พระชายาเว่ย!หลิงอวี๋เห็นรูปลักษณ์อันงดงามของสตรีผู้สูงศักดิ์ตรงหน้าเขาอย่างชัดเจน ก็จำได้ว่าเคยเห็นนางมาก่อนชายาเอกขององค์ชายใหญ่ มารดาของท่านหญิงจ่างหนิง!“แม่นางซือเชี่ยวชาญเรื่องการทำคลอดกับรักษาโรคสตรีที่สุด แต่น้องสะใภ้สี่ไม่เคยทำคลอดเลย ท่านเชื่อใจให้ชีวิตของจูหลานอยู่ในมือของนางเช่นนั้นหรือ?”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ไม่เคยสังเกตพระชายาเว่ยมาก่อน หลังจากได้ยินคำพูดของนางจึงพิจารณานางอย่างระมัดระวังพระชายาเว่ยอยู่ในวัยยี่สิบต้น ๆ รูปร่างหน้าตาของนางนับว่างดงาม แต่นางเทียบไม่ได้กับจ้าวเจินเจินความงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงแต่จู่ ๆ หลิงอวี๋ก็นึกถึงสิ่งที่หลิงซวนเคยบอกตนเรื่องเกี่ยวกับพระชายาเว่ยได้พระชายาเว่ยมาจากตระกูลที่มีชื่อเสียง ท่านปู่ของนางเป็นผู้มีพระคุณของจักรพรรดิ พี่ชายสองคนในตระกูลต่างก็ผ่านเข้าจอหงวน และได้เข้าเรียนที่สำนักฮั่นหลินว่ากันว่าพระชายาเว่ยถูกเลี้ยงดูในการดูแลของท่านยายตั้งแต่เด็ก ได้รับการสอนอย่างลึกซึ้งจากท่านยาย มีการศึกษาดี และมีบุคลิกที่สงบเมื่อพระชายาเว่ยพูดเช่นนี้ องค์ชายเย่ก็ค่อนข้างลังเลเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับทักษะทางการแพทย์ของหลิงอวี๋ แต่
หลิงอวี๋แค่คิดถึงประโยชน์ของการมีลูกชาย แต่ก็ไม่ได้อิจฉาอะไร!นางรู้สึกว่าเซียวหลินเทียนเองก็ไม่ใช่คนประเภทที่พึ่งพาลูกเพื่อรับตำแหน่งเช่นกัน!เพียงแต่ นางกับเซียวหลินเทียนสามารถมองได้อย่างใจเย็น แล้วคนอื่น ๆ เล่า?หลิงอวี๋หันไปมองพระชายาเว่ยโดยไม่รู้ตัว...รถม้าของพระชายาเย่ถูกรถม้าของตำหนักองค์ชายเว่ยชนระหว่างทางไปถวายเครื่องหอม นางถึงได้ตกจากรถม้า!นี่เป็นอุบัติเหตุจริง ๆ หรือ?หากพระชายาเว่ยไม่อยากให้พระชายาเย่ให้กำเนิดลูกชายคนโตของราชวงศ์ แล้วได้รับความโปรดปรานจากจักรพรรดิอู่อัน นางก็อาจจะทำเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้นี่!แต่พระชายาเว่ยก็ไม่ได้ดูคล้ายคนโง่แม้ว่าจะอยากจัดการกับพระชายาเย่ นางก็ไม่น่าจะใช้รถม้าของนางเองไปโจมตีรถม้าของตำหนักองค์ชายเย่สิ!ขณะที่หลิงอวี๋กำลังคิดอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาจากข้างในอีกครั้ง แต่เสียงนั้นอ่อนแรงลงกว่าก่อนหน้านี้มาก!ไม่ดีแล้ว!จู่ ๆ หลิงอวี๋ก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา หากมีการสมรู้ร่วมคิดกันภายใน เช่นนั้นพระชายาเย่อาจจะสิ้นไปทั้งแม่ทั้งลูกได้!หลิงอวี๋อยู่เฉยไม่ได้แล้ว นางก้าวไปเอ่ยกับองค์ชายเย่ที่หน้าซีดด้วยความกังวล“องค์ชายห้
ฮูหยินจูตกใจมากจนเข่าทรุดลงไปกับพื้น ลูกคนแรกของจูหลานกับองค์ชายเย่ไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้วหากในภายภาคหน้าไม่สามารถมีลูกได้อีก เช่นนั้นลูกสาวของนางคงมีชีวิตแบบตายทั้งเป็นแน่นอน!เมื่อจูเฮ่าเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปพยุงมารดาของตนลุกขึ้นทันที“คิดวิธีอื่นอีกมิได้หรือ?” จูเฮ่าเอ่ยถามอย่างร้อนใจเด็กคนนี้จากไป ในภายภาคหน้าก็มีลูกได้อีก ทว่าหากนางไม่สามารถมีลูกอีกต่อไป น้องสาวของตนจะต้องทุกข์ทรมานเป็นแน่!ดูเหมือนว่า แม่นมจะได้เห็นสถานการณ์เช่นนี้มามากแล้ว นางจึงเอ่ยอย่างไร้ความปรานี“แม่นางของข้าบอกว่าสามารถช่วยชีวิตพระชายาได้ก็เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแล้ว! หากพวกท่านขอมากเกินไป นางทำให้มิได้หรอก!”“ข้าขอเพียงให้หลานหลานมีชีวิตอยู่เท่านั้น! เจ้าไปบอกแม่นางซือให้รีบช่วยหลานหลานเสีย!” องค์ชายเย่กัดฟันตัดสินใจจู่ ๆ น้ำตาของฮูหยินจูก็ไหลลงมาอาบแก้ม ลูกสาวผู้น่าสงสารของนาง!“หากแม่นางของข้าต้องช่วยชีวิตพระชายาไว้ ก็ทำได้เพียงต้องใช้ยาที่ดีที่สุด ยานี้แม่นางของข้าต้องรวบรวมและปรับปรุงด้วยความพยายามอย่างมาก ต้องจ่ายเงินมาห้าหมื่นตำลึง…”“เงินมากเท่าใดข้าก็ให้ได้ รีบช่วยพระชายาเร็วเข้
สีหน้าของพระชายาเว่ยเปลี่ยนไปทันที พลางเอ่ยเถียงขึ้นมาอย่างร้อนตัว“น้องสะใภ้สี่เอ่ยวาจาไร้สาระอันใดกัน! ข้าเป็นคนเช่นนั้นหรือ? ข้าแค่เป็นห่วงว่าเจ้าจะไม่รู้เรื่องทำคลอดลูกแล้วทำผิดกับน้องสะใภ้ห้าต่างหาก!”“หากศพที่อยู่ในท้องจะทำให้นางหายใจไม่ออก ทุกคนรู้เรื่องนี้ดี! ข้าว่าเจ้าต่างหากเป็นคนที่จงใจฆ่าน้องสะใภ้ห้า!”หลิงอวี๋ไม่ได้ยินเสียงจูหลานที่อยู่ข้างในแล้ว จึงกังวลว่าพระชายาเว่ยกำลังถ่วงเวลาไม่ให้ตนช่วยเหลือจูหลานนั่นคือสองชีวิตเชียวนะ!หลิงอวี๋กังวลมากจนไม่สนใจที่จะโต้เถียงกับพระชายาเว่ยแล้ว จึงตะโกนใส่องค์ชายเย่เสียงแข็ง“เซียวหลินมู่ หากหม่อมฉันมิชอบจูหลาน หม่อมฉันคงเดินจากไปเพราะท่าทีของท่านเมื่อครู่แล้ว!“หากหม่อมฉันมิรู้สึกเสียใจกับจูหลานที่จะไม่สามารถเป็นแม่ได้อีกตลอดชีวิต! หากมิเสียใจกับเด็กที่ยังไม่ลืมตาดูผืนแผ่นดินแต่จะถูกหมอต้มตุ๋นฆ่า! หม่อมฉันจะอยู่ที่นี่ให้ถูกสอบสวนเพื่อสิ่งใดกัน!”“บุตรกับภรรยามิใช่ของหม่อมฉัน จะช่วยเหลือพวกเขาหรือไม่มันขึ้นอยู่กับท่าน หม่อมฉันไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว!”“ท่านตรัสมาเถิดว่าอยากให้หม่อมฉันช่วยหรือไม่? หากมิให้หม่อมฉันช่วย ท่านจะต
นางผดุงครรภ์ทั้งสองรีบออกไปทันทีหลิงอวี๋หันกลับไปตะโกนใส่จูเฮ่ากับเซียวหลินเทียน“ห้ามผู้ใดในเรือนนี้ออกไปไหนจนกว่าข้าจะออกมา!”นางจ้องมองแม่นางซืออย่างดุร้าย หวังเพียงว่าเรื่องราวจะไม่เป็นอย่างที่ตนคิด!“องค์ชาย ท่านเข้ามากับพวกเรา!” หลิงอวี๋ตะโกนบอกองค์ชายเย่องค์ชายเย่ก้าวผ่านประตูไปโดยไม่รู้ตัวนางผดุงครรภ์คนหนึ่งรีบคว้าตัวเขาพลางตะโกนว่า “องค์ชาย ห้องคลอดสกปรกนัก อย่าเข้าไปนะเพคะ จะทำให้โชคร้าย!”เวลานี้องค์ชายเย่ไม่ฟังคำพูดโน้มน้าวใจใด ๆ แล้ว เมื่อเห็นท่าทางเงียบ ๆ ของจูหลาน เขาก็รีบเข้าไป พลางตะโกนอย่างประหม่า “หลานหลาน เจ้าเป็นเยี่ยงไรบ้าง?”หลิงอวี๋เองก็รีบพุ่งเข้าไปหาจูหลาน แล้วก็พบว่าจูหลานหมดสติไปแล้วหลิงอวี๋จับชีพจร หัวใจของจูหลานเต้นช้า หัวใจของเด็กก็อ่อนแอเกินกว่าจะรู้สึกได้หากมิใช่เพราะตนมีความสามารถรับรู้ที่ผิดปกติ ก็จะไม่สามารถสัมผัสได้ถึงการเต้นของหัวใจเด็กเพียงแค่จับชีพจรหรอก“เถาจื่อ ฉีดยาหัวใจ!”“หลิงซวน ออกไปหาคนมาตรวจเลือด เตรียมพร้อมสำหรับการให้เลือด!”หลิงอวี๋สั่งอย่างเป็นขั้นเป็นตอน“พี่สะใภ้สี่ ข้าต้องทำสิ่งใด?” องค์ชายเย่เอ่ยถามอย่างกังวล
หลิงอวี๋โกรธจนหน้าเขียว หยิบขวดยาแก้พิษกับเข็มออกมาฉีดเข้าไปที่เด็กก่อน ตอนนี้นางต้องจัดการกับรกและสายสะดือของจูหลาน ไม่มีเวลาตรวจสอบว่ามันเป็นพิษชนิดใด“พี่สะใภ้สี่ ท่านกำลังทำอะไรอยู่? นั่นอะไรหรือ?”องค์ชายเย่เห็นหลิงอวี๋แทงเข็มที่ทารก แล้วทารกก็ไม่ร้องเลยตั้งแต่เกิดมา เขาจึงเอ่ยออกมาอย่างกังวล“อย่าได้ห่วงเพคะ หม๋อมฉันกำลังช่วยเขา!”หลังจากที่หลิงอวี๋ฉีดยาเสร็จแล้วก็ส่งทารกให้เถาจื่อดูแล ส่วนตนก็มาจัดการจูหลานต่อเลือดของจูหลานยังไม่หยุดทั้งยังมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยหลิงอวี๋รีบเอาเข็มเงินออกมาฝังไว้ที่จุดฝังเข็มของจูหลาน จากนั้นตะโกนไปข้างนอก“หลิงซวน เลือดพร้อมหรือยัง?”“อาจารย์ มาแล้วเจ้าค่ะ!”หลิงซวนรีบเปิดประตูแล้วเอาเลือดสองถุงใหญ่มาหลิงอวี๋สอดหลอดเลือดเข้าไปที่จูหลานก่อน แล้วจึงบ่น “เหตุใดจึงช้าถึงเพียงนี้”หลิงซวนยิ้มอย่างขมขื่นพลางเอ่ย “ข้างนอกทะเลาะกันรุนแรงมากเจ้าค่ะ! พระชายาเว่ยจะเดินนำออกไป แม่นางซือกับนางผดุงครรภ์สองคนก็บอกว่าที่นี่ไม่ใช่เรื่องของพวกนางแล้ว เหตุใดถึงไม่ยอมให้พวกนางออกไป!”“ทั้งยังบอกว่าท่านอ๋องอี้ใช้อำนาจเกินไป จะไปร้องเรียนต่อองค์ชายเว่ยและ
องค์ชายเย่คลี่กระดาษนั้นออกมา เม็ดยายังคงอยู่ข้างในหลิงอวี๋รับยานั้นมาดมกลิ่น กลิ่นอาเจียนมาพร้อมกับกลิ่นหอม ซึ่งเป็นกลิ่นที่นางเคยได้กลิ่นจากแม่นางซือก่อนหน้านี้“รอสักครู่ หม่อมฉันดูว่ามันคือสิ่งใด!”หลิงอวี๋วิ่งไปด้านหลังฉากกั้นลม แล้วรีบเข้าไปในมิติเพื่อตรวจสอบยาเม็ดนั้นหลังจากนั้นไม่นานผลลัพธ์ก็ออกมา หลิงอวี๋อ่านจบในรวดเดียวแล้วเดินออกไปองค์ชายเย่ยืนนิ่งอยู่ต่อหน้าทารก จ้องมองใบหน้าเล็ก ๆ ที่น่าสงสารนั้น“องึ์ชายห้า ยาเม็ดนี้ไม่มีพิษ แต่ในนี้ประกอบด้วยส่วนผสมของยาสองอย่างคือใบยี่โถกับเซิงหมาดำ! เมื่อยาทั้งสองรวมกันจะทำให้พระชายาเป็นหมันในภายภาคหน้าเพคะ!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างเย็นชา “ยาทั้งสองนี้ไร้กลิ่น! แต่หม่อมฉันกลับได้กลิ่นหอม!”“อีกทั้งหม่อมฉันยังพบดอกคำฝอยอยู่ในอาเจียนของจูหลานด้วย ยานี้ยังเป็นยาช่วยการขับเลือด!”“ยาชนิดนี้สามารถใช้ขับเลือดในสตรีได้ แต่หากใช้กับสตรีมีครรภ์จะทำให้เลือดไหลไม่หยุด!”“แม่นางซือเพิ่งมาถึงไม่นาน แต่ตอนที่จูหลานมาก็มีเลือดออกมากแล้ว ดังนั้นแม่นางซือมิน่าใช่คนที่ให้จูหลานกินดอกคำฝอย!”องค์ชายเย่ยิ่งฟังก็ยิ่งหวาดกลัว เขาไม่คาดคิดเลยว่าแค่พร
สายตาของเซียวหลินเทียนมองไปที่องค์ชายเย่อย่างเคร่งขรึม แม้ว่าเขาจะเชื่อในทักษะการแพทย์ของหลิงอวี๋ แต่นี่ก็เป็นเรื่องการทำคลอด และก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ไม่มีประสบการณ์ในการทำคลอดมาก่อนเลยนางช่วยพระชายาเย่ไม่ได้จริง ๆ หรือ?แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาสาบานว่าจะไม่มีทางปล่อยให้องค์ชายเย่ทำให้หลิงอวี๋ต้องลำบากใจเด็ดขาด!“หลานเอ๋อร์ของข้า… หลิงอวี๋ ท่านคืนชีวิตของหลานหลานให้ข้าเถิด!”ฮูหยินจูสั่นไหวอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็สะบัดมือของจูเฮ่าแล้วเดินโซเซเข้าไป“ผู้ใดบอกว่าพระชายาเย่ตายแล้วเล่า?”หลิงอวี๋กลัวว่าฮูหยินจูจะล้ม จึงรีบก้าวไปพยุงนาง พลางเอ่ยเสียงอ่อนโยน“ฮูหยินจูมาดูนี่สิ นางแค่หมดเรี่ยวแรงหลังคลอดเลยสลบไปเท่านั้น ประเดี๋ยวพอให้เลือดเสร็จ นางก็จะฟื้นขึ้นมาแล้ว!”ความหวังริบหรี่เกิดขึ้นในใจของฮูหยินจู แล้วหลิงอวี๋ก็พยุงนางเข้าไปนางยื่นมือไปสัมผัสลมหายใจของจูหลาน และรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของจูหลานที่พ่นใส่มือของตนหัวใจของนางจึงมีชีวิตชีวาขึ้นมา“พระชายาอ๋องอี้ เช่นนั้นนางยังสามารถให้กำเนิดลูกอีกได้หรือไม่?”ฮูหยินจูจับมือหลิงอวี๋พลางเอ่ยถามอย่างมีความหวัง“ได้แน่นอนสิ เมื่อคร