จ้าวหรุ่ยหรุ่ย ทว่าหากจ้าวหรุ่ยหรุ่ยคิดจะวางแผนใส่โดยที่เขามิรู้ตัวนั้น เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปมิได้แต่แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่หลิงอวี๋เองก็มิสามารถวางใจได้อย่างเต็มที่ จึงเอ่ยกับเซียวหลินเทียนอย่างเอาแต่ใจ “อยู่ในวังหลวง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ยังกล้าจะลองหยั่งเชิงท่าน นางจะต้องรู้แล้วอย่างแน่นอนว่าการฝึกฝนของท่านมิสู้ของนาง!”“เซียวหลินเทียน คืนนี้ท่านจะต้องฝึกฝนต่อ พยายามบรรลุไปให้ถึงขั้นสูงของดินแดนที่สี่ให้ได้!”เซียวหลินเทียนใบหน้าขมขื่นไปทันที แล้วมองหลิงอวี๋อย่างน่าสงสารหากฝึกฝนก็ต้องเสียเวลาทั้งคืนไป เขายังอยากจะมีลูกกับหลิงอวี๋อีกสักคน หากมิขยันแล้วจะมีลูกได้อย่างไรกัน!“ใช้สายตาเช่นนี้มามองหม่อมฉันก็ไม่มีประโยชน์เพคะ! คืนนี้หากมิเลื่อนไปถึงขั้นสูงของดินแดนที่สี่ ต่อไปก็มิอนุญาตให้ขึ้นเตียงของหม่อมฉัน!”หลิงอวี๋เท้าเอวจ้องมองเซียวหลินเทียนราวกับสตรีผู้โหดร้ายคนผู้นี้เคยได้อะไรแล้วก็อยากจะได้อีก ทุกคืนเอาแต่เอาเรื่องที่จะมีลูกอีกคนมาคลอเคลียตน เอวของนางเกือบจะหักอยู่แล้ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1574

    เมื่อมีท่าทีเล็ก ๆ นี้ หลิงอวี๋จึงยิ่งระวังจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิเพียงแต่ของที่ตนกินดื่ม แม้แต่ของที่ไทฮองไทเฮากินและดื่ม หลิงอวี๋ก็จะระวังจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมากแต่ท่าทีที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยแสดงออกมานั้นปกติมาก มิได้แตะต้องของกินของทั้งสองคนแต่แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ หลิงอวี๋ก็ยังมิอาจวางใจได้นางรู้สึกว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยลึกลับมาก ยอดฝีมือในดินแดนที่หก หากจะลงมือต้องมิทันได้รู้ตัวอย่างแน่นอน นางมิอยากให้ตนตายไปแบบมิรู้เรื่องใดที่จริงแล้วสตรีทั้งสี่ก็มิได้มีสิ่งใดให้พูดคุยกัน ภายนอกพวกนางคือครอบครัวเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นศัตรู เมื่อถอดหน้ากากความเป็นครอบครัวออกก็ล้วนเกลียดกันจนมิใครก็มิใครต้องตายหลังจากคุยกันไปสักพัก และรับประทานอาหารเสร็จ ไท่เฟยเส้ากับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ขอตัวลาหลิงอวี๋รอให้พวกนางไป แล้วให้หลิงซวนกับแม่นมเว่ยรีบตรวจสอบในจุดที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยกับไท่เฟยเส้าแตะต้องอย่างละเอียดทันทีไทฮองไทเฮาเห็นดังนั้นก็ยิ้มออกมา “อาอวี๋ เจ้ากังวลมากเกินไปหรือไม่? พวกนางสองคนมิได้ไปที่อื่นเลยนอกจากโถงใหญ่ ในโถงใหญ่เองก็มีทุกคนจับตามองอยู่ พวกนางจะทำสิ่งใดได้!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างเคร่งขรึม “

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1573

    “ข้านึกขึ้นได้ว่ามีธุระ ขอตัวก่อน!”“อาอวี๋ เจ้าอยู่กินอาหารกับไท่เฟยเส้าและไทฮองไทเฮาเถิด!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นพี่สะใภ้ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องร่วมโต๊ะอาหารกับเซียวหลินเทียน เซียวหลินเทียนจึงบอกกับหลิงอวี๋และไทฮองไทเฮาแล้วกำลังจะไป“ฝ่าบาท หรุ่ยหรุ่ยรบกวนการเสวยของพวกท่านหรือเพคะ?”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเอ่ยด้วยใบหน้าที่อึดอัดเจือความรู้สึกผิด “หรุ่ยหรุ่ยแค่อยากจะมาคารวะไทฮองไทเฮาเพคะ หากมิสะดวก เช่นนั้นหรุ่ยหรุ่ยขอทูลลา!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะอยู่ในใจ ระดับความเสแสร้งของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้นี้มิได้ด้อยไปว่าจ้าวเจินเจินเลยแม้แต่น้อย!เซียวหลินเทียนกำลังหลีกเลี่ยง แม้ว่าคนที่เข้าใจจะรู้ว่าเป็นเพียงข้ออ้างก็มิควรเอ่ยออกมาอย่างชัดเจน แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยกลับหยิบยกมาพูดแสร้งทำเป็นกระต่ายขาวตัวน้อยผู้ไร้เดียงสา!“พี่สะใภ้รอง องค์จักรพรรดิมีธุระจริง ๆ เมื่อครู่ก็บอกไว้แล้ว ให้เขาไปเถิด พวกเราบรรดาสตรีกินด้วยกันก็พอแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้มให้เซียวหลินเทียนเล็กน้อยพลางเอ่ย “ฝ่าบาท กลางคืนหม่อมฉันจะเตรียมพระกระยาหารมื้อดึกไว้ให้ ท่านจัดการเรื่องบ้านเมืองเสร็จแล้วก็มาเสวยเถิดเพคะ!”เซียวหลินเทียนสับสนไปในทันที เข

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1572

    ไท่เฟยเส้ามิได้พอใจกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้เป็นสะใภ้มากนัก ก่อนหน้านี้นางหวังให้ตระกูลจ้าวให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยแต่งงานเข้ามาและสามารถช่วยให้องค์ชายคังประสบความสำเร็จได้แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเผชิญหน้ากับหลิงอวี๋ครั้งแรกก็พ่ายแพ้แล้ว สิ่งนี้ทำให้ไท่เฟยเส้าผิดหวังเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะมาไหว้ตน ไท่เฟยเส้าก็เรียกเข้ามาตำหนิภายนอกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยฟังอย่างนอบน้อม แต่ในใจอยากจะจัดการนางดังเช่นที่ทำกับองค์ชายคัง“สิ่งที่หมู่เฟยสอนก็คือ คราวนี้หรุ่ยหรุ่ยไม่มีประสบการณ์ เตรียมการมิมากพอ ครั้งต่อไปจะมิให้หลิงอวี๋รอดไปได้แล้วเพคะ!”คำพูดอ่อนโยนของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยทำให้ความโกรธของไท่เฟยเส้าเบาบางลงไปมาก อย่างน้อยจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็สามารถบีบให้หลิงอวี๋อยู่ในสถานการณ์อับจนได้ เมื่อเทียบกับจ้าวเจินเจินแล้วจ้าวหรุ่ยหรุ่ยดีมากแล้วไท่เฟยเส้าได้ต่อว่าไปแล้วน้ำเสียงก็อ่อนลงมา แล้วก็เอ่ยด้วยความเกลียด “ตอนนี้ในวังอยู่ในการควบคุมของหลิงอวี๋กับยายเฒ่านั่น หมู่เฟยจะทำอะไรก็มิได้สะดวกนัก”“หมู่เฟยอยากให้ยายแก่นั่นตายไปเร็ว ๆ เช่นนี้แล้วหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนก็จะไม่มียายเฒ่าคอยหนุนหลัง ก็จะจัดการได้ง่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1571

    สำหรับคำถามของหลิงอวี๋ ฮูหยินผู้เฒ่าเผยกับใต้เท้าเผยได้หารือกันในบ้านแล้วฮูหยินผู้เฒ่าเผยเองก็รู้ว่า หากเอาเรื่องที่หลิงหว่านต้องไว้ทุกข์แม่สามปีมาถอนหมั้นนั้นฟังมิขึ้น แต่นางกับตระกูลเผยล้วนมิชอบหลิงหว่าน จึงยอมที่จะถูกด่าลับหลังและยืนกรานที่จะถอนหมั้นฮูหยินผู้เฒ่าเผยมิกล้าพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา จึงทำได้เพียงเอ่ยอย่างนุ่มนวล “ฮองเฮา การแต่งงานเป็นการผูกสัมพันธ์ที่ดีของสองตระกูล มิใช่การผูกความโกรธแค้น...”“ถือเสียว่าตระกูลเผยขอโทษคุณหนูหลิง ขอร้องให้ฮองเฮาทรงเห็นใจ ตกลงกับคำร้องที่จะถอนพระราชโองการด้วยเถิดเพคะ สินสอดก่อนหน้านี้ก็ถือเป็นการชดใช้ให้คุณหนูหลิงเถิด!”หลิงหว่านได้ยินก็โกรธมาก จึงเอ่ยเรียบ ๆ “หม่อมฉันมิต้องการการชดใช้! ฮองเฮา ท่านตกลงเถิดเพคะ! หม่อมฉันหลิงหว่าน แม้ว่าชีวิตนี้จะมิได้แต่งงานก็ไม่มีทางร้องขอแต่งงานเข้าตระกูลเผย!”หลิงอวี๋ทอดถอนใจอยู่ในใจ แม้ว่านางจะรู้สึกว่าเผยอวี้คือคนที่หลิงหว่านสามารถไว้วางใจไปได้ตลอดชีวิต แต่ตระกูลเผยทั้งหลายต่อต้านหลิงหว่านเช่นนี้ หากหลิงหว่านแต่งงานเข้าไปก็ไม่มีทางใช้ชีวิตอย่างมีความสุขการแต่งงานมิใช่การแต่งกับคนคนเดียว โดยเฉพา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1570

    จ้าวฮุยได้ยินคำสั่งนี้ก็ตะลึงไปทันที ถึงจะเป็นในความฝันเขาก็มิคาดคิดว่าเซียวหลินเทียนจะส่งตนออกไปแคว้นพันและแคว้นเฉิงนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงไปหลายพันลี้ การเดินทางไปกลับนั้นอย่าว่าแต่ห่างไกลและลำบากเลย หากไม่มีตนอยู่คอยช่วยองค์ชายคังอยู่ที่เมืองหลวง กระทั่งตนไปกลับใช้เวลาหลายเดือนนี้ สถานการณ์ในราชสำนักจะเป็นอย่างไรเล่า?“ฝ่าบาท...”จ้าวฮุยรู้สึกสับสนวุ่นวายในทันที หากเขาอ้างว่าป่วยมิไป เซียวหลินเทียนเองก็มิอาจบังคับให้ตนไปได้ทว่าเซียวหลินเทียนอาจจะใช้เรื่องที่ตนอ้างว่าป่วยมาบีบให้ตนพักผ่อนและถือโอกาสผลักตนออกไปได้และเพียงชั่วครู่ จ้าวฮุยก็ได้ทำการตัดสินใจเขาก้าวออกไปเอ่ยเสียงเรียบ “การผลักดันห่วงโซ่อุตสาหกรรมวัวนมเป็นเรื่องดีที่เป็นประโยชน์ต่อแคว้นและราษฎร ฝ่าบาทมอบหมายเรื่องสำคัญเช่นนี้ให้กระหม่อมทำ กระหม่อมก็จะตั้งใจทำงานนี้อย่างดีเพื่อฝ่าบาท ให้สมกับความไว้วางพระทัยของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”“กระหม่อมรับพระบัญชา!”องค์ชายคังได้ยินดังนั้นก็รู้สึกกังวลมาก นี่เซียวหลินเทียนกำลังตัดกำลังของตนให้อ่อนแอลงทีละขั้น!จ้าวฮุยรับปากว่าจะไป เหตุใดจึงได้โง่เช่นนี้!“ฝ่าบาท อัครเสนาบดีจ้าว

DMCA.com Protection Status