Share

บทที่ 748

Author: กานเฟย
เซียวหลินเทียนครุ่นคิด ไม่นานก็คิดแผนขึ้นมาได้

เขาเอ่ยเสียงขรึม “หลิงอวี๋ มียาพิษชนิดใดที่ทำให้ดูเหมือนติดโรคระบาดได้หรือไม่?”

หลิงอวี๋มองเซียวหลินเทียนอย่างแปลกใจ “ท่านจะแกล้งทำเป็นติดเชื้อหรือ?”

“มิใช่ข้า แต่เป็นหยางจื้อฟาง! เขานำกองกำลังออกมา เป็นโอกาสของเราที่จะจับเขาไว้! แต่เรายังต้องรอกำลังเสริม จึงมิสามารถกระชากหน้ากากเขาได้ทันที!”

เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงขรึม “หากหยางจื้อฟางติดโรคระบาด ข้าสามารถใช้ข้ออ้างที่เว่ยโจวมิสามารถอยู่ได้หากไม่มีเจ้าเมือง แล้วส่งฉินซานไปดูแลเว่ยโจวก่อนชั่วคราว!”

“พวกเขาสามารถโจมตีเราแต่ละคนได้ แล้วเหตุไฉนข้าจะแยกพวกเขาออกจากกันแล้วจัดการมิได้เล่า!”

หลิงอวี๋ใจสั่น พยักหน้าพลางเอ่ย “กักตัวหยางจื้อฟางไว้ที่หออักษรก็ดีเหมือนกัน แต่หม่อมฉันคิดว่ามิเหมาะสมที่จะทำเช่นนั้นในเวลานี้! วันนี้หยางจื้อฟางมิได้เปิดโปงท่าน อาจเป็นเพราะเขาเดาว่าท่านคงมิได้รู้อะไรมาก!”

“แต่หากท่านกักตัวหยางจื้อฟางไว้ ก็เท่ากับบอกพวกเขาว่าท่านได้หลักฐานมาแล้ว!”

“หากเป็นเช่นนี้ แม้ว่าฉินซานจะเข้าไปดูแลเว่ยโจว แต่ท่านก็ต้องแบ่งกำลังให้เข้าไปปราบปรามเว่ยโจวไว้ เรามีกันไม่มาก ถึงเวลาน
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 749

    ท่านจินต้าฟังคำพูดของเซียวหลินเทียนก็ยังคงกังวลเล็กน้อย “ท่านอ๋อง หากแม่ทัพเซี่ยยังคงต่อต้านต่อ มันจะอันตรายเกินไปสำหรับท่านอ๋องที่นำคนไปเพียงร้อยคนพ่ะย่ะค่ะ!”หลี่ว์จงเจ๋อยังเอ่ยอย่างกังวล “เมื่อคืนนี้หยางหมิงฉวยโอกาสตอนท่านไม่อยู่ กล่าวหาว่าท่านทำผิดในการหลบหนีไป นี่ก็เป็นการพิสูจน์ว่า คนเหล่านี้ผยองมาก! พวกเขาทำได้ทุกอย่าง!”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้วพลางเอ่ย “พวกเขากล้าทำแม้แต่สมรู้ร่วมคิดกับแคว้นศัตรู ข้าเชื่อว่าพวกเขาทำได้ทุกอย่างจริง ๆ!”“ด้วยเหตุนี้ เราจะรอให้พวกเขาลงมือมิได้! เราทำได้เพียงชิงลงมือก่อน!”หลิงอวี๋คิดแบบเดียวกับเซียวหลินเทียนจึงเอ่ย “เรื่องมาถึงขั้นนี้ก็ไม่มีทางอื่นแล้ว! ทำตามที่ท่านอ๋องบอกเถิด!”“จริงสิ เรื่องที่ให้เถาจื่อปลอมเป็นหม่อมฉันในวันนี้ก็เป็นวิธีหนึ่ง! ท่านอ๋องหาองครักษ์ที่มีส่วนสูงพอ ๆ กับท่านมาปลอมเป็นท่านสักคน เช่นนี้ก็จะไม่มีใครสังเกตเห็นท่านหลังจากที่ท่านออกไปจากเจ่าจวงอย่างเงียบ ๆ แล้ว! สิ่งนี้สามารถซื้อเวลาให้เราได้!”“เราปล่อยให้หยางจื้อฟางติดเชื้อโรคระบาดมิได้ ก็ให้หยางต้าหู่ติดเชื้อ หากเราควบคุมหยางต้าหู่ที่เป็นหัวหน้าของหลายตระกูลใหญ่ได้ ท

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 750

    หลิงอวี๋คิดว่าอยู่ที่นี่เซียวหลินเทียนถูกรายล้อมไปด้วยอันตราย จึงมิอยากพูดทำลายบรรยากาศนางยิ้มพลางเอ่ย “เช่นนั้นท่านก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี! ออกไปครั้งนี้ต้องระวังเรื่องความปลอดภัย แล้วก็ห้ามเอาตัวเองไปเสี่ยงเพคะ! เราต้องรอดชีวิต ในภายหน้ามีเทศกาลมากมายให้เฉลิมฉลอง!”“เจ้าก็เช่นกัน!”เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงขรึม “เจ้าต้องดูแลตัวเองด้วย... ข้าจัดการแม่ทัพเซี่ยแล้วจะกลับมาโดยเร็วที่สุด!”“เพคะ… ตอนนี้ดึกแล้ว ท่านรีบกลับไปพักผ่อนเถิด!”หลิงอวี๋หยุดที่ประตูหออักษร โบกมือให้เซียวหลินเทียนแล้วเดินเข้าไป“หลิงหลิง…” เซียวหลินเทียนเอ่ยปาก แต่สุดท้ายก็ไม่มีเสียงใดหลุดรอดออกมา เขามองส่งนางเข้าไปเช่นนั้นชั่วครู่หนึ่ง เซียวหลินเทียนคิดอยากจะทำอะไรบางอย่าง อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาหยุดไว้ เขายังไม่รู้แน่ว่าตนคิดอย่างไรกับหลิงอวี๋!แต่ท่าทีของหลิงอวี๋ที่มีต่อตนนั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง!หลังจากที่หลิงอวี๋ถูกเฆี่ยนตีครั้งที่แล้ว เขาไม่เห็นความหลงใหลในตัวเขาจากสายตาของหลิงอวี๋อีกเลย!หลิงอวี๋ไม่ชอบเขาอีกต่อไปแล้ว!หลิงอวี๋รักษาขาให้เขา ความสัมพันธ์กับเขาก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ความดีเช่นนี้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 751

    เซียวหลินเทียนยิ่งคิดก็ยิ่งไม่สบายใจ​ จึงเอ่ยถามไปโดยไม่รู้ตัว “ลู่หนาน เจ้ากับหลิงซวนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน นางเคยบอกเจ้าหรือไม่ว่าหลังจากพระชายาหย่าร้างกับข้าแล้วมีแผนอะไรต่อ?”ลู่หนานตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยอย่างสุภาพ “นับตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่กระหม่อมช่วยพูดให้ชิวเหวินซวง​ หลิงซวนก็มิสนใจกระหม่อมเลย! แม้ว่านางจะคุยกับกระหม่อมแต่ก็ทำไปตามหน้าที่พ่ะย่ะค่ะ!”“สตรีผู้นี้ขี้น้อยใจนัก กระหม่อมขอโทษนางไปแล้วแต่นางก็ยังมิเปลี่ยนท่าที!”“นางบอกว่าอาจารย์ของนางบอกไว้แล้วว่า มิช้าก็เร็วจะต้องออกจากตำหนักอ๋องอี้​ แล้วบอกให้นางรักษาระยะห่างกับคนของตำหนักอ๋องอี้เพื่อที่ต่อไปจะได้ออกจากที่นี่ได้อย่างมิลำบากใจ!”พอฟังจบสีหน้าของเซียวหลินเทียนก็เปลี่ยนไปหลิงอวี๋เองก็คิดเช่นนี้หรือ?ดังนั้นนางจึงมิใกล้ชิดกับตนเหมือนเมื่อก่อนแล้วสินะ!“ท่านอ๋อง กระหม่อมได้ยินแม่นมลี่กับหลิงซวนบอกว่า ต่อไปพระชายาจะพาพวกนางออกจากเมืองหลวง ไปซื้อบ้านหลังใหญ่​ ๆ​ สักหลังในสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จักพวกนาง!”“แม่นมลี่ยังบอกด้วยว่า นางอยากหาสามีที่ปฏิบัติต่อพระชายากับเยวี่ยเยวี่ยอย่างดีให้กับพระชายา!”หัวใจของเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 752

    เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างเย็นชาโดยไม่แม้แต่จะมอง“อาการบาดเจ็บเหล่านั้นเกิดจากการที่คนของหยางหมิงเป็นพวกคนชั่วที่กัดกันเอง เหตุใดเล่า หยางต้าหู่ ข้ายังต้องรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของนักโทษประหารด้วยรึ?”ที่จริงอาการบาดเจ็บเหล่านี้เกิดจากหยางเม่าทุบตี เซียวหลินเทียนเคยสัญญากับเขาไว้ว่าจะช่วยแก้แค้นให้เสี่ยวอู่ดังนั้นหลังจากจับหยางหมิงได้ เซียวหลินเทียนก็ให้ลู่หนานไปตามหยางเม่ามาหยางเม่าย่อมมิเมตตาเดรัจฉานที่ตัดหัวน้องชายของตนด้วยมืออยู่แล้ว จึงทรมานเขาอย่างหนักตลอดทั้งคืนคำพูดของเซียวหลินเทียนทำให้หยางต้าหู่พูดมิออก แม้ว่าจะรู้ว่าเซียวหลินเทียนกำลังโกหกซึ่งหน้า แต่เขาจะแตกหักกับเซียวหลินเทียนเพราะเรื่องนี้ได้หรือ?“ท่านอ๋องอี้ นักโทษที่ทำผิดเช่นนี้ตายไปก็มิน่าเสียดาย! แต่เมื่อคนตายแล้วบาปก็จะหายไป ศพของเขาจึงควรคืนกลับไปยังตระกูลหยางให้พวกเขาเอาไปฝังพ่ะย่ะค่ะ!”หยางจื้อฟางนับได้ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของหยางหมิงเช่นกัน เขาก็เกลียดเซียวหลินเทียนเพราะการตายของลูกพี่ลูกน้องของตนเองด้วยแต่เขาก็มิกล้าแตกหักกับเซียวหลินเทียนเรื่องนี้!“ใช่แล้ว!”เซียวหลินเทียนได้ถามสิ่งที่ตนอยากรู้จาก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 753

    ลู่หนานอยู่ข้าง ๆ ได้ยินสิ่งนี้ จึงเอ่ยอย่างกังวล“ท่านอ๋อง เรื่องนี้ท่านต้องฟังพระชายาพ่ะย่ะค่ะ! แม่ทัพฉินก็ติดโรคระบาดและมีไข้อยู่ตลอด พระชายายังหาวิธีช่วยเขามิได้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”“ท่านอ๋อง หากท่านติดเชื้อโรคระบาด พวกเราทุกคนจะหมดหนทางสิ้นพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อคืนนี้เซียวหลินเทียนกระโดดลงจากหน้าผาไปเจอศพที่ติดโรคระบาด พอกลับมาแล้วหลิงอวี๋ได้ยินเรื่องนี้เข้าก็ให้พวกเขาทั้งสามคนไปฆ่าเชื้อ และกำจัดเสื้อผ้าของพวกเขาไปเลยหลิงอวี๋ยังมิวางใจจึงให้ทุกคนกินยาป้องกันโรคระบาดด้วยลู่หนานเอ่ยเรื่องนี้เพียงเพื่อร่วมแสดงตามที่เซียวหลินเทียนสั่งเท่านั้น!หยางจื้อฟางขมวดคิ้ว เขาได้ยินมาว่าฉินซานติดเชื้อ แต่หาได้เห็นด้วยตาของตนเองไม่ มีหรือจะเห็นว่าเป็นจริง!ส่วนแม่ทัพหลี่ว์...เมื่อวานมันมืดมาก กับหยางจื้อฟางก็มองเห็นมิชัดเจนว่าเขาได้รับบาดเจ็บหรือไม่หยางจื้อฟางกลอกตา เซียวหลินเทียนพานายทหารที่มีความสามารถทั้งสามคนนี้มา หากยืนยันแล้วว่าพวกเขาติดเชื้อและได้รับบาดเจ็บกันหมด เช่นนั้นแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะสงสัยพวกเขา แต่ไม่มีคนช่วยเขาก็มิกล้าทำอะไรหุนหันพลันแล่นเป็นแน่“ท่านอ๋อง แม่ทัพทั้งสามยอมเสี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 754

    กระทั่งหยางจื้อฟางกับหยางต้าหู่มาถึงหออักษร หลิงอวี๋ก็ได้รับข่าวก่อนแล้ว จึงให้ทหารที่ได้รับบาดเจ็บเมื่อคืนนี้แต่งตัวเป็นหลี่ว์จงเจ๋อนอนอยู่บนเตียงส่วนฉินซานก็ให้หลี่เฉียงที่ติดเชื้อโรคระบาดปลอมตัวเป็นเขาแทน!เผยอวี้ได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว จึงมิจำเป็นต้องปกปิดใด ๆเมื่อหยางจื้อฟางกับหยางต้าหู่เข้าประตูไปก็เห็นเผยอวี้เปลือยเปล่าครึ่งหนึ่ง และมีผ้าพันแผลพันรอบเอวนอนอยู่บนเตียงก่นด่าคนไปอย่างรำคาญทั้งสองคนแสร้งทำเป็นเป็นห่วงเผยอวี้ ทั้งยังไปเยี่ยมผู้ป่วยเหล่านั้นด้วย ครั้นเห็นว่าผู้ป่วยที่ติดโรคระบาดมิได้ดีขึ้นเลย ทั้งสองคนก็โล่งใจไปขณะที่ทั้งสองยังคอยสังเกตอยู่ ก็เห็นลู่หนานเรียกพระชายาอ๋องอี้ออกไปอย่างเร่งรีบ ทั้งสองจึงสบตากันและยิ่งรู้สึกว่าเซียวหลินเทียนมิใช่ปัญหาแล้วหมอเลื่องชื่อจากเมืองหลวงก็ช่วยต่อสู้กับโรคระบาดมิได้เช่นกันในช่วงนี้พวกเขาเห็นผู้ป่วยโรคระบาดมากมาย อยู่ได้ไม่กี่วันก็ตายกันหมดแล้วขอเพียงอดทนไปในสองสามวันนี้ แล้วรอจนกระทั่งท่านอ๋องอี้ป่วยตาย เช่นนั้นสิ่งที่พวกเขาทำก็สามารถปกปิดได้แล้วแม้ว่าจะคิดเช่นนี้ แต่ตอนที่หยางจื้อฟางออกไปก็ยังกำชับหยางต้าหู่อย่างมิว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 755

    “หงเอ๋อร์ มิต้องพูดแล้ว ระวังปากจะพาซวย!”ชายวัยกลางคนกลัวว่าลูกชายจะพูดอะไรที่เป็นความผิดร้ายแรงออกไป จึงรีบจับมือเขาไว้พลางกระซิบ “ดื่มชานี้ให้เสร็จแล้วเราก็ไปกันเถอะ!”“พ่อได้ยินมาว่า ท่านอ๋อง​อี้​มาเว่ยโจวเพื่อกำจัดโรคระบาด ในเมื่อข้าหลวงมิสนใจเรื่องของเรา บางทีเราอาจจะลองเสี่ยงกับท่านอ๋องอี้ดู!”“ท่านพ่อ คนเลวก็เหมือนกันหมดทุกที่ ท่านพ่อถูกโบยไปสามสิบไม้แล้วยังมิยอมแพ้หรือ?”ชายวัยรุ่นชื่อเจิ้งหงเอ่ยด้วยความโกรธ “หากท่านอ๋องอี้ผู้นั้นเป็นเหมือนข้าหลวงแล้วทุบตีท่านพ่ออย่างมิสนถูกผิดอีกเล่า เช่นนั้นมิเป็นการเอาชีวิตไปลงนรกหรอกหรือ?”“มิไปแล้ว กินเสร็จเราก็กลับกัน!”ฉินซานเห็นพวกเขารีบกิน แล้วเจิ้งหงก็พยุงท่านพ่อเจิ้งเดินกะโผลกกะเผลกลงไปชั้นล่างเขาขยิบตาให้เหอโป ให้เหอโปอยู่สืบข่าวต่อไป จากนั้นตนก็เดินตามพวกเจิ้งหงลงไปอย่างเงียบ ๆรถม้าของเจิ้งหงหยุดที่หัวมุมถนน เจิ้งหงพยุงพ่อขึ้นรถม้าและกำลังจะเคลื่อนรถม้าออกไป ฉินซานมองไปรอบ ๆ เห็นว่าไม่มีผู้ใดสนใจตนจึงพุ่งเข้าไปในรถม้าอย่างรวดเร็ว“เจ้าเป็นใคร? เจ้าจะทำสิ่งใด?” ท่านพ่อเจิ้งอุทานอย่างตกใจเจิ้งหงก็ดึงกริชออกมาแล้วพุ่งเข้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 756

    ท่านพ่อเจิ้งพูดแล้วก็หลั่งน้ำตาอาบแก้ม “แม่ทัพฉิน นั่นเป็นเงินหนึ่งแสนกว่าเชียวหนา!”“มิเหลือแล้ว นี่มิใช่ว่าอยากให้ครอบครัวของเราหมดหนทางหรอกหรือ?”“อย่าว่าแต่เรื่องนี้เลย คนที่ตามมาลากรถกับเราล้วนแต่เป็นชาวบ้าน บางคนถูกโจรฆ่าไป ส่วนที่เหลือได้รับบาดเจ็บยังนอนอยู่ในโรงเตี๊ยมกันอยู่เลย!”“จะให้ข้าไปอธิบายเรื่องนี้กับครอบครัวของพวกเขาฟังเยี่ยงไรเล่า!”ฉินซานขมวดคิ้ว “พวกเจ้าไปร้องเรียนกับทางการแล้วหรือ? แม้ว่าข้าหลวงหยางจะมิสนใจ แต่เหตุไฉนต้องโบยเจ้าถึงสามสิบไม้กันเล่า?”“หึ… โจรอะไรกันเล่า โจรพวกนั้นก็เป็นคนของข้าหลวงหยาง หลิวฮุยที่เป็นผู้นำก็เป็นหลานชายของข้าหลวงหยาง! ข้าจำเขาได้ วันนั้นข้าเห็นเขาออกมาจากศาลาว่าการ!”เจิ้งหงเอ่ยอย่างโกรธเกรี้ยว “ท่านพ่อของข้าไปชี้ตัวเขา ข้าหลวงหยางก็บอกว่า เราใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ของราชสำนัก แล้วก็โบยท่านพ่อของข้าสามสิบไม้โดยมิสนถูกผิด!”“แม่ทัพฉิน ทางการสมรู้ร่วมคิดกับพวกโจรมาปล้นเครื่องยาสมุนไพรของเรา เราจะไปฟ้องร้องได้ที่ใดบ้าง!”ฉินซานงุนงง แม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าหยางจื้อฟางเป็นคนใจกล้า แต่ฉินซานมิคาดคิดเลยจริง ๆ ว่าข้าหลวงหยางจะกล้าปล้นสิน

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1938

    เช่นนี้ก็แสดงว่า เฉียวไป๋เองก็รู้แล้วใช่หรือไม่ว่าคนที่ช่วยเขาไว้คือศัตรูของเขา?หลิงอวี๋แอบดีใจที่ตนเปลี่ยนรูปลักษณ์อีกครั้ง หลังจากที่หนีออกมาจากเงื้อมมือของเก๋อฮุ่ยหนิง มิเช่นนั้นหากใช้ใบหน้าก่อนหน้านี้ ก็คงจะถูกเก๋อฮุ่ยหนิงสังหารไปแล้วใช่หรือไม่?ดูท่าทางต่อไปตนจะมิสามารถใช้มีดผ่าตัดรักษาคนได้อีกต่อไปแล้ว!หลิงอวี๋ค้นพบแล้วว่า ที่เมืองหลวงแดนเทพนั้นล้วนเป็นหมอโอสถที่รักษาโรค มิว่าจะเป็นโรคอะไร หมอโอสถก็ล้วนใช้เพียงโอสถในการรักษาโรคเท่านั้นส่วนการผ่าตัดนั้น ในตอนนี้กลายเป็นวิธีการรักษาเฉพาะตัวของนางไปแล้วประเดี๋ยวก่อน จู่ ๆ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของหลิงอวี๋ตนเป็นคนที่รักษาดวงตาของฮูหยินเว่ยจนหาย ตอนนั้นมีหมอจำนวนมากบอกว่าดวงตาของฮูหยินเว่ยมิสามารถรักษาได้แล้ว หากพวกนางเองก็ได้เห็นหมายจับค่าหัวด้วย พวกนางจะไปเปิดโปงตนให้กับตระกูลเฉียวหรือไม่?ตั้งแต่ที่ตนลงมาจากเรือของตระกูลเว่ย ก็ทำเพียงเปลี่ยนกลับเป็นชุดสตรี แต่มิได้เปลี่ยนการแปลงโฉม!ยิ่งไปกว่านั้น ผู้รอบรู้ก็มิได้แปลงโฉมด้วย เช่นนั้นขอเพียงติดตามเบาะแสเหล่านี้มา การจะตามหาตนก็มิใช่เรื่องยากแล้ว!หากต้องการให้ตนป

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1937

    ขณะที่ก้าวเข้าไปใกล้เรื่อย ๆ ทีละก้าว หลิงอวี๋ก็มองพิจารณาฮูหยินทั้งสองของตระกูลเฉียวไปอย่างเงียบ ๆฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลเฉียวเป็นเสาหลักของตระกูลเฉียว เฉียวต้าลูกชายของนางซึ่งเป็นผู้นำตระกูลเฉียวตายไปแล้ว และเฉียวเค่อหลานชายที่เป็นที่รักมาโดยตลอดก็ตายไปแล้วเช่นกันฮูหยินผู้เฒ่าที่อายุหกสิบกว่าผู้นี้แก่ตัวลงมากภายในชั่วข้ามคืน และในช่วงนี้ก็นอนซมอยู่บนเตียงอยู่ตลอด นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่นางออกจากบ้านตั้งแต่ที่ลูกชายตายไปนางแต่งตัวเรียบหรูสุภาพเช่นเดียวกับฮูหยินเฉียว และเนื่องจากนางกินโอสถชะลอวัยมาหลายปี ดังนั้นแม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าเฉียวจะอายุหกสิบแล้ว แต่บนใบหน้าของนางก็ไม่มีริ้วรอยแม้แต่น้อย ดูแล้วคล้ายกับเป็นพี่น้องกับฮูหยินเฉียวเลยทีเดียวผมของนางก็เป็นสีดำสนิททั้งหมดเช่นกัน เพียงแต่เป็นเพราะอาการป่วย จึงทำให้สีผิวดูขาวซีดไปเล็กน้อยรูปร่างของฮูหยินเฉียวสูงใหญ่กว่าสตรีทั่วไป นางสูงเกือบหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร กระดูกก็ใหญ่เช่นกัน ดูมีความสามารถมาก และระหว่างคิ้วกับตาของนางนั้นก็ล้วนเป็นความมุ่งมั่นตัดสินใจอย่างเด็ดขาด“ฮูหยินผู้เฒ่าเฉียว ฮูหยินเฉียว...”จงเจิ้งเฟยพาเหลยเหวินกั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1936

    น่าสนใจ!เซียวหลินเทียนเห็นกระบวนการทั้งหมดนั้น แล้วก็รู้สึกว่าการมาเข้าร่วมงานเลี้ยงชมบุปผาที่น่าเบื่อในวันนี้ ก็มิได้น่าเบื่อถึงเพียงนั้นแล้วเขาหันไปหาเถาจื่อแล้วเอ่ยออกไป “ศิษย์พี่หญิงของเจ้าผู้นี้น่าสนใจมาก เจ้าจงเข้าใกล้นางเข้าไว้!”เถาจื่อดูท่าทีสับสน “นายท่านอู่ ท่านแน่ใจว่านางมิใช่คุณหนูมิใช่หรือเจ้าคะ? เหตุใดจึงต้องเสียเวลาไปกับนางด้วยเจ้าคะ?”เซียวหลินเทียนส่ายหัว “ไม่ ข้ามิอาจแน่ใจได้หรอก! คุณหนูของพวกเจ้าฉลาดถึงเพียงนั้น หากนางตั้งใจจะซ่อนตัวขึ้นมาจริง ๆ ก็มีวิธีมากมายนัก!”“ข่าวล่าสุดที่สือหรงส่งมาก็คือ คุณหนูของพวกเจ้าติดตามฮูหยินเว่ยมาที่เมืองหลวงแดนเทพ ขอเพียงนางอยู่ในสังคมเมืองหลวงแดนเทพนี้ นางจะต้องมาศึกษาที่สำนักศึกษาชิงหลงอย่างแน่นอน!”“สิ่งที่พวกเราต้องให้ความสำคัญก็คือสตรีที่โดดเด่นเหล่านี้ เราจะต้องตรวจสอบพวกนางทีละคน จนกว่าจะพบคุณหนูของเจ้า!”เซียวหลินเทียนเชื่อว่า ด้วยความฉลาดของหลิงอวี๋แล้ว นางไม่มีทางเป็นคนธรรมดาอย่างแน่นอน ขอเพียงคอยจับตามองสตรีที่โดดเด่นเหล่านี้เข้าไว้ เขาจะต้องหาหลิงอวี๋พบได้อย่างแน่นอน“ฉินซาน เจ้ากลับไปบอกให้สือหรงสืบประวัติของส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1935

    หลิวซานและเหล่าบัณฑิตของหอโอสถไป๋เป่าเห็นสถานการณ์เช่นนั้น ก็พากันตำหนิหลิงอวี๋หลิวซานเป็นผู้นำดุด่าขึ้นมา “ใช่แล้ว ตนเองสร้างปัญหาไปทั่ว เมื่อถูกคนมาทำลายบ้านยังจะมาใส่ร้ายศิษย์พี่ของพวกเราอีก คงมิใช่ว่าเจ้ายากจนไม่มีเงิน จึงคิดจะขู่กรรโชกเงินจำนวนหนึ่งไปสร้างบ้านใหม่ใช่หรือไม่!”บัณฑิตคนหนึ่งก็เอ่ยออกมาอย่างดูถูกเช่นกัน “ดูจากอาภรณ์ที่นางใส่แล้ว ก็คงมิได้อยู่อาศัยในที่ที่ดีนักหรอก คงจะไปทำให้ใครขุ่นเคืองเข้าจึงถูกทุบน่ะสิ!”“ใช่แล้ว ที่อยู่ของพวกเรามีความปลอดภัยดี ไม่มีทางเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นแน่!”“สิงอวี๋ เจ้าช่างน่ารังเกียจเสียจริง! เมื่อครู่ศิษย์พี่ของเราล้อเล่นจึงพูดเช่นนั้นออกไป คาดมิถึงเลยว่าจะถูกเจ้าใส่ร้าย! เช่นนั้นหากเป็นข้าที่พูดเช่นนั้นออกไป เจ้าก็จะบอกว่าข้าทำลายบ้านเจ้าใช่หรือไม่?”จงเจิ้งเฟยกับเหลยเหวินจึงดึงหลิงอวี๋ไปถามด้วยความเป็นห่วง “บ้านของเจ้าถูกทุบจริงหรือ?”หลิงอวี๋นึกถึงเรื่องวุ่นวายในบ้านที่เห็นท่ามกลางสายฝนเมื่อวานนี้ แล้วพยักหน้าอย่างแน่วแน่นางมองเหมียวหยางอย่างเย็นชา เขายังคงหัวเราะอย่างมิกลัวเกรง พร้อมกับทำท่าทางท้าทายราวกับว่า ‘เจ้าทำอะไรข้ามิไ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1934

    เสียงของหลิงอวี๋มิได้ดัง แต่ก็แน่วแน่มีพลังพอ ทำให้คุณหนูคุณชายที่อยู่ในบริเวณนั้นได้ยินกันหมดเซียวหลินเทียนเพิ่งลงจากรถม้ามาพร้อมกับพวกเถาจื่อ เมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวหลินเทียนก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วก็หันไปมองน้ำเสียงนี้ พลังเช่นนี้ เหตุใดจึงคล้ายกับหลิงอวี๋มากถึงเพียงนั้นอย่ารังแกคนหนุ่มสาวที่ยากจน!ตอนนั้นที่หลิงอวี๋ถูกพวกเสิ่นจวนกลั่นแกล้งที่ภัตตาคาร หลิงอวี๋ก็เคยพูดในทำนองเดียวกันนี้“ใต้หล้านี้หากมีคนใส่ร้ายข้า หลอกลวงข้า ดูหมิ่นข้า เย้ยหยันข้า ดูถูกข้า เหยียดหยามข้า รังเกียจข้า หลอกลวงข้า ข้าควรจะลงโทษอย่างไร?”“ขอเพียงอดทนกับเขา ยอมเขา ตามใจเขา หลีกเลี่ยงเขา อดกลั้นกับเขา เคารพเขา เมินเฉยเขา และรอไปสักสองสามปีแล้วค่อยดูเขา!”พวกของเสิ่นจวนที่เคยรังแกหลิงอวี๋ในอดีตนั้น ในตอนนี้ต่างก็มีจุดจบที่น่าสังเวชทั้งสิ้น มีเพียงหลิงอวี๋เท่านั้น ที่ก้าวหน้า กลายเป็นหมอที่มีชื่อเสียง เป็นฮองเฮาที่ผู้คนนับล้านในฉินตะวันตกเคารพ!สตรีหน้าตาธรรมดาและแต่งตัวซอมซ่อตรงหน้าเขาผู้นี้ ก็มีพลังของหลิงอวี๋อยู่เช่นกันใครจะรู้ว่านางจะเป็นดังเช่นหลิงอวี๋หรือไม่ หนึ่งปีหลังจากนี้นางอาจ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1933

    ใต้หล้านี้มีสตรีที่งดงามอยู่มากมาย!บางคนก็พึ่งการแต่งตัวให้ตนดูงดงาม!และบางคนก็พึ่งความเข้มแข็งภายในจิตใจทำให้งดงาม!และในชั่วขณะนี้ เหลยเหวินรู้สึกว่าสหายของตนผู้นี้ ถึงแม้ว่าจะดูธรรมดาทั่วไป แต่ก็มิได้ด้อยไปกว่าสตรีที่แต่งหน้าแต่งตัวจัดเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย“เสี่ยวอวี๋ เจ้าจะต้องได้สิ่งที่เจ้าต้องการอย่างแน่นอน!”เหลยเหวินเอ่ยออกมาอย่างจริงใจหลิงอวี๋มีจิตใจที่แน่วแน่เช่นนี้ ทั้งยังมีพรสวรรค์ด้านการกลั่นโอสถอีก ในอนาคตที่ไร้ขีดจำกัด นางจะต้องไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดอย่างแน่นอนทั้งสองยิ้มให้กันแล้วออกไปรอจงเจิ้งเฟยและเมื่อมาถึงที่หน้าประตู รถม้าของตระกูลจงเจิ้งก็มาถึงเนื่องจากเป็นตระกูลใหญ่ จึงเป็นรถม้าที่มีม้าลากสี่ตัวที่ดูหรูหรามาก พวกนางทั้งสามคนยิ้มแย้มพูดคุยกันไปขณะที่มุ่งหน้าไปที่บ้านของหลงอิง“เสี่ยวอวี๋ ตระกูลของหลงอิงเป็นสายข้างเคียงของตระกูลหลง ดังนั้นที่ที่พวกเราจะไปกันจึงมิใช่คฤหาสน์ต้นตระกูล แต่เป็นคฤหาสน์ของครอบครัวนางเอง”เหลยเหวินแนะนำหลิงอวี๋อย่างกระตือรือร้น “แม้ว่าจะเป็นเพียงสายข้างเคียง แต่ครอบครัวหลงอิงก็ใหญ่โตมากเช่นกัน ต้องจัดงานยิ่งใหญ่เช่นนี้ประจำ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1932

    “เสี่ยวชี เจ้าอาศัยอยู่ที่ใด ข้าจะไปส่งเจ้า!”เย่หรงรู้สึกว่าคุยกับหลิงอวี๋ถูกคอมาก จึงรู้สึกว่ายังมิพอ“โรงเตี๊ยมเจ้าค่ะ!”ในเมื่อหลิงอวี๋ตัดสินใจที่จะสร้างพันธมิตรกับเย่หรงแล้ว นางจึงมิลังเลที่จะบอกเรื่องของตนให้เขารู้เย่หรงจึงเอ่ยออกมาอย่างประหลาดใจ “เจ้าสอบเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงได้แล้วนี่ เหตุใดยังพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมอีกเล่า? โรงเตี๊ยมในเมืองหลวงแดนเทพราคามิใช่ถูก ๆ เจ้าทำเช่นนี้มิสู้ซื้อเรือนสักหลังน่าจะคุ้มค่ากว่าหรือ!”หลิงอวี๋จึงยิ้มอย่างเย็นชา “เดิมทีข้ามีบ้านอยู่ แต่ถูกคนทำลายไปเสียแล้ว!”“เกิดเรื่องอันใดขึ้น? เจ้าเป็นศิษย์น้อยของอาสาม ใครกันที่ตาไร้แววกล้ามาทำลายเรือนของเจ้า?”เย่หรงยิ่งก็ยิ่งรู้สึกสงสัยมากขึ้นไปอีกหลิงอวี๋จึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้เขาฟัง และสุดท้ายก็เอ่ยออกไป “เรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของเหมียวหยางเป็นแน่ ข้าไม่มีศัตรูอยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ และนอกจากเขาแล้วก็ไม่มีใครที่จะทำเรื่องเช่นนี้กับข้าด้วย!”เย่หรงได้ยินเช่นนั้นก็โกรธมาก “ไป่หลี่ไห่กับหอโอสถไป๋เป่าอาศัยว่ามีการสนับสนุนของเจ้าแห่งทะเล จึงได้กล้าทำสิ่งชั่วร้ายเช่นนี้!”“เสี่ยวช

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1931

    แหกคุกหรือ?เหมือนว่าจะไม่มีใครเคยพูดเช่นนี้กับเย่หรงมาก่อนเลย เย่หรงเองก็ถูกการศึกษาที่แสนยาวนานยับยั้งเอาไว้ คิดมิถึงเลยว่าจะมีวิธีเช่นนี้ที่สามารถใช้ได้ด้วย!เขาประหลาดใจขึ้นมาในทันที แล้วก็มองหลิงอวี๋อย่างเหลือเชื่อเช่นนี้ก็ได้เช่นกันนี่?เพราะว่าเย่หรงเองก็เป็นคนที่มิทำตามกฎอยู่แล้ว หลังจากที่ตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง เขาก็คิดออกแล้วคำโน้มนำที่หลิงอวี๋ขว้างมาตรงหน้าตนนั้นเป็นราวกับต้นกล้าเล็ก ๆ ที่ทะลุผ่านดินขึ้นมาในชั่วพริบตา และเติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ!ใครบอกว่ามิได้เล่า?ความผิดที่มารดาของเขาทำนั้นมิใช่ความผิดร้ายแรง ตระกูลหลงและตระกูลเย่ก็มิแม้แต่จะผ่านการพิจารณาคดีด้วยซ้ำ พวกเขาแค่ขังนางไว้ในคุกน้ำอันมืดมิดมาเป็นเวลานานสิบกว่าปีแล้วพวกเขาสามารถเพิกเฉยกฎเกณฑ์ได้ และทำตามอำเภอใจกันได้ เช่นนั้นเหตุใดตนจึงต้องปฏิบัติตามกฎของพวกเขาด้วยเล่า?มิรู้ว่าท่านแม่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายเช่นนั้นจะถูกทรมานอย่างไรบ้าง เขาในฐานะลูกชายจะสามารถมองดูมารดาต้องทนทุกข์ต่อไปได้อย่างไรกัน?หากเขามิช่วยท่านแม่ออกมาจากสถานที่เลวร้ายนั้น เขาจะต้องสูญเสียท่านแม่ไปแน่“เสี่ยวชี ข้าจะหาช่องโหว่ได้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1930

    ก็มิรู้ว่าเพราะเหตุใดเช่นกัน!เป็นเพราะได้ยินหยางหงหนิงบอกว่าเย่หรงชอบหลิงอวี๋หรือ?หรือเป็นเพราะเมื่อครู่ได้ยินเย่หรงพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าตัวเขาไร้ประโยชน์ และไม่มีอะไรดี?หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะเคยได้ยินผู้รอบรู้เล่าเรื่องภูมิหลังของเย่หรง เมื่อหลิงอวี๋เห็นเย่หรงจึงไม่มีความระแวดระวังดังเช่นก่อนหน้านี้นี่คือคนที่น่าสงสารคนหนึ่ง!หลิงอวี๋มองใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นแล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างประหม่า “คุณชายเย่ ข้ามิได้ตั้งใจจะแอบฟัง ข้าแค่ผ่านมา… แค่ผ่านมาเท่านั้นเอง!”เย่หรงจ้องมองนางอย่างดุร้าย และเมื่อเห็นท่าทางตื่นตระหนกของศิษย์น้อยของเย่ซื่อฝาน ดูมิคล้ายกับพูดโกหกอยู่ เขาก็เอ่ยถามอย่างมิคาดคิด “เจ้าดื่มสุราเป็นหรือไม่?”เอ๊ะ นี่คือคำถามอะไรกัน?“มินับว่าดื่มเป็นเจ้าค่ะ!” หลิงอวี๋เอ่ยด้วยความเขินอายนางมิรู้ด้วยซ้ำว่าตนสามารถดื่มได้มากแค่ไหน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าดื่มเป็นหรือไม่“ไป ข้าจะเลี้ยงสุราเจ้าเอง!”เย่หรงมิพูดพร่ำทำเพลง แล้วเดินเข้ามาคว้าแขนของหลิงอวี๋เดินไป“คุณชายเย่ ข้าไปดื่มกับท่านมิได้เจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ตกใจ แล้วก็ดิ้นรนพลางเอ่ยออกมาแม้แต่คนตาบอดก็ยังมองเห็นชัดเจนว่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status