Share

บทที่ 750

Author: กานเฟย
หลิงอวี๋คิดว่าอยู่ที่นี่เซียวหลินเทียนถูกรายล้อมไปด้วยอันตราย จึงมิอยากพูดทำลายบรรยากาศ

นางยิ้มพลางเอ่ย “เช่นนั้นท่านก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี! ออกไปครั้งนี้ต้องระวังเรื่องความปลอดภัย แล้วก็ห้ามเอาตัวเองไปเสี่ยงเพคะ! เราต้องรอดชีวิต ในภายหน้ามีเทศกาลมากมายให้เฉลิมฉลอง!”

“เจ้าก็เช่นกัน!”

เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงขรึม “เจ้าต้องดูแลตัวเองด้วย... ข้าจัดการแม่ทัพเซี่ยแล้วจะกลับมาโดยเร็วที่สุด!”

“เพคะ… ตอนนี้ดึกแล้ว ท่านรีบกลับไปพักผ่อนเถิด!”

หลิงอวี๋หยุดที่ประตูหออักษร โบกมือให้เซียวหลินเทียนแล้วเดินเข้าไป

“หลิงหลิง…” เซียวหลินเทียนเอ่ยปาก แต่สุดท้ายก็ไม่มีเสียงใดหลุดรอดออกมา เขามองส่งนางเข้าไปเช่นนั้น

ชั่วครู่หนึ่ง เซียวหลินเทียนคิดอยากจะทำอะไรบางอย่าง อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาหยุดไว้ เขายังไม่รู้แน่ว่าตนคิดอย่างไรกับหลิงอวี๋!

แต่ท่าทีของหลิงอวี๋ที่มีต่อตนนั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง!

หลังจากที่หลิงอวี๋ถูกเฆี่ยนตีครั้งที่แล้ว เขาไม่เห็นความหลงใหลในตัวเขาจากสายตาของหลิงอวี๋อีกเลย!

หลิงอวี๋ไม่ชอบเขาอีกต่อไปแล้ว!

หลิงอวี๋รักษาขาให้เขา ความสัมพันธ์กับเขาก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ความดีเช่นนี้
Locked Chapter
Patuloy ang Pagbabasa sa GoodNovel
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 751

    เซียวหลินเทียนยิ่งคิดก็ยิ่งไม่สบายใจ​ จึงเอ่ยถามไปโดยไม่รู้ตัว “ลู่หนาน เจ้ากับหลิงซวนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน นางเคยบอกเจ้าหรือไม่ว่าหลังจากพระชายาหย่าร้างกับข้าแล้วมีแผนอะไรต่อ?”ลู่หนานตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยอย่างสุภาพ “นับตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่กระหม่อมช่วยพูดให้ชิวเหวินซวง​ หลิงซวนก็มิสนใจกระหม่อมเลย! แม้ว่านางจะคุยกับกระหม่อมแต่ก็ทำไปตามหน้าที่พ่ะย่ะค่ะ!”“สตรีผู้นี้ขี้น้อยใจนัก กระหม่อมขอโทษนางไปแล้วแต่นางก็ยังมิเปลี่ยนท่าที!”“นางบอกว่าอาจารย์ของนางบอกไว้แล้วว่า มิช้าก็เร็วจะต้องออกจากตำหนักอ๋องอี้​ แล้วบอกให้นางรักษาระยะห่างกับคนของตำหนักอ๋องอี้เพื่อที่ต่อไปจะได้ออกจากที่นี่ได้อย่างมิลำบากใจ!”พอฟังจบสีหน้าของเซียวหลินเทียนก็เปลี่ยนไปหลิงอวี๋เองก็คิดเช่นนี้หรือ?ดังนั้นนางจึงมิใกล้ชิดกับตนเหมือนเมื่อก่อนแล้วสินะ!“ท่านอ๋อง กระหม่อมได้ยินแม่นมลี่กับหลิงซวนบอกว่า ต่อไปพระชายาจะพาพวกนางออกจากเมืองหลวง ไปซื้อบ้านหลังใหญ่​ ๆ​ สักหลังในสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จักพวกนาง!”“แม่นมลี่ยังบอกด้วยว่า นางอยากหาสามีที่ปฏิบัติต่อพระชายากับเยวี่ยเยวี่ยอย่างดีให้กับพระชายา!”หัวใจของเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 752

    เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างเย็นชาโดยไม่แม้แต่จะมอง“อาการบาดเจ็บเหล่านั้นเกิดจากการที่คนของหยางหมิงเป็นพวกคนชั่วที่กัดกันเอง เหตุใดเล่า หยางต้าหู่ ข้ายังต้องรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของนักโทษประหารด้วยรึ?”ที่จริงอาการบาดเจ็บเหล่านี้เกิดจากหยางเม่าทุบตี เซียวหลินเทียนเคยสัญญากับเขาไว้ว่าจะช่วยแก้แค้นให้เสี่ยวอู่ดังนั้นหลังจากจับหยางหมิงได้ เซียวหลินเทียนก็ให้ลู่หนานไปตามหยางเม่ามาหยางเม่าย่อมมิเมตตาเดรัจฉานที่ตัดหัวน้องชายของตนด้วยมืออยู่แล้ว จึงทรมานเขาอย่างหนักตลอดทั้งคืนคำพูดของเซียวหลินเทียนทำให้หยางต้าหู่พูดมิออก แม้ว่าจะรู้ว่าเซียวหลินเทียนกำลังโกหกซึ่งหน้า แต่เขาจะแตกหักกับเซียวหลินเทียนเพราะเรื่องนี้ได้หรือ?“ท่านอ๋องอี้ นักโทษที่ทำผิดเช่นนี้ตายไปก็มิน่าเสียดาย! แต่เมื่อคนตายแล้วบาปก็จะหายไป ศพของเขาจึงควรคืนกลับไปยังตระกูลหยางให้พวกเขาเอาไปฝังพ่ะย่ะค่ะ!”หยางจื้อฟางนับได้ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของหยางหมิงเช่นกัน เขาก็เกลียดเซียวหลินเทียนเพราะการตายของลูกพี่ลูกน้องของตนเองด้วยแต่เขาก็มิกล้าแตกหักกับเซียวหลินเทียนเรื่องนี้!“ใช่แล้ว!”เซียวหลินเทียนได้ถามสิ่งที่ตนอยากรู้จาก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 753

    ลู่หนานอยู่ข้าง ๆ ได้ยินสิ่งนี้ จึงเอ่ยอย่างกังวล“ท่านอ๋อง เรื่องนี้ท่านต้องฟังพระชายาพ่ะย่ะค่ะ! แม่ทัพฉินก็ติดโรคระบาดและมีไข้อยู่ตลอด พระชายายังหาวิธีช่วยเขามิได้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”“ท่านอ๋อง หากท่านติดเชื้อโรคระบาด พวกเราทุกคนจะหมดหนทางสิ้นพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อคืนนี้เซียวหลินเทียนกระโดดลงจากหน้าผาไปเจอศพที่ติดโรคระบาด พอกลับมาแล้วหลิงอวี๋ได้ยินเรื่องนี้เข้าก็ให้พวกเขาทั้งสามคนไปฆ่าเชื้อ และกำจัดเสื้อผ้าของพวกเขาไปเลยหลิงอวี๋ยังมิวางใจจึงให้ทุกคนกินยาป้องกันโรคระบาดด้วยลู่หนานเอ่ยเรื่องนี้เพียงเพื่อร่วมแสดงตามที่เซียวหลินเทียนสั่งเท่านั้น!หยางจื้อฟางขมวดคิ้ว เขาได้ยินมาว่าฉินซานติดเชื้อ แต่หาได้เห็นด้วยตาของตนเองไม่ มีหรือจะเห็นว่าเป็นจริง!ส่วนแม่ทัพหลี่ว์...เมื่อวานมันมืดมาก กับหยางจื้อฟางก็มองเห็นมิชัดเจนว่าเขาได้รับบาดเจ็บหรือไม่หยางจื้อฟางกลอกตา เซียวหลินเทียนพานายทหารที่มีความสามารถทั้งสามคนนี้มา หากยืนยันแล้วว่าพวกเขาติดเชื้อและได้รับบาดเจ็บกันหมด เช่นนั้นแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะสงสัยพวกเขา แต่ไม่มีคนช่วยเขาก็มิกล้าทำอะไรหุนหันพลันแล่นเป็นแน่“ท่านอ๋อง แม่ทัพทั้งสามยอมเสี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 754

    กระทั่งหยางจื้อฟางกับหยางต้าหู่มาถึงหออักษร หลิงอวี๋ก็ได้รับข่าวก่อนแล้ว จึงให้ทหารที่ได้รับบาดเจ็บเมื่อคืนนี้แต่งตัวเป็นหลี่ว์จงเจ๋อนอนอยู่บนเตียงส่วนฉินซานก็ให้หลี่เฉียงที่ติดเชื้อโรคระบาดปลอมตัวเป็นเขาแทน!เผยอวี้ได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว จึงมิจำเป็นต้องปกปิดใด ๆเมื่อหยางจื้อฟางกับหยางต้าหู่เข้าประตูไปก็เห็นเผยอวี้เปลือยเปล่าครึ่งหนึ่ง และมีผ้าพันแผลพันรอบเอวนอนอยู่บนเตียงก่นด่าคนไปอย่างรำคาญทั้งสองคนแสร้งทำเป็นเป็นห่วงเผยอวี้ ทั้งยังไปเยี่ยมผู้ป่วยเหล่านั้นด้วย ครั้นเห็นว่าผู้ป่วยที่ติดโรคระบาดมิได้ดีขึ้นเลย ทั้งสองคนก็โล่งใจไปขณะที่ทั้งสองยังคอยสังเกตอยู่ ก็เห็นลู่หนานเรียกพระชายาอ๋องอี้ออกไปอย่างเร่งรีบ ทั้งสองจึงสบตากันและยิ่งรู้สึกว่าเซียวหลินเทียนมิใช่ปัญหาแล้วหมอเลื่องชื่อจากเมืองหลวงก็ช่วยต่อสู้กับโรคระบาดมิได้เช่นกันในช่วงนี้พวกเขาเห็นผู้ป่วยโรคระบาดมากมาย อยู่ได้ไม่กี่วันก็ตายกันหมดแล้วขอเพียงอดทนไปในสองสามวันนี้ แล้วรอจนกระทั่งท่านอ๋องอี้ป่วยตาย เช่นนั้นสิ่งที่พวกเขาทำก็สามารถปกปิดได้แล้วแม้ว่าจะคิดเช่นนี้ แต่ตอนที่หยางจื้อฟางออกไปก็ยังกำชับหยางต้าหู่อย่างมิว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 755

    “หงเอ๋อร์ มิต้องพูดแล้ว ระวังปากจะพาซวย!”ชายวัยกลางคนกลัวว่าลูกชายจะพูดอะไรที่เป็นความผิดร้ายแรงออกไป จึงรีบจับมือเขาไว้พลางกระซิบ “ดื่มชานี้ให้เสร็จแล้วเราก็ไปกันเถอะ!”“พ่อได้ยินมาว่า ท่านอ๋อง​อี้​มาเว่ยโจวเพื่อกำจัดโรคระบาด ในเมื่อข้าหลวงมิสนใจเรื่องของเรา บางทีเราอาจจะลองเสี่ยงกับท่านอ๋องอี้ดู!”“ท่านพ่อ คนเลวก็เหมือนกันหมดทุกที่ ท่านพ่อถูกโบยไปสามสิบไม้แล้วยังมิยอมแพ้หรือ?”ชายวัยรุ่นชื่อเจิ้งหงเอ่ยด้วยความโกรธ “หากท่านอ๋องอี้ผู้นั้นเป็นเหมือนข้าหลวงแล้วทุบตีท่านพ่ออย่างมิสนถูกผิดอีกเล่า เช่นนั้นมิเป็นการเอาชีวิตไปลงนรกหรอกหรือ?”“มิไปแล้ว กินเสร็จเราก็กลับกัน!”ฉินซานเห็นพวกเขารีบกิน แล้วเจิ้งหงก็พยุงท่านพ่อเจิ้งเดินกะโผลกกะเผลกลงไปชั้นล่างเขาขยิบตาให้เหอโป ให้เหอโปอยู่สืบข่าวต่อไป จากนั้นตนก็เดินตามพวกเจิ้งหงลงไปอย่างเงียบ ๆรถม้าของเจิ้งหงหยุดที่หัวมุมถนน เจิ้งหงพยุงพ่อขึ้นรถม้าและกำลังจะเคลื่อนรถม้าออกไป ฉินซานมองไปรอบ ๆ เห็นว่าไม่มีผู้ใดสนใจตนจึงพุ่งเข้าไปในรถม้าอย่างรวดเร็ว“เจ้าเป็นใคร? เจ้าจะทำสิ่งใด?” ท่านพ่อเจิ้งอุทานอย่างตกใจเจิ้งหงก็ดึงกริชออกมาแล้วพุ่งเข้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 756

    ท่านพ่อเจิ้งพูดแล้วก็หลั่งน้ำตาอาบแก้ม “แม่ทัพฉิน นั่นเป็นเงินหนึ่งแสนกว่าเชียวหนา!”“มิเหลือแล้ว นี่มิใช่ว่าอยากให้ครอบครัวของเราหมดหนทางหรอกหรือ?”“อย่าว่าแต่เรื่องนี้เลย คนที่ตามมาลากรถกับเราล้วนแต่เป็นชาวบ้าน บางคนถูกโจรฆ่าไป ส่วนที่เหลือได้รับบาดเจ็บยังนอนอยู่ในโรงเตี๊ยมกันอยู่เลย!”“จะให้ข้าไปอธิบายเรื่องนี้กับครอบครัวของพวกเขาฟังเยี่ยงไรเล่า!”ฉินซานขมวดคิ้ว “พวกเจ้าไปร้องเรียนกับทางการแล้วหรือ? แม้ว่าข้าหลวงหยางจะมิสนใจ แต่เหตุไฉนต้องโบยเจ้าถึงสามสิบไม้กันเล่า?”“หึ… โจรอะไรกันเล่า โจรพวกนั้นก็เป็นคนของข้าหลวงหยาง หลิวฮุยที่เป็นผู้นำก็เป็นหลานชายของข้าหลวงหยาง! ข้าจำเขาได้ วันนั้นข้าเห็นเขาออกมาจากศาลาว่าการ!”เจิ้งหงเอ่ยอย่างโกรธเกรี้ยว “ท่านพ่อของข้าไปชี้ตัวเขา ข้าหลวงหยางก็บอกว่า เราใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ของราชสำนัก แล้วก็โบยท่านพ่อของข้าสามสิบไม้โดยมิสนถูกผิด!”“แม่ทัพฉิน ทางการสมรู้ร่วมคิดกับพวกโจรมาปล้นเครื่องยาสมุนไพรของเรา เราจะไปฟ้องร้องได้ที่ใดบ้าง!”ฉินซานงุนงง แม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าหยางจื้อฟางเป็นคนใจกล้า แต่ฉินซานมิคาดคิดเลยจริง ๆ ว่าข้าหลวงหยางจะกล้าปล้นสิน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 757

    เพราะท่านพ่อเจิ้งแก่แล้ว หลังจากได้ยินคำพูดของฉินซานก็รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลดี จึงปรามเจิ้งหง“แม่ทัพฉิน ข้าเข้าใจความลำบากของท่านอ๋องอี้! เราจะออกไปหลบภัยตามที่แม่ทัพฉินบอก เพื่อให้ท่านอ๋องอี้มีเวลาตรวจสอบอย่างละเอียด!”“พวกเนื้อร้ายเหล่านี้ควรถูกกำจัดออกไปให้สิ้น มิเช่นนั้นฉินตะวันตกของเราจะตกอยู่ในอันตราย! แม่ทัพฉิน เราจะร่วมมือกับท่านติดต่อกับพ่อค้าเหล่านั้นแล้วรวบรวมหลักฐานการทำผิดของข้าหลวงหยางมาให้จงได้!”ฉินซานพยักหน้าอย่างยินดี "ท่านพ่อเจิ้ง เช่นนั้นก็ตามนี้! ในช่วงนี้ เจ้าก็ให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของเว่ยโจวเอาไว้ หากเจ้ารู้ว่าท่านอ๋องอี้ยึดเว่ยโจวไว้แล้ว เจ้าก็พาคนของเจ้ากลับมาได้เลย!”“พวกเจ้าต้องระวังเรื่องความปลอดภัยด้วย!”หลังจากอธิบายเสร็จแล้ว ฉินซานก็ลงจากรถม้า กำลังจะกลับไปที่โรงน้ำชา ก็พลันเห็นความวุ่นวายที่อีกฟากหนึ่งของถนนเจ้าหน้าที่ทหารกลุ่มหนึ่งเข้ามา คนที่เป็นผู้นำเดินไปก็ตะโกนไปด้วย“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เว่ยโจวจะอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก เข้าออกเมืองจะต้องได้รับการตรวจสอบ คนที่บอกที่มาที่ไปมิได้จะถือว่าเป็นสายลับของแคว้นศัตรู และจะถูกสังหารอย่างไร้ควา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 758

    ฉินซานนึกถึงคำพูดของหลิงอวี๋ ใจเขาก็บีบรัดขึ้นทันที หรือว่าคนที่แขกที่กล่าวถึงคือหลิงเสี่ยงพี่ชายของหลิงอวี๋?ฉินซานนั่งมิติดทันที ไม่ว่าจะเป็นหลิงเสี่ยงหรือไม่ เขาก็ต้องช่วยแม่ทัพผู้นี้ให้จงได้บนถนน เจ้าหน้าที่ทหารกำลังค้นหาจากบ้านหนึ่งไปอีกบ้านหนึ่ง ฉินซานกับเหอโปคุยกันเสียงต่ำ พอแขกลุกขึ้นฉินซานก็เดินตามลงไปชั้นล่างเรื่องลับ ๆ เช่นนี้ หยางจื้อฟางไม่มีทางบอกกับภายนอก แต่แขกผู้นี้กลับรู้เรื่องราวภายในมากมายถึงเพียงนี้ ฉินซานวางแผนจะถามจากปากเขาดูอีกครั้งแขกผู้นั้นเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็พบกับเจ้าหน้าที่ทหาร ฉินซานกดปีกหมวกลง แล้วเห็นแขกทักทายนายทหารที่เป็นผู้นำกลุ่มนายทหารยิ้มพลางเอ่ย “พี่หลิว จะกลับบ้านหรือ!”หลิวเหว่ยก้าวไปวางมือบนไหล่นายทหารพลางเอ่ยยิ้ม ๆ “เมื่อไรจะออกเวรเล่า? ข้าเตรียมอาหารกับเครื่องดื่มไว้แล้ว รอพวกเจ้าออกเวรพวกเราพี่น้องจะได้จิบกันเสียหน่อย!”นายทหารยิ้มขมขื่นพลางเอ่ย “วันนี้อย่าคิดที่จะได้ออกเวรเลย หากจับนักโทษมิได้ ใต้เท้าไม่มีทางอนุญาตให้เราพักหรอก! ไว้วันอื่นเถิด!”“ทำงานหนักแล้ว เช่นนั้นก็วันอื่นเถิด!”หลิวเหว่ยปล่อยเขาไป พลางหยิบอาหารเครื่องดื่มแ

Pinakabagong kabanata

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1942

    บรรดาศิษย์น้องของเหมียวหยางจะกล้าปล่อยเหมียวหยางไปได้อย่างไร แม้ว่าเย่หรงจะเป็นศิษย์ที่มิประสบความสำเร็จของตระกูลเย่ แต่เขาก็นับว่าเป็นผู้มีอำนาจที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงแดนเทพ และความโหดร้ายของเขาก็ราวกับหมาป่าหากเขาประกาศชัดเจนว่าจะยั่วยุใคร เช่นนั้นแล้วขอเพียงยังมีลมหายใจอยู่ ต่อให้ต้องสู้จนถึงที่สุดก็จะมิยอมรามือถึงแม้ว่าเหมียวหยางจะเกลียดเย่หรงที่ทำให้จมูกของตนหัก แต่ท่าทีที่จะสู้กับเย่หรงอย่างสุดชีวิตนั้น ก็เป็นเพียงการแกล้งทำไปเท่านั้นเนื่องจากด้วยพลังของเขาแล้ว เขามิใช่คู่ต่อสู้ของเย่หรงอย่างแน่นอน มิฉะนั้นก็คงมิถึงกับถูกเย่หรงต่อยสองหมัด แล้วไม่มีแรงตอบโต้หรอก“พวกเจ้าปล่อยข้า ให้ข้าไปสู้กับเขา… เย่หรง เจ้ารู้สึกผิดแล้วกระมัง จึงได้ใส่ร้ายข้า!”เหมียวหยางตะโกนออกไปอย่างโอ้อวด “ข้ามิได้ทำลายบ้านของสิงอวี๋ มิใช่ว่าเจ้าจงใจไปทำลายบ้านของนาง เพื่อให้นางยอมขึ้นเตียงกับเจ้า และใช้โอกาสนี้สนับสนุนนางเองรึ?”น้ำโคลนสาดเข้ามาหาเย่หรงในทันทีคนจำนวนมากที่อยู่ตรงนั้น ต่างก็รู้สึกว่าคำพูดของเหมียวหยางอาจจะเป็นเรื่องจริงได้ เพราะเรื่องนี้ดูเป็นเรื่องที่เย่หรงสามารถทำได้!หลิงอวี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1941

    หยางหงหนิงยิ่งโวยวายก็ยิ่งเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ และดึงดูดสายตาของคุณหนูคุณชายที่ยังอยู่รอบ ๆ มิได้แยกตัวออกไปให้พากันหันมามอง"ข้าบอกว่าเจ้าต่ำต้อย แต่เจ้าก็ยังบอกว่ามิต่ำต้อย! ทุกคนมาดูอันดับหนึ่งของหอปรุงโอสถผู้นี้เถิด นางคือคนต่ำต้อยไร้ยางอาย!”“นางล่อลวงเย่หรงไปดื่มสุรา และมิรู้ว่านางใช้กลอุบายอะไร จึงทำให้เย่หรงสนับสนุนนาง!”“สิงอวี๋ ข้าขอบอกไว้เลยว่า คนต่ำต้อยเช่นเจ้า ตระกูลเย่ไม่มีทางให้เจ้าเข้าไปเป็นอันขาด และถึงแม้ว่าพวกเขาจะให้เจ้าเข้าไป เจ้าก็เป็นได้เพียงอนุเท่านั้น!”เมื่อคุณหนูเหล่านั้นรวมถึงบัณฑิตของหอโอสถไป๋เป่าได้ยินเช่นนั้น ก็ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา“ข้าก็บอกแล้วว่านางแต่งตัวธรรมดาเช่นนั้น แล้วจะมีเงินไปศึกษาที่สำนักศึกษาชิงหลงได้อย่างไร ที่แท้นางก็อาศัยการหลอกลวงเงินของบุรุษ!”“แต่นางก็มิได้งามอะไรนักนี่ แล้วเย่หรงจะชอบนางได้หรือ?”“เจ้ามิรู้หรอก บุรุษบางคนมิได้สนใจที่หน้าตา แต่สนใจที่รูปร่าง บางทีเย่หรงอาจจะสบายใจกับการปรนนิบัติของสตรีผู้นี้ก็เป็นได้!”คำพูดนี้เหมียวหยางเป็นคนพูด เขาพูดไปพลางยิ้มอย่างหยาบคาย ทั้งยังขยิบตาอย่างคลุมเครือให้กับพวกคุณชายที่อ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1940

    จงเจิ้งเฟยส่ายหัว “ข้าเองก็มิได้รู้แน่ชัดนัก ข้าแค่ฟังมาจากคนอื่นเท่านั้น เพราะพวกนางบอกกันว่าฉินตะวันตกเป็นคนละดินแดนกับพวกเรา!”“ข้าได้ยินมาเพียงว่า ทักษะการแพทย์ของหลิงอวี๋ผู้นี้ยอดเยี่ยมมาก ก่อนหน้านี้ว่ากันว่า ฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลเก๋อท้องใหญ่ราวกับกลอง และไม่มียาใดที่สามารถรักษาได้ แต่หลิงอวี๋เป็นคนผ่าท้องของนางแล้วนำถุงน้ำที่อยู่ในท้องของนางออกมา เช่นนี้จึงรักษาโรคประหลาดของนางหายขาดได้!”“ฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลเก๋อได้เดินทางติดตามข้าหลวงเก๋อมาที่เมืองหลวงแดนเทพแล้ว ดู ๆ ไปแล้วก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไปมิได้ผิดปกติใด ๆ นี่คือข้อเท็จจริง!”เหลยเหวินฟังแล้วก็รู้สึกสับสน “ดูเช่นนี้แล้ว หลิงอวี๋ก็มินับว่าเป็นคนเลว แต่เหตุใดนางจึงสังหารเฉียวเค่อเล่า!”หลิงอวี๋ฟังอยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ แล้วนางก็ยิ่งอยากรู้อดีตของตนมากขึ้นไปอีกตนเป็นคนแบบใดกันแน่?เหตุใดจึงมีศัตรูมากถึงเพียงนี้?ดูท่าทางจะต้องไปถามผู้รอบรู้เสียหน่อยแล้ว บางทีการรู้เรื่องในอดีตของตน อาจจะทำให้นางฟื้นความทรงจำที่หายไปได้เร็วขึ้นก็ได้ขณะที่ทั้งสามกำลังคุยกันอยู่ ก็เห็นหยางหงหนิงพาสหายอีกสองคนเดินเข้ามา“เฟยเฟย พวกเจ้าค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1939

    เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินคำพูดของเย่หรง ก็อดมิได้ที่จะยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยดูภายนอกเย่หรงกำลังบอกว่าตนเป็นคนขี้ขลาด แต่แท้จริงแล้วหลิงอวี๋กลับฟังออกว่าเย่หรงกำลังทำลายความเชื่อมั่นของฮูหยินเฉียวอยู่เขาใช้คำพูดของฮูหยินเฉียวมาเตือนผู้ที่คิดจะให้เบาะแสเพื่อเงิน ให้หยุดอยู่ที่ตรงนี้ลองคิดดูเถิด ฮูหยินเฉียวบอกว่าหลิงอวี๋เป็นคนโหดเหี้ยมไร้ความปรานี และหลิงอวี๋ก็สามารถหลบหนีการไล่ล่าของตำหนักหมาป่าสวรรค์ได้ หากใครจะเปิดโปงหลิงอวี๋ เช่นนั้นหลิงอวี๋จะทนเก็บความโกรธเอาไว้มิแก้แค้นได้หรือ?เป็นดังที่คาด คำพูดนี้ของเย่หรงทำให้คนจำนวนหนึ่งมิกล้าทำต่อไปแล้ววรยุทธ์ของเย่หรงมิได้อ่อนแอ เขาเองยังบอกว่ามิสามารถหลบหนีการไล่ล่าของตำหนักหมาป่าสวรรค์ได้ และสู้หลิงอวี๋มิได้ด้วยเช่นนั้นหากเปลี่ยนเป็นตนเอง ตนจะสามารถหลบหนีการไล่ล่าของตำหนักหมาป่าสวรรค์ได้หรือ?คนที่โหดเหี้ยมไร้ความปรานีเช่นหลิงอวี๋นี้ อย่าได้ไปยั่วยุนางจะเป็นการดีกว่าแม้ว่าเงินห้าล้านจะน่าดึงดูดใจ ทว่าหากชีวิตหาไม่แล้ว ต่อให้มีเงินแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์!มุมปากของเซียวหลินเทียนก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาเช่นกัน เขาก็ฟังออกถึงความหมายของเย่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1938

    เช่นนี้ก็แสดงว่า เฉียวไป๋เองก็รู้แล้วใช่หรือไม่ว่าคนที่ช่วยเขาไว้คือศัตรูของเขา?หลิงอวี๋แอบดีใจที่ตนเปลี่ยนรูปลักษณ์อีกครั้ง หลังจากที่หนีออกมาจากเงื้อมมือของเก๋อฮุ่ยหนิง มิเช่นนั้นหากใช้ใบหน้าก่อนหน้านี้ ก็คงจะถูกเก๋อฮุ่ยหนิงสังหารไปแล้วใช่หรือไม่?ดูท่าทางต่อไปตนจะมิสามารถใช้มีดผ่าตัดรักษาคนได้อีกต่อไปแล้ว!หลิงอวี๋ค้นพบแล้วว่า ที่เมืองหลวงแดนเทพนั้นล้วนเป็นหมอโอสถที่รักษาโรค มิว่าจะเป็นโรคอะไร หมอโอสถก็ล้วนใช้เพียงโอสถในการรักษาโรคเท่านั้นส่วนการผ่าตัดนั้น ในตอนนี้กลายเป็นวิธีการรักษาเฉพาะตัวของนางไปแล้วประเดี๋ยวก่อน จู่ ๆ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของหลิงอวี๋ตนเป็นคนที่รักษาดวงตาของฮูหยินเว่ยจนหาย ตอนนั้นมีหมอจำนวนมากบอกว่าดวงตาของฮูหยินเว่ยมิสามารถรักษาได้แล้ว หากพวกนางเองก็ได้เห็นหมายจับค่าหัวด้วย พวกนางจะไปเปิดโปงตนให้กับตระกูลเฉียวหรือไม่?ตั้งแต่ที่ตนลงมาจากเรือของตระกูลเว่ย ก็ทำเพียงเปลี่ยนกลับเป็นชุดสตรี แต่มิได้เปลี่ยนการแปลงโฉม!ยิ่งไปกว่านั้น ผู้รอบรู้ก็มิได้แปลงโฉมด้วย เช่นนั้นขอเพียงติดตามเบาะแสเหล่านี้มา การจะตามหาตนก็มิใช่เรื่องยากแล้ว!หากต้องการให้ตนป

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1937

    ขณะที่ก้าวเข้าไปใกล้เรื่อย ๆ ทีละก้าว หลิงอวี๋ก็มองพิจารณาฮูหยินทั้งสองของตระกูลเฉียวไปอย่างเงียบ ๆฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลเฉียวเป็นเสาหลักของตระกูลเฉียว เฉียวต้าลูกชายของนางซึ่งเป็นผู้นำตระกูลเฉียวตายไปแล้ว และเฉียวเค่อหลานชายที่เป็นที่รักมาโดยตลอดก็ตายไปแล้วเช่นกันฮูหยินผู้เฒ่าที่อายุหกสิบกว่าผู้นี้แก่ตัวลงมากภายในชั่วข้ามคืน และในช่วงนี้ก็นอนซมอยู่บนเตียงอยู่ตลอด นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่นางออกจากบ้านตั้งแต่ที่ลูกชายตายไปนางแต่งตัวเรียบหรูสุภาพเช่นเดียวกับฮูหยินเฉียว และเนื่องจากนางกินโอสถชะลอวัยมาหลายปี ดังนั้นแม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าเฉียวจะอายุหกสิบแล้ว แต่บนใบหน้าของนางก็ไม่มีริ้วรอยแม้แต่น้อย ดูแล้วคล้ายกับเป็นพี่น้องกับฮูหยินเฉียวเลยทีเดียวผมของนางก็เป็นสีดำสนิททั้งหมดเช่นกัน เพียงแต่เป็นเพราะอาการป่วย จึงทำให้สีผิวดูขาวซีดไปเล็กน้อยรูปร่างของฮูหยินเฉียวสูงใหญ่กว่าสตรีทั่วไป นางสูงเกือบหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร กระดูกก็ใหญ่เช่นกัน ดูมีความสามารถมาก และระหว่างคิ้วกับตาของนางนั้นก็ล้วนเป็นความมุ่งมั่นตัดสินใจอย่างเด็ดขาด“ฮูหยินผู้เฒ่าเฉียว ฮูหยินเฉียว...”จงเจิ้งเฟยพาเหลยเหวินกั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1936

    น่าสนใจ!เซียวหลินเทียนเห็นกระบวนการทั้งหมดนั้น แล้วก็รู้สึกว่าการมาเข้าร่วมงานเลี้ยงชมบุปผาที่น่าเบื่อในวันนี้ ก็มิได้น่าเบื่อถึงเพียงนั้นแล้วเขาหันไปหาเถาจื่อแล้วเอ่ยออกไป “ศิษย์พี่หญิงของเจ้าผู้นี้น่าสนใจมาก เจ้าจงเข้าใกล้นางเข้าไว้!”เถาจื่อดูท่าทีสับสน “นายท่านอู่ ท่านแน่ใจว่านางมิใช่คุณหนูมิใช่หรือเจ้าคะ? เหตุใดจึงต้องเสียเวลาไปกับนางด้วยเจ้าคะ?”เซียวหลินเทียนส่ายหัว “ไม่ ข้ามิอาจแน่ใจได้หรอก! คุณหนูของพวกเจ้าฉลาดถึงเพียงนั้น หากนางตั้งใจจะซ่อนตัวขึ้นมาจริง ๆ ก็มีวิธีมากมายนัก!”“ข่าวล่าสุดที่สือหรงส่งมาก็คือ คุณหนูของพวกเจ้าติดตามฮูหยินเว่ยมาที่เมืองหลวงแดนเทพ ขอเพียงนางอยู่ในสังคมเมืองหลวงแดนเทพนี้ นางจะต้องมาศึกษาที่สำนักศึกษาชิงหลงอย่างแน่นอน!”“สิ่งที่พวกเราต้องให้ความสำคัญก็คือสตรีที่โดดเด่นเหล่านี้ เราจะต้องตรวจสอบพวกนางทีละคน จนกว่าจะพบคุณหนูของเจ้า!”เซียวหลินเทียนเชื่อว่า ด้วยความฉลาดของหลิงอวี๋แล้ว นางไม่มีทางเป็นคนธรรมดาอย่างแน่นอน ขอเพียงคอยจับตามองสตรีที่โดดเด่นเหล่านี้เข้าไว้ เขาจะต้องหาหลิงอวี๋พบได้อย่างแน่นอน“ฉินซาน เจ้ากลับไปบอกให้สือหรงสืบประวัติของส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1935

    หลิวซานและเหล่าบัณฑิตของหอโอสถไป๋เป่าเห็นสถานการณ์เช่นนั้น ก็พากันตำหนิหลิงอวี๋หลิวซานเป็นผู้นำดุด่าขึ้นมา “ใช่แล้ว ตนเองสร้างปัญหาไปทั่ว เมื่อถูกคนมาทำลายบ้านยังจะมาใส่ร้ายศิษย์พี่ของพวกเราอีก คงมิใช่ว่าเจ้ายากจนไม่มีเงิน จึงคิดจะขู่กรรโชกเงินจำนวนหนึ่งไปสร้างบ้านใหม่ใช่หรือไม่!”บัณฑิตคนหนึ่งก็เอ่ยออกมาอย่างดูถูกเช่นกัน “ดูจากอาภรณ์ที่นางใส่แล้ว ก็คงมิได้อยู่อาศัยในที่ที่ดีนักหรอก คงจะไปทำให้ใครขุ่นเคืองเข้าจึงถูกทุบน่ะสิ!”“ใช่แล้ว ที่อยู่ของพวกเรามีความปลอดภัยดี ไม่มีทางเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นแน่!”“สิงอวี๋ เจ้าช่างน่ารังเกียจเสียจริง! เมื่อครู่ศิษย์พี่ของเราล้อเล่นจึงพูดเช่นนั้นออกไป คาดมิถึงเลยว่าจะถูกเจ้าใส่ร้าย! เช่นนั้นหากเป็นข้าที่พูดเช่นนั้นออกไป เจ้าก็จะบอกว่าข้าทำลายบ้านเจ้าใช่หรือไม่?”จงเจิ้งเฟยกับเหลยเหวินจึงดึงหลิงอวี๋ไปถามด้วยความเป็นห่วง “บ้านของเจ้าถูกทุบจริงหรือ?”หลิงอวี๋นึกถึงเรื่องวุ่นวายในบ้านที่เห็นท่ามกลางสายฝนเมื่อวานนี้ แล้วพยักหน้าอย่างแน่วแน่นางมองเหมียวหยางอย่างเย็นชา เขายังคงหัวเราะอย่างมิกลัวเกรง พร้อมกับทำท่าทางท้าทายราวกับว่า ‘เจ้าทำอะไรข้ามิไ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1934

    เสียงของหลิงอวี๋มิได้ดัง แต่ก็แน่วแน่มีพลังพอ ทำให้คุณหนูคุณชายที่อยู่ในบริเวณนั้นได้ยินกันหมดเซียวหลินเทียนเพิ่งลงจากรถม้ามาพร้อมกับพวกเถาจื่อ เมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวหลินเทียนก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วก็หันไปมองน้ำเสียงนี้ พลังเช่นนี้ เหตุใดจึงคล้ายกับหลิงอวี๋มากถึงเพียงนั้นอย่ารังแกคนหนุ่มสาวที่ยากจน!ตอนนั้นที่หลิงอวี๋ถูกพวกเสิ่นจวนกลั่นแกล้งที่ภัตตาคาร หลิงอวี๋ก็เคยพูดในทำนองเดียวกันนี้“ใต้หล้านี้หากมีคนใส่ร้ายข้า หลอกลวงข้า ดูหมิ่นข้า เย้ยหยันข้า ดูถูกข้า เหยียดหยามข้า รังเกียจข้า หลอกลวงข้า ข้าควรจะลงโทษอย่างไร?”“ขอเพียงอดทนกับเขา ยอมเขา ตามใจเขา หลีกเลี่ยงเขา อดกลั้นกับเขา เคารพเขา เมินเฉยเขา และรอไปสักสองสามปีแล้วค่อยดูเขา!”พวกของเสิ่นจวนที่เคยรังแกหลิงอวี๋ในอดีตนั้น ในตอนนี้ต่างก็มีจุดจบที่น่าสังเวชทั้งสิ้น มีเพียงหลิงอวี๋เท่านั้น ที่ก้าวหน้า กลายเป็นหมอที่มีชื่อเสียง เป็นฮองเฮาที่ผู้คนนับล้านในฉินตะวันตกเคารพ!สตรีหน้าตาธรรมดาและแต่งตัวซอมซ่อตรงหน้าเขาผู้นี้ ก็มีพลังของหลิงอวี๋อยู่เช่นกันใครจะรู้ว่านางจะเป็นดังเช่นหลิงอวี๋หรือไม่ หนึ่งปีหลังจากนี้นางอาจ

I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status