แต่จ้าวเจินเจินกลับมิได้รับผลกระทบจากคำพูดเหล่านี้เลย พลางเอ่ยอย่างไร้ซึ่งความผิดด้วย“ทุกท่านเข้าใจผิดไปแล้ว… ข้ามิเคยได้ยินมาก่อนว่าข้ามีลูกพี่ลูกน้องชื่อจ้าวซิง!”“ทุกท่านรู้ดีว่าครอบครัวแม่ของข้ามีลูกพี่ลูกน้องมากมาย ข้าจำได้แค่ลูกพี่ลูกน้องของข้าอย่างพวกจ้าวเฉียงฮั๋วที่ใกล้ชิดกันทางสายเลือด แต่ในเมื่อคุณชายจ้าวพูดเช่นนี้ ข้าก็อยากจะถามเขาให้ชัดเจนเสียหน่อย!”จ้าวเจินเจินพูดไป ก็มองจ้าวซิงด้วยสายตาที่เฉียบคมไปด้วย“คุณชายจ้าว ท่านคิดให้ดีก่อนแล้วค่อยพูดเถิด...!”“ท่านเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้าจริง ๆ หรือ? เหตุใดข้ามิเคยเห็นท่านมาก่อน? บิดามารดาของท่านคือผู้ใดกัน?”“ท่านช่วยเตือนข้าหน่อย แล้วข้าจะกลับไปถามท่านพ่อข้าว่ามีครอบครัวของท่านอยู่ในตระกูลหรือไม่!”จ้าวซิงรู้สึกหวาดกลัวสายตาเย็นชาของจ้าวเจินเจินครอบครัวของเขาเป็นญาติของตระกูลจ้าวก็จริง แต่อยู่ห่างจากตระกูลจ้าวที่จวนอัครเสนาบดีไปแสนแปดพันลี้เลยทีเดียวตอนแรกเขามาหาจ้าวเจินเจิน เพราะอยากให้นางช่วยพูดให้ครอบครัวจ้าวของพวกเขาได้รวมอยู่ในลำดับวงศ์ตระกูลของตระกูลจ้าวในจวนอัครเสนาบดีด้วย ครอบครัวจะได้มีอนาคตที่ดีแต่จ้าวเจิ
เสิ่นจวนโกรธเพราะคำพูดของเซียวทงกับจ้าวเจินเจินจนตัวสั่น เห็น ๆ กันอยู่ว่าแผนการใส่ร้ายหลิงอวี๋เป็นการหารือและดำเนินการร่วมกันทุกคน!บัดนี้พอเรื่องมันเปิดเผยออกมาแล้ว พวกนางจะให้ตนเป็นแพะรับบาปไปเพียงผู้เดียว!แต่ก่อนหน้านี้พวกนางได้หารือกันด้วยวาจา ไหนเลยจะมีหลักฐานมายืนยันได้ว่าจ้าวเจินเจินกับจ้าวซิงสมคบคิดกัน!เมื่อเห็นว่าเสิ่นจวนพูดมิออก จ้าวเจินเจินก็โค้งคำนับท่านอ๋องเฉิง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงใจ“ท่านอ๋องเฉิง ความจริงปรากฏแล้วว่า เสิ่นจวนกับจ้าวซิงเห็นว่าเรื่องถูกเปิดโปงจึงใส่ร้ายพระชายาอ๋องอี้ ทั้งยังให้ร้ายหม่อมฉันเพคะ!”“คนเช่นนี้ควรถูกประหารเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างต่อผู้อื่นเพคะ!”เซียวทงก็ตะโกนเช่นกัน “ถูกต้อง! เสิ่นจวนกับจ้าวซิงร่วมมือกันใส่ร้ายพระชายาอ๋องอี้ เมื่อทำเรื่องผิดศีลธรรม นางก็ควรถูกประหารด้วย!”เซียวทงโกรธแค้นเรื่องที่เซียวหลินเทียนปกป้องหลิงอวี๋ในวันนี้ เสิ่นจวนเป็นลูกพี่ลูกน้องของเซียวหลินเทียน เช่นนั้นจึงจะให้เสิ่นจวนตายไปด้วยเช่นกัน!ท่านอ๋องเฉิงเบื่อหน่ายกับเรื่องในวันนี้แล้ว เขาจ้องจ้าวซิงอย่างรังเกียจพลางพยักหน้า“จ้าวซิงใส่ร้ายพระชายาอ๋องอี้และย่ำ
พระสนมหรงกรีดร้องออกมาอย่างตกใจ“จวนเอ๋อร์!”หลิงอวี๋ไม่คาดคิดว่าเสิ่นจวนที่สับสนมานานถึงเพียงนั้น จะได้สติหลังจากถูกเอาเปรียบมากถึงเพียงนี้แม้ว่าการใช้วิธีตายเพื่อแสดงเจตจำนงจะดูโง่ไปหน่อย แต่ก็ยังทำให้หลิงอวี๋มองนางสูงขึ้นนางหาได้สนใจไม่ที่ก่อนหน้านี้เสิ่นจวนช่วยเหลือพวกคนทำชั่วแต่นางมิสามารถเพิกเฉยต่อเสิ่นจวนที่ตั้งใจจะตายเพื่อแสดงเจตจำนงในบัดนี้ได้!“หลิงซวน เอาล่วมยาของข้ามา!”หลิงอวี๋รีบวิ่งเข้าไปช่วยเสิ่นจวน นางหยิบผ้าออกมาปิดบนหน้าผากของเสิ่นจวนไว้เพื่อห้ามเลือดไม่ให้ไหลออกมาอีกทันใดนั้น หลิงอวี๋ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าบาดแผลของเสิ่นจวนไม่ได้ถึงแก่ชีวิตเมื่อนึกย้อนถึงการกระทำของนางรับใช้ของเสิ่นจวน มุมริมฝีปากของนางก็โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มชื่นชมไม่คาดคิดเลยว่าเสิ่นจวนที่ไร้สมองมาโดยตลอด ในที่สุดก็ฉลาดได้เสียที!นางใช้การกระทำเช่นนี้เพื่อหลอกจ้าวเจินเจินกับองค์หญิงหก!ผู้คนที่อยู่ในที่แห่งนี้ไม่เชื่อข้อกล่าวหาที่เสิ่นจวนกล่าวถึงองค์หญิงหกกับจ้าวเจินเจินมิใช่หรือ?การที่เสิ่นจวนตายเพื่อแสดงเจตจำนง ผู้ใดบ้างเล่าจะมิเห็นใจผู้อ่อนแอ!มีเลือดมากมายไหลอยู่บนพื้น ภาพที่
“ช้าไปเสียแล้ว!”เซียวหลินเทียนหัวเราะเยาะพลางเอ่ย “พี่สะใภ้สี่ของเจ้าให้โอกาสเจ้าหลายครั้งแล้ว แต่เจ้าหาได้กลับตัวไม่!”“เจ้าพูดอยู่เมื่อครู่มิใช่รึ? ขอเพียงหลิงอวี๋พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนางได้ เจ้าก็จะยอมรับการลงโทษ!”“กฎเกณฑ์ถูกกำหนดไว้โดยองค์จักรพรรดิสูงสุด! แม้ว่าวันนี้เรื่องไปถึงเสด็จพ่อ เจ้าก็อย่าได้คิดว่าจะหนีการลงโทษพ้น!”เมื่อเซียวทงเห็นเซียวหลินเทียนแข็งกร้าวเช่นนี้ก็โกรธจนตาแดง หยุดอ้อนวอนแล้วยิ้มเยาะพลางเอ่ย“เซียวหลินเทียน เสด็จพี่ตีหม่อมฉันเลย เสด็จพี่ให้ท่านปู่เฉิงตีหม่อมฉันเลย หม่อมฉันจะคอยดูว่าวันนี้ใครจะกล้าตีข้า!”เซียวหลินเทียนหัวเราะเยาะพลางมองไปที่ท่านอ๋องเฉิงเซียวทงอาจลืมไปแล้ว แต่เซียวหลินเทียนยังไม่ลืมว่าท่านอ๋องเฉิงเป็นคนที่เคยตีท่านพ่อมาแล้วด้วยซ้ำ!ตอนนั้นมีช่วงหนึ่งที่จักรพรรดิอู่อันหมกมุ่นอยู่กับการสะสมอักษรศิลป์กับภาพวาดโบราณ และใช้เงินคลังซื้ออักษรศิลป์กับภาพวาดโบราณเหล่านั้นไทเฮาพยายามโน้มน้าวจักรพรรดิอู่อันหลายครั้งแต่ก็หาได้ฟังไม่ สุดท้ายไทเฮาโกรธจนไปเชิญท่านอ๋องเฉิงมาท่านอ๋องเฉิงเอาพระราชโองการของจักรพรรดิสูงสุดที่ตั้งไว้ก่อนจะสิ้นพระช
หลิงอวี๋กำลังยุ่งอยู่กับการช่วยเหลือเสิ่นจวน ไม่สนใจฟังคำพูดของจ้าวเจินเจิน และไม่อยากตอบด้วยเซียวหลินเทียนมองจ้าวเจินเจิน มุมปากก็ยกขึ้นอย่างดูถูกแม้ว่าเรื่องที่จ้าวเจินเจินใส่ร้ายหลิงอวี๋ในวันนี้จะมีช่องโหว่เยอะมาก แต่กลับถูกนางปกปิดมันไปจนหมดเขาก็ไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์ว่านางมีส่วนร่วมในการใส่ร้าย จึงไม่สามารถเอาเรื่องอะไรนางได้!แต่เขารู้ดีอยู่แก่ใจ มีหรือจะถูกจ้าวเจินเจินหลอกด้วยคำพูดเหล่านั้นได้!ไม่ช้าก็เร็วเขาจะช่วยหลิงอวี๋ชำระบัญชีในครั้งนี้ให้จงได้แน่!“พระชายาคังช่างเก่งเสียจริง...”เซียวหลินเทียนยิ้มอย่างเย็นชา “เสิ่นจวนมีตาหามีแววไม่ นางมองคนมิออก เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้จึงเป็นการหาเรื่องใส่ตัวเอง!”“แต่ก็มีสิ่งที่นางพูดถูก… สวรรค์มองเห็นการกระทำของมนุษย์ เทพเจ้าจะตัดสินถูกผิดเอง!”“พระชายาคังไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงอธิบายหรอก พวกเราก็รู้อยู่แล้วว่าเจ้าเป็นคนเยี่ยงไร!”พูดจบ เซียวหลินเทียนก็ไม่สนใจจ้าวเจินเจินอีก พลางตะโกนบอกลู่หนาน “ไปหารถม้าพาเสิ่นจวนกลับคฤหาสน์ตระกูลเสิ่น!”จ้าวเจินเจินยังคิดจะช่วยอีกหน่อย แต่ถูกองค์ชายคังที่โกรธอยู่ลากตัวออกไปทุกคน
วันรุ่งขึ้น ตระกูลเสิ่นก็จัดงานศพให้เสิ่นจวนแต่แม้ว่าทุกคนที่อยู่ตรงนั้นจะได้รับคำเตือนจากท่านอ๋องเฉิงให้ระมัดระวังคำพูดและการกระทำแล้ว แต่เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับงานเลี้ยงชมบุปผาก็ยังคงแพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็วเรื่องที่แพร่ออกไปในตลาดมากที่สุดคือการเฆี่ยนตีองค์หญิงหก และข้อกล่าวหาของเสิ่นจวนที่มีต่อจ้าวเจินเจินกับองค์หญิงหกก่อนที่นางจะเสียชีวิตเมื่อประกอบกับงานศพของตระกูลเสิ่นแล้ว ข่าวลือเหล่านี้ก็ยิ่งแพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้างมากขึ้นชื่อเสียงของจ้าวเจินเจินตกต่ำลงทันที อีกทั้งนางก็ไม่สามารถอธิบายให้ผู้ใดฟังได้เลย นางโกรธมากจนอยากจะฆ่าหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเสีย แล้วก็พระชายาเย่ผู้นั้นด้วย!สองวันมานี้จ้าวเจินเจินคิดเกี่ยวกับแผนของตน นางไม่ยอมแพ้หรอก เห็น ๆ อยู่ว่าแผนของตนสมบูรณ์แบบถึงเพียงนั้น แล้วมันไปผิดพลาดที่ตรงไหนกัน?ประเด็นแรก หลิงอวี๋ควรจะอยู่ในห้องนั้น แต่เหตุใดมันถึงกลายเป็นเสิ่นจวน!นางนึกขึ้นได้ว่าหลิงอวี๋ปรากฏตัวพร้อมกับองค์ชายห้าเย่กับพระชายาของเขา อีกทั้งตั้งแต่ต้นจนจบ องค์ชายเย่กับพระชายาของเขาก็ช่วยพูดให้หลิงอวี๋ตลอดหรือว่าองค์ชายเย่เห็นภาพที่เสิ่นจวนกำ
“หลิงอวี๋ ก่อนหน้านี้ข้าผิดไปแล้ว ข้ามิควรฟังคำยุยงของพวกชิวเหวินซวงแล้วไปเข้าใจเจ้าผิดมากถึงเพียงนั้น!”“เจ้าพูดถูกตั้งแต่แรก ข้าถูกความโกรธแค้นบังสายตาไว้! ต่อไปข้าจะใช้ใจมองอย่างรอบคอบ และพยายามทำความรู้จักกับเจ้าใหม่อีกครั้ง!”“ข้า...”เซียวหลินเทียนพูดต่อไม่ได้แล้ว เมื่อคิดถึงเรื่องโง่ ๆ ที่ตนเคยทำก่อนหน้านี้ เขาก็รู้สึกละอายมากตอนนั้นเขาตีหลิงอวี๋ทุกครั้งที่ต้องการ ดุด่านางทุกครั้งที่ต้องการ แล้วเขาก็จะถูกความอับอายย้อนกลับมาทุกครั้งเขาในตอนนั้นต่างอะไรกับพวกลั่วอวี้จูเล่า?โชคดีที่ตนเรียกสติมาได้ทันเวลา มิฉะนั้นคงจะทำผิดพลาดครั้งใหญ่แล้วเขาก็ต้องเสียใจไปตลอดชีวิต!“ช่างเถิดเพคะ ไม่ต้องไปเอ่ยถึงเรื่องที่มันผ่านไปแล้ว! ก่อนหน้านี้หม่อมฉันเองก็มีเรื่องที่ทำผิดไปเช่นกันหาใช่ความผิดของท่านทั้งหมดไม่!”หลิงอวี๋ยิ้มอย่างใจดี พลางเปลี่ยนหัวข้อ “ครั้งนี้องค์ชายเย่กับพระชายาช่วยหม่อมฉันไว้ พวกเราไปขอบคุณพวกเขาด้วยกันสักหน่อยเถิดเพคะ!”เซียวหลินเทียนได้ยินก็พยักหน้าทันที “ได้สิ เจ้าเตรียมของกำนัลขอบคุณเถอะ แล้วเราไปขอบคุณพวกเขาด้วยกันวันหลัง!”หลิงอวี๋ยิ้ม แม้ว่าตอนนั้นนางจะแค่
พระชายาเว่ย!หลิงอวี๋เห็นรูปลักษณ์อันงดงามของสตรีผู้สูงศักดิ์ตรงหน้าเขาอย่างชัดเจน ก็จำได้ว่าเคยเห็นนางมาก่อนชายาเอกขององค์ชายใหญ่ มารดาของท่านหญิงจ่างหนิง!“แม่นางซือเชี่ยวชาญเรื่องการทำคลอดกับรักษาโรคสตรีที่สุด แต่น้องสะใภ้สี่ไม่เคยทำคลอดเลย ท่านเชื่อใจให้ชีวิตของจูหลานอยู่ในมือของนางเช่นนั้นหรือ?”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ไม่เคยสังเกตพระชายาเว่ยมาก่อน หลังจากได้ยินคำพูดของนางจึงพิจารณานางอย่างระมัดระวังพระชายาเว่ยอยู่ในวัยยี่สิบต้น ๆ รูปร่างหน้าตาของนางนับว่างดงาม แต่นางเทียบไม่ได้กับจ้าวเจินเจินความงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงแต่จู่ ๆ หลิงอวี๋ก็นึกถึงสิ่งที่หลิงซวนเคยบอกตนเรื่องเกี่ยวกับพระชายาเว่ยได้พระชายาเว่ยมาจากตระกูลที่มีชื่อเสียง ท่านปู่ของนางเป็นผู้มีพระคุณของจักรพรรดิ พี่ชายสองคนในตระกูลต่างก็ผ่านเข้าจอหงวน และได้เข้าเรียนที่สำนักฮั่นหลินว่ากันว่าพระชายาเว่ยถูกเลี้ยงดูในการดูแลของท่านยายตั้งแต่เด็ก ได้รับการสอนอย่างลึกซึ้งจากท่านยาย มีการศึกษาดี และมีบุคลิกที่สงบเมื่อพระชายาเว่ยพูดเช่นนี้ องค์ชายเย่ก็ค่อนข้างลังเลเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับทักษะทางการแพทย์ของหลิงอวี๋ แต่