แชร์

บทที่ 688

ผู้เขียน: กานเฟย
ฉินรั่วซือลุกขึ้นยืน ยังคงมิสบายใจเล็กน้อย หลิงอวี๋จะปล่อยนางไปเช่นนี้หรือ?

เหตุใดจึงรู้สึกเหมือนไม่จริงเล่า?

“รั่วซือ ไฉนจึงยืนตะลึงอยู่เล่า? รีบไปช่วยแม่นมหลี่อบอาภรณ์เร็วเข้า! ข้าต้องทำงานแล้ว”

ฉินซานเหลือบมองฉินรั่วซือ แล้วรีบเดินไป

ฉินรั่วซือรีบรับอาภรณ์ที่แม่นมหลี่ส่งให้แล้วเอาไปผิงไฟ

นางแอบเหลือบมองหลิงอวี๋ เมื่อเห็นว่าไม่มีร่องรอยความรังเกียจบนใบหน้าของหลิงอวี๋ จึงค่อย ๆ รู้สึกโล่งใจ

อีกด้านหนึ่ง ด้านในรถม้าของเซียวทงเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็น นางเพิ่งจะรู้สึกว่าท้องของนางรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย จึงสั่งให้นางกำนัลเก็บข้าวของอีกคันหนึ่งให้ตนเองพักผ่อน

รถม้าคันนี้มีกลิ่นเหม็นมากจนนางไม่อยากอยู่ที่นี่!

แต่ฝนตกหนักมาก บนรถม้าก็เต็มไปด้วยสิ่งของ เป็นไปไม่ได้ที่จะเก็บมันออกไปได้อีกสักพักเลย

ซิ่งเอ๋อร์กระซิบ “องค์หญิงเพคะ เข้าไปหลบฝนก่อนเถิดเพคะ! เมื่อฝนซาลงบ่าวจะเก็บของให้ทันที!”

เซียวทงตบหน้านางอย่างแรงพลางตะคอก

“ตอนนี้ข้าเป็นเช่นนี้ เจ้าจะข้าให้ลงจากรถได้เยี่ยงไรเล่า? จะให้ข้าลงไปให้ทุกคนเห็นเรื่องน่าขำของข้ารึ?”

“รีบไปเก็บข้าวของเสีย หากยังชักช้าอีก ข้าจะทุบตีเจ้าให้ตาย!”

ซิ่ง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 689

    หลิงอวี๋ลืมเรื่องนี้ไปนานแล้ว นางทำน้ำขิงและเอาอาหารแห้งกับต้นหมาซือเสียนมาทำโจ๊กให้ทุกคน กระทั่งถึงเวลาที่นางทำงานเสร็จก็ดึกแล้วนางพาเถาจื่อ หลิงซวนและฉินรั่วซือไปแอบในรถม้าของเซียวหลินเทียนเพื่อนอนหลับทุกคนวิ่งวุ่นกันสองวันแล้ว พอนอนลงได้ไม่นานก็เข้าสู่ห้วงนิทราไปเลยฉินซานจัดองครักษ์เฝ้ายามในเวลากลางคืน เขาอยู่ในกะแรกและพาองครักษ์ไปตรวจรอบ ๆเมื่อหันกลับไป ก็เห็นนางกำนัลขององค์หญิงหกยังคงยุ่งวุ่นวายอยู่เลย ฉินซานเหลือบมองอย่างรังเกียจ แล้วก็เห็นว่าองครักษ์ที่อู่เวยพามาต่างกำลังเอนกายหลับกันอยู่ใต้ชายคาฉินซานส่ายหัวแล้วนำคนของเขาลาดตระเวนให้กว้างขึ้นฉินซานเพิ่งจะไป กลุ่มคนชุดดำสวมหน้ากากก็ย่องเข้ามาจากด้านหลังวิหารทรุดโทรมภายใต้ฝนที่ตกอย่างหนักนางกำนัลคนหนึ่งขององค์หญิงหกทนกลิ่นในรถม้าไม่ได้ จึงแอบไปอาเจียนอยู่หลังกำแพง กระทั่งนางออกมา ก็เผชิญหน้ากับคนชุดดำเหล่านี้เข้าแต่ยังไม่ทันที่นางจะกรีดร้องออกมา นางเห็นมีดแวววาวแวบผ่านมา แล้วหัวของนางก็ขาดออกไปทันที...หัวหน้าของกลุ่มคนชุดดำเตะหัวนางกำนัลเข้าไปในพงหญ้า จากนั้นก็กวาดสายตาแล้วทำสัญญาณมือ ส่วนคนที่เขาพามาก็แบ่งออกเป

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 690

    คนชุดดำแทงดาบมาหาเขา ฉินซานก้าวช้าไปหนึ่งก้าว ดาบของคนชุดดำจึงฟันมาที่แขนของฉินซานฉินซานหดตัวอย่างรวดเร็ว รู้สึกได้ว่าดาบโดนที่แขนของตน เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงจนแทบจะจับดาบนิ่ง ๆ ไม่ได้...แต่เขามิใช่คนฝีมือธรรมดา แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บ แต่ก็คว้าดาบไว้ได้ทันเวลา จากนั้นก็ย่อตัวลงแล้วเตะขาทั้งสองของคนชุดดำจากนั้นฉินซานก็พลิกตัวกลางอากาศ และเตะเข้าที่คางของคนชุดดำที่คางอย่างแรงคนชุดดำกระอักเลือดออกมา แล้วเลือดที่ผสมกับฝนก็หยดลงกลางอากาศพวกชุดดำหลายคนรีบวิ่งมาพร้อมดาบก่อนที่ฉินซานจะลงถึงพื้นฉินซานกลัวองค์หญิงจะบาดเจ็บจึงก้มลงและคว้าปกเสื้อขององค์หญิงหกแล้วลากนางเข้าไปในวิหารทรุดโทรมองค์หญิงหกตกใจมากจนขาของนางอ่อนแรง ครั้งที่แล้วที่โจรปล้น นางนั่งอยู่ในรถม้ามิได้เห็นการต่อสู้ด้วยตาของนางเอง!ครั้งนี้เห็นการต่อสู้กับตาของตนอย่างแท้จริงแล้ว!เมื่อครู่มีแวบหนึ่งที่นางคิดว่าฉินซานจะตายด้วยดาบของคนชุดดำเสียแล้ว“เข้าไปก่อน!”ฉินซานผลักองค์หญิงหกแล้วหันกลับมาขวางทางคนชุดดำเอาไว้“ถอย!”ฉินซานตะคอก ทันทีที่เขาต่อสู้กับคนชุดดำก็พบว่าคนชุดดำมีพลังมากในวรยุทธ นี่มันมิใช่โจรธรรม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 691

    หัวหน้ากระโจนเข้ามา พลังของดาบอันแหลมคมชี้ไปที่คิ้วของเซียวหลินเทียน เซียวหลินเทียนเอนตัวไปด้านหลัง เขาหลบดาบนี้โดยใช้ประโยชน์จากการขยับรถเข็น แล้วใช้ดาบแทงออกมาจากหลังมือ แต่หัวหน้าก็หลบได้อย่างว่องไว เซียวหลินเทียนชักดาบอีกเล่มออกมา ทันทีที่ดาบกำลังจะแทงเข้าไปที่ท้องหัวหน้า เขาก็หลบได้อีกครั้ง “กล้าดีอย่างไรมาท้าทายตัวข้าผู้สูงส่งด้วยทักษะดาบเช่นนี้!” หัวหน้าถากถางและแทงเซียวเทียนหลินอีกครั้ง เซียวเทียนหลินนั่งอยู่บนรถเข็นจึงมิอาจหลบเลี่ยงได้ เขาทำได้เพียงใช้ดาบของเขาต่อสู้อย่างหนักเท่านั้น หลี่ว์จงเจ๋อต่อสู้กับศัตรูพร้อมกับมองทางเซียวเทียนหลินอย่างกังวล อ๋องอี้เสียเปรียบเพราะขาของเขาใช้การมิได้ หากว่าเขาสามารถลุกขึ้นยืนได้ เช่นนั้นคงจะมิเป็นฝ่ายถูกกระทำถึงเพียงนี้ช่วงเวลาสั้น ๆ เซียวหลินเทียนและหัวหน้าต่อสู้กันไปมามากกว่าสิบกระบวนท่า ทว่ายังมิปรากฏผู้ชนะ หัวหน้าอาศัยความจริงที่ว่าร่างที่นั่งอยู่บนรถเข็นของเซียวเทียนหลินไม่มีความยืดหยุ่นมากพอถึงยันไว้ได้นานขนาดนี้ เขาเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ในเวลาเดียวกันก็แอบตกใจด้วยเช่นกัน คิดมิถึงเลยว่าวิทยายุทธของเซียวหลินเทียนจะร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 692

    เวลานี้เซียวหลินเทียนราวกับเทพเจ้า ร่างสูงใหญ่ของเขาชุ่มโชกกลางสายฝน ผมของเขาถูกสายฝนชะล้างลงมาจนลู่ติดหน้าผาก แต่เขามิได้ดูน่าอับอายเลยแม้แต่น้อย! รูปลักษณ์อันสง่างามนั้นทำให้ทุกคนแหงนหน้ามอง หลิงอวี๋รู้สึกว่าหัวใจของตนกลับมาเต้นอีกครั้งทันที ความรู้สึกหายใจไม่ออกเมื่อสักครู่หายไปในพริบตา! นางรู้สึกแค่ว่าเซียวหลินเทียนยืนขึ้นเช่นนี้แล้วหล่อมาก! “ข้ามิเป็นไร… ฆ่า…” เสียงร้องคำรามที่สั่นสะเทือนฟ้าดินของเซียวหลินเทียน แล้วยังมีเรื่องที่เขาลุกขึ้นยืนได้แล้วก็ช่วยยกระดับจิตใจของเหล่าองครักษ์ทันที เมื่อจ้าวซวนและลู่หนานเห็นเซียวหลินเทียนร้องคำรามด้วยความโกรธออกมาก็รู้เลยว่าเขาไม่เป็นไรจริง ๆ “ไปเร็ว…” จ้าวซวนเปลี่ยนความกังวลใจที่มีต่อเซียวหลินเทียนเมื่อกี้นี้เป็นแรงกระตุ้น เขาพุ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่งและแทงนักฆ่าทั้งซ้ายและขวา! ลู่หนานและคนอื่น ๆ รู้เรื่องที่หลิงอวี๋ทำการรักษาขาของเซียวหลินเทียนแล้ว แต่เมื่อกี้กังวลใจมากไปจนลืมว่าเซียวหลินเทียนสามารถเดินได้แล้ว บัดนี้มองเห็นว่าเซียวหลินเทียนลุกขึ้นแล้ว พวกเขามีเพียงความคิดเดียว ในที่สุดท่านอ๋องของพวกเขาสามารถลุกขึ้นย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 693

    หลิงอวี๋และท่านจินต้าวิ่งเข้ามาประคองเซียวหลินเทียนทั้งซ้ายและขวากลับไปยังวิหารที่พังทลาย “หม่อมฉันจะตรวจดูให้ท่านเดี๋ยวนี้!” หลิงอวี๋แสร้งทำเป็นตรวจสอบขาของเซียวหลินเทียนอยู่พักหนึ่งแล้วจึงเอ่ยว่า “สิ่งนี้น่าจะเป็นผลงานของนักฆ่าเมื่อกี้นี้!” “เป็นอย่างไรบ้าง?” เซียวหลินเทียนมองไปทางหลิงอวี๋ เขาอยากได้ยินว่านางจะสร้างเหตุผลอะไรให้เขาฟัง “ก่อนหน้านี้หม่อมฉันตรวจดูให้ท่าน พบว่าเส้นลมปราณที่ขาทั้งสองข้างของท่านถูกปิดกั้นอย่างแน่นหนาหม่อมฉันทั้งฝังเข็มและต้มยาให้ท่าน แต่ผลที่ได้กลับมิค่อยดีนัก!” “ตอนที่นักฆ่าต้องการสังหารท่านเมื่อกี้นี้ ท่านจะต้องกังวลใจมากเป็นแน่… ยามที่คนเราตกอยู่ในสภาวะวิกฤตก็จะกระตุ้นศักยภาพของตัวเองออกมา บางทีท่านอาจจะกังวลกับการหลบหลีกกระบวนยุทธของนักฆ่า ดังนั้นจึงกระตุ้นศักยภาพของตัวท่านออกมา!” ท่านจินต้ากล่าวอย่างเป็นที่รู้กันว่า “พระชายา ท่านพูดเช่นนี้ ก็คือเมื่อท่านอ๋องทรงกังวล เขาจึงใช้พลังและกำลังภายในเปิดเส้นลมปราณเริ่นและเส้นลมปราณตูทันที ดังนั้นเมื่อท่านอ๋องเปิดเส้นลมปราณจึงสามารถยืนขึ้นได้รึ?” “อืม เหตุนี้แล! ข้าหาได้รู้เรื่องวรยุทธไม่ ข้าทำ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 694

    เซียวทงไม่มีแรงจะโต้เถียงเซียวหลินเทียนอีกต่อไป นางจ้องมองอย่างว่างเปล่าไปที่เหล่าองครักษ์ที่ง่วนอยู่กับการเก็บศพท่ามกลางสายฝน ศพเหล่านั้นล้วนแต่เป็นคนที่เคยมีชีวิตมาก่อน! นางมิเคยคิดเลยว่าวันหนึ่งจะได้เห็นศพมากมายขนาดนี้! ความตายใกล้เข้ามาแล้ว! จากนั้นนางจึงตระหนักได้ว่า ถึงแม้ว่าตนจะมีฐานเป็นองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ แต่ภายใต้ดาบของนักฆ่าเหล่านั้นก็ไม่มีใครได้รับการปฏิบัติที่ต่างออกไปเพียงเพราะสถานะอันสูงส่ง“องค์หญิงหก… กระหม่อมหาท่านเจอแล้ว!” ไม่รู้ว่าอู่เวยเดินกะโผลกกะเผลกมาจากไหน บนตัวของเขาเปื้อนเลือดไม่น้อยซึ่งเขาไม่รู้ว่าเป็นของคนอื่นหรือว่าของตัวเอง! แต่เซียวทงยังสังเกตเห็นว่าเสื้อผ้าของเขาแห้ง องครักษ์ที่อยู่ตรงนั้นรวมถึงหลิงอวี๋ ไม่ว่าใครต่างเปียกฝนจนชุ่มโชก! อู่เวยกลับไม่เปียกฝนเลยแม้แต่น้อย สิ่งนี้สามารถพิสูจน์ได้ว่า เขาเพิ่งจะซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งที่ไม่โดนฝน! หากเปลี่ยนเป็นก่อนนักฆ่าจะมา เซียวทงคงจะก่นด่าและสาปแช่งไปแล้ว แต่เวลานี้นางกลับไม่ด่า คนของเซียวหลิงเทียนมิต้อนรับนาง ซิ่งเอ๋อร์และคนอื่น ๆ ล้วนแต่ได้รับบาดเจ็บ ไม่มีใครว่างเลย! “องค์หญิงหก ท่า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 695

    ทางด้านเซียวเทียนหลิน จ้าวซวนนำมาคนทำความสะอาดสนามรบ นักฆ่าชุดดำส่วนใหญ่ถูกกำจัดออกไปแล้ว มีเพียงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่กี่คนเท่านั้นที่ถูกเพื่อนทิ้งไว้ข้างหลังและหนีไม่ทัน เซียวหลินเทียนพาท่านจินต้าไปสอบปากคำนักฆ่าเหล่านี้ หลายคนยังคงต่อต้านอย่างดื้อรั้นและปิดปากเงียบ เซียวหลินเทียนยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าวกับจ้าวซวนว่า “ลงมือ!” จ้าวซวนก้าวมาข้างหน้า เหวี่ยงดาบตัดนิ้วนักฆ่าโดยไม่พูดอะไรสักคำ นักฆ่าผู้นั้นกรีดร้องออกมา เจ็บปวดจนแทบเป็นลมหมดสติ จ้าวซวนกล่าวอย่างไร้ความปรานี “หากมิสารภาพ ข้าจะสับนิ้วพวกเจ้าให้หมด!” นักฆ่าทั้งหลายต่างตกใจกลัวเมื่อเห็นว่าพฤติกรรมของเขานั้นมิได้ด้อยกว่าพวกเขาเลย ถึงแม้ว่าพวกเขาเหล่านี้จะมีชีวิตอยู่กับความโหดร้าย แต่เมื่อเห็นนิ้วของตนถูกตัดออกทีละนิ้ว เพียงแค่คิดก็ตัวสั่นแล้ว จึงรีบชิงสารภาพด้วยความหวาดกลัว นักฆ่าคนหนึ่งพูดด้วยใบหน้าเศร้าโศก “ท่านอ๋องอี้ พวกกระหม่อมเองก็ทำตามคำสั่งเช่นกัน เป็นหัวหน้าที่รับภารกิจมา ให้พวกกระหม่อมซุ่มโจมตีท่านอ๋อง!” เซียวหลินเทียนยิ้มหยันแล้วเอ่ยว่า “ไม่รู้งั้นรึ? พวกเจ้าคิดว่าข้าหลอกง่ายรึ? หากมิบอกข้อ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 696

    เซียวหลินเทียนและท่านจินต้ายังคงสอบสวนนักฆ่าต่อไป เนื่องจากภารกิจลอบสังหารของทูตซ้ายล้มเหลว หัวหน้าหอจึงส่งทูตขวามาทำภารกิจต่อ พวกเขาจะต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้เสียก่อนจึงจะสามารถรับมือได้ดี! เซียวหลินเทียนฟังแล้วก็คิดว่า ขาของตนสามารถยืนขึ้นได้แล้ว เรื่องนี้แพร่ออกไป องค์ชายคังและองค์ชายเว่ยก็จะกำจัดเขาอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น! เมื่อคิดว่าพี่ชายทั้งสองหานักฆ่ามาลอบสังหารตนจริง ๆ โดยมิสนใจความเป็นพี่เป็นน้องโดยสิ้นเชิง หยดเลือดและความรักในครอบครัวที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดก็ได้หายไปจนหมดสิ้นแล้ว ตำแหน่งองค์รัชทายาทสำคัญถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? ถึงกับทำให้พวกเขาลงมือกับตนอย่างเหี้ยมโหดครั้งแล้วครั้งเล่า! เซียวหลินเทียนแอบสาบานว่า ยิ่งพวกเขาต้องการตำแหน่งนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งมิยอมให้พวกนั้นสมปรารถนา! เมื่อก่อนเขาไม่อยากต่อสู้กับพวกเขาเพื่อตำแหน่งนี้ บัดนี้ขาของเขายืนขึ้นได้แล้ว เช่นนั้นเขาก็ต้องต่อสู้เพื่อตำแหน่งนี้… และจะต้องสำเร็จด้วย! หลังจากวุ่นวายตลอดทั้งคืนจนกระทั่งรุ่งสาง หลิงอวี๋ยังมิได้พักผ่อน นางพาแม่นมมาต้มโจ๊กให้ทุกคน หลังจากกินเสร็จ เซียวหลินเทียนก็จัดกลุ่มทหารองค

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1942

    บรรดาศิษย์น้องของเหมียวหยางจะกล้าปล่อยเหมียวหยางไปได้อย่างไร แม้ว่าเย่หรงจะเป็นศิษย์ที่มิประสบความสำเร็จของตระกูลเย่ แต่เขาก็นับว่าเป็นผู้มีอำนาจที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงแดนเทพ และความโหดร้ายของเขาก็ราวกับหมาป่าหากเขาประกาศชัดเจนว่าจะยั่วยุใคร เช่นนั้นแล้วขอเพียงยังมีลมหายใจอยู่ ต่อให้ต้องสู้จนถึงที่สุดก็จะมิยอมรามือถึงแม้ว่าเหมียวหยางจะเกลียดเย่หรงที่ทำให้จมูกของตนหัก แต่ท่าทีที่จะสู้กับเย่หรงอย่างสุดชีวิตนั้น ก็เป็นเพียงการแกล้งทำไปเท่านั้นเนื่องจากด้วยพลังของเขาแล้ว เขามิใช่คู่ต่อสู้ของเย่หรงอย่างแน่นอน มิฉะนั้นก็คงมิถึงกับถูกเย่หรงต่อยสองหมัด แล้วไม่มีแรงตอบโต้หรอก“พวกเจ้าปล่อยข้า ให้ข้าไปสู้กับเขา… เย่หรง เจ้ารู้สึกผิดแล้วกระมัง จึงได้ใส่ร้ายข้า!”เหมียวหยางตะโกนออกไปอย่างโอ้อวด “ข้ามิได้ทำลายบ้านของสิงอวี๋ มิใช่ว่าเจ้าจงใจไปทำลายบ้านของนาง เพื่อให้นางยอมขึ้นเตียงกับเจ้า และใช้โอกาสนี้สนับสนุนนางเองรึ?”น้ำโคลนสาดเข้ามาหาเย่หรงในทันทีคนจำนวนมากที่อยู่ตรงนั้น ต่างก็รู้สึกว่าคำพูดของเหมียวหยางอาจจะเป็นเรื่องจริงได้ เพราะเรื่องนี้ดูเป็นเรื่องที่เย่หรงสามารถทำได้!หลิงอวี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1941

    หยางหงหนิงยิ่งโวยวายก็ยิ่งเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ และดึงดูดสายตาของคุณหนูคุณชายที่ยังอยู่รอบ ๆ มิได้แยกตัวออกไปให้พากันหันมามอง"ข้าบอกว่าเจ้าต่ำต้อย แต่เจ้าก็ยังบอกว่ามิต่ำต้อย! ทุกคนมาดูอันดับหนึ่งของหอปรุงโอสถผู้นี้เถิด นางคือคนต่ำต้อยไร้ยางอาย!”“นางล่อลวงเย่หรงไปดื่มสุรา และมิรู้ว่านางใช้กลอุบายอะไร จึงทำให้เย่หรงสนับสนุนนาง!”“สิงอวี๋ ข้าขอบอกไว้เลยว่า คนต่ำต้อยเช่นเจ้า ตระกูลเย่ไม่มีทางให้เจ้าเข้าไปเป็นอันขาด และถึงแม้ว่าพวกเขาจะให้เจ้าเข้าไป เจ้าก็เป็นได้เพียงอนุเท่านั้น!”เมื่อคุณหนูเหล่านั้นรวมถึงบัณฑิตของหอโอสถไป๋เป่าได้ยินเช่นนั้น ก็ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา“ข้าก็บอกแล้วว่านางแต่งตัวธรรมดาเช่นนั้น แล้วจะมีเงินไปศึกษาที่สำนักศึกษาชิงหลงได้อย่างไร ที่แท้นางก็อาศัยการหลอกลวงเงินของบุรุษ!”“แต่นางก็มิได้งามอะไรนักนี่ แล้วเย่หรงจะชอบนางได้หรือ?”“เจ้ามิรู้หรอก บุรุษบางคนมิได้สนใจที่หน้าตา แต่สนใจที่รูปร่าง บางทีเย่หรงอาจจะสบายใจกับการปรนนิบัติของสตรีผู้นี้ก็เป็นได้!”คำพูดนี้เหมียวหยางเป็นคนพูด เขาพูดไปพลางยิ้มอย่างหยาบคาย ทั้งยังขยิบตาอย่างคลุมเครือให้กับพวกคุณชายที่อ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1940

    จงเจิ้งเฟยส่ายหัว “ข้าเองก็มิได้รู้แน่ชัดนัก ข้าแค่ฟังมาจากคนอื่นเท่านั้น เพราะพวกนางบอกกันว่าฉินตะวันตกเป็นคนละดินแดนกับพวกเรา!”“ข้าได้ยินมาเพียงว่า ทักษะการแพทย์ของหลิงอวี๋ผู้นี้ยอดเยี่ยมมาก ก่อนหน้านี้ว่ากันว่า ฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลเก๋อท้องใหญ่ราวกับกลอง และไม่มียาใดที่สามารถรักษาได้ แต่หลิงอวี๋เป็นคนผ่าท้องของนางแล้วนำถุงน้ำที่อยู่ในท้องของนางออกมา เช่นนี้จึงรักษาโรคประหลาดของนางหายขาดได้!”“ฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลเก๋อได้เดินทางติดตามข้าหลวงเก๋อมาที่เมืองหลวงแดนเทพแล้ว ดู ๆ ไปแล้วก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไปมิได้ผิดปกติใด ๆ นี่คือข้อเท็จจริง!”เหลยเหวินฟังแล้วก็รู้สึกสับสน “ดูเช่นนี้แล้ว หลิงอวี๋ก็มินับว่าเป็นคนเลว แต่เหตุใดนางจึงสังหารเฉียวเค่อเล่า!”หลิงอวี๋ฟังอยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ แล้วนางก็ยิ่งอยากรู้อดีตของตนมากขึ้นไปอีกตนเป็นคนแบบใดกันแน่?เหตุใดจึงมีศัตรูมากถึงเพียงนี้?ดูท่าทางจะต้องไปถามผู้รอบรู้เสียหน่อยแล้ว บางทีการรู้เรื่องในอดีตของตน อาจจะทำให้นางฟื้นความทรงจำที่หายไปได้เร็วขึ้นก็ได้ขณะที่ทั้งสามกำลังคุยกันอยู่ ก็เห็นหยางหงหนิงพาสหายอีกสองคนเดินเข้ามา“เฟยเฟย พวกเจ้าค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1939

    เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินคำพูดของเย่หรง ก็อดมิได้ที่จะยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยดูภายนอกเย่หรงกำลังบอกว่าตนเป็นคนขี้ขลาด แต่แท้จริงแล้วหลิงอวี๋กลับฟังออกว่าเย่หรงกำลังทำลายความเชื่อมั่นของฮูหยินเฉียวอยู่เขาใช้คำพูดของฮูหยินเฉียวมาเตือนผู้ที่คิดจะให้เบาะแสเพื่อเงิน ให้หยุดอยู่ที่ตรงนี้ลองคิดดูเถิด ฮูหยินเฉียวบอกว่าหลิงอวี๋เป็นคนโหดเหี้ยมไร้ความปรานี และหลิงอวี๋ก็สามารถหลบหนีการไล่ล่าของตำหนักหมาป่าสวรรค์ได้ หากใครจะเปิดโปงหลิงอวี๋ เช่นนั้นหลิงอวี๋จะทนเก็บความโกรธเอาไว้มิแก้แค้นได้หรือ?เป็นดังที่คาด คำพูดนี้ของเย่หรงทำให้คนจำนวนหนึ่งมิกล้าทำต่อไปแล้ววรยุทธ์ของเย่หรงมิได้อ่อนแอ เขาเองยังบอกว่ามิสามารถหลบหนีการไล่ล่าของตำหนักหมาป่าสวรรค์ได้ และสู้หลิงอวี๋มิได้ด้วยเช่นนั้นหากเปลี่ยนเป็นตนเอง ตนจะสามารถหลบหนีการไล่ล่าของตำหนักหมาป่าสวรรค์ได้หรือ?คนที่โหดเหี้ยมไร้ความปรานีเช่นหลิงอวี๋นี้ อย่าได้ไปยั่วยุนางจะเป็นการดีกว่าแม้ว่าเงินห้าล้านจะน่าดึงดูดใจ ทว่าหากชีวิตหาไม่แล้ว ต่อให้มีเงินแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์!มุมปากของเซียวหลินเทียนก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาเช่นกัน เขาก็ฟังออกถึงความหมายของเย่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1938

    เช่นนี้ก็แสดงว่า เฉียวไป๋เองก็รู้แล้วใช่หรือไม่ว่าคนที่ช่วยเขาไว้คือศัตรูของเขา?หลิงอวี๋แอบดีใจที่ตนเปลี่ยนรูปลักษณ์อีกครั้ง หลังจากที่หนีออกมาจากเงื้อมมือของเก๋อฮุ่ยหนิง มิเช่นนั้นหากใช้ใบหน้าก่อนหน้านี้ ก็คงจะถูกเก๋อฮุ่ยหนิงสังหารไปแล้วใช่หรือไม่?ดูท่าทางต่อไปตนจะมิสามารถใช้มีดผ่าตัดรักษาคนได้อีกต่อไปแล้ว!หลิงอวี๋ค้นพบแล้วว่า ที่เมืองหลวงแดนเทพนั้นล้วนเป็นหมอโอสถที่รักษาโรค มิว่าจะเป็นโรคอะไร หมอโอสถก็ล้วนใช้เพียงโอสถในการรักษาโรคเท่านั้นส่วนการผ่าตัดนั้น ในตอนนี้กลายเป็นวิธีการรักษาเฉพาะตัวของนางไปแล้วประเดี๋ยวก่อน จู่ ๆ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของหลิงอวี๋ตนเป็นคนที่รักษาดวงตาของฮูหยินเว่ยจนหาย ตอนนั้นมีหมอจำนวนมากบอกว่าดวงตาของฮูหยินเว่ยมิสามารถรักษาได้แล้ว หากพวกนางเองก็ได้เห็นหมายจับค่าหัวด้วย พวกนางจะไปเปิดโปงตนให้กับตระกูลเฉียวหรือไม่?ตั้งแต่ที่ตนลงมาจากเรือของตระกูลเว่ย ก็ทำเพียงเปลี่ยนกลับเป็นชุดสตรี แต่มิได้เปลี่ยนการแปลงโฉม!ยิ่งไปกว่านั้น ผู้รอบรู้ก็มิได้แปลงโฉมด้วย เช่นนั้นขอเพียงติดตามเบาะแสเหล่านี้มา การจะตามหาตนก็มิใช่เรื่องยากแล้ว!หากต้องการให้ตนป

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1937

    ขณะที่ก้าวเข้าไปใกล้เรื่อย ๆ ทีละก้าว หลิงอวี๋ก็มองพิจารณาฮูหยินทั้งสองของตระกูลเฉียวไปอย่างเงียบ ๆฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลเฉียวเป็นเสาหลักของตระกูลเฉียว เฉียวต้าลูกชายของนางซึ่งเป็นผู้นำตระกูลเฉียวตายไปแล้ว และเฉียวเค่อหลานชายที่เป็นที่รักมาโดยตลอดก็ตายไปแล้วเช่นกันฮูหยินผู้เฒ่าที่อายุหกสิบกว่าผู้นี้แก่ตัวลงมากภายในชั่วข้ามคืน และในช่วงนี้ก็นอนซมอยู่บนเตียงอยู่ตลอด นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่นางออกจากบ้านตั้งแต่ที่ลูกชายตายไปนางแต่งตัวเรียบหรูสุภาพเช่นเดียวกับฮูหยินเฉียว และเนื่องจากนางกินโอสถชะลอวัยมาหลายปี ดังนั้นแม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าเฉียวจะอายุหกสิบแล้ว แต่บนใบหน้าของนางก็ไม่มีริ้วรอยแม้แต่น้อย ดูแล้วคล้ายกับเป็นพี่น้องกับฮูหยินเฉียวเลยทีเดียวผมของนางก็เป็นสีดำสนิททั้งหมดเช่นกัน เพียงแต่เป็นเพราะอาการป่วย จึงทำให้สีผิวดูขาวซีดไปเล็กน้อยรูปร่างของฮูหยินเฉียวสูงใหญ่กว่าสตรีทั่วไป นางสูงเกือบหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร กระดูกก็ใหญ่เช่นกัน ดูมีความสามารถมาก และระหว่างคิ้วกับตาของนางนั้นก็ล้วนเป็นความมุ่งมั่นตัดสินใจอย่างเด็ดขาด“ฮูหยินผู้เฒ่าเฉียว ฮูหยินเฉียว...”จงเจิ้งเฟยพาเหลยเหวินกั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1936

    น่าสนใจ!เซียวหลินเทียนเห็นกระบวนการทั้งหมดนั้น แล้วก็รู้สึกว่าการมาเข้าร่วมงานเลี้ยงชมบุปผาที่น่าเบื่อในวันนี้ ก็มิได้น่าเบื่อถึงเพียงนั้นแล้วเขาหันไปหาเถาจื่อแล้วเอ่ยออกไป “ศิษย์พี่หญิงของเจ้าผู้นี้น่าสนใจมาก เจ้าจงเข้าใกล้นางเข้าไว้!”เถาจื่อดูท่าทีสับสน “นายท่านอู่ ท่านแน่ใจว่านางมิใช่คุณหนูมิใช่หรือเจ้าคะ? เหตุใดจึงต้องเสียเวลาไปกับนางด้วยเจ้าคะ?”เซียวหลินเทียนส่ายหัว “ไม่ ข้ามิอาจแน่ใจได้หรอก! คุณหนูของพวกเจ้าฉลาดถึงเพียงนั้น หากนางตั้งใจจะซ่อนตัวขึ้นมาจริง ๆ ก็มีวิธีมากมายนัก!”“ข่าวล่าสุดที่สือหรงส่งมาก็คือ คุณหนูของพวกเจ้าติดตามฮูหยินเว่ยมาที่เมืองหลวงแดนเทพ ขอเพียงนางอยู่ในสังคมเมืองหลวงแดนเทพนี้ นางจะต้องมาศึกษาที่สำนักศึกษาชิงหลงอย่างแน่นอน!”“สิ่งที่พวกเราต้องให้ความสำคัญก็คือสตรีที่โดดเด่นเหล่านี้ เราจะต้องตรวจสอบพวกนางทีละคน จนกว่าจะพบคุณหนูของเจ้า!”เซียวหลินเทียนเชื่อว่า ด้วยความฉลาดของหลิงอวี๋แล้ว นางไม่มีทางเป็นคนธรรมดาอย่างแน่นอน ขอเพียงคอยจับตามองสตรีที่โดดเด่นเหล่านี้เข้าไว้ เขาจะต้องหาหลิงอวี๋พบได้อย่างแน่นอน“ฉินซาน เจ้ากลับไปบอกให้สือหรงสืบประวัติของส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1935

    หลิวซานและเหล่าบัณฑิตของหอโอสถไป๋เป่าเห็นสถานการณ์เช่นนั้น ก็พากันตำหนิหลิงอวี๋หลิวซานเป็นผู้นำดุด่าขึ้นมา “ใช่แล้ว ตนเองสร้างปัญหาไปทั่ว เมื่อถูกคนมาทำลายบ้านยังจะมาใส่ร้ายศิษย์พี่ของพวกเราอีก คงมิใช่ว่าเจ้ายากจนไม่มีเงิน จึงคิดจะขู่กรรโชกเงินจำนวนหนึ่งไปสร้างบ้านใหม่ใช่หรือไม่!”บัณฑิตคนหนึ่งก็เอ่ยออกมาอย่างดูถูกเช่นกัน “ดูจากอาภรณ์ที่นางใส่แล้ว ก็คงมิได้อยู่อาศัยในที่ที่ดีนักหรอก คงจะไปทำให้ใครขุ่นเคืองเข้าจึงถูกทุบน่ะสิ!”“ใช่แล้ว ที่อยู่ของพวกเรามีความปลอดภัยดี ไม่มีทางเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นแน่!”“สิงอวี๋ เจ้าช่างน่ารังเกียจเสียจริง! เมื่อครู่ศิษย์พี่ของเราล้อเล่นจึงพูดเช่นนั้นออกไป คาดมิถึงเลยว่าจะถูกเจ้าใส่ร้าย! เช่นนั้นหากเป็นข้าที่พูดเช่นนั้นออกไป เจ้าก็จะบอกว่าข้าทำลายบ้านเจ้าใช่หรือไม่?”จงเจิ้งเฟยกับเหลยเหวินจึงดึงหลิงอวี๋ไปถามด้วยความเป็นห่วง “บ้านของเจ้าถูกทุบจริงหรือ?”หลิงอวี๋นึกถึงเรื่องวุ่นวายในบ้านที่เห็นท่ามกลางสายฝนเมื่อวานนี้ แล้วพยักหน้าอย่างแน่วแน่นางมองเหมียวหยางอย่างเย็นชา เขายังคงหัวเราะอย่างมิกลัวเกรง พร้อมกับทำท่าทางท้าทายราวกับว่า ‘เจ้าทำอะไรข้ามิไ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1934

    เสียงของหลิงอวี๋มิได้ดัง แต่ก็แน่วแน่มีพลังพอ ทำให้คุณหนูคุณชายที่อยู่ในบริเวณนั้นได้ยินกันหมดเซียวหลินเทียนเพิ่งลงจากรถม้ามาพร้อมกับพวกเถาจื่อ เมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวหลินเทียนก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วก็หันไปมองน้ำเสียงนี้ พลังเช่นนี้ เหตุใดจึงคล้ายกับหลิงอวี๋มากถึงเพียงนั้นอย่ารังแกคนหนุ่มสาวที่ยากจน!ตอนนั้นที่หลิงอวี๋ถูกพวกเสิ่นจวนกลั่นแกล้งที่ภัตตาคาร หลิงอวี๋ก็เคยพูดในทำนองเดียวกันนี้“ใต้หล้านี้หากมีคนใส่ร้ายข้า หลอกลวงข้า ดูหมิ่นข้า เย้ยหยันข้า ดูถูกข้า เหยียดหยามข้า รังเกียจข้า หลอกลวงข้า ข้าควรจะลงโทษอย่างไร?”“ขอเพียงอดทนกับเขา ยอมเขา ตามใจเขา หลีกเลี่ยงเขา อดกลั้นกับเขา เคารพเขา เมินเฉยเขา และรอไปสักสองสามปีแล้วค่อยดูเขา!”พวกของเสิ่นจวนที่เคยรังแกหลิงอวี๋ในอดีตนั้น ในตอนนี้ต่างก็มีจุดจบที่น่าสังเวชทั้งสิ้น มีเพียงหลิงอวี๋เท่านั้น ที่ก้าวหน้า กลายเป็นหมอที่มีชื่อเสียง เป็นฮองเฮาที่ผู้คนนับล้านในฉินตะวันตกเคารพ!สตรีหน้าตาธรรมดาและแต่งตัวซอมซ่อตรงหน้าเขาผู้นี้ ก็มีพลังของหลิงอวี๋อยู่เช่นกันใครจะรู้ว่านางจะเป็นดังเช่นหลิงอวี๋หรือไม่ หนึ่งปีหลังจากนี้นางอาจ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status