เมื่อเห็นมีดบนคอของเถาจื่อ หลี่ว์จงเจ๋อก็ตะคอกออกมาด้วยความโกรธ“หยางหมิง เจ้ามีความผิดแล้ว! พระชายาของเรามาตรวจพวกเจ้าด้วยเจตนาดี มิคิดเลยว่าพวกเจ้าจะคิดจับพระชายาเป็นตัวประกันไม่ว่าตั้งใจหรือจงใจจริง ๆ!”“พวกเจ้ามีเจตนาชั่วร้าย นี่คิดจะไปลอบสังหารท่านอ๋องรึ?”หยวนเจี้ยนตะโกนร่วมด้วย “พี่น้องทุกคน เราต้องมิปล่อยให้พวกเขาทำสำเร็จ! ทุกคนลุย!”องครักษ์ที่เขาพามาก็รีบพุ่งเข้ามา และหยางหมิงก็ตะโกนขึ้น “พวกเจ้ามิต้องการชีวิตของพระชายาอ๋องอี้แล้วใช่หรือไม่? หากกล้าก้าวเข้ามาอีกก้าวหนึ่ง พวกเราจะฆ่านางเสีย!”เถาจื่อจงใจปล่อยให้คนของหยางหมิงจับนางไว้ นางเองก็ร่วมมือด้วยเพราะหลิงอวี๋อยากให้หยางหมิงมีความผิดลอบสังหารพระชายาเมื่อเห็นว่าหยางหมิงจับตัวไป เถาจื่อก็แสร้งทำเป็นหวาดกลัวยืนไม่นิ่ง เซไปข้าง ๆ แล้วกรีดร้อง“ช่วยด้วย พวกเขาจะลอบสังหารข้า ช่วยด้วย ฆ่าพวกเขาที!”เถาจื่อจงใจให้โดนปลายมีดของผู้คุ้มกันตอนที่ล้มลง ที่คอจึงมีรอยเลือดปรากฏขึ้นขณะที่นางยังโซเซอยู่นั้นก็สะดุดเท้าของผู้คุ้มกันจนเขายืนไม่มั่นคงแล้วล้มลงเถาจื่อใช้โอกาสนี้เคลื่อนออกจากระยะการโจมตีของผู้คุ้มกันนั้นเมื่อหยว
“บังอาจ!”เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมกับเสียงกีบม้า ยังมิทันที่ทุกคนจะได้ตอบสนองอะไร ลูกธนูอันแหลมคมก็ยิงไปพร้อมเสียงที่ผ่านอากาศมาท่านจินต้ากำลังคิดว่าเขากำลังจะตาย แล้วก็รู้สึกได้ว่าเลือดสด ๆ สาดไปทั่วใบหน้าของตนเขาเงยหน้ามองก็เห็นว่าผู้คุ้มกันที่กำลังจะฆ่าตนมีลูกธนูปักอยู่ในดวงตาของเขา มันทะลุจากเบ้าตาไปทางด้านหลังหัว“หยางจื้อฟาง เจ้าจะก่อกบฏรึ? กล้าดีเยี่ยงไรมาฆ่าคนของข้า! ผู้ใดมันให้ความกล้าหาญนี้แก่เจ้า!”เซียวหลินเทียนควบม้ากีบขาวเข้ามาพลางยกดาบ เจ้าหน้าที่ทหารกับผู้คุ้มกันของตระกูลหยางที่วิ่งเข้ามาอยู่ด้านหน้าสุดก็ล้มลงไปทีละคน“ทุกคนหยุด ใครกล้าลงมืออีกจะถือว่าเป็นการกบฏ และจะถูกสังหารทั้งหมด!”เสียงตะโกนของเซียวหลินเทียนดังก้องไปทั่วฟ้า พร้อมด้วยหัวมนุษย์ที่เปื้อนเลือดบนปลายดาบของเขา ทำให้คนที่อยู่ในที่นั้นนิ่งค้างไปทันทีทันทีที่หยางจื้อฟางเห็นเซียวหลินเทียนปรากฏตัว ก็รู้เลยว่าแผนของพวกเขาล้มเหลวหยางจื้อฟางตะโกนทันที “หยุด!”ทั้งสองฝ่ายที่กำลังต่อสู้กันต่างหยุด และมองเซียวหลินเทียนอย่างต่างคนต่างคิดคนที่อยู่ฝั่งของหลี่ว์จงเจ๋อถอนหายใจโล่งอก ท่านอ๋องอี้มาถึงทันเวลา
หยางจื้อฟางคิดว่าเรื่องนี้จะยุติลงเช่นนี้จริง ๆ แต่สีหน้าของเซียวหลินเทียนก็เปลี่ยนไป เขายิ้มเยาะพลางเอ่ย“ข้าหลวงหยาง เจ้าบอกว่าเจ้ามิได้ยินที่แม่ทัพหลี่ว์กับคนอื่น ๆ เปิดเผยตัวตนของพวกเขา จึงได้ทำร้ายองครักษ์ของข้าโดยมิตั้งใจ ข้ามิโต้เถียงกับเจ้าก็ได้!”“แต่เรื่องของหยางหมิงนั้นมิสมเหตุสมผลเลย! เขารู้ว่าข้าประจำการอยู่ที่เจ่าจวง ก็ยังกล้าพาคนมาจับตัวพระชายาของข้าอีก! เจ้าขวัญกล้าเกินไปหรือไม่?”หยางหมิงถูกคนของหยวนเจี้ยนจับตัวไว้ ขาของเขาถูกฟันและมีเลือดไหลอยู่เต็มพื้น จากนั้นก็ถูกองครักษ์สองคนพาตัวมา“ช่วยด้วย… ข้าหลวงหยาง ท่านอ๋องอี้ มิใช่ว่ากระหม่อมอยากจะหยาบคายกับพระชายาอ๋องอี้นะพ่ะย่ะค่ะ แต่.. .แต่กระหม่อมสงสัยว่าพวกเขามีเจตนาร้ายต่อท่านอ๋อง จึงได้หุนหันพลันแล่นไป…”หยางหมิงแอบบ่น ท่านอ๋องอี้อยู่ที่นี่ เช่นนั้นเหตุผลที่เขาใช้บุกเข้ามาเมื่อครู่จึงใช้การมิได้แล้ว เขาจะพูดกลบเกลื่อนคำโกหกของตนเองได้เยี่ยงไร!“บังอาจ! คนของข้าจะมีเจตนาร้ายต่อข้าได้เยี่ยงไร! ข้าว่าเจ้าต่างหากที่เจ้าเล่ห์อยากลอบสังหารข้า ถึงได้จงใจพาคนบุกมาที่นี่!”เซียวหลินเทียนตะโกนด้วยความโกรธ “ใครก็ได้ จับค
เซียวหลินเทียนก็ไม่ไว้หน้าใด ๆ พลางเอ่ยอย่างเย็นชา “ข้าหลวงหยาง ตอนนี้เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว เจ้าควรไปหาที่พักผ่อนก่อน! รุ่งสางแล้วค่อยว่ากัน!”“ข้ายังต้องจัดการกับคนเกเรเหล่านี้อีก!”“หยางต้าหู่ องครักษ์กับเจ้าหน้าที่ของข้าถูกคนของเจ้าสังหาร เจ้าต้องมีคำอธิบายให้ข้าด้วย!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างเย็นชา “มิเช่นนั้นข้าจะทูลรายงานต่อองค์จักรพรรดิ และถามผู้ตรวจอวิ๋นโจวว่าบ้านเขามีผู้คุ้มกันกี่คนที่สามารถต่อสู้ได้!”สีหน้าของหยางต้าหู่ชะงักไป นี่เขากำลังเอาอนาคตของบุตรชายตนมาขู่ตนหรือ?เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างไม่แสดงสีหน้าใด ๆ “ตระกูลหยางทำการค้าเครื่องยาสมุนไพรมิใช่หรือ? คนของข้าได้รับบาดเจ็บต้องการเครื่องยาสมุนไพรมารักษา หยางต้าหู่ควรเอาเครื่องยาสมุนไพรมาชดเชยพวกเขา!"“ต้องส่งมาตอนรุ่งสาง มิเช่นนั้นพวกเขาจะไม่มียารักษา เช่นนั้นหยางต้าหู่กับข้าหลวงหยางเจ้าก็ตามข้าไปที่เมืองหลวงเพื่ออธิบายให้องค์จักรพรรดิฟังด้วย!”พูดจบ เซียวหลินเทียนก็หันหลังเดินไปและยังกำชับหยวนเจี้ยนด้วย“จัดนักธนูไว้ตรงรั้วกั้น หากอันธพาลคนใดกล้าถือมีดเข้ามาใกล้ ไม่จำเป็นต้องรายงานข้า ฆ่าได้หมดเลย!”“พ่ะย่ะค่ะ!”
เซียวหลินเทียนครุ่นคิด ไม่นานก็คิดแผนขึ้นมาได้เขาเอ่ยเสียงขรึม “หลิงอวี๋ มียาพิษชนิดใดที่ทำให้ดูเหมือนติดโรคระบาดได้หรือไม่?”หลิงอวี๋มองเซียวหลินเทียนอย่างแปลกใจ “ท่านจะแกล้งทำเป็นติดเชื้อหรือ?”“มิใช่ข้า แต่เป็นหยางจื้อฟาง! เขานำกองกำลังออกมา เป็นโอกาสของเราที่จะจับเขาไว้! แต่เรายังต้องรอกำลังเสริม จึงมิสามารถกระชากหน้ากากเขาได้ทันที!”เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงขรึม “หากหยางจื้อฟางติดโรคระบาด ข้าสามารถใช้ข้ออ้างที่เว่ยโจวมิสามารถอยู่ได้หากไม่มีเจ้าเมือง แล้วส่งฉินซานไปดูแลเว่ยโจวก่อนชั่วคราว!”“พวกเขาสามารถโจมตีเราแต่ละคนได้ แล้วเหตุไฉนข้าจะแยกพวกเขาออกจากกันแล้วจัดการมิได้เล่า!”หลิงอวี๋ใจสั่น พยักหน้าพลางเอ่ย “กักตัวหยางจื้อฟางไว้ที่หออักษรก็ดีเหมือนกัน แต่หม่อมฉันคิดว่ามิเหมาะสมที่จะทำเช่นนั้นในเวลานี้! วันนี้หยางจื้อฟางมิได้เปิดโปงท่าน อาจเป็นเพราะเขาเดาว่าท่านคงมิได้รู้อะไรมาก!”“แต่หากท่านกักตัวหยางจื้อฟางไว้ ก็เท่ากับบอกพวกเขาว่าท่านได้หลักฐานมาแล้ว!”“หากเป็นเช่นนี้ แม้ว่าฉินซานจะเข้าไปดูแลเว่ยโจว แต่ท่านก็ต้องแบ่งกำลังให้เข้าไปปราบปรามเว่ยโจวไว้ เรามีกันไม่มาก ถึงเวลาน
ท่านจินต้าฟังคำพูดของเซียวหลินเทียนก็ยังคงกังวลเล็กน้อย “ท่านอ๋อง หากแม่ทัพเซี่ยยังคงต่อต้านต่อ มันจะอันตรายเกินไปสำหรับท่านอ๋องที่นำคนไปเพียงร้อยคนพ่ะย่ะค่ะ!”หลี่ว์จงเจ๋อยังเอ่ยอย่างกังวล “เมื่อคืนนี้หยางหมิงฉวยโอกาสตอนท่านไม่อยู่ กล่าวหาว่าท่านทำผิดในการหลบหนีไป นี่ก็เป็นการพิสูจน์ว่า คนเหล่านี้ผยองมาก! พวกเขาทำได้ทุกอย่าง!”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้วพลางเอ่ย “พวกเขากล้าทำแม้แต่สมรู้ร่วมคิดกับแคว้นศัตรู ข้าเชื่อว่าพวกเขาทำได้ทุกอย่างจริง ๆ!”“ด้วยเหตุนี้ เราจะรอให้พวกเขาลงมือมิได้! เราทำได้เพียงชิงลงมือก่อน!”หลิงอวี๋คิดแบบเดียวกับเซียวหลินเทียนจึงเอ่ย “เรื่องมาถึงขั้นนี้ก็ไม่มีทางอื่นแล้ว! ทำตามที่ท่านอ๋องบอกเถิด!”“จริงสิ เรื่องที่ให้เถาจื่อปลอมเป็นหม่อมฉันในวันนี้ก็เป็นวิธีหนึ่ง! ท่านอ๋องหาองครักษ์ที่มีส่วนสูงพอ ๆ กับท่านมาปลอมเป็นท่านสักคน เช่นนี้ก็จะไม่มีใครสังเกตเห็นท่านหลังจากที่ท่านออกไปจากเจ่าจวงอย่างเงียบ ๆ แล้ว! สิ่งนี้สามารถซื้อเวลาให้เราได้!”“เราปล่อยให้หยางจื้อฟางติดเชื้อโรคระบาดมิได้ ก็ให้หยางต้าหู่ติดเชื้อ หากเราควบคุมหยางต้าหู่ที่เป็นหัวหน้าของหลายตระกูลใหญ่ได้ ท
หลิงอวี๋คิดว่าอยู่ที่นี่เซียวหลินเทียนถูกรายล้อมไปด้วยอันตราย จึงมิอยากพูดทำลายบรรยากาศนางยิ้มพลางเอ่ย “เช่นนั้นท่านก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี! ออกไปครั้งนี้ต้องระวังเรื่องความปลอดภัย แล้วก็ห้ามเอาตัวเองไปเสี่ยงเพคะ! เราต้องรอดชีวิต ในภายหน้ามีเทศกาลมากมายให้เฉลิมฉลอง!”“เจ้าก็เช่นกัน!”เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงขรึม “เจ้าต้องดูแลตัวเองด้วย... ข้าจัดการแม่ทัพเซี่ยแล้วจะกลับมาโดยเร็วที่สุด!”“เพคะ… ตอนนี้ดึกแล้ว ท่านรีบกลับไปพักผ่อนเถิด!”หลิงอวี๋หยุดที่ประตูหออักษร โบกมือให้เซียวหลินเทียนแล้วเดินเข้าไป“หลิงหลิง…” เซียวหลินเทียนเอ่ยปาก แต่สุดท้ายก็ไม่มีเสียงใดหลุดรอดออกมา เขามองส่งนางเข้าไปเช่นนั้นชั่วครู่หนึ่ง เซียวหลินเทียนคิดอยากจะทำอะไรบางอย่าง อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาหยุดไว้ เขายังไม่รู้แน่ว่าตนคิดอย่างไรกับหลิงอวี๋!แต่ท่าทีของหลิงอวี๋ที่มีต่อตนนั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง!หลังจากที่หลิงอวี๋ถูกเฆี่ยนตีครั้งที่แล้ว เขาไม่เห็นความหลงใหลในตัวเขาจากสายตาของหลิงอวี๋อีกเลย!หลิงอวี๋ไม่ชอบเขาอีกต่อไปแล้ว!หลิงอวี๋รักษาขาให้เขา ความสัมพันธ์กับเขาก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ความดีเช่นนี้
เซียวหลินเทียนยิ่งคิดก็ยิ่งไม่สบายใจ จึงเอ่ยถามไปโดยไม่รู้ตัว “ลู่หนาน เจ้ากับหลิงซวนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน นางเคยบอกเจ้าหรือไม่ว่าหลังจากพระชายาหย่าร้างกับข้าแล้วมีแผนอะไรต่อ?”ลู่หนานตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยอย่างสุภาพ “นับตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่กระหม่อมช่วยพูดให้ชิวเหวินซวง หลิงซวนก็มิสนใจกระหม่อมเลย! แม้ว่านางจะคุยกับกระหม่อมแต่ก็ทำไปตามหน้าที่พ่ะย่ะค่ะ!”“สตรีผู้นี้ขี้น้อยใจนัก กระหม่อมขอโทษนางไปแล้วแต่นางก็ยังมิเปลี่ยนท่าที!”“นางบอกว่าอาจารย์ของนางบอกไว้แล้วว่า มิช้าก็เร็วจะต้องออกจากตำหนักอ๋องอี้ แล้วบอกให้นางรักษาระยะห่างกับคนของตำหนักอ๋องอี้เพื่อที่ต่อไปจะได้ออกจากที่นี่ได้อย่างมิลำบากใจ!”พอฟังจบสีหน้าของเซียวหลินเทียนก็เปลี่ยนไปหลิงอวี๋เองก็คิดเช่นนี้หรือ?ดังนั้นนางจึงมิใกล้ชิดกับตนเหมือนเมื่อก่อนแล้วสินะ!“ท่านอ๋อง กระหม่อมได้ยินแม่นมลี่กับหลิงซวนบอกว่า ต่อไปพระชายาจะพาพวกนางออกจากเมืองหลวง ไปซื้อบ้านหลังใหญ่ ๆ สักหลังในสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จักพวกนาง!”“แม่นมลี่ยังบอกด้วยว่า นางอยากหาสามีที่ปฏิบัติต่อพระชายากับเยวี่ยเยวี่ยอย่างดีให้กับพระชายา!”หัวใจของเ