Share

บทที่ 57

Author: กานเฟย
หลิงอวี๋เห็นฮูหยินใหญ่กำลังมองตนอย่างกอดความหวังไว้เช่นกัน นางจึงยิ้มสักพักกล่าวว่า

“ขออภัยฮูหยินใหญ่ โรคเจ็บป่วยนี้จะกำเริบขึ้นบ่อยครั้ง ไม่อาจรักษาให้หายขาดได้!”

ดวงตาของฮูหยินใหญ่หมองลง หลิงอวี๋ค่อนข้างอดกลั้นไม่ไหว ในฐานะที่เป็นหมอคนหนึ่ง นางจนปัญญาทนสายตาที่สิ้นหวังของผู้ป่วยเป็นที่สุด

นางรีบกล่าวปลอบโยนว่า “แต่ข้าสามารถสอนหลายวิธีป้องกันการกำเริบต่อท่านได้! ท่านทำตามสิ่งที่ข้าบอกและดูแลรักษาให้ดีก็จะไม่กำเริบง่าย ถึงขั้นไม่กำเริบในอนาคตอีกด้วย!”

อ่า มีดีขนาดนี้เชียวหรือ?

แม่นมเว่ยกล่าวทันทีว่า “ฮูหยิน พวกเราจะไปทำตามวิธีที่ท่านสอนแน่นอน ท่านช่วยบอกว่าควรใส่ใจกับสิ่งใด! ไป่ซุ่ย เจ้าก็ตั้งใจช่วยฮูหยินใหญ่จำด้วย!”

หลิงอวี๋ตอบว่า “ข้อแรกคือใส่ใจการบริโภค กินแค่ของอ่อนและกินผักผลไม้ให้มากเช่น ไชเท้าและบวบเป็นต้น พวกมันมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการหายใจลำบาก ขับเสมหะและล้างปอด เป็นประโยชน์ต่อคนเป็นโรคหอบหืดอย่างยิ่ง”

หลิงอวี๋บอกไป่ซุ่ยเกี่ยวกับอาหารที่ควรเลี่ยงและกินได้ ครั้นดูท่าทีของไป่ซุ่ยที่จดจำลำบาก นางก็กล่าวขึ้นว่า

“สักครู่ข้าจะไปยืมพู่กันกับกระดาษเขียนให้เจ้าแล้วกัน!”

ไป่ซุ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 58

    หลิงอวี๋และทั้งสี่คนถูกไป่ซุ่ยพาไปลานจวนเล็ก ๆ ลานหนึ่งที่อยู่ข้างกัน ลานจวนนี้สะอาดเรียบง่ายเป็นสถานที่พักผ่อนรวมตัวตระกูลที่เป็นสตรีครั้นรอให้ไป่ซุ่ยออกไป แม่นมลี่ให้หลิงซินไป ก่อนจะดึงหลิงอวี๋มาข้าง ๆ เอ่ยเสียงแผ่ว“คุณหนู ท่านรู้หรือไม่ว่าเหตุใดบ่าวถึงสนับสนุนให้อยู่ต่อ?”หลิงอวี๋เดาว่าแม่นมลี่คงไม่เสนอให้ตนอยู่ต่อหากไม่มีสาเหตุจึงเอ่ยถามเสียงเบา“เป็นเพราะฮูหยินใหญ่เหลียงผู้นั้นมีฐานะที่พิเศษรึ?”แม่นมลี่มองนางอย่าจนปัญญา กล่าวเสียงแผ่วว่า “คุณหนู ท่านลืมไปแล้วรึ เมื่อท่านยังเด็กเคยพบนาง...นางแซ่เหลียง… ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันคือฮ่องเต้อู่อันและหมู่เฟย(1)ของฮ่องเต้ก็แซ่เหลียงเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ตกตะลึงชั่วขณะ เอ่ยถามว่า “หรือว่านางคือไทเฮา?”หลิงอวี๋รู้เพียงว่าฮูหยินใหญ่ผู้นี้มีฐานะสูงศักดิ์ สง่าเกรียงไกร ยังคิดว่าเป็นคุณท่านหญิงจากสกุลร่ำรวยมากอำนาจจากบางแซ่ผู้ใดจะไปรู้ว่าเป็นไทเฮาในพระราชวัง!“นั่นน่ะสิ! คุณหนู… เมื่อครู่บ่าวเป็นห่วงท่านแล้ว! หากท่านรักษาไทเฮาไม่หาย พวกเราต้องตายกันหมดเจ้าค่ะ!”แม่นมลี่ประสานมือ ก่อนจะท่องนะโม อมิตาภพุทธะ แล้วเอ่ยว่า “ยังดีที่คุณหนูช่วยชีว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 59

    ด้วยตำรับอาหารบำรุงสุขภาพที่ทำตามคำแนะนำของหลิงอวี๋ กอปรกับโอสถพ่นหอบหืดที่หลิงอวี๋ให้ ไทเฮาเหลียงหลับเสถียรภาพตลอดคืนไทเฮาก็รู้สึกร่างกายผ่อนคลายจากที่ไม่เป็นมาก่อน นางก็คลี่ยิ้มพึงพอใจ“ทั้งหมดนี้ต้องยกคุณงามความดีให้ชายาอ๋องอี้! อายเจียรู้สึกว่าถ้าดูแลอย่างนี้ต่อไป อายเจียจะมีชีวิตถึงร้อยปีจริง ๆ ”“เป็นเช่นนั้นแน่นอนเพคะ! ไทเฮามีวาสนาดี… ออกตำหนักก็บังเอิญพบกับผู้สูงศักดิ์แล้ว!”“บ่าวจะไปคอยปรนนิบัติไทเฮาเสวยพระกระยาหารเช้า! ชายาอ๋องอี้บอกว่าหลังเสวยเสร็จก็พักผ่อนครึ่งชั่วยาม นางจะรอท่านอยู่ลานครึ่งทางขึ้นเขาวัดเพื่อชี้แนะวิธีรำไทเก๊กท่าน!”“ดีเลย… แม่นมเว่ย เจ้าควรศึกษาทีหลังด้วย! พวกเราจะได้อายุยืนยาว… เจ้าจะได้อยู่เคียงข้างอายเจียหลาย ๆ ปี” ไทเฮาเหลียงรู้สึกยินดีสุดซึ้งแม่นมเว่ยพยักหน้าส่งยิ้มตอบ “ไทเฮาทรงโปรดปรานรักใคร่ บ่าวจะหมั่นเพียรศึกษาตามอย่างแน่นอน บ่าวจะอยู่คอยปรนนิบัติไทเฮาพันปีพันพันปีเลยเพคะ! ”“ปากเจ้าทาน้ำผึ้งหรือ? เลือกวาจาน่าฟังเสมอเลย… อะไรพันปีกัน อายเจียไม่คาดหวัง มีชีวิตร้อยปีก็พอใจแล้ว!”ไทเฮาเหลียงเสวยพระกระยาหารเช้าอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง และแม่นมเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 60

    “คุณหนู ทำเช่นไรดีเจ้าคะ?”“งานเฉลิมฉลองของไทเฮาเชิญท่านไป เราก็ต้องเตรียมของขวัญถวายไทเฮา ยังต้องซื้อชุดเสื้อผ้าให้ท่านสวมไปงานด้วย!”ระหว่างทางกลับ แม่นมลี่นึกถึงเงินห้าสิบตำลึงที่หลิวอวี๋ให้ตนก็เกิดความกลุ้มใจของขวัญถวายไทเฮามิอาจกระจอกงอกง่อยได้ เสื้อผ้าที่คุณหนูสวมเข้าวังก็มิอาจะกระจอกงอกง่อยได้เช่นกัน!นี่เป็นเรื่องสำคัญที่ผลาญเงินยิ่ง แต่เหลือเวลาแค่สิบกว่าวันก็ถึงวันงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพแล้ว จะไปหาเงินได้จากไหนเล่า!หลิงอวี๋กล่าวคัดค้านว่า “แม่นม พระนางแค่พูดตามพิธีรีตองเท่านั้น ไยเจ้าคิดเป็นจริงเป็นจัง!”“อ่า ตามพิธีรีตอง? เป็นไปมิได้! คำพูดดั่งทองวาจาดั่งหยกของไทเฮา จะตรัสความเท็จได้เยี่ยงไร?” แม่นมลี่ผงะสักพัก“เมื่อก่อนในวังจัดงานเฉลิมฉลองอะไรก็ไม่เคยเชิญข้า! ไทเฮาจะทรงละเว้นได้เยี่ยงไร!”หลิงอวี๋ยิ้มอ่อนจาง “ข้าช่วยคนเป็นหน้าที่ ไม่อยากได้อะไรจากพระนาง! แม่นมก็อย่าพะวงไป… หากต้องพะวงจริง ๆ ก็คอยจนกว่าจะได้เห็นบัตรเชิญค่อยว่ากันเถอะ!”ครั้นแม่นมลี่ได้ฟังคำพูดเช่นนี้ของนางก็หวนนึกถึงทัศนคติของราชวงศ์ที่มีต่อหลิงอวี๋กับหลิงเยว่ก็เลยไม่กอดความหวังแล้วเช่นกัน!ทั้งส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 61

    เสิ่นจวนเห็นเจิงจื่ออวี้เสียหน้าก็พลันช่วยพูดทันควัน “อย่าว่าแต่เรื่องดูแคลนอันใดเจ้า ตัวข้าสามารถดูแคลนเจ้าได้ประเดี๋ยวนี้เลย!”“หากเจ้าไม่มีเงินกินข้าวจริง ๆ มาเป็นนางรับใช้ให้ข้าสักวัน แล้วข้าจะช่วยค่าอาหารของวันนี้แก่เจ้าเป็นเช่นไร?”สตรีที่กำลังจ้องหลิงอวี๋อย่างอาฆาตคือฉินรั่วซือ น้องสาวของฉินซานนางทนไม่ไหวเลยกล่าวเสียงเย็นชา“เสิ่นจวน นางเลือกภัตตาคารจี๋เสียงแล้วกลับยังต้องการให้เจ้าออกเงินช่วยอีกรึ!”“นางยังติดหนี้เกิ่งเอ้อเหยอยู่เลย ถ้านางจะเข้าไปยืมอีกก็ไม่เห็นจะเป็นไร! ลำบากขนาดนี้แล้วยังจะกลัวอะไรอีก!”คุณหนูคนอื่น ๆ ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก แม้การพรรณนานี้จะหยาบ แต่เหมาะกับหลิงอวี๋ยิ่ง!เมื่อได้ยินเช่นนั้นหัวใจหลิงอวี๋กลับเต้นผิดจังหวะ คาดมิถึงว่านี้คือภัตตาคารที่เกิ่งเอ้อเหยเปิดกิจการ?นางกำลังใคร่ครวญว่า จะไถ่ถอนมรดกตกทอดวงศ์ตระกูลของเซียวหลินเทียนกลับมาอย่างไรดีและคืนเงินกู้ดอกเบี้ยสูงที่ตัวเองติดค้าง!นี่คือการหลับในแล้ววิ่งชนหมอนจริงๆ(1)ชัด ๆ!ในบรรดาร้านยาสมุนไพรพวกนั้นไม่มีความรู้สรรพคุณยาเสียเลย แต่เกิ่งเอ้อเหยเป็นคนในยุทธภพเช่นนี้ต้องรู้เป็นแน่!

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 62

    หลิงอวี๋มองนางอย่างเฉยเมย “เสียงผู้ใดดังก็เป็นผู้นั้นไร้การศึกษาไงเล่า ขนาดเด็กยังเข้าใจ เจ้ากลับมิเข้าใจรึ?”“ถ้าไม่เข้าใจก็กลับไปให้แม่เจ้าสั่งสอนภาคบังคับเจ้าใหม่อีกแปดปีซะสิ!”เสิ่นจวนบันดาลโทสะจนตัวสั่นเทิ้ม หลิงอวี๋คนต่ำช้าผู้นี้กลายเป็นคนฉลาดพูดเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?เมื่อก่อนพอถูกตนกล่าวไม่กี่ประโยคก็กระทืบเท้าด้วยความโกรธตลอดแท้ ๆ !นี่เพิ่งไม่พบกันไปไม่กี่วัน ผู้ที่ถูกทำให้โกรธจนต้องกระทืบเท้ากลับเป็นตนเสียอย่างนั้น!มีคุณหนูผู้หนึ่งในกลุ่มนั้นมองไปโดยรอบ ก่อนจะพบว่า คนที่มากินข้าวที่นี่ทั้งหมดล้วนต่างมองมา และแล้วใบหน้านางก็แดงฉับพลันนางดึงเสิ่นจวนเข้ามากระซิบเตือนข้าง ๆ ว่า “เรามาดูเรื่องบันเทิงของนาง! มิใช่ให้ผู้อื่นมาดูเรื่องบันเทิงเรา!”“ทนรออีกสักเดี๋ยว คอยดูนางไม่มีเงินจ่ายอีกสักหน่อย นั่นคงทำให้นางต้องอับอายเป็นแน่!”คำพูดนี้เอ่ยเพื่อปลอบขวัญเสิ่นจวน ครั้นนางเห็นอันเจ๋ออยู่ที่นี่ ก็พลันนิ่งเงียบไปนางปรารถนาออกเรือนกับเซียวหลินเทียน และอันเจ๋อก็เป็นสหายที่ดีที่สุดของเขา นางเลยจำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์ของตนเอาไว้!อาหารเพิ่งยกมา หลิงอวี๋ก็พลันเห็นลู่หนานพา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 63

    แต่ว่าเวลานี้นางกำลังขาดแคลนเงินมิใช่รึ?นางไม่รังเกียจทองคำ เงิน หรืออัญมณีสามัญ ๆ หรอกนะ เอาสิ่งพวกนั้นมาอาบนางเลยเถอะ!งานเฉลิมฉลองพระราชสมภพอะไรกันเปล่าประโยชน์ที่สุด!เพราะคุณหนูชอบสิ่งของที่จับต้องได้จริง!แม่นมลี่ใจเต้นผิดจังหวะ เคลื่อนตัวเข้าใกล้หลิงอวี๋กล่าวเสียงแผ่ว“แรกเริ่มสิ่งที่ไทเฮาตรัสเป็นความจริง! คุณหนู บ่าวบอกแล้ว ท่านจะได้รับเทียบเชิญจากไทเฮาในครานี้แน่นอน!”“ถูกต้อง ลือกันว่าไทเฮามิโปรดเสียงดัง ฉะนั้นงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพครานี้ไม่ได้เชิญคนเยอะมากมัก!”“เริ่มส่งเทียบเชิญในวังเมื่อเช้านี้ เล่ากันว่าไม่เกินร้อยคน… และตัวข้าได้รับเทียบเชิญแล้ว! พวกเจ้าได้หรือยัง?”ชายาผิงหยางกวาดสายตามองทุกคนอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องเต็มประดา แถมยังเจาะจงมองไปทางหลิงอวี๋เป็นพิเศษ“เพียงร้อยคนเองหรือเพคะ? งั้นเทียบเชิญนี้ช่างเลอค่าเสียจริง! ห่อมฉันรู้สึกเป็นเกียรติยิ่ง ท่านพ่อหม่อมฉันได้รับหนึ่งใบแล้วสามารถพาคนไปด้วยได้คนหนึ่ง ท่านแม่เลยบอกให้หม่อมฉันไป!” เสิ่นจวนก็กล่าวกระหยิ่มยิ้มย่องเช่นเดียวกันเจิงจื่ออวี้เองก็เร่งเอ่ยว่า “ท่านพ่อหม่อมฉันก็ได้รับแล้วหนึ่งใบ สามารถพาคนคนหนึ่ง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 64

    หลิงซินไม่รู้ว่าฮูหยินใหญ่ที่พบอยู่วัดชิงเหลียนคือไทเฮาและไม่รู้ด้วยว่าไทเฮาจะส่งเทียบเชิญให้หลิงอวี๋ครั้นได้ยินดังนั้นก็รีบกล่าวว่า “พระชายาผิงหยาง ท่านช่วยให้คุณหนูของเราได้รับเทียบเชิญได้จริงหรือเพคะ?”“นั่นแน่นอน! ตัวข้าคือพระชายาผิงหยางเชียวนะ ลูกพี่ลูกน้องของข้าคือรองเจ้ากรมวังซึ่งสามารถพูดคุยกับไทเฮาต่อหน้าได้!”“ไทเฮาไม่พบหน้าผู้อื่น แต่ถ้าเป็นเกียรติของตัวข้ากับลูกพี่ลูกน้องล่ะก็ต้องพบแน่นอน!”ชายาผิงหยางกล่าวอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง “อีกอย่าง ตัวข้าจะส่งแม่นมไปลองถามลูกพี่ลูกน้องดูดีไหมเล่า? ลองดูว่าเขาจะช่วยชายาอ๋องอี้ให้รับเทียบเชิญได้หรือไม่!”นางหันศีรษะไปใช้สายตาส่งสัญญาณต่อนางรับใช้อาวุโสที่ด้านหลัง“แม่นม เจ้าไปจวนของท่านลุงเสีย ไปขอเทียบเชิญช่วยพระชายาสักใบ!”แม่นมผู้นั้นเข้าใจตามสัญชาตญาณ ตอบรับเสียงกังวานพลันวิ่งแช่มช้าจากไป“พระชายาผิงหยางกับไทเฮาทรงสนิทรักใคร่กันยิ่ง ลูกพี่ลูกน้องเองก็รับหน้าที่แจกเทียบเชิญด้วย บางทีอาจกู้เกียรติพระชายาได้!” เสิ่นจวนยิ้มกล่าวคำ“แต่ชายาอ๋องอี้เจ้าอย่ากอดความหวังจนมากไป อย่างไรเสียชื่อเสียงเจ้าก็เละเทะ ครานี้อาคันตุกะที่เรีย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 65

    แม่นมถูกสายตานางมองจนเหงื่อกาฬผุดพรายท่วมร่างสวรรค์รู้ว่าเมื่อกี้นางออกไปเพียงเดินวนเรื่อยเปื่อย เดิมทีไม่ได้ไปจวนท่านลุงด้วยซ้ำ!ไฉนเลยจะรู้ว่า พอวนกลับมาก็เห็นคนสวมเสื้อผ้าขันทีสองคนถือเทียบเชิญมาสองใบ!“พระชายา… เดิมทีขันทีสองท่านนั้นอยากมอบให้เองกับมือเพคะ บ่าวเกรงจะลำบากพวกเขาเกินควรเลยตัดสินใจรับมา..”“เทียบเชิญพวกนี้สำหรับมอบให้พระชายาอ๋องอี้เพคะ!”แม่นมยื่นส่งเทียบเชิญสองใบออกไป“โอ้โห พระชายาผิงหยางมีสัมพันธ์อันดีกับไทเฮาจริง ๆ ! เพิ่งไปขอก็ได้มาเลย...”บรรดาคุณหนูไม่รู้ความจริงจึงเกิดเสียงดังอื้ออึงทันใด ก่อนจะพากันมุงชายาผิงหยางกันอย่างพร้อมเพรียงชายาผิงหยางรับเทียบเชิญที่บรรจงเคลือบทองมาอย่างสนเท่ห์แล้วดูให้ละเอียด พบว่านั่นเป็นเทียบเชิญร่วมงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพของไทเฮาโดยแท้!บนเทียบเชิญสองใบนั้นเดินทองสวยงาม คือการเชิญชวนหลิงอวี๋กับหลิงเยวี่ยคนละใบ!เทียบเชิญทั้งสองใบเขียนด้วยลายมือมังกรเหินหงส์ระบำ(1) เมฆาล่องลอย สายธารไหลริน(2)ฝูงชนต่างมองอึ้ง พอผ่านไปสักพัก สวี่เหยียนถึงกับมองค้อนไปทางชายาผิงหยางด้วยสีหน้าขุ่นเคือง ก่อนจะกล่าวด้วยแรงริษยา“พระชายากู้เกี

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1854

    เมื่อข้าหลวงเก๋อได้ยินดังนั้นก็เกิดความสนใจขึ้นมาทันที แล้วรีบเอ่ยถามรัว ๆ อย่างร้อนใจ “เหตุใดคุณชายตระกูลเฉียวจึงอยู่ที่เมืองจงกวน? คนที่มาคือผู้ใด? หนิงเอ๋อร์ เจ้ารู้จักเขาได้อย่างไร? เจ้าแน่ใจหรือว่าเขาคือคุณชายตระกูลเฉียวจริง ๆ?”เก๋อฮุ่ยหนิงจึงเล่าเรื่องที่จื่ออวิ๋นจำเฉียวไป๋ได้ให้เขาฟัง แล้วบอกแผนการของตนให้ข้าหลวงเก๋อรู้โดยมิปิดบังด้วยสุดท้าย เก๋อฮุ่ยหนิงก็เอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ “ขอเพียงท่านพ่อส่งยอดมือสักสองสามคนมาแสดงร่วมกับข้า ให้ข้าได้เป็นวีรสตรีช่วยเหลือบุรุษรูปงาม เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเฉียวไป๋จะต้องรู้สึกขอบคุณข้าอย่างแน่นอน!”“เมื่อกอปรกับความสามารถและความงามของข้าแล้ว ในท้ายที่สุดคุณชายเฉียวจะต้องแต่งงานกับข้าอย่างแน่นอน!”เมื่อข้าหลวงเก๋อได้ยินว่าเก๋อฮุ่ยหนิงได้คิดแผนทุกอย่างเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ในที่สุดเขาก็มองลูกสาวที่มิเป็นที่สนใจมาโดยตลอดผู้นี้ในมุมมองที่ต่างออกไป นางเป็นคนที่มีกล้าหาญ มีความฉลาด มีกลยุทธ์และมีความเด็ดขาด หากสตรีเช่นนี้มุ่งเป้ามาที่ตน ตนไม่มีทางหนีพ้นจากเงื้อมมือของนางได้แน่คุณชายตระกูลเฉียวเองก็เป็นบุรุษเช่นกัน เขาเชื่อว่าคุณชายตระกูลเฉี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1853

    ฮูหยินเก๋อมิได้เข้าใจความพยายามของข้าหลวงเก๋อในทันที และยังคงรู้สึกเสียใจกับเงินห้าพันตำลึงนี้อยู่ ข้าหลวงเก๋อเห็นว่านางมิเข้าใจ จึงลากนางเดินออกไปจากนั้นข้าหลวงเก๋อจึงบอกความตั้งใจของตนให้ฮูหยินเก๋อฟังอย่างง่าย ๆ ฮูหยินเก๋อจึงได้สติคืนมาการที่สามีได้เลื่อนขั้นไปในตำแหน่งที่สูงขึ้นนั้นย่อมเป็นสิ่งฮูหยินเก๋ออยากเห็นอยู่แล้ว แม้ว่านางจะทำใจมิได้แต่ก็ทำได้เพียงนำตั๋วเงินห้าพันตำลึงมามอบให้หลิงอวี๋และเพื่อเป็นการดึงตัวหลิงอวี๋ให้มาทำงานกับสามี ฮูหยินเก๋อจึงพยายามพูดความดีของข้าหลวงเก๋ออย่างเต็มที่ ทั้งยังพูดออกไปอย่างมิปิดบังอีกว่า ขอเพียงหลิงอวี๋ติดตามพวกเขาไปเป็นหมอประจำตระกูลเก๋อที่เมืองหลวงแดนเทพ นางจะมิทำให้หลิงอวี๋ต้องลำบากอย่างแน่นอนเมื่อหลิงอวี๋ได้ยินดังนั้น จึงได้รู้ว่าที่ข้าหลวงเก๋อให้เงินเป็นจำนวนมากนั้นเพราะมีเจตนาแอบแฝง นางจึงลังเลขึ้นมาทันทีหากพูดด้วยใจที่เป็นกลางแล้วละก็ นางมิยินยอมที่จะเป็นทาสของตระกูลเก๋อ เพราะหากเป็นเช่นนั้นนางจะสูญเสียอิสรภาพไปแต่เมื่อหลิงอวี๋คิดว่า นางเองก็ต้องไปที่เมืองหลวงแดนเทพเช่นกัน และบางทีก็อาจจะพบกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ด้วย การที่มีตระกูล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1852

    เก๋อฮุ่ยหนิงมองไปแล้วก็เกือบจะอาเจียนออกมา“คุณหนูสาม หมอเจียงได้นำถุงน้ำออกมาแล้วเจ้าค่ะ นางให้บ่าวยกออกมาให้พวกท่านดู! ตอนนี้หมอเจียงกำลังเย็บแผลของฮูหยินผู้เฒ่าอยู่ คงจะต้องใช้เวลาสักพักเจ้าค่ะ!”นางรับใช้ใช้ตัวน้อยยกสิ่งที่อยู่ในจานให้ทุกคนดู เมื่อฮูหยินเก๋อและคุณหนูคนอื่น ๆ เห็นก็ตกใจจนรีบเบือนสายตาไปทางอื่นในทันทีเก๋อฮุ่ยหนิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจอยู่ภายในใจ หมอที่ตนเชิญมารักษาฮูหยินผู้เฒ่าเก่งกาจถึงเพียงนี้ ตนช่างมีสายตาที่หลักแหลมเสียจริง!“ยกถุงน้ำไปให้ท่านพ่อดูสิ ท่านพ่อจะต้องดีใจมากแน่ ๆ ที่ในที่สุดโรคของท่านย่าก็รักษาหายแล้ว!”เก๋อฮุ่ยหนิงจงใจเอ่ยขึ้นมานางรับใช้ตัวน้อยจึงทำตามคำสั่งแล้วยกไปให้ข้าหลวงเก๋อดูเก๋อฮุ่ยซินและฮูหยินเก๋อต่างก็มองหน้ากัน ทั้งสองคนต่างก็โกรธมาก ๆหากฮูหยินผู้เฒ่าหายดีแล้ว เช่นนั้นก็แสดงว่าฮูหยินเก๋อยังต้องถูกฮูหยินผู้เฒ่ากดขี่ต่อไปอีก และจะมิได้สิทธิ์ดูแลตระกูลเก๋อด้วยทุกสิ่งทุกอย่างนี้ล้วนเกิดขึ้นเพราะเก๋อฮุ่ยหนิง!ในชั่วขณะหนึ่งฮูหยินเก๋ออยากจะตีนางสารเลวผู้นี้ให้ตายไปเสีย นางถึงกับแอบสาบานว่า นางจะต้องหาคู่แต่งงานที่น่ารังเกียจที่สุดให้ก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1851

    เมื่อหลิงอวี๋ไปถึงบ้านตระกูลเก๋อ ตอนนี้เก๋อฮุ่ยหนิงมองหลิงอวี๋แตกต่างออกไปแล้ว ที่แท้หมอเจียงก็มีตระกูลเฉียวสนับสนุนอยู่ นางจึงได้กล้าหาญมิเกรงกลัวอำนาจของตระกูลเก๋อเช่นนี้!กระต่ายน้อยที่หลิงอวี๋ผ่าท้องไปนั้นยังมีชีวิตอยู่ดี ดังนั้นฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อจึงยิ่งรู้สึกสนใจที่จะให้หลิงอวี๋ทำการรักษานางแต่เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก แม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อจะรู้สึกสนใจขึ้นมาแล้ว แต่หากยังมิผ่านการยินยอมจากลูกชายเสียก่อน นางก็มิอาจตัดสินใจเองโดยพลการได้ ข้าหลวงเก๋อจึงถูกเชิญมา นับเป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋ได้พบกับใต้เท้าข้าหลวงเมืองจงกวนผู้นี้เขาอายุสี่สิบกว่า ดูมีชีวิตชีวา เขามีใบหน้ารูปเหลี่ยม จมูกงุ้มเล็กน้อยและมีดวงตาลึกเขามองประเมินหลิงอวี๋ แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “หมอเจียง ท่านแม่ของข้าเทียบกับกระต่ายมิได้หรอกนะ ชีวิตของนางมีค่ามากกว่ากระต่ายตัวนั้นร้อยเท่า เจ้าแน่ใจหรือว่าการผ่าตัดให้นางจะมิเป็นอันตราย?”หลิงอวี๋เผชิญหน้ากับข้าหลวงเก๋อผู้มีอำนาจ โดยมิได้แสดงความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอจนเกินไป “ท่านใต้เท้าเก๋อ แม้ว่าชีวิตของฮูหยินผู้เฒ่าจะล้ำค่ากว่ากระต่ายตัวนั้นแต่ก็เป็นชีวิตเจ้าค่ะ ข้าได้พ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1850

    เก๋อฮุ่ยหนิงครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง จากที่จื่ออวิ๋นเล่ามา เนื้อตัวของเฉียวไป๋เต็มไปด้วยบาดแผล และหมอเจียงก็เป็นหมอ ดังนั้นบางทีนางอาจจะช่วยชีวิตเฉียวไป๋เอาไว้ก็ได้เฉียวไป๋อยู่ที่นี่ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงแดนเทพเกือบพันลี้ ดังนั้นขอเพียงตนยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ทำให้เฉียวไป๋จดจำความดีของตนเอาไว้ แล้วค่อยยุให้ท่านย่าออกหน้า การแต่งงานครั้งนี้ก็จะมีแนวโน้มประสบความสำเร็จถึงแปดหรือเก้าในสิบแล้วแต่จะเข้าใกล้เฉียวไป๋ได้อย่างไรกัน?เก๋อฮุ่ยหนิงมิคิดว่า หากตนเป็นฝ่ายเริ่มคุยกับเฉียวไป๋ก่อน เขาก็คงจะสนใจนางปกติแล้วคุณชายตระกูลขุนนางเหล่านี้มักจะมิเห็นใครอยู่ในสายตาทั้งนั้น หากมิใช่คนพิเศษสักหน่อย เฉียวไป๋ไม่มีทางยอมให้ตนเข้าใกล้เขาเป็นอันขาด!“จื่ออวิ๋น เจ้าไปสืบมาทีว่าเกิดอะไรขึ้นที่ตระกูลเฉียว เหตุใดคุณชายเฉียวจึงมาลำบากอยู่ที่นี่ได้!”“และหากสืบมาได้ว่าคุณชายเฉียวชอบอะไรก็จะยิ่งดี!”เก๋อฮุ่ยหนิงรู้สึกว่า เมื่อก่อนนั้นตนยอมรับความลำบากมาโดยตลอด จึงได้ถูกเก๋อฮุ่ยซินแย่งชิงเรื่องการแต่งงานไป แต่ครั้งนี้มิว่าอย่างไรนางก็จะต่อสู้เพื่อตนเองให้ได้หากว่ามิสำเร็จ นางค่อยยอมรับชะตากรรมก็ได้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1849

    จื่ออวิ๋นติดตามเก๋อฮุ่ยหนิงมาตั้งแต่เด็ก เมื่อสามปีก่อนตระกูลเก๋อได้เดินทางไปเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองอายุครบร้อยปีที่ตระกูลหลงจัดขึ้นที่เมืองหลวงแดนเทพตอนนั้นจื่ออวิ๋นได้ติดตามเก๋อฮุ่ยหนิงไปที่เมืองหลวงแดนเทพ เดิมทีท่านย่าของตระกูลเก๋อจะใช้โอกาสนี้พูดคุยเรื่องแต่งงานให้กับเหล่าคุณหนูตระกูลเก๋อ นางจึงพาเหล่าคุณหนูไปด้วยดังนั้นจื่ออวิ๋นจึงเคยพบกับพวกคุณชายจากตระกูลที่มีชื่อเสียงที่ยังมิได้แต่งงาน ในงานเลี้ยงชมบุปผาที่ทางด้านตระกูลเก๋อเป็นผู้จัดขึ้น เฉียวไป๋ก็มาเช่นกัน จื่ออวิ๋นเคยได้พบกับเขาแล้วในเวลานั้นจื่ออวิ๋นยังเคยบอกเก๋อฮุ่ยหนิงด้วยว่า เฉียวไป๋เหมาะกับเก๋อฮุ่ยหนิงมาก ทั้งคู่อายุใกล้เคียงกัน และเฉียวไป๋ก็หน้าตาหล่อเหลาด้วยเพียงแต่เมื่อดูจากภูมิหลังทางครอบครัวของตระกูลเก๋อแล้ว แม้แต่คุณหนูที่เป็นลูกสาวถูกต้องตามกฎหมายก็มิอาจเอื้อมถึงตระกูลเฉียวได้ ยิ่งมิต้องพูดถึงเก๋อฮุ่ยหนิงที่เป็นลูกสาวของอนุภรรยาเลยในตอนนั้นแม้ว่าเก๋อฮุ่ยหนิงจะชื่นชอบเฉียวไป๋เช่นกัน แต่ด้วยฐานะที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว จึงมิอาจเอื้อม และมิได้เอามาใส่ใจแต่จื่ออวิ๋นไหนเลยจะคาดคิดว่า เฉียวไป๋คุณชายตระกูลขุน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1848

    เงื่อนไขที่เก๋อฮุ่ยหนิงต่อรองกับหลิงอวี๋คือ หลังจากที่หลิงอวี๋ทำการผ่าตัดให้กระต่ายแล้ว หากว่ากระต่ายตัวนั้นยังมีชีวิตอยู่ ข้าหลวงเก๋อก็จะต้องปล่อยลูกชายของหมอเถาไป“ข้าพยายามเต็มที่แล้ว! แต่ท่านพ่อบอกว่าเขาจะต้องได้เห็นกระต่ายมีชีวิตอยู่เท่านั้น มิฉะนั้นจะไม่มีทางปล่อยตัวคนไปแน่!”เก๋อฮุ่ยหนิงกลับมาแล้วเอ่ยกับหลิงอวี๋ “ถึงอย่างไรเจ้าก็มั่นใจในทักษะการแพทย์ของเจ้าเองมากอยู่แล้วมิใช่หรือ เช่นนั้นรออีกสักวันก็มิเป็นอะไรหรอก!”หลิงอวี๋มองออกว่าเก๋อฮุ่ยหนิงพยายามเต็มที่แล้ว นางจึงพยักหน้ากระทั่งเก๋อฮุ่ยหนิงให้นางรับใช้ไปหากระต่ายมา หลิงอวี๋กับเสี่ยวซิ่งก็นำอุปกรณ์ที่ต้องการออกมา แล้วผ่าท้องกระต่ายต่อหน้าเก๋อฮุ่ยหนิงกระต่ายถูกโอสถหมาฝู่ส่านทำให้สลบไป และทักษะที่ชำนาญของหลิงอวี๋ก็ทำให้เก๋อฮุ่ยหนิงยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น นางรู้สึกว่าหลิงอวี๋จะต้องรักษาท่านย่าของตนได้อย่างแน่นอนกระทั่งหลิงอวี๋เย็บท้องของกระต่ายเรียบร้อยแล้ว และฤทธิ์ของโอสถหมาฝู่ส่านหมดลง เมื่อเก๋อฮุ่ยหนิงเห็นกระต่ายฟื้นขึ้นมา นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็อยากจะรีบไปบอกข่าวนี้กับท่านย่า“คุณหนูสาม มันดึกแล้ว ค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1847

    ทันทีที่เก๋อฮุ่ยซินได้ยินว่า เก๋อฮุ่ยหนิงคิดจะสะสางให้ตนใสสะอาด นางก็ตะโกนขึ้นมา “เจ้าอย่าได้พูดให้น่าฟังไปหน่อยเลย ใคร ๆ ก็รู้ความในใจของเจ้ากันทั้งนั้นว่าเจ้าชื่นชอบคุณชายจ้าว…”“พอแล้ว!”ฮูหยินผู้เฒ่าโกรธจนสีหน้าเปลี่ยนไปแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นการที่สองพี่น้องแย่งสามีคนเดียวกันเช่นนี้ จะปกปิดก็ยังมิทัน แต่เก๋อฮุ่ยซินกลับตะโกนออกมาต่อหน้าคนนอก นี่ยังน่าอับอายมิพออีกหรือ?“เก๋อฮุ่ยซิน เจ้าออกไปเสีย!”ฮูหยินผู้เฒ่าดุด้วยความโกรธ “เจ้าถูกกักบริเวณหนึ่งเดือน หากเจ้ากล้าขัดคำสั่งของข้า สินสอดของเจ้าจะลดลงกึ่งหนึ่ง!”เก๋อฮุ่ยซินรู้สึกว่าชีวิตของนางกำลังถูกบีบขึ้นมาทันที นางจึงตะโกนออกไปด้วยความร้อนรน “ท่านย่า ข้าทำเพื่อท่านจริง ๆ ท่านจะเชื่อคำพูดของเก๋อฮุ่ยหนิงกับหมอหญิงผู้นี้มิได้เป็นอันขาดนะเจ้าคะ!”ฮูหยินผู้เฒ่าก็จ้องมองนางอย่างเย็นชา “หากเจ้าพูดออกมาอีกคำ สินสอดของเจ้าจะหายไปทั้งหมด!”เก๋อฮุ่ยซินตกใจจนต้องปิดปากไว้พลันน้ำตาคลอ และวิ่งออกไปร้องไห้ด้วยความคับข้องใจเก๋อฮุ่ยหนิงแอบรู้สึกยินดีอยู่ในใจ แต่นางมิกล้าแสดงท่าทีใด ๆ ออกไป จึงยังคงเช็ดน้ำตาอย่างเสียใจต่อไป“หนิงเอ๋อร์ ย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1846

    หลิงอวี๋มิรู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อเคยถามคำถามเดียวกันนี้กับหมอคนอื่นมาก่อนแล้ว และทุกคนก็เห็นพ้องต้องกันว่าฮูหยินผู้เฒ่ามิเหมาะที่จะเดินทางไกลไปรับการรักษาที่เมืองหลวงแดนเทพหมอเถาถึงกับเคยบอกอ้อม ๆ ว่าฮูหยินผู้เฒ่านั้นอาจจะตายระหว่างทางก็เป็นได้ส่วนข้าหลวงเก๋อแม้ว่าจะมีอำนาจและอิทธิพล แต่ก็มิสามารถเชิญหมอที่มีชื่อเสียงจากเมืองหลวงแดนเทพมาได้เนื่องจากหมอที่มีชื่อเสียงเหล่านั้นก็เป็นดังที่เก๋อฮุ่ยหนิงบอก พวกเขาล้วนสูงส่ง จำเป็นต้องไปขอร้องถึงหน้าประตูและจ่ายเงินก้อนโตก่อนจึงจะยอมรักษาหากมิให้หลิงอวี๋รักษานาง ในเมืองจงกวนจะไม่มีใครที่สามารถรักษาโรคประหลาดของฮูหยินผู้เฒ่านี้ได้ และหากเป็นเช่นนั้นก็ทำได้เพียงรอความตายเท่านั้นฮูหยินผู้เฒ่ายังใช้ชีวิตอยู่มิเพียงพอ แล้วจะทำใจจากไปเช่นนี้ได้อย่างไรแต่จะให้หลิงอวี๋ผ่าท้องของตน ฮูหยินผู้เฒ่าก็กลัวอีกหลิงอวี๋มองออกถึงความขัดแย้งในใจของฮูหยินผู้เฒ่า นางจึงเอ่ยออกไป “ฮูหยินผู้เฒ่า ยังมีวิธีที่ประนีประนอมกันได้เจ้าค่ะ…”เมื่อฮูหยินผู้เฒ่าได้ยินดังนั้น นางก็รีบเอ่ยขึ้นมาทันที “หมอเจียง วิธีประนีประนอมอย่างไร เจ้าบอกมาเร็วเข้า!”หลิงอวี๋

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status